ความคิดเห็นที่ 1 กายละเอียดมันไปแล้ว เหลือแต่กายหยาบเท่านั้นแหละ เท่าที่ผมอ่านที่ จขกท.ร่ายยาวมานะ :) จากคุณ : tayu2 เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 53 19:07:46

ความคิดเห็นที่ 2   รอฟัง เพราะเหลือ 2 ตัวเลือกเหมือนกัน จากคุณ : อืมม์ เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 53 19:09:24 A:58.8.234.241 X: TicketID:224973

ความคิดเห็นที่ 3   ประเด็นต่อประเด็น Mazda2 1. Mazda2 ได้เครื่องที่แรงกว่า 1500 cc ในขณะที่ Nissan March 1200 cc บางคนบอกแค่นี้ก็คุ้มแล้ว เพราะบ้านอยู่เชียงใหม่ ไปดอยแม่อูคอ ไปปาย ไปปางอุ๋ง ไปกลับกรุงเทพ-เชียงใหม่บ่อย ไปเทียวนู่นเที่ยวนี้แทบทุกอาทิตย์ ขับขึ้นเขา แล้วรู้สึกชัดเจนถึงความยากง่ายในการเร่งแซงทางขึ้นเขา ที่ความเร็วสูงรู้สึกถึงความแน่นชัดเจน เทียบกับ March ดู แต่บางคนบอกเอามาทำไม 1500 cc เพราะชั้นขับในเมือง ไปกลับ บ้าน-ที่ทำงาน 5 กิโล ติดอยู่บนถนนซะส่วนใหญ่ วันๆใช้ชีวิตแค่นี้ 300 cc ที่เกินมา ขายทิ้งขอเป็นเงินคืน สัก 90000 ได้ไหม? ออกตัวติดไฟแดง ฉันก็พุ่งพอกับเธอ 2. Mazda2 ได้ช่วงล่างที่เหนือกว่า March การทรงตัวที่ดีกว่า การหลบหลีกในที่คับขัน บางคนบอกแล้วไง ก็ไม่ได้ขับเร็ว ถนนก็ขับในกรุง เรียบๆ ขับชิวๆ ไม่ได้ซิ่งแข่งกับใคร จะสปอร์ตไปหาอะไร ที่มีอยู่ก็ไม่ใช่ช่วงล่างเกวียน มันก็นิ่มมมมอยู่แล้ว ไส้ก็ไม่ได้คลอน 3. Mazda2 ได้ พวงมาลัย ควบคุมเครื่องเสียง พร้อมระบบปรับความดังตามความเร็วรถ สะดวกสบาย ปลอดภัยไม่ต้องละสายตาจากการขับรถ บางคนบอกแล้วไง มี 2 มือ มือซ้ายไม่ได้พิการ เอื้อมไปปรับ 2 วิ มันลำบากขนาดนั้นหรือ 4. Mazda2 ได้สวิตท์ไฟฟ้าเปิดท้ายรถ เท่ห์ สะดวก ง่ายดาย บางคนบอกแล้วไง เอากุญแจไขก็ไม่ได้ลำบากขนาดขี้เกียจเปิดท้าย 5. ได้ฝากระโปรงแบบมีช็อกอัพ แถมยังกว้างขวางจุได้มากมาย กลิ่นในท้ายรถก็เข้าห้องโดยสารน้อยกว่า march บางคนบอก ก็ขับคนเดียวสัมภาระก็ไม่มี เอาตูดโด่งๆมาบังทัศนะวิสัยทำไม 6. ได้รถการันตีรางวัลระดับโลก ... ไม่เห็นแปลก Nissan March มัน Eco car จะเอาไปเทียบรางวัลกลุ่มเดียวกันได่้ไง แน่จริงลด CC มาเท่ากัน แล้วแข่งกันไม๊ บางคนยังบอก แค่พับกระจกไฟฟ้า เพิ่มมานิดนึงยังไม่ยอมเพิ่มมาให้ งกไปปล่าว (พอกันกับ LancerEX) จากคุณ : รู้สึกปวดหัว เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 53 19:10:25

ความคิดเห็นที่ 4 ที่ร่ายยาวมาทั้งหมด ก็ต้องขอย้อนถามกลับว่า  แล้วไปเลือกรุ่น VL ทำไมล่ะครับ ไม่อยากได้ของเล่นจุกจิก กลัวมันเจ๊ง กลัวมันพัง เป็นภาระเรื่องซ่อม ก็ซื้อรุ่น E CVT 459,000 (เกียร์ออโต้รุ่นต่ำสุด) ไปเลยสิครับ ประหยัดตังค์ได้อีก 78,000 บาท ** ขอแก้ไขหน่อย เมื่อกี้ ลบเลขในใจแล้วคิดผิด คิดเกินมาหมื่นนึง ** หลายๆ จุด เป็นเรื่องของการลดต้นทุนจริงครับ แต่ถามว่า ลดแล้ว มีผลกระทบอะไรกลับมาหรือเปล่า ? ยางยี่ห้อ Maxxis หลายคนดูถูก แต่ผมยังสบายใจ เพราะมันผลิตในไทย แล้ว 2 Sedan ใช้ยางยี่ห้ออะไร รุ่นไหน ผลิตที่ไหน ? ลองไปหาคำตอบเอาเองแล้วกันครับ แก้ไขเมื่อ 22 มี.ค. 53 19:17:12 จากคุณ : P_Wut เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 53 19:15:12

ความคิดเห็นที่ 5 ยังข้องในเรื่องวัสดุภายในของ March กับ M2 มันแตกต่างกันขนาดเอามาเป็นจุดขายได้เลยเหรอ เท่าที่จำได้มันก็ดูคล้ายๆกันนะคะ      เบาะก็ค่อนข้างบางทั้งคู่      March มีข้อติตรงแผงประตู แต่ตรงคอนโซลก็สวยดูดีนะ (ส่วนตัวมองว่าสวยกว่า M2)         สงสัยคงต้องไปดูที่ Motor Show อีกรอบ จากคุณ : madis เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 53 19:20:32

ความคิดเห็นที่ 6   คุณ P_Wut คงต้องลองอ่านเทียบ 2 ตัวนี้ดูก่อนสิครับ แล้วจะเข้าใจ จิตใจของอิสตรี ที่มีงบประมาณจำกัดค่าหนึ่ง แล้วจะมองเห็นตัวเลือกว่าทำไมถึงเลือก 2 ตัวนี้ เพราะไม่งั้นก็จะมีคนถามว่า ก็แล้วทำไมไม่เลือก Mazda2 sedan ตัวท็อปไปเลยล่ะ ตามมาอีก ส่วนประโยคนี้ "หลายๆ จุด เป็นเรื่องของการลดต้นทุนจริงครับ แต่ถามว่า ลดแล้ว มีผลกระทบอะไรกลับมาหรือเปล่า ?" ในใจใครหลายคนเลยครับ เพราะผมเองก็อยากรู้คำตอบ มีใครช่วยตอบจังๆให้หน่อยสิครับ ช่วยบอกหน่อยว่า ส่วนที่เรามองไม่เห็นนั้น มันไม่ได้ไปลดต้นทุน มากไปกว่าส่วนที่เรามองเห็น Eco car มันใหม่มากสำหรับคนไทย ไม่ใช่ M2 ที่ขายมานาน และการันตีด้วยรางวัลทั่วโลกมาแล้วอย่างว่า... ถ้า March ขายในไทยมาแล้วสัก 5 ปี (แบบใช้กันทั่วไป) แล้วคนใช้ทั่วไปยืนยันคุณภาพ พร้อมมีรางวัลการันตี ผมว่า march อนาคตไกลแน่ แต่นี่คือปัญหา ที่เกริ่นๆมา ผมบอกได้คำเดียวว่า.... ใครจะซื้อคันไหน ไม่ใช่เพราะคุณภาพรถ ความชอบในรูปลักษณ์ แบรนด์ ราคา เท่านั้น แต่มันอยู่ที่ว่า.... คุณต้องการรถเพื่อใช้มันอย่างไร... เพราะทั้ง 2 คันนี้ มันไม่ใช่ Vios เทียบกับ M2 ไม่ใช่ M2 เทียบกับ City แต่มันเป็น Eco car เทียบกับ Subcompact Sedan ครับ บางอย่างทนแทนกันไม่ได้ครับ จากคุณ : รู้สึกปวดหัว เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 53 19:26:33

ความคิดเห็นที่ 7 รู้สึกปวดหัวแทน ความคิดคุณช่างน่าปวดหัว คิดเล็กคิดน้อย คิดจนมองเห็นแต่ข้อด้อย สรุปว่า March มันไม่น่มีตัวตนขึ้นมาให้ระคายเคืองความรู้สึกหรูเริด ใครอยากซื้ออะไร เขาก็ย่อมต้องมองเห็นประโยชน์ในสิ่งนั้น สองคนยลตามช่อง คนหนึ่งมองเห็นโคลนตม คนหนึ่งตาแหลมคม มองเห็นดาวอยู่พราวพราย...ผมคนเชียงใหม่ รถแรงหรือไม่แรงมันไม่พอหรอกครับ ฝีมือเท่านั้นที่จะรับประกันว่าชีวิตท่านจะปลอดภัย ในการเดินทางขึ้นดอยแต่ละลูก ดูทางสายแม่แจ่มสิ รถชาวบ้านบางคนดูแทบไม่จืด นึกว่าจะไปได้ไม่ถึงไหน แต่พ่อคุณเอ๋ย รถหรูป้าย กทม กองอยู้ท้ายโน้น ... อย่าคิดมาก อยากได้ ถูกใจ ใช่เลย ซื้อซะ.... จากคุณ : ระมิงค์เมือง (casiopia) เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 53 19:28:45

ความคิดเห็นที่ 8   นาทีนี้ซื้อ March ฉลาดสุดยอดครับ Mazda2อย่าซื้อเลยครับ แต่ถ้า Tiida โอเคครับ Vios ก็โอเคนะ หรือ City Jazz จะฉลาดครับ แต่ Mazda อย่างเดียวครับที่ไม่ดี เอ๊ะ ยังไง งงๆ จากคุณ : เสียน้อยเสียยาก เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 53 19:29:37 A:192.168.0.240 X:61.90.42.5 TicketID:259105

ความคิดเห็นที่ 9 บางครั้งการสร้าง ข้อโต้แย้งในใจ ตัวเองมากเกินไป   "  ก็ใช่จะได้ อะไรที่ดีๆ  "  นะครับ   เหตุผล และ ความเหมาะสม  ... ในการเลือกซื้อ รถยนต์ สักคัน มันจำเป็นต้องมีประกอบการตัดสินใจ  " ผมเห็นด้วย "   แต่ถ้ามาเกินไป มันจะกลายเป็นการสร้างทุกข์ ให้ใจเราได้นะครับ  ... จากคุณ : coopers2006 เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 53 19:32:18

ความคิดเห็นที่ 10   สุดท้าย ในฐานะที่เป็นที่ปรึกษาให้แฟน ในการซื้อรถคันแรกในชีวิตของเธอ ผมกลับตอบเธอไม่ได้ ว่าผมจะเลือกคันไหน... ในเมื่อเธอมี 2 ตัวเลือกแค่นั้น ผมคงบอกได้เพียง ซื้อรถ 1 คัน ขอให้มองรอบด้าน มองให้ไกลถึงอนาคต การใช้สอยที่ไม่เพียงหยุดอยู่ที่ปัจจุบัน Flexibility ของมัน และถามว่าจะใช้คันนี้ไปอีกนานแค่ไหน ความสะดวกของศูนย์บริการที่ใกล้บ้าน .... ฯลฯ แฟนทำงานบริษัทเอกชน ทำงานจันทร์ถึงศุกร์ ออกพื้นที่บ่อย ภาคกลาง ภาคตะวันออก กลับบ้านที่ภาคเหนือบ้าง เดือนสองเดือนครั้ง .... นั่นสินะ เ้ธอจะเลือกคันไหนดี... ถ้าเป็นคุณ แล้วคุณจะเลือกอะไร มันอยู่ที่ตัวคุณ ขออย่าเอาไปเปรียบเทียบกับคนอื่น เพราะมันคนละสถานการณ์กันครับ ที่ตั้งกระทู้มา แค่จะบอกว่า " March กับ Mazda2 sedan มันเลือกยากนักหรือ" คำตอบมันอยู่ที่ตัวคุณนั่นล่ะครับ มันไม่อยากเลยครับ มองดูให้ดีครับ ขอให้โชคดี สำหรับรถคันนี้ของคุณ จากคุณ : รู้สึกปวดหัว เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 53 19:40:51

ความคิดเห็นที่ 11 ผมกะจะซื้อ March ตัวล่างสุด 370000 ตอบโจทย์ตังในกระเป๋าได้ดีที่สุดในตอนนี้ จากคุณ : เถ้าลอย เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 53 19:47:24

