ความคิดเห็นที่ 1 ซีวิคตัวไหนครับ จากคุณ : อากง เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 52 19:14:38

ความคิดเห็นที่ 2 กับเครื่อง Honda ให้ใช้หัวฉีดดีกว่าครับ เพราะเซ็นเซอร์เค้ามีเยอะครับ แล้วหัวฉีดดีกว่าระบบดูด แน่นอนครับ เพราะมี CPU คอยประมวลผลการจ่ายแก๊ส ไม่ต้องปรับไขจูน แต่ถ้าเครื่อง โตโยต้า แนะนำ ระบบดูดครับ เพราะเซ็นเซอร์เค้าน้อยกว่า จากคุณ : theeradech2214 เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 52 19:18:15

ความคิดเห็นที่ 3 หัวฉีดจะประหยัดกว่านิดหน่อยครับ จากคุณ : North@intania เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 52 19:45:53

ความคิดเห็นที่ 4 ใช่ครับ หัวฉีดใช้แล้วประหยัดกว่า แต่ตอนติดตั้งครั้งแรกจะแพงกว่า จากคุณ : เทพดีดี เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 52 20:28:07

ความคิดเห็นที่ 5 หัวฉีด ประหยัดกว่า แต่ค่าติดตั้งแพงกว่า ไม่เกี่ยวกับยี่ห้อรถหรอก ขับโตต้า ก็ติดหัวฉีดได้ ไม่มีปัญหา จากคุณ : Marine Red เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 52 20:32:04

ความคิดเห็นที่ 6 ระบบดูด มันมีข้อจำกัดเรื่อง ปริมาณการจ่ายแก๊ส ซึ่งโดยปกติ ในรอบต่ำ เครื่องต้องการแก๊สน้อย และในรอบสูงต้องการมาก ทำให้เมื่อจูนให้ใช้งานได้ดีในรอบต่ำ แรงปลายจะหาย แต่ถ้าเป็น ดูด+แลมด้า ก็จะแก้ปัญหานี้ไปได้พอควร เนื่องจากใช้ สเต็ปมอร์เตอร์ ช่วยในการจ่ายแก๊สแทนวาล์วตาย ทำให้สามารถป้อนแก๊สในปริมาณ แปรผันได้  แต่ราคามันก็ 2หมื่นหน่อยๆเช่นกัน หัวฉีด  จ่ายแก๊สเข้าสูบในตำแหน่งใกล้เคียงหัวฉีดน้ำมัน และควบคุมการจ่ายด้วยวงจรเลียนแบบสัญญาณหัวฉีดจากกล่อง  ทำให้ใกล้เคียงกับการใช้น้ำมัน  แต่ราคาแพงกว่า  และติดตั้งยากกว่า(หาร้านถอดเจาะนะครับ) ซึ่งราคาแบบ แลมด้า ในอู่ที่มีชื่อเสียงหน่อย จะต่างจากราคาหัวฉีดที่กำลังพยายามทำตลาดไม่มาก  แต่ถ้าไปเทียบกับหัวฉีดยอดนิยม ก็จะแพงกว่าสูง  จริงๆแล้ว ติดดีไม่ดี ต้องดูที่มาตราฐานอุปกรณ์  ส่วนมากที่อิตาลี่ โปแลนด์ จะใช้ R67เป็นมาตราฐานควบคุม(เหมือน มอก.บ้านเรา) หาร้านติดสำคัญครับ  เพราะถ้าได้ร้านติดไม่ดี แต่ราคาถูกกว่า 5พัน อาจทำให้คุณจะต้องจ่ายเยอะกว่า 5พัน ในภายหลัง เท่าที่ทราบ ฮอนด้ามีร้านยอดฮิตอยู่เหมือนกัน 2-3ร้าน ลองไปหาข้อมูลในคลับ หรือในแก๊สไทย บางร้าน รูดบัตรผ่อน Ktc aeon ได้นะครับ ลองถามๆ หลายๆร้านดู  แต่เลือกร้านที่ทำยี่ห้อที่คุณใช้บ่อยๆ จะทำให้รถช้ำน้อยครับ  เพราะช่างรื้อจนชินมือ จากคุณ : แมวน้ำขี้เซา เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 52 20:33:11

