PANTIP.COM : V8628690 +++ซื้อรถคันแรก ขับรถยังไม่เป็น ตอนไปรับรถ ต้องเช็คอะไรบ้างค่ะ+++ [รถ-ประดับยนต์]

ความคิดเห็นที่ 8

ควรทำอย่างไร เมื่อจะไปรับรถใหม่

จาก auto bild

บางท่านที่ซื้อรถเป็นคันแรก ไม่ว่าจะซื้อที่ไหนก็ตาม อาจจะรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้รับรถใหม่ สำหรับบางท่านที่เคยมีประสบการณ์กับการออกรถก็อาจดูเฉยๆ และมีการเตรียมพร้อมหรือรู้ว่าควรทำอย่างไรเมื่อต้องรับรถใหม่

สำหรับท่านที่ไม่มีประสบการณ์ก็อาจดูลำบาก หรือไม่รอบคอบเท่าที่ควร ซึ่งการรับรถใหม่ป้ายแดงนั้นถือเป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก หากไม่ดูให้ดี ขาดรายละเอียดหรือข้ามขั้นตอน บางครั้งเมื่อเกิดข้อผิดพลาด ก็อาจก่อให้เกิดเรื่องเกิดราว เสียเวลา ซึ่งก็มีให้เห็นอยู่บ่อยๆไม่ว่าจะเป็นการฟ้องร้องกัน การนำรถมาประจาน บอกต่อความไม่มีคุณภาพ หรือความไม่พึงใจต่างๆไม่ว่าจะเป็น เรื่องการประกอบ เรื่องของสี ตัวถัง สนิม และอื่นๆเป็นต้น

ดังนั้นเมื่อซื้อรถไปแล้วคันหนึ่งก็ควรจะวางแผนล่วงหน้าไว้

เนื่องจากรถยนต์เป็นของที่มีมูลค่าสูง ไม่ใช่สินค้าราคาไม่กี่ร้อยกี่พันบาท ก็ควรจะมีรายระเอียดที่ต้องตรวจสอบมากพอสมควร ซึ่งตรงนี้ก็เป็นหน้าที่ของบริษัทที่ขายรถให้เรา ไม่ว่าจะซื้อจากตัวแทนจำหน่ายหรือซื้อจากสำนักงานใหญ่โดยตรง ตรงนี้ก็มีข้อแตกต่างกันบ้างเล็กน้อย ดังนั้นก็ต้องให้ทางบริษัทเขามีเวลาตรวจสอบรถให้เราให้พร้อม ไม่ควรจะไปเร่งจนเกินไป (นึกถึงช่วงแรกๆของน้องสาม)

การตรวจสอบรถหรือเรียกว่า การพีดีไอ (PDI) Pre-Delivery Inspection

นั้นมีทำกันตั้งแต่ที่โรงงาน ก่อนจะส่งไปตามดีลเลอร์นั้นเป็นหนึ่งขั้นตอนแล้ว แต่เมื่อออกจากโรงงานรถก็อาจไปจอดอยู่ที่ตัวแทนหรือดีลเลอร์อีก ไม่รู้ว่านานแค่ไหน อาจเป็นเพียงไม่กี่วัน หรืออาจจอดอยู่เป็นเดือน หรือหลายเดือนก็เป็นได้ (น้องสามประกอบที่ฟิลิปปินส์ กว่าจะลงเรือเข้ามาไทยก็หลายเดือน) ดังนั้นทางตัวแทนจำหน่ายก็ต้องมีการตรวจ PDI ซ้ำอีกครั้ง เพื่อให้รถมีความพร้อมก่อนการส่งมอบให้ลูกค้า การวางแผนเรื่องการรับมอบรถ ควรมีการนัดหมายล่วงหน้า วัน เวลา เพื่อให้มีเวลาเตรียมเอกสาร ไม่ว่าจะเป็นไฟแนนซ์ เรื่องทะเบียน การติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติม

เมื่อถึงวันเวลารับรถ ซึ่งตามหลักน่าจะเป็นที่โชว์รูมที่ไปซื้อรถ

แต่บางท่านก็อาจจะให้พนักงานขับมาส่งที่บ้านหรือที่บริษัท (ฮิโซจิงๆ) แต่ถ้าให้ดีควรจะไปรับรถที่โชว์รูมที่ขายรถจะดีกว่า ซึ่งบางทีเขาจะจัดบริเวณไว้ให้สำหรับส่งมอบรถโดยเฉพาะ ที่สำคัญคือแสงสว่างที่เพียงพอ เพื่อให้เราสำรวจรถก่อนที่จะเซ็นรับมอบรถ

ในการรับรถใหม่ก็จะมีคู่มือการรับรถ ซึ่งจะมีรายละเอียดตามรายการที่ได้ตรวจเช็คมา รวมถึงของบางอย่างที่อาจติดตั้งเพิ่มว่าได้เป็นไปตามข้อตกลงตามรายการนั้นแล้วหรือไม่ เช่น มีการพ่นกันสนิมเพิ่ม ขัดสีเพิ่ม ขัดเคลือบสีฟรี ฟิลม์กันร้อนตามที่ระบุไว้ เป็นต้น

