ความคิดเห็นที่ 1 บ้านเราคงอีกนานครับกว่าจะได้อย่างนั้น จากคุณ : kane (kane) เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 04:39:51

ความคิดเห็นที่ 2 เพราะว่า ตำรวจเค้าทำจริง จับจริงค่ะ กฎ มันก็เลยศักดิ์สิทธิ์ ถ้าเป็นของเราก็ อยู่ที่รู้ๆกันอยู่ ฟังดูเศร้าเนอะ T_T จากคุณ : prettybua เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 05:42:41

ความคิดเห็นที่ 3 บ้านเมือง สังคม สิ่งแวดล้อมมันผิดกันลิบลับ คนข้ามถนนตรงทางข้าม เขายังหยุดให้ข้ามยันคนสุดท้าย ไม่มีบีบแตรไล่ ไม่มีขับตัดหน้าคนข้าม ขับรถบนถนนห่างๆ ไม่มีจี้ ไม่มีมุด ความเร็วเท่าๆกัน ตามกำหนดทุกคัน จากคุณ : t_u_k_t_c_3 เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 06:16:42

ความคิดเห็นที่ 4 จากที่อยู่ยุโรปมาห้าปี(แบบไปๆ กลับๆ) พบว่า คนไม่ข้ามถนนตรงคนข้าม ก็มี รถไม่จอดทางม้าลายก็มี แหกด่าน หนีตำรวจ ก็มี ตำรวจไล่จับถึงขั้นเอาคอปเตอร์ไล่จับก็เห็นมาแล้ว เปอร์เซนต์มันน้อย เพราะกฏหมายมันขลัง บ้านเรากฏหมายก็ดีแล้ว แต่ระบบเส้นสายยังใหญ่กว่า อย่าว่าแต่ กฏหมายและการบังคับใช้เลย ไปดูตามบ้านนอกน่ะ ชาวบ้าน เกรงกลัว ข้าราชการระดับเล็กๆ อย่าง อบต กำนัน จ่าแก่ๆ มีอะไรก็อนุโลมพวกเดียวกัน แต่งรถเลียนแบบตำรวจ ติดไซเรน พกปืน ชนแล้วหนี ก็มีคนออกมาปกป้องว่า เรื่องเล็กน้อย จากคุณ : เด็กสร้างบ้าน คนสร้างภาพ เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 06:45:15

ความคิดเห็นที่ 5 อยู่ยุโรปมา สิบกว่าปี แบบไม่ค่อยได้กลับ ฮาา เลียนแบบ นายข้างบนเค้า - -" ^                                                       ^                                                       ^ กฏหมายเรื่อง การขับขี่ แรงค่ะ และไม่คุ้มกันท่าจะเสี่ยง อย่างเรื่องเด็กนี่  ปกติจะมีที่นั่งสำหรับเด็ก และคาดเข็มขัดนิรภัยให้เรียบร้อย ถ้าไม่คาดนี่ ผู้ขับขี่นี่หล่ะค่ะ จะโดนหนัก ไม่ใช่แค่เด็กเล็กนะค่ะ  เด็กที่อายุ ต่ำกว่า 16 หรือ 18 ปี เราไม่แน่ใจ ถ้าเราจะให้เค้าโดยสารมาด้วยนี่ เราต้องตรวจดูความเรียบร้อยก่อนค่ะ ว่า เค้ารัดเข็มขัดอะไรเรียบร้อยไหม และค่าปรับ การยึดใบขับขี่ ไม่คุ้มกันเลยที่จะละเมิดกฏ กว่าจะได้ใบขับขี่มา ก็แสนจะยากเย็น ทำกันเป็นเดือน ไหนจะสอบคอม ไหนจะสอบขับ ไหนจะเข้าคอร์ดปฐมพยาบาล หนึ่งปีหลังได้ใบขับขี่มาแล้ว ก็ต้องไปขับให้เค้าดูอีกสามครั้ง ว่าเราขับพัตนาไปถึงไหนแล้ว ค่าใบขับขี่ก็สุดแสนจะแพง ถ้าเทียบกับเงินไทย ก็เฉียด ๆแสนบาท มิใช่น้อย ๆ ละเมิดกฏ โดนยึดไป ก็แย่นะสิค่ะ ยึดเฉย ๆ ไม่เท่าไร สอบใหม่ได้  แต่มีบางกรณีที่โดนยึดแล้วห้ามทำใบขับขี่ กี่ปีก็ว่ากันไป อย่างเมาแล้วขับนี่ ข้อหาหนัก เลยไม่ค่อยมีคนกล้าหรอกค่ะ ถ้าถูกปรับ ตำรวจจะเขียนใบเสร็จรับเงินให้เรา  มีอยู่ครั้งเคยโดนจับเรื่องขับรถเร็ว เราบอกว่าเราไม่ต้องการใบเสร็จ เพราะเอามามันก็มาเป็นขยะในรถอีก  เราก็บอกเค้าว่า ไม่เอาค่ะ ไม่ต้องการ ตุณตำรวจ ตอบมาว่า  ไม่ได้ครับ คุณต้องรับ ไม่งั้นผมจะโดนข้อหา ไม่ซื่อสัตย์ต่อหน้าที่ - -" แก้ไขเมื่อ 23 มี.ค. 53 07:43:26 จากคุณ : eissee เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 07:36:55

