 |
เรียงราคามาร์ชต่อจากยาริสให้ดู ECO car ให้ดูราคา E CVT ลงไป รุ่นบนขึ้นไปคือรุ่นของแถมแฟนพันธ์แท้
|
|
หลังจากที่เราได้รู้จัก ECO car ตัวจริงคันแรกของเมืองไทยมา 2-3 วัน
เราพบว่ามีข้อคลางแคลงใจมากมายเกี่ยวกับราคาของ March จนเรียกได้ว่า
เถียงกันไม่จบไม่สิ้น เพราะเสียงทั้งสองฝ่ายมากทั้งคู่ แต่ฝ่ายไหนมากกว่าใคร
คงไม่สามารถตอบได้ March แพงเกินไป หรือ ว่าถูกสมราคาแล้ว
ฝ่ายที่คิดว่าราคาของ March สมเหตุสมผลแล้วคือคนที่คลุกคลีอยู่ในวงการรถยนต์
มานาน ไม่ว่าจะโดยอาชีพ หรือแฟนๆ ผู้รักรถยนต์ เรียกได้ว่ามี "ความเข้าใจ"
ว่าเท่านี้แหล่ะคือราคาที่พยายามกดลงเต็มที่ เพื่อให้รองรับกับเทคโนโลยี่บนขนาด
ตัวถังรถ sub-compact ที่มีขนาดเท่าๆ กลุ่ม Yaris
ฝ่ายที่สองคือฝ่ายที่ยึดความคิดตนเองเป็นที่ตั้งถึง concept ECO car ในแบบ
ของตน คือ ต้องถูกมากกว่านี้ ในระดับ 3 แสน - 3 แสนห้าเท่านั้น และการ
complain โจมตีไม่ว่าจะรุ่นท๊อปหรือรุ่นล่างสุด ถ้าสำหรับรุ่นท๊อปก็คือโจมตีว่า
ใส่ของไม่จำเป็นมามากเกินไป ส่วนรุ่นล่างโจมตีว่าตัดทุกอย่างทิ้งหมดแบบนี้ได้
ยังไง รวมทั้งวิจารณ์เนื้อวัสดุต่างๆ ด้วย ซึ่งความเป็นจริง มันไม่ได้แตกต่างจาก
กลุ่ม B car ในตลาดเท่าไหร่เลย หนำซ้ำ มันมีเนื้อวัสดุที่ดีกว่าซะด้วยซ้ำ
สำหรับกลุ่มที่สองผมถือว่า มันไม่ผิด ที่เราจะมีเกณฑ์ของเราเองในใจว่าระดับ
ราคาที่เราพอใจควรจะอยู่ที่เท่าไหร่ ถ้าไม่พอใจก็สามารถเปลี่ยนไปซื้อรถที่
ถูกกว่า หรือรถที่ราคาสูงกว่าแต่ดูคุ้มค่าในสายตาคนเหล่านั้นได้
แต่เท่าที่ผมจะช่วยได้ ผมอยากให้มองไปที่รุ่น
S (375,000), E (425,000), E cvt (459,000) เท่านั้นครับ
ในขณะที่รุ่น EL (489,000), V (507,000), VL (537,000) สงวนไว้สำหรับ
กลุ่มลูกค้าที่ต้องการ "ความเต็มที่" และชอบ March ในฐานะรถยนต์ใน "B segment"
คันนึงดีกว่าครับ
โครงการณ์ ECO car ทำให้ Nissan สามารถย้ายฐานการผลิต B Car อย่าง
March มาผลิตที่เมืองไทย และส่งกลับไปที่ญี่ปุ่น และประเทศอื่นๆ ได้
หากมีการผลิตเครื่อง 1500 ด้วย ผมยังสงสัยอยู่ว่าจะถือรวมเป็นยอดการผลิต
ในจำนวนแสนคันต่อปีด้วยหรือไม่ อัตราภาษี ECO car ก็อาจจะไม่ได้ด้วย