มาถึงการตรวจสอบภายนอกรถ

คุณควรให้เวลากับตัวเองในการที่จะสำรวจ ตรวจสอบรถของคุณอย่างละเอียด ดูความเรียบร้อยของตัวถัง การประกอบชิ้นส่วนภายนอกต่างๆ ว่าอยู่ในเกนท์รับได้หรือไม่ สีของรถมีรอยขีดข่วน รอยบุบเบาหรือที่เรียกว่า\"ลักยิ้ม\"หรือไม่ ถ้ามีก็ต้องให้แก้ไข อย่างเพิ่งใจร้อนรีบเซ็นรับรถ ดูว่าสีต้องสมบูรณ์ ไม่มีเป็นรอยจุด คลื่น เม็ดสีที่เห็นชัด ซึ่งตรงนี้ก็อยู่ที่เจ้าของรถที่จะตำหนิเขา หรือรับได้หรือเปล่า

เรื่องของยางก็สำคัญ

เมื่อเราซื้อรถที่ราคาสูง ก็ควรได้ของที่มีคุณภาพด้วย สำหรับรถที่ขายดี เรื่องของยางนั้นค่อนข้างจะไม่มีปัญหาสักเท่าใด เพราะมีการหมุนเวียนเปลี่ยนค่อนข้างบ่อย ที่เอยถึงเรื่องนี้ก็เพราะบางครั้งมีการนำรถจอดค้างอยู่บนโชว์รูมนานๆมาขาย ซึ่งก็อาจเป็นยางค่อนข้างเก่า หรือเป็นยางที่มีหน้าสำผัสที่มีความบางจุดแบนไม่เสมอ เนื่องจากจอดอยู่กับที่เป็นเวลานาน ถ้าบางท่านมีความรอบรู้เรื่องยาง หรือสามารถดูปีที่ผลิตได้ก็อาจต่อรอง หรือขอเปลี่ยนกับคันอื่นก็เป็นไปได้ เนื้อยางต้องไม่แข็งและลมยางก็ควรอยู่ในสเป็กที่ถูกต้อง

ภายในห้องเครื่องก็ควรตรวจสอบดูทั่วๆไป

ว่าอุปกรณ์อยู่เป็นระเบียบดีหรือไม่ ระดับของเหลวต่างๆ อยู่ในเกณท์ปกติ ซึ่งโดยทั่วไปก็ไม่ค่อยมีปัญหาอะไร ควรติดเครื่องยนต์ดูว่าเครื่องยนต์เดินเรียบดีเป็นปกติหรือไม่ ดูว่าตามซอกต่างๆ มีฝุ่นมากน้อยแค่ไหน ถ้ามีมากดูผิดปกติอาจต้องดูที่อื่นประกอบอีก เช่น พื้นด้านล่างรถ ช่วงล่าง ถ้าจำเป็น ที่มาพูดตรงนี้ก็แค่เผื่อไว้ เพราะไม่แน่ว่าอาจเป็นรถที่เคยวิ่งมาก่อน เช่นเคยให้ลูกค้าทดลองขับเป็นต้น

ก่อนเข้าไปดูในห้องโดยสารควรตรวจสอบตำแหน่งยางอะไหล่ ว่าอยู่ตำแหน่งไหน เวลาจะใช้งานควรทำอย่างไร มีอุปกรณ์พร้อมหรือไม่ เนื่องจากบางท่านหายางอะไหล่ไม่เจอ หรือเอายางอะไหล่ออกไม่เป็น รวมถึงดูยางอะไหล่ว่ามีลมปรกติหรือไม่

ภายในห้องโดยสารเมื่อเข้าไปอยู่ข้างในแล้วก็ควรตรวจสอบอุปกรณ์ต่างๆ ว่ามีการใช้งานเป็นอย่างไร

และทำงานปกติอยู่หรือเปล่า ไม่ว่าจะเป็นระบบไฟส่องสว่าง วิทยุ ระบบปรับอากาศ (2 อย่างหลัง สำหรับน้องสามต้องถามจนเข้าใจ เพราะซับซ้อนมาก) ว่ามีความเย็นดีหรือไม่ ลองสตาร์ทเครื่องยนต์ดูอีกครั้งว่า ไฟเตือนต่างๆดับสนิททุกดวงหรือไม่ (แนะนำเป็นพิเศษเรื่องไฟ ENGINE ค้างสำหรับน้องสาม) อาจมีไฟเบรคมือค้างอยู่บ้างถ้ามีการดึงเบรคมือ และดูโดยรวมถึงการปรับตั้งเบาะต่างๆ กระจกไฟฟ้า และอื่นๆที่จำเป็น

เมื่อดูทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ก็ให้มาดูเรื่องการรับประกัน

โดยพยายามทำความเข้าใจเงื่อนไขต่างๆ ที่เขียนอยู่ในใบรับประกัน อะไรรับประกัน อะไรไม่รับประกัน บางอย่างรับประกันนานเท่าไร เช่น บางที่รับประกันแบตเตอรี่ 1 ปี ยางรับประกัน 1 ปี หรือไม่รับ เป็นต้น วัสดุสิ้นเปลืองซึ่งไม่อยู่ในเงื่อนไขการรับประกัน เช่นพวกสายพาน หลอดไฟ หัวเทียน น้ำมันต่างๆ ใบปัดน้ำฝนและอื่นๆ ที่ควรทราบไว้บ้าง(เท่าที่รู้ทั้งหมดที่กล่าวน้องสามรับประกันหมด) หรือถ้าไม่เข้าใจก็ให้สอบถามพนักงาน จะได้ไม่ต้องมานั้งเถียงกันภายหลังเมื่อมีปัญหาขึ้นมา มีบริการตรวจเช็คฟรีจนถึงกี่กิโลเมตร ค่าใช้จ่ายในช่วงนี้ใครเป็นคนจ่าย ควรดูเงื่อนไขให้ดี เพราะบางครั้งเราซื้อรถในช่วงโปรโมชั่น อาจมีการแถมพิเศษที่ไม่ต้องจ่ายอะไรเลย จนถึงกี่กิโลเมตรตามเงื้อนไง

การนั่งอ่านคู่มือประจำรถเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง

แต่คงใช้เวลานานพอสมควร ควรเปิดอ่านส่วนที่จำเป็นให้เราเข้าใจเบื้องต้น เช่นการขับรถในช่วง \"รัน-อิน\" ว่าควรทำอย่างไร ควรเข้าเซอร์วิสครั้งแรกเมื่อถึงกิโลเมตรที่เท่าไร ตรวจทุกห้าพันกิโลหรือทุกหมื่นกิโล ควรใช้น้ำมันเกรดอะไร แบบไหน น้ำมันเชื้อเพลิงเป็นอย่างไร 91 หรือ 95 ใส่แก๊สโซฮอล์ได้หรือไม่ ซึ่งอาจต้องถามทางบริษัทที่เราซื้อรถเพราะข้อมูลเบื้องต้นเกือบทุกอย่างนั้น มีอยู่ในคู่มือประจำรถทั้งสิ้น อุปกรณ์พิเศษต่างๆที่ได้แถมมา ตรวจดูว่าใช้งานได้ดีหรือไม่ เพราะมีไม่น้อยที่มีการติดตั้งเพิ่มจากตัวแทนเองที่อาจบอกว่าอยู่ในเงื้อนไขการรับประกัน แต่หากเราไปติดตั้งเองเพิ่มเติมก็เข้าข่ายผิดเงื้อนไขการรับประกัน ดังนั้นควรทำความเข้าใจจุดนี้ด้วย

เอกสารที่ควรได้รับเมื่อเราจะรับรถไปแล้ว

อย่างแรกคือประกันภัยบุคคลที่ 3 ที่ต้องแปะที่หน้ากระจก ถ้าทำประกันภัยตัวรถและยังไม่ได้รับสำเนากรมธรรม์ ก็ให้ขอเลขรับแจ้งไว้ก่อน เผื่อในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุจะได้แจ้งได้ แผ่นป้ายทะเบียนที่ใช้สำรองก่อนได้ทะเบียนจริง คือ แผ่นป้ายแดง ที่ควรจะเป็นของแท้จะได้ไม่ต้องเสียเวลากับตำรวจ

ซึ่งของแท้ จะมีตราขนส่งทางบกเป็นตัวปั้มนูนอยู่ที่ป้าย และต้องได้สมุดคุมป้ายทะเบียนที่เป็นสมุดของแผ่นป้ายเลขทะเบียนนั้นๆ และไม่ควรขับรถที่มีป้ายแดงหลัง 18.00 น.(เดี๋ยวนี้ค่อนข้างจะผ่อนผันเรื่องเวลา)

จะเห็นได้ว่า การรับรถใหม่นั้นมีขั้นตอน และวิธีตรวจความเรียบร้อยก่อนการรับรถมากมาย ที่ควรศึกษาหรือเตรียมตัวไว้ และก็เป็นคำถามบ่อยครั้งที่ว่า ก่อนรับรถใหม่ควรทำอย่างไรบ้าง ต้องดูอะไรบ้าง ซึ่งตรงนี้คงให้ประโยชน์ได้กับหลายท่าน ที่อาจกำลังจะไปรับรถอยู่ตอนนี้ก็เป็นได้

........อย่าลืมดูฤกษ์ ดูยามไปด้วยก็จะทำให้เราสบายใจขึ้นอีกโข นะครับ

คุณ djarm โพสต์ไว้ที่ http://thailandmazda2.com/index.php?topic=386.0

จากคุณ : ตะวันออกไกล

เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 52 12:36:48