ความคิดเห็นที่ 12 ผมดูง่ายๆ เลยนะ คุณคิดว่า เจ้าของแบรนด์ Nissan เค้ากะจะทำรถขายแค่ 5-6 ปี ได้กำไรเต็มที่แล้ว เชิดเงินหนี ปิดบริษัทในไทย ทิ้งเลยหรือเปล่า ? เพราะรถรุ่นนี้ มันไม่ใช่แค่ผลิต/ประกอบในไทย แล้วขายแค่ในไทย ปีละ 2-3 หมื่นคันนะ มันเป็นรถเล็กระดับ Global คือ ระดับโลก  ผลิตออกจากโรงงานใน 4 ประเทศที่ต้นทุนการผลิตต่ำ ได้แก่ ไทย จีน อินเดีย และเม็กซิโก (ถ้าข้อมูลไม่ผิด) แล้วส่งออกขายทั่วโลก นอกเหนือจากประเทศฐานผลิตที่ว่า ทั้งญี่ปุ่น ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อาเซียน (ส่งจากไทย) ยุโรป (ส่งจากอินเดีย) อเมริกาเหนือ (ส่งจากเม็กซิโก) คุณคิดว่า เค้าต้องการผลิตรถรุ่นนี้ เพื่อสร้างชื่อ หรือเพื่อจะทำลายชื่อเสียงตัวเอง ก่อนจะปิดกิจการ ? ______________________________________________________________________________________________________________________________ กลับไปดูที่ Mazda  ถึง 2 จะผลิตออกขายทั่วโลกมาแล้ว 3 ปีก่อนหน้า แล้วมีอะไรมารับประกันว่า ที่ผลิตขายในไทย จะมีคุณภาพสูง ? บ.ผู้ผลิตเค้ามีการอวดอ้างเหรอครับว่า รถที่ขายในไทยทุกคัน มาตรฐานความปลอดภัยเดียวกับคันที่ส่งไปทดสอบการชนที่ยุโรป ได้รับผลการทดสอบระดับ 5 ดาวจาก EURONCAP ? อย่าลืมครับว่า รถทุกรุ่นที่ผลิตและขายในไทย เค้าก็ผลิตขายเพื่อทำกำไร ไม่ใช่ทำเป็นมูลนิธิสานฝันให้คนไทยได้มีรถคุณภาพสูง ทุกๆ ยี่ห้อต่างก็ต้องแข่งขันกันทั้งนั้น สุดท้ายคุณภาพที่ออกมา มันก็เหลื่อมล้ำต่ำสูงกันได้แค่นิดๆ หน่อยๆ ไม่ได้มากมายอะไรหรอกครับ มีคนมากมายชอบแซวโตโยต้าว่า เป็นรถห่วย ลดต้นทุนทุกจุด ใช้ฟิวเจอร์บอร์ดบ้างล่ะ ใช้แม็กเย็บกระดาษบ้างล่ะ แต่สุดท้าย มันก็เป็นยี่ห้อที่มีคนซื้อไปใช้แบบเหมาเข่งซื้อ (ซื้อไปให้เช่า ซื้อไปให้ใช้งานในบริษัท ฯลฯ) ก็ไม่เห็นว่า มันจะบอบบาง ไม่ทนทาน ไม่ทนไม้ทนมือ ไม่ทนเท้าตรงไหน แต่ละคันใช้กัน 3-5 ปี วิ่งกันเป็นแสนๆ โล ถ้าไม่ได้ชนหนัก ก็เปิดประมูลขายทิ้งออกมาเป็นมือสองตามเต๊นท์ มีคนมาซื้อไปใช้ต่อกันอีกกี่ปีกี่หมื่นกี่แสนโลก็ไม่รู้ จากคุณ : P_Wut เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 53 19:49:10

ความคิดเห็นที่ 13 ยาง dunlop กับ maxxis เลือกเอาเองครับ จากคุณ : JoeRazz เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 53 19:53:16

ความคิดเห็นที่ 14 http://www.pantip.com/cafe/ratchada/topic/V9004585/V9004585.html จากคุณ : ท่าน้ำนนท์ เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 53 19:53:15

ความคิดเห็นที่ 15 ผมเคยตอบไปบ่อยๆ ครั้งว่า March เหมือนรถที่ได้สิทธิพิเศษ มีข้อได้เปรียบเหนือรถระดับเดียวกันรุ่นอื่นๆ แต่ก็มีข้อจำกัดในตัวมันเองเช่นกัน เพราะความที่มัน apply เงื่อนไขต่างๆ ของ ECOCar เป็นรายแรก  บางแง่บางมุม มันก็ได้เปรียบรุ่นอื่นๆ แต่บางแง่ บางมุม มันก็เสียเปรียบ ที่ผมตอบไปทั้งหมด อาจไม่ได้ตอบไล่ทีละประเด็นปลีกย่อยที่ จขกท. ถามมานะ เพราะระหว่างที่คิด แล้วก็พิมพ์ๆ เรียบเรียง แล้วก็โพสต์ขึ้น  มันก็มีคห.ต่อเนื่องๆ ลงมาอีก รอ คห.อื่นๆ บ้างแล้วกัน  อ่านที่ผมตอบ+เชียร์มาเยอะๆ แล้วเดี๋ยวอาจจะเอียนเอา จากคุณ : P_Wut เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 53 19:54:43

ความคิดเห็นที่ 16 เอาง่ายๆ คุณจขกท.  คิดว่า รถที่ผลิตแล้วไปขายที่ญี่ปุ่น  ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่เรื่องมากเรื่องคุณภาพสินค้า อันดับต้นๆ ของโลก จะเป็นของที่ไม่ดี แล้วรถระดับ March น่ะครับ  ที่ญี่ปุ่นเค้าขายกันให้เพียบ ทั้งระดับ K-Car และ B-Segment ไอ้พวก Option ต่ำๆ  เบาะหลังไม่มีพนัก  วิทยุไม่มีน่ะ  ญี่ปุ่นเค้าก็ใช้กัน จากคุณ : EITHER เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 53 20:01:25

ความคิดเห็นที่ 17   ละเอียดจริงๆ แต่จะได้รถตามทีต้องการใช้หรือเปล่าวนี้....เลือกมากมักได้.... วิ่งทางไกลเหมือนกันนะนี่ เลือกรถที่ใหญ่กว่า ครับ เล็กไป มันวิ่งไกลๆ เสียวเหมือนกัน....ไม่ได้ไปดูทั้งสอง ทั้ง มีนา ทั้ง ฯลฯ....แต่เลือกปลอดภัยไว้ก่อนอ่ะ... จากคุณ : cvsaigon เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 53 20:01:41

ความคิดเห็นที่ 18 เป็นกระทู้ที่ดีจังค่ะ เพราะกำลังคิดจะซื้อ March อยู่นะเข้ามาหาข้อมูลค่ะ และจะเก็บเป็นข้อมูลเพื่อการตัดสินใจค่ะ จากคุณ : sriwis เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 53 20:03:07

ความคิดเห็นที่ 19 เอ่อคือว่า ไม่เข้าใจประเิด็นจริงๆ ครับว่าจะสื่ออะไร ถ้าสิ่งที่จะสื่อคือ " แต่มันเป็น Eco car เทียบกับ Subcompact Sedan ครับ บางอย่างทนแทนกันไม่ได้ครับ " ผมตอบแบบจั๋งๆ ให้ได้เลยว่าแทนกันได้ชัวร์ๆๆๆๆๆๆๆ เพราะมันคือเก๋งเล็กต่อเก๋งเล็ก ไม่ใช่เก็งเล็กต่อรถกระบะสี่ประตูยกสูง ชัดมั๊ยครับ คนไทยติดหรูครับและติดค่านิยมว่าของแพงต้องดีกว่าสิ ดูถูกของราคาถูกทั้งที่มันเพิ่งจะมีเวลาแนะนำตัวในโลกนี้ได้เพียง 10 กว่าวัน และทั้งที่พี่น้องมัน คนญี่ปุ่นเค้าใช้กันมาหลายปีแล้วในราคาประมาณไม่ถึงล้านเยน อยากให้ไปทดลองขับด้วยใจเป็นกลางอ่ะคับ แล้วจะพบว่ามันใช้งานแทนกันได้จริงๆ จากคุณ : T (tan_prew) เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 53 20:14:37

ความคิดเห็นที่ 20   คุณ P_wut พูดเหมือนว่า มาตรฐานรถผลิตในไทย ของ Nissan ดูจะมีดีกรี ดีกว่า มาตรฐานรถผลิตในไทยของ Mazda นะครับ!!! ยังจำ Soluna Vios โฉมก่อนตัวปัจจุบัน ที่ผลิตในไทยขายในไทยได้ไหมครับ ฟิวเจอร์บอร์ดแปะกั้นเบาะกับห้องสัมภาระท้ายรถ ไม่มีรางวัลใดๆมารองรับความดีเด่นของมัน แต่ถ้าได้ขับเทียบกัน Vios เก่า กับ Vios ใหม่ จะรู้สึกถึงความแตกต่างของช่วงล่าง ระบบเบรคที่แตกต่างกันอย่างมากของมัน แต่ต้องยอมรับความมีเทคโนโลยีสมัยนั้นอาจจะด้อยกว่าจริง ไม่ได้แปลว่าผลิตในไทยแย่เสมอไป หรือดีกว่าเสมอไป และไม่จำเป็นต้องมีรางวัลอะไรมาการันตี ดีที่สุดคือขับด้วยตัวเองครับ  ผมไม่เคยเชื่อถือรางวัลอะไรนั่นเลย จนกว่าผมจะได้ทดลองเอง แต่การมีอะไรการันตี มันก็น่าจะดีกว่าไม่มีอะไรการันตีมิใช่หรือครับ จากคุณ : รู้สึกปวดหัว เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 53 20:19:06

ความคิดเห็นที่ 21 เห็นด้วยกับคุณ tan_prew   คนไทยชอบยึดติดกับราคา ของแพงคือของดี ของถูกคือของไม่ดี ชาตินี้เลยไม่ต้องใช้ของดีๆถูกๆกันพอดี จะต้องมาจ่ายเงินเพิ่มเพื่อที่จะให้ดูดี   แพงกว่ากัน 1 แสน ไม่ได้ช่วยเสริมภาพลักษณ์เลยสำหรับเรา มันก็คือรถคันเล็กสำหรับใช้งานเหมือนๆกัน Brand ก็เหมือนๆกัน TOYOTA HONDA NISSAN MAZDA MITSU HYUNDAI       ถ้าขยับไปที่ Lexus หรือ Acura ถึงจะดูมีความแตกต่างขึ้นมา แต่คุณก็ต้องมีเงินเหลือพอที่จะฟุ่มเฟือยกับอะไรพวกนี้ จากคุณ : madis เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 53 20:32:38

ความคิดเห็นที่ 22 ผมไปลองขับน้องมีนา มาแล้ว ประมาณเกือบสามสิบกิโล ความเห็นส่วนตัว คือ ว่า นิสสันจะผลิตรถไม่ทันส่งมอบเป็นเวลาหลายเดือนติดต่อกันเลยทีเดียวครับ มันเป็นปรากฏการณ์ที่ค่ายรถใหญ่กว่านิสสันจะต้องเรียนรู้และเร่งรีบโครงการอีโคคาร์ออกมาเร็วกว่ากำหนดครับ เพราะยอดขายของน้องมีนา จะทำให้ค่ายรถใหญ่ หายไปบางส่วน ซึ่งผมคิดว่า เขายอมไม่ได้ จากคุณ : กุ้งไร้สาร เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 53 20:55:03

ความคิดเห็นที่ 23 รถคนละราคากันนี่ครับ ผมว่า ไม่เห็นจะมีอะไรน่าแปลกใจเลย ผมอดคิดไม่ได้ว่า หาก Mazda๒ ราคาเท่า March รุ่นล่างสุด จะ ทำได้หรือไม่ และถ้าทำได้ จะห่วยกว่า March มากหรือเปล่า หรือ ว่าได้เท่าๆ กัน หรือว่าจะดีว่า แต่โดยส่วนตัว ผมว่า "ห่วยกว่า" ชัวร์ เพราะราคารถค่ายนี้ ค่อนข้างแพงตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว จากคุณ : สยึมกึ๋ย เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 53 21:03:00

ความคิดเห็นที่ 24   คำถามนี้ ลองถามตนเองว่า... ทำไม Accord 2.4 จึงขายได้ ทำไม Teana 2.5 จึงขายได้ ทั้งๆที่มี 2.0 ขายอยู่ในรุ่นเดียวกัน ในเมื่อก็รถขนาดเดียวกัน นั่งสบายเหมือนกัน ทำไมคนหลายคนยินดีจ่ายซื้อตัว 2.4 2.5 ทำไม Civic ถึงมี 1.8 กับ 2.0 ทำไม Ex มี 1.8 2.0 จ่ายแพงกว่าทำไม ในเมื่อก็รถขนาดเท่ากันทุกอย่าง!! ก็ในเมื่อ March คันก็เล็กพอกันกับ Mazda2 นั่งแคบพอๆกัน จ่ายแพงกว่าทำไม? คำถามนี้ จะได้คำตอบ ไม่ใช่เมื่อขับรถในเมือง หรือรถติดๆ คนซื้อไม่ได้ซื้อเพราะคิดว่า Mazda2 ตัวใหญ่กว่า คำถามที่คุณ tan_prew ถามผม "แต่มันเป็น Eco car เทียบกับ Subcompact Sedan ครับ บางอย่างทนแทนกันไม่ได้ครับ" จึงต้องมองว่าคุณจะใช้มันทำอะไร Eco car เทียบกับ Subcompact Sedan ที่ทดแทนกันไม่ได้คือ Eco car มันประหยัดน้ำมันกว่า ราคาก็ประหยัดกว่า Eco car เทียบกับ Subcompact Sedan ที่ทดแทนกันไม่ได้คือ พละกำลังของเครื่องยนต์ ถามว่าความต่าง 300 cc มันมากมายแค่ไหน ก็คิดเอาว่า Civic 1.8 ยังเพิ่มอีกแค่ 200 cc เพื่อทำตลาดอีกกลุ่ม Aveo ยังปรับเพิ่ม 1400 เป็น 1600 cc เพิ่มมาแค่ 200 cc เพื่ออะไร? ถ้าจะเทียบพลังกำลังเครื่องยนต์ อย่าเอารถที่จอดติดไฟแดง มาเทียบกันว่าใครออกตัวเร็วกว่าใคร มันไม่มีอะไรได้ประโยชน์ ขอให้เทียบกันเมื่อขับมันแซงรถที่กำลังจะแซงไม่พ้น และอยู่ในเสี้ยวเวลาอันตรายของชีวิต ขอให้เทียบมันเมื่อคุณต้องขับมันไปในที่ที่คุณไม่คิดว่าจะต้องไป ขอให้เทียบมันเมื่อคุณต้องขับมันแซงรถพ่วงที่กำลังขึ้นเขาแล้วรถพ่วงกำลังถอยหลังมาจะชนคุณ ในขณะที่รถอีกคันสวนมา... เมื่อนั้นคุณจะเข้าใจ ว่าทำไม รถยนต์จึงไม่หยุดพัฒนาพละกำลังของเครื่อง ทำไมยังมีรถยนต์ที่เครื่อง 4000 cc ขับขี่บนท้องถนน อย่ามองว่าผมเชียร์ M2 > March เพียงเพราะผมโพสหัวข้อข้อเสีย March > M2 แต่เพราะ March มันราคาถูกกว่ามาก ทั้งๆที่มันขนาดเดียวกัน อุปกรณ์ครบครัน  จนชวนให้ใครต่อใครติดเตลิดไปไกลอย่างผมบอก แต่ไม่มีใครคิดว่า M2 ถูกกว่าคู่แข่งมากมายจนชัดเจน จึงไม่มีเหตุให้ผมต้องวิจารณ์มันมากนัก ใจกลางๆครับ จากคุณ : รู้สึกปวดหัว เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 53 21:03:32

