|
ความคิดเห็นที่ 44 |
|
ขออนุญาตแนะนำคุณนทีนิดนึง
หากยังติดใจแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันต่อไป และต้องการแสดงความคิดเห็นบนพื้นฐานของข้อความ ที่ผมเขียนไว้ ก็กรุณา คัดลอกข้อความนั้นมาประกอบ การแสดงความคิดเห็นของท่านด้วย จะช่วยทำให้เห็นได้ง่าย ว่าใครมั่ว ใครแถ
ข้อความเริ่มต้นแสดงความคิดเห็นของผมมีสั้นๆเพียงนี้
"ความคิดเห็นที่ 13
ผมเคยตั้งกระทู้ถามตำรวจทางหลวง ให้ช่วยตอบ เพื่อให้หายสงสัย ว่า การออกใบสั่งทางไปรษณีย์ ตำรวจทำได้ตามกฎหมายใด แต่ไม่ได้รับคำตอบจากตำรวจทางหลวง และผมก็หากระทู้ไม่เจอแล้วด้วย
และวันนี้ ก็ประจักษ์แก่สายตาแล้วว่า ไม่ใช่"ใบสั่งทางไปรษณีญ"ดังที่เคยเข้าใจ
แต่เป็นหมายเรียกตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ซึ่งหากผู้รับหมาย อยู่ต่างท้องที่กับตำรวจที่ออกหมาย ตำรวจจะต้องส่งให้ตำรวจท้องที่สลักหลังหมายก่อน จึงจะใช้ได้ตามกฎหมาย
และกรณีนี้ ตำรวจจะปรับ โดยกำหนดค่าปรับมาเลยไม่ได้ เพราะไม่มีกฎหมายให้อำนาจทำเช่นนั้น
และก็ไม่สามารถอายัดทะเบียนได้ เพราะไม่มีกฎหมายให้อำนาจเช่นกัน
รอดูว่า จะมีตำรวจเข้ามาอธิบายแก้ไหม
ที่ยกประเด็นเหล่านี้ขึ้นมา ไม่ได้เจตนาให้มีการฝ่าฝืนกฎหมายนะครับ แต่ตำรวจ ซึ่งได้ชื่อว่า เป็นผู้รักษากฎหมายนั้น ต้องชี้แจง หรืออธิบายได้ว่า การกระทำขอตนมีกฎหมายใดให้อำนาจ มิฉะนั้น ก็เป็นเรื่องการทำตามอำเภอใจ ไม่ใช่การบังคับใช้กฎหมายในฐานะเป็นผู้รักษากฎหมาย
จากคุณ : ยอดชาย"
คงไม่ลำบากที่จะคัดลอกมา
และเท่าที่ว่ากันมาแล้วนี้ เวลาผมอธิบายตอบความคิดเห็นของคุณนที ผมก็อธิบายโดยข้อความที่ผมเขียนไว้นั้นแล้ว ทั้งสิ้น ไม่มีการตัดแต่งขยายเพิ่มเติมแต่อย่างใด
คราวนี้ ผมจะลองแสดงความคิดเห็นในความ้ห็นที่คุณนทีเขียนไว้บ้าง
๑. คุณนทีอ้างใน คห ๓๘ ว่า "สมัยผมเรียนหรือศึกษากฎหมายบางฉบับ ยุคนั้น อาจารย์ก่อนจะสอนเรื่องอะไร จุให้อ่านเจตนารมณ์ของกฎหมาย ฉบับนั้นๆก่อน แล้วค่อยเข้าเรื่องทีละมาตรา เื่พื่อจะได้ใช้กฎหมายได้ ถูกทาง ไม่เป๋ไปเป๋มา หลงทิศ หรือผิดเจตนาของกฎหมายฉบับนั้นๆ
ยุคนั้นวิธีการศึกษา จะอ่านทั้งฉบับ และเมื่อเข้ามาตราก็ต้องอ่านให้ครบทุกประโยคของมาตรานั้นๆ "ไม่ตัดเอา เฉพาะท่อนใดท่อนหนึ่ง" มาเพื่อตีความ และตีความให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวมเป็นหลัก"