ความคิดเห็นที่ 6   หลานสาวน่ารักมากครับ จากคุณ : erty เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 08:20:45

ความคิดเห็นที่ 7 ผมคนหนึ่งหละ ที่ไม่อยากให้เอาเรื่องส่วนตัว ไม่ทำร้ายใคร มาบังคับเป็น "กฎหมาย" อย่างเข็มขัดนิรภัยนี่ก็เช่นเดียวกัน ไม่น่าเป็นกฎหมาย กฎหมายเข้มงวดได้ ไม่แปลก แต่ ... มันต้องเป็นเรื่องที่ "สมควร" จริงๆ จากคุณ : สยึมกึ๋ย เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 09:25:49

ความคิดเห็นที่ 8 จะบอกว่าหลานสาวน่ารักมากๆเช่นกันค่ะ จากคุณ : กะลุ๊กปุ๊ก..ปุ๊ก เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 09:30:05

ความคิดเห็นที่ 9 เห็นข่าว  เชียงใหม่กำลังจะเข้มแล้วนี่ครับ เริ่ม 1เมย 53   มั้ง  (ผิดก็ขออภัย) จากคุณ : ดอยภูทาย เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 09:48:38

ความคิดเห็นที่ 10 ทำไม คุณ สยึมกึ๋ย  ไม่ชอบคาดเข็มขัดนะ  ผมนั่งหลัง ผมยังคาดเลย              แต่อย่างว่า ผมก็เลือกปฏิบัติเหมือนกัน ขับแล้วโทรนี่ทำประจำ จากคุณ : puylogin เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 09:59:32

ความคิดเห็นที่ 11 เจ้าตัวเล็กน่ารักมาก แต่งมานานไม่มีลูกสักที กลุ้มใจจัง จากคุณ : บางบาล100 (บางบาล100) เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 10:13:58

ความคิดเห็นที่ 12 มันไม่ใช่เรื่อง "ชอบ" หรือ "ไม่ชอบ" ครับท่าน puylogin แต่มันอยู่ที่ ไปบังคับเขาทำไม ต่างหากครับท่าน คนเราจะตายซะอย่าง ใครหน้าไหนจะมาห้ามได้ ทุกวันนี้ คนเรายังกระโดดตึกตายได้ โดดน้ำ ตายได้ เอานิ้วจิ้มปลั๊กไฟตายได้ เอาปืนยิงหัวตัวเองตายได้ กะอีแค่ตาย บนรถ มันจะต่างกันตรงไหนครับ ? แล้วเรื่องสำคัญอยู่ตรงที่ จะคาดหรือไม่คาดเข็มขัด มันก็ไม่ได้ช่วยให้ การจราจรดีขึ้นตรงไหนแม้นแต่น้อยครับผม จากคุณ : สยึมกึ๋ย เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 10:37:21

