Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
คุณคะ ช่วยกันปกป้องศักดิ์ศรีผุ้หญิงคนหนึ่งได้ไหมคะ (ดราม่าชัด ๆ )  

เคยไหมคะ เวลาที่ไปห้างสรพพสินค้า แล้วถือของเยอะ ๆ พอคุณเดินมาที่รถ เพื่อที่จะขึ้นรถกลับบ้าน ทันใดนั้นเอง จู่ ๆ ก็มีรถคันหนึ่ง มาจอดขวางเลสน์ถนน เยื้อง ๆ รถคุณ แล้วเปิดไฟผ่าหมาก เพื่อประกาศให้คุณรู้ว่า "เอ้ย ๆ รีบ ๆ ออก จะเข้า !!!"

นี่คือจุดเริ่มต้นของดราม่า




ณ.โลตุส สาขาย่านกลางเมือง หลังจากที่เจียกกะจะเข้าไปซื้อของกินมากักตุนไว้ที่ห้อง เพื่อเป็นการป้องกันภัยพิบัติในช่วงฤดูหนาว ที่ปีนี้ค่อนข้างรุนแรง เนื่องจากอากาศดีเป็นพิเศษ ทำให้ "ความขี้เกียจ ถาโถมและโจมตี เจียกอย่างระลอกแล้วระลอกเล่า" (สรุปว่า ขี้เกียจออกไปหาอะไรกินนี่เอง)

จึงได้เลียนแบบการเอาตัวรอดของสัตว์ตามธรรมชาติอันโด่งดันคือ "หมีจำศีล" ดังนั้นเจียกจึงวางแผนไว้ว่า ในหน้าหนาวนี้ จะกิน นอน และขยับตัวให้น้อยที่สุด เพื่อประหยัดพลังงาน (ใครรอลุ้นดราม่า ใกล้แล้ว ๆ ๆ)

เข้าไปโลตุส เพีงแค่ครึ่งชั่วโมง เจียกเดินกลับมาที่รถ ด้วยถุงเสบียงเต็มสองมือ แถมยังแวะซื้อไก่จิ้มจุ่ม ของเคเอฟจี ที่มีคนกินแล้ว ถูกหามส่งโรงพยาบาล ดันลือลั่นที่ห้องก้นครัว กลับมาทดสอบสภาวะการหดตัวของลำไส้ซะหน่อย (เกี่ยวไรกันเนี๊ยะ)

ด้วยความที่ของเต็มสองมือ จึงวางแก้วแป็บซี่เคเอฟจี ที่ถือกินมาไว้บนหลังคารถ แล้วหยิบกุญแจ เปิดประตูหลังฝั่งคนขับ เอาของเก็บเสร็จสรรพ ตาก็เหลือบไปเห็นรอยเหมือนยางมะตอย เป็นวง ๆ อยู่บนหลังรถ

ด้วยความเกรงว่ารถสุดที่รักจะมีมลทิล (คนปกติใช้คำว่าเป็นรอย) จึงได้หยิบทิชชู่ซับน้ำลองถู ๆ ดู ซักครู่ลอยหลุดออก

ในขณะที่กำลังเก็บขวดน้ำ ตาก็ดันไปประสานกับ ดวงจิตดวงหนึ่งที่นั่งอยู่ในรถพร้อมกับเสียงไฟผ่าหมาก ดังเป็นจังหวะ แต๊ก ๆ ๆ ๆ ไม่รู้ตัวเลยว่ามีรถมาจอดรอตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่  

เหอ ๆ มาอีกแล้วซินะ พวกใช้กฏความกดดันที่ส่งต่อ ที่เจียกเคยสรุปเป็นขั้นตอนไว้ดังนี้

1. มองหาเป้าหมาย ที่เดินมาที่รถ แล้วจอดเยื้องกับหน้ารถเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ

2. ลักษณะการจอด ต้องจอดให้ขวางทางให้มากที่สุด เพื่อให้คันหลังต้องติดไปกับตูด้วย

3. เมื่อคันหลังไปไม่ได้ ก็จะเริ่มด่าคันหน้า คันหน้าก็จะด่าเป้าหมายที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ "เห็นไหมคันหลังเค้าด่าตูแล้วเฟ้ย"


และเมื่อความกดดันที่ส่งมาเป็นทอด ๆ ส่งมาที่เป้าหมาย เป้าหมายก็จะรีบออกไปด้วยความเกรงใจ หรือละอาย ก็แล้วแต่ (กรณีนี้ใช้ได้กับคนที่มีน้ำใจเท่านั้น)



ซึ่งวันนี้ เป้าหมายที่ว่าคือเจียกเอง ด้วยความตกใจ ว่ารถคันนั้นมาจอดตั้งแต่เมื่อไหร่ เพราะพอมาถึงรถเจียกก็หันหลังให้รถเค้าตลอด จึงคิดว่าเค้าคงรอนานแล้ว เพราะจอดซะกลางถนนเลย เจียกก็กลัวรถคันอื่นจะมาติดตรงนี้ด้วย เลยรีบขับออกมาอย่างไวที่สุด



พอขับมาถึงทางออกหน้าโลตุส  ก็ยังออกไม่ได้ เพราะมีรถเมย์จอดขวางปากทางอยู่หลายคน ทำให้รถที่จะออกจากโลตุสติดกันยาว เกือบสิบคัน เจียกเริ่มรู้สึกว่า มีคนมองแปลก ๆ มองไม่ยิ้ม มองแบบมองเฉย ๆ

จนเมื่อรถเริ่มขยับจนไปถึงตัวหนอนตรงตู้เก็บบัตร ความสงสัยของเจียกก็ได้เฉลย มีเสียงดังมาจากหลังคารถ ครืดดดด ครืดดดดด............เผละ เจียกหันไปตามเสียง เห็นภาพแก้วแป็บซี่เคเอฟจีสีแดงหล่นน้ำแข็งสาดกระจายเต็มถนน (จริง ๆ ถ้ามีคำอื่นที่มากกว่ากระจายจะใช้คำนั้น) หึ หึ หึ หึ .....