ความคิดเห็นที่ 25   สรุปว่าเลือกมาร์ชไปได้เลยใช่มั้ย จากคุณ : ง่ายๆ เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 53 21:22:21 A:110.49.95.13 X: TicketID:204597

ความคิดเห็นที่ 26 ผมว่า Nissan เป็นโรงงานมี มาตราฐาน นะ สินค้ามันไม่ได้ออกมาสั่วๆหรอกคุณ จากคุณ : Exgogh เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 53 21:29:36

ความคิดเห็นที่ 27 ซื้อรุ่นถูกสุดของ March ไปซะก็หมดเรื่องนี่ครับ จะได้ไม่ต้องได้ไอ้ของเล่นที่มันเพิ่มราคามาเพื่อโก่งค่าตัวไงครับ แล้วก็ไปเปลี่ยนอุปกรณ์ที่ต้องการเอาเอง ผมตีว่า แสนนึง ยังถูกกว่า มาสด้ารุ่นถูกสุดอีกนะครับ แบบนี้ก็ไม่ต้องคิดมากแล้ว จะใกล้ จะไกลไม่ต้องกังวล ผมว่า เจ้า March มันไปได้ทุกที่แหละ แล้วพออายุรถใกล้ 5 ปีก็ขายทิ้ง ผมเชื่อว่า ขาดทุนไม่มากนักหรอกครับยังไงก็คุ้มกว่า มาสด้า 2 แน่นอน นั่นพูดถึงในแง่ความคุ้มค่าต่อราคา ผมว่า March ทิ้งขาดทั้งก่อนซื้อ หลังซื้อ ตลอดอายุการใช้งาน แต่ถ้าจะเอาความพิเศษอย่างอื่น ผมคิดว่าไปเล่นรถรุ่นที่มันเหนือกว่า มาสด้า 2 เลยดีกว่า อย่างพวก ทิด้า อาวิโอ้ หรือซีวิค ไปเลย ครึ่งๆกลางๆ รู้สึกขาดๆ เกินๆน่ะครับ จากคุณ : kuromonkey เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 53 21:30:24

ความคิดเห็นที่ 28   คิดง่ายๆ Civic 1.8 E AT (AS)  ราคา 969000 บาท Civic 2.0 EL AT (AS) ราคา 1051000 บาท ต่างกัน 200 cc ราคาต่างกัน 82000 บาท (คิดแบบคร่าวมากๆ) ถ้าเทียบรุ่นชนรุ่น ที่ Option ใกล้เคียง กันและถือว่า รถไม่มีความต่างกันด้านสรีระ  อย่างที่หลายๆท่านพยายามอ้างถึง คือมิติพอๆกัน นั่งได้สบายหรือแย่พอๆกัน Nissan March ตัว Top 537000 บาท 1200 cc Mazda2 sedan ตัวรองทอป 615000 บาท 1500 cc ต่างกัน 300cc ราคาต่างกัน 78000 บาท แต่พอพูดถึง Civic 2.0 กลับไม่ค่อยมีคนบอกว่าซื้อทำไมแพงกว่าตั้งเยอะ ในเมื่อ 1.8 ก็นั่งสบายเหมือนกัน แต่พอพูดถึง March กับ M2 กลับมีคนมากมายบอกซื้อทำไม M2 คันก็เล็กเหมือนกันแถมแพงกว่าตั้งเยอะ แปลกดีนะครับ จากคุณ : รู้สึกปวดหัว เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 53 21:34:11

ความคิดเห็นที่ 29   ทุกอย่างจะชัดเจนขึ้น เมื่อมีผู้ใช้งานรีวิวอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงจากการใช้งานจริง กำลังรอ ร้อ รอ.... จากคุณ : XRZ_Mazmello (XRZ_Mazmello) เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 53 21:48:10

ความคิดเห็นที่ 30   ผมว่าผมเข้าใจ จขกท นะ แต่คนส่วนใหญ่เห็นว่า ตัวรถมันมีขนาดเท่า ๆ กับยี่ห้ออื่นเลยคิดว่าอะไร ๆ มันน่าจะเหมือนกัน แต่ซื้อได้ราคาที่ถูกกว่า ถ้าคนที่ดูรถอย่างละเอียด จะพบว่า ขนาดตัวรถมันเท่า ๆ กับยี่ห้ออื่นก็จริง แต่ไส้ในมันต่างกัน ไม่ว่าใครจะเลือกคันไหน ตัวรถกับเงินที่จ่ายไปมันก็สมน้ำสมเนื้อกันแหละครับ จ่ายน้อยได้น้อย จ่ายมากก็ได้ของที่ดีกว่า ไม่เชื่อรออีกสักปีสิ ตอนที่ Nissan ปล่อยตัวซีดานใน B-Secment ออกมา ผมเชื่อว่า ซีดานคันนั้น จะไม่สามารถเข้าข่าย อีโคคาร์ได้ และราคามันก็ต้อง ตั้งอยู่ในช่วง 5 แสนขึ้นไปเหมือนยี่ห้ออื่น ๆ และเมื่อถึงเวลานั้น พวกเราก็จะเห็นกันชัด ๆ ว่า วัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ ของ Nissan B-sec ซีดาน มันจะอยู่ในระดับเดียวกัน Vios, City, M2 sedan และมันย่อมจะต้องดีกว่า March แน่ ๆ จากคุณ : The Greatest บัตรผ่าน เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 53 21:55:27 A:192.168.0.240 X:124.120.232.42 TicketID:102965

ความคิดเห็นที่ 31   ง่ายๆ อีกประเด็น สำหรับท่านที่บอกว่า March ก็ไปไหนมาไหนได้ทั่วไทยล่ะ จริงครับ ไม่เถียงสักคำเลยเชียว เพราะมิร่ายังขึ้นเขาใหญ่ได้ ในThaimarch มี test drive ขับขึ้นดอยสุเทพด้วย แถมแซงวิออสทางโค้งอีกต่างหาก ไม่ปฏิเสธครับ ว่าขึ้นไม่ได้ แต่ผมถามคำถามง่ายอีกคำถามหนึ่ง ถ้าบ้านของท่าน มีรถ 2 คัน คือ March กับ Mazda2 sedan จอดอยู่หน้าบ้าน วันนั้นพ่อแม่บอกอยากไปเที่ยวอ่างขาง ต่อด้วยดอยแม่สลอง แล้วขึ้นดอยตุง มีพ่อแม่ไปด้วย ท่านคิดว่าท่านจะเลือกคันไหนไปอ่างขาง แม่สลอง และดอยตุง เป็นผมผมเลือก Mazda2 เพราะผมเชื่อว่า 1500 cc ขึ้นเขาสามลูกนั้นได้สบายๆ และไม่น่าสงสารรถไม่น่าสงสารเครื่องยนต์ด้วย แถมเชื่อว่าคนที่เรารักจะปลอดภัยกลับมา ถ้าผมเอา March ไป ผมก็ขับไปได้ ถึงจุดหมายเหมือนกัน ทักษะการขับมันก็คืออันเดียวกัน เพราะคนๆเดียวขับ แต่ผมมั่นใจเท่า mazda2 รึเปล่า กลับมาเครื่องยนต์ march ผมจะเป็นอย่างไร สงสารมันแค่ไหน การแซงการขึ้นมันจะปลอดภัยพอกันไหม? เป็นคุณคุณจะเลือกคันไหน นั่นคือคำตอบหนึ่งกับประโยคที่ว่า "แต่มันเป็น Eco car เทียบกับ Subcompact Sedan ครับ บางอย่างทนแทนกันไม่ได้ครับ" มองกลับกัน...กับคำถามง่ายๆ เช่นกัน ถ้าหน้าบ้านมีรถจอด 2 คัน และคุณพ่อคุณแม่อยากจะไป ซอยละลายทรัพย์ ถ้าท่านจะเลือกไปซอยนี้ ท่านจะเอาคันไหนไป ผมเชื่อว่า คำถามนี้เริ่มมีคนตอบไม่ตรงกัน บางคนบอก ไม่แตกต่าง คันไหนไปก็ได้ บางคนบอกเอา March ไปประหยัดกว่านะ นี่คือคำถามง่ายๆที่ตอบได้ไม่เหมือนกัน.... หากจะบอกว่า March ตอบทุกโจทย์ คงต้องกลับมาคิด หากจะบอกว่า M2 ตอบทุกโจทย์ ก็คงต้องคิดเช่นกัน มันอยู่ที่ว่าใครจะใช้มันทำอะไร เพื่ออะไรต่างหาก ขอให้มองต่างมุม อย่าหลงเชื่อคำใคร จงเชื่อใจตนเอง จากคุณ : รู้สึกปวดหัว เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 53 21:56:04

ความคิดเห็นที่ 32 ผมคิดง่ายๆแบบนี้ได้ไหมละ ถ้าอยากขนของที่มีขนาดยาวบ่อยๆเช่นจักรยาน อุปกรณ์กีฬาต่างๆ ทีวี และอยู่ในเมืองเป็นหลัก เป็นครอบครัวเล็ก(พ่อ แม่ ลูก)ก็เลือก march 5ประตู ไป ถ้าครอบครัวมีสี่คนแล้วคิดว่าไม่ได้ใช้ประตูที่ห้าบ่อยๆก็เลือก mazda 2 ซีดาน จากคุณ : moomag เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 53 22:01:30

ความคิดเห็นที่ 33 คุณรู้สึกปวดหัวคะ คุณรู้สึกปวดหัวจริงๆรึปล่าว จากคุณ : madis เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 53 22:08:03

ความคิดเห็นที่ 34 ผมชอบทำอะไรแปลกๆ อยู่แล้ว ถ้ากลัวเรื่องไม่แรง ผมมีทางแก้ครับ ซื้อ March ตัวล่างสุดเลย แล้วซื้อเครื่องเซียงกงซัก พันหกมาวางซะ ครับผม รับรองว่า วางได้แน่ๆ อยู่แล้วครับ แล้วก็ ราคาไม่แพงด้วย เผลอๆ มันจะถูกกว่าการซื้อ Mazda๒ ตัวล่างสุดด้วยเอ้า เหลือตังค์ให้ยัดโบอีกมั้ง จากคุณ : สยึมกึ๋ย เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 53 22:11:46

ความคิดเห็นที่ 35 อย่าว่าแต่แสนเลยครับ...หมื่นนึงสำหรับผม ก็มีค่ามากมายแล้ว...คิดแล้วคิดอีก โดนคนค้านก็เยอะ ...แต่ก็ไปจองมาร์ชมาแล้วครับ.....อ้อ ผมอยู่เชียงใหม่ มอเตอร์ไซค์ฮอนด้าดรีมเก่าๆ พาผมไปมาทั้งดอยอินท์ อ่างขาง ปาย....มิตซูแชมป์มือ 2 ของผม ก็พาผมไปหลายๆ ดอยเหมือนกัน ....ผมว่าไม่ใช่ปัญหาหรอกครับ ไปได้ทุกที่แหละถ้ามีถนนหลวงน่ะ....อ้อจักรยานผมก็ปั่นไปมาเกือบทุกดอยแล้วครับในเชียงใหม่ ปายก็ปั่นไปมาแล้ว....ดังนั้น มันคงไม่ลำบากหรอกครับ รถเครื่อง 1,200 ติดแอร์อีกต่างหาก...ถ้ารู้สึกพอ และลำบากซะบ้าง จากคุณ : อ๊าดบ๊องส์ เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 53 22:17:35

ความคิดเห็นที่ 36 ไม่เห็นว่ามันจะเลือกยากซํกเท่าไรเลย จากคุณ : akasia เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 53 22:32:17

ความคิดเห็นที่ 37 ผมเนี่ย เศร้า เลย ใช้ นิสสัน ซันนี่ บี 11 ติดแก๊สด้วย แถมเมื่อ ปีใหม่ ไปอ่างขาง ดอยสุเทพ ดอย อินทนนท์ นั่ง  5 ก็ ขึ้นไหว สบายดี จากคุณ : pipette tips เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 53 22:35:34

ความคิดเห็นที่ 38 ก็ว่ากันไปครับ นานาจิตตัง โดยส่วนต้วเท่าที่ไปลองสัมผัสมา น้องมีนานี่ ผมขอยังไม่เลือกครับ ค่าตัวอย่างนี้ผมว่ายังไม่ผ่าน... จากคุณ : dawy26 เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 53 22:47:16

ความคิดเห็นที่ 39   ทำไม๊ พวกคุณ ชอบบอกว่า ไม่ต้องกลัว เรื่องขึ้นเขา ไม่อยู่บนเขามาหลายปี ไม่เคยกลัวเรื่องรถเล็กขึ้นดอย corolla 1.3GL/SUNNY1.3FF /caribean 1.3 /MIRA //mazda familia 1.4 ********ตอนขึ้น "ดอย/เขา" ผมไม่เคยกลัว ...ผิดกับพวกคุณมากเลยล่ะ ผมกลัว.................. "ตอนลง" เบรค+เอนจิน เบรค เกียร์ อะไรต่อมิอะไรที่เราไปมา มันจะหลวม หรือร้อน มากกว่านะครับ กำลังจริง ๆ รถเล็ก เสียวตอนลงแล้วใช้ เอ็นจิน เบรค +เบรค+เกียร์ ... ไม่รู้ซิเราคิดต่างกัน 555 จากคุณ : กองปราบ เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 53 23:10:32 A:183.89.41.111 X: TicketID:103401