ความคิดเห็นที่ 7 อยากให้ Give ท่าน แมวน้ำขี้เซา จังเลย ... แต่หมดแล้ว T_T โดยส่วนตัว ... เป็นผม ผมจะติดแบบ Mixer + Lamda Control ครับ เท่านี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับผม แบบหัวฉีด หากตั้งมาดีที่สุด มันดีกว่าก็จริงครับ แต่ ... มันก็แลกด้วย ค่าตัวที่มากกว่าด้วยครับ และ มีชิ้นส่วนให้เสียมากกว่า ตลอดจน ประสิทธิภาพที่ได้ ไม่ได้ หนีกับการเพิ่มแลมด้าอย่างชัดเจน เท่ากันกับค่าตัว จากคุณ : สยึมกึ๋ย เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 52 20:48:08

ความคิดเห็นที่ 8 ผมให้ป๋าสยึมแทนแล้วกัน  รูปหล่อถูกใจ ผมมี ฟิกอยู่ 4คันครับ  แลม2 ไม่แลม2  คันสุดท้าย ได้เวลาหัวฉีดอะครับ จะลองถังโดนัทด้วย จากคุณ : แมวน้ำขี้เซา เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 52 20:55:54

ความคิดเห็นที่ 9 เมื่อไหร่ทางทีมงาน pantip จะเพิ่มระบบ กู้ยืม Give ให้่ก็ไม่รู้ เพราะรู้สึกว่า ๑๐๐ มันชักจะไม่พอแล้วครับ จากคุณ : สยึมกึ๋ย เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 52 21:28:16

ความคิดเห็นที่ 10 ไม่ทราบเป็น ฮอนด้าซีวิค รุ่นไหนคับ เป็นผมแนะนำ ระบบหัวฉีดคับ เพราะถ้าเป็นเป็นรุ่นใหม่ๆ ที่มีพวกระบบวาล์แปรผัน ต้องฉีดอย่างเดียว ไม่ว่าจะเร่งรอบสูง หรือต่ำ ระบบฉีดจะปรับการจ่ายแก๊สตามกล่องหลอกหัวฉีดคับ ส่วนระบบ ดูดจ่ายแก๊สคงที่ตลอด ตาม คห.ที่6 คับ และระบบฉีดกับดูดแตกตรงที่การเกิด"ไฟร์แบ็ค" หัวฉีดไม่มี ส่วนระบบดูดอาจจะมีถามจูนไม่ดี ...ผมแนะระบบหัวฉีดยี่ห้อหนึ่งคับไม่ใช้หม้อต้มแก๊ส (จำชื่อไม่ได้คับ) ส่วนร้านติดตั้งดูดีๆนะคับ จากคุณ : บุงเอง (บุงเอง) เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 52 21:35:07

ความคิดเห็นที่ 11 แล้วถ้าเป็น Mazda3 ละคะ ฮิฮิ ใช้แบบไหนดี ถามบ้างๆๆ จากคุณ : นู๋นัน เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 52 21:44:27

ความคิดเห็นที่ 12   แล้วยาริส 2009อ่ะ ใช้อย่างไหนดีครับ จากคุณ : 123 เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 52 21:53:46 A:118.172.119.165 X:

ความคิดเห็นที่ 13 ขออนุญาตเพิ่มเติม พี่ คคห10  ขออธิบายเรื่องหม้อต้มสักนิด ระบบหัวฉีด ที่ไม่ใช้หม้อต้ม เท่าที่ทราบมีแค่ Autronic ที่ทำตลาดในเมืองไทย หม้อต้ม  คนไทยไปเรียกกันเองว่าหม้อต้ม แล้วส่วนมากมักเข้าใจว่า หน้าที่หลักมันคือต้มแก๊ส จริงๆ หน้าที่หลักมันคือ ควบคุมแรงดันแก๊ส คือแรงดันออกจากถังแก๊ส จะไม่คงที่ ขึ้นอยู่กับปริมาณแก๊สในถัง  หม้อต้ม หรือ รีดิวเซอร์ จะทำหน้าที่ "จำกัดแรงดันแก๊ส" ให้พอเพียง กับความต้องการของหัวฉีด หรือ ฟิก Autronic นั้นมีตัวลดแรงดัน เป็นอุปกรณ์ และใช้การ ขด สายผ่านท่อน้ำ หรือที่เรียกแบบไทยๆ ว่า สายต้ม ทำไมต้องมีการใช้น้ำร้อน ในหม้อต้ม หรือสายต้ม  เนื่องจาก จุดที่แก๊สวิ่งออกจาก ปลายท่อ จะมีความเย็น และจะเย็นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามระยะเวลา หรือที่เรียกว่า ความเย็นสะสม เพื่อป้องกันการเกิดน้ำแข็ง จึงใช้น้ำร้อน มาผ่านบริเวณใกล้เคียง สังเกตุได้จาก  รถที่สตาร์ทด้วยแก๊ส อย่างแท๊กซี่ทั้งหลาย หรือ รถผม เวลาสตาร์ทด้วยแก๊ส ตอนเช้าๆ น้ำไม่ร้อน มันก็ใช้แก๊สได้ครับ ยังไม่ต้องต้ม  กว่าเข็มความร้อนจะเริ่มร้อน ก็วิ่งไปเกือบๆ 3โลแล้วครับ จากคุณ : แมวน้ำขี้เซา เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 52 21:55:46

ความคิดเห็นที่ 14 ใช่ครับท่าน ... มันไม่ได้เอาไว้ต้มแก๊สหรอก ... รถผมก็ สตาร์ท ด้วยแก๊สเหมือนกัน เย็นๆ ตอนเช้าๆ นี่แหละ จริงๆ เวลาลดแรงดันแก๊สลง แล้วจ่ายแก๊สไปตามท่อนั้น มันทำ ให้เกิดการ "ระเหย" ครับผม (จากแก๊สเหลวๆ ไปเป็นแก๊สแบบที่ เป็นก๊าซครับ) และ กฎของการระเหยทั่วไปคือ ... "ดูดความร้อน" ครับ เมื่อมันดูดไปเรื่อยๆ อุณหภูมิ มันก็จะเย็นมากขึ้นเรื่อยๆ ครับ จนในที่สุด จุดที่ลดแรงดันแก๊สนั้น ก็จะเป็นน้ำแข็ง ทำให้แก๊สไม่ สามารถจ่ายไปเป็นเชื้อเพลิงได้ เราจึงนำ น้ำร้อน ไปหล่อมันเอาไว้ตลอดเวลา กันการเป็นน้ำแข็ง นั่นเองครับ จากคุณ : สยึมกึ๋ย เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 52 22:22:26

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณสำหรับทุกความเห็นมากๆค่ะ เข้ามาดูอีกทีตกใจเลยมีคนมาตอบเยอะมาก มาเพิ่มเติมข้อมูลด้วยค่ะเป็นรถฮอนด้าซีวิครุ่นปี 2000ค่ะ ใช้งานมา 8 ปี ค่ะ จากคุณ : lookjunja เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 52 23:41:17

ความคิดเห็นที่ 16 ผมติด autronic มาได้ 2 ปีแล้ว..เข้าไปที่ร้านแก๊สแค่ให้เค้าล้างกรองแก๊สเท่านั้นเองครับ...ส่วนรถที่ติดระบบดูด...ได้ข่าวว่าเข้าออกไม่ต่ำกว่า 10 รอบ(เพื่อจูนปริมาณแก๊สให้นิ่ง) ระบบหัวฉีดมันจะมีกล่องอยู่อันนึงมันจะต่อเข้ากับ ECU (สมองกลของรถ) โดยมันจะไป copy คำสั่งในการจ่ายน้ำมัน(ซึ่งจะจ่ายเป็นแก๊สแทน) ดังนั้นไม่ว่าจะรอบต่ำรอบสูงมันจะ copy มาหมดไม่ใช่แค่จ่ายในปริมาณที่เท่ากันตลอดเวลาเหมือนระบบดูด ประมาณว่า คนที่ทำงานหนักก็ต้องกินข้าวมาก คนที่นั่งๆนอนๆ ก็ควรกินข้าวน้อย แต่ถ้าให้ข้าวในปริมาณที่คงที่ตลอดเวลาจะทำให้คนที่นั่งๆนอนๆได้รับข้าวมากเกินไป แต่คนทำงานหนักได้ข้าวน้อยเกินไปไงครับ จากคุณ : Night Claw เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 52 23:42:53

ความคิดเห็นที่ 17   ใช้ Honda City 2003 อยู่ ครับ ติดแบบดูด ธรรมดา (ไม่มี Lamda Control ) ก็ โอเค ดี ปกติดี ยังไม่เคย "ไฟร์แบ็ค" ซักครั้ง ติดมา 2 ปี แล้ว แต่อาจต้องทำใจ เรื่อง ประหยัดน่ะ ครับ สู้ หัวฉีด ไม่ได้ จริงๆ วิ่ง ในเมือง ถ.เพชรบุรี อโศก คลองเตย ได้กิโลเมตร 1.16 บาท (เน้นออกตัวดีไม่อืด ใช้งานดีในรอบต่ำ) นอกเมือง กรุงเทพ พัทยา ระยอง ได้กิโลเมตร 0.90 บาท ราคา แก็สที่ 11.17 บาท เคยถามรถรุ่นเดียวกันติดหัวฉีด เค้าบอกว่าในเมือง ไม่ถึงบาท(แต่ไม่บอกว่าเท่าไหร่) จากคุณ : ฟหกด เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 52 23:52:13 A:202.3.71.10 X: TicketID:217853

ความคิดเห็นที่ 18 ระบบฉีดยืมสัญญาณฉีดน้ำมันมาดัดแปลงครับ ยืมมาจาก ECU รถ  ไม่ใช่จากกล่องหลอก กล่องหลอกใช้กับระบบดูด และระบบดูดก็ไม่ได้จ่ายแก๊สคงที่ แต่มัน "มี limit บน" ต่างหาก ถ้าจ่ายคงที่และเดินเบาได้ เร่งไม่ได้หรอกครับ ดับ จากคุณ : อากง เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 52 00:44:03

ความคิดเห็นที่ 19 ติดแบบหัวฉีดดีกว่า ใช้ซีวิคเหมือนกันปี2004ติดมาเฉพาะแก๊สวิ่งมา100000+กว่าโลแล้วครับ แล้วจะไม่มีปัญหามากวนใจ ก่อนจะติดศึกษามาเป็นปีระหว่างระบบดูดกับระบบฉีด สุดท้ายเลือกระบบหัวฉีดเพราะภรรยาใช้รถประจำครับ หายห่วง จากคุณ : NANTAWAT เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 52 02:34:43

ความคิดเห็นที่ 20 โอ้พระเจ้า... นี่มันความรู้ชัดชัดเลย จากคุณ : pro_aj เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 52 09:17:26

ความคิดเห็นที่ 21 ไม่ค่อยรู้เรื่องเครื่อง ติดให้แม่ ให้แฟน ติดหัวฉีดไปเลยครับ จากคุณ : kongking เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 52 09:44:22

