ความคิดเห็นที่ 1   มีความเห็นว่า ถ้าต้องจัดงานเลี้ยงคนอื่น แล้วเงินหมดไปหมด (หรือพูดง่ายๆว่างบน้อย) ก็จัดเล็กๆ อาจแต่งเงียบๆ จัดงานเลี้ยงที่บ้าน ก็พอ แล้วเอาเงินไปซื้อรถ มาไว้ใช้ ผัว เมีย น่าจะคุ้มค่ากว่า ผมคิดว่า งานแต่งงานของเรา เรื่องของคน 2 คน จะจัดใหญ่โตซักแค่ไหน เพื่ออะไร ??? แล้วถ้าเกิด เกิดอะไรขึ้นทีหลังก็อายเค้าอีก ยกเว้น เจ้าสาวของคุณ รีเควส อยากจัดงานช้าง ก็คงต้องเลือกอย่างที่คุณว่า จากคุณ : 999 เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 18:29:19 A:58.8.171.154 X: TicketID:172591

ความคิดเห็นที่ 2 กรี๊ด ................ !! อิจฉา  ตาร้อน ผ่าวๆๆๆๆๆๆๆ  ยินดีด้วยค่ะ แล้วเฮียปริ๊ด จะให้ ปิ๊ รออีกนานแค่ไหนเนี่ย จากคุณ : รอ จน ยาน แล้ว (BOPI) เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 18:29:44

ความคิดเห็นที่ 3 โอ้...น่าอิจฉาจริง ๆ ๆ ดีใจด้วยนะคะ ทำตามที่หัวใจต้องการสิคะ จากคุณ : สาวสวนมะนาว เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 18:40:54

ความคิดเห็นที่ 4   มองโลกในแง่ดี คุณพ่อตาจะให้เงินสินสอดมาซื้อรถครับ จากคุณ : ผมทำมาแล้ว (ซ้ายน่องเหล็ก) เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 18:41:18

ความคิดเห็นที่ 5 ขอบคุณ Comment ครับ.... ก็คงจัดไม่งานช้างหรอกครับ เสียดายเงิน แล้วก็ไม่อยากให้มันวุ่นวายมากจนเกินไป   ไม่อยากตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ  ก็กะว่าทำงานสักพักแล้วค่อยซื้อใหม่ ตอนนี้ก็ใช้รถคันเก่าอยู่ไปก่อน  แต่งเสร็จแล้ว คงย้ายไปอยู่กับแฟนที่ ราชบุรี คงต้องไปหางานที่นั่นทำอ่ะครับ ตอนนี้ผมก็ทำด้าน Logistics อยู่อ่ะครับ (ใครมีงานหรืออะไรดี ๆ ที่นั่น แนะนำได้นะครับ อิอิ) ..... แต่ว่าที่เจ้าสาวในอนาคตเค้าแค่บ้าถ่ายรูปหน่ะครับ ซึ่งผมไม่ค่อยจะเป็นงานเท่าไหร่ไอ้เรื่องถ่ายรูปเนี่ยสิ แก้ไขเมื่อ 18 ธ.ค. 52 18:52:48 แก้ไขเมื่อ 18 ธ.ค. 52 18:51:52 จากคุณ : ใบมีดโกนบาดปากตัวเอง เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 18:48:29

ความคิดเห็นที่ 6 แต่งงานครับ เรื่องรถค่อยว่ากัน เพราะยังไง   คุณก็ต้องย้ายงานความลำบากเรื่อง เงินกับรถก็จะตามมาอีก แต่งงานนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนๆๆๆๆๆ จากคุณ : We_are_PadDocK เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 19:01:53

ความคิดเห็นที่ 8   แต่งก่อนนะกัน งานก็ไม่ต้องจัดใหญ่มาก เฉพาะญาติ เพื่อนที่สนิทก็พอ ศก แบบนี้ใครๆก็เข้าใจ รถก็ขับคันเดิมไปก่อน จากคุณ : tuktce เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 19:09:02