ความคิดเห็นที่ 40   จะบอกแค่ว่า ถ้าลองนึกๆดูว่าสิ่งไหนที่ จขกท ต้องการจาก March ที่มันมีอยู่ โดยไม่ได้หวังจะเอาตัวท็อปออกไปนะ  เช่นถ้าเลือกตัวรองท็อป แต่สิ่งที่ต้องการ(ที่ไม่ใช่พวกเทคโนโลยีฟุ่มเฟือย)ทั้งหมดได้ครบ เช่น ABS กับถงลมคู่ แค่นี้พอแล้ว ก็ลองมาดูส่วนต่างราคาที่เพิ่มขึ้นดีไหม ??? แล้วสิ่งที่ได้จาก Mazda 2 มีอะไร  จุดดีมากกว่า March แค่ไหน เท่าที่ผมเห็นในตัวซีดานนะ ท้ายเก็บของเยอะมาก มากขนาดเรียกเป็นจุดเด่นได้ ส่วนจุดด้วยคือพื้นที่เหนือศีรษะของผู้โดยสารด้านหลังที่เตี้ยไปหน่อย แต่ก็ถือว่ามากกว่าตัว 5 ประตูอยู่ดี แล้วโจทย์ในชีวิตประจำวันก็มีส่วนนะครับ ถ้า จขกท ใช้งานในเมืองเป็นหลัก ขับไม่เร็ว March ก็น่าสน แต่ถ้าชอบแบบขับสนุกๆ ขับขี่ทางไกลบ้าง 2Sedan ก็จะน่าสนกว่า จากคุณ : unknownn_smp เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 53 23:40:31

ความคิดเห็นที่ 41 มีอีกมั้ยอ่ะ อยากอ่าน จากคุณ : มิสพรหล้า เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 53 23:47:46

ความคิดเห็นที่ 42 ถ้าโจทย์ตัวเลือกเป็น March กับ Mazda 2 sedan ผมว่ามันเลือกไม่ยากเลย เพราะโดยบุคลิก หรือ การวางตำแหน่งทางการตลาด ของรถ 2 คันนนี้มันคนละกลุ่มค่อนข้างชัดเจน แต่จะว่าไป มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ที่คนซื้อ(ส่วนใหญ่)มักจะนำเอามาเปรียบเทียบกัน เพราะราคาที่ไล่เลี่ยกัน อาจจะด้วยงบประมาณที่จำกัด ความมุ่งหวังกับสิ่งที่ได้รับกับรถคันนี้ ความไม่แน่นอนของอนาคตข้างหน้า ซึ่งแน่นอนว่า รถหนึ่งคัน ไม่สามารถตอบโจทย์ได้ในทุกข้อของความต้องการ สำหรับความคิดผมนะครับ ผมว่าเราควรจะศึกษาลักษณะพิเศษ เฉพาะตัวของรถแต่ละรุ่น (ในงบประมาณของเรา) เสียก่อนว่า รถคันไหนมีจุดเด่น/จุดด้อยอะไร? เมื่อได้คำตอบแล้ว จึงย้อนกลับมาถามตัวเราเองว่า หัวข้อที่เราให้ความสำคัญที่สุด คืออะไร ? -ความคุ้มค่า -การซ่อมบำรุงในระยะยาว -ภาพลักษณ์ -สมรรถนะ -Option แล้วคำตอบมันจะออกมาเองครับ   จากคุณ : t_tanuch เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 00:16:14

ความคิดเห็นที่ 43 เฮ้อ  จขกท.  คงเข้าใจผิดเรื่องขนาด cc กับแรงม้า ของรถกันไปใหญ่แล้ว จะบอกว่าเครื่อง 1.5 แรงกว่า เร่งแซงดีกว่า เครื่อง 1.2 ในทุกย่านรอบมันไม่ได้ครับ มันต้องไปดูกราฟแรงม้า แรงบิด แต่ถ้าถามว่าเครื่อง 1.5 กับ 1.2 Top Speed ใครสูงกว่า  ย่อมเป็น 1.5 แน่ๆ ดังนั้นถ้าวิ่งทางไกล ขับชิวๆ อยู่ที่ 100 ต้องการเร่งแซงไปที่ประมาณ 130 March กับ 2 อาจจะทำออกมาได้เท่ากันก็ได้  ต้องไปดูกราฟอีกที เพราะมันขึ้นกับเกียร์ด้วยครับ ถ้าไม่เชื่อนะครับ  ไปลองเอา Captiva 2.0 ดีเซล มาเจอกับ Fortuner 3.0 ได้เลย ช่วงไม่เกิน 140 เนี่ย อัตราเร่งพอๆ กัน  แต่พอความเร็วสูงกว่านั้น   คราวนี้แหล่ะ ได้เรื่อง CC มันถึงจะเริ่มเห็น  เพราะ Fortuner แรงม้ามากกว่า กว่าจะหมดนู่น  180 มั้ง  ส่วน Captiva 2.0 หมดไปที่ 160 ดังนั้น  จขกท.  จะมานั่งเทียน ฟันธง ว่า March 1.2  จะมาขับเร่งแซงสู้ Mazda 2 นั้นไม่ได้ครับ โปรดเข้าใจซะใหม่   (นอกจากกราฟมันฟ้อง  แต่ผมไม่มีนะ ทั้งแรงม้าแรงบิด ชองทั้งสองรุ่น) จากคุณ : EITHER เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 00:43:13

ความคิดเห็นที่ 44 จาก คห. 20 ผมไม่ได้บอกนะครับว่า Nissan ผลิต March ด้วยมาตรฐานที่สูงกว่าที่ Mazda ผลิต 2 ผมบอกแค่ว่า ทั้ง 2 ยี่ห้อ ไม่น่าจะผลิตของสั่วๆ ภายใต้ชื่อยี่ห้อของตัวเอง ให้มันย้อนกลับมาทำลายยี่ห้อตัวเองในภายหลัง แต่คุณไม่สามารถอ้างอิงได้ว่า March หรือว่า 2 ที่ขายในไทย มันเหมือนกับคันอื่นๆ ที่ขายในที่อื่นๆ ในโลก แค่ว่า มันขายในไทยด้วยกันทั้งคู่ มันต้องแข่งกันได้ ดังนั้น มันจะไม่ได้ต่างกันมากมายนัก Soluna กับ Vios ตัวแรก เป็นรถที่ Toyota ออกแบบและผลิตเพื่อขายในประเทศกำลังพัฒนาโดยเฉพาะครับ  ต่างกับ Vios ตัวปัจจุบันที่ผลิตขายทั่วโลก เรื่องเบรคกับช่วงล่างของ Soluna ที่คุณรู้สึกว่า มันห่วยกว่า Vios ตัวแรกเยอะ  ผมบอกได้เลยว่า มันขึ้นกับคนออกแบบจะเซ็ตมายังไง แต่ผมรู้แน่ๆ ก็คือ ทั้ง 2 รุ่นนั้น ตัวถัง+โครงสร้างบอบบางพอๆ กัน เพราะไม่จำเป็นจะต้องส่งไปทดสอบการชนที่เข้มงวดที่ไหน ในขณะที่รุ่นใหม่ (ตัวปัจจุบัน) ดีขึ้นกว่ากันเยอะ ______________________________________________________________________________________________________________ จาก คห. 24 จาก Civic 1.8 จ่ายเพิ่มเป็น Civic 2.0 คุณได้รถตัวถังเดียวกัน แต่เครื่องใหญ่กว่า + Option ที่มากกว่า นะครับ แต่กรณี March รุ่นท็อป กับ 2 รุ่นล่างๆ คุณได้รถขนาดตัวถังพอๆ กัน เครื่องใหญ่กว่าจริง แต่ Option กลับน้อยกว่า ครับ ผมเคยย้ำไปหลายที หลายรอบแล้วว่า เวลาจะเทียบ ควรจะเทียบรุ่นที่มี Option ระดับเดียวกัน ______________________________________________________________________________________________________________ จาก คห. 31 ไม่ว่าจะตอบที่ไหน  ผมจะตอบแบบเดิมๆ ว่า  March เหมาะกับงานเบาๆ เช่น - ขับในเมืองเป็นหลัก เช้าไปทำงาน เย็นกลับบ้าน ส-อา ออกมาเที่ยวห้าง ไปต่างจังหวัดใกล้ๆ นานๆ จะไปต่างจังหวัดทีนึง - ไม่เหมาะกับงานบรรทุกหนักๆ ตลอดเวลา หรือ งานที่ต้องเหยียบทำเวลาต่อรอบเป็นประจำ ในทางตรงกันข้าม พวกรถ 1.5 ลิตร ก็เหมาะกับงานที่ตรงกันข้ามกัน วิ่งทางไกลเป็นหลัก/บ่อยๆ/เป็นประจำ แต่ละครั้งแต่ละรอบ ต้องทำเวลาไปให้ทัน เครื่องยนต์มันต่างกันเห็นๆ ร่วม 20-25% แต่เอามาขับเคลื่อนรถขนาดพอๆ กัน  จุดเด่นเรื่อง ความประหยัดน้ำมัน ย่อมหมายถึง จุดด้อยเรื่อง กำลังสำรองที่เหลืออยู่ เช่นกัน จะเลือกคันไหน ก็เลือกให้เหมาะกับการใช้งาน อย่างไรก็ตาม  ในกรณีของคนงบน้อยๆ ซื้อ March ได้อย่างเดียว คุณจะเอาไปขับทางไกลเป็นประจำ ขึ้นเขาลงห้วยเป็นประจำ มันก็ตอบสนองได้ แต่รถมันก็จะทรุดโทรมเร็วก่ว่าพวก 1.5 ลิตรตามส่วน จะหวังเอาทั้งดี ทั้งถูก ทั้งทนทายาท  มันฝันกลางวันแล้วครับ จากคุณ : P_Wut เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 01:20:01

ความคิดเห็นที่ 45 ต้องบอกว่ากระทู้นี้ก็ดันเอา 2 ซีดานไปเทียบกะมาร์ชนี่นา คนเลยมาแก้ให้มาร์ชเยอะ - -" แก้ไขเมื่อ 23 มี.ค. 53 02:43:40 แก้ไขเมื่อ 23 มี.ค. 53 02:36:39 จากคุณ : ก๋วยเตี๋ยวเรือกับแคบหมู เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 02:26:57

ความคิดเห็นที่ 46   ขออภัยที่ทำให้สับสนครับ แต่ความเห็น 20 หมายถึง Vios โฉมแรก กับ New Vios โฉมปัจจุบัน ที่ผลิตและขายในไทยกับผลิตและขายทั่วโลก ครับ ไม่ได้หมายถึง Sulona หยดน้ำ กับ Vios โฉมแรกครับ ส่วนกรณีเทียบ 2 รุ่นนี้ March ตัว Top กับ M2 sedan ตัวรอง Top ครับ ไม่ใช่ 2 รุ่นล่างของ M2 ซึ่งมันมี option แตกต่างกันอย่างที่เทียบให้ฟัง มันไม่ใช่ว่า March option เหนือกว่าทุกอย่าง เพราะ M2 ก็มีเหนือกว่าหลายอย่าง เลยถัวๆกันไปครับตีซะว่า option ใกล้เคียงกัน เพราะถ้าเอา M2 ตัว Top มาพูดกันมันคงไม่ต้องร่ายยาวขนาดนี้ ส่วน comment P_wut สำหรับความเห็น 31 ผมเห็นตามนั้นครับ ส่วนความเห็น 43 ผมไม่ได้เอา SUV มาเทียบกับ PPV ครับ ผมเทียบ Eco car กับ Sub-compact sedan และถ้าท่านจะเทียบ น่าจะเทียบ Captiva 2.4 เบนซิน กับ CRV 2.4 เบนซิน มากกว่าครับ และที่ผมพูดคร่าวๆ ถึงเฉพาะ cc ไม่พูดถึง HP หรือ Nm นั้นเพราะพูดคร่าวๆให้คนทั่วไปเข้าใจง่ายครับ ไม่ต้องมานั่งกางกราฟ อีกอย่าง cc ที่เพิ่มขึ้น ภายใต้พื้นฐานเครื่องยนต์เดียวกัน HP มันควรจะต้องเพิ่มขึ้นเป็นอัตราแปรผันตามอยู่แล้วครับ  (เช่น civic 1.8 กับ 2.0 เป็นต้น) การเทียบ SUV กับ PPV ที่พื้นฐานโครงสร้างรถที่ต่างกัน ทั้งเครื่องยนต์ ช่วงล่าง ขนาดน้ำหนัก มันบอกยากครับ ว่า cc น้อยกว่าแต่แรงม้ามากว่า รถแรงกว่า.. ถ้า CAP 2.0 diesel เป็นยี่ห้อ toyota เอาเทียบกับ For 3.0 ผมก็ยังเชื่อว่ามีคนเลือกใช้ For อยู่ดีครับ รถมันคนละชนิดกันครับ ไม่เช่นนั้น คงไม่มี For 2.7 เบนซินหรอกครับ เขาทำ 2.4 เบนซินเท่า Cap เท่า CRV ไปแล้วล่ะครับ แต่ที่ไม่ทำ เพราะมันทำไม่ได้ครับ PPV อย่างนั้นลงเครื่องเบนซินแค่ 2.4 ก็จบเห่สิครับ ส่วน cc นั้นแน่นอนเป็นเรื่องของ ความเร็วสูงสุดที่ทำได้ เป็นข้อเท็จจริงครับ แต่ผมไม่ได้พูดถึงการเร่งแซงในพื้นราบ ไม่ได้พูดถึงความพุ่งความแรงเมื่อออกตัวจากรถหยุดนิ่ง ไม่ได้พูดถึงเวลาที่ทำได้ 0-80 km ผมกำลังพูดถึงความทนทานและประสิทธิภาพของเครื่อง 3 สูบ เทียบกับ 4 สูบ ในสถานะการณ์ engine Load ในระยะเวลานานๆ เช่นขึ้นเขาลงเขาต่อเนื่องยาวๆ พร้อมทำความเร็วขณะแซงขึ้นเขา ท่านว่า Civic 1.8 กับ 2.0 ตัวไหนทำได้ดีกว่า ท่านว่า March กับ M2 คันไหนทำได้ดีกว่า  ในเมื่อตัวเลขมันก็แสดงชัดแจ้งอยู่แล้ว ว่า March 1200 cc 79 แรงม้า ส่วน M2 1500 cc 103 แรงม้า ที่ 6000 รอบเท่ากัน ไม่ต้องรอดูกราฟแล้วครับ ผมว่าท่านตอบได้ครับ จากคุณ : รู้สึกปวดหัว เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 05:15:00

