ความคิดเห็นที่ 1   อีกอย่าง อัตราการบริโภคน้ำมันครับ รถเครื่องยนต์ต่างขนาด ต่างชนิดกันสองตัวนี้ ใครกินน้ำมันมากกว่าหรือน้อยกว่ากันครับ ปล. ขับขี่ที่ความเร็วและองค์ประกอบต่างๆ เหมือนกัน จากคุณ : SPLENDIDA เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 53 02:04:05

ความคิดเห็นที่ 2 มีคนเคยพูดถึงกันเยอะแล้ว เท่าที่จำได้ ผู้รู้บอกว่า 250cc จะกินในทางยาว ๆ เพราะเครื่องรับการเค้นได้มากกว่า แต่ผมว่าเรื่องความรู้สึก 2 จังหวะน่าจะสะใจกว่าหรือเปล่า เคยขี่ของเพื่อน เวลารอบมานี่ แบบว่า อดรีนาลีนพุ่งจริง ๆ ครับ จากคุณ : The Scent of Memory เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 53 02:19:37

ความคิดเห็นที่ 3 ไม่เคยแตะ ตัว 250 4T เคยจับแต่ 2T KR เปิดเสื้อ กระแทกคันเร่ง2แว๊น รอบมาวาล์วเปิด ผมว่าโคตรน่ากลัว -0- จากคุณ : zephyz เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 53 03:07:23

ความคิดเห็นที่ 4 ได้ครับ    นึกถึงสมัยดูรถหน้าแฮ๊ปปี้เวิร์ดเมื่อ 10 กว่าปีก่อนเลย  อย่าง .. TZR 150 โหลดหน้า ล้อทอง ล้อเงิน น๊อตกลัง ถังปาด  ผ่าไส้ท่อ ตัดปลายท่ออก 1 ซม. เปลี่ยนมหนูนิดนึง กรองเปลือย  หรือไม่ต้องมีกรอง สเตอร์หลัง 28 หรือ 29 นี่แหละ .. แค่เนี้ย  ไม่ต้องเอาคาร์บิวฯเหลี่ยม ไข่หิน PWK มาใส่ด้วย ..    พอวาล์วเปิดเท่านั้นล่ะ  คุณเอ๊ยยย ทั้งเสียง ทั้งอัตราเร่ง ,..... จากคุณ : นานแล้วนะ สมัยวัยรุ่น .. (Dbass) เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 53 03:44:58

ความคิดเห็นที่ 5 ถ้ารถเดิม ๆ ใหม่ ๆ จากโรงงานในยุคนั้น  150 2 จังหวะกินครับ มันจี๊ดกว่า มันน่าจะถึงความเร็วสูงสุดก่อนครับ แตะ 190  นิตยสารนักเลงมอเตอร์ไซ๕ในยุคนั้นรุ่นเรือง เคยเอามาทดสอบ จับเวลาอยู่  ขนาด Honda Beat 110ทำท่อ จูนคาร์บิว ไปลองวิ่งได้ 180 พวกยังไม่พอใจกัน  ตอนนั้นปี 2532 - 34 ยังวัยรุ่นกัน กล้า ไม่กลัวตาย ทำอะไรนห่าม ๆ ไม่คิดหน้า  คิดหลังหรอกครับ .. มาตอนนี้ย้อนมองไป พอเห็นเด็ก ๆ ขี่รถออโตแล้ว ขำ ๆ   250 4 จังหวะ ยุคนั้นที่พออับเดท มี CBR 250 RR   FZR 250   ZXR 250 และ GSX-R 250 .. ซึ่งยังไม่ถึงครับ  เก่ายุคนั้นก็ VT 250F   ไม่น่าสู้ได้ครับ  ต้อง 4 จังหวะ 400 เลย .. แก้ไขเมื่อ 11 พ.ค. 53 03:56:08 จากคุณ : จริง ๆ นะ (Dbass) เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 53 03:50:13

ความคิดเห็นที่ 6 เคยลอง FZR250กินSerpico SSนิ่มๆครับ แต่หลังจากนั้นเจ้าตัวแรกวาล์วยันครับ บิดไม่ไปซะงั้น เคยเจอ 18000รอบต่อนาทีมั้ย จากคุณ : bigBirdS เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 53 03:53:46

ความคิดเห็นที่ 7 วัดรอบเพี้ยนหรือเปล่า ..  หรือวัดรอบของ ZXR 400 จากคุณ : คนเก่งกว่าตายไปแล้ว+ยังไม่เกิด (Dbass) เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 53 03:58:25

ความคิดเห็นที่ 8   สว.มาเขียน สว.เลยมาอ่าน จากคุณ : สองล้อเท่านั้น เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 53 04:43:26

ความคิดเห็นที่ 9 ถ้า 2สูบ 250   โดนสวนครับ ต้นกลาง 150 กิน 4 สูบ 250    150 โดนทิ้ง จากคุณ : harvardวิทยาคม เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 53 04:55:51

ความคิดเห็นที่ 10 เคยขี่ทั้ง เอ็นโปรอาร์ม  และ ซีบีอาร์ 250 ผมว่าถ้าให้สดซิ่งเท่าๆ กัน ต้นกลาง สองจังหวะน่าจะนำนิด เพราะเบากว่า ออกตัวได้ดีกว่า แต่ปลายน่าจะโดนนำ จากคุณ : bmjas เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 53 07:25:09

ความคิดเห็นที่ 11   พี่ครับถามหน่อยเถอะครับ ไอ้ที่ว่า 190 จริงๆมันเท่าไหร่กันแน่ เคยขับรถเก๋งตีคู่ไปกับเพื่อนมันแต่งหมดเลยนะครับ มันบอกว่าเกือบสองร้อยมีเกร็ง มีขนหัวลุก แต่ในรถผม เข็มมันขึ้นร้อยสามสิบจะสี่สิบเองขับสบายๆปกติเลยน่ะครับ แล้วไอ้แว้นๆที่แข่งกันผมดูๆมันไม่ได้เร็วน่ากลัวเลยนะครับ จริงๆคำนวนเส้นรอบวง กับเกียร์ได้ถ้าเกือบสองร้อยนี่รอบมันมิขึ้นไปเกินหมื่นรอบไปเยอะเลยหรือครับ รบกวนถามเพราะผมสงสัยมานานแล้ว จากคุณ : ลองดู เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 53 08:33:32 A:202.139.223.18 X: TicketID:008482

ความคิดเห็นที่ 12   นังเอ็น เดิมๆ วิ่งเกือบสองตามไมล์แหลๆ แต่เมื่อนำมาคิดความเร็วจริง ก็จะอยู่แถว 150 หน่อยๆ เน้อ 666 จากคุณ : monsungja เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 53 09:16:45

ความคิดเห็นที่ 13   ถ้าจะเทียบแบบนี้ 2จังหวะสมัยก่อน กับ4จังหวะสมัยนี้น่ะ ไม่เกี่ยงน้ำหนักตัวที่250 มากกว่า ต้น 4จังหวะกินเพราะแรงบิด ออกตัวโดดสบายๆ 2จังหวะเดิมๆรีดรอบใช่ว่าจะมาเท่าไหร่ กลาง2จังหวะเริ่มมีติดตูด ปลาย สูสีกัน แต่ก้อต้องวัดใจว่า2จังหวะจะยกตอนไหน เพราะ2จังหวะเสียเปรียบเรื่องน้ำหนักตัว เจอลมตีแรงๆใจคนขี่2จังหวะจะฝ่อเอา จากคุณ : bamboo เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 53 09:37:29 A:58.64.72.80 X: TicketID:219328

ความคิดเห็นที่ 14 250 2 สูบ น่าจะสูสีครับ แต่ถ้า 250 4 สูบ ไม่น่าสู้ได้ พวกนี้ Redline 20,000 ลากมันมาก มีอยู่คันนึงกะเค้าเหมือนกัน จากคุณ : เตี้ย ล่ำ ดำ แก่ เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 53 10:03:55

ความคิดเห็นที่ 15 2 จังหวะไมล์ค่อนข้างอ่อน ด้วยนะครับ เคยขี่ NSR 150 เทียบ GPS แล้วไมล์อ่อน ไม่เหมือนรถใหญ่ๆ จะ อ่อนกว่า GPS นิดหน่อย สรุป ตามความเห็นผม 4 จังหวะ 250 แรงกว่า นิดหน่อยครับ คันนี้ 0-100 ประมาณ 5-6 วิ ความเร็วสูงสุด 190 รอบพุ่งแตะ 20,000 เสียงอย่างกะ F1 จากคุณ : เตี้ย ล่ำ ดำ แก่ เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 53 10:06:42

ความคิดเห็นที่ 16   ^ ^ รถสวยมากครับ..... คิดเหมือนกันถ้าเจอ4เม็ดเรียง ยังไงก้อสู้ไม่ได้ แต่ใจความจขกท.คงพูดถึงนินจา250มากกว่า อย่างนี้พอสนุก จากคุณ : bamboo เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 53 10:25:37 A:58.64.72.80 X: TicketID:219328

ความคิดเห็นที่ 17 ผมเคยใช้ zx150 มาก่อน เพิ่งขายเพื่อนไป เมื่อ1เดือน กว่า  เพราะจอดทิ้ง ไว้     และก็ได้ลอง ninja250 ที่ศูนน์ และ รุ่นน้อง ถอยมาขับ ขยั้นขยอ เขาให้ผมลอง  รถเขา   ......บอกตรงๆ  ผมว่าอัตราเร่ง ตอนต้น zx150 กินนะครับ  แต่  ไมล์ ของ ninja 250แข็งมากๆ   ทั้งๆที่ zx150ไมล์ แข็ง เท่ากับ dash125 ที่ในสมัยนั้น เขาบอกว่าแข็งที่สุดแล้ว  ค่า error 15% น้อยกว่าของnsr150 นี่เป็นสิ่งที่ honda บอกมา ตอนที่มาบรรยาย การขับขี่ปลอดภัยตามสถานศึกษา  เมื่อ 10 ปีแล้ว   ..... zx150 เดิม ที่ผมลอง ได้ 190 กว่าๆ ซึ่งมันก็พอๆ กันกับที่ลงในหนังสือ มอเตอไซค์ยุคนั้น    และตอนนี้ ninja250 ที่เขาบอกกันว่า top speed ได้170 นั้น ผมคิดว่าน่า จะเป็นความเร็ว 200 บนเรือนไมล์  รถ มอเตอร์ไซค์ ธรรดาๆ    สมัยนั้น zx150 2stork คันนึงก็ 7หมื่นแล้ว  ผ่านมา 10ปี กลฃายเป้น 4จังหวะ 2 สูบ  1.5แสน มันok กว่า เยอะ ช่วงล่าง ดีกว่า krr zx150 มาก  คาลิเปอร์ เหมือนกันกับ krr zx150  แต่จานเบรค คนละตัว  และ ระยะแทรคล้อหน้า ต่างกัน ทำให้เบรคดีกว่ากันเยอะ ............ คนที่เคยใช้ 150 2จังหวะมาก่อน จะผิดหวังนิด กับตัว250 เพราะ มันแรงไม่ขาด เหลือ กันเท่าไหร่   แต่ช่วงล่างดีกว่ากันเยอะ และขับ หล่อขึ้นเยอะ   ขับ ninja250se ของ น้อง เขาไป จอดติดไฟแดง สาวๆ ที่นั่งรถซ้อนแฟน หันมามอง  ไม่เลิก   แต่ในยุคนี้ ก็ไม่มีรุ่นไหน จะแรง เหมือนยุค 2จังหวะ อยาก แรง  ในระดับหนึ่ง ก็ ต้อง 1.5แสน    ซึ่งคุ้มนะ  จดทะเบียน 900 กว่าบาทเอง  ทะเบียนแท้ด้วย   ดีกว่าไปซื้อ รถ มือ2  7-8หมื่น ทะเบียนสวม   สำหรับ คนที่อายุ ไม่เยอะเท่าไหร่ ขับ ninja 250 se  ถ้าเป็นคนเจ้าชู้ รับรอง  คุ้มสุดคุ้ม ครับ จากคุณ : siritach เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 53 10:26:51

ความคิดเห็นที่ 18 ตอบ11 เคยเห็นสองจังหวะ150ที่วิ่งเกือบสองร้อยที่เห็นวัดๆกันในหนังสือเมื่อก่อน(เคยมีคนเอามาโพสต์ในนี้ด้วยนะ) วิ่งถึง200จริงครับ เค้าวัดโดยการใช้เครื่องจับครับ(อัดทางตรงในสนาม) แต่ก็แต่งกันสุดๆด้วยนะครับถึงจะไปถึง200กัน ดูท่าวื่งที่ความเร็วขนาดนั้นได้ไม่กี่วินาที(นานกว่านั้นก็มีเฮ) ส่วนสี่จังหวะ250สองสูบ(ninja250) เร็วสุดๆแบบเดิมๆก็แค่170กว่าๆเอง(แต่วิ่งได้150-160ยาวๆได้ทั้งวัน) ถ้าใส่กล่องแต่งกะท่อดีๆก็180กว่าๆละ วิ่งสั้นๆโลสองโลอาจจะแพ้สองจังหวะ แต่ถ้าวิ่งยาวๆก็รู้ๆกันอยู่ จากคุณ : Olivier เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 53 10:29:51

ความคิดเห็นที่ 19 +++++รถสวยมากเลยครับ คุณเตี้ย ล่ำ ดำ แก่...สภาพนี้หายากมากมาย ว่าแต่เรดไลน์สูงปรี๊ดเลย ...._ _"  บิดทีเสียงคงเร้าใจน่าดู นะนี่ จากคุณ : mantu เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 53 10:31:43

ความคิดเห็นที่ 20 เคยขี่ Hornet 250 ลากเล่นชิลๆแถวๆหมื่นสอง ยังไปได้อีกเยอะ ดึงสุดๆ จากคุณ : Sympho เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 53 10:33:38

ความคิดเห็นที่ 21 เสียดายที่จะขายรถคันนี้ซะแล้ว น่าเก็บไว้นะครับ จากคุณ : Olivier เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 53 11:02:22

ความคิดเห็นที่ 22   สมัยก่อนเคยไปดูแข่ง Drag ที่ชอบจัดในสนามบิน ดู dash 125 แต่งเต็มๆเปลือยหมด เจาะเฟรม ปูกระดาน คนประกาศบอกเข้าเส้นชัย 402m ความเร็วแตะ 200 อยากทราบว่ามันถึง 200 จริงไหม  แล้วสมัยนี้พวก 125 4T เข้าเส้นชัยอยู่ที่เท่าไรครับ ป.ล. เคยมีคนทดสอบ 2T กับ cbr 400 แถมถ่ายคลิปไว้ด้วย  ตอนแรกก็ติดใจว่าอะไรเร็วกว่า แต่พอทดสอบเสร็จก็กระจ่างดีนะครับ ผมหาไม่เจอแล้ว ป.ล.2 ผมว่าคันโน้นได้เท่านี้คันนี้วิ่งได้เท่านั้น สาระสำคัญอยู่ที่เกจ์ไมล์นี่ล่ะ ที่ทำให้เจ้าของรถรู้สึกมั่นใจเกินไปไม่เป็นมาตรฐาน จากคุณ : เจ้าชายรองเท้าแตะ 655 เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 53 11:12:47

ความคิดเห็นที่ 23 ว่ากันที่เทคโนโลยีด้วย รถคลาส 150 2t เทคโนโลยีหยุดอยู่ตรงนั้นเป็นสิบปีแล้ว  จะเอามาเทียบกับนินจา เทคโนโลยีปัจจุบัน  ผมว่า มันไม่เหมือนกันนะครับ nsr proarm, PDK R1 สองสุดยอดเทคโนโลยีของ 150 2t ในสมัยนั้น  เป็นรถที่มีเทคโนโลยีชนิดก๊อบออกมาจากสนามแข่งทั้งคู่  แต่ก็สิบกว่าปีมาแล้ว  ลองมาดูกันบ้างว่าสมัยนั้น สี่จังหวะคืออะไร และมื่อจับกัน ผลเป็นอย่างไร  ใครๆ ก็ต้องพูดกันว่า  150 2t ต้องว่ากันกับ 400 เท่านั้น แต่อย่าลืมว่าสมัยนั้นก็เทียบกันไม่ได้อีกแหละครับ  เพราะสี่จังหวะ ยังไม่ได้พัฒนาเทคโนโลยีให้ถึงจุดสูงสุดเหมือนสมัยนี้  มันยังเป็นยุคเริ่มต้นอยู่นะครับ สรุปว่า... ผมว่าการเอา 500 2t มาแข่งกะ 1000 4t ในสนาม motogp ก็ยังไม่แฟร์กับรถสี่จังหวะ ซึ่งยังไม่พัฒนาเต็มที่ด้วยซ้ำไป ขณะเดียวกัน  การเอา 150 2t มาแข่งกับ 250 4t เมื่อสิบปีก่อน มันก็ไม่แฟร์กับ 250 ขณะเดียวกันอีก การเอา 150 2t อายุสิบกว่าปี มาแข่งกับ 250 4t วันนี้  มันก็ไม่แฟร์อีกแหละ กับ 150 เพราะเทคโนโลยีสี่จังหวะที่พัฒนาขึ้นมากกว่าแต่ก่อน สรุปว่า  150 เป็นรองครับ  ถ้าตอบคำถามแรกของกระทู้ แต่ก็ต้องย้ำว่า มันไม่เหมือนกันครับ มันไม่เหมือนกัน  มันเทียบกันไม่ได้ สิ่งที่ผมอยากเห็นก็คือ  หากทุกวันนี้เทคโนโลยีสองจังหวะ ยังคงพัฒนาในตลาดเมืองไทย ในสนามแข่ง และในตลาดโลก ควบคู่ไปกับสี่จังหวะ โดยให้มีการพัฒนาเทคโนโลยีที่เท่าๆ กัน  สองจังหวะจะไปได้ไกลขนาดไหนในปัจจุบัน  จะสามารถรักษากฎ 4t x 2  ได้เหมือนสมัยก่อนได้หรือไม่  อันนี้น่าดูครับ  (แต่คงไม่ได้ดูแล้ว) จากคุณ : freelance_law เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 53 12:02:40

ความคิดเห็นที่ 24 กระทู้ เช็คอายุ อิอิอิ ดีครับ ได้ความรู้ดี ชอบๆๆๆๆ จากคุณ : monoport เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 53 12:17:55

ความคิดเห็นที่ 25   2tในตลาดโลกยังมีครับ อิตาลียังผลิตขายอยู่ 125cc วิ่งซ่ะเกือบ200 จากคุณ : bamboo เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 53 12:52:42 A:58.9.145.17 X: TicketID:219328

ความคิดเห็นที่ 26   วิ่งสั้นๆถ้าหา nsr proarm  สภาพเหมือนใหม่ได้ 2T กิน 250 4t  2 สูบแน่นอนครับ   ถ้ายาวๆๆ 4t  คงเอาคืนได้ไม่ยาก  เพราะ 2t คงน้ำมันหมดก่อน  dash 125 ผมกิน 25โล/ลิตร ถ้าขี่เกิน 100 คงซดเท่ามีนา จากคุณ : JohnnyNahe เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 53 13:00:29

ความคิดเห็นที่ 27 2จังหวะ cc x 2 = cc 4จังหวะ ดังนี้  2 จังหวะ 150  จะเท่ากับ 4 จังหวะ  300 CC คับ จากคุณ : joke_LT เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 53 13:30:23

ความคิดเห็นที่ 28   คิดก่อน จากคุณ : เป็นธี่ เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 53 14:48:49 A:202.4.248.86 X: TicketID:268533

ความคิดเห็นที่ 29 แก้ไขเมื่อ 11 พ.ค. 53 14:57:43 แก้ไขเมื่อ 11 พ.ค. 53 14:54:54 แก้ไขเมื่อ 11 พ.ค. 53 14:53:06 จากคุณ : ^^ (Vigo_Turbo) เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 53 14:52:38

ความคิดเห็นที่ 30 นินจา250cc สุดๆได้เท่านี่ง่ะ  ไมล์อ่อนจาก GPS 6% จากคุณ : Vigo_Turbo เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 53 14:57:07

ความคิดเห็นที่ 31 มักจะเปรียบเทียบ  150โมเต็ม กับ 250เดิม ๆ เสมอ ทำไมไม่การโมเท่า ๆ กันล่ะครับ เช่นรถเสปคเดิม ๆ เหมือนกัน  เพิ่มอัตราการจ่ายน้ำมัน  กรองอากาศ ท่อ  แล้วก็อะไรก็ตามที่ทำได้เหมือน ๆ กัน อยากรู้เหมือนกันครับว่าใครจะชนะ ไม่งั้นวันหลังอาจมีคนเปรียบ  150ccเดิม ๆ กับ  ksrโมเต็ม  ตัว 150อาจจะหนีไม่ออกเหมือนกันนะครับ จากคุณ : Ounji เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 53 14:59:31

ความคิดเห็นที่ 32 ผมว่าใกล้เคียงกันนะครับถ้าเดิมๆทั้งคู่ แบบว่าวิ่งจุ่อตูดกันไปเลย (ถ้าวิ่งไม่ขาดขนาดเป็นร้อยเมตรผมถือว่าพอๆกันครับ) แต่ว่าความนิ่ง ความเสถียร ในย่านความเร็วสูง 250 น่าจะเหนือกว่าครับ แต่เรื่องเสียง 150 กินขาดครับ แล้วช่วงตีนต้นน่าจะขึ้นไปได้ไวกว่าด้วยครับ ถ้าแข่งทางสั้นๆ 150 น่าจะกิน แต่ถ้ายาวๆเป็นสิบกิโล ผมว่า 250 น่าจะกินครับ จากคุณ : kuromonkey เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 53 17:04:07

ความคิดเห็นที่ 33 จำได้ว่าเคยลองกับเพื่อนรถเดิมๆมันขี่ wing150 เราขี่ rx100 ทิ้งมันเป็นทุ่งเลยอ่ะ จากคุณ : เกิดมาจน เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 53 18:20:15

ความคิดเห็นที่ 34   แล้วเรื่องอัตราการกินน้ำมันระหว่าง 150 2T กับ 250 4T หล่ะครับ เป็นยังไงบ้างครับ น้ำมันชนิดเดียวกัน ขับขี่ที่ความเร็วเท่ากัน ปล.จริงเหรอครับที่ถ้าใช้ 150 2T แล้วเปลี่ยนมาใช้ 250 4T จะให้ความรู้สึกในด้านความแรงที่ไม่แตกต่างกันมากนัก ( นอกจากความเท่ห์ที่ 250 4T เหนือกว่าเห็นๆ ) จากคุณ : SPLENDIDA เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 53 20:44:17

ความคิดเห็นที่ 35   ตอบความเห็นที่ 34 นะครับ เรื่อง   ปล.จริงเหรอครับที่ถ้าใช้ 150 2T แล้วเปลี่ยนมาใช้ 250 4T จะให้ความรู้สึกในด้านความแรงที่ไม่แตกต่างกันมากนัก ( นอกจากความเท่ห์ที่ 250 4T เหนือกว่าเห็นๆ ) ผมก็เป็นคนนึงที่มี 2จังหวะ 150ccครอบ ครอง krr150se คือว่า 2จังหวะมันลากรอบแบบดึงดีมากๆอะครับ  ทำให้ขี่แล้วรู้สึกสนุกกว่ามันส์กว่า ส่วน4 จังหวะ 250 ก็คงดึงเรื่อยๆ มาเรียงๆอะครับ  ผมคิดว่าเป็นงี้นะแต่ความแรงเร็วคงไม่ทิ้งกันเท่าไหร่หรอกครับ  ต้นกับกลางผมคิดว่า150cc2จังหวะ ได้กิน 250 4t  2 สูบ    แต่พอความเร็วปลาย ผมคิดว่า  250 4t 2สูบกิน 150 cc 2t อะครับ เนื่องจากผมขี่ 2 จังหวะก็พอรู้อยู่และรู้สึกได้ว่าเครื่องมันทำงานหนักมากอะครับ ยิ่งตอนลากรอบ ไปถึงประมาณ11000รอบ เนี้ย  คงไม่ค่อยมีคนขี่2จังหวะคนใหนขี่แช่ยาวๆอะครับ จะรู้ได้เลยว่าเครื่องมันทำงานหนักมาก ส่วน4จังหวะคงจะแช่ได้อย่างสบายๆเพราะรู้สึกเครื่องมันทำงานไม่หนักเท่า 2จังหวะอะครับ ^^ จากคุณ : pianorider!!!! (sathaporn41132) เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 53 21:16:14

ความคิดเห็นที่ 36 จากที่ได้ขี่ทั้ง 2 แบบ คือ KR150SP และ Ninja250  นั้น พอจะอธิบายความรู้สึกพอได้ว่า Ninja250 ให้อัตราเร่งตั้งแต่ต้น จนสุดนั้น ได้นิ่มนวล ไม่กระชวกโฮกฮาก เมื่อเปรียบกับ KR ซึ่งอัตราเร่งในตอนต้นจะหน่วงนิดนึง จากนั้นรอบกลางไปถึงปลายก็จะดึงไปจนถึง 10,000 รอบ แต่ที่จะสู้Ninja 250ไม่ได้ตรงที่การทรงตัวที่ความเร็วสูงๆninja250จะทำได้ดีกว่า (อาจจะเป็นเพราะKR คันนี้มันอายุมากแล้วมั้ง) อ้อ..ผมเอาไปลองวิ่งดูที่150 โห...ร่อนดีจังแฮะ เพราะผมชินกับรถใหญ่แล้วมั้งครับ ทั้งหมดนี้เป็นความรู้สึกส่วนตัวของผมนะครับ คงเอาไปอ้างอิงไม่ได้นะครับ แก้ไขเมื่อ 11 พ.ค. 53 22:51:25 แก้ไขเมื่อ 11 พ.ค. 53 22:43:54 จากคุณ : พรปัญญา เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 53 22:42:32

ความคิดเห็นที่ 37 ตอบ 34 1.อัตราการกินน้ำมันนี่ไม่ต้องสืบเลยครับ 2 จังหวะ นี่ถ้าให้เปรียบคงเหมือนกับการอาบน้ำแบบใช้ขันตักจากตุ่ม แบบที่เขาอาบกันที่ต่างจังหวัด ส่วน 4 จังหวะคงเหมือนการอาบน้ำจากฝักบัวแบบเปิดแรงสุด คงเทียบได้ประมาณนั้น 2."จริงเหรอครับที่ถ้าใช้ 150 2T แล้วเปลี่ยนมาใช้ 250 4T     จะให้ความรู้สึกในด้านความแรงที่ไม่แตกต่างกันมากนัก" ผมไม่เคยได้ขี่ 250 แบบเต็มๆแต่เคยไปลองนินจาที่ศูนย์ ขี่วนรอบที่จอดรถแค่นั้น แต่จากประสบการณ์(คิดว่ามีไม่น้อยเหมือนกัน) ใช่ครับมันสัมผัสได้เลยว่าความแรงไม่ต่างกันมาก แต่องค์ประกอบของรถมันต่างกันครับรู้สึกถึงความมั่นคงกว่าชัดเจนในตัว 250 จากคุณ : kuromonkey เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 53 22:46:13

ความคิดเห็นที่ 38 ninja250 ที่เคยขี่อยู่ระยะหนึ่ง ก่อนที่จะขายไป จากคุณ : พรปัญญา เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 53 22:48:38

ความคิดเห็นที่ 39 ผมให้ 2ทีครับ รอบมันสูงง่ะ ทอร์คมาไวได้กว่า ต่อให้ไมล์หลอนก็เถอะถ้าทั่นไม่กลัวตายบิดเข้าไปเถอะ มันมาได้เรื่อยๆ ส่วนสะบัดไรนั้นคือระบบการออกแบบมันสู้ 4ที ไม่ได้ครับ รถ 2 ทีมัน 10ปีกันหมดแล้วครับ การออกแบบช๊อค+เฟรมเค้าไปถึงไหนกันแล้ว ปล. ส่วนทำไม 2 ที เลิกทำ เพราะโลกร้อนครับ อิอิ (เพราะมาตรฐานไอเสียนั่นเอง) จากคุณ : สุกี้แห้งรวมมิตร เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 53 01:04:01

ความคิดเห็นที่ 40 ให้ 2T ครับ เคยๆวัดกันอยู่เหมือนกัน สมัยพวก VR 150 (เช็คอายุอีกแว้ว) ถ้านับ tech สมัยนั้น 4T เทียบ 2T เนี่ย ผมว่าแพ้อะ แต่ว่า.... 2T เปลือง Auto Lube....... กับต้องมาเปิดฝา ขูดเขม่า..............  เซ็งเป็ด 5555 ปล 2T แรงตอนแรก แผ่วปลาย 4T ไปได้ตลอด อัตราาเดียวกัน แต่ไม่ต่างกันมากหรอก ปล ขับ NSR 150 , VR 150 ประจำ ครับ เป็นของเพื่อน  ส่วน 4T ของเพื่อน จำไม่ได้และ ส่วนตัว ขับ nova s ที่ วิ่งเกียร์ 3 เร็วกว่าเกียร์ 4  55555 จากคุณ : Zatan เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 53 07:54:59

ความคิดเห็นที่ 41 คิดเหมือนท่าน #37 คุณ kuromonkey   เผอิญว่าได้ไปลองมาเหมือนกันครับ ถ้าสภาพเดิมๆออกห้างเหมือนๆกัน ผมดูจากคลิปใน#30 คิดว่า 2t สู้ได้แบบสูสีครับ แต่ทั้งนี้ ต้องขึ้นอยู่กับระยะทาง สั้นยาวขนาดไหนด้วย ถ้ายาวระดับ ข้ามจังหวัด 2tน่าจะเหนื่อยกว่านิดนึงครับ คือ มันคุมรถยากกว่า การมุดลมทีความเร็วสูงๆยังไม่ดีพอ หากตัดเรื่องเครื่องยนต์ออกไป แต่ว่ากันที่ระบบเบรค ระบบกันสะเทือน ตำแหน่งท่านั่ง ความลู่ลม ฯลฯ ตรงนี้ผมให้250 เหนือกว่าแบบเห็นๆครับ ภาพรวม250ยุคปัจจุบันนี้ มันให้คำตอบชัดเจนกว่า จากคุณ : พ่อน้องGuttjang เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 53 13:25:55

ความคิดเห็นที่ 42 ^ ^ ^ ถึกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก จากคุณ : un750 เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 53 13:31:18

ความคิดเห็นที่ 43 เถียงกันทามม้าย.. มาลองกันเลยดีกั่ว  ผมมี TZM  สองที (เฉพาะรถ คนได้ทีเดียว คิกคิก)    พี่เอ๋ พ่อน้องกัตจัง มี FSX  นายอั้น เอา โปรอาร์มมาอีกคัน..  ใครมีนินจาเอามาเทียบได้เลยคับ..   จริงๆ  แล้ว ไอ้ สี่ที  250 ก็มีนะ แต่เป็น ดีแทคเก้อร์ ปลาย"เ่น่าสนิท" คงต้องขอยืม นินจาจากในเว้ปแล้วหละคร้าบ   วันไหนว่าง ๆ ล้างตาพร้อมกัน กรุงเทพ ดอนหอยหลอดซักที.. ขอความกรุณา นัดล่วงหน้า  ห้ามทำอย่างพี่เอ๋สุดหล่อของน้องยอด.. โทรนัด สามทุ่ม บอกหกโมงเช้าเจอกัน.. แบบเนี้ย.. เมียไม่ให้ไปคร้าบบบ .. จากคุณ : Mr-32 เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 53 13:35:36

ความคิดเห็นที่ 44 เอา KLX กะ DTX มาแข่งกันดีก่า ว่าใครปลายไหลกว่ากัน อิ อิ อิ ***************************************** พอเหอะครับ ไอ้เรื่องเทียบกันเนี่ย สมัยนี้ รถ 2T แต่ละคัน ที่เหลือ ๆ อยู่ สภาพก็ทรุดโทรมไปตามกาลเวลา คันไหนที่บูรณะัมาสวยสด บางทีก็ขึ้นอยู่กับมือช่าง ว่าถึงหรือไม่ ไม่ใช่เป็นมาตรฐานใหม่จากโรงงานมาเทียบกันได้ รถมันคนละยุคกันนะครับ เทคโนโลยีมันก็ต่างกันแล้ว แต่ลองคิดดูละกันครับ NSR150SP เมื่อ 13 ปีก่อน ช่วงล่างให้โปรอาร์ม ให้ช๊อคหลังแก๊สกึ่งน้ำมันของ Showa แม๊กหลังหน้ากว้าง 3.0 ใส่ยาง 120 กับค่าตัว 7 หมื่นปลาย ๆ กับอีก 13 ปีต่อมา ึ7 หมื่น ได้แค่ PCX ถ้าจะเล่นสปอร์ต ต้องไปค่ายแตนเขียว ราคา 150k เยี่ยงนี้ มันน่าแค้นใจเสียจริง ๆ จากคุณ : un750 เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 53 13:49:28

ความคิดเห็นที่ 45   ทำไมไม่ลองจับกับ cbr 250 ดูละครับ  ยุคใกล้ๆกันนะครับ  ไปจับนินจาก็ไม่เห็นด้วย จากคุณ : เจ้าชายรองเท้าแตะ 655 เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 53 14:18:07

ความคิดเห็นที่ 46   NINJA 250 บ้านเราเป็นหัวฉีด ผมอ่านมาหลายกระทู้บบอกอัตราสิ้นเปลืองไว้ใกล้เคียงกันที่ ประมาณ 20กว่ากิโล( 20ปลายๆ ) / 1ลิตร ใช่ป่ะครับ แล้ว 150cc 2T ถ้าเครื่องยังฟิดๆ แน่นๆ อยู่ จะกินน้ำมันน้อยกว่าหรือเปล่าครับ เพราะกระบอกสูบเล็กกว่าและมีแค่ 1สูบ ต่างจาก NINJA 250 ที่มี 2สูบ ส่วนเรื่องความแรง ผมจำได้ว่าเคยอ่านหนังสือเกี่ยวกับมอเตอร์ไซด์นี่แหล่ะ สมัย 10กว่าปีมาแล้ว ถ้าจำไม่ผิดเค้าบอกว่า รถ 4จังหวะ ขับขึ้นภูเขาสูงๆ ได้สบายกว่า รถ 2จังหวะ เยอะ ไม่ทราบจริงหรือเปล่าและทำไมถึงเป็นเช่นนั้น ถ้าจริงแสดงว่า 4T มันมีกำลังอัดหรือว่าแรงบิดมากกว่าหรือเปล่าครับ จากคุณ : SPLENDIDA เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 53 15:14:19

ความคิดเห็นที่ 47 ตอบ 46 สองจังหวะ สูบเดียวก็จริง แต่เพลาข้อเหวี่ยงมันหมุน 1 รอบมันก็จ่ายน้ำมัน 1 ครั้งเกิดจังหวะกำลัง 1 ครั้ง แต่ สี่จังหวะต้องหมุนเพลาข้อเหวี่ยง 2 รอบถึงจะจ่ายน้ำมัน 1 ครั้งแล้วเกิดจังหวะกำลัง 1 ครั้ง  ยกตัวอย่างง่ายๆนะครับ 150 ซีซี หมุน 1 ครั้งก็ 150 ถ้าหมุน 2 ครั้งก็เป็น 300 ส่วน 250 ต้องหมุน 2 ครั้งจึงจะจ่ายน้ำมันครั้งนึง ก็เป็น 250 สรุป ถ้าเครื่องยนต์หมุนที่รอบเครื่องเท่ากันแล้วอันไหนจะกินน้ำมันกว่ากันก็ลองคำนวนดูครับ  แล้วสองจังหวะสมัยก่อน เกิดมาในยุคน้ำมันถูก ซุปเปอร์ลิตรละ 9 - 10 บาท แล้วก็มีการแข่งขันกันด้านความแรงของทุกค่าย เรื่องความประหยัดแทบไม่มีใครพูดถึง ต่างกับ สี่จังหวะ ในยุคนี้ที่เกิดมาในยุคน้ำมันโคตรแพง ออกแบบมาเพื่อให้ประหยัดน้ำมัน เป็นที่ตั้ง แล้วเทคโนโลยีในการจ่ายน้ำมันในสมัยนั้นกับสมัยนี้ก็ต่างกัน สมัยนี้ใช้เทคโนโลยีหัวฉีด ซึ่งประหยัดน้ำมันกว่าคาร์บู ยิ่งคาร์บูสมัยก่อน จูนอัพเพื่อเรียกแรงม้าโดยไม่ได้คำนึงถึงความประหยัดน้ำมัน ดังนั้นแม้นินจาจะมี 2 สูบ ซีซีเยอะกว่า แต่เหตุผลข้างบนทั้งหมดแล้ว 150 ซีซี สมัยก่อนซดน้ำมันอย่างกับรถยนต์ขนาดเล็กที่ขับความเร็วต่ำๆเลย (ผิดถูกยังไงใครรู้ก็ช่วยแก้ไขให้ด้วยครับ) เรื่องแรงบิดนี่ชัดเจนว่า 4 จังหวะนั้นเหนือกว่าครับ  2 จังหวะตอนขี่ขึ้นสะพานถ้าขับด้วยความเร็วต่ำต้องเชนเกียร์ช่วย แต่ 4 จังหวะนี่ไหลขึ้นไปได้แบบสบายๆ ส่วนเรื่องทำไมจึงเป็นเช่นนั้นให้ผู้รู้มาอธิบายเพิ่มดีกว่าครับ แต่ถ้าให้ตอบตามความเข้าใจ(แบบมั่วๆ) ก็คงเพราะ 2 จังหวะแม้จะมีจังหวะกำลังที่มากกว่าที่รอบเครื่องเท่ากัน แต่ก็มีอัตราการสูญเสียกำลังงานที่มากกว่าเช่นเดียวกัน แม้จะดูว่า 2 จังหวะให้ กำลังเป็น 2 เท่าที่รอบเครื่องเท่ากัน(เพราะจ่ายน้ำมันทุกรอบการทำงาน) แต่ส่วนผสมที่เข้าไปในห้องเผาไหม้(น้ำมัน+อากาศ) จะไหลตามออกไปพร้อมกับไอเสียบางส่วนด้วย ในจังหวะที่ลูกสูบเคลื่อนลง ทำให้กำลังงานที่ได้ลดลง คือ แทนที่เมื่อใส่ไป 150 จะได้กำลัง 150 แต่กลับเป็นว่า ส่วนผสมบางส่วนมันไหลออกไปพร้อมไอเสียในจังหวะจุดระเบิดก่อนหน้า(สมมุติว่ามันไหลออกไปสัก 20 ) ทำให้เหลือเป็น 130 ไม่ใช่ 150 แต่ว่าต้องจ่ายน้ำมัน 150 เท่าเดิม แต่กำลังที่ได้กลับมาเพียงแค่ 130 จากคุณ : kuromonkey เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 53 16:09:48

ความคิดเห็นที่ 48 ไม่เอาไปจับ กับ RS 125 บ้าง ล่ะ หุๆ ตามสูตร คำนวณ เป๊ะๆ เลย 125*2 = 250 อิอิ จากคุณ : zaax11 เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 53 11:26:35