ความคิดเห็นที่ 9 แต่งงาน   แล้วซื้อรถ ความรู้สึกดีๆ สำคัญกว่า จากคุณ : ดอยภูทาย เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 19:09:23

ความคิดเห็นที่ 10 แฟนดีๆ หายากกว่ารถสวยๆนะครับ มีเงินซื้อรถได้ตามโชว์รูม   แต่แม่ของลูกไม่มีขาย อยากได้ หัวใจจะเลือกเอง จากคุณ : แค่มีเธอก็สุขใจ เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 19:17:05

ความคิดเห็นที่ 11 ฮิ้ววววววววววววว..แต่งงานๆๆๆๆๆ ดีใจด้วยค่ะ ซื้อรถ เมื่อไหร่ก็ได้ แต่แต่งงานนี่ ถ้าไม่รีบล่ะก็.... จะเฝ้าคานอย่างเรา ฮือๆ จากคุณ : DuskyDuck เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 19:28:26

ความคิดเห็นที่ 12 ----ข้อความนี้หมดอายุแล้ว---- แก้ไขเมื่อ 04 ม.ค. 53 22:30:25 จากคุณ : T-E-N-A เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 19:31:15

ความคิดเห็นที่ 13 ขอบคุณทุก ๆ ความเห็นนะครับ..... รถมันของนอกกายครับ   แต่คนที่จะมาเป็นคู่ชีวิต มาเป็นแม่ของลูกผม ผมมั่นใจครับ.......... แบบคนนี้ ชีวิตนี้ผมคงหาไม่ได้อีกแล้วครับ ผมก็ตั้งใจไว้ตั้งแต่แรกแล้วครับว่าจะแต่งงานก่อน  เพียงแต่อยากทราบมุมมองของหลาย ๆ คนอ่ะครับ ว่าคิดออกมายังไงกันบ้าง   น้อมรับทุกความเห็นครับ..... จากคุณ : ใบมีดโกนบาดปากตัวเอง เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 19:35:52

ความคิดเห็นที่ 14 ลองถามฝ่ายหญิงยังครับ ว่าต้องการจัดงานช้างรึเปล่า สิดสอดทองมั่นฝ่ายแม่เขาต้องการรึเปล่า ส่วนมากผู้หญิงอยากจัดงานยิ่งใหญ่โตมาก ด้วยเหตุผลคือ ครั้งนึงในชีวิต ...ผมเคยทะเลาะกับแฟนเพราะเรื่องไอ้พวกนี้แหละครับ ซึ่งไม่เข้าใจเหมือนกันว่า ถ้าเอาเงินทองไปจัดงานซะหมด แต่งแล้วจะเอาอะไรกิน - -" จากคุณ : HamyLee เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 19:39:31

ความคิดเห็นที่ 15 แต่งก่อนครับ แล้วช่วยกันสร้าง จาก 0 ดีกว่า ดีกว่าเราสร้างไป 100 อีกฝ่ายไม่ได้สัมผัส ถึงความยากลำบาก ใช่ครับเราไม่อยากให้เค้าลำบาก แต่การทนอยู่ด้วยกันมันพิสูจน์อะไรได้หลายอย่าง ฝากไว้ครับ จากคุณ : น้ำเค็ม เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 19:51:41

ความคิดเห็นที่ 16 นาทีนี้แต่งก่อนดีกว่าครับ รถไว้ทีหลังก็ได้ อย่างน้อยก็คนไทยทำอะไรก็ควรคิดถึงฝ่ายหญิงบ้าง ทำให้ถูกต้องซะแต่ยุคนี้ควรจัดพอประมาณ เพิ่มเติมครับ ไม่รู้ฐานะการงานการเงินของท่านเป็นยังไง คำว่าพร้อมก็ไม่รู้ว่าขนาดไหนถึงว่าพร้อม แต่ถ้ารอให้พร้อมทุกอย่างมีทุกอย่างแล้วค่อยแต่ง ป่านนี้ผมก็คงยังไม่ได้แต่หรอกครับ เมื่อถึงเวลาไม่พร้อมก็ต้องพร้อม แก้ไขเมื่อ 18 ธ.ค. 52 22:22:54 จากคุณ : cagiva เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 19:51:44