ความคิดเห็นที่ 47 ผมว่าก็ไม่รู้จะเถียงกันไปทำไม  เพราะมันขึ้นกับความเชื่อแต่ละบุคคล คนที่เห็นว่าดี ก็เชื่อว่ามันดี  คนที่เห็นว่ามันไม่ดี ก็เชื่อว่ามันไม่ดี อยากซื้ออะไรก็ซื้อกันไปดีกว่ามั้ง จากคุณ : EITHER เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 06:53:25

ความคิดเห็นที่ 48 อ่านแล้ว งง มาก จะซื้อรถทั้งที คุณตั้งคำถามให้ตัวเองมากกันเกินไปหรือเปล่า ถ้าตามเงื่อนไขที่ จขกท. ว่ามาจริงๆ ต้องออก ตจว. บ่อยๆ มุมมองผม ยิ่ง CC. สูงไว้ ยิ่งดี ขับขี่ทางไกล ไม่เหนือยง่าย ทั้งรถทั้งคน ดังนี้ สำหรับแฟนคุณ จขกท. M2 จึงเหนือกว่า March แต่ถามว่า  M2 มันดีที่สุดไหม คงไม่ใช่ ให้มามองที่งบประมาณ ที่จ่ายได้ + ลักษณะที่ใช้งานเป็นหลัก เท่านั้นเอง ปล. ส่วนเรื่อง Option ที่ใส่นู้นมาทำไม ใส่นี่มาทำไม ผมว่า มันมีหลายรุ่นให้เลือกนะครับ ไม่จำเป็นต้องรุ่น Top อ่านๆไปเหมือนกับ สร้างเงื่อนไข กับคำถามมากเกินไป จนทำให้เลือกไม่ถูกหรือเปล่าครับ จากคุณ : ikok เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 07:38:35

ความคิดเห็นที่ 49 คุณจะเอาไปขับทางไกลเป็นประจำ ขึ้นเขาลงห้วยเป็นประจำ มันก็ตอบสนองได้ แต่รถมันก็จะทรุดโทรมเร็วก่ว่าพวก 1.5 ลิตรตามส่วน จะหวังเอาทั้งดี ทั้งถูก ทั้งทนทายาท  มันฝันกลางวันแล้วครับ ไม่เห็น ด้วย เล้ย จากคุณ : ยยยย (Kapookruk) เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 07:58:21

ความคิดเห็นที่ 50   ^ ^ เห็นด้วยครับ ถ้าแบบนั้นก็ฝันกลางวันแล้วล่ะครับ แต่กระทู้นี้ ผมไม่ได้มาเลือกว่าจะเอาคันไหนนะครับ ไม่ได้มาเชียยร์ March และก็ไม่ได้มาเชียร์ M2 เพราะไม่ใช่รถผม และผมก็ไม่ได้ฟันธง ผมแค่มาตั้งกระทู้ บอกคนที่เข้ามาตั้งกระทู้ถามบ่อยยๆ ว่า สองคันนี้ จะเลือกคันไหนดี มันเลือกยากตรงไหน? ในเมื่อรถมันคนละ segment เลยครับ ถ้าเป็น M2 Vios city ผมจะไม่มาอธิบายยืดยาวขนาดนี้หรอกครับ แค่จะมาสอน มาบอกข้อมูล ให้ทราบเท่านั้นเอง ไม่ได้มาโต้แย้งกับใครนะครับท่าน เพราะทุกวันนี้ พันธ์ทิพย์มีพวกผู้ไม่หวังดี สร้างภาพลักษณ์ บิดเบือนข้อมูล เซล มาเชียร์สินค้า ชักจูงให้หลงประเด็นอยู่เสมอ จนคนที่ไม่มีความรู้เรื่องรถไขว้เขว จนยากที่จะเลือกระหว่างรถ 2 ชนิดนี้ไปแล้ว ทั้งๆที่การเลือกมันไม่ยากเลย อย่างที่บอกครับ มันอยู่ที่ตัวท่านเอง ว่าท่านต้องการใช้รถแบบใด!!! ต้องการใช้มันทำอะไร!!! ตอบสนองความต้องการมากแค่ไหน!!! ไม่ใช่มองที่ สิ่งของอำนวยความสะดวกที่ให้มาเพียงอย่างเดียว สิ่งเหล่านั้น ไม่ช่วยอะไร เมื่อมันฉุกเฉิน เมื่อมันเจอสถานการณ์เฉพาะอย่าง มันช่วยชีวิตคุณไม่ได้แม้แต่น้อย ผมว่าหลายๆท่านยังไม่เข้าใจจุดประสงค์ ที่ผมมาตั้งกระทู้นะครับ ผมไม่ได้มาขอความเห็นว่าผมจะซื้อคันไหนดี ผมไม่ได้สับสนว่า 2 คันนี้ผมจะเลือกคันไหนดี ผมไม่ได้ขัดแย้งในตนเองว่า คันไหนข้อเสียข้อดีเยอะกว่ากัน หรือคิดมากจน"รู้สึกปวดหัว"อย่างชื่อ เพราะผมไม่ได้คิดอะไรเลย ไม่ใช่คนใช้ ไม่ใช่คนซื้อ ไม่ใช่คนเลือก แต่มาบอกสิ่งที่คนจะคิดซื้อ 2 คันนี้ ให้ทราบข้อเท็จจริง และวิธีที่คุณจะเลือกมันครับ จากคุณ : รู้สึกปวดหัว เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 08:25:55

ความคิดเห็นที่ 51 กระทู้นี้ดีครับ มีเหตุมีผล  ถ้ามี 2 ตัวให้เลือก      ด้วยเหตุผลคือชอบรถที่รูปทรง  เน้นสมรรถนะดีเหมาะทั้งในเมืองหรือทางไกลต่างจังหวัด    ราคายังอยู่ในงบ  เลือก M2  ตรงวัตถุประสงค์ครับ          แต่ถ้าเงื่อนไขเปลียนเป็นส่วนต่างเกือบ 2 แสน เมื่อเทียบกับ March 459000.-  ความคุ้มค่าในราคา เริ่มทำให้ March น่าสนใจ  (แต่ไม่เห็นมีใครเอาไปเทียบกันแสดงว่าเน้น  Option เป็นเงื่อนไขในการพิจารณา               ส่วนตัวเลือกของผมจะเอา  M2 ไปเทียบกับ Jazz Yaris Vios City มากกว่าครับ  เพราะ March ยังไม่ตรงวัตถุประสงค์ในการใช้งาน จากคุณ : St.jang เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 09:02:20

ความคิดเห็นที่ 52 http://www.pantip.com/cafe/ratchada/topic/V8975528/V8975528.html จากคุณ : P_Wut เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 09:12:58

ความคิดเห็นที่ 53 รู้ได้อย่างไรว่าวิธีที่คุณคิด มันถูก จากคุณ : EITHER เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 09:22:53

ความคิดเห็นที่ 54   ทุกคนมีเหตุผล มันขึ้นอยู่กับเหตุผล ของใครมากกว่า อย่าคิดว่าสิ่งที่คุณคิดมันจะถูก รถก็ไม่เคยใช้ ได้แค่รูปคลำ ทดลองขับ นั่งอ่าน spec แล้วก็มานั่งเทียนเขียน แล้วจะมาบอกว่าคุณมีเหตุผล คุณฉลาด คุณคิดถูก... จากคุณ : ิb เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 09:57:49 A:192.168.0.240 X:119.46.56.82 TicketID:254607

ความคิดเห็นที่ 55 march มี heater ครับ  ผมอยากได้รถมี heater มานานละครับ เพราะขี้หนาว และอยู่ภาคเหนือ  หน้าหนาวอากาศเย็น  การได้ขับรถมีลมอุ่นๆตอนอากาศเย็นนี่บอกเลยว่าแหล่มสุดๆ   ฝนตกก็อุ่น หนาวก็อุ่น ไม่กลัวหมอกติดกระจก  (เคยนั่งรถที่ญี่ปุ่น แล้วมันก็เป่าลมอุ่นๆมา  อากาศข้างนอกสิบสามองศา   มันช่างสุดยอดอะครับ)         ข้อดีอีกข้อที่ไม่มีคนพูดถึงครับ           ส่วนคน กทม แอร์ที่มี heater ด้วยนี่อาจเย็นน้อยกว่าปกติ กลายเป็นข้อเสียสะงั้น จากคุณ : blitzs เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 09:58:19

ความคิดเห็นที่ 56 ผมว่าทุกคนในกระทู้นี้คือผู้ที่เสียสละเข้ามาตอบให้ซึ่งเป็นข้อมูลในเชิงขบคิดดีๆ ทั้งนั้น แต่ผมว่าทัศนคติของผู้ตั้งกระทู้ค่อนข้างแย่ และเป็นกระทู้แนวให้เกิดการทะเลาะ เบาะแว้งโดยตรง ไม่ว่าจะเลือกรุ่นไหนไม่มีใคร ได้ประโยชน์ เสียประโยชน์กันมากซักเท่าไหร่หรอก ครับ March ก็ลดราคามาในอัตราภาษีที่เค้าได้รับสิทธิประโยชน์ เท่าไหร่ก็เท่านั้น ไม่ได้ลดจนเราได้คุ้มเกินราคา ส่วน Mazda 2 ก็ขายในราคาที่เค้าควรจะเป็น เมื่อมองโครงสร้างราคาในญี่ปุ่น เครื่องซีซีต่ำกว่า หรือ เครื่องซีซีต่ำกว่าแต่ บวก option ราคามันก็บวกลบไม่ต่างกับระดับราคาของ March ไม่เท่าไหร่ ไม่ใช่หรือ ส่วนที่ตัดหายไป เบาะหลังไม่มีที่พิงหัวก็หายไปเหมือนๆ กัน พูดง่ายๆ ที่ญี่ปุ่น หรือที่ไทย อะไรมันจะหาย มันก็หายไปเพื่อให้สมกับเป็นรถราคาประหยัด แต่เจ้าของกระทู้ ตั้งกระทู้แบบตั้งแง่ และไม่สร้างสรรค์มากเกินไป ทั้งสองรุ่นเลือกง่ายๆ แค่ คุณชอบคันไหนก็ซื้อคันนั้นไป ผมชอบ March, Swift, Mazda 2 อยากได้ทั้งสามคันเลย แล้วก็เข้าใจว่าเค้า ตั้งราคามาสมบูรณ์ในตัวของมันเองอยู่แล้ว เหลือแต่รูปลักษณ์ที่ผมต้องลง ทุน เอาภาพจากคอม มาอัดรูปเป็นอัลบัม เพื่อให้เปิดดูง่ายๆ ตลอดเวลาที่อยาก มอง ไม่ต้องเสียเวลามาเปิดคอม ผมรู้แค่นี้แหล่ะ สรุปผิดที่คนตั้งกระทู้แหล่ะ คิดได้ไงถึงพูดให้คนมาตีกันมากขนาดนี้ ไม่มีประโยชน์อะไรเลย ห่วยมากๆ จากคุณ : เน็ดคุง เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 10:00:03

ความคิดเห็นที่ 57 ปีนึงไปเที่ยวกี่ครั้ง กี่วัน ใช้ไปทำงานกี่วัน จะเอาไปขึ้นเขาขึ้นดอยทุกสัปดาห์รึป่าว ความปลอดภันในการแซง ของแต่ละคันก็ต่างกัน แต่ละคันมีบุคลิกไม่เหมือนกัน คนขับต้องรู้ใจว่าคันที่ขับเป็นแบบไหน อย่างผมขับ NEO โคต_รอืด ก็รู้จังหวะว่าตอนไหนแซงได้ไม่ได้ ตอนไหนต้องกิ๊กดาวน์ แต่พอไปขับ Mazda Protege ของพี่ ก็จะเป็นอีกแบบ แซงสะใจ แต่ละคนมีเงื่อนไขที่ต่างกัน เลือกในแบบที่เหมาะสมกับตัวเองครับ จากคุณ : ken_jung เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 11:11:05

ความคิดเห็นที่ 58 จขกท ให้แฟนใช้หรือคุณใช้ละ ของบางอย่างมันเหมาะกับบางคน แต่ไม่เหมาะกับอีกคน กระแสของมีนามันไม่ได้เตลิดไปไกลเลย ก็ธรรมดากับรุ่นใหม่ๆ ที่ออกมา เพียงแต่ว่ามันเป็น ECO คันแรก ที่คนสนใจกัน คนซื้อจริงๆ ก็กลุ่มเดิมๆ ที่ออกรถใหม่คันแรก หรือใช้รถคนเดียว แปลกใจที่เปรียบเทียบให้เลือกสองคันเวลาจะไปขึ้นเขาใครก็ต้องเลือก ซีซี สูงกว่าอยู่แล้ว ทำไมไม่เอาแบบขับในชีวิตประจำวันละ เราใช้รถตอนไหนมากกว่ากัน ไม่รู้นะ ลองเอาใหม่ดิให้แฟนเลือกขับไปทำงานจะเอาคันไหน ปีนึงคุณจะไปต่างจังหวัดหรือขึ้นเขาสักกี่ครั้ง   ผมขับแจ๊ส เอาไปปาย มีคนถามว่าไม่สงสารรถเหรอ ก็บอกไปว่าปีนึงมันทำงานหนักแค่ครั้งสองครั้งเองไม่ได้ทำบ่อย มันจะได้รู้รสชาติของชีวิตบ้าง เครื่องยนต์มันจะได้ทำงานหนักบ้าง ฝึกความอดทน ในเมื่อสเปคของรถมันทำได้ เราจะไปกลัวอะไรละ เสียก็ซ่อมหรือเคลมเท่านั้นเอง   สรุปซื้อรถตามใจคนขับดีกว่าไหม แล้วความสามารถในการชำระเงินด้วย เถียงเรื่องออฟชั่นและความคุ้มค่ายังไงก็ไม่จบ เพราะมันไม่ได้ออกมาเป็นตัวเลขอย่างเดียว มันอยู่ที่ความพึงพอใจที่ได้ใช้งานจริงๆ ด้วย จากคุณ : peggo เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 11:26:02