ความคิดเห็นที่ 13 ทำอะไร ตามใจ คือไทยแท้ จริงๆ คือ คนไทย ไม่ชอบทำตาม กฎระเบียบ กันหรอก อิสระเสรี กฎ มีไว้แหก เราจึงเห็น คนไทย ขับรถไร้ระเบียบวินัย ทั้งย้อนศร แทรกคอสะพาน ผ่าไฟแดง เปิดไฟตัดหมอก โดยไม่มีความจำเป็น อื่นๆ นึกไม่หมด กฎแห่งความปลอดภัย การอยู่ร่วมกันในสังคม คนไทยบางคน ยังโง่ไม่เข้าใจอยู่ เลย การใส่หมวกกันน๊อต บางคนเลี่ยงได้ก็ไม่ใส่กัน เกิด ตาย หรือพิการ เป็นภาระกับ สังคม กับครอบครัว กับประเทศชาติ ปัญหาที่ตามมาเยอะกว่าอีก แก้ไขเมื่อ 23 มี.ค. 53 10:45:38 จากคุณ : SAR-TEE เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 10:42:09

ความคิดเห็นที่ 14 ไม่แปลกหรอกครับที่ป๋าหยึ๋มคิดแบบนี้  เพราะเค้าคิดแปลกๆมาเยอะแล้ว หุหุ ไว้เกิดอุบัติเหตุอะไรก็ รักษาตัวให้ดีๆนะครับ คนรอบข้างตัวคุณจะรู้สึกอย่างไร จากคุณ : Bluedoft เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 11:58:41

ความคิดเห็นที่ 15 เมืองไทย เข้มงวดเฉพาะช่วงโปรโมทเท่านั้นแหละครับ เช่นขับห้ามโทร แรกๆก็เข้ม ไม่มีใครกล้าโทรตอนขับเพราะโดนจับเยอะ แล้วตอนนี้เป็นไง กลับไปเหมือนเดิม ขับไปโทรไปเกลื่อนถนนเลย ไม่มีใครสนแล้ว เพราะเจ้าหน้าที่ไม่เข้มงวดเหมือนช่วงแรกๆ คือพ้นช่วงโปรโมชั่นแล้วประมาณนั้น จากคุณ : Mr.Submarine เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 12:27:33

ความคิดเห็นที่ 16 คุณๆลองมาดูที่มหาชัยบ้านผมซิครับ ขนาดประกาศเป็นถนนสีขาวตั้งแต่ธันวา52  แต่ปัจจุบันใครลองผ่านตัวเมืองมหาชัย ตอน1ทุ่มถึง2ทุ่มดูซิครับแล้วจะรู้ว่าคนมหาชัยแจ๋วแค่ไหน  ไม่มีกฎไม่มีระเบียบ  นึกจะจอดรถซื้อของก็จอดดื้อๆ  พอใครบีบแตรไล่มันยังทำปากขมุบขมิบอีก ไม่เชื่อมาลองดูได้ครับ  (ที่เน้น1ทุ่มถึง2ทุ่มเพราะจะเจอได้ง่ายๆมาก  แต่ตามปกติก็จอดรถได้แย่ทั้งวันแหละครับ) จากคุณ : lemans เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 12:38:16

ความคิดเห็นที่ 17 กฏหมายบ้านเราก็ใช่ว่าจะอ่อน เพียงแต่ว่าไม่เข้มงวด บางเรื่องก็กลายเป็นปล่อยปะละเลยทำกันจนเคยตัว บางเรื่องก็กลายเป็นช่องทางหารับประทานของเจ้าหน้าที่ ผมว่าบ้านเราเป็นเรื่องยากที่จะแก้หากเงินยังเป็นตัวหลักของปัญหา จากคุณ : cagiva เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 12:41:40

ความคิดเห็นที่ 18 เมืองนอกไม่รู้ครับ รู้แต่ว่าเมืองไทย  กฏ มีเอาไว้ใช้เป็นเครื่องมือสำหรับคนที่ใช้กฏ ไม่ได้มีเอาไว้สร้างความเรียบร้อยให้แก่บ้านเมือง เอาง่ายๆเรื่องความเร็ว ถ้าเจอพวกด่านเรมั่ว  จะวิ่ง 90 หรือ 190 พวกก็จะบอกว่า ขับเร็ว 120-130 ตลอด ถ้าจะรอใบสั่ง  ก็ต้องประสาทเสียกับลีลาสารพัด พอเจอแบบนี้บ่อยๆเข้า  มันก็เป็นเรื่องชาชิน เตรียมแบ้งร้อยรอไว้  แล้วก็ขับตามใจได้เลย จากคุณ : ton99 เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 13:45:57

ความคิดเห็นที่ 19 ผมก็ไม่ขัดแย้งกับความคิดคุณสยึมนะครับ ด้วยความเคารพ แต่อย่างถ้าผมมองมอไซด์ ไม่ใส่หมวกกันน็อคผมไม่ค่อยชอบเลย มันเสี่ยงมาก ๆ เลยนะ มอไซด์ไม่มีหมวกเนี่ย จริงๆ รถยนต์ไม่คาดก็เสี่ยงเหมือนกัน ชนเบาๆ ก็เจ็บหนักได้ จากคุณ : puylogin เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 14:46:36

ความคิดเห็นที่ 20 ถ้าท่านชอบสวมหมวกนิรภัย ก็ดีอยู่แล้วครับท่าน puylogin ไม่ขัดกฎหมายด้วย ถ้าผมเป็นคนดูแลกฎหมาย ท่านก็จะได้ เป็นประชากรส่วนใหญ่ ที่รับรู้และตระหนักถึงประโยชน์ของ มันครับผม แต่ผมจะให้เรื่องแบบนี้ อยู่ในเรื่องของการรณรงค์ มากกว่าครับ เพราะ มันไม่ใช่เรื่องทำลายชาติครับ สิ่งที่ทำลายชาติตรงๆ คือ ยาเสพย์ติดครับ ต้องห้ามทุกชนิด ทุกที่ครับ บุหรี่ เบียร์ เหล้า เพราะ เสพย์แล้ว ไม่ได้มีข้อดีเลย ทำลายสุขภาพทุกครั้งที่เสพย์ (ทีเรื่องแบบนี้ รัฐกลับนำไปทำ แค่รณรงค์ ทั้งๆ ที่ต้องบังคับ สงสัยได้ค่าอากรเยอะ) จากคุณ : สยึมกึ๋ย เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 14:59:10

ความคิดเห็นที่ 21 ผมขอแสดงความคิดเห็นนะครับ (เฉพาะกฎหมายเกี่ยวกับจราจร) การออกกฎหมายเพื่อความปลอดภัยนี้ (หมวกกันกระแทก ,เข็มขัดนิรภัย) โดยเจตนาเพื่อให้เกิดความปลอดภัยกับผู้ขับขี่และผู้ร่วมใช้ถนน อีกประเด็นที่น่าสนใจและมาลองวิเคราะห์กันนะครับคือ กฎหมายได้บังคับให้ผู้ใช้รถมีความรับผิดชอบกับตัวเองและสังคมด้วย กล่าวคือ อาจจะมีไม่น้อยที่ผู้ข้บขี่ต้องมีภาระต้องดูแลครอบครัว ถ้าคนเหล่านั้นไม่รับผิดชอบต่อตัวเองโดยการไม่คาดเข็มขัดนิรภัย หรือใส่หมวกกันกระแทก (ยกตัวอย่าง) แล้วเกิดเหตุการณ์ จนทำให้เสียชีวิต บุคคลที่อยู่ในความรับผิดชอบหรือครอบครัวที่อยู่ข้างหลังย่อมเดือดร้อน และถ้าไม่สามารถหาผู้มาอุปการะได้ สังคมหรือภาครัฐก็จะต้องเข้ามาช่วยเหลือผ่านทางสังคมสงเคราะห์ใช่หรือไม่ การมีกฎหมายประเภทนี้ออกมาก็เพื่อบังคับให้บุคคลทุกคนต้องรับผิดชอบต่อสังคมด้วยเช่นกัน ซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวอย่างที่เข้าใจกันครับ ลองเอาข้อสังเกตุของผมไปพิจารณาดูนะครับ จากคุณ : kornang เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 15:54:59

