|
ความคิดเห็นที่ 51 |
ที่เล่ามาคือยังไม่ได้ทำหรือป่าวครับ แบบว่าขอราคาประเมินมาก่อนใช่มั้ยครับ ผมจะอธิบายให้ฟังคร่าวๆนะครับ อาจยาวหน่อย แต่ตั้งใจอ่านไว้ครับ คราวหน้าจะได้เข้าใจและรู้ทันครับ ราคาอย่างอื่นไม่ค่อยรู้ แต่ว่าค่าแรงตั้งศูนย์500ผมว่าแพงนะ จริงๆไม่ควรเกิน350บาท เพราะที่ต้องตั้งคือเปลี่ยนลูกหมากปลายแร็คซ้าย+ขวาไปแค่นั้นเอง ไม่ได้ตั้งแก้อาการอะไรมาก และอีกอย่างศูนย์ดีๆยังมีอยู่นะครับ เพียงแต่ผมอยู่คนละค่ายครับ รถที่ใช้มาระยะ100,000กิโลเมตรแล้ว ก็ต้องมีอะไหล่ที่เสื่อมสภาพแน่นอนครับ มันจะมีอายุของตัวมันเอง อย่างระบบน้ำผมบอกได้เลย ควรเปลี่ยนก่อนที่มันจะพัง อย่างเช่นระบบน้ำ ง่ายๆเลยให้คุณดูที่หม้อน้ำ รถใหม่ๆฝาชิ้บนและล่างจะเป็นไฟเบอร์หรือพลาสติกแล้ว ไม่มีแบบเป็นเหล็กแล้ว ของใหม่ๆจะเป็นสีดำ แต่พอใช้ไปนานๆ มันจะเปลี่ยนเป็นสีเขียวๆ น้ำตาล แปลว่าควรจะเปลี่ยนซะก่อนที่มันจะแตกครับ ส่วนปั๊มน้ำก็ตามนั้นครับ100,000กิโลเมตรควรเปลี่ยนครับ ก่อนที่มันจะรั่วแล้วน้ำจะเข้าเครื่อง งานเข้าหนักครับ ฝาหม้อน้ำก็แสบนะบางทียางที่ฝามันบวมมันก็ไม่มีการระบายน้ำไป-กลับที่ถังพัก พอแรงดันสูงมากขึ้น ไม่มีทางออก ก็ต้องมีอะไรแตก ไม่ท่อยางก็หม้อน้ำ
รายการเบรคปกติการเช็คเบรคจะทำที่ระยะประมาณทุกๆ20,000-40,000กม. ทีนี้40,000กม.ของผู้ใช้รถแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนชอบเลียเบรคก็หมดไว ช่างเค้าไม่รู้หรอกว่าถ้าสมมุติครั้งนี้ผ้าเบรคยังเหลืออีก4ม.ม.กว่าจะเข้ามาคราวหน้า(อีก40,000กม.)มันจะหมดก่อนมั้ย ถ้าปล่อยไปโดยที่คุณก็ไม่รู้ ผ้าเบรคหมดข้างนอกแผ่นเหล็กกินจานเป็นรอยถ้าลึกก็เจียรไม่ไหวต้องเปลี่ยนจานเบรคอีก คุณก็จะแย่หนัก เสียเงินเสียอารมณ์เสียเวลา
ศูนย์บริการค่าแรงจะคิดเป็นชั่วโมงครับ แต่ละงานก็จะกำหนดไว้แล้วว่าใช้เวลาเท่าไหร่ และจะเน้นเปลี่ยนอะไหล่ก่อนที่มันจะพัง แต่อู่ข้างนอกคือส่วนใหญ่รถพังแล้วจะเข้าไปหาเพราะคิดว่าสู้ราคาศูนย์ไม่ไหว อู่ก็จะเปลี่ยนเฉพาะอะไหล่เท่าที่เสีย ส่วนที่ยังไม่เสีย มันก็จะเสียเมื่อไหร่ไม่รู้ ผมก็ไม่รู้555 คนใช้รถมีรถเป็นของตัวเองก็ต้องหัดดูแลรักษาเบื้องต้นเองบ้างครับ จะได้ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายส่วนที่ไม่จำเป็นครับ เพราะคุณมีรถคุณต้องรับผิดชอบมันไปตลอดเวลาที่อยู่กับคุณ ไม่ใช่แค่มีเงินก็ซ่อมไม่มีก็ไม่ซ่อม ต้องนึกไปถึงว่าถ้ามันเสียกลางทางมีใครเดือดร้อนบ้าง 1.ตัวคุณเอง 2.ผู้ใช้ถนนคนอื่นๆบางทีอาจเป็นคนป่วยฉุกเฉินในรถพยาบาลข้างหลังคุณก็เป็นไปได้ ประเทศเราดีนะครับมีเงินก็ซื้อรถได้เลย บ้านมีที่จอดมั้ยก็ไม่รุ้ ชุมชนบ้านผมต้องประกาศออกลำโพงกันทู๊นวัน "ท่านเจ้าของรถ...เลขทะเบียน...กรุณามาเลื่อนรถด้วยครับ ตรงทางแยกกรุณาอย่าจอดนะครับเห็นใจเพื่อนบ้านด้วย" 555บ่นซะเยอะ
