|
ความคิดเห็นที่ 5 |
|
ตั้งแต่รถยนต์ได้ถือกำเนิดเกิดขึ้นมา อุปกรณ์เสริมประสิทธิภาพเครื่องยนต์และช่วยประหยัดน้ำมันก็โผล่ขึ้นมาดังเงาตามตัว และทุกครั้งที่ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงพุ่งสูงขึ้น อุปกรณ์เหล่านี้ก็แตกดอกออกผลราวกับดอกเห็ด ยิ่งเมื่อน้ำมันดิบพุ่งกระฉูดเป็นบาร์เรลละ $60 อย่างในขณะนี้ (เดือนสิงหาคม 2005) จะเห็นได้ในอินเทอร์เน็ต ร้านสรรพสินค้า หรือแม้แต่หน้าโฆษณาด้านหลังของนิตยสาร PM นี้เองก็ตาม อุปกรณ์เหล่านี้จะโอ้อวดถึงสรรพคุณในการเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องยนต์ ลดมลภาวะ และช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้ตั้งแต่ 20, 40, หรือแม้กระทั่ง 300 เปอร์เซ็นต์ อื้อหือ อะไรจะถึงขนาดนั้น
ขออภัยด้วยที่เราไม่ หูเบา ขนาดนั้น แต่เราก็ไม่ถึงกับ ไม่เปิดใจ ซะทีเดียว สิ่งที่เราสงสัยนั้นคือ มันเป็นไปได้หรือที่นักประดิษฐ์ ใต้ถุนบ้าน ผู้คิดค้นอุปกรณ์เหล่านี้ จะบังเอิญสะดุดเข้ากับทฤษฎีทางฟิสิกส์ หรือ Thermodynamics ที่ไม่มีใครเคยค้นพบมาก่อนเลยชาตินี้ เป็นไปได้หรือที่บริษัทผลิตรถยนต์ชั้นนำต่างๆในโลกทุกแห่ง มองข้าม หรือ จงใจหลีกเลี่ยง ที่จะไม่ใช้วิธีง่ายๆเหล่านี้ เพื่อเสริมประสิทธิภาพและสมรรถนะของเครื่องยนต์ได้อย่างมหาศาลในรถยนต์ รถกระบะที่ตนเองผลิตออกมาขาย ฉะนั้นแทนที่เราจะปล่อยให้ความสงสัยนั้นลอยผ่านไปเฉยๆ เราจึงตัดสินใจที่จะ ให้โอกาส อุปกรณ์เหล่านี้ได้พิสูจน์ ปาฎิหาริย์ ของตนเอง
เราเลือกซื้ออุปกรณ์เหล่านี้มาเจ็ดชนิด มีตั้งแต่ราคา $20 จนเกือบถึง $400 เพื่อเป็นตัวแทนของอุปกรณ์ที่มีลักษณะการทำงานแบบต่างๆ ซึ่ง คุย ว่ามีสรรพคุณที่สามารถช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง เช่น การติดตั้งแม่เหล็กเข้ากับท่อส่งน้ำมัน การปรับปรุงลักษณะการเคลื่อนตัวของไอดี หรือแม้แต่การฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มให้กับเครื่องยนต์ (อ้าว...แล้วจะประหยัดยังไง)
เราทำการทดลองทั้งหมดที่ Universal Technical Institute ซึ่งเป็นสถาบันฝึกสอนบุคลากรสาขายานยนต์แห่งเมืองฮูสตัน (มลรัฐ Texas) โดยทดลองบนรถกระบะอเมริกันรุ่นใหญ่ 4 คัน ซึ่งสถาบัน UTI นั้นจัดหามาให้ หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมเราถึงใช้รถกระบะในการทดสอบ คำตอบง่ายๆ ก็คือ รถกระบะนั้นเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องของการ ซด น้ำมันเชื้อเพลิง และอีกเหตุผลก็คือ ห้องเครื่องของรถกระบะนั้นใหญ่ สะดวกในการติดตั้งอุปกรณ์เหล่านี้
เราทดสอบรถกระบะทั้ง 4 คันบนเครื่องวัดแรงม้าแบบลูกกลิ้ง (Chassis Dynamometer) 2 เครื่อง โดยปล่อยรถกระบะวิ่งจนน้ำมันเกลี้ยงถัง จากนั้นเติมน้ำมันเชื้อเพลิงในปริมาณที่กำหนดไว้ แล้วทดสอบหาแรงม้าและแรงบิดสูงสุดสี่ครั้งเพื่อความแม่นยำ จากนั้นเราล็อกความเร็ว (Cruise control) ให้วิ่งอยู่ที่ความเร็ว 71 ไมล์ต่อชั่วโมง จนน้ำมันหมดถังเพื่อเป็นตัวกำหนดค่าความสิ้นเปลืองน้ำมัน ก่อนติดตั้งอุปกรณ์ของรถแต่ละคันไว้เพื่อใช้เปรียบเทียบ
เราเติมน้ำมันในปริมาณที่กำหนดไว้อีกครั้ง ติดตั้งอุปกรณ์ ประหยัดน้ำมัน แต่ละชนิดแล้วทดลองซ้ำ (อ้อ...เราไม่ได้ทดสอบในเรื่องของมลภาวะจากท่อไอเสียในงานนี้ เพราะเราคิดว่า ผู้ซื้อ อุปกรณ์ประเภทนี้คงจะสนใจในเรื่อง ความประหยัด มากว่า มลภาวะ) และต่อไปนี้ คือผลการทดสอบที่ได้จากอุปกรณ์แต่ละอย่าง
จากคุณ |
:
การกินเป็นสิ่งจำเป็น
|
เขียนเมื่อ |
:
25 ม.ค. 53 18:26:00
|
|
|
|
|