อันนี้ต้องรอคนในมาฟันธงครับว่า บ้านเราจะมีผลิต March ใช้เครื่องยนต์กี่สเป็ก
ผมได้ทำตารางโดยเอาเฉพาะรุ่น S (375,000), E (425,000), E cvt (459,000)
มาใส่เปรียบเทียบกับ Toyota Yaris ครับ เพื่อให้เห็นชัดว่า
การเรียงลำดับ สเป็ก และ ราคา ของ March นั้น มาในแนวทางของ
B segment ที่วางเครื่องเล็ก อย่างเห็นได้ชัด
คนที่ซื้อ March ก็เหมือนซื้อรถ B segment ที่ถูกตัด option, ลดขนาดเครื่อง
หนึ่งคัน
และสำหรับผม เมื่อมองในตารางนี้ ยิ่งเป็นสิ่งยืนยันความสมเหตุสมผลในการ
ตั้งราคาของ Nissan มากขึ้น แต่สำหรับคนที่ยังมอง March เป็นรถที่ต่ำ
หรือด้อยกว่ารถในตลาด 1500 cc ยังยืนยันว่า Mazda 2 ภายในกว้างกว่า
ยังคิดว่าขนาดของ March ต้องไปเทียบกับ QQ, Savvy ก็คงต้องเลิกพูดกันดีกว่า เหอ เหอ
แต่สำหรับผม March ในที่นี้ เหมือนกับ Camry ที่ตีตั๋วเด็กมาใส่เครื่อง 1600 cc
ตัดออฟชั่นต่างๆ และลดค่าตัวลงเหลือประมาณ 9 แสน มากกว่า
เห็นมั๊ยล่ะว่า ความคิดทั้งสองฝ่าย มองกันแบบสุดขั้วจริงๆ แต่สิ่งเดียวที่ผมพูด
ได้เต็มปากคือ ระดับการใส่ option ของ March นั้นไม่น่าเกลียดเลย การที่
ไม่มี ABS นั้นไม่แปลก เพราะถ้าสมมติว่า March คือรุ่นๆ หนึ่งของ Yaris ที่เป็น
รุ่นล่างถัดมาจากรุ่น J ที่ไม่มี ABS March ต้องไม่มี ABS ถึงจะสมเหตุผล
ส่วนการมี Airbag เพื่อปกป้องคุณผู้หญิงที่กระทืบ ABS กันไม่ค่อยทัน
ถือว่าเป็นมาตรฐานใหม่ที่ดีอยู่แล้ว มันคือสิ่งที่คุณด่ากันมานานแล้วไม่ใช่หรือ
ว่าทำไมเมืองนอกมี Airbag มาตั้งแต่รุ่นล่างๆ แต่กลับถอดออก เมื่อขายในบ้านเรา
นึกออกมั๊ยล่ะครับ นี่แหล่ะนิสัยแปลกประหลาดของคนไทย
สมมติว่า March คือ Yaris รุ่นล่าง ที่ราคาไล่เรียงถัดลงมาจากรุ่น J จะเห็นได้
ว่าการเรียงร้อย อุปกรณ์มาตรฐานต่างๆ สมเหตุสมผลเป็นอย่างดี หากพูดถึง
ABS อีกครั้ง บอกได้เลยว่า คุณจะ speed อะไรกับมันมากมาย กับรถที่รูปทรง
น่ารัก เน้นลูกค้าผู้หญิง เน้นการประหยัดน้ำมัน ซึ่งส่วนใหญ่ใช้ขับในเมือง
ส่วน March สามรุ่นบน คือการแถมให้ลูกค้าที่ชอบ March มากๆ และต้องการ
Push Start หรือ Air Auto หรือ ต้องการทั้งคู่ในรุ่นท๊อป ซึ่ง option 2 อย่างนี้
