|
ความคิดเห็นที่ 16 |
|
ู^ ^ ผมให้แง่คิดอีกด้านครับ คือชอบเปรียบเทียบอะไรในเงื่อนไขเดียวกันมากกว่า
สมัยนั้น ปี 1997 Toyota Corolla AE111 ราคา 658,000 บาท อัตราแลกเปลี่ยนยัง 27 บาท/ดอล , ข้าวแกงจานละไม่ถึง 20 บาท
กับปีนี้ ปี 2010 Toyota Corolla Altis ราคา 1,184,000 บาท ในยุคที่อัตราแลกเปลี่ยน 33 บาท/ดอล และข้าวแกงจานละ 30 บาท
อาไรว้า.. อัตราแลกเปลี่ยนต่างแค่ 5 บาท กับข้าวต่างกัน 10 บาท ไหงรถต่างกันเท่านึง งี้หล่ะ?? ถ้าอั๊วอยากจะได้ Corolla เหมือนเดิม คลาสเดิม นี้อั๊วต้องจ่ายเพิ่มอีกเกือบเท่านึงจากเดิมหรือยังไงหือ??
อันที่จริงแล้ว.. เทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้น
ต้นทุนการผลิตโดยรวมยังเท่าเดิมและผันขึ้นตามอัตราเงินเฟ้อปรกติทุกอย่าง และด้วยกระบวนการลดต้นทุน ไม่ว่าเหล็ก/หนัง/พลาสติก/ยาง รวมถึงใช้วัสดุกระดาษเกรดต่ำอัดขึ้นรูปทดแทนการใช้เหล็ก จบได้ในรถยุคนี้ ผนวกกับการลดภาษีกับผู้ผลิต ซึ่งผลเหล่านี้ไม่มีผลกับราคาขายรถยนต์แต่อย่างใด
มันผันผวนในทิศทางที่มากกว่าอัตราเงินเฟ้อของประเทศที่ประกาศในแต่ละปีรวมกันในระยะเวลาเกินกว่า 10 ปีครับ แต่เราก็ยังนั่งดีใจอยู่ว่า เอ้อ!เงินเท่าเดิม ได้ของสเปคดีกว่าเดิมอีก เพราะนั้นคือเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไปในแต่ละปี แต่หากวิเคราะห์ดูแล้ว เทคโนโลยีดีขึ้น แต่คุณภาพของวัสดุแย่ลงแต่คนจะดูไม่ออก เพราะทดแทนด้วยการออกแบบพื้นผิว ตัวถัง ที่ทันสมัยขึ้นเท่านั้น
นั้นหมายถึงว่า หากเป็นไปตามกลไกของราคาจริงๆแล้ว คุณเชื่อหรือว่า... สมัยนั้นรถราคา 658,000- สมมติต้นทุนผลิตรวมขนส่งและคลังพร้อมดอกเบี้ย 300,000- แต่
คุณเชื่อหรือว่า... รถรุ่นเดียวกันถัดมาอีก 10 ปี จะมีราคา 1,184,000 แล้วต้นทุนการผลิตสุทธิจะตามขึ้นมาเป็น 600,000-
ไม่ใช่อย่างนั้นเสียหรอก.. ต้นทุนการผลิตจริงมันเพิ่มขึ้นมาเล็กน้อยมากๆ เพราะมีหลายอย่างที่ช่วยลดต้นทุนไม่ว่าจะผลิตจำนวนที่มากขึ้นทุกปี เปลี่ยนฐานการผลิต ใช้การเมืองลดอัตราภาษี ใช้เครื่องจักรแทนพนักงาน ฯลฯ พวกนี้คอยทำให้สมดุลระหว่างอัตราเงินเฟ้อ ต้นทุนเหล็ก ต้นทุนเม็ดพลาสติก ฯลฯ ถ้าผมจะบอกว่า ต้นทุนจริงๆ ก็ยังคงเพิ่มอยู่ระหว่าง 300,000-350,000 นั้นแหละครับ แต่อยากได้เทคโนโลยีในคลาสเดิม ณ วันนี้ ก็ต้องควักเงินกันมากขึ้นเป็นธรรมดา
แต่อยากได้เทคโนโลยีเสมอๆหรือใกล้เคียงกับเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ในราคาที่เท่ากันเมื่อ 10 ปีที่แล้ว คุณก็มองเป็นรุ่นต่ำกว่า แต่ต้นทุนการผลิตไม่ใช่ 300,000 บาทนะ ลดเหลือ 100,000-200,000 บาท เท่านั้นหล่ะครับ
นี้คือจุดที่ทำไม บริษัทรถยนต์ถึงรวยมาก คุณรู้ไหมว่าบริษัทที่รวยติดอันดับในไทย นอกจากด้านพลังงานแล้ว รองลงมาก็รถยนต์ข้ามชาตินี้แหละครับ! เค้าไม่ใช่แฟร์กันผู้บริโภคอย่างที่ดูๆมองๆกันหรอกนะ ลดต้นทุน เพิ่มราคาขาย ผูกขาดการค้า ตัดตัวเลือกผู้บริโภค เข้าการเมืองประเทศนั้นๆ แล้วผูกขาดซะ อันนี้ใครๆก็ทราบ มันเป็นผลดีกับผู้ผลิต แต่ผู้บริโภครับกรรม
ข้ามมาที่ Tiida คำตอบของเรื่องมันอยู่ที่ว่า...
Honda / Toyota ทำผลิตภัณฑ์ออกมา ยังไงยอดขายก็ดีกว่าค่ายอื่นๆในไทยแน่นอน (แค่ยอดขายนะ) ยกเว้นว่าคุณภาพผลิตภัณฑ์และราคาขายจะต่างกันมากจริงๆเท่านั้น ต่างกันนิดหน่อย คนเลือกเจ้าตลาดแน่นอน
แก้ไขเมื่อ 20 ก.พ. 53 00:51:18
จากคุณ |
:
โ ก คุ ง
|
เขียนเมื่อ |
:
20 ก.พ. 53 00:50:10
|
|
|
|
|