ความคิดเห็นที่ 59 ถ้าจะมองในแง่การเลือกผมซื้อ...ผมว่าผมเอารถญี่ปุ่นที่มันพอไปไหนได้นั่งสบายทั้งครอบครัวและราคาถูก ผ่อนสบายๆดีกว่า ไม่ก็จับมือสองสภาพดีๆ มีแอร์ไม่ต้องตากแดดตากฝน ขึ้นรถเมล์ แค่นี้ก็โอเคแล้ว แน่นอนต้องรอ...ดูว่ารถที่ออกมาใหม่อย่าง march และ โฉมใหม่อย่าง 2 มันมีปัญหาอะไรมั้ย ส่วนที่ จขกท ตั้งกระทู้มานั้น โคตรน่าเบื่อเลยครับ มันสร้างความปวดหัวมากก็อย่าไปมองมาร์ชสิ เลือกมาสด้า 2 ก็ดีสำหรับคุณที่สุด สำหรับผมรอดูไปเรื่อยๆ ถ้าไม่ชอบ 2 ตัวนี้ ผมก็จะออกแจ็สไม่ก็กระบะ4ประตูมือสอง เก็บของเยอะดีวันหยุดขับไปซื้อของมาขายหรือเอาไปตลาดเปิดท้ายขายของใส่ราวใส่ตระแกรงได้เยอะแถมยังหาเงินได้อีก ทุกวันนี้มีอะไรให้ทำอีกเยอะครับ... ***การเลือกซื้อรถของคุณมันทำให้เลือกยาก...หาชิปไม่เจอ*** จากคุณ : g (Greatpit) เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 11:32:03

ความคิดเห็นที่ 60 ถ้าคุณจะเน้นเดินทางขึ้นเขาลงห้วย ไม่เอา CRV  ฟอร์จูนเนอร์ ไปเลยล่ะครับ เอา มาสด้า 2 ไปถึงมันจะเหนือกว่า March แต่ก็คงไม่ได้เริ่ดกว่ากันเท่าไหร่หรอกครับ ความต้องการของคุณน่ะมันอยู่ในระดับรถ พวกรุ่นสูง แต่คุณกลับตั้งงบไว้ต่ำ(หรือเปล่า) แล้วมันจะเป็นไปได้เหรอครับ จะเน้นถูกประหยัด หรือ ต้องการสมรรถนะการใช้งานตามความต้องการ เอาให้ชัดเจนครับ จะเอาทุกอย่างมันจะเป็นไปได้ไงครับ แล้วพวกออปชั่นต่างๆใน March ถ้ามันทำให้คุณลำบากใจในการเลือกเพราะทำให้ราคามันพุ่งขึ้นไปจนเกือบจะใกล็ m2 ผมก็แนะนำให้ไปเล่นรุ่นถูกสุดของ March จะได้เกิดความแตกต่างอย่างชัดเจนไงครับ ราคาต่างกัน แสนกว่า จะได้เลือกได้ง่ายขึ้นไม่ต้องปวดหัว จากคุณ : kuromonkey เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 12:31:34

ความคิดเห็นที่ 61 คือ.. ถ้าหนูเป็นแฟนพี่ หนูคงไม่มาถามพี่ให้ "คิดจนปวดหัว" แล้วล่ะค่ะ หนูเอาคันที่หนูชอบ จบข่าว ตัดสินใจเองเร้ย จากคุณ : ณ พิชา เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 12:41:10

ความคิดเห็นที่ 62 ไม่รอดู Fiesta อีกตัวเหรอครับ ราคาคงไม่ต่างกับ 2 มาก เข้าใจ จขกท.ครับ 2 ตัวนี้ ผมคิดว่าแฟนใครแฟนมันครับ ไม่คิดว่าจะแตกต่างกันมากมาย ถ้าจขกท.ใจไปตัวไหนแล้ว ก็บอกแฟนไปเลยครับ จากคุณ : ต้นes เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 12:41:34

ความคิดเห็นที่ 63   ผมว่าหลายท่านฟังไม่ได้ศัพท์ นะครับ อ่านแค่ เม้นต์เดียวของหัวกระทู้หรือเปล่า ขอให้อ่านที่ผมเม้นท์ทุกอันครับ ความเห็นที่ 3 6 10 20 24 28 31 46 50 ครับ บางท่านพูดเหมือนกับผมเชียร์ M2 เสียอย่างนั้น บางท่านพูดเหมือนผมต้องไปขึ้นเขาลงห้วยบ่อยๆซะอย่างนั้น บางท่านพูดเหมือนจขกท.ตั้งกระทู้ชวนทะเลาะเสียอย่างนั้น ทั้งๆที่กระทู้ ไม่มีอะไรเลย ผมเลือกหรือครับ ว่าผมจะเอา M2 แล้วผมเลือกหรือครับ ว่าผมจะเอา March อ่านให้มันครบแล้วค่อยโพสก่อนดีไหมครับ กระทู้จะได้มีคุณค่ากับคนที่เข้ามาอ่าน ครับ แก้ไขเมื่อ 23 มี.ค. 53 13:52:10 จากคุณ : รู้สึกปวดหัว เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 13:39:26

ความคิดเห็นที่ 64   ผมว่า ผมไม่ได้บอกว่าผมคิดถูก ผมว่าทุกคนมีสิทธิ์แสดงความคิดเห็น แต่อยากให้อ่านให้ละเอียดถ้วนถี่ก่อนโพสนะครับ จากคุณ : รู้สึกปวดหัว เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 13:56:39

ความคิดเห็นที่ 65 ^ ก่อนจะไปว่าคนตอบกระทู้ ลองกลับมามองถึงการเรียบเรียงของคุณเองดีกว่าครับ ที่ทำให้คนที่มาตอบค่อนกระทู้เข้าใจไปแบบนั้น สำหรับผมเองนั้นมีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับ จขกท ครับ คุณบอกว่ามันเลือกไม่ยากหรอกระหว่าง 2 ตัวเลือก แล้วทำไมคุณฟันธงให้แฟนคุณไม่ได้ล่ะครับ ในเมื่อคุณรู้ความต้องการของเธอ รู้แนวทางการใช้งานของเธอ รู้งบประมาณ ฯลฯ ต่อมาก็บอกอีกว่าอยากมาสอนคนอื่นให้รู้แนวทางการตัดสินใจ แล้วทำไมไม่เอาเวลาพิมพ์กระทู้ไปสอนแฟนตัวเองให้ได้รถถูกใจล่ะครับ ผมงง จากคุณ : s7014249 เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 14:22:45

ความคิดเห็นที่ 66 เป็นกระทู้ที่ให้ความเห็นส่วนตัวของ จขกท. เท่านั้น อ่านไปอ่านมา ก็เหมือน จขกท. โน้มเอียงไปทาง M2 > March เพียงแต่อยากบอกว่า เลือกไม่ยากหรอกครับ ถ้าเป็นผม ผมเลือก March เพราะคงไม่มีรถอะไรในโลกที่ มาตอบโจทย์เราได้ทุกๆ ข้อ ว่า ถ้าเอาไปวิ่งบนเขา บนดอย วิ่งในเมือง วิ่งไปสารพัดที่ ใส่ของได้มากน้อย กินน้ำมันน้อยๆ วิ่งไกลๆ อื่นๆ อีกมากมาย เพราะคนไทยซื้อรถแต่ละคัน ถามคำถามสารพันร้อยแปดพันเก้า เอาชนิด รถคันเดียว เอามันทุกอย่างทุกคำถามให้รถคันนี้คันนั้น ตอบโจทย์ให้ได้ ไม่งั้นเราคงไม่เจอคำถามประเภท ซื้อรถ...คุ้มมั้ย, เลือกยากจัง, รุ่นไหนดีนะ, มีเงินเท่านี้เลือกรถ..อะไรคุ้มสุด...สารพัดที่ต้องการ แต่สำหรับผม ถ้าเลือกตอนนี้ March xCVT ครับ สี่แสนกลางๆ พอแล้ว ปีๆ นึง 340 – 350 วัน ขับแค่บ้าน ที่ทำงาน วิ่งวนๆ ในเมือง ออกตจว. ปีละแค่ 7 – 10 วัน เอาเงินส่วนต่างๆ ไปทำอย่างอื่นดีกว่า ครับ แก้ไขเมื่อ 23 มี.ค. 53 14:28:40 จากคุณ : เหินหาว (เหินหาว) เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 14:25:09

ความคิดเห็นที่ 67 ตกลง เลือกได้ยังครับท่าน ! ไม่มีใครเขาไปบังคับท่านหรอกนะ เงินท่านจ่าย อยากซื้ออะไร ตามสบายครับ จะซื้อวู่หลิง ก็ไม่มีปัญหาครับ แต่เท่าที่อ่าน เหมือนค่อนขอดกับ ขนาดเครื่องของ March อย่าง มีนัยครับผม ถ้ารับไม่ได้ ก็อย่าไปใช้มันครับ รถในโลกนี้ มีเครื่อง ใหญ่กว่านี้อีกมากมายครับ และ ในโลกนี้ ก็ยังมีรถที่เครื่องเล็กกว่า นี้อีกมากมายเช่นกันครับ เรื่องที่หลายๆ คนไม่ได้คิดคือ ... แรงบิดที่ล้อรถ หลังจากผ่าน เกียร์ต่ำสุดของรถคันนั้น เช่น Mazda๒ นั้น มันมากกว่า March หรือเปล่า ? เผลอๆ มันอาจจะเท่ากัน หรือ March มากกว่า หรือ Mazda๒ มากกว่าก็ได้ทั้งนั้นครับ แล้วแรงบิดตัวนี้แหละ ที่จะเป็น ตัวบอกว่า มันมีปัญญาขึ้นทางชันมากแค่ไหน เรื่องขนาดเครื่อง โยนทิ้งไปได้เลยครับ ถ้าคิดจะเอาขนาดเครื่องยนต์เป็นที่ตั้ง ผมว่ารถไถ คงต้องใช้เครื่อง ใหญ่โตกันหลายหมื่นซีซี หลายร้อยแรงม้าแล้วหละครับ ไม่งั้นมัน ไม่มีปัญญาลากไถหรอก จากคุณ : สยึมกึ๋ย เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 14:49:26

ความคิดเห็นที่ 68 ขอบอกตรงๆเลยแล้วก็ขออภัยสำหรับท่านอื่นที่ใช้รถในขนาดที่ผมว่ามา แต่อันที่จริงที่บ้านผมก็ใช้เหมือนกัน มี 2 คันด้วย(Jazz cityโฉมเก่า) ผมว่ารถในขนาดนี้ไม่ว่าจะเป็น March jazz vios yaris อะไรพวกนี้น่ะ มันเป็นรถกระป๋องน่ะ ไม่ต่างกันสักเท่าไหร่(คือไม่ต่างกันจนเป็นนัยยะสำคัญ) เรื่องคุณภาพ วัสดุ อื่นๆ ดังนั้นปัจจัยด้านราคา จึงเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรก สำหรับคนที่คิดจะเล่นรถประเภทนี้และก็มักจะมองหาถึงความคุ้มค่าต่อราคาที่ซื้อมาที่ดีที่สุด ดังนั้นรถคันไหนและรุ่นไหนที่ตอบโจทย์ด้านราคา ได้ดีกว่าผมก็จะให้น้ำหนักรุ่นนั้น  แล้วที่เจ้าของกระทู้หรือแฟนเจ้าของกระทู้คิดมากเพราะ ไปมองรุ่นท๊อปของ Marsh เทียบกับ รองท๊อป ของ M2 ซึ่งทำให้แฟนของเจ้าของกระทู้เลือกไม่ถูก พอมาถามเจ้าของกระทู้ ก็ดันคิดมากเกินจนเลือกไม่ได้อีกซึ่งความจริงแล้วนี่สิ่งที่ต้องดูก่อนอื่นอันดับแรกเลย งบมีเท่าไหร่ ตั้งงบไว้เท่าไหร่ ถ้าต้องเพิ่มงบเพื่อไปเล่นตัวที่ถูกใจไหวไหม แล้วเดือดร้อนไหม แล้วค่าใช้จ่ายตลอดอายุการใช้งานไหวไหม แล้วซื้อแล้วจะใช้งานสักกี่ปีแล้วขายต่อ หรือยังไง ตรงนั้นแหละที่จะเป็นตัวตัดสินในการเลือก สมรรถนะ สิ่งที่รถแต่ละรุ่นเจ้าของกระทู้ก็คงจะทราบดี รถแต่ละรุ่นมีข้อดี ข้อเด่นคนละอย่าง ถ้า แต่ในนาทีนี้ March ตอบโจทย์เรื่องราคาได้(โดยเฉพาะรุ่นถูกสุด หรืออาจจะออโต้รุ่นถูกสุด) แต่สมรรถนะอาจไม่เป็นที่ถูกใจของเจ้าของกระทู้ ผมเองก็รู้สึกเช่นนั้น แต่ผมเอางบประมาณเป็นเกณฑ์ ดังนั้นผมเลือก March คิดคำนวนแล้ว มันประหยัด กว่ากันมากมาทั้งตอนซื้อ และค่าใช้จ่ายภายใน 5 ปีจากนั้นจะขายต่อหรือไม่ค่อยว่ากัน ส่วนสมรรถนะที่มากกว่าของ M2 ผมไม่รู้สึกว่ามันจะต่างนัก ผมเอา แจ็ส เป็นเกณฑ์ รถประเภทนี้ขับทางไกลไปไหนก็ได้ แต่อย่าขับเร็วก็แค่นั้น จะขึ้นเขา ลงเขา ก็ไม่มีปัญหา อยู่ที่ฝีมือ รถใหม่ดูแลรักษาดี ภายใน 4-5 ปี ไม่มีปัญหาแน่นอน ส่วน March ซีซี น้อยกว่า 300 ซีซี ผมไม่ถือว่าเป็นนัยยะสำคัญเท่าไหร่ เพราะรถพวกนี้ไม่ควรขับเกิน 120 อยู่แล้ว ยุคนี้น้ำมันแพง มหาโหดอย่างนี้ ผมให้น้ำหนักเรื่องความประหยัดน้ำมัน ถ้าขับทางไกล ใช้ความเร็ว ไม่เกิน 110 ผมคิดว่ามันคุ้มกว่ากันเยอะ(จะยี่สิบโลลิตรจริงหรือเปล่าไม่รู้ แต่ว่าถ้าใช้ความเร็วไม่เกิน 110 บรรทุกน้ำหนักเท่ากัน ผมไม่คิดว่า M2 จะประหยัดน้ำมันกว่า) สรุปว่าลองดูงบประมาณที่มี บวกกับค่าใช้จ่ายตลอด 5 ปี ไหวอันไหนก็ซื้ออันนั้น จากคุณ : kuromonkey เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 15:35:01

