ความคิดเห็นที่ 1   ผมใช้งานคันนี้ไปแล้วประมาณ 7,000 กม. (เข็มไมล์อยู่ที่ 80,500 กม.) ในช่วงเวลาประมาณ 6 เดือนที่ผ่านมา รูปรถภายนอกโดยรวมครับ จากคุณ : นางฟ้าแก้มบุ๋ม (นางฟ้าแก้มบุ๋ม) เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 10:15:03

ความคิดเห็นที่ 2   รูปไม่ขึ้นแหะ ... เอาใหม่อีกที จากคุณ : นางฟ้าแก้มบุ๋ม (นางฟ้าแก้มบุ๋ม) เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 10:21:27

ความคิดเห็นที่ 3   รูปภายนอกอีกมุมหนึ่ง จากคุณ : นางฟ้าแก้มบุ๋ม (นางฟ้าแก้มบุ๋ม) เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 10:22:31

ความคิดเห็นที่ 4   ไฟหน้าซีนอนปรับระดับสูงต่ำอัตโนมัติ ไฟฮาโลเจนสำหรับไฟหรี่และไฟสูง ไฟตัดหมอกทั้งหน้าและหลัง (ยังไม่เคยได้ใช้จริงเลยสักที) จากคุณ : นางฟ้าแก้มบุ๋ม (นางฟ้าแก้มบุ๋ม) เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 10:23:50

ความคิดเห็นที่ 5   ไฟท้าย พร้อมด้วยเซ็นเซอร์ถอยหลัง 4 ตัว (ปุ่มกลมๆดำๆเหนือปลายท่อไอเสีย) และปลายท่อไอเสียแบบเพลนๆที่น่าจะขัดใจใครหลายคน (ดีว่าผมไม่ค่อยอะไร เซฟตังค์ไปครับ) จากคุณ : นางฟ้าแก้มบุ๋ม (นางฟ้าแก้มบุ๋ม) เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 10:25:02

ความคิดเห็นที่ 6   อันนี้เป็นไฟเบรคดวงที่สาม อยู่ตรงขอบบนของกระจกหลังครับ พร้อมด้วยครีบเสาอากาศ จากคุณ : นางฟ้าแก้มบุ๋ม (นางฟ้าแก้มบุ๋ม) เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 10:26:37

ความคิดเห็นที่ 7   ยาง 215/55R16 พร้อมกับแม็กเดิมๆ (รึเปล่า ?) น็อตยึดล้อจะมีอยู่หนึ่งตัวที่ต้องใช้หัวบล็อคพิเศษของบีเอ็มฯโดยเฉพาะ (ตามคู่มือบอก) ไม่แน่ใจว่าร้านยางทั่วๆไปจะถอดได้มั้ย แต่หัวบล็อคตัวนี้จะมีติดรถมาให้อยู่แล้ว จากคุณ : นางฟ้าแก้มบุ๋ม (นางฟ้าแก้มบุ๋ม) เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 10:28:23

ความคิดเห็นที่ 8   รุ่นนี้เป็นรุ่น minor change นิยมเรียกกันว่า รุ่นตายก ข้อมูลด้านล่างนี้มาจากคู่มือรถนะครับ • เครื่องรหัส N42 แบบ 4 สูบ 1995cc   • น้ำหนักรถ + น้ำมัน 80% ไม่รวมอุปกรณ์เพิ่มเติม หนัก 1350 กิโลกรัม • 143 แรงม้าที่ 6000 rpm • แรงบิดสูงสุด 200 N-m ที่ 3750 rpm • อัตราเร่ง จาก 0 – 100 อยู่ที่ 10.2 วินาที (ไม่เคยลองครับ) • ความเร็วสูงสุด 214 กม./ชม. (นี่ยิ่งไม่เคยลอง และไม่อยากลอง ...) • ความจุถังน้ำมัน (รวมปริมาณสำรอง 8 ลิตร) = 63 ลิตร • ปริมาณน้ำมันเครื่อง = 4.25 ลิตร • ปริมาณน้ำของระบบหล่อเย็น = 7 ลิตร • อัตราการกินน้ำมัน (อันนี้จากการใช้งานจริงครับ) วิ่งในเมือง ความเร็วในช่วง 60-90 เฉลี่ยได้ประมาณ 7.5-7.9 กม./ลิตร (ผมขับเรื่อยๆ ไม่ค่อยคิกดาวน์ครับ) ขับต่างจังหวัดล่าสุดช่วงสงกรานต์ไปแถวๆเขาใหญ่ ความเร็วในช่วง 100-120 นั่ง 5 คน (ช 1 ญ 4) ทำได้ 11.8 กม./ลิตร • น้ำมันเกรดต่ำสุดที่ใช้ได้คือ 91 (ตามคู่มือ) เห็นหลายคนใช้แก๊สโซฮอล์ 95 ก็ว่าใช้ได้ดีไม่มีปัญหา ส่วนคันนี้ผมใช้น้อยจึงเติมเบนซิน 95 ถ้าหาไม่ได้จริงๆก็จะเติมเบนซิน 91 ครับ จากคุณ : นางฟ้าแก้มบุ๋ม (นางฟ้าแก้มบุ๋ม) เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 10:31:05

ความคิดเห็นที่ 9   มาดูคอกม้ากันครับ จุดสีแดงๆเล็กๆทางขวามือคือก้านเช็คระดับน้ำมันเครื่องครับ  ไม่มีก้านเช็คระดับน้ำมันเกียร์นะครับ (เห็นช่างบอกว่าเป็นปกติของบีเอ็ม ... อือมม แปลกดี) ต้องสังเกตเอาเองว่ามีอะไรหยดๆใต้ท้องเครื่องป่าว (คงดีกว่ารอจนมีสัญญาณอะไรเตือนบนหน้าจอน่ะผมว่า)  ชิ้นส่วนหลายๆอย่างเช่น กรองอากาศ กระปุกน้ำมันเพาว์เวอร์ ถูกแผงสีดำที่มีตราบีเอ็มฯบังอยู่ จะเช็คพวกนี้ต้องถอดแผงนี้ออก ... ยังดีว่าที่เติมน้ำหม้อน้ำไม่ได้โดนบังด้วยแผงอันนี้ (ฝาวงกลมสีดำทางล่างขวาของแผงนี้ คือที่เติมน้ำหม้อน้ำครับ ซึ่งก็คือส่วนปากของกระปุกพักน้ำหม้อน้ำนั่นเอง) กล่องขาวๆทางซ้าย คือกระปุกน้ำฉีดกระจกมีมอเตอร์ฉีดน้ำอยู่ข้างๆ คันนี้ผมเพิ่งเปลี่ยนตัวมอเตอร์ฉีดน้ำปัดน้ำฝนไปหลังจากที่ซื้อมาได้หนึ่งอาทิตย์ เนื่องจากมันรั่ว เห็นช่างบอกว่ารั่วเป็นประจำ เพราะมันอยู่ใกล้เครื่อง ความร้อนมันสูง จากคุณ : นางฟ้าแก้มบุ๋ม (นางฟ้าแก้มบุ๋ม) เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 10:32:33

ความคิดเห็นที่ 10   อันนี้เป็นกระจกข้างปรับไฟฟ้า รุ่นนี้ไม่มีไฟเลี้ยวติดมานะครับ กระจกมองข้างทั้งสองข้างจะมีส่วนกระจกนูนอยู่ที่ขอบด้านนอกซึ่งช่วยสะท้อนภาพในมุมที่กว้างขึ้น ตอนขับใหม่ๆ ดูแล้วตาลายเล็กน้อย ตอนนี้ชินแล้วก็โอเคครับ กระจกข้างซ้าย จะหมุนต่ำลงมาอัตโนมัติเมื่อเข้าเกียร์ถอยหลัง สำหรับคันนี้มันจะหมุนลงมามากเกินไปจนมองเห็นแต่พื้นถนนด้านล่างและมองไม่เห็นด้านข้างซ้าย (มันคงจะเซตได้ว่าจะให้หมุนต่ำมากน้อยแค่ไหน ไม่แน่ใจว่าทำเองได้ไหมหรือต้องเข้าศูนย์ให้ช่างเซต อย่างไรก็ตามส่วนตัวไม่ค่อยชินกับระบบนี้ จึงปิดมันทิ้งไปครับ) จากคุณ : นางฟ้าแก้มบุ๋ม (นางฟ้าแก้มบุ๋ม) เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 10:38:09

ความคิดเห็นที่ 11   กระจกข้างตอนพับเก็บครับ ... ดูพี่เค้าไม่ค่อยอยากให้พับกระจกยังไงก็ไม่รู้นะผมว่า มันพับแล้วดูไม่สุดชอบกล ... ยิ่งรุ่นใหม่ๆนี่ พับแล้วแหงนชี้ฟ้าขึ้นไปอีก ... อือมม บีเอ็มฯ จากคุณ : นางฟ้าแก้มบุ๋ม (นางฟ้าแก้มบุ๋ม) เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 10:39:47