ความคิดเห็นที่ 17 แต่งก่อนเถอะ   แล้วเอาใจแม่ยายให้ดีๆ  เดี๋ยวท่านกลัวลูกสาวจะลำบาก ก็ซื้อรถให้ฟรีๆอีกคัน จากคุณ : dpdome32 เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 20:04:37

ความคิดเห็นที่ 18 นาทีนี้แต่งไว้ก่อน แล้่วยังไงต่อหละ ทำหยั่งกับซื้อทองเลยแฮะ ก่อนจะแต่งงานผมว่าแพลนชีวิตไว้ก่อนดีกว่าไหมครับ จะย้ายไปอยู่บ้านแฟนทางโน้นเค้าโอเคหรือยังครับ มีงานรองรับหรือยัง ถ้าชีวิตเดินพลาดไปจะทำยังไงมีแผนสำรองไหม   เรื่องแต่งงานเป็นเรื่องใหญ่ของฝ่ายเจ้าสาวนะครับ ไม่ใช่ฝ่ายเจ้าบ่าวเลย เราคิดเองเออเองไม่ได้หรอก ไปคุยกับทางนั้นให้เรียบร้อยก่อน แล้วค่อยมาเคลียร์เรื่องรถดีกว่านะครับ    แล้วเรื่องแต่งงานมันก็เกี่ยวข้องกับครอบครัวฝ่ายโน้นด้วย คุณจะไปอยู่บ้านเค้าขับรถเก่าๆไปแต่งงานลูกสาวเค้า แหม เยอะเชียว.....  ลองคิดกลับกันนะครับถ้าเป็นฝ่ายเราจะเป็นยังไง กับถ้าคุณมีบ้านมีรถมีงานที่มั่นคงแข็งแรงเงินเก็บพอตัวที่จะ"ดูแล"ลูกสาวเค้าให้มีความสุขที่ดีตามสมควร ไม่มีใครปฏิเสธคุณหรอก เรื่องความรู้สึกดีๆที่มีให้กันผมก็เข้าใจนะ แต่เรื่องการใช้ชีวืตคู่มันสำคัญกว่า "เราพร้อมหรือยัง"ไม่ใช่"เราอยากหรือยัง" เพราะบ้านหลังละ5ล้าน ใช้ความรักซื้อได้ก็จริง แต่อาศัยได้ไม่นานเค้าก็มายืดไป จากคุณ : yamaha111 เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 20:12:28

ความคิดเห็นที่ 19 ผมว่าะครับ ทำงานเก็บเงิน สร้างความมั่งคั่งทางการเงินก่อน แล้วค่อยแต่งงานดีกว่า เพราะคิดดูสิครับ ถ้าแต่งงาน มีลูก ค่าใช้จ่ายเยอะมากนะครับ ไหนจะต้องผ่อนรถ ผ่อนบ้าน ค่าใช้จ่ายเลี้ยงดูลูก ผมว่ารอพร้อมจริงๆ ก่อน แล้วค่อยแต่งดีกว่า รักกันจริง ก็ต้องรอกันได้อยู่แล้ว จากคุณ : joufo เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 20:20:57

ความคิดเห็นที่ 20 เห็นด้วยกับความเห็นที10  นะค่ะ คนที่เราอยากอยู่ด้วยกันตลอดไป  ไม่ได้ให้เลือกมากนะค่ะ  รถเมื่อพร้อมก็ซื้อได้  เหมือนคู่ของเราเลย  เพิ่งแต่งเมื่อกันยาที่ผ่านมา  ตอนแรกจะซื้อรถเหมือนกัน  แต่มีข้อแม้ว่าถ้าซื้อรถก็จะไม่ได้แต่งงาน  และตอนนี้หลังแต่งก็จะออกรถวันที่  31  ธันวานี้  ที่คัญที่สุดคุณต้องทำตามหัวจัยของตัวเองนะค่ะ  ยินดีด้วยล่วงหน้า จากคุณ : อิสระเป็นของเรา เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 20:24:09

ความคิดเห็นที่ 21   ผมเห็นด้วยกับความเห็น 18,19 นะครับ รอให้พร้อมทั้งด้านการเงินและทางด้วยการงานจะดีกว่าครับ ยอมทนไปอีกชะหน่อยเพื่อที่จะอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขครับ สำหรับผมแฟนผมก็จะให้ผมไปขอในปีหน้าเหมือนกัน ผมก็บอกเขาไปว่า ผมยังไม่พร้อมเลยยังไม่มีอะไรเป็นของตนเองเลยแล้วจะไปขอทำไม แฟนผมก็หงุดงิดนิดหน่อยแต่ก็เข้าใจ ผมไม่อยากไปขอหรือไปแต่งโดยไปกู้เงินมาแต่งสร้างบ้านสวยๆโดยธนาคารจัดให้ และผมก็ไม่อยากไปขอหรือไปแต่งโดยที่ ไม่มีเงิน ไม่มีรถ ไม่มีบ้าน ด้วยเช่นกัน จากคุณ : ยอมทนวันนี้เพื่อวันข้างหน้า เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 21:28:29 A:110.169.33.85 X: TicketID:239503

ความคิดเห็นที่ 22   ทำไมไมีใครเอาผมแบบนั้นบ้างอะ โชคดีจังนะคับ ผมไม่มีใครเอาอะ มีตังค์ หน้าหล่อ แต่นิสัย here เลยไม่มีใครเอา เบื่อวะ จากคุณ : นะ เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 21:38:05 A:125.25.38.106 X: TicketID:228014

ความคิดเห็นที่ 23 ตัวของคุณเองคงรู้ดีที่สุดค่ะ  แต่ถ้าแต่งงานแล้วมีลูกเนี่ย...ภาระหนักสุดๆเชียวค่ะ จากคุณ : ส่งเสียน้องออส เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 21:44:37

ความคิดเห็นที่ 24 ตามเพลงนี้ครับ  ^^ จากคุณ : นายอิงค์ เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 22:55:56

ความคิดเห็นที่ 25 ได้อ่านว่ารถเก่าก็มีอยู่ ผมเห็นด้วยครับที่จะเอาเงินก้อนนี้ไปสร้างครอบครัวก่อน นำไปซื้อบ้าน ไว้สบายๆแล้วค่อยซื้อรถครับ จากคุณ : Naicollo เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 52 00:04:30

ความคิดเห็นที่ 26   ยินดีด้วยค่ะ จากคุณ : น้ำกระเจี๊ยบหวานๆ เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 52 01:17:58

ความคิดเห็นที่ 27 คนที่รู้ใจหายากกว่า  รถที่รู้ใจนะครับ จากคุณ : ปลาโลมา_:P เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 52 08:00:38

ความคิดเห็นที่ 28 คนถูกใจ หายากกว่ารถถูกใจ ครับ !! แล้วแต่ จขกท เลยครับว่า จะเลือกทำในสิ่งที่ยากก่อน หรือจะเลือกทำในสิ่งที่ง่ายก่อน !! จากคุณ : PRUEKPOOm เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 52 09:22:36

ความคิดเห็นที่ 29 เก็บเงินก้อนนั้นไว้สำรองดีกว่าค่ะ ใช้คันเก่าไปก่อน   แต่งงานมาแล้ว ก็ไม่ได้ใหญ่  เรียกได้ว่าไม่ใช่งานแต่งอ่ะ  แค่ผูกข้อไม้ข้อมือ  มีแต่พ่อแม่เรา พ่อแม่เขา ญาติสนิทไม่กี่คนเอง   พาไปทานข้าวที่ร้านอาหารแค่นั้นเองค่ะ เป็นคนไม่ชอบงานใหญ่โต  ไม่ชอบงานที่มีคนเยอะๆ  ไม่ค่อยชอบสังคมด้วย เลยไม่อะไรกับงานแต่งมากมาย จากคุณ : Rarin-รริญ เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 52 10:43:29