ความคิดเห็นที่ 69 อ่านทุกอันแล้ว และก็พูดเองนี่ครับ "ไม่ ใช่มองที่ สิ่งของอำนวยความสะดวกที่ให้มาเพียงอย่างเดียว สิ่งเหล่านั้น ไม่ช่วยอะไร เมื่อมันฉุกเฉิน เมื่อมันเจอสถานการณ์เฉพาะอย่าง มันช่วยชีวิตคุณไม่ได้แม้แต่น้อย" อ่านข้อความนี้  ใครไม่คิดว่า  คุณไม่เชียร์ M2 บ้างครับ แล้วผมยกตัวอย่าง เรื่องอัตราเร่งทางเรียบ  คุณก็ไปบอกว่า   "แต่ผมไม่ได้พูดถึงการเร่งแซงในพื้นราบ ไม่ได้พูดถึงความพุ่งความแรงเมื่อออกตัวจากรถหยุดนิ่ง ไม่ได้พูดถึงเวลาที่ทำได้ 0-80 km ผมกำลังพูดถึงความทนทานและประสิทธิภาพของเครื่อง 3 สูบ เทียบกับ 4 สูบ ในสถานะการณ์ engine Load ในระยะเวลานานๆ เช่นขึ้นเขาลงเขาต่อเนื่องยาวๆ พร้อมทำความเร็วขณะแซงขึ้นเขา " แต่มาตอบทีหลังกลับบอกว่า "บางท่านพูดเหมือนผมต้องไปขึ้นเขาลงห้วยบ่อยๆซะอย่างนั้น" อ้าว เป็นงั้นไป ผมล่ะเป็นงงกับ จขกท. จริงๆ   เข้าใจตั้งชื่อ Login จริงๆ เพราะคนที่เข้ามาตอบ แต่ละคนคง  รู้สึกปวดหัว  กันไปหมดแล้ว bias ก็ยอมรับว่า bias ไม่มีใครว่าอะไร จากคุณ : EITHER เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 15:40:01

ความคิดเห็นที่ 70   คุณแฟนเขาชอบอันไหนก็ให้เขาเลือกเลยครับ อย่าขัดใจเขา แบบชอบแบบไม่มีเหตผลนะ ถ้ามันเลือกยากนัก จากคุณ : ton เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 15:43:48 A:180.214.193.253 X: TicketID:015046

ความคิดเห็นที่ 71 มันอยู่ที่ใจ และเงินในกระเป๋า จากคุณ : เหงื่อแย้ เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 15:48:48

ความคิดเห็นที่ 72   ขอบคุณ คุณ Kuromonkey มาก ผมชอบแนวการตอบแบบนี้ล่ะครับ อ้างอิงสิ่งที่เป็นข้อคิดเห็นของตนเอง ประสบการณ์ ข้อเท็จจริง แล้วบอกกล่าวสู่ผู้อื่น ให้ท่านอื่นๆได้รับทราบไปวิเคราะห์ ประมวลผล อย่างนี้ได้ประโยชน์มากครับ บ่งบอกถึงความเข้าใจในประเด็นที่ จขกท. เจตนาตั้งกระทู้ ส่วนการตอบ ที่ ประเภท... - แล้วทำไมไม่เอา ก ล่ะ ข ห่วยจะตาย แพงก็แพง ... (ที่ไม่บอกข้อมูลอะไร ย่อมไม่เกิดประโยชน์แก่ใคร มีแต่สร้างความทะเลาะเบาะแว้ง เพราะเดี๋ยวก็จะมีคนมาตอบว่า ยี่ห้อ  ก ห่วยบ้าง ไม่จบสิ้น) - ทำไมไม่เอา CRV ล่ะ ตอบโจทย์ ( นอกประเด็น เพราะคนตั้งกระทู้ เขาพินิจมาแล้ว ว่ามีตัวเลือกเท่าที่เสนอมา แต่กลับพูดถึงสิ่งที่อยู่นอกประเด็น และราคาเกินกว่าจะพูดถึง นี่ก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร) - มันก็แย่พอกันนั่นล่ะ รถประกอบในไทย (อย่างนี้ ก็ไม่เกิดประโยชน์ สร้างความรู้สึกแย่ๆแก่คนที่จะซื้อ และดูถุกกันและกัน) โดยส่วนตัว ต้องขอโทษทุกท่าน ที่ตั้งกระทู้ ไปๆมาๆ เหมือนชวนทะเลาะ ทั้งที่เจตนามาแค่เล่าเรื่อง และทำให้หลายๆคนเข้าใจผิด ยกโทษให้ด้วยครับ จากคุณ : รู้สึกปวดหัว เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 15:50:56

ความคิดเห็นที่ 73   ขออภัยคุณ EITHER ด้วยครับ ที่ทำให้คิดอย่างนั้น แต่ที่ตอบไป เพราะตอบในประเด็นที่ถกเถียงกันเรื่อง cc และพละกำลังของเครื่องยนต์ครับ ก็ลองสังเกตสิครับ ไม่ค่อยมีคนโจมตี march ผมเลยไม่รู้จะไปแก้ต่างอะไรให้ march เขา ลองมีคนบอกว่า... March ก็แค่รถกระป๋อง เหล็กก็บางกว่า คันก็เล็กกว่า สิครับ ผมคงจะตอบแทนให้ว่า... คุณรู้ได้อย่างไร ว่า march เหล็กบางกว่า และขนาดก็ไม่ได้เล็กกว่าคู่แข็งอย่างชัดเจนเลย บางสัดส่วนยังใหญ่กว่าคู่แข่งด้วยซ้ำ เบาะนั่งข้างหลังนั่งได้สบายกว่า M2 ซะอีกทั้งๆที่บางกว่า Head room ก็เยอะกว่า นั่งแล้วไม่อึดอัดเท่า M2 การเข้าออกประตูหลังก็ดีกว่า ที่บอกว่า march แทบไม่มีที่วางแขนนั้นน่ะ ไปลองนั่ง M2 รึยัง อยากรู้ว่ามันวางแขนได้ดีกว่าตรงไหน? เอาไม้บรรทัดไปวัดเลยดีกว่า ว่าของใครกว้างกว่ากัน แค่ 1200 ซีซี จะขึ้นแม่สลองได้หรอ ผมจะบอกให้ว่า Mitsu Lancer ตากลมท้ายตัว L ผมยังขึ้น ไปกินชามาแล้ว เป็นต้น แต่ท่านสังเกตดุสิครับ คนที่เข้ามาโพส เขาโพสว่าอะไรกันบ้าง ส่วนใหญ่โพสตำหนิ M2 เข้าข้าง March ก้ส่วนใหญ่ ผมเป็นคนกลาง อะไรที่มันดูไม่ยุติธรรมกับอีกฝ่าย ผมก้อยากแก้ต่างให้ ไม่ได้รึครับ ก้กลายเป็น เชียร์ M2 ไปซะงั้น อย่างที่บอกครับ ผมฟังคนพูดมามาก เกี่ยวกับ March มันเหมือนกับที่ผมบอกใน หัวกระทู้นั่นล่ะครับ ว่ามีคนคิดอย่างนั้นจริงๆ แล้วผมก็เอามาบอก พร้อมข้อโต้แย้งในแต่ละข้อให้ฟัง ก้เท่านั้นเองครับ ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ จากคุณ : รู้สึกปวดหัว เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 16:07:17

ความคิดเห็นที่ 74 *-* จากคุณ : จะเด่น ณ ปานนั้น เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 17:10:09

ความคิดเห็นที่ 75 " แต่ท่านสังเกตดุสิครับ คนที่เข้ามาโพส เขาโพสว่าอะไรกันบ้าง ส่วนใหญ่โพสตำหนิ M2 เข้าข้าง March ก้ส่วนใหญ่ ผมเป็นคนกลาง อะไรที่มันดูไม่ยุติธรรมกับอีกฝ่าย ผมก้อยากแก้ต่างให้ ไม่ได้รึครับ ก้กลายเป็น เชียร์ M2 ไปซะงั้น " มีใครโพสตำหนิ M2 มากมายขนาดนั้นเลยเหรอครับ  ทำไมผมไม่ยักกะเห็น ทำไมผมกลับรู้สึกว่า หลายๆ กระทู้ / หลายๆ คน อวย M2 กันจนเกินเหตุ ราวกับว่า มันเป็นรถเทพ แตะต้องไม่ได้ ที่สำคัญ คือ บรรดาคนที่อวย M2 เหล่านั้น เหมือนไม่รู้จักรถรุ่นที่ตัวเองชอบอย่างแท้จริง ไม่นำเสนอสิ่งซึ่งเป็น "จุดขาย" ของรถตัวเอง # จุดขาย คือ ความสปอร์ตในรูปลักษณ์ และฟีลลิ่งสนุกๆ ในการขับขี่ ---> ก็ต้องออกมาตอกย้ำ ออกมาชักชวนให้ไปลองดูรถคันจริง ไปลองขับคันจริงตามศูนย์ # ความกว้างขวางภายใน ไม่ใช่จุดขายเลย อาจเป็นจุดด้อยด้วยซ้ำ เมื่อเทียบกับ March ทั้งๆ ที่แพงกว่าเป็นแสน ---> ก็ต้องไปเทียบกับคู่แข่งรายอื่นๆ อย่างเช่น Vios , Swift ที่ก็ไม่ได้กว้างกว่ากันซักเท่าไหร่ ยังถือว่าอยู่ในระดับเดียวกัน ยังแข่งขันกันได้ ไม่มีใครใหญ่โตกว่านี้มากนัก # ที่แพงกว่า March เป็นแสน ก็เพราะว่า March มันเหมือนผู้ใหญ่แต่ตีตั๋วเด็ก มันก็เลยสู้ไม่ได้ แต่หากเอาไปเทียบกับ Vios , City มันก็ยังถูกกว่า มีความคุ้มค่าสูงกว่าอยู่ดี ---> ไม่รู้จักยกรถพวกนั้นมาเปรียบเทียบ ทำตารางแสดงรายละเอียดอุปกรณ์ต่างๆ ที่รถมีมาให้มากกว่า Vios , City / ในราคาที่ถูกกว่า เอาแต่โพสต์รูปอยู่นั่นน่ะ  ทั้งๆ ที่ก็ไม่ได้หมายความว่า ทุกคนที่เห็นรถรุ่นนี้ จะต้องชอบตูดโด่งๆ หนาๆ เทอะทะแบบนั้น พอเห็น คห.ไม่เข้าตาตัวเองหน่อย ก็ทยอยออกมาบอกว่า มีอคติ  ตลกจริงๆ ในโลกนี้ มันจะมีรถสักกี่รุ่นกัน ที่คนทุกคนในโลกใบนี้ เห็นพ้องต้องกันว่า สวยหมดจดไม่มีที่ติ ไม่มีใครค้านแม้แต่ในใจว่า ยังมีมุมบางมุมที่ไม่สวย แก้ไขเมื่อ 23 มี.ค. 53 19:34:12 แก้ไขเมื่อ 23 มี.ค. 53 19:30:27 จากคุณ : P_Wut เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 19:29:37

ความคิดเห็นที่ 76 ผมว่ารถมันคนละรุ่นเลยนะ แต่จะยังงัยก็แล้วแต่ปัญหาเหล่านี้จะหมดไป เมื่อทุกคน...... รวยกันทุกๆคนจ้า....... จบข่าว..... Freed ที่ว่าแพงยอดยังแซงได้ นับภาษาอะไร จะซื้อ M2 ขี่เล่นหน้าปากซอย march ซื้อมาไว้ให้ลูกพึ่งหัดขับรถ ใหม่ๆ แอคคอร์ด ซื้อไว้จอดหน้าบ้าน ขวางชาวบ้าน หรือจะออกสิบล้อ มาเพื่อความปลอดภัย จากคุณ : gamerzones เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 21:13:18

ความคิดเห็นที่ 77   คุณ P_wut ครับ ผมชื่นชมคุณ P_wut นะครับ ในฐานะผู้ทรงคุณวุฒิเรื่องรถยนต์ท่านนึง และผมเชื่อว่า คุณ P_wut มีความยุติธรรมในการวิจารย์รถ มากกว่าใครบางคนเสียอีก โดยเฉพาะการวิจารณ์ Innova เทียบกับ Pajero sport แม้แต่ในเว็บ Innova club ที่ผมเข้าไปแวะเวียนบ่อยๆ เมื่อไม่กี่วันก่อน มีคนโพสตอบในกระทู้บอกว่า ระยะหลัง P_wut เป็นอะไรไปรึเปล่า เห็นโพสด่าแต่ Mazda / Mazda2 ผมอ่านๆจากกระทู้ต่างผมก็ว่า P_wut แค่พูดเรื่องจริง ไม่ใช่ด่าเสียหน่อย จนมาถึงกระทู้ผม ซึ่งผมขอยืนยัน ผมไม่ได้เชียร์ M2 เลยแม้แต่น้อย และขอบอกตอนนี้เลยว่า (ถ้าผมไม่มี Jazz อยู่ในมือ) ถ้าให้ผมซื้อใช้เอง ผมซื้อ March ครับ เน้นชัดๆนะครับ ผมเลือกซื้อ March ครับ เพราะผมไม่ใช่แฟนผม ผมขับรถไปแค่ทำงาน กลับบ้าน แค่นั้นเอง ส่วนถ้าไปเที่ยวผมขับ Pajero sport ไปอยู่แล้ว แต่จากกระทู้มันแสดงให้เห็นไปในแนวทางที่ว่า P_wut ค่อนข้างอคติกับ M2 มากกว่าครับ และผมเริ่มเชื่อเช่นนั้น ผมยังไม่เห็นว่า M2 มันรถเทพตรงไหน มันมีอะไรที่ดีเด่นที่เป็นจุดขายกว่ารถ Sedan รุ่นเดียวกันอย่าง Vios city บ้าง? การที่มันเป็นรถเทพ ไม่ใช่ตัวรถมันเองที่ทำให้มันเป็นรถเทพอย่างที่ใครๆว่าหรอกครับ คนนั่นล่ะครับ ทำให้มันเป็นรถเทพ ที่เป็นอย่างนี้เพราะ เวลาที่มีคนชมมัน มีคนอีกกลุ่มไม่เห็นด้วย และมาบอกข้อเสีย เทียบกับคู่แข่งที่บางอย่างมีดีกว่า ให้เกิดการเปรียบเทียบ  ทำให้คนชื่นชอบ M2 ไม่พอใจ และต้องออกมาปกป้องเสียเกือบทุกครั้งไป รถที่ใครๆยกยอว่าดีเลิศ + แตะต้องไม่ได้ นั่นล่ะครับ รถเทพ!!! อีกตัวอย่างคือ Pajero sport ซึ่งกลายเป็นรถเทพ ประจำรัชดาไปแล้ว ก็เพราะมันเป็นรถที่คนในนี้ยกยอว่ามันดีเลิศ + แตะต้องไม่ได้ ไม่เชื่อลองดูสิครับ ไม่กี่โพส จะต้องมีคนออกมาโต้แย้ง ปกป้อง บางครั้งถึงขั้นแถด้วยซ้ำ ผมไม่ได้บอกว่ามันไม่ได้ดีเลิศจริงสมคำบอกเล่า แต่ผมพูดถึงการแตะต้องไม่ได้ ว่ามันมีจริง นั่นล่ะทำให้เป็นรถเทพ ถ้าแค่ดีเลิศ แต่แตะต้องได้ มันไม่เทพหรอกครับ แล้วถ้าผมจะบอกว่า March นั่นล่ะ "รถเทพ" มีทั้ง - เกียร์ CVT xtronic เทพอย่าง Teana - แอร์Auto -แอร์ digital - กระจกพับไฟฟ้า -กระจกพับเมื่อดับเครื่องยนต์ -เซนเซ่อร์หลัง 4 จุด - Intellegent Key c smart entry c Pust start engine -จอแสดงผลอัจฉริยะ ในราคาเพียง 5 แสนต้นๆ เหนือกว่าคู่แข่งในราคาที่ถูกกว่า เป็นแสน และได้ความประหยัดน้ำมัน 20 km/L เทพหรือยังครับ ตอนนี้เริ่มแตะไม่ได้แล้วด้วย เทพรึยังครับ # จุดขาย ประหยัดน้ำมันกว่า -แน่นอน 1200 ซีซี ขับในเมือง ความเร็วต่ำๆ รถติดๆ ยิ่งมี Idle stop ด้วย ประหยัดแน่ๆ แต่ขอทราบอัตราประหยัดเมื่อขับนอกเมือง ความเร็ว 80-120 หน่อยครับ ว่าแตกต่างจากคู่แข่งแค่ไหน มีใครเอาตัวเลขมากางให้ดูไหมครับ อย่าลืมว่ากลุ่มลูกค้าไม่ได้มีแต่คนในกทมนะครับ Nissan โฆษณาทั่วประเทศ ไม่ได้ขายคนกรุงอย่างเดียว คนแม่สอด คนแพร่ คนปาย ล่ะ แต่ไม่ได้บอกว่าอัตราประหยัดน้ำมันแบบที่กล่าวน่ะเท่าไร # จุดขาย กว้างขวางนั่งสบาย -เมื่อเทียบกับคู่แข่ง มันชัดเจนขนาดไหน มันเหมือน tiida Hatchback เทียบกับ Mazda3 Hatchback หรือเปล่า (คู่แข่งระดับเดียวกัน) หรือว่าแค่ระดับ 1-2 ซม.ใน Leg room หรือเผลอๆน้อยกว่า Jazz ? ส่วน Head room ยอมรับว่ามากกว่า M2 Yaris ผมพูดอย่างนี้ เพราะมีคนบางกลุ่ม พยายามผลักใส March เป็นรถระดับเดียวกับ Jazz Yaris M2 ในเรื่องขนาดสรีระ แค่ลดซีซีลง เหมือน civic 1.8 2.0 อะไรอย่างนั้น ทั้งๆที่คำว่าขนาดเดียวกัน พูดถึงขนาดของอะไร สรีระ หรือเครื่องยนต์เป็นซีซี เป็นแรงม้า อีกหน่อย Tata nano เข้ามา ถ้าหากมีรุ่น 800 cc ถามว่า March จะกล้าลดซีซี เป็น 800 cc มาทำตลาดแข่งกับ Tata nano ไหม ไม่มีทางครับ ซีซี 1200 มันจึงถูกเรียกว่า Eco car ไงล่ะครับ ภาษีมันถึงลดลงขนาดนั้นไงล่ะครับ และไม่มีเหตุผลที่ march จะต้องลดขนาดให้มันเล็กตามซีซี ขนาดที่คนชื่นชอบย่อมเป็นที่ต้องการของตลาด สรีสระที่ีเท่าคู่แข่งราคาที่ต่ำกว่า จึงเป็นจุดขายต่างหากครับ การที่ P_wut พูดว่า "เอาแต่โพสต์รูปอยู่นั่นน่ะ  ทั้งๆ ที่ก็ไม่ได้หมายความว่า ทุกคนที่เห็นรถรุ่นนี้ จะต้องชอบตูดโด่งๆ หนาๆ เทอะทะแบบนั้น พอเห็น คห.ไม่เข้าตาตัวเองหน่อย ก็ทยอยออกมาบอกว่า มีอคติ  ตลกจริงๆ" อย่างนี้นี่ล่ะครับ ที่จะกระตุ้นคนกลุ่ม M2 หรือกลุ่มอื่นๆออกมาปกป้อง ทำให้มันกลายเป็นรถเทพที่ใครๆแตะต้องไม่ได้ แล้วก็จะมีคนบอกว่า... "เอาแต่โพสต์รูป March อยู่นั่นล่ะ ทั้งๆที่ก็ไม่ได้หมายความว่า ทุกคนที่เห็นรถรุ่นี้ จะต้องชอบรถหน้ากบตาโต อ้าปากหวอ ตูดแบนๆ ย้อนไป 10 ปียังกะ Opel corsa แบบนั้น" มันก็จะไม่จบสิ้นกันเสียที จะดีกว่าไหม ถ้าเราซึ่งเป็นผู้มีความรู้เรื่องรถจะให้เป็นข้อเท็จจริง แทนคำตำหนิส่วนตัว มันจะสร้างสรรค์ขึ้นนะครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : รู้สึกปวดหัว เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 53 07:41:39

ความคิดเห็นที่ 78 วนไป วนมา วนไป วนมา สร้างสรรค์ ตรงไหน จบดีกว่าครับ จากคุณ : ikok เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 53 08:08:03

ความคิดเห็นที่ 79 เอ้า เจ้าของกระทู้เขาออกมาขอโทษขอโพยเรื่องการตั้งกระทู้แล้ว   พวกเรารัชดาก็ให้ๆ อภัยกันเถอะครับ ยังไงก็คนรักรถเหมือนๆ กันอ่ะนะ ทีหน้าทีหลังก็ตั้งกระทู้และบอกเจตนาก่อนครับ  อย่าล่อเป้าอีก แต่ผู้ที่เข้ามาตอบกระทู้ก็เป็นผู้ที่เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ทั้งนั้น ทำให้ได้ข้อมูลความรู้ที่มีประโยชน์มากมาย   ขอบคุณจากใจเลยครับ ผมชอบกระทู้นี้ครับ....... จากคุณ : masimama (masimama) เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 53 09:30:51

ความคิดเห็นที่ 80 เรียน จขกท.  แค่เรื่องเดียว คือ คำว่าขนาดรถ เกือบทุกที่ จะหมายถึง ขนาดตัวถังรถ  เพราะระดับสากล มันแบ่งตามขนาดตัวถังรถ โดยแบ่งเป็น City Car หรือ K-Car หรือ A-Segment หรือ Mini Compact B-Segment หรือ Sub Compact Car C-Segment หรือ Compact Car Mid-Sized Car ... ซึ่ง March, Yaris,Swift,2  อยู่ใน B-Segment ส่วน TATA Nano , Toyota Aygo อยู่ใน A-Segment Tiida ก็อยู่ Compact Car แต่เป็น Compact Car ที่เล็กที่สุดในคลาสก็ว่าได้ จากคุณ : EITHER เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 53 10:27:08

ความคิดเห็นที่ 81 มีความรู้สึกว่า ยิ่งนาน เหมือนยิ่งต่อความยาว สาวความยืด ไม่ต่อแล้วกัน ยกเว้น คห.ล่างสุดนี้ ขอเสริมหน่อย " Tiida ก็อยู่ Compact Car แต่เป็น Compact Car ที่เล็กที่สุดในคลาสก็ว่าได้ " ผมไม่ค่อยเห็นด้วยสักเท่าไหร่นัก  ประโยคนี้ อาจเป็นจริงกับเฉพาะบางตลาด / บางประเทศ เพราะในญี่ปุ่น Corolla Generation เดียวกับที่ขายในบ้านเรา (Altis) ปัจจุบันนี้ มันไม่ได้ตัวถังกว้างแบบบ้านเรา แต่เค้าใช้ตัวถังแคบปกติ (กว้างไม่เกิน 1700 มม.เท่าๆ Tiida) ทำให้ Corolla ญี่ปุ่น ภายในเล็กกว่า Tiida อย่างไม่ต้องใช้เวลาพิจารณานานเลยครับ ทั้งๆ ที่มันก็เป็น Compact เหมือนกัน ถึงจะในตลาดสากล เอา Tiida (ซึ่งมีตัวถังความกว้างเดียวเท่านั้น) มาเทียบกับ Altis ตลาดโลก (รุ่นตัวถังกว้าง) ผมก็ไม่สามารถฟันธงได้ว่า Altis ใหญ่กว่า Tiida  เพราะตอนไปนั่งข้างในจริงๆ มันไม่ได้รู้สึกแบบนั้นเลย  ผมว่า มันออกไปในทำนอง ก้ำกึ่งๆ / เหลื่อมๆ กันอยู่ แก้ไขเมื่อ 24 มี.ค. 53 11:30:37 จากคุณ : P_Wut เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 53 11:29:01

ความคิดเห็นที่ 82 ขอพาราซักแผงดิ๊ท่าน P_Wut ผมเริ่มๆ มึนแล้วครับ เห้อ ... จากคุณ : สยึมกึ๋ย เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 53 12:15:54

ความคิดเห็นที่ 83 ผมก็เริ่มมึนครับ จากคุณ : thiefcat เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 53 13:11:48

ความคิดเห็นที่ 84   ต่างคนต่างจิตใจ ต่างคนต่างความคิด จขกท.คิดอย่างไร..........ในใจก้อต้องรู้ คนตอบคิดอย่างไร..........ในใจก้อต้องรู้ อยากกินมะม่วงเปรี้ยว.......แต่ไปซื้อมะม่วงมันส์...... หรืออยากกินมะม่วงมันส์....แต่ไปซื้อมะม่วงเปรี้ยว.... มันทดแทนกันได้ แต่มันได้ตามความอยากหรือความต้องการของตนเองรึเปล่า คุณเท่านั้นแหละที่รู้ใจตัวเอง......... เพราะคนโพสและคนตอบ ไม่ได้มาใช้ชีวิตอยู่กับรถที่คุณซื้อ ปล.ด้วยความเคารพ ทั้งจขกท.และผู้ตอบทั้งหลายครับ จากคุณ : นกลืมรัง เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 53 04:10:21

ความคิดเห็นที่ 85   จากการเริ่มต้นของกระทู้ "ในฐานะ ใกล้ชิดคนที่กำลังจะออกรถมีตัวเลือก Nissan March และ Mazda2 sedan คือแฟนกำลังจะออกรถใหม่ และคุณเธอก็มีตัวเลือกแค่ 2 อย่าง เหมือนเจ้าของกระทู้นั้นเป๊ะเลย และคุณเธอก็มาถามผมว่าจะเลือกอะไรดี...?" ผมว่า......จากคำตอบขนาดนี้ น่าจะเลือกได้แล้วนะครับ จากคุณ : นกลืมรัง เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 53 04:18:33

ความคิดเห็นที่ 86 ลอง ดู ทดสอบชนของ M2 คนละเรื่องกะ มีนา และดีกว่า city ครับ http://www.euroncap.com/tests/mazda_2_2007/306.aspx อันนี้ มีนา http://www.euroncap.com/tests/nissan_micra_2003/165.aspx อันนี้ City http://www.euroncap.com/results/honda/jazz/358.aspx จากคุณ : obb (8 years ago) เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 53 17:04:12

ความคิดเห็นที่ 87 ไม่ต้องคิดมากเลย ถ้าซื้อมาแล้วมีรถแค่คันเดียว เอามาสด้า2 ดีกว่า เผื่ออยากไปเที่ยวต่างจังหวัด เผื่อมีคนนั่งหลัง แต่ถ้ามีคันอื่นอยุ่แล้ว จะเอา march ก็ได้ ไว้ขับเล่นๆ ในเมือง จากคุณ : X Dog (X Dog) เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 20:48:31