คนบนรถเมล์ หันมามองเป็นรถเจียกเป็นตาเดียว คนที่อยู่แถวนั้น ไม่ต่ำกว่า 30 ชีวิต 60 ตา พยายามเพ่งมองมาที่กระจกรถเพื่อขอดูหน้าเจียก สาบานได้ว่า วินาทีนั้น มันนานมากกกกกกกกกกกก ไอ้จะลงไปเก็บเศษแก้ว ก็อาย ไม่กล้า ได้แต่รีบขับรถกลับบ้านมาอย่างชอกช้ำ  

เมื่อนึกย้อนภาพในช่วง 10 นาทีที่ผ่านมา ก็ได้เข้าใจทุกอย่าง

T-T

รถเล็กไฟฟ้าคันนั้น เค้าคงไม่ได้ยิ้มเพราะเจียกให้เค้าไปก่อนสินะ

แถมยังวินมอไซด์ทั้งวินที่ขับผ่าน แม่ค้า แถวนั้น คนยืนรอรถเมล์อีกเป็นสิบ หมดกัน



นี่หรือ ....................... ผลตอบแทนน้ำใจที่แม่สอน (เว่อร์)


แล้วไอ้รถคันนั้น นี่เหรอ ที่ฉันอุตส่าห์เกรงใจแก แล้วรีบขับออกมา เพื่อให้แกได้เข้าไปจอด จนลืมแก้วน้ำไว้บนหลังคารถ

ทำไม ทำไมแกไม่บอกฉัน ทำไมไม่บีบแตร ตะโกน หรือส่งซิกอะไรซักอย่าง


พอกลับมาที่คอนโด จอดรถลงไปดู โห.... มันมีร่องรอยการเดินทางของแก้วน้ำด้วยแหะ T-T ดูท่าทางมันคงไม่ได้ตั้งอยู่เฉย ๆ สินะ ท่างทางตอนนั้นรถเราคงคล้าย ๆ กับคนเล่นกายกรรม เอาแจกันวางไว้บนหัว ให้คนที่เห็นทายว่าจะตกไม่ตก ตกไม่ตก (และมันก็ตก จริง ๆ ด้วย)


ยิ่งคิดยิ่งอาย ในขณะขับวนอยู่ในลานจอดรถ เลี้ยวซ้ายทีขวาที ขึ้นลุกระนาดก็ 2 - 3 ลูก ฉันเดาไม่ออกจริง ๆ ว่าแกประคองตัวมาได้ยังไง จนมาตกม้าตายในลูกที่ 4


เขียนมาตั้งยืดยาว เพื่อจะฝากบอกข้อความถึงพี่รถคันนั้นว่า


พี่รู้ไหม ว่าเรื่องที่หนูอับอายในวัยขบเผาะ อันนั้นหนูรับได้ สายตาคนแถวนั้นที่จ้องมองมาที่หนู ที่รถหนู ป้ายทะเบียนหนู หนูทนได้  



แต่พี่รู้ไหม ว่าการที่หนู กินไก่จิ้มจุ่ม แล้วไม่มีแป๊บซี่มันเป็นยังไง พี่รู้ไหมว่าหนูฝืดคอแค่ไหน ภาพแป็บซี่ที่กระจาย เต็มถนนมัดบาดตาหนูขนาดไหน หนูถึงกับจำเป็นภาพสโลว์ น้ำค่อย ๆ กระเฉาะออกจากแก้ว (เหมือนโฆษณาน้ำอัดลม) น้ำแข็งค่อย ๆ กระจาย กระเด็นเต็มพื้นถนน ช่างดูสดชื่น แต่ตอนนี้ วินาทีนี้ หนูกลับต้อง...............กินไก่จิ้มจุ่ม กับน้ำเปล่า T-T



นี่มันดราม่า ดราม่า ชัด ๆ




และเรื่องในวันนี้จึงทำให้เจียกสัญญากับตัวเองไว้ว่า ถ้าเจียกเห็นรถที่มีแก้วน้ำตั้งอยู่บนหลังคารถในขณะวิ่งแล้วละก็ เจียกจะทุ่มสุดตัวสุดใจ และหาวิธีการที่จะบอกเค้าให้ได้ เพราะบางทีจุดเริ่มต้นของเรื่องที่ดูตลก เรื่องนี้ มันอาจจะมาจากความมีน้ำใจของคน ๆ หนึ่งก็ได้


และอีกเรื่องการที่จะรอคิวเข้าจอดรถ กรุณาอย่าจอดขวางทางรถคันอื่นเค้าเลยนะคะ ถ้าทำแบบนั้น แสดงว่าคุณไม่สนใจใครเลยนอกจากตัวเอง

แบ่งปันความมีน้ำใจให้กันซักนิดคะ เพื่อโลกที่น่าอยู่ขึ้นคะ

แก้ไขเมื่อ 21 ธ.ค. 52 07:56:48

แก้ไขเมื่อ 20 ธ.ค. 52 16:37:17

แก้ไขเมื่อ 20 ธ.ค. 52 13:49:05

จากคุณ : รำเจียก
เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 52 13:38:08




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com