ความคิดเห็นที่ 22 ^ ^ ผมพิจารณามานานแล้วครับเรื่องนี้แหละ เป็นเรื่องที่ หลายๆ ท่านเคย หยิบเอามากล่าวเสมอ มันต่างกันนิดครับ อุปกรณ์พวกนี้ (เข็มขัดนิรภัย / หมวกนิรภัย) คาด หรือสวมเอาไว้ หรือไม่คาด ไม่สวม ถ้าไม่เกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น ผล ที่ได้ ไม่มีครับ กลับกัน หากเกิดเหตุการณ์ขึ้น ก็มีอีก สองสามกรณีครับ ๑. มันไม่ได้ช่วยอะไรเลย ตายอยู่ดี ๒. มันช่วยให้รอด หรือ ผ่อนหนักให้เป็นเบา ๓. มันเป็นฆาตกรเสียเอง ผมถึงเฉยๆ ไงครับ อย่างที่บอก คนเรา ตายหรือ เป็นภาระทางสังคม เมื่อไหร่ก็ได้ครับ มันห้ามกันไม่ได้ ต้องห้ามกันที่เรื่อง "เบียดเบียน" ครับผม สำหรับกฎหมาย ไม่ทำแล้ว ต้องมีผู้เดือดร้อนเดี๋ยวนั้น ละเมิด ไม่ได้ครับ ยังมีอีกมากมายครับ ถ้าจะยึดเรื่องเดียวกันนี้เป็นเกณฑ์ เช่นให้บ้านทุกหลัง ติดมุ้งลวด กางมุ้งนอน รับผิดชอบสังคม ไม่ให้เป็น มาเลเรีย ไข้เลือดออก ปีๆ หนึ่งมีคนตายเพราะเรื่องนี้เยอะเหมือนกัน และ มีแนวโน้มว่า มันจะพัฒนาสายพันธุ์ด้วย รับผิดชอบสังคมเหอะ ผมยกตัวอย่างเฉยๆ นะครับ จากคุณ : สยึมกึ๋ย เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 16:41:45

ความคิดเห็นที่ 23 ครับ.. ขอบคุณครับ จากคุณ : kornang เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 16:47:47

ความคิดเห็นที่ 24 มาแชร์ข้อมูลว่า พฤติกรรมของมนุษย์ ไม่ได้อยู่ที่ชนชาติครับ แต่อยู่ที่จิตสำนึกและสิ่งที่ได้รับการอบรมมา จริงอยู่ว่าผมเคยพบประสบการณ์ดีๆ เกี่ยวกับการเคารพกฎหมายของชาวต่างชาติ โดยเฉพาะในประเทศที่จัดว่าศิวิไลเซชันแล้ว แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมด ผมขับรถผ่านถนนในเมืองเกือบทุกวัน ก็ยังเห็นฝรั่งหรือชาวต่างชาติ ข้ามถนนในทางที่ห้ามข้าม ข้ามถนนใต้สะพานลอย หรือทิ้งขยะบนถนนอยู่บ่อยๆ จากคุณ : สมองซีกขวาและตาที่สาม เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 17:06:21

ความคิดเห็นที่ 25 /// สิ่งที่ทำลายชาติตรงๆ คือ ยาเสพย์ติดครับ ต้องห้ามทุกชนิด ทุกที่ครับ บุหรี่ เบียร์ เหล้า เพราะ เสพย์แล้ว ไม่ได้มีข้อดีเลย /// พวกเหล้าบุหรี่  ผมเฉยๆนะ แต่ตัวทำลายชาติจริงๆ  คือ ยาบ้า ลูกน้องพ่อผมนี่ทำงานดีๆ  พอไปติดยาบ้านี่ไม่เหลือความเป็นคนเลย และตอนนี้มีมาอีกอย่าง  คือ ยาดอง  ผมไม่รู้มันใส่อะไรให้คนกิน กินแล้วบ้าน้องๆยาบ้าเลย เรื่องยาบ้า  นี่ไม่ต้องหวังว่าจะหมดหรอก คนขายรายใหญ่จริงๆ  ไม่ใช่คนธรรมดา พวกที่จับได้  รวยระดับสิบล้าน  มันก็แค่ปลายแถว ผมสาบแช่งตลอด  ไอ้พวกที่ขาย  ขอให้ล่มจมทั้งวงตระกูล ส่วนพวกที่ดัดจริตตอนที่เขาปราบยาบ้า  พวกนี้ขอให้มันเจอความเลวร้ายจากยาบ้าซะบ้าง จะได้สำนึกเลิกดัดจริตกันซะที จากคุณ : ton99 เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 20:26:42

ความคิดเห็นที่ 26 ^ ^ ยาม้า หรือ ยาบ้านั่น กฎหมายเขาห้ามขายอยู่แล้วครับท่าน Ton๙๙ แต่เท่าที่ผมเจอ กาว นี่แหละครับ เหมาะสุดสำหรับคนงบน้อย ติดง่าย ติดไว ถูกสตางค์ แถมเอ๋อเร็วด้วย ติดไม่นาน ก็คุยด้วยไม่ค่อยรู้เรื่อง แล้วครับท่าน เริ่มพูดช้า ติดอ่าง ตะกุกตะกัก จับใจความไม่ได้ ทำลาย สมองโคตรๆ จากคุณ : สยึมกึ๋ย เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 21:41:40

ความคิดเห็นที่ 27 เคยโดนจับที่ออสเตรเลีย นานมากแล้วไปบ้านแฟนเก่า แฟนไปเรียนที่นู่น แล้วมีอยู่วันนึงไปที่หาดบอนได แล้วเกิดอุบัติเหตุกับเธอ ผมต้องขับรถให้ เพื่อพาไปโรงพยาบาล ช่วงที่รีบๆก็มีตำรวจขี่ตามมา แฟนบอกให้แอบซ้าย พอจอดพี่ท่านก็มาพูด..เธอก็แปลแล้วบอกว่า..เตะขอบพื้นขาเจ็บ.เลือดออก ก็ยกให้ดู..ครับ..เป็นเรื่องเลย..หยิบ..ว. มาพูด..ฟังไม่รู้เรื่อง.แล้วมาพูด กับผมและแฟน..แปลได้ว่า..ติดต่อโรงพยาบาลไว้ให้แล้ว..ให้ขับตามมา เท่ห์ดี..ไม่นานถึงโรงพยาบาล..ตำรวจก็รอเพื่อสอบอะไรไม่ทราบ.. แต่ถามผมว่ามีใบขับขี่ไหม.ผมบอกมี แต่เป็นของสากลแต่ไม่ได้เอามา ผมก็คุยไม่เก่ง จนเขาไปสอบถามกับแฟนจนเขาบอกว่าให้เตรียมมาด้วย เผื่อฉุกเฉิน หรือให้ติดต่อเจ้าหน้าที่ เขาจะประสานให้ แล้วก็แยกย้าย พร้อมกับจดบันทึกเจ้าของรถ ชื่อผม วันรุ่งขึ้นมาที่บ้านเลยครับ ขอดู พาสปอร์ต ใบขับขี่สากล(ชั่วคราว) อบรมอีกนิดนึงแล้วก็ไป จากคุณ : ปกป้องครอบครัวอันเป็นที่รัก (nismo b11) เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 23:52:53