|
ความคิดเห็นที่ 7 |
ขอบพระคุณทุกท่านครับ
ตอบคุณอินคานะครับ...
เลขไมล์น้อยหรือเยอะ มีผลแน่นอนครับ ในวงการของคนทำธุรกิจประเภทนี้
1. ในแง่ของจิตวิทยานะครับ คนทุกคนอยากได้รถที่เจ้าของเดิมใช้น้อยๆ เพราะคิดว่า รถไม่ช้ำ.
2. ในแง่ของการตลาด ตามหลักสากลแล้ว ไมล์น้อยจะขายได้ราคากว่าไมล์ที่วิ่งเยอะ (โดยเฉลี่ยตามมาตรฐาน จะถูกกำหนดไว้ว่า 15,000 กม.ต่อปี ถือว่าเป็นการใช้งานตามปกติ) มากกว่านี้ ถือว่าวิ่งเยอะ ในต่างประเทศ หากว่ารถที่เจ้าของนำมาขาย เป็นวิ่งที่วิ่งเกินเกณฑ์มาตรฐาน จะโดนกดราคาอย่างมหาโหดเลยเชียว(เช่นในประเทศ AUSTRALIA).
**แต่ในหลักความเป็นจริงนั้น รถที่วิ่งน้อย บางครั้งใช่จะดีนะครับ โดยเฉพาะการวิ่งในเมือง ที่เรียกกันว่า START & STOP เพราะรถจำพวกนี้ จะสึกหลอค่อนข้างสูงกว่ารถที่วิ่งยาวๆ ตัวอย่างเช่น การวิ่งขึ้นเหนือล่องใต้ หรือวิ่งข้ามจังหวัด.
แต่คนส่วนใหญ่ มักจะมองว่า รถที่วิ่งมาเยอะนั้น สมบุก สมบัน อะไหล่ต่างๆคงสึกหล่อไปมากแล้ว แล้วถ้ามันตกมาอยู่ในมือเขา เขาคงต้องมีค่าใช้จ่ายตามมาอีกเยอะ ที่จะต้องซ่อมบำรุง......ก็อย่างที่ผมบอก ในแง่ของจิตวิทยาแล้ว คนจำนวนไม่น้อย คิดว่า รถที่วิ่งน้อย ก็คงจะใช้ได้อีกนาน กว่าจะเปลี่ยนอะไหล่จำเป็นต่างๆ รวมทั้งอะไหล่สึกหล่อตามอายุการใช้งานของมัน.
ผมเคยขาย VOLVO อยู่คันนึง เมื่อสมัย 3 ปีที่แล้ว รถวิ่ง 3 แสนกว่ากิโลเมตร สภาพโดยรวมดีมากๆ โครงสร้างก็สวย ประวัติการซ่อมบำรุงดีเยี่ยม เพื่อนๆในวงการเตือนว่า โห วิ่ง 3 แสนกว่าแล้ว ขายยากแน่นอน นอกเสียแต่ว่า ต้องกรอไมล์.
ผมบอกว่า ทำไมต้องกรอ ก็ในเมื่อเจ้าของเดิมเขา SERVICED อย่างเสมอสม่ำ รถเข้าศูนย์ตลอด มีใครบ้าง(ว่ะ)ที่จะไม่ซื้อ (ขอโทษที่พูดไม่สุภาพอีกแล้ว) รถยกเกียร์มาใหม่ๆเลย(โห ใช้ได้อีกนานเลยนะนั่น) อะไหล่สึกหล่อสำคัญต่างๆ เปลี่ยนมาแทบจะทุกชิ้น(เป็นรถผู้บริหารครับ ซ่อมถึงจริงๆ ยอมรับเลย)
แต่สุดท้าย อยู่กับผมเป็นปี ขายไม่ออก ตัดใจขายขาดทุนก็แล้ว ก็ยังไม่ไป (แต่รถขับดีเยี่ยมเลยนะครับ ผมยอมรับเลย) จนแล้วจนรอด เพื่อนที่เป็นพ่อค้าด้วยกัน เขามาขอตัดไป ด้วยเหตุผลว่า จะเอาไปใช้เอง แต่ผมมารู้ตอนหลังว่า เขาขับไปขายไป กรอไมล์เหลือ 80,000 กม. อยู่กับเขาประมาณ ไม่ถึง3 อาทิตย์ ก็ขายได้.
คนซื้อก็ไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรเลย รู้แต่ว่า โอเค ขับแล้ว HAPPY ก็ซื้อไป....จบ!(เห็นเขาว่า มีนายหน้ามาช่วยยุด้วย ประมาณนั้น)
แต่ผมจะบอกเพิ่มเติมอีกนิดนะครับว่า สมัยนี้เทคโนโลยีมันไปไกลแล้ว ถ้าจะเช็คกันจริงๆ มันเช็คได้ เพราะข้อมูลมันออนไลน์กันหมด.
แต่ที่ผมไม่ทำเหมือนคนอื่นๆ (เรื่องกรอไมล์) เพราะมันไม่ใช่วิถีทางของผม ผมได้รับแรงบันดาลใจมาจากละครเรื่องนึงที่ชื่อว่า รอดลายมังกร ที่อาเหลียงเป็นคนต้นเรื่อง แสดงนำ ผมชอบที่แกเป็นคนซื่อสัตย์ ยุติธรรม ไม่เอาเปรียบใคร ได้เป็นได้ เสียเป็นเสีย การรักษาคำพูดของแกเป็นเรื่องใหญ่มากสำหรับลูกผู้ชายคนนึง!
สมัยก่อนตอนเป็นวัยรุ่น ผมก็เกเร เลวเลยแหล่ะ แต่ผมก็คิดได้ว่า ชีวิตคนๆนึง โตมาได้ถึงขนาดนี้แล้ว มันถึงเวลาแล้วที่จะต้องปรับตัว สร้างความภูมิใจให้กับพ่อแม่ และคนที่เรารักทุกคน รวมทั้งตัวเราด้วย!
เงินทองมันก็สำคัญนะ ในการดำรงชีวิต แต่เงินที่เราได้มา ถ้ามันไม่บริสุทธิ์ สู้ไม่มีซะยังดีกว่า "ถ้าทำดีแล้วมันไม่ได้ดี ก็ให้มันรู้กันไป"
***ขอโทษที่ร่ายยาวอีกแล้ว...ก็ผมบอกแล้วไงครับ ว่าเป็นการเล่าสู่กันฟัง***
จากคุณ |
:
TU_SUNSET
|
เขียนเมื่อ |
:
7 เม.ย. 53 20:28:38
|
|
|
|
|