|
ความคิดเห็นที่ 12 |
ตอนผมเงินเดือนเท่า จขกท. ผมเคยคิดจะซื้อรถเหมือนกันนะ ตอนนั้นเงินเดือน 24,000 มีเงินเก็บอยู่ 2 แสน กะว่าจะดาวน์ซัก 150,000 แล้วผ่อนอีกเดือนละ 9,000-10,000 นึง ซัก 4 ปี
เลยนั่งทำรายการค่าใช้จ่ายต่อเดือน พบว่า ในเงินเดือน 24,000 บาท มันกระจายไปดังนี้ ....
- หักภาษี ประกันสังคม เหลือรับสุทธิประมาณ 22,000 บาท - ให้แม่ 7,000 บาท เหลือ 15,000 บาท - ค่าโทรศัพท์มือถือ 500 บาท เหลือ 14,500 บาท - ค่าอินเ้ตอร์เน็ทรายเดือน 600 บาท เหลือ 13,900 บาท - ค่าอาหาร เครื่องดื่ม กาแฟ ขนม ฯลฯ ที่เราไปทำงาน วันละ 100 บาท เดือนนึงทำงาน 22 วัน เท่ากับ 2,200 บาท เหลือ 11,700 บาท - มีสังสรรค์นัดทานข้าวกับเพื่อนฝูงบ้าง เดือนละ 2-3 ครั้งๆ รวมประมาณเดือนละ 1,500 บาท (นี่ขนาดผมไม่ค่อยดื่มเหล้านะ) เหลือ 10,200 บาท - ซื้อของใช้ส่วนตัวอื่นๆ เดือนละ 1,000-2,500 บาท ตีกลางๆ แล้วกัน เ็ป็น 1,700 บาทอ่ะ เหลือ 8,500 บาท
แล้วผมจะผ่อนรถได้ยังไงโดยชีิวิตไม่เดือดร้อน???? นี่ยังไม่รวมค่าน้ำมันอีกเดือนละอย่างต่ำ 2,500 บาทนะครับ แถมยังต้องจ่ายเบี้ยประกันอีกเฉลี่ยก็เดือนละพันกว่า โอเคละ! บางคนอาจจะบอกว่า ก็ตัดเรื่อไงปกินข้าวกับเพื่อนๆ ออกสิ อืมม ทำได้ครับ ไม่ยาก แล้วค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่มันไม่ใช่รายเดือนละ บางทีคุณอยากพาที่บ้านไปทานข้าวโดยคุณเป็นเ้จ้ามือเลี้ยง ทำได้ไหม อ่ะ เริ่มไม่ได้แล้วใช่ไหมครับ? เพราะมันตึงมือสุดๆ
บางคนบอก ลดอาหารการกินลงสิ อืมม อันนี้ผมไม่เห็นด้วยเลยละ มันกลายเป็นว่าเรายอมอดเพื่อให้รถมันกิน (น้ำมัน) อิ่ม
ต่อจากเมื่อกี๊นะ สมมติว่าคุณตกลงจะไปต่อ จากเงินที่เหลือประมาณ 8,500 บาท - คุณต้องเผื่อค่าน้ำมันประมาณเดือนละ 2,500 บาท เท่ากับเหลือ 6,000 บาท - สำรองจ่ายค่าเบี้ยประกัน ค่า พรบ. ประจำปี ตกเดือนละ 800 บาท เหลือ 5,300 บาท
เงิน 5,300 บาท คือเงินที่คุณจะสามารถผ่อนรถได้ในหนึ่งเดือนครับ นี่คือลองคิดแบบหยาบๆ นะ และด้วยเงินจำนวนนี้ คุณไม่สามารถใช้ชีวิตนอกกรอบได้อีกเลยนะครับ จะไปเที่ยว ตจว. อยากได้มือถือใหม่ อยากได้ทีวีใหม่ เลี้ยงข้าวแฟน (ถึงแม้ว่าผมจะไม่มีก็ตาม 555 แต่คิดเผื่อไว้) ซื้อกางเกงยีนส์ตัวใหม่ ฯลฯ
พอผมสรุปได้อย่างนี้ปั๊บ ผมตัดสินใจไม่ซื้อรถเลยครับ รอจนเงินเดือนมันมากกว่านั้นซักสองเท่า แล้วค่อยตัดสินใจผ่อน เพราะผมตั้งใจไว้ว่า ผมจะผ่อนรถก็ได้ แต่ผมต้องมีเงินออมหลังหักค่าใช้จ่ายแล้ว ไม่ต่ำกว่าเดือนละหมื่น ส่วนใครที่คิดว่าไหว ก็ถือว่าเก่งครับ
และของยังงี้ ทัศนคติไม่จำเป็นต้องเหมือนกันครับ ถ้าคิดว่าไหว ก็ทำเลย!!!
จากคุณ |
:
Alessandro
|
เขียนเมื่อ |
:
8 มี.ค. 53 15:14:34
|
|
|
|
|