ความคิดเห็นที่ 1 ป้องกันดีแล้ว ขับๆอยู่เจอฝนตกซู่ซ่า อะโลฮ้า~~~ ขึ้นมาทำล่ะก็ ใช้เทคนิคดังต่อไปนี้ครับ 1. ขับด้วยความเร็วต่ำ อันนี้แน่นอนครับขับเร็วต้องมั่นใจว่ายางดอกเยอะ    ช่วงล่างเอาอยู่ ผมมันคนเซฟๆขับช้าดีกว่า แต่ชัวร์ครับ    ถ้าขับทางไกล - ช่วยลดความเสี่ยงเมื่อเจอพื้นที่แอ่งน้ำขัง วิ่งผ่านแล้วเหินน้ำครับ   ถ้าขับในเมือง - สงสารคันข้างๆและเลนตรงข้ามครับ น้ำที่กระเด็นขึ้นมา   ถ้าน้อยๆไม่เป็นไร ถ้ามากหน่อยก็ถึงกับไปปิดกระจกหน้าเค้าได้เลยครับ   อันตรายเนาะ...แล้วก็คนยืนรอรถเมล์ที่ป้ายครับโดนไปซักโครมนี่   บุพการีที่บ้านสะดุ้งแหงๆ ฮ่าๆๆๆ 2. สังเกตเส้นทางครับ- ผมสังเกตที่พื้นถนนก่อนอันดับแรกครับ    บริเวณไหนเจอพื้นที่คล้ายกระจุกแผ่นน้ำ จะสังเกตได้จาก คลื่นที่กระทบ    บริเวณนั้นจะใหญ่ แปลว่า น้ำลึก เกิน 3-4ซม.แหงครับ ด้วย cruising speed    ของเราที่ไม่เร็ว จะเปลี่ยนเลนหรือหักหลบได้ทันครับ    อีกจุดที่ต้องระวังสุดๆคือ ตีนสะพานข้ามแยก ข้ามคลองต่างๆครับ    ร้อยละ 80 มีน้ำขังก่อนขึ้นสะพานแน่นอน (ตีนสะพานขาลงไม่ค่อยมีครับ มันไหลลงหมด) 3. ให้สัญญาณไฟแต่เนิ่นๆกว่าปกติครับ - เรามาเซฟๆ เจอคันหลังที่มองข้างหน้าไม่ชัด    มาซัดท้ายคงเศร้าแย่ใช่มั้ยครับ..แก้โดยการเปิดไฟเลี้ยวแต่เนิ่นๆครับ    เปิดก่อน เห็นก่อน เบรคก่อน ไม่ชนท้ายเราครับ เอาไปอีกซักเพลงละกัน กะลังได้เลย จากคุณ : DarkBlueFlamingo เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 53 20:49:36

ความคิดเห็นที่ 2 1.ขับตามไฟท้ายรถคันหน้า แต่ทิ้งระยะด้วย แต่ถ้ารถคันหน้าเปิดไฟฉุกเฉินวิ่งให้แซงเลย ตรูตาลาย 2.มองเส้นขอบทางไว้ 3.มองกระจกส่องหลังรถเรื่อยๆ อันนี้แบบมีไล่หมอกหรือกันสาดหลัง กระจกข้างอาจมีน้ำเกาะ มองได้แค่ใกล้ๆ 4.ตกหนักมองไม่เห็นทางจริงให้ผ่อนคันเร่ง แล้วดูเส้นขอบทางเป็นหลัก 5.เปิดไฟฉุกเฉินเวลาจอดเท่านั้น จะได้ไม่สับสน แค่เปิดไฟหน้าไฟท้ายรถ คันที่ตามหลังมาก็มองเห็นแล้ว จากคุณ : O_O (cabal1) เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 53 20:57:22

ความคิดเห็นที่ 3 ขับแบบเล่นเกม ครับ คือ ขับหลบเม็ดฝน อย่าให้โดนครับ สนุกดี จากคุณ : napatn เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 53 20:58:38