ถ้าคุณคิดจะเข้าศูนย์คุณต้อง***มีสติเพราะเจ้าหน้าที่รับรถอาจกล่อมคุณจนหลับได้ 555 ล้อเล่นครับ คือคุณต้องคุยกับเค้าตั้งแต่แรกเลยว่า ตั้งงบเท่าไหร่ ถ้ามีของเสียให้แจ้งก่อนซ่อมนะครับ และถ้าไม่ค่อยมีเงินบอกเค้าไปตรงๆเลยครับ ช่วยหน่อยนะครับ เงินไม่ค่อยมีต้องไปใช้ทำอะไรก่อนก็ว่าไปครับไม่ต้องวางฟอร์ม ฟอร์มมันกินไม่ได้ครับ เรื่องเงินเรื่องใหญ่ใครๆก็ต้องจำเป็นที่จะใช้มัน อะไหล่ชิ้นไหนต้องเปลี่ยน เปลี่ยนเพราะอะไร อะไหล่ที่เปลี่ยนไปแล้วก็ขอคืนทุกชิ้นนะครับ(พวกน้ำมันเครื่อง+ของเหลวเก่าไม่ต้องเอาก็ได้มันเลอะเทะ555) หากเขาอนุญาตให้เข้าไปดูช่างทำได้ก็เข้าไปเลยแต่อย่าไปซักจุ้จี้จุกจิกหรือชวนคุยยาวนะครับ เดี๋ยวช่างไม่มีสมาธิทำงาน พลาดมาแย่เลย555 แต่ส่วนมากเค้าจะไม่ให้เข้าไปดูหรอก คุณก็ลองใช้มุกเข้าไปเอาของก็ได้แล้วดูนิดๆหน่อยๆหรือเอาขนมไปฝากช่างก็ได้ไม่ต้องแพงหรือหรู เป๊ปซี่กระป๋องเดียวเค้าก็ทำให้คุณสุดฝีมือแล้วคร๊าบ
ผมเขียนเยอะเกินไปแล้วมั้งบางทีถ้าคุณไม่อ่านก็ไม่มีประโยชน์ เพื่อนๆที่เผลอมาอ่านก็ลองคิดตามดูนะครับ อ่านไว้ไม่มีอะไรเสียหายครับเพราะผมคือช่างศูนย์บริการคนนึง(แต่คนละค่ายอะนะ555) ถึงจะไม่เก่งก็เถอะ แต่ไม่ต้องห่วงเรื่องเก่งไม่เก่งครับ งานแต่ละงานต้องสเปคก่อนที่จะปล่อยรถส่งลูกค้าครับ แต่ก็ยังมีโอกาสพลาดได้กันทุกที่ครับ ซึ่งยังไงศูนย์ต้องรับผิดชอบงานที่เกิดปัญหาอยู่แล้ว(แต่ไม่เกิดดีกว่านะ555) แต่ศูนย์ผมก็ไม่เคยฟันราคาค่าแรงใคร ยิ่งถ้าคุณลูกค้ามาตีสนิทกับพวกหัวหน้าผมด้วยความจริงใจจริงๆแล้วล่ะก็ ไม่มีการคิดค่าแรงซ้ำซ้อนซ่อนเงื่อนแน่นอนมีแต่จะลด บางรายการถ้างานไม่เยอะมากมีเพื่อนว่างๆอยู่ก็ทำให้ฟรีๆกันเลยด้วยซ้ำ พอละผมไปอาบน้ำนอนดีกว่า555
***ขอแนะนำอีกอย่างเลยถ้าคุณใช้อินเตอร์เนตได้แบบนี้ กูเกิ้ลช่วยได้ หาคลับชาววีออสครับ เค้าช่วยเหลือแนะนำคุณได้แน่นอนครับ ยุคนี้เค้ามีคลับกันแทบทุกรุ่นครับ ผมก็เข้าไปหาความรู้ในคลับค่ายรถที่ผมทำงานอยู่บ่อยๆ บางคนเก่งกว่าผมเยอะเลย555
จากคุณ |
:
กรุณาอ่านด้วยครับ (ddlife)
|
เขียนเมื่อ |
:
8 ก.พ. 53 21:44:51
|
|
|
|
|