เป็นตัวเชิดหน้าชูตาของ รถ sub-compact B segment ทุกรุ่นทั่วโลก Nissan
ใจดีขนาดนี้ คุณจะหาเรื่องว่าเค้าอีกทำไมหรือ ขณะนี้ตอนนี้ ลูกค้า Jazz, Yaris
ที่ต่างต้องการของทั้งคู่ ต่างนั่งมอง March กันตาปริบๆ ซึ่งมีจำนวนมากพอสมควร
ทีเดียว เพราะทั้งคู่ มันทำให้ design interior อัพเกรดขึ้นมากโข และทำให้รถ
ที่เค้ารักสมบูรณ์พร้อมนั่นเอง เพราะงั้น Nissan เยี่ยมมากที่จัด 3 รุ่นท๊อปมาให้
สำหรับคนที่ต่อว่าๆ Nissan โหด ตั้งราคา March สูงเกินไป ผมขอแนะนำให้
คุณลองรอรถทั่วๆ ไป หรือรถในโครงการณ์ ECO car รุ่นอื่นๆ ที่มีขนาด
ตัวถังเป็น A car หรือประมาณรถ Mira, QQ, Savvy และ วัสดุต่างๆ ที่น่าจะ
ทำได้แย่กว่า March ประมาณ 4-5 เท่า มีการประกอบที่ไม่ชัวร์ว่าจะดีเท่าไหร่
เพราะค่ายใหญ่ที่เหลือคงไม่มีใครกล้าประกอบออกมาให้เสียชื่อเค้าแน่
คุณต้องพร้อมที่จะรอ รถที่มีกระจกมองหลังข้างเดียวด้านขวา กะทะล้อ 12-13
นิ้ว ที่เมื่อคุณฉลาดจะไปเปลี่ยนเป็นล้อแม็ค 15-16 นิ้ว มันก็ถ่วงกำลังเครื่องยนต์
ที่มีเทคโนโลยี่สุดจะจำกัด จนวิ่งไม่ออก คุณต้องลองทนกับรถที่เวลาขับ เด้งขึ้น
ลง เหมือนนั่งอยู่บนสปริง ที่มีโชคแสนห่วยจนคุมอาการสปริงไม่อยู่ รถโคลง
เคลงตามไปด้วยทั้งๆ ที่ขับไม่เกิน 60 กม/ชม ซึ่งนั่นคืออาการของ QQ
คุณต้องทำใจนิดนึงกับเครื่องยนต์และเกียร์ที่ไม่ได้พัฒนามาใหม่ถอดด้าม แต่
อาจจะเป็นการนำเครื่องและเกียร์ลูกประหยัด ที่ตกรุ่น หรือใกล้ตกรุ่นแล้วมาใส่
ในรถคุณเพื่อกดราคาให้ต่ำประมาณสามแสนต้นๆ แอร์มือบิดที่กอปแกบ อาจจะ
ถูกตัดออกไป พลาสติกภายในที่สีลอกภายในเวลา 6 เดือน แน่นอนสีบอดี้
ภายนอกก็ไม่น่าจะเกิน 1 ปี ลอกเป็นเปลือกไข่ เสียงดังจากการประกอบที่
ต่ำกว่ามาตรฐาน และอื่นๆ อีกมากมาย
ถ้าคุณรับสิ่งเหล่านั้นได้ เชิญเลยครับ เปลี่ยนจาก March และไปรอรถเหล่านั้น
ที่จะมีราคาในระดับที่คุณรับได้ คือประมาณสามแสนต้นๆ และถ้าคุณและครอบ
ครัวสามารถ Happy กับมันได้ซัก 2 เดือน ผมว่ามันคงจะประสพความสำเร็จ
ในเืมืองไทยได้เหมือนกันแหล่ะ แปลว่าคนไทยคงรับกับคุณภาพที่ห่วยขนาดนั้น
ได้เพื่อให้ได้ใช้รถที่ราคาสามแสนต้นๆ
| จากคุณ |
:
เน็ดคุง   
|
| เขียนเมื่อ |
:
15 มี.ค. 53 00:46:57
|
|
|
| |