ความคิดเห็นที่ 4 เฮ้ออ~~ฝ่าฝนกับรถติดกลับบ้านโดยปลอดภัยแล้ว อย่าเพิ่งดีใจไปครับ ความชื้นและน้ำที่เราฝ่ามา ยังเกาะเต็มรถเรา ทั้งภายในและภายนอกรถครับ ภายนอกช่างมันละกันเนาะ เช็ดเอา ฮ่าๆๆ ภายในห้องเครื่องและระบบเบรคครับ ตัวการร้าย ก่อนเข้าบ้าน ผมทำดังนี้ครับ 1. เร่งมาไม่แรงมาก...แล้วเบรคช้าๆ ยาวๆ 2-3ครั้งครับ    ตามด้วยเบรคหนักๆบ้าง 2-3ครั้งเช่นกัน ไล่น้ำในจานเบรคและระบบเบรค    ด้วยความร้อนจากการเบรคครับ 2. กอนดับเครื่อง...ผมเหยียบคันเร่งค้างไว้ ซัก 1 นาทีครับ    รอบไม่ต้องเยอะนะครับ ไม่เกิน 2000 รอบต่อนาที(เกินนั้นเปลืองน้ำมัน ฮ่าๆ)    สร้างความร้อนให้ห้องเครื่องครับ ไล่ความชื้นจากระบบไฟฟ้า    โดยเฉพาะ จานจ่าย ไดสตาร์ทครับ ไม่งั้นตื่นเช้ามา สตาร์ทไม่ติดครับเคยเจอมาแล้ว    ถ้าใครเผลอลืม เอาสเปรย์ไล่ความชื้นมาฉีดไล่เอานะครับ ช่วยได้นิดหน่อย 3. เช็ดกระจกมองข้างให้แห้งครับ ขืนปล่อยไว้ตื่นเช้ามา จะเกิดคราบน้ำ   ลดทัศนวิสัยที่ด้านข้าง ไม่ดีครับ ไม่ดี   เสร็จแล้วพับเก็บครับ ก็เราอุตส่าห์เช็ดเนาะ เช็ดแล้วน้ำเกาะอีกก็เหนื่อยเปล่าใช่มั้ย แหะๆ  (ปกติพับอยู่แล้วครับ แนะนำเผื่อใครต้องจอดกลางแจ้ง) หมดเพียงเท่านี้ครับ ใครมีวิธีเด็ด แหล่มๆ มาเเชร์กันครับ คุยกัน สบายๆคืนฝนพรำครับ ปิดท้ายด้วย เพลงบอกอายุ ฮ่าๆๆๆ แก้ไขเมื่อ 25 พ.ค. 53 21:33:43 จากคุณ : DarkBlueFlamingo เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 53 20:58:54

ความคิดเห็นที่ 5 ตำราเดียวกับ #4 ครับ ตัวเลขอาจไม่ตรงกัน แต่ วิธี เหมือนกัน จากคุณ : kittipatr เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 53 21:21:43

ความคิดเห็นที่ 6 - ถ้าฝนตกตอนกลางวัน แล้วแสงที่กระจกหน้าจ้ามาก ๆ ให้ใส่แว่นตากันแดด จะช่วยตัดแสง ทำให้มองเห็นชัดขึ้น - เปิดไฟหน้าได้ ก็เปิดเลย เพราะคันด้านหน้าเราจะได้มองเห็นเรา เวลาจะแซงหรือเปลี่ยนเลน (ป้องกันตัวเอง) จากคุณ : SPTBKK เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 53 21:29:00

ความคิดเห็นที่ 7 ชอบนะเย็นดี ถ้าตกไม่หนัก คิดถึงตอนจีบกันใหม่ๆฝนตกแล้วไปส่งลำบากทำเป็นหาที่จอด ยิ่งแถวๆนี้ใกล้ทะเลด้วย สุดๆ จากคุณ : nomeny เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 53 22:02:31

ความคิดเห็นที่ 8 ถ้าเจอโค้ง พยายามออกจากด้านในโค้ง  (น้ำมักจะขัง) พยายามอยู่ด้านที่สูงสุดของถนน เพื่อหนีน้ำขัง เปิดไฟเพื่อให้ชาวบ้านเค้าเห็นเรา เกาะเส้นแบ่งเลนไว้ (ถ้าไม่มี ให้ยึดขอบถนน และขับช้าๆ) ให้สัญญาณไฟทุกครั้ง ที่รู้สึกว่าเปลี่ยนเลน สังเกตุรถข้างหน้า ถ้าเค้าขับไปแล้วเจอน้ำกระจายออกเยอะๆ  ให้ผ่อนคันเร่งทันที (ไม่งั้นร่อน) เปิดแอร์ แต่อย่าปรับแอร์เข้าหากระจก ทีเหลือก็ประสบการณ์ นึกออกแค่นี้  รอคนข้างล่าง จากคุณ : Prost! (Prost!) เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 53 22:08:39