ความคิดเห็นที่ 22 มาหนับหนุนท่าน อากง ครับ จริงๆแล้ว fixmix มันก็ไม่ได้จ่ายแกส เท่ากันตลอดเวลานะครับ (ถ้าเท่ากันตลอดเวลาจริงๆรอบกลางๆกับรอบสูงรถดับแน่นอน) มันขึ้นกับแรงดูดครับ รอบเดินเบาแรงดูดน้อย แกสก็(ถูกดูด)ออกไปได้น้อย รอบสูงขึ้น แรงดูดมากขึ้น แกสก็(ถูกดูด)ออกไปได้มากขึ้น แต่มันมีลิมิตอยู่ (ด้วยขนาดท่อที่คงที่) ยกตัวอย่างเช่น ท่อทางเดินอากาศครับ ท่อขนาดเท่าเดิม กรองเท่าเดิม แต่ปริมาณอากาศที่เข้าไปเผาไหม้ ก็ไม่ได้เท่ากันตลอดเวลาซะหน่อย รอบต่ำๆลิ้นปีกผีเสื้อเปิดน้อย อากาศก็เข้าน้อย  รอบสูงๆลิ้นเปิดสุด อากาศก็เข้าได้เต็มที่ แต่มันก็มีลิมิต ถ้าอยากให้เข้ามากกว่านี้ต้องอัดมันเข้าไปอิอิ.. ปล.ที่คงที่คือขนาดรูของมิกซ์ แต่ปริมาณแกสที่(ถูกดูด)ผ่านมิกซ์ ไม่คงที่แน่นอนครับ แก้ไขเมื่อ 29 ธ.ค. 52 09:20:24 จากคุณ : listeria เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 52 09:11:40

ความคิดเห็นที่ 23 เชียร์หัวฉีดครับ ตอนนี้ราคาไม่แรงมากแล้ว ของผมซีวิคไดเมนชั่นปี 2001 เครื่องวีเทค เพิ่งติดมาเป็นแบบหัวฉีด ราคาอยู่ที่ประมาณ 27K ตัวนี้ได้ประกันอุปกรณ์สองปี ประกันอุบัติภัยคุ้มครองห้าแสนครับ พอดีคนที่ทำงานติดใช้อยู่กันหลายคัน คนละยี่ห้อ คนละรุ่นครับ แต่ร้านเดียวกันเลยลองเอาเข้าไป คุยแล้วเค้าแนะนำดี มีเพื่อนเข้าไปด้วยอีกคัน (มิตซู) เค้าแนะนำให้ติดรุ่นที่ถูกกว่าได้ ก็เลยติดเลย ไม่ต้องรอคิว ได้ถังขนาด 64 ลิตรมา ใข้แล้วการทำงานเหมือนน้ำมันครับ ลองเปลี่ยนเข้าออก น้ำมัน แก๊สดู มีความรู้สึกจากเสียงเครื่องบ้างเล็กน้อย ความเร็วไม่กระตุกแต่อย่างไร เรื่องการเร่งรู้สึกว่ามีอืดบ้างในการเร่งออกตัวเมื่อเทียบกับน้ำมัน แต่ความไม่ต่างมากนัก ต้องสังเกตหน่อยครับอันนี้ (หมายเหตุ ปกติผมใช้ทางหลวงความเร็วประมาณ 120-150 ทุกวันครับ) หลังการติดมีปัญหาเดียวคือรอบเดินเบาดับเป็นบางครั้ง แก้ครั้งเดียวจบเนื่องจากปัญหาปีกผีเสื้อสกปรก (รถมันนานแล้วย่อมสกปรกเป็นธรรมดา) ตอนนี้กำลังวางแผนเที่ยวอยู่ครับ ปล แนะนำก่อนติด นำรถไปถ่ายน้ำมันเครื่อง เปลี่ยนกรองอากาศ กรองเบนซิน หัวเทียนใหม่ เพื่อให้ช่างสามารถจูนได้แม่นยำใกล้เคียงน้ำมันได้ง่ายและแม่นยำนะครับ จากคุณ : Lu Bu (PNZS) เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 52 17:04:47