ผมก็เลยถามใน คห ๔๐ ว่า "๒. ที่ท่านบอกว่า"ยุคนั้น อาจารย์ก่อน จะสอนเรื่องอะไร จุให้อ่านเจตนารมณ์ของกฎหมายฉบับนั้นๆก่อน แล้วค่อยเข้าเรื่องทีละมาตรา" ช่วยชี้แนะสักนิดได้ไหมครับ ว่าผมจะอ่านเจตนารมณ์ ของกฎหมายวิอาญานี่ได้จากตรงไหน"
คุณนทีมาตอบใน คห ๔๑ ว่า ""เจตนารมณ์" นั้นเป็นภาพรวมๆครับ คือ ถ้าคนเข้าใจคำว่า "เจตนารมณ์" แล้ว เวลาฟังคนพูดก็ต้องปล่อยให้เขาพูดให้หมดแล้วค่อยสรุป , เวลาอ่านกฎหมายแต่ละมาตรา ก็อ่านครบทุกประโยค ไม่เอาเฉพาะท่อนใดท่อนหนึ่งมาใช้ ครับ "
อ้าว แล้วที่คุณนทีอ้างไว้ว่า " จุให้อ่านเจตนารมณ์ของกฎหมาย ฉบับนั้นๆก่อน แล้วค่อยเข้าเรื่องทีละมาตรา " นี่แปลว่ากระไรครับ
หรือจะให้ผมเข้าใจว่า มีความหมายเดียวกับ "เวลาอ่านกฎหมายแต่ ละมาตรา "
๒.เมื่อคุณนทีอ้างถึงเจตนารมณ์ ผมก็เลยถามใน คห ๔๐ ว่า "๓. ในหมายตามกระทู้นี้ ที่ระบุว่า "หมายมายังผู้ครอบครอง หรือเจ้าของรถ" และ "ให้(ผู้ครอยครอง, เจ้าของ) หรือผู้ขับขี่ ไปพบพนักงานสอบสวน นั้น ถือว่าเป็นการระบุ "ชื่อ" ผู้รับหมาย ตาม"เจตนารมณ์" ของมาตรา ๕๓ (๓) ของวิอาญา แล้วหรือยังครับ"
คุณนทีมาตอบใน คห ๔๒ ว่า "ส่วนการไม่ระบุชื่อ ดูแล้วคลุมเครือ
สรุปแล้วพยายามแถจนได้ "
ผมไม่แถหรอกครับ แต่เป็นคนช่างสังเกต ละเอียดรอบคอบ และชอบคิดโดยมีเหตุผลทางกฎหมายเป็นหลักเสมอครับ
ว่าแต่คุณนทีมีความเห็นอย่างไรล่ะครับ
๓. คุณนทีใน คห ๔๐ ระบุว่า "ตาม คห.39 ไม่ทราบว่าท่านจะพยายามเข้าใจผิดอะไรหรือเปล่า ภาพตามหมายก็ไม่ได้เขียนว่า "เปรียบเทียบปรับ" แต่เขียนว่า "อัตราค่าปรับ" ครับ ซึ่งมันคนละเรื่องกันครับ"
ผมก็ต้องตามมาแก้ใน คห ๔๓ ว่า"ผมไม่ได้บอกว่าเป็นการ"เปรียบเทียบปรับ" และไม้เคยใช้คำนี้มาก่อนด้วย กรุณาตรวจสอบโดยละเอียดอีกครั้งครับ "
สรุป คุณนทีมั่วเองใช่ไหมครับ
๔. คุณนที ใน คห ๔๐ ระบุว่า "ส่วน "อายัดทะเบียน" ผมได้พยายามหา ข้อความที่ปรากฎตามภาพที่ จขกท.ได้ถ่ายมาก็ไม่พบมีตรงไหนที่เขา เขียนว่า"จะอายัดทะเบียน"นี่เลยครับ แล้วจะให้บอกว่า จนท.กระทำไปตามอำเภอใจตรงไหนมิทราบ ครับ "
ผมก็ต้องตามมาชี้ให้ดูใน คห ๔๓ ว่า มันมีอยู่ตรงนี้นะจ๊ะ "๒. ท่านกรุณาตรวจสอบ ข้อความที่พิม์ด้วยหมึกสีแดง ล้อมกรอบสีดำ มุมขวา ด้านบน ในหน้าแรกของหมาย ตามที่ปรากฏในภาพแรก ในกระทู้นี้ นะครับ น่าจะพบคำว่า"อายัดทะเบียนรถ"ในนั้นบ้างมั้ง อิอิ "
ผมแถหรือเปล่าครับ
เฮ้ออออออ
จากคุณ |
:
ยอดชาย
|
เขียนเมื่อ |
:
29 มี.ค. 53 10:41:45
A:203.114.122.25 X: TicketID:238745
|
|
|
|
|