ความคิดเห็นที่ 12   ขอบกระจกประตูครับ อันนี้เจ้าของเดิมคงไปทำมาใหม่ เข้าใจว่าเดิมๆสำหรับ 318 จะไม่ใช่ขอบโลหะสีเงินๆแบบนี้ แต่จะเป็นพลาสติกสีดำ ซึ่งที่ผมไปดูมาหลายคันก่อนหน้าที่จะซื้อคันนี้แล้วแทบจะเปลี่ยนไปซื้อยี่ห้ออื่น สภาพมันดูแย่มากๆครับ และทุกคันที่ดูมาจะเหมือนกันอย่างหนึ่งคือขอบกระจกที่เป็นพลาสติคสีดำ (คือส่วนที่เป็นโลหะสีเงินโค้งๆในรูปคันนี้นะครับ) จะมีจุดที่พลาสติคแตกหลุดออกมาอยู่จุดหนึ่งทุกคันเลย ซึ่งจะอยู่ตรงกระจกประตูหลังครับ ไม่แน่ใจว่าเพราะมันเป็นจุดต่อหรืออะไร ส่วนยางขอบกระจกก็จะดูแบะๆเบี้ยวๆไม่ลงตัว สำหรับวัสดุส่วนนี้ของบีเอ็มฯ ผมให้ศูนย์คะแนนครับ ... ลองสังเกตดูจากคันอื่นๆละกันนะครับ แต่ถ้าเป็นรุ่นที่เป็นเครื่อง 6 สูบขึ้นไป เข้าใจว่าขอบส่วนนี้จะเป็นโลหะเงินๆแบบนี้มาเลย ... ยอมรับเลยครับว่า เห็นคันนี้แล้วชอบตั้งแต่แรกเพราะเจ้าขอบกระจกสีเงินนี่ล่ะ มันดูตัดกับพื้นรถสีดำได้ดีทีเดียว จากคุณ : นางฟ้าแก้มบุ๋ม (นางฟ้าแก้มบุ๋ม) เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 10:41:37

ความคิดเห็นที่ 13   มาดูท้ายกันบ้างครับ ไม่ค่อยกว้างเท่าไหร่ แต่ก็พอจะใส่ถุงกอล์ฟได้พอดีๆในมุมเอียงๆดังรูป จากคุณ : นางฟ้าแก้มบุ๋ม (นางฟ้าแก้มบุ๋ม) เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 10:43:07

ความคิดเห็นที่ 14 เป็น ​ซีรีย์ 3 ที่สวยอมตะมากๆๆๆ แล้วยิ่งเทียบกับราคาที่ตกลงมายิ่งน่าเล่นมากๆ ตัวนี้ จากคุณ : BIZZARE เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 10:44:28

ความคิดเห็นที่ 15   ยางอะไหล่พร้อมทั้งแม่แรงถูกซ่อนอยู่ด้านล่างตามปกติ ส่วนแบตเตอรี่จะอยู่ทางขวาของล้ออะไหล่ ที่มีผ้าขาวๆทับอยู่น่ะครับ ผมไม่ได้เปิดออกมาถ่ายรูป ส่วนช่องใส่ซีดีจะอยู่ทางซ้าย มีฝาปิดเรียบร้อย จากคุณ : นางฟ้าแก้มบุ๋ม (นางฟ้าแก้มบุ๋ม) เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 10:45:16

ความคิดเห็นที่ 16   อันนี้เป็นช่องใส่ซีดี ได้ 6 แผ่นครับ ต้องโหลดที่นี่ที่เดียว ไม่สามารถไปโหลดแผ่นตรงคอนโซลกลางภายในรถได้ จากคุณ : นางฟ้าแก้มบุ๋ม (นางฟ้าแก้มบุ๋ม) เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 10:46:15

ความคิดเห็นที่ 17 กด F5 รัวๆ จากคุณ : pinestand เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 10:47:04

ความคิดเห็นที่ 18 ปาดนิดนึงครับ จากคุณ : ทำใจนิ่งๆ เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 10:47:12

ความคิดเห็นที่ 19   ตรงฝากระโปรงหลังจะมีช่องเก็บอุปกรณ์ช่างพวกไขขวง ประแจ หูลากรถ ฯลฯ จากคุณ : นางฟ้าแก้มบุ๋ม (นางฟ้าแก้มบุ๋ม) เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 10:47:37

ความคิดเห็นที่ 20   ไปดูภายในกันดีกว่าครับ เปิดประตูกันก่อนเลย คันนี้ภายในเป็นสีเทา พร้อมด้วยลายไม้ตามสมัยนิยม ... พูดถึงลายไม้ ไปดูหลายคันก่อนหน้านี้เป็นรุ่นธรรมดาซึ่งลายไม้จะกลายเป็นพลาสติคสีเทา ดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ผมให้ศูนย์คะแนนอีกแล้วครับ สำหรับวัสดุตกแต่งภายในของบีเอ็มฯ(รุ่นธรรมดา) แต่เคยเห็นบางคนก็ว่าชอบแบบธรรมดา ก็ว่ากันไปครับ จากคุณ : นางฟ้าแก้มบุ๋ม (นางฟ้าแก้มบุ๋ม) เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 10:48:35

ความคิดเห็นที่ 21   ที่กันรอยตรงขอบประตู พลาสติคสีดำเรียบๆ คล้ายกันทั้งหน้าและหลัง จากคุณ : นางฟ้าแก้มบุ๋ม (นางฟ้าแก้มบุ๋ม) เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 10:49:43

ความคิดเห็นที่ 22   รูปโดยรวมแผงคอนโซลกลาง และพวงมาลัย จากคุณ : นางฟ้าแก้มบุ๋ม (นางฟ้าแก้มบุ๋ม) เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 10:50:32

ความคิดเห็นที่ 23   รูปแผงคอนโซลกลางแบบเดิมๆ มีช่องใส่เทปคาสเซทมาให้ แต่ไม่มีช่องเสียบสำหรับต่อเครื่องเล่น MP3 เล่นซีดีได้ 6 แผ่น (โหลดที่ท้ายรถ) แต่เล่นแผ่น MP3 ไม่ได้ ปกติผมใช้ cassette adapter มาต่อกะพวกเครื่องเล่น MP3 เอาเอง ระบบเครื่องเสียงแบบปรับระดับความดังของเสียงอัตโนมัติตามความเร็วรถที่วิ่งในขณะนั้น ระบบเสียงสำหรับผมโอเคครับ ไม่ได้รู้สึกว่าแย่อะไร แต่บางคนอาจจะอยากเปลี่ยนใหม่ จากคุณ : นางฟ้าแก้มบุ๋ม (นางฟ้าแก้มบุ๋ม) เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 10:52:09

ความคิดเห็นที่ 24 ปรับกระจกมองข้างเวลาถอยหลัง ให้เข้าเกียถอยหลังแล้วปรับครับ จากคุณ : ผ่านมาเห็น เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 10:52:42

ความคิดเห็นที่ 25   #24 -> ขอบคุณมากครับ เดี๋ยวจะไปลองดู :) แอร์เป็นแบบดิจิตอล พร้อมปุ่มปรับทิศทางการจ่ายลม สำหรับคันนี้พอปรับแอร์ให้จ่ายไปทางอื่นที่ไม่ใช่เป่าออกมาด้านหน้าตรงๆ ความแรงลมจะลดลงอย่างมาก อาจจะเป็นได้ว่าช่องแอร์อาจตัน รั่ว ฯลฯ แอร์เป่าเท้านี่แทบไม่รู้สึกว่ามีลมออกมา ลมเบามาก แต่ไม่เป็นไรครับ ปกติก็เปิดให้เป่าตรงอยู่แล้ว ไว้มีปํญหาค่อยไปซ่อมทีเดียว ... จะว่าไปรู้สึกว่าแอร์รถญี่ปุ่นจะเย็นเร็วกว่าอย่างรู้สึกได้ จากคุณ : นางฟ้าแก้มบุ๋ม (นางฟ้าแก้มบุ๋ม) เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 10:55:10

ความคิดเห็นที่ 26   พวงมาลัยแบบสปอร์ตสามก้านพร้อมปุ่มควบคุมมัลติฟังก์ชัน เหมือนกับรถรุ่นใหม่ๆทั่วไป ปุ่มควบคุมวิทยุ (ทางซ้าย) และปุ่ม cruise control ทางขวามือ แตรของรุ่นนี้สำหรับผมแล้วรู้สึกว่าค่อนข้างแข็งและกดยาก (ปกติผมจะใช้นิ้วโป้งเอื้อมไปกด) เมื่อเทียบกะรถคันอื่นๆที่เคยขับมา คันนี้ผมต้องใช้ทั้งฝ่ามือมากด (นิ้วเอื้อมไปไม่ค่อยถึง) แต่ตอนนี้ก็ชินและปรับตัวได้ครับ พวงมาลัยสามารถปรับระดับสูงต่ำ และเข้าใกล้หรือออกห่างจากตัวผู้ขับขี่ได้ โดยจะมีตัวล็อคอยู่ด้านใต้ของพวงมาลัยครับ แผงหน้าปัด ที่โชว์มาตรวัดและสัญญาณเตือนต่างๆ พร้อมทั้งอัตราการกินน้ำมัน (ลิตร/100 กม.) แสงไฟบนหน้าปัดเป็นสีส้มทั้งหมดเวลาเปิดไฟหน้า ตามสไตล์บีเอ็มฯ จากคุณ : นางฟ้าแก้มบุ๋ม (นางฟ้าแก้มบุ๋ม) เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 10:56:25

ความคิดเห็นที่ 27   ก้านทางซ้ายของพวงมาลัย เป็นก้านไฟเลี้ยว/ไฟสูง พร้อมด้วยปุ่ม OBC (on-board computer) ซึ่งใช้สำหรับเลือกการแสดงผลต่างๆบนหน้าปัด (อุณหภูมิ ความเร็วเฉลี่ย การกินน้ำมัน ฯลฯ) จากคุณ : นางฟ้าแก้มบุ๋ม (นางฟ้าแก้มบุ๋ม) เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 10:58:31

ความคิดเห็นที่ 28   ส่วนอันขวาเป็นที่เปิดปัดน้ำฝนแบบแบบหน่วงเวลา พร้อมทั้งเซ็นเซอร์วัดน้ำฝน (อยู่ที่กระจกหน้า) เพื่อปรับความเร็วในการปัดแบบอัตโนมัติ จากคุณ : นางฟ้าแก้มบุ๋ม (นางฟ้าแก้มบุ๋ม) เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 10:59:18

ความคิดเห็นที่ 29   อันนี้เป็นรูปเซ็นเซอร์วัดน้ำฝน ติดตั้งอยู่ที่กระจกหน้ารถครับ จากคุณ : นางฟ้าแก้มบุ๋ม (นางฟ้าแก้มบุ๋ม) เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 11:00:13

ความคิดเห็นที่ 30   ระบบเกียร์อัตโนมัติ พร้อมด้วย Steptronic สามารถขับขี่ในโหมดปกติ หรือเปลี่ยนเป็นโหมดสปอร์ต (S) โดยการผลักคันเกียร์ไปทางซ้ายในขณะที่เกียร์อยู่ที่ตำแหน่ง D หรือเป็นแบบแมนวล (M1 ถึง M5) ในขณะที่คันเกียร์อยู่ที่ต่ำแหน่ง S โดยการผลักลง (+) หรือผลักขึ้น (-)ได้ตามต้องการ ปกติผมวิ่ง D อย่างเดียว แต่เวลาใช้โหมด S รอบจะมาเร็วปรู๊ดปร๊าด พร้อมด้วยน้ำมันที่หายไปปรู๊ดปร๊าดเช่นกัน ปุ่มควบคุมกระจกประตูทั้งสี่บานรวมอยู่ตรงแถวๆคันเกียร์นี้ รวมทั้งปุ่มไฟฉุกเฉินและปุ่มล็อคประตูด้วย ประตูรถจะล็อคอัตโนมัติเมื่อรถวิ่งได้ความเร็วประมาณ 30 กม./ชม. รถเดิมๆ เวลาจอดต้องเข้า P อย่างเดียว ไม่งั้นเอากุญแจออกไม่ได้ อันนี้เป็นปัญหาเหมือนกันเวลาไปหาที่จอดตามห้างฯ ว่าจะไปให้อู่ปลดล็อคออกเหมือนกัน แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 53 12:14:30 จากคุณ : นางฟ้าแก้มบุ๋ม (นางฟ้าแก้มบุ๋ม) เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 11:01:26

ความคิดเห็นที่ 31   ตรงแผงดำๆด้านหลังคันเกียร์ในรูป ช่องล่างจะเป็นช่องเขี่ยบุหรี่ ส่วนช่องบนเป็นช่องเก็บของเล็กๆ (เล็กและตื้น ประมาณใส่มือถือได้แค่นั้น) ปุ่มเปิดปิดม่านบังแดดหลัง และปุ่มเปิดปิดระบบ DSC ซึ่งเป็นระบบช่วยรักษาเสถียรภาพของการขับขี่ในสถานการณ์วิกฤติ ซึ่งจะทำงานสัมพันธ์กับระบบควบคุมการทรงตัวแบบไดนามิค (DTC) และระบบควบคุมการเบรคขณะเข้าโค้ง (CBC) ... นี่เป็นคำอธิบายตามคู่มือรถครับ อ่านแล้วก็เลยเดาว่าระบบนี้ทำงานอัตโนมัติโดยช่วยควบคุมความเร็วและแรงเบรกของรถในบางสถานการณ์ที่อาจจะทำให้รถเสียการทรงตัว ส่วนตัวเคยเจอระบบนี้ทำงานตอนเข้าโค้ง แล้วถนนมันไม่เรียบมีเนินนูนๆ ช่วงที่ผ่านเนินนูนแล้วรู้สึกเหมือนล้อมันลอยในช่วงสั้นๆ ก็เห็นสัญญาณเตือนว่าระบบนี้ทำงาน จากคุณ : นางฟ้าแก้มบุ๋ม (นางฟ้าแก้มบุ๋ม) เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 11:03:12

ความคิดเห็นที่ 32   มาดูเรื่องของเบาะกันบ้าง เบาะหน้าทั้ง 2 ข้างปรับไฟฟ้า เบาะคนขับมีเมมโมรี่ 3 จุด สามารถบันทึกการตั้งค่าตำแหน่งที่นั่ง และกระจกมองข้างได้ จากคุณ : นางฟ้าแก้มบุ๋ม (นางฟ้าแก้มบุ๋ม) เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 11:04:49

ความคิดเห็นที่ 33   เบาะหน้าด้านข้างคนขับมีชุดปฐมพยาบาลเบื้องต้นเก็บอยู่ด้านใต้เบาะ อัดมาซะแน่นเลย ไว้ต้องลองดูจริงๆจังๆสักทีว่ามีอะไรบ้าง จากคุณ : นางฟ้าแก้มบุ๋ม (นางฟ้าแก้มบุ๋ม) เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 11:05:58

ความคิดเห็นที่ 34   เบาะหลัง พร้อมที่ท้าวแขน ไม่มีที่วางแก้วน้ำ มีม่านบังแดดหลังเปิดปิดด้วยไฟฟ้า เบาะหลังไม่สามารถพับได้ (แอบเสียดายเล็กๆ)  สำหรับเบาะหลัง ผู้หญิงนั่งสามคนสบายๆ แต่ถ้าเป็นผู้ชายสามคนน่าจะเบียดๆหน่อย จากคุณ : นางฟ้าแก้มบุ๋ม (นางฟ้าแก้มบุ๋ม) เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 11:07:13

ความคิดเห็นที่ 35   ช่องว่างระหว่างเข่ากับเบาะหน้ากว้างสบายๆสำหรับคนสูง 170 จากคุณ : นางฟ้าแก้มบุ๋ม (นางฟ้าแก้มบุ๋ม) เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 11:09:08

ความคิดเห็นที่ 36   มาดูช่องเก็บของกันบ้าง เริ่มด้วยช่องเก็บของตรงที่นั่งด้านหน้าซ้าย ช่องเล็กใส่ของจุกจิกได้พอประมาณ จากคุณ : นางฟ้าแก้มบุ๋ม (นางฟ้าแก้มบุ๋ม) เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 11:10:28

ความคิดเห็นที่ 37   อันนี้เป็นช่องเก็บของเล็กๆด้านคนขับ อยู่ใต้ปุ่มสวิทช์ไฟหน้า/ไฟตัดหมอก สังเกตว่าสีลอกง่ายมากๆ จากคุณ : นางฟ้าแก้มบุ๋ม (นางฟ้าแก้มบุ๋ม) เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 11:13:47

ความคิดเห็นที่ 38   ช่องเก็บของที่ประตู พอใส่ของชิ้นเล็กๆแบนๆได้ ในรูปเป็นประตูด้านคนขับ พร้อมปุ่มปรับกระจกมองข้าง (ปุ่มสี่เหลี่ยมสีดำเล็กๆอันบนเป็นปุ่มเลือกซ้ายขวา ปุ่มรูปทรงปิรามิดเป็นตัวปรับทิศทางกระจก) และปุ่มพับกระจกมองข้าง (ปุ่มสี่เหลี่ยมเล็กๆอันล่าง) จากคุณ : นางฟ้าแก้มบุ๋ม (นางฟ้าแก้มบุ๋ม) เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 11:14:39

ความคิดเห็นที่ 39   อันนี้เป็นช่องเก็บของตรงคอนโซลกลาง เปิดที่วางแขนขึ้นไปก็จะเจอช่องเล็กช่องน้อยเต็มไปหมด แต่ไม่มีที่วางแก้ว ส่วนตัวเห็นว่าแทบเก็บอะไรไม่ได้เป็นชิ้นเป็นอันเลย เพราะซอยจนเล็กไปหมด ชอบแบบใหญ่ๆอันเดียวเลยจะเก็บอะไรได้มากกว่าสำหรับผม จากคุณ : นางฟ้าแก้มบุ๋ม (นางฟ้าแก้มบุ๋ม) เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 11:15:53

ความคิดเห็นที่ 40   อันนี้เป็นที่วางแขนของคนขับ จากตำแหน่งเบาะในการขับของผม ที่วางแขนมันอยู่เยื้องด้านหลังไปหน่อย วางแขนไม่ค่อยถึงเวลาที่จับพวงมาลัย สีดำๆในรูปเปิดออกมาจะเป็นที่เขี่ยบุหรี่สำหรับคนนั่งหลัง สังเกตว่าบางส่วนสีลอกง่ายมากๆ อีกแล้วครับ ไม่มีช่องแอร์สำหรับคนนั่งหลัง จากคุณ : นางฟ้าแก้มบุ๋ม (นางฟ้าแก้มบุ๋ม) เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 11:17:01

ความคิดเห็นที่ 41   อันนี้เป็นรูปกุญแจรีโมท มีปุ่มเปิดล็อคประตู (ปุ่มที่ใกล้กับกุญแจโลหะ) ปุ่มล็อคประตู (ตรงกลางที่มีตราบีเอ็มฯ) และ ปุ่มเปิดฝากระโปรงท้าย (ล่างสุด) อันขวาที่เป็นซองหนังเป็นอันดั้งเดิมมากับรถ อันซ้ายเป็นของเทียมทำใหม่ เนื่องจากซื้อรถมามีกุญแจให้แค่ดอกเดียว ... กุญแจเป็นระบบอิมโมฯเหมือนรถสมัยใหม่ทั่วๆไป เข้าใจว่ามีฟังก์ชันหลายอย่างสามารถเซ็ตไว้ในกุญแจได้ แต่ต้องไปให้ศูนย์ทำให้ ปุ่มเปิดล็อคประตู (ปุ่มที่ใกล้กับก้านกุญแจโลหะ) ถ้ากดค้างไว้ จะสามารถเปิดกระจกประตูได้ทั้งสี่บาน จากคุณ : นางฟ้าแก้มบุ๋ม (นางฟ้าแก้มบุ๋ม) เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 11:17:55

ความคิดเห็นที่ 42   พูดถึงเรื่องสมรรถนะการขับขี่ คันนี้ให้ฟีลลิ่งการขับขี่ตามสไตล์รถยุโรป เกาะถนนดี เข้าโค้งแล้วรู้สึกนิ่ง มั่นใจ จะว่าไปในเรื่องของช่วงล่างหากเทียบกับ C180 (W202) ปี 1995 ที่เคยขับ ไม่ได้ให้ความรู้สึกว่าช่วงล่างของคันนี้จะดีกว่า ให้ความรู้สึกใกล้เคียงกัน (ทั้งที่รถใหม่กว่าเป็น 10 ปี) แต่อาจจะเห็นความแตกต่างมากขึ้นในช่วงความเร็วสูงๆก็เป็นไปได้ ซึ่งเกินขอบเขตการขับขี่ของผม การเร่งแซงทำได้ดีตามลักษณะการขับขี่ของผม การขับขี่โดยรวมสมกับสโลแกนของบีเอ็มฯครับ “Joy is BMW” เป็นรถคันแรกที่ทำให้ผมรู้สึกตั้งตารอที่จะได้ขับ (ปกติใช้แค่เสาร์อาทิตย์) และยังคงรู้สึกเช่นนี้อยู่แม้ว่าจะผ่านมาประมาณ 6 เดือนแล้วก็ตามครับ คิดว่าเข้าใจแล้วครับที่คนเขาบอกกันว่า “ขับสนุก” มันเป็นยังไง โครงรถออกแบบมาดีไม่รู้สึกว่ามีอะไรบดบังสายตาเวลาขับขี่ทั้งเดินหน้าและถอยหลัง ภายในห้องโดยสารกว้าง ไม่รู้สึกอึดอัด (สูง 170 หนัก 60) แต่มีเพื่อนคนนึงตัวใหญ่ สูงประมาณ 180 หนักเกือบ 100 กก. บอกว่าแคบ นั่งไม่สบายเท่าอัลติส  การเก็บเสียงภายในห้องโดยสารทำได้ดี เงียบ ตอนใช้ใหม่ๆคิดว่าแตรรถไม่ค่อยดัง แต่ปรากฏว่าเป็นเพราะเสียงมันไม่ค่อยลอดเข้ามาในห้องโดยสาร พวงมาลัยนิ่ง และให้ฟีลลิ่งของผิวถนนได้มากกว่ารถคันเก่าๆที่เคยขับมา ใหม่ๆผมไม่ค่อยชิน รู้สึกเหมือนพวงมาลัยมันไวเกิน แต่ที่ความเร็วสูงๆพวงมาลัยนิ่งดี เรื่องของวงเลี้ยวเมื่อเทียบกับ W202 จะรู้สึกได้ว่าบีเอ็มฯคันนี้วงเลี้ยวกว้างกว่าอย่างเห็นได้ชัด ตอนใช้ใหม่ๆ ถอยเข้าซองต้องหมุนกันหลายรอบยังกะมือใหม่เลยทีเดียว เรื่องของถุงลม มีทั้งหมด 8 ใบ คือ ที่ประตูทั้ง 4 บาน ที่พวงมาลัย ที่คอนโซลหน้าด้านข้างคนขับ และที่เสาเอทั้งสองด้าน อันนี้เป็นปัจจัยหลักอีกอันหนึ่งที่เลือกซื้อคันนี้ แทนที่จะซื้ออัลติสหรือซีวิคป้ายแดง เพราะรู้สึกว่าจ่ายเงินเท่าๆกัน แต่ได้ความปลอดภัยมากกว่า จากคุณ : นางฟ้าแก้มบุ๋ม (นางฟ้าแก้มบุ๋ม) เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 11:19:32

ความคิดเห็นที่ 43   เรื่องของปัญหาจุกจิก หากหาข้อมูลในเว็บคลับบีเอ็มฯ จะมีคนกล่าวไว้ค่อนข้างมาก แต่โดยส่วนตัวเจอดังนี้คือ • กระจกตกราง อันนี้เห็นว่าเป็นกันหลายคัน ส่วนตัวตอนนี้กระจกด้านหน้าซ้ายเริ่มมีเสียงก๊อกแก๊กเวลาเปิดขึ้นลง คงจะงานเข้าในอีกไม่นาน แต่เห็นว่าค่าซ่อมไม่แพงมาก • เรื่องตู้แอร์รั่ว นี่ก็เห็นว่าเป็นกันเยอะ แต่โชคดีว่ารถคันนี้ เจ้าของเก่าเพิ่งเปลี่ยนตู้แอร์ใหม่ไป (จากการโทรสอบถามที่ศูนย์) • กระปุกพักน้ำหม้อน้ำรั่ว อันนี้ผมเพิ่งโดนมาสดๆร้อนๆหลังสงกรานต์นี่เอง เป็นรอยแตกยาวแนวดิ่งประมาณ 1 คืบ โชคดีไม่โดนตอนออกต่างจังหวัด ... อันนี้เห็นว่าเป็นกันหลายคันเช่นกัน แต่ลักษณะอาจต่างกัน บางคนอาจรั่วตรงรอยต่อ เป็นตามด ฯลฯ • แอร์ไม่เย็นตรงช่องลมกลาง(กลายเป็นลมค่อนข้างร้อน) แต่ด้านข้างเย็นปกติ อันนี้แรกๆ ผมเจอปัญหาเวลาที่ลืมปิดแอร์ก่อนที่จะดับเครื่อง เวลาสตาร์ตเครื่องใหม่แล้วคอมฯแอร์มันไม่ทำงาน เหมือนกับระบบไฟมันค้าง และมีบางครั้งเหมือนกันที่แม้จะปิดแอร์ก่อนดับเครื่อง พอมาสตาร์ตใหม่แอร์ก็ไม่ยอมทำงานอีก เกือบจะเอาไปให้ช่างดูหลายหนแล้ว แต่ปรากฏว่าหลังจากที่เปลี่ยนกระปุกพักน้ำหม้อน้ำไป อาการรวนของระบบแอร์หายเป็นปลิดทิ้งเลยครับ ไม่แน่ใจเหมือนกันว่ามันเกี่ยวข้องกันได้อย่างไร ไว้ว่าจะถามช่างดูอีกที แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 53 11:51:01 จากคุณ : นางฟ้าแก้มบุ๋ม (นางฟ้าแก้มบุ๋ม) เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 11:22:59

ความคิดเห็นที่ 44   เรื่องสุดท้ายที่จะกล่าวถึงคือเรื่องค่าบำรุงรักษา และค่าอะไหล่ต่างๆครับ ราคาที่แสดงด้านล่างนี้เป็นราคาอู่นอกนะครับ แต่เป็นอู่ที่ซ่อมบีเอ็มฯโดยเฉพาะ ใครมีข้อมูลราคาอื่นๆมาแชร์กันก็ยิ่งดีนะครับ เริ่มกันที่ค่าบำรุงรักษากันก่อน • น้ำมันเครื่อง (Castrol 0W-40 Full Synthetic) ลิตรละ 500 อู่เติมให้ 4.5 ลิตร (ตามคู่มือ 4.25 ลิตร ทำไมเติมเกินละนั่น) ช่างบอกใช้ได้ประมาณ 10,000 กม. กรองน้ำมันเครื่อง 300 บ. ค่าแรง 350 บ. • ถ่ายน้ำมันเกียร์ (Castrol Long Life) และน้ำมันเฟืองท้าย รวมเบ็ดเสร็จ โดนไป 8,759 บ. (กรองเกียร์ 1,350 ปะเก็นแคร็งเกียร์ 850 น้ำมันเกียร์ ลิตรละ 806 บ. ใช้ 6.5 ลิตร น้ำมันเฟืองท้าย ลิตรละ 350 บ. ใช้ 2 ลิตร น้ำมันล้างประกอบงาน 120 บ. ค่าแรง 500 บ.) ช่างบอกใช้ไปได้อีก 100,000 กม. ค่อยเปลี่ยนใหม่ • ถ่ายน้ำหม้อน้ำ น้ำยาหม้อน้ำ ขวดละ 342 บ. สกรูไล่ลมน้ำ ตัวละ 105 บ. ใช้ 2 ตัว ค่าแรง 200 บ. จากคุณ : นางฟ้าแก้มบุ๋ม (นางฟ้าแก้มบุ๋ม) เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 11:25:01

ความคิดเห็นที่ 45   และตามมาด้วยค่าซ่อม + ค่าอะไหล่ • ค่ากุญแจรีโมท 6,000 บ. สั่งศูนย์ประมาณ 10,000 และต้องรอเกือบเดือน (จำได้คร่าวๆ ไม่แน่ใจนัก แต่จำได้ว่ารอนาน) เพราะต้องส่งมาจากเยอรมัน หลังจากทำไปไม่นาน ก็ได้รับฟอร์เวิร์ดเมล์มาว่ามีช่างที่อื่น ทำได้ถูกกว่านี้อีกเยอะ ... ไม่ทันละ • แผงจิ้งหรีด (แผงยางตรงขอบด้านล่างติดกับกระจกหน้ารถ) ของเดิมมันเปื่อยกรอบมีรอยแหว่งไปหลายจุด ช่างบอกอาจทำให้น้ำรั่วซึมไปโดนตู้แอร์ .. เอ้า เปลี่ยน โดนไป 2,472 บ. • มอเตอร์ฉีดน้ำฝน (เคยไปซื้อของเทียมจากร้านอะไหล่ราคา 500 แต่ใส่แล้วไม่ทำงานเลยมาเปลี่ยนของแท้ที่อู่) อันนี้ 850 บ. • ค่าหูลากจูงรถ ของเดิมติดรถมันหายไป (อันนี้เบิกศูนย์) 1,153 บ. • กระปุกพักน้ำหม้อน้ำ โดนค่าอะไหล่ (ของแท้ รับประกัน 2 ปี 3,514 บ.) + ค่าแรง (นอกสถานที่ 400 บ.) เบ็ดเสร็จ 3,914 บ. ไม่แน่ใจว่าอายุการใช้งานของกระปุกตัวนี้ยาวนานแค่ไหน แต่ตัวที่รั่วมีสติกเกอร์ติดวันที่ 30/03/2003 ก็เท่ากับว่าอายุเจ็ดปีนิดๆ • หลังจากเปลี่ยนกระปุกพักน้ำ ก็นำรถไปใส่น้ำยาหม้อน้ำ เลยให้อู่ช่วยเช็คว่ามีท่ออะไรตรงไหนรั่วอีกไหม ปรากฏว่ามี ท่อน้ำบน (2,510 บ.) และ ท่อน้ำปั๊มน้ำ (1,226 บ.) มีคราบน้ำซึม เอาเข้าไป ... ระหว่างนั้น ช่างบอกว่ามีคราบน้ำมันเครื่องซึมแถวๆเครื่อง จึงทำการเปลี่ยน โอริงเซ็นเซอร์วาล์วโน้สเล็ก (68 บ. x 2 อัน) และ โอริงเซ็นเซอร์วาล์วโน้สใหญ่ (49 บ. x 2 อัน) ไปด้วยอีกงาน • ข้อนี้ถามช่างในอู่ หม้อน้ำ E46 ประมาณ 9,000 – 10,000 บ. (เข้าใจว่าเป็นราคาหม้อน้ำแท้ของบีเอ็มฯ) ... ล่าสุดคุยกะช่างตามร้านหม้อน้ำ เข้าใจว่า เดี๋ยวนี้สามารถใส่ฝาหม้อน้ำแบบอลูมิเนียมได้แล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้ฝาทองเหลือง ราคาประมาณข้างละ 1,500 บ. ส่วนตัวถ้าหม้อน้ำรั่วคงเปลี่ยนเป็นพวกนี้ เพราะว่าน่าจะหาร้านซ่อมได้ง่ายกว่าเวลาที่ออกต่างจังหวัด จากคุณ : นางฟ้าแก้มบุ๋ม (นางฟ้าแก้มบุ๋ม) เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 11:26:29

ความคิดเห็นที่ 46   โดยส่วนตัวเห็นว่า รถรุ่นนี้เป็นรถที่น่าใช้ เมื่อพิจารณาถึงสมรรถนะ ความปลอดภัย และราคาในตอนนี้ซึ่งสูสีกับรถญี่ปุ่นป้ายแดงขนาดกลาง รูปร่างหน้าตาออกแบบได้สวยลงตัวทั้งหน้าและหลัง ค่าบำรุงรักษาและค่าอะไหล่ หากใช้บริการอู่นอกก็ประหยัดไปได้เยอะครับ เมื่อเทียบกับเบนซ์มือสองในราคาเท่าๆกัน บีเอ็มฯได้คันที่ปีใหม่กว่าหลายปีเลยทีเดียว เรื่องปัญหาจุกจิก ส่วนตัวเห็นว่าขึ้นกับสองส่วนครับ ส่วนแรกคือเจอช่างที่รู้ปัญหาและแก้ปัญหาได้ตรงจุดรึเปล่า และส่วนที่สองคือตัวผู้ใช้รถเองด้วยว่าสังเกตอาการของรถได้ดีแค่ไหน (ผมคิดเปรียบเทียบเหมือนเวลาคนไปหาหมอน่ะครับ ถ้าเราบอกหมอถึงอาการได้ละเอียดเท่าไหร่ หมอก็น่าจะวินิจฉัยได้ถูกโรคมากขึ้นเช่นกัน) คิดว่าน่าจะครอบคลุมข้อมูลทั่วๆไปและหวังว่าจะเป็นประโยชน์กับผู้ที่กำลังหาข้อมูลอยู่ครับ ขอจบการรีวิวฯแต่เพียงเท่านี้ ขอบคุณที่ติดตามอ่าน สวัสดีครับ ^ ^/   ความคิดเห็นที่ 82 ผมเหมือน จขกท เลยครับ ตอนแรกก็กะจะซื้อตัวนี้ต่อจากญาติ แต่เห็นญาติบอกว่าจุกจิกมาก ด้วยความที่ผมยังไม่เคยมีรถของตัวเองมาก่อน ก็คิดว่ารถใหม่น่าจะเหมาะกว่า ดูแลรักษาง่ายกว่า สุดท้ายก็เลยซื้อ civic ป้ายแดง แทนครับ แต่ก็ต้องยอมรับจริงๆเลยว่า โฉมนี้สวยมากๆ มองกี่ทีก็ไม่เบื่อ จากคุณ : ToeYeZ เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 53 09:10:23   ความคิดเห็นที่ 83 ถูกใจครับ....ของผม 323i รุ่นตาตก.....ซื้อต่อมาเหมือนกัน....ที่เปลี่ยนไปคือ - ยาง 4 เส้น ฟิล์ม รอบคับ เปลี่ยน ฟร้อนใหม่ มอเตอร์ฉีดกระจก ทำสีคิ้วใหม่ (ของเดิมแตก) ปีกนก+บูตยาง (อันนี้หนักหน่อย) ยางหุ้มเพลาหน้า และอะไรอีกอย่าง เรียกไม่ถูก เป็นแท่งเหล็กตรงล้อคู่หน้า บูรณะทั้งหมดมา 3 หมื่นกว่า.....ตอนนี้เจอปัญหาอย่างเดียวคือ พวงมาลัย จะดังกิ๊กๆ เวลาเจอระนาด หรือทางไม่เรียบ ไว้เป็นมากๆ แล้วค่อยทำ (ไม่รู้คิดถูกเปล่า) แต่ตอนนี้ขับสนุก และหล่อครับ จากคุณ : เปี๊ยก เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 53 10:49:07   ความคิดเห็นที่ 84 ทำไม โพสแล้วไปอยู่ที่กระทู้ 46 อ่ะ จากคุณ : เปี๊ยก เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 53 13:47:52   ความคิดเห็นที่ 85 จขกท. เสน่ห์แรงจริงครับ ได้รถสวยด้วยแถมมีสาวนั่งด้วยตั้ง 4 คน อืจฉาครับ ^ ^ จากคุณ : REDBULLRUN เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 53 15:13:26   ความคิดเห็นที่ 86 แก้ไขเมื่อ 04 พ.ค. 53 15:30:20 จากคุณ : REDBULLRUN เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 53 15:28:48   ความคิดเห็นที่ 87 เห็น K. POWeR By ZX  พูดแบบนี้แล้วคิดหนักเลย  2 ปี  โดนไป 2 แสน เศร้า จากคุณ : HDE35 เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 53 16:07:08   ความคิดเห็นที่ 88 เป็นกระทู้รีวิว ที่ละเอียดมากค่ะ ปกติไม่เคยมองเลย บีเอ็มฯ  แต่รถคุณสวยมากจริงๆค่ะ ขอบคุณสำหรับรีวิวดีๆ และ ขอบคุณ คุณใช่แล้ว.....ผมเองครับ  ที่เอารายละเอียดจากการใช้งานจริงมาเล่าสู่กันฟังค่ะ จากคุณ : meboon เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 53 19:53:39   ความคิดเห็นที่ 89 <สวยดีครับ อยากได้เหมือนกัน แต่เงินไม่พอ จากคุณ : napatn เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 53 22:03:38 ความคิดเห็นที่ 90   ราคาอะไหล่หลายตัว ซื้อแพงไปนิดครับ แผงจิ้งหรีด ศูนย์ Perfo.. ไม่เกิน 2000 แน่ ๆ เคยซื้อจำตัวเลขไม่ได้ กรองเครื่องราว ๆ 200 ไม่เกินนี้ ค่อย ๆ ดูไป อ้อ ล้าง PCV ด้วยนะครับ เครื่องรุ่นนี้บางคนไม่ล้างปล่อยจนตัน เดี๋ยวได้เสียตังอีก ถ้าอยากติด MP3 ไม่เกิน 3500 ครับ แต่จะเสีย CD ไปเพราะใช้ได้อย่างเดียว ต่อแทนCD แล้วก็ใช้ USB SD/Card ได้ด้วย จากคุณ : Crayonz เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 53 22:36:06 A:182.52.18.207 X: TicketID:158059   ความคิดเห็นที่ 91 อยากได้บ้างจัง ขอบคุณครับ review ดีมาก จากคุณ : คุณจริงใจ เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 53 22:42:48 ความคิดเห็นที่ 92   อะไหล่ M43 เยอะกว่า N42 ครับ ถ้าใช้ M43 ไม่ต้องห่วงอะไหล่ ใช้กับ E36 ได้เกือบทุกอัน N42 ต้องรอหน่อยครับ จากคุณ : Crayonz เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 53 22:43:15 A:182.52.18.207 X: TicketID:158059   ความคิดเห็นที่ 93 ความคิดเห็นที่ 79 นางฟ้าแก้มบุ๋ม เห็นด้วยครับ ถ้า 95 เลิกขาย ผมว่าอย่าเอาโซฮอลไปแช่ในถังนานเลยครับ ถ้าเลี่ยงได้ ผมยอมใช้ 91 แต่อย่าขับให้เร็วมากจะดีกว่า แต่ถ้าติด LPG หรือ NGV ก็จบปัญหาเรื่องเขกไป เพราะ Octane มันสูงมาก แต่ทั้งนี้ต้องจูนดีๆ เพราะจะ Backfire ได้ผมเองใช้ BMW E36 M40 318i ติด Gas LPG มา วิ่งด้วยตัวเองมาสองแสนกว่าโล ตั้งแต่ติด Gas เลยนะ ไม่รวมไมล์เดิม เคริ่องก็ยังปรกตินะ ตอนนี้ 3 แสนกว่าโลไมล์รวม กิน นมค. 5000 โล/ 1 ลิตร ดูแล้วก็ยังพอไหว เครื่องเดิม แต่ไม่รู้ว่าพอใกล้ 4 แล้วจะกินดุมั้ย คิดว่าคงใช้ BMW ไปอีกแหละ แต่เปลี่ยนเครื่องเอา ใจยังชอบ BMW จากคุณ : EAT (BABOO_JZ) เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 53 01:03:58 ความคิดเห็นที่ 94   #80 ใช่แล้ว.....ผมเองครับ  >> รอฟังตอนต่อไปนะครับ ถ้าไม่รังเกียจขออนุญาตแอ๊ดชื่อคุณไว้นะครับ เผื่อมีปัญหาเรื่องรถอาจจะหลังไมค์ไปขอคำแนะนำครับ #83,84 เปี๊ยก >> คงเพราะเป็นกระทู้ของ E46 เลยไปโผล่ที่ คห. 46 กันหมดเลย :) #85 REDBULLRUN >> ผมเป็นแค่สารถีน่ะครับ :) #90 Crayonz >> สงสัยต้องลองเช็คที่อื่นบ้างละครับเรื่องค่าอะไหล่ .. เรื่อง PCV นี่ อืม ว่าแต่มันคืออะไรหรือครับ - -? #ท่านอื่นๆ ในทุกความเห็น >> ขอบคุณครับ :) จากคุณ : นางฟ้าแก้มบุ๋ม (นางฟ้าแก้มบุ๋ม) เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 53 07:40:14   ความคิดเห็นที่ 95 good job จากคุณ : รู้แล้ว เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 53 10:14:01   ความคิดเห็นที่ 96 แหล่มมากครับ จากคุณ : Poprock Engineer เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 53 16:04:28   ความคิดเห็นที่ 97 ขอบคุณสำหรับรีวิวค่ะ ในสายตาเรา E46 เป็นตัวถังที่สวยที่สุดใน ซีรี่ย์ 3เลยหล่ะค่ะ จากคุณ : Moody-Angle เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 53 22:45:10   ความคิดเห็นที่ 98 รถในฝันเลยครับ สวยมากๆ จากคุณ : ลิงน้อยเจี๊ยกๆ เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 53 23:18:42   ความคิดเห็นที่ 99 ขอบคุณครับ สำหรับรีวิว จากคุณ : siapingpong เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 53 23:24:01   ความคิดเห็นที่ 100 เจ้่าของกระทู้บ้านอยู่แถวมีนบุรี มีน้องสาวสองคนป่ะครับเนี่ย รถคุ้นๆ เหมือนกัน จากคุณ : marsupial เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 53 08:37:41   ความคิดเห็นที่ 101 ผมใช้รุ่นเดียวกัน สีเดียวกันเลยครับ • คอนโซลลอก ลอกเหมือนกันครับ • กระจกตกราง รถผมก็เกือบตกรางแล้ว (ต้องจับๆช่วย เหอๆ) • เรื่องตู้แอร์รั่ว รถผมไม่เจอปัญหานี้ • กระปุกพักน้ำหม้อน้ำรั่ว รถผมไม่เจอปัญหานี้ • แอร์ไม่เย็นตรงช่องลมกลาง รถผมไม่เจอปัญหานี้ เป็นรถดี ขับสนุก ถึงใครๆจะมีจุกจิก แต่รถผมกลับไม่จุกจิกอะไรเลย ติดแก๊ส LPG ด้วยซ้ำ ก็ใช้ได้ดี ประหยัดน้ำมันด้วย ขับ ตจว. เน้นๆหน่อย ได้ 14โล/ลิตร  ทั่วไปก็ 12 ที่สำคัญ BMW E46 รุ่นนี้ ...หล่อเหนือกาลเวลา... จากคุณ : sukineko เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 53 15:59:21   ความคิดเห็นที่ 102 ผมก็มีรุ่นนี้ ยอมรับว่าสวยแต่ก็จุกจิกเช่นกัน ตอนนี้งานเข้าอีกละ ไฟซีนอนเปิดไม่ติด บางทีติดบางทีไม่ คาดว่าบาลาสต์เสียมั้ง ไม่รู้ว่าต้องเสียเท่าไหร่ ใครรู้อู่ที่ซ่อมเรื่องไฟหน้าได้บ้างครับ แถวพัฒนาการ ขอบคุณครับ จากคุณ : *NiceGuy* เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 53 23:40:30   ความคิดเห็นที่ 103 ขออนุญาตมาเสนอรายจ่ายบ้างครับ รุ่นเดียว เครื่องตัวเดียวกันกับ จขกท เลย รถปี 2002-2003 วิ่งมา 7หมื่นกิโลเมตร 1. เบรคดังมากถึงมากที่สุด เป็นตั้งแต่ออกรถมาแรกๆ เจียจานเบรคจะหายแค่แป๊ปเดียว ก็กลับมาดังใหม่ ตอนนั้นเข้าศูนย์ทำให้ฟรี ยังมีประกัน 2. เครื่องสั่น เพราะยางแท่นเครื่องทรุด เปลี่ยนข้างนอก ประมาณ 4xxx บาท ค่าแรงต่างหาก แถมด้วยเปลี่ยนท่ออะไรสักอย่างในศูนย์ 4xxx รวมค่าแรง (อันนี้ทำตอนหมดประกัน) T_T 3. กระจกตกรางทั้ง 4 บาน T_T ศูนย์ข้างละ 3-4000 อันนี้ราคาศูนย์บานหลังนะครับ ส่วนด้านหน้าสองด้านเปลี่ยนข้างนอก ข้างละประมาณ 1xxx บาท 4. พวงมาลัยสั่นมาก เปลี่ยนจานเบรคกับบูชปีกนก จำราคาแน่นอนไม่ได้ สองรายการนี้น่าจะมีสัก 6xxx บาท เปลี่ยนอู่นอก 5. กล่องใส่ CD player พัง อันนี้เคลมศูนย์อันใหม่ ฟรี 6. น้ำในกระปุกฉีดน้ำฝนหมด จุกด้านล่างมันรั่ว เลยถอดมาพันเทปให้แน่นเอง 7. เปลี่ยนมอเตอร์ฉีดน้ำฝน เปลี่ยนเอง ค่าอะไหล่ประมาณ 2xx ไม่แน่ใจครับ 8. เช็คระยะครั้งที่ 2 ตอนหมดประกันแล้ว ราคาศูนย์รวม นมค อยู่ที่ 5xxx บาท 9. เปลี่ยนกล่องเซนเซอร์ ASC เพราะเครื่องหมายตกใจกับไฟเตือนขึ้นสองสามดวง 24500 บาท จำได้แม่น T_T ทำข้างนอกครับ 10. เปลี่ยนไดชาร์ตใหม่ 10500 บาท จำได้แม่นอีกแล้ว T_T เพราะของเดิมจ่ายไฟขาดๆเกินๆ เป็นส่วนนึงที่ทำให้กล่องเซนเซอร์ ASC เสีย 11. หลอดไฟหน้าขาดบ่อยมาก เปลี่ยนทั้งซ้ายและขวามาประมาณสองรอบแล้ว น่าจะเกินจากการจ่ายไฟขาดๆเกินๆ 13. สีลอกเหมือน จขกท. ขี้เกียจทำ กลัวตกใจราคา T_T ตอนนี้แอร์เริ่มเสียงดัง กลัวคอมพ์แอร์พังเหมือนคันอื่นๆจัง ว่าจะไปเช็คดูเร็วๆนี้ครับ จากคุณ : porgto เขียนเมื่อ : 9 พ.ค. 53 17:45:52 /td>

