ความคิดเห็นที่ 1 ถ้าถามว่า อยากได้มั้ย พลังงานไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ผมว่า ใครๆ ก็อยากได้ แต่ปัญหา คือ แล้วโรงไฟฟ้านิวเคลียร์จะไปตั้งอยู่ตรงไหน ?   ถ้ามาสร้างในอำเภอเดียวกับบ้านผม กลัวมั้ย ? กลัวสิ ใครจะไม่กลัว แล้วถ้า ไทยยังไม่สร้าง คนไทยไม่ยอมรับ แต่เวียตนาม ลาว กัมพูชา เค้าจะมี / เริ่มสร้างแล้วล่ะ ? จะทำยังไง ? ถ้าเป็นอย่างนั้น ผมว่า ไม่แตกต่างแล้วล่ะ และคิดว่า อยากให้สร้างในไทยมากกว่า   เพราะผมยังเชื่อมือคนไทย มากกว่ามือคนประเทศเพื่อนบ้านครับ จากคุณ : P_Wut เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 53 18:30:20

ความคิดเห็นที่ 2 ผมอ่านข่าวนี้แล้วผมโล่งใจ เพราะก่อนหน้านี้อำเภอผมก็ถูกสำรวจ เรื่องพลังงานใครๆก็อยากได้ ปัญหาคือจะตั้งตรงไหน ผมละอยากจะถามคนที่กำหนดจุดที่ตั้งว่า ถ้าเอาไปตั้งที่บ้านท่านหรือใกล้ๆบ้านท่านๆจะยอมมั๊ย จากคุณ : cagiva เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 53 19:05:58

ความคิดเห็นที่ 3 ผมก็อยากได้นิวเคลียส์นะ จากคุณ : Pamylee เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 53 19:34:28

ความคิดเห็นที่ 4 พลังงานส่วนใหญ่บนโลก สะสมมาจากดวงอาทิตย์ กว่า 4000 ล้านปีมาแล้ว มนุษย์เราใช้พลังงานที่สะสมมานี้ เช่น น้ำมัน หมดไปอย่างรวดเร็วแค่ร้อยกว่าปี จึงต้องหาพลังงานที่สะสมมาในรูปแบบอื่นๆมาใช้ต่อไป ดังนั้น จะอย่างไรเสีย เราก็คงหลีกหนีพลังงานนิวเคลียร์ ไปไม่พ้นหรอกครับ ไม่อย่างนั้น เราต้องกลับไปใช้ชิวิตแบบในอดีต ทำไร่ทำนา ปลูกผักเลี้ยงสัตว์ ไม่ใช้อุปกรณ์ไฟฟ้า ไม่ใช้เครื่องยนต์ ประชากรบนโลกต้องน้อยกว่านี้ เราจึงจะอยู่กันได้ คนส่วนใหญ่บนโลก ล้วนเห็นแก่ตัว คงไม่ยอมกลับไปใช้ชีวิตแบบนั้นแน่ จากคุณ : ss2498 เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 53 20:00:55

ความคิดเห็นที่ 5 มันไม่ใช่ว่าไม่มีพลังงานทางเลือกอื่นแล้วซักหน่อย แค่มันยังไม่คุ้มทุนในตอนนี้ ลองคิดดูเผื่อซักนิดว่ากากนิวเคลียร์ที่เหลือจากการใช้แล้ว จะเอาไปฝังที่ไหนได้ ขนาดประเทศมหาอำนาจทั้งหลายยังไม่มีปัญญาจัดการให้ดีเลย แก้ไขเมื่อ 01 มิ.ย. 53 20:21:50 จากคุณ : แมงแกลบ เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 53 20:21:06

ความคิดเห็นที่ 6 ไหนๆ ก็ไหนๆแล้ว เอามาลงที่ระยองเลย จากคุณ : i_nam เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 53 20:21:46

ความคิดเห็นที่ 7 NIMBY = Not In My Back Yard หวังว่าคนไทยจะรับผิดรับชอบของตัวเองนะ ไม่ใช่อยากได้ไฟฟ้า แต่ไม่เอาโรงไฟฟ้า อันนี้ไม่ไหวครับ ปล.ถ้ามันมาตั้งอยู่ใกล้บ้านผม ถ้าผมได้ผลตอบแทนที่สมน้ำ/สมเนื้อ ผมก็ยอมครับ จากคุณ : pinestand เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 53 20:43:02

ความคิดเห็นที่ 8 แล้วคิดกันบ้างไหมว่า ความรับผิดชอบของผู้ดูแลนะ เราๆ ท่านๆ คิดว่าวางใจได้แค่ไหน กับผลงานที่ผ่านๆ มา ซ่อมกันตลอดชาตินี้และชาติหน้า ในแง่การผลิตกำลังไฟ นะเหลือเฟือ แต่แง่ความปลอดภัย และความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ผมว่าไทยเราสู้ประเทศเพื่อนบ้านไม่ได้เลยนะ อย่าง พม่า เราว่าเค้าล้าหลังกว่าเรา แต่ผมมองว่าความรับผิดชอบต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชากรในประเทศ เค้ามีสูงกว่าเราเยอะนะ อย่าง ลาว ก็เช่นกัน อะไรที่ไม่แน่ ไม่นอน หรือกัีกๆ เค้าจะไม่ทำนะ หรือทำแล้วผลประโยชน์ในท้องถิ่นนั้นๆ ที่ควรจะได้ มันได้น้อยไป เค้าก็รอๆ ไปก่อน สรุปคือ ผู้นำเค้า ยังมองเห็นคุณค่าของประชากรเค้ามากกว่าบ้านเราเยอะนะครับ ทิ้งเวลาอีกช่วง รับรองได้ว่า พม่า ลาว เขมร นะล้ำหน้าเราแน่นอน ตอนนี้ เวียดนาม ก็ไม่แพ้เราเท่าไหร่แล้วนะ ยิ่งไม่ต้องไปเทียบกับมาเล หรือสิงคโปร์เลย ประชากร มาก่อน ผลประโยชน์ส่วนตัวหรือกลุ่มเล็กๆ จากคุณ : ongtor เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 53 20:52:09

ความคิดเห็นที่ 9 ถ้ามีนักการเมืองแบบที่เป็นอยู่ก็คงไม่มีทางได้สร้าง  เกี่ยวกันไหมเนี้ยแต่คิดเช่นนั้นจริงๆ ทุกพรรค จากคุณ : คนบางแคแค่บ้างคน เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 53 21:01:11

ความคิดเห็นที่ 10 ห่วงเรื่องโกงกิน และความรับผิดชอบ เพราะมันไปกระทบเรื่องอื่นๆที่สำคัญมากๆ ความปลอดภัยต่อพื้นที่รอบๆนั้น หรืออาจทั้งประเทศ แก้ไขเมื่อ 01 มิ.ย. 53 21:04:38 จากคุณ : Bluedoft เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 53 21:02:04

ความคิดเห็นที่ 11 ผมไม่อยากให้ ในประเทศ มีโรงไฟฟ้า ที่ต้องกินทรัพยากรเข้าไป แบบที่ต้องเสียเงิน และ ก่อปัญหาได้ง่ายๆ ครับ แต่ หากเป็นการตวงพลังงานฟรีๆ มาใช้ อย่างความร้อนใต้โลก แสง แดด หรือ คลื่น ลม ผมเห็นด้วยทุกโรงครับ ส่วนใครที่คิดว่ามันปลอดภัย ลองเอาไปตั้งที่ชายแดน ติดๆ กับต่าง ประเทศดูครับว่า ... ประเทศนั้นๆ เขาจะยอมไหม ! จากคุณ : สยึมกึ๋ย เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 53 21:13:43

ความคิดเห็นที่ 12 การก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ไม่ง่ายเหมือนสร้างเขื่อน หรือ โรงไฟฟ้าฟอสซิล นะครับ ต้องมีคณะกรรมการทั้งใน และ ต่างประเทศ คอยตรวจสอบ ควบคุมการ ก่อสร้าง และระบบต่างๆ เพื่อความปลอดภัย ต้องมีการทดสอบทั้งระบบ ทั้ง โครงสร้างรวมทั้งตัวเตาปฏิกรณ์ ผมไม่ห่วงเรื่องการโกงกินงบประมาณในการก่อ สร้างหรอกครับ เรื่องลดทอนสเป็ก อันนี้ ไม่มีแน่ๆ นอกเสียจากว่า จะสร้างแพง เว่อร์เกินจริง อีกอย่าง แล้วจะสร้างตรงไหน อันนี้ล่ะ ปัญหาใหญ่กว่า จะสู้แรงต้าน พวก NGO ที่รับเงินจากต่างชาติ ที่ไม่อยากให้บ้านเรา เจริญรุ่งเรือง มีความมั่นคงด้าน พลังงาน ตรงนี้ล่ะครับ คงรบกันนาน กว่าจะสรุป สร้างหรือไม่ เคยอ่านฟอร์เวิดเมล์ บางอัน เค้าว่ากันว่า เนื่องจากที่ตั้งบ้านเรานั้นดี มีทรัพยากร มากมาย มีสถานที่ท่องเที่ยวสุดแสนสวยงาม อาหารการกินอุดมสมบูรณ์ พระเจ้า จึง ดลบันดาล ให้ มีนักการเมืองแบบไทยๆ เพื่อป้องกัน มิให้ชาติอื่น ต่อ ว่าพระเจ้าได้ว่าลำเอียง อะไรดีๆ ก็ให้เมืองไทย  ผมอ่านแล้ว ขำ ไม่ออกอ่ะ จากคุณ : Uncle Handsome เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 53 21:24:37

ความคิดเห็นที่ 13 มาสนับสนุน คคห.4 ครับ และขอเพิ่มเติมว่า พลังงานทางเลือกอื่นก็ไม่ได้มีแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย และกระบวนการนำพลังงานทางเลือกมาใช้ก็ไม่ค่อยมีประสิทธิภาพ จะว่าไป ต้องคิดแยกแยะให้ชัดๆ ก่อนว่า อะไรเป็นแหล่งกำเนิดพลังงาน อะไรเป็นแค่ กระบวนการส่งผ่านพลังงาน กันแน่ ดูจากวัฏจักรพลังงานให้ดีๆ จะเห็นว่า แหล่งกำเนิดพลังงานจริงๆ มีแค่สองอย่าง คือ ดวงอาทิตย์ และ พลังงานความร้อนใต้พิภพ ยกตัวอย่างพลังงานลม แท้จริงเป็นแค่การส่งผ่านพลังงานจากดวงอาทิตย์ สู่ชั้นบรรยากาศ พลังงานน้ำจากเขื่อน ก็เป็นการส่งผ่านพลังงานจากดวงอาทิตย์ สู่น้ำและชั้นบรรยากาศอีกเช่นกัน พลังงานจากแหล่งน้ำมัน ก็เป็นเพียงรูปแบบการสะสมพลังงานนับล้านปี และส่งผ่านมาในรูปปิโตรเคมีเท่านั้นเอง ใช้หมดก็หมดไป ในกระบวนการส่งผ่านพลังงาน จะมีความสูญเสียเกิดขึ้นเสมอ และเราก็ไม่มีทางเก็บเกี่ยวพลังงานมากเกินไปกว่าพลังงานที่ส่งมาจากดวงอาทิตย์ได้ แต่ความเป็นจริงก็คือ พลังงานแสงอาทิตย์ส่งมาถึงผิวโลกได้อย่างมากก็แค่ 8kW/m2 นี่ว่ากันแบบดิบๆ ไม่หักความสูญเสีย ประสิทธิภาพอะไรต่างๆ เราใช้เวลาแค่หลักร้อยปี ใช้พลังงานที่สะสมมา 4000 ล้านปีหมดไป แสดงว่าอัตราการใช้พลังงานของเรา มากกว่าอัตราการส่งผ่านพลังงานจากดวงอาทิตย์อยู่ (4000 ล้าน)/100 = 40 ล้านเท่า แสดงว่าถ้าเราต้องการคงอัตราการใช้พลังงานในระดับปัจจุบันนี้ต่อไป เราต้องการดวงอาทิตย์ที่ส่งพลังงานมาให้เราเข้มข้นขึ้นไปกว่านี้อีก 40 ล้านเท่า ไม่งั้นก็ต้องสร้างแหล่งกำเนิดพลังงานขึ้นมาใหม่แหละครับ จากคุณ : Little Humming Bug เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 53 21:26:06

ความคิดเห็นที่ 14 ผมว่าดีนะถ้ามีประเทศอินเดียยังมีตั้งหลายโรง จากคุณ : sia cha เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 53 22:01:30

ความคิดเห็นที่ 15   ,, ถ้าบ้านเราไม่ทำ แล้วต่อไปเราต้องซื้อไฟฟ้าจากเพื่อนบ้าน ในราคาที่แพงกว่าทุกวันนี้ ,, ,, ไม่อยากจะคิดอ่ะครับ ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น ,, ,, ถ้าประเทศมีความมั่นคงในเรื่องพลังงาน อะไรๆ มันก็พัฒนาง่ายครับ ,, ,, โดยส่วนตัวทำงานในโรงไฟฟ้าครับ ,, ,, โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ถ้าจัดการตามระบบที่ดีแล้ว ผมว่ามันสะอาดมากๆ ครับ ,, ,, รองๆ มาก็พวกเชื้อเพลิงก๊าซ เพราะพวกนี้ไม่มีลานเชื้อเพลิง ตัดปัญหาด้าน logistic ไปได้อีกด้วย,, ,, ที่แย่สุดๆ ในเรื่องผลกระทบชุมชน ยกให่โรงไฟฟ้าถ่านหิน และพวกชีวมวลเลย ,, ,, จัดการดีแค่ไหน ก็มีหลุด จากลานเชื้อเพลิงมั่ง ขี้เถ้าเบามั่ง ,, ,, และยังจะมีปัญหากะพวก NGO บางคน ที่มันคอยยุชาวบ้านด้วยข้อมูลผิดๆ อีก ,, ,, เฮ้อ....ประเทศไทย ,, จากคุณ : pseudomorph เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 53 22:13:02

ความคิดเห็นที่ 16 ในระดับประเทศ (ไม่ใช่ระดับส่วนตัว ครอบครัว ท้องถิ่น จังหวัดหรือภูมิภาค) ถ้าเราเห็นว่า 1. ประเทศเราควรมีความมั่นคงทางพลังงานด้วยตัวของเราเอง มากกว่าที่จะไปลงทุนและซื้อพลังงานเอาจากประเทศเพื่อนบ้าน 2. ประเทศเราควรจะมีความเจริญก้าวหน้าทางเศรษฐกิจและสังคม เท่าเทียมกับประเทศอื่นๆ มากกว่าที่จะต้องกลับไปใช้ชีวิตในยุคที่ขาดแคลนพลังงาน ถ้าคนส่วนใหญ่ของประเทศเห็นด้วยกับ 2 ข้อ ข้างบนนี้แล้ว ทางออกสำหรับประเทศไทยคือพลังงานนิวเคลียร์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ครับ ไม่ใช่ว่าพลังงานด้านอื่นจะไม่สำคัญ คือเราก็จำเป็นต้องหาทางสร้างพลังงานทดแทนทั้งจากแสงอาทิตย์ ลม น้ำ ด้วยอยู่แล้ว แต่ด้วยปัจจัยต่างๆ ที่มีในประเทศเรา จะหวังว่าพลังงานทดแทนเหล่านี้จะสามารถรองรับต่อความต้องการด้านพลังงานของประเทศนั้น มันยังเป็นไปไม่ได้ครับ จากคุณ : one-world เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 53 22:19:31

ความคิดเห็นที่ 17 ควรสร้างได้แล้วครับ  จำเป็นอย่างยิ่ง ถ้าเรามัวแต่ไม่มองว่าไม่ปลอดภัย  ก็คงไม่ต้องสร้างโรงงานกันเลย เพราะโรงงานไฟฟ้ามันก็อันตรายทั้งนั้น   ปั้มน้ำมันยังอันตรายเลย ไม่อยากให้ต่อต้านมากนะครับ   ก็บอกไปเลย ว่า  สร้างที่อำเภอไหน ให้บ้านที่อยู่อำเภอนั้น  จ่ายค่าไฟแค่ 50%  ตลอดชีวิต  จบ จากคุณ : EITHER เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 53 22:51:37

ความคิดเห็นที่ 18 ลองมาดูวิสัยทัศน์ของ แผน PDP 2010 นี่ครับ "...ทั้งนี้ได้มีการปรับลดสัดส่วนการใช้ก๊าซธรรมชาติในอีก 20 ปีข้างหน้าให้เหลือ 40% จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนสูงถึง 70% ปรับพลังงานน้ำและการซื้อไฟฟ้าจากต่างประเทศเป็น 20% พลังงานทดแทน 5% พลังงานนิวเคลียร์ 10% หรือไม่เกิน 5,000 เมกกะวัตต์..." 1. สัดส่วนที่ใช้ก๊าซที่ลดลงจาก 70% เหลือ 40% นั้น ปริมาณการใช้ก๊าซผลิตไม่ได้ลดลงนะครับ เกือบเท่าเดิม แถมที่มาของก๊าซนั้นมีแนวโน้มที่จะนำเข้าในสัดส่วนมากขึ้นอีก 2. ซื้อไฟฟ้ามาเพียวๆ เลย 20% ส่วนใหญ่คือจาก สปป ลาว 3. แต่นั่นหมายถึง เราได้มีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ 1000 เมกกะวัตต์ จำนวน 5 โรง ซึ่งเริ่มเดินเครื่องผลิตอย่างช้าในอีก 15 ปีนี้ หากไม่มีนั่นหมายความว่าเราต้องนำเข้าไฟฟ้าเพิ่มเป็น 30%!!! ไม่รวมก๊าซที่นำเข้ามาอีก เรามีทางเลือกเหลือน้อยลงๆ หากคิดพึ่งพาพลังงานของตัวเอง สิ่งที่ผมเป็นห่วงมากที่สุดคือเรื่องบุคคลากรครับ โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ต้องใช้เวลาสร้างอย่างน้อยประมาณ 5 ปี คืออย่างช้า 10 นับจากนี้ คนเราต้องพร้อมแล้ว เราเคยเป็นประเทศทันสมัยด้านนิวเคลียร์ มีเตาปฏิกรณ์วิจัยซึ่งเดินเครื่อง 1.2 เมกะวัตต์เกินกำลัง มาเกือบ 50 ปี แต่ก็ต้องเดินต่อไปอีกเป็นสิบปี เพราะเรามัวแต่ โกง แก้แค้น เถียงกัน ขัดขากัน จน 20 ปีแล้วยังซื้อเครื่องใหม่ไม่ได้ ต้องดัดแปลงอะไหล่เหมือนรถ Datsan 620 วางเครื่อง Saturn แล้วเอาอะไหล่โตมาซ่อมอะไรประมาณนั้น แล้วเราจะสร้างโรงไฟฟ้า พันเมกะวัตต์ 5 โรงเหรอ ด้วยสภาพรัฐบาลปะผุ ผู้มีความจริงใจด้วยถ้อยคำอันหวานหู ที่พร้อมจะกลับมาสานต่อนโยบายอย่างแน่วแน่ อยากจะหัวเราะเป็นภาษาอิตาลี ท่านผู้ที่เคยยำรถ Datsan คันนี้เมื่อ 30 ปีก่อน ล้วนกลับไปปลูกผัก-เลี้ยงหลานกันหมดแล้ว สิบปีนี้เราจะเสกผู้เชี่ยวชาญ เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ ช่างเทคนิค หลายพันคนด้านนิวเคลียร์ออกมาจากกระบอกไม้ไผ่อย่างนั้นหรือ ตอนนี้ยังไม่มีใครพูดถึงการวิจัย-หลักสูตร ทางด้านนี้กันแม้แต่น้อย แล้วท่านคิดว่าจะส่งพวกเขาเหล่านั้นมาฝึกซ่อมรถ Datsan คันเก่านี้ เพื่อไปรับมือกับ Audi R8 Spider โอ้อนาคตประเทศไทย แก้ไขเมื่อ 02 มิ.ย. 53 00:05:34 แก้ไขเมื่อ 02 มิ.ย. 53 00:04:24 จากคุณ : อุลตร้าซอรัส เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 53 22:57:37

ความคิดเห็นที่ 19 กระทู้นี้ ผมไม่ได้อ่านทุก คคห. นะ แต่ในความคิดผม จากประสบการณ์ที่เป็น ผชร. เลยได้ศึกษาและไปสัมมนาเกี่ยวกับพลังงานอยู่บ้าง ผมบอกได้เต็มปากเลยว่า "ผมเห็นด้วย" ที่ต้องมี เหตุผลสนับสนุนผมพอมี แต่คงบอกได้ไม่หมด เพราะผมไม่ใช่ วิศวกร หรือผู้ชำนาญการ ผมเป็นเพียงแค่ คนที่ได้ไปอยู่ในวงความรู้เรื่องพลังงานบ้าง ก็เท่านั้น แต่พอดี ผมมี อา(แท้ๆ) ซึ่งอยู่ กฝผ. ตำแหน่งหน้าที่ก็สูงระดับหนึ่งได้คุยกันเมื่อตอนท่านเกษียณ บอกเลยว่า "ถ้าไม่สร้าง" รับรองภายใน 10 ปี ประเทศไทย มีไฟดับแน่ๆ อันนี้แลกเปลี่ยนคงามคิดกันครับ ปล. ไม่รู้นะ คนที่สร้าง คนที่ทำงาน ฯลฯ เค้าคำนึงถึงความปลอดภัยระดับสูงสุด คุณๆ ไม่ต้องไปกังวลหรอกครับ  อุบัติเหตุมันเกิดขึ้นได้ แต่มันไม่เสมอไปหรอก จากคุณ : Inlaw Man เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 53 23:54:18

ความคิดเห็นที่ 20   การซื้อไฟฟ้าจากต่างประเทศเป็น 20% เป็นไปได้มากที่สุด เพราะลาวมีพลังงานจากน้ำและถ่านหินเหลือเฟือ เคยไปดูงานโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่แคนาดา ราคาไฟฟ้าไม่ถูกครับ เพราะลงทุนสูง ดอกเบี้ยแพง แถมมีปัญหา Turbine Blade ถูกกัดกร่อนเนื่องจากไม่มีระบบ Reheat steam จากคุณ : ป๋า เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 53 01:14:26 A:172.16.5.193 X:203.146.104.32 TicketID:110672

ความคิดเห็นที่ 21 ระยะเวลาในการสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ จะอยู่ระหว่าง 10-15 ปีครับ 5 ปีนี่เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน ส่วน #20 โรงไฟฟ้านิวเคลียร์มีหลาย generation นะครับ ตอนนี้ใหม่สุดคือ gen 3 แล้วในแต่ล่ะ gen ก็สามารถแบ่งได้อีกหลายประเภท ดังนั้นจะมาเหมาว่าจะมีปัญหาแบบเดียวกันไม่ได้หรอครับ อีกอย่างที่ แคนาดาใช้น่าจะเป็นแบบ CANDU ซึ้งค่อนข้างจะต่างกับประเภทอื่นและเป็นแบบที่ต้นทุนน่าจะสูงที่สุดด้วยครับ ไม่ได้บอกว่าดีที่สุดนะครับ เพราะจะมีข้อดีข้อเสียต่างๆกันไป ตอนนี้ gen 4 กำลังจะมา ถ้าโชคดี เราอาจจะได้ใช้ก็ได้นะครับ จากคุณ : nohqaq เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 53 01:42:26

ความคิดเห็นที่ 22 ถ้าไม่สร้างตอนนี้ โครงการรถไฟฟ้าอะไรต่างๆ หรือเปลี่ยนจากรถไฟธรรมดา เป็นไฟฟ้า ไม่เกิดแน่นอน เพราะพวกนี้กินไฟเยอะ แค่ตอนนี้เราก็ต้องซื้อไฟฟ้าจากเพื่อนบ้าน และเอกชนมาใช้แล้ว กฟผ. แค่เสือนอนกินเก็บส่วนต่างเท่านั้นเอง และจะเกิดปัญหา ภัยแล้งกับน้ำท่วมเหมือนเมื่อปีก่อน ที่ไฟฟ้าไม่พอจนต้องปล่อยน้ำที่เขื่อนมากๆ จนน้ำท่วมหมู่บ้าน แล้วพอหน้าแล้งน้ำก็หมดอีก แต่บอกได้เลยเกิดยาก ขนาดเขื่อนหรืออ่างเก็บน้ำ NGO จากไหนไม่รู้ ออกมากันเต็มไปหมด อย่างนิวเคลียร์ หรือจะเกิดได้ ปล. จากสถิติที่มีโรงงานนิวเคลียร์มาหลายสิบปี ยังไม่มีเหคตุการณ์ร้ายแรงเกิดขึ้นนะครับ แสดงว่ามันก็ปลอดภัยระดับนึง ไม่นับเชอร์โนบิล เพราะอันนั้นเป็นการทดลองอย่างสุดขั้ว ไม่ได้ปฏิบัติการอย่างปกติ จากคุณ : Big BuBu เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 53 05:41:54

ความคิดเห็นที่ 23 ตราบใดที่ต้นทุนการก่อสร้าง.........100%......... นักการเมืองเอาไป.....ค่อนเกือบครึ่ง.......... อย่าสร้าง........เพราะไม่มีประโยชน์.....กับงบผูกพันซ่อมบำรุงอีกเยอะกว่านั้น........................ จากคุณ : sagurahi เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 53 08:35:00

ความคิดเห็นที่ 24 คห. 21 ผมว่าอย่างเร็วที่สุด คนไทยก่อสร้างอะไรมักเร็วเสมอ (ถ้าได้เริ่มลงมือ และเงินถึง) จีนนี่แต่ละ Unit สร้าง 5-7 ปีก็ปล่อยกระแสเข้ากริดได้แล้ว Nuclear Power Reactor Details - LINGAO 1 Station Name LINGAO Operator LINGAO NUCLEAR POWER COMPANY LTD. Type PWR Construction Started 1997/05/15 Status Operational Connected to Electricity Grid 2002/02/26 Net Capacity 938 MWe Commercial Operation 2002/05/28 แก้ไขเมื่อ 02 มิ.ย. 53 08:46:33 จากคุณ : อุลตร้าซอรัส เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 53 08:43:56

ความคิดเห็นที่ 25 11# น้าหยึมครับ ถ้าคิดถึงแง่ยุทธศาสตร์ ไม่มีใครไปตั้งแถวชายแดนหรอกครับ โดนเขาบอม กันง่ายๆอย่างนั้น แก้ไขเมื่อ 02 มิ.ย. 53 08:51:33 จากคุณ : mr.wisdom เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 53 08:47:59

ความคิดเห็นที่ 26 น่าจะหาเกาะซักเกาะนึง แล้วไปสร้างไว้บนเกาะเลยครับ จากคุณ : XenoType เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 53 09:26:04

ความคิดเห็นที่ 27 ท่าน mr.wisdom ครับ ก็นั่นไง ผมถึงบอกว่า มันไม่ปลอดภัยครับ ถ้ามันปลอดภัยจริง ต้องเอาไปตั้งที่ "ชายแดน" ได้ครับ จากคุณ : สยึมกึ๋ย เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 53 09:52:29

ความคิดเห็นที่ 28 ไฟฟ้าจากพลังงานนิวเคลียร์ก็อยากได้แต่ไม่ให้มาตั้งในพื้นที่ใกล้บ้านตัวเอง ฟังแล้วมันจะได้สร้างหรือครับท่าน เพราะทุกคนก็ไม่อยากให้ตั้งในพื้นที่ตัวเอง อย่างนี้มันก็จบข่าวพอดีคือไม่ต้องสำรวจความคิดเห็นหรือศึกษาอะไรทั้งสิ้นเพราะปัญหาสถานที่ตั้งนี่รับรองว่ามีการประท้วงกันวุ่นวายแน่นอน   เรื่องผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ ตอนนี้ยังแพงไปไม่คุ้มค่าต่อการลงทุนและผลิตไฟฟ้าได้เฉพาะตอนกลางวันเท่านั้น   ไฟฟ้าจากพลังงานลม ผมเคยอ่านรายงานประจำปีของ Egco ซึ่งมีการศึกษาสถานที่หลายแห่งแต่ปัญหาคือ ลมมีพลังงานไม่เพียงพอตลอดเวลา คือมีลมพัดมาเป็นระยะ ๆ ไม่สม่ำเสมอ    พลังงานอื่น เช่น จากแกลบ,ขี้เลี่อย หรืออื่น ๆ มันก็ก่อให้เกิดมลภาวะเหมือนกันแหละหากก่อสร้างโรงไฟฟ้าจำนวนมาก    แก๊สในอ่าวไทยก็ใกล้จะหมด    โรงไฟฟ้าถ่านหินคุณภาพดีที่ปล่อยแก๊สซัลเฟอร์และมลพิษอื่น ๆ ปริมาณน้อยจึงน่าจะยอมรับได้ แต่ถ่านหินคุณภาพดีก็ต้องสั่งซื้อจากต่างประเทศ    สุดท้ายแล้วก็หนีไม่พ้นพลังงานนิวเคลียร์หรอก รับรอง จากคุณ : alien1200 เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 53 10:41:10

ความคิดเห็นที่ 29 27# น้าหยึ๋ม ถึงจะปลอดภัยแค่ไหน  แต่เวลาเกิดสงคราม ข้าศึกก็บอมที่นี้ก่อนที่แรกง่ายๆ สิครับ   มันกันเครื่องบินทิ้งระเบิด  กัน รถถังบุกได้ยังไงอ่ะครับ เท่านี้ ไฟก็ดับเกือบทั้งประเทศทันที แก้ไขเมื่อ 02 มิ.ย. 53 11:41:24 จากคุณ : mr.wisdom เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 53 11:39:49

ความคิดเห็นที่ 30 ^ ^ ก็นั่นแหละครับ ที่แสดงถึงความไม่ปลอดภัย !!! โรงไฟฟ้าที่ดี ควรจะจ่ายไฟได้ไม่มากนัก และ มีหลายจุดครับ เมื่อยามเสียหาย หรือ พังลงไป ประเทศจะได้ยังคงอยู่ได้ครับ เพราะ มีความเสียหายเกิดขึ้นน้อยมาก และ โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ไม่มีคุณสมบัติข้อนี้เลยครับ สมมุติเล่นๆ หากโรงไฟฟ้าโดนระเบิดไป (คิดเล่นๆ ว่าไฟไม่ดับ ด้วยเอ๊า แถมให้ซะงั้น) กัมมันตภาพรังสี ก็จะเลยไปถึงต่างประ เทศที่มีชายแดนติดอยู่ ดูซิ เขาจะยอมไหม ? จริงๆ ไว้ชายแดนก็ดีนะ ... ต่างประเทศจะได้ช่วยเรารักษาไง สิ่งที่สำคัญครับ ... ไทยเองก็ไม่มีวัตถุดิบในการเดินเครื่องโรง ไฟฟ้านิวเคลียร์แต่อย่างใดครับ สุดท้ายก็ต้องซื้อเขา และน้ำ หน้าอย่างรัฐบาลของไทย (ตลอดจนเอกชนต่างๆ) ก็ไม่มีวี่แวว ที่จะต่อรองหรือ ควบคุมราคาของสินค้าได้เลย (ดูอย่างน้ำมัน เป็นต้น) ซึ่ง อนาคต หากหันมาเล่นกันจริงๆ ยังไม่รู้หรือเปล่าเลย ว่าจะคุ้มไหม นี่ผมไม่พูดถึงเรื่องความสามารถในการตรวจสอบให้ปลอดภัย เลยนะนั่น (ซึ่งหลายๆ คนคิดว่า หากตรวจสอบดีๆ มันคงจะผ่าน มาตรฐาน) เพราะเรื่องนี้ ผมว่าไม่ผ่านชัวร์ครับ ... เอาง่ายๆ โรง งานบ้านเรา เหม็นตลอดสองฝั่งถนน ยังไม่ปิดเลยครับ รัฐบอก ว่าไม่เกินค่ามาตรฐาน ผมไม่เห็นด้วยกับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เพราะเหตุผลแบบนี้แหละ ครับ เพราะวัตถุดิบก็ยังต้องซื้อ และไม่มีราคาที่แน่นอน แถมหาก ผิดพลาด อันตรายก็ใหญ่หลวง ไฟฟ้าฟรีมีให้ใช้เยอะ แต่ไม่ค่อย อยากจะสร้างกัน เพราะว่า มันไม่มีขั้นตอนฮั้วตอนซื้อวัตถุดิบแล้ว เลยพาลหาว่า มันไม่คุ้มไปซะงั้น จากคุณ : สยึมกึ๋ย เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 53 12:49:21

ความคิดเห็นที่ 31 มันