|
ความคิดเห็นที่ 15 |
ขอตอบ ความเห็นที่ 11 ครับ
อ่า ถ้าเมื่อก่อนเราจำได้ว่ารอบเครื่องเราใช้ไปแค่ 2000 รอบ/วินาที ที่อัตราความเร็ว 100 กม/ ชม แต่ต่อมา มันเพี้ยนไปเป็น 2300 อันนี้ ถ้าสมมุติว่าเข็มวัดความเร็วรอบคุณไม่เพี้ยนนะครับ ผมคิดว่าขึ้นกับระยะการเหยียบคันเร่ง ถ้าคิดว่าเท่าเดิมที่เคยขับ 100 กม/ชม การกินน้ำมันมีสิทธิ์เท่าเดิมครับ แต่ถ้าไม่ หมายถึงลึกกว่าเดิม มีสิทธิ์ที่จะกินกว่าเดิมครับ แต่ในกรณีที่เท่าเดิม แต่รอบเพิ่มขึ้นนั้น ผมคิดว่า ระบบเกียร์หรือครัช อาจจะมีปัญหา เพราะเหมือนกับการถ่ายทอดพลังงาน จากตัวเครื่องยนต์ไปยังระบบล้อ ไม่ได้ อัตรา 1:1 จะคล้ายๆว่าเราขึงสายพานหย่อนๆอะครับ ทำให้หมุนลื่นๆไป ดังนั้นตัวนำการหมุน(เครื่องยนต์) จึงหมุนสะดวกขึ้นหน่อยนึง เพราะสายพานหย่อน จึงทำให้ดูเหมือนว่ารอบเครื่องยนต์เพิ่มขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม รถแต่ละรุ่นมันจะมีจุดประหยัดที่เหมาะสมอะครับ ที่ความเร็วรอบระดับนึงและอัตราความเร็วระดับนึง เช่นไม่ได้หมายความว่าคุณขับรถเกียร์ 1 ต่ำสุดที่ความเร็วสูงสุดของเกียร์นี้ จะประหยัดสุด เพราะการขับเช่นนี้ เป็นการเสียโอกาสความเร็วรอบของเครื่องยนต์ทิ้งไป ถึงแม้น้ำมันอาจจะจ่ายน้อยก็จริง แต่เมื่อแลกกับระยะทางและเวลา เราอาจจะผลาญน้ำมันกว่าความเร็วที่เหมาะสมในเกียร์สูงสุด ถ้าเคยเรียนวิชาเศรษฐศาสตร์เขาจะเรียกว่าจุด break even point อะครับ คือมีเส้นอุปสงค์กับอุปทานมาตัดกันในจุดที่เหมาะสม นั่นคือเป็นจุดที่เราจะประหยัดที่สุด
แล้วถามว่ารถเราวิ่งเท่าไหร่ประหยัดที่สุด.. สำหรับผม รถแต่ละรุ่นมีจุดที่ประหยัดสูงสุดต่างกัน เพื่อความชัวร์เราก็สามารถออกแบบการทดลองได้ สมมุติว่าขับรถที่เกียร์สูงสุด - เริ่มความเร็วตั้งแต่ 40 กม/ชม เป็นระยะทาง 100 กม แล้วดูว่าเราหมด น้ำมันไปกี่ลิตร -เริ่มความเร็วที่ 60 กม/ชม เป็นระยะทาง 100 กม แล้วดูว่าหมดน้ำมันไปกี่ลิตร -เริ่มความเร็ว 80 , 90 ,,100, 1xx ด้วยระยะทางเท่าเดิม แล้วดูว่าจุดไหนที่ประหยัดสุด ก็คือจุดนั้นแหล่ะครับ ที่เป็นจุดความเร็วที่เหมาะสมและประหยัดน้ำมันที่สุดครับ
จากคุณ |
:
ky2net
|
เขียนเมื่อ |
:
11 พ.ค. 53 14:57:19
|
|
|
|
|