ความคิดเห็นที่ 48 ขอบคุณครับ ผมก็ว่าจะลองสอย E46 มือ 2 มาขับหล่อๆ วันเสาร์-อาทิตย์ เหมือนกัน แต่อีกประมาณ 2 ปี อ่ะนะครับ จากคุณ : Poprock Engineer เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 11:53:48

ความคิดเห็นที่ 49 ขอบคุณครับ อ่านแล้วน่าหามาใช้ขึ้นเยอะ จากคุณ : อาชาสีหมอก_offer เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 12:01:34

ความคิดเห็นที่ 50 งามหลาย โหวตซะ จากคุณ : eping เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 12:02:03

ความคิดเห็นที่ 51 -- อะไหล่หลายชิ้นราคาเอาเรื่องเหมือนกันครับ ... น้ำมันเครื่อง หิ้วจากข้างนอกเข้าไป ถูกกว่านะครับ -- Easy Parking (กระจกฝั่งซ้ายปรับลง ตอนเข้า R) พวกรถที่ไม่มี ขวนขวาย อยากได้กันเหลือเกิน (รถผมไง อุตส่าห์ไปติดเพิ่มมา) ส่วนรถที่มีมาดันปิดทิ้งซะงั้น ... ลองปรับดูก่อนครับ มันมีประโยชน์มากๆตอนจอดเทียบฟุตบาท น่ะครับ จากคุณ : เด็กบูรพา เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 12:06:08

ความคิดเห็นที่ 52   #48 >> ใช้เสาร์อาทิตย์ จันทร์-ศุกร์นั่งรถตู้ครับ เก็บตังค์เป็นค่าน้ำมัน T-T #51 >> เห็นอู่ที่ทำเขาเขียนว่ามีชาร์จเพิ่มหากนำอะไหล่เข้ามาเอง ซึ่งคงรวมถึงน้ำมันเครื่องด้วย ? ส่วนเรื่องกระจกซ้าย เดี๋ยวคงขอไปลองตั้งมันใหม่แบบที่ คห.24 แนะนำก่อน ถ้าเวิร์คก็คงจะใช้ต่อครับ ปกติผมจะได้ปรับกระจกซ้ายลงต่ำก็เฉพาะเวลาจอดในถนนแคบๆจริงๆ ต้องจอดให้ชิดฟุตปาทมากที่สุด ไม่งั้นปกติก็แทบจะไม่ได้ปรับเลย จากคุณ : นางฟ้าแก้มบุ๋ม (นางฟ้าแก้มบุ๋ม) เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 12:12:01