ความคิดเห็นที่ 9 เทคนิค  เจอแอ่งน้ำอยู่เลนซ้าย ก็หลบมาขับเลนถัดไป  ไม่ขับตามคันหน้าใกล้ๆในช่วงถนนเปียก เว้นระยะให้ห่างเยอะๆ(เพราะจะมีละอองน้ำแบบโคลนมาติด)   ถ้าต้องขับผ่านแอ่งน้ำในถนนไม่คุ้น ก็จอดหลบ ก็ให้รถคันหน้าทดลองทางไปก่อนว่ามีหลุมตรงไหน  แล้วค่อยขับตาม จากคุณ : w2000 เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 53 22:35:43

ความคิดเห็นที่ 10 สูบลมยางแข็งๆ จากคุณ : drof เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 53 22:39:04

ความคิดเห็นที่ 11 ช่วยกันบอกต่อๆไปด้วยว่าฝนตกหนักๆ อย่าขับรถเปิดไฟฉุกเฉิน.. นอกจากจะเป็นการรบกวนสายตาของผู้ใช้รถที่ขับตามหลังมาแล้ว.. ยังอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุอีกด้วยเพราะเวลาเปลี่ยนเลน รถคันอื่นจะดูไม่ออก.. บอกต่อๆกันด้วยนะครับ.. จากคุณ : SCTL เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 53 23:03:57

ความคิดเห็นที่ 12 ขับรถฝนตกหนักๆ ต้องปัดกระจกครับพี่แคน มันเป็นเทคนิคขั้นสูงเลยนะพี่ จากคุณ : CD6 Mugen เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 53 23:16:28

ความคิดเห็นที่ 13 -รักษากฎจราจรอย่างเคร่งครัด -> ปรกติก็ต้องทำอยู่แล้ว ทั้งเรื่องเปิดไฟ เปลี่ยนเลน เว้นระยะคันหน้า -ช่วงฝนตกแรกๆหลังจากไม่ได้ตกมานาน มาเจอฝุ่นบนผิวถนนเข้า เหมือนวิ่งบนขี้เลนดีๆนี่เอง ยิ่งต้องระวังสุดๆ ฝนตกแรงๆยังไม่น่ากลัวเท่านี้ -อย่าคิดว่าใช้เคลือบกระจกหน้าแล้วต้องวิ่งเร็วๆเพื่อไล่น้ำฝนเกาะ จากคุณ : HMOM เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 53 23:20:01

ความคิดเห็นที่ 14 ถ้าลุยน้ำลึก เล่ียงไม่ได้ อย่าเปิดแอร์ ขณะลุยน้ำครับ ส่วนไฟฉุกเฉินเนี่ย... ไม่รู้จะไปเคาะกระจกบอกยังไงเหมือนกันนะ.... จากคุณ : T-geTZ เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 53 23:35:34

ความคิดเห็นที่ 15 #10 ลมยางพอเหมาะดีกว่ามั้งครับ เผลอๆ อ่อนเกินไปนิดๆ ยังดีกว่าแข็งเกินไปนิดๆ นะครับ ผมว่างั้นนะ จากคุณ : จันทร์เย็น เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 53 23:58:01

ความคิดเห็นที่ 16 ผม... ไม่ต้องมีเทคนิคอะไรมากครับ "แค่ขับให้ช้าลง" เท่านั้นเอง จากคุณ : Love...Story เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 53 01:55:09

ความคิดเห็นที่ 17 ขับให้ช้าลง 30% เพิ่มสติและการะมัดระวังอีก 50% จากคุณ : ขุนนางหนุ่มสีน้ำเงิน เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 53 02:07:31

ความคิดเห็นที่ 18 ผระมาณนี้ครับเศร้าดีอะ........................ จากคุณ : sagurahi เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 53 08:01:00

ความคิดเห็นที่ 19 แล้วน้ำยาเคลือบกระจกชื่ออะไร  ซื้อที่ไหน  คุณสมบัติของมันทำอะไรได้บ้าง  ขับอย่างเดียวไม่รู้อะไรเลย จากคุณ : ขับรถมา 30 ปีแล้ว (พักร้อนนอนเปลญวน) เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 53 17:24:58