ความคิดเห็นที่ 30 แต่งกันแล้วมาช่วยกันผ่อน ผ่อนก่อน 4 ปีแล้วค่อยช่วยกันแต่ง 555 จากคุณ : หนุ่มน้อยหน้าใสวัยสิบแปด เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 52 12:48:59

ความคิดเห็นที่ 31 ผมอายุ 33 ยังไม่เคยแต่ง และไม่คิดจะแต่งด้วย (แฟนที่เคยมีก็กำลังจะบ๊าย บายกันแล้ว เหอๆๆ) ขอแสดงความเห็นส่วนตัวเล็กน้อย เรื่อง "ความพร้อม" ในมุมมองของคนเป็นพ่อ แม่ ฝ่ายหญิง ส่วนใหญ่ก็คงชอบลูกเขยที่มีพร้อม ทั้งฐานะการเงิน หน้าที่การงาน การศึกษาและสติปัญญาดี  นิสัยใจคอดี แต่ ถ้ามองอีกมุมนึง  สำรับบางคนที่ไม่ได้มีพร้อมเช่นนั้น  ก็คงต้องหาจุดสมดุลระหว่าง ความพร้อม กับ ช่วงเวลาที่เหมาะจะแต่งงาน ถ้ารอให้พร้อมสุดๆอย่างที่คิดไว้  เช่น มีบ้านหลังใหญ่ มีรถเก๋ง มีเงินหลายล้าน บางทีกว่าจะพร้อมก็อายุ 50 เข้าไปแล้ว  หรืออาจไม่มีวันพร้อมเลยก็ได้ ผู้หญิงถึงจะรักแค่ไหน  แต่จะให้รอไปเรื่อยๆจนกว่าผู้ชายจะบอกว่า พร้อมแล้ว  บางทีเค้าก็รอไม่ไหวนะครับ เพราะผู้หญิงน่ะ ส่วนใหญ่ก็อยากมีลูก และสรีระที่เหมาะกับการมีลูกได้  มันมีเวลาจำกัด  ในขณะที่ผู้ชายสามารถสืบพันธุ์ได้ตลอดชีวิต ดังนั้น การหาจุดที่สมดุลให้ได้ จึงเป็นสิ่งสำคัญมาก ถ้าไม่มีอะไรเลย หรือมีน้อยไป แต่งกันไปก็อาจจะลำบาก ถ้ารอให้มีครบทุกอย่าง  ก็อาจจะสายเกินไป  ผู้หญิงอาจจะไม่รอแล้ว  (พ่อแม่ฝ่ายหญิงก็อยากอุ้มหลานก่อนตายเหมือนกันนะ) ด้วยเหตุนี้  ถ้าคิดว่าสิ่งที่่มีอู่สามารถเลี้ยงครอบครัวให้ไปรอดได้  และตั้งใจจะทำงานสร้างฐานะให้ดีขึ้น ผมว่าแค่นี้ก็แต่งงานได้แล้วครับ  แล้วให้เธอมาช่วยกันสร้างฐานะครอบครัว   เพราะภรรยาที่ดีในสมัยนี้  ก็ควรจะช่วยสามีในการสร้างฐานะครอบครัว(ไม่ใช่แค่มาช่วยใช้เงินเพียงอย่างเดียว) หรือจะมองอีกมุมนึง  หากจะรอให้มีครบทุกอย่างทั้งบ้าน ทั้งรถ ทั้งเงิน  แบบนี้คนที่ไม่มีอะไรเลย ก็คงไม่มีสิทธิแต่งงาน (ซึ่งในความเป็นจริงมันไม่ใช่) โดยสรุป วางแผนเรื่องแต่งงานก่อนดีกว่าครับ คุยกับทางฝ่ายหญิงและครอบครัวให้เรียบร้อยก่อน  ถ้าตกลงแต่งด้วย ก็ค่อยว่ากันต่อเรื่องจัดงาน  ถ้าจัดเล็กๆ ประหยัดๆได้ก็ดีไป แล้วลองคุยเรื่องรถที่จองไว้ด้วยว่าฝ่ายหญิงมีความเห็นยังไงบ้าง ขออวยพรให้โชคดีนะครับ จากคุณ : เด็กข้างห้างฯ เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 52 03:34:50

ความคิดเห็นที่ 32 ทางด้านผู้ใหญ่ฝ่ายหญิง ทุกคน Ok. แล้วก็รู้สึกดีกับผมทุกคน แม่เค้าบอกว่า ท่านรักผมเหมือนลูกชายแท้ ๆ ของตัวท่านเองเลย เพราะตลอด 8 ปีกว่าที่ผ่านมา ผมได้พิสูจน์ตัวเองในหลาย ๆ ด้านให้ท่านเห็น ซึ่งข้อนี้ไม่มีปัญหาแน่นอน.... ......ส่วนเรื่องความพร้อมในหน้าที่การงาน คิดว่าไม่มีปัญหา แฟนผมเป็นพนักงานรัฐวิสาหกิจ ส่วนตัวผมเองคิดว่าไม่มีปัญหา จัดงานคงจัดแค่ญาติผู้ใหญ่ เพื่อนที่สนิท เพราะทางแม่แฟนผมก็ขอแค่นี้พอ ทำเป็นพิธีให้ถูกต้องแค่นั้นเอง ท่านบอกว่าจัดใหญ่โตมันก็แค่คืนเดียว เสียดายเงิน เอาเงินเก็บไว้ทำอย่างอื่นดีกว่า ........สุดท้ายนี้อยากบอกว่า......... " หน่อยจ๋า........ เราเดินทางข้ามสิ่ง ๆ ต่าง ๆ มาด้วยกัน ตลอด 8 กว่าปี จนถึงวันนี้...... ........ขอบคุณสำหรับ กำลังใจ แล้วก็ความรัก ๆ ที่มีให้กันเสมอมา ......ขอบคุณ... ทุกความห่วงใยที่มีให้ และเป็นกำลังใจให้ทุกครั้งที่ท้อแท้ .....และขอบคุณ ที่มีกันและกันมาตลอด......... แ ต่ ง ง า น กั บ เ ค้ า น ะ ขอบคุณทุก ๆ ความเห็นอีกครั้งครับ แก้ไขเมื่อ 21 ธ.ค. 52 09:32:29 แก้ไขเมื่อ 21 ธ.ค. 52 09:27:28 แก้ไขเมื่อ 21 ธ.ค. 52 09:25:50 จากคุณ : ใบมีดโกนบาดปากตัวเอง (ใบมีดโกนบาดปากตัวเอง) เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 52 09:24:56

ความคิดเห็นที่ 33 การแต่งงาน ไม่ได้เป็นเครื่องยืนยันได้ว่าคุณ 2 คนจะอยู่ด้วยกันได้ตลอดรอดฝั่งหรือไม่ แต่ก็เป็นสิ่งที่ผู้หญิงหลาย ๆ คนใฝ่ฝัน หากจัดจริงก็ไม่ควรจัดใหญ่โตมากมาย จะกลายเป็นตำน้ำพริกละลายแม่น้ำไปซะ เว้นแต่ว่าคุณมีเงินเหลือมากมาย นั่นก็เป็นสิทธิ์ของคุณ แต่สิ่งสำคัญที่สุด อยู่ที่คุณ 2 คนมากกว่าว่าจะประคับประคองชีวิตคู่ไปด้วยกันมากน้อยแค่ไหน.. ปล. จัดใหญ่มากคนก็รู้มาก หากเลิกกันคนก็รู้มาก แถมอาจมีการสมน้ำหน้าอีก..55 เอาแต่พองามพอ จากคุณ : noserius เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 52 10:56:46