ความคิดเห็นที่ 53 ที่ลอกไม่ใช่สีจริงๆ ครับเป็น silicone เคลือบให้มันนิ่มๆ ทำใหม่ได้ครับ ลอกประจำทุกๆ ประมาณสามปีทำทีครับ จากคุณ : ผ่านมาเห็น เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 12:16:10

ความคิดเห็นที่ 54 สวยครับที่บ้านผมมี 325ci ปี 02 อยู่คันนึง เริ่มแก่ละครับ เพิ่งไปซ่อมใหญ่มาด้วย จากคุณ : JIRATH เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 12:43:28

ความคิดเห็นที่ 55   #53 คุณผ่านมาเห็น >> มีร้านแนะนำมั้ยครับ ราคาสักเท่าไหร่น่ะครับ จากคุณ : นางฟ้าแก้มบุ๋ม (นางฟ้าแก้มบุ๋ม) เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 12:50:46

ความคิดเห็นที่ 56 model นี้สวยอมตะจริงๆ จากคุณ : หมึกสด เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 12:53:35

ความคิดเห็นที่ 57 โหวตปาย   รถอะไรไม่รู้ ? ขับเเล้วหล่อจริงๆ จากคุณ : BAFB CaPiTaL เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 12:53:45

ความคิดเห็นที่ 58 รถในฝันจิงๆๆคับ แต่ไม่อยากเสี่ยงกับหลายๆอย่าง สวยที่สุดจิงๆๆ จากคุณ : pick_nicky เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 13:21:20

ความคิดเห็นที่ 59 สวยครับ รถรุ่นนี้ยังดูอมตะอยู่เสมอเลยครับ แต่ผมว่าข้างในมันแคบสำหรับผม -_-' เพราะช่วงนี้น้ำหนักขึ้นมากมายเลย T_T จากคุณ : ชายผู้ไร้ซึ่งความรัก เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 14:06:06

ความคิดเห็นที่ 60 แล้วซ่อมที่อู่ไหนครับ  ถ้าไม่สะดวกหลังไมค์ก็ได้ ผมก็ชอบ BMW  แต่ถอดใจเรื่องค่าบำรุงรักษานี่ล่ะครับ แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 53 14:22:36 จากคุณ : HDE35 เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 14:22:09

ความคิดเห็นที่ 61 ขอโทษนะคะ  เจ้าของรถทำงานแถวบางขุนเทียน - ชายทะลเหรือเปล่าคะ มีบางมุมรู้สึกคุ้นๆนะคะ ขอบคุณคะ จากคุณ : Rainnystar เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 15:24:03

ความคิดเห็นที่ 62   สวยดี แต่ชอบตัวcoupe"มากก่า..... จากคุณ : toad9116 เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 16:01:51

ความคิดเห็นที่ 63   สวยดี แต่ชอบตัวcoupe"มากก่า..... จากคุณ : toad9116 เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 16:05:38

ความคิดเห็นที่ 64 เคยใช้อยู่ ขับดีครับ แต่ พอได้แสนกว่าโล  เตรียมจ่ายเงิน กระจายหนักเลยครับ ถ้าเป็น รุ่น 318  เครื่อง มันจะกินน้ำมันเครื่องทุกคัน  เพราะรุ่นนี้แหวนลูกสูบ บางมาก  แก้ไม่หาย เปลี่ยนเครื่องก็เป็นอีก  สุดท้ายก็ขายถูกๆไปแล้ว หม้อน้ำ แห้ง  เปลี่ยนท่อ เกือบ ทั้งคัน ตลอดทั้งปี เพราะอากาศบ้านเราร้อนแล้ว อายุท่อ ยางก็ไม่เกิน 5 ปี ต้องเปลี่ยน ทุกคัน กระจกชอบตกราง เป็นทุกคัน เซ็ง  ตลอด สรุป ขับดี เกาะถนนดี แต่  ค่าซ่อม เสียเกือบทุกเดือน ผมขับไปสองปี ซ่อมไป สองแสน ตอนนี้เปลี่ยนรถใหม่ แล้ว ไม่ต้องไปเข้าอู่อีกเลย  สบายใจมาก จากคุณ : POWeR By ZX เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 16:36:59

ความคิดเห็นที่ 65   #59 ชายผู้ไร้ซึ่งความรัก >> ใช้รุ่นนี้จะได้เป็นแรงบันดาลใจในการลดน้ำหนักนะครับ :) #60 HDE35 >> ส่งข้อมูลไปให้ทางหลังไมค์แล้วนะครับ #61 Rainnystar >> ไม่ใช่ครับผม เคยใช้คันนี้ไปแถวนั้นแค่สองครั้งครับ #64 Power By ZX >> ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ กลัวเรื่องท่อยางน้ำเหมือนกัน มีหลายเส้นมากๆที่เข้าไปที่หม้อน้ำ แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 53 17:25:27 จากคุณ : นางฟ้าแก้มบุ๋ม (นางฟ้าแก้มบุ๋ม) เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 17:23:22

ความคิดเห็นที่ 66 ใช้เปอโยอยู่จุกจิกซ่อมแพงเหมือนกัน จากคุณ : credor เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 17:28:33

ความคิดเห็นที่ 67 สวยดีครับ ดูคลาสสิคดีครับ จากคุณ : บราวนี่ชีสเค้กท็อปปิ้งวิคครีม เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 18:16:26

ความคิดเห็นที่ 68 ใช้มาเกือบแปดปีแล้วครับ ปี 2002 รุ่นไฟยกรุ่นแรกๆเลย เครื่องตัวเดียวกัน รุ่นเดียวกับท่านเจ้าของกระทู้ครับ  ใช้มาถึงตอนนี้ 503000  กม ใช่ครับ ครึ่งล้านแล้ว  เดี๋ยวคืนนี้ มีเวลาจะมาช่วยตอบข้อสงสัย เกี่ยวกับรถคันนี้ให้ครับ รับรองว่ายาวมากเลย เพราะเกือบๆแปดปี ที่ใช้รถคันนี้ มา คิดว่า รถผม สำหรับรถรุ่นนี้ น่าจะเป็นรถที่ถูกใช้มากที่สุดแล้ว หากเข้าศูนย์ที่ไม่เคยเข้า จะต้องตกใจกับจำนวน กม ที่ใช้ไป เคยรอดจากอุบัติเหตุ มาหลายครั้งจากระบบป้องกันของรถคันนี้ แต่ที่ยังไม่เคยลองเลย ก็คือ ถุงลมครับ ทั้งแปดใบ ยังอยู่ครบ และไม่คิดที่จะลองเลย เดี๋ยวคืนนี้ จะมาเล่าให้ฟังครับ สำหรับท่านเจ้าของรถรุ่นนี้ และท่านเจ้าของกระทู้ หากจะขอคำแนะนำ สำหรับทุกเรื่องกับรถรุ่นนี้ รับรองไม่ผิดหวังครับ ราคาอะไหล่ข้างนอก รับรองว่าถูก มากกว่าศูนย์เยอะ เจอกันคืนนี้ครับ จากคุณ : ใช่แล้ว.....ผมเองครับ เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 19:09:59

ความคิดเห็นที่ 69 สวยครับ จากคุณ : E-Boat เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 19:23:52

ความคิดเห็นที่ 70   ขอบคุณครับ ขอให้ตีไกล ไดร์ฟตรง ถึงธงได้ตังส์นะครับ จากคุณ : โย่ _เชียงใหม่ เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 19:40:36

ความคิดเห็นที่ 71   #68 ใช่แล้่ว..ผมเองครับ >> รอดูข้อมูลครับ ขอบคุณที่มาช่วยแชร์ ได้เห็นระยะการวิ่งที่คุณใช้มาแล้ว รู้สึกมั่นใจอีกเยอะเลยครับที่จะใ้ช้คันนี้ไปอีกยาว :) #70 โย่_เชียงใหม่ >> กว่าจะถึงขั้นนั้ืนคงอีกนานครับ ยังอยู่แค่สนามซ้อมอยู่เลยครับ จากคุณ : นางฟ้าแก้มบุ๋ม (นางฟ้าแก้มบุ๋ม) เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 19:55:33

ความคิดเห็นที่ 72 เข้ามารออ่าน คห.68 เพราะแอบเหล่ E46 ไว้ จากคุณ : LoLinEo เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 20:12:25

ความคิดเห็นที่ 73   รถสวยดีครับ โดยเฉพาะภายในสะอาดมาก ยางขนาดมาตรฐาน E46 คือ 205/55R16 ครั้งต่อไปควรใส่เบอร์นี้นะครับ รถจะวิ่งดีกว่า กินน้ำมันน้อยกว่า ออกตัวไวกว่า และขับสบายกว่า 215/55R16 ครับ แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 53 21:22:04 จากคุณ : อยากได้E 280 W124 เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 21:01:21

ความคิดเห็นที่ 74 สนใจอยู่เหมือนกันครับ มีท่านใดเอาไปติดแก๊ซบ้างไหมครับ จากคุณ : poonsak_w เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 21:17:42

ความคิดเห็นที่ 75   Review ได้ละเอียดดีมากเลยครับ จากคุณ : ด้อยวรยุทธ เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 22:41:36 A:202.12.97.118 X: TicketID:254109

ความคิดเห็นที่ 76 ขอบคุณมาก จากคุณ : ayuhi292 เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 22:50:03

ความคิดเห็นที่ 77 แสดงว่ายังไม่เจอกล่อง ABS/ASC ซึ่งเป็นปัญหานึงสำหรับรุ่นนี้ครับ โดนที 3.5-40,000 บาท ศูนย์ ของนอกเชียงกงผมไม่แน่ใจนะว่าหมื่นกว่าบาทรึเปล่า แต่กล่องนี้เท่าที่อ่านมา ไม่มีอายุใช้งาน จังหวะไปคือไปเลย อีกปัญหา ที่เรียกว่าเป็นปัญหาหมกเม็ดของ เครื่อง BM ก็ได้ จริงๆที่เขียนว่า ใช้ 91 อย่างต่ำน่ะครับ พอเร่งเกิน 3000 รอบ ขึ้นไป ลองฟังดีๆจะมีเสียงแขกเบาๆ เบามากครับ แต่มันคือแขกจริงๆ สำหรับ BMW ที่บอกว่า 91 อย่างต่ำน่ะ Block 4 สูบ เป็นงี้แหละ ถ้าให้ดี ก็เติม 95 จะดีกว่าครับ รหัสเครื่อง N โดยรวมยังมีอะไหล่ในเชียงกงไม่มาก เรียกว่าซ่อมเครื่องยังแพงอยู่ รถรุ่นนี้โดยรวมน่าใช้ สวย สมรรถนะเยี่ยม ขับไปไม่มี Out แน่นอน จริงๆ การออกแบบของ BMW มันอยู่ได้นานมากๆ ตั้งกะ E30 ที่หลายคนอาจมองว่า เก่าไปแล้ว แต่พอมา E36 ก็ถือว่า ออกแบบได้ดีมาก มาวิ่ง ณ ตอนนี้ ยังสวยไม่สร่าง แต่งดีๆ สีดีๆ สู้รถใหม่ได้สบาย แล้ว E46 ที่ออกมา จะสิบปีแล้วคาดว่าก็ยังอยู่ได้นานแน่นอน เพราะออกแบบมาได้สวยมากๆ ผมว่าบางทีมันสวยกว่า E90 ซะอีกนะ   ในอนาคตพอรถปีเก่ามากขึ้น อะไหล่เชียงกงมีมากขึ้น ความนิยมและราคาอะไหล่ ก็คาดว่าจะไม่หนีรุ่นพี่ E36 แน่นอน ที่ตอนนี้ อะไหล่เกลื่อน จากคุณ : EAT (BABOO_JZ) เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 23:34:44

ความคิดเห็นที่ 78 มาแล้วครับมาช้าไปหน่อยเมื่อคืนไปออกกำลังกาย กลับถึงบ้านก็หลับเลยครับ ขอโทษด้วยที่มาช้า สเปคของรถรุ่นนี้  จขกท ร่ายไปหมดแล้ว ผมขอรายเรื่องการใช้งานจริงๆ เรื่องการซ่อม บำรุงรักษาก็แล้วกันครับ รถรุ่นนี้ ตอนออกมาใหม่ๆ ปัญหาของที่ทุกคัน ต้องเจอก็คือ รางกระจกไฟฟ้า จะเสีย แทบทุกบาน และทุกคัน รถของผม ก็เสียครบทุกบานเลยครับ แต่บานด้านคนขับ จะเป็นบานสุดท้ายที่เสีย มีอยู่บานหนึ่ง เป็นบานหลังขวา เสียตอนขับรถ ไปเที่ยวปาย ในหน้าหนาว มีอาการเปิดแล้วปิดไม่ได้ คนที่นั่งหลังต้องนั่งทนหนาว มาจนถึงเชียงใหม่ มาเปลี่ยนที่ศูนย์ในเชียงใหม่ ถ้าจำไม่ผิด ราคาค่าเปลี่ยนพร้อมค่าแรง น่าจะประมาณ สี่พันแก่ๆต่อข้างครับ แต่ปัญหานี้ เกิดจากปัญหาของ คุณภาพของรางกระจกไฟฟ้าครับ ซึ่งหลังจากเปลี่ยนมาแล้ว หลายปีมานี้ ยังไม่เคยเสียอีกเลย อีกปัญหาหนึ่งซึ่ง รถรุ่นนี้ทุกคัน จะเจอก็คือ รถจะมีอาการกินน้ำมันเครื่องทุกคัน ระดับ แสนกว่า ก็จะเริ่มเจอแล้ว จริงๆปัญหานี้ เป็นกันทุกประเทศ ที่อยู่ในเขตร้อนครับ ปัญหาก็คือ ระยะการเปลี่ยนถ่าย นำ้มันเครื่อง เพราะทางบริษัทแม่ ที่เยอรมัน กำหนดให้ใช้น้ำมันเครื่อง คาสตรอล ลองเทค ระยะการเปลี่ยนถ่ายที่ 25000 กม ซึ่งเมื่อมาเจอ อุญหภูมิ บ้านเรา ทำให้น้ำมันเครื่องเสื่อม ประสิทธิภาพก่อน กำหนด  ทำให้ ประสิทธิภาพในการ คุ้มครองเครื่องยนต์เสียไป ตั้งแต่ไม่เกิน 15000 กม รถผม ก็เริ่มมีอาการ กินน้ำมันเครื่อง ตั้งแต่ยังไม่ถึง 2 แสน จนครั้งสุดท้าย กินมากจนทนไม่ไหว จะต้องเปลี่ยนเครื่อง ตอน 390000 กม และหลังจากเปลี่ยนเครื่องมา ก็เปลี่ยนมาเป็นใช้น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ ธรรมดา และเปลี่ยนถ่ายทุก 10000 กม ก็ยังไม่มีอาการ กินน้ำมันเครื่อง ตอนนี้ เครื่องตัวใหม่ ก็ใช้มาเกิน 100000 กม แล้วครับ ผมโชคดี ได้เครื่องตัวใหม่มา เป็นเครื่องตัวเดียว กับเครื่องติดรถ พร้อมเกียร์ สภาพใช้งานมาแค่ หมื่นกว่า ก.ม ในราคาแค่ 73000 บาท ขายเครื่องตัวเก่า พร้อมเกียร์ ให้อู่ เอาไปแกะอะไหล่ขาย ได้มา 30000 บาท สรุปจ่ายเงินไปแค่ 43000 บาท สำหรับเครื่องและเกียร์ใหม่ๆ สำหรับเรื่องน้ำมันกียร์และน้ำมันเฟืองท้ายของรถรุ่นนี้ ตามสเปค เป็นแบบไม่ต้องเปลี่ยนถ่าย ตลอดอายุรถเลย แต่ด้วยความที่ผมเป็นคนใช้รถเยอะ ประกอบกับอากาศ ร้อนในบ้านเรา ผมก็เลยมีการ เปลี่ยนถ่ายทุก 1 แสน กม ใช้แบบสบายใจมาจนถึงทุกวันนี้ครับ อ่อ น้ำมันเฟืองท้ายกับน้ำมันเกียร์ ผมเปลี่ยนในศูนย์ทุกครั้งครับ เพื่อความมั่นใจใช้นาน แก้ไขเมื่อ 04 พ.ค. 53 07:47:12 จากคุณ : ใช่แล้ว.....ผมเองครับ เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 53 07:26:03

ความคิดเห็นที่ 79   #73 อยากได้E 280 W124  >> ขอบคุณครับ ไม่เคยเอะใจเรื่องยางเลย มาเช็คดูเป็นอย่างที่ว่าจริงๆครับ #74 poonsak_w >> รุ่นนี้เห็นมีคนเอาไปติด lpg ครับ ลองไปโพสต์ถามหรือหาข้อมูลในเว็บ bmwsociety.com ดูได้ครับ #77 EAT (BABOO_JZ) >> เคยเห็นมีคนว่าโดนไปหลายเหมือนกัน โดยเฉพาะเวลาไปลุยน้ำท่วมมา ... ตอนนี้ฝนเริ่มลง ชักหวั่นๆเหมือนกันครับ เรื่องน้ำมันนี่ คนขายที่ปั๊มเชลล์บอกว่า เบนซิน 95 จะขายถึงแค่สิ้นเดือนพฤษภาคนนี้เท่านั้น (ตจว.ไม่มีแล้ว) ... เซ็งครับ คันนี้ใช้น้อย ไม่อยากเติมโซฮอลล์ไปแช่ทิ้งไว้นานฯ #78 ใช่แล้ว.....ผมเองครับ >> เห็นด้วยกับเรื่องน้ำมันเครื่องและพวกน้ำมันเกียร์ครับ ผมก็เปลี่ยนตามปกติ ไม่เชื่อตามคู่มือเหมือนกัน ไม่ทราบว่าเคยเจอปัญหาพวกน้ำหายไหมครับ เห็นหลายคันเป็นกัน (ถ้าไม่นับเรื่องท่อน้ำรั่ว) จากคุณ : นางฟ้าแก้มบุ๋ม (นางฟ้าแก้มบุ๋ม) เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 53 07:43:21

ความคิดเห็นที่ 80 เรื่องน้ำหาย ของผมไม่เคยเจอ จนมาประมาณ ก่อนเปลี่ยนเครื่อง มีอาการน้ำหายบ้างเล็กๆน้อยๆ ประมาณเป็นเดือน หายไปประมาณ 1 ลิตร ตรวจสอบดู แล้ว เป็นการซึมจากตะเข็บ หม้อน้ำ ก็เลยเปลี่ยนหม้อน้ำ พร้อมเปลี่ยนเครื่อง จนปัจจุบันใช้มา เป็นแสน กม ก็ยังไม่มีอาการน้ำหายครับ โห เมื่อกี้พิมพ์ไปอีกเยอะเลย แต่เพลอทำหายไปหมด เรื่องค่าบำรุงรักษา ระบบช่วงล่างและเบรค เดี๋ยวว่างๆมาเขียนใหม่ครับ จากคุณ : ใช่แล้ว.....ผมเองครับ เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 53 07:52:02

ความคิดเห็นที่ 81   ขอบคุณครับ สำหรับรีวิว เผื่อเป็นทางเลือกและข้อคิดให้กับใครๆได้บ้าง จากคุณ : เหล่านั้งเคียวห่วย เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 53 09:10:09 A:124.120.49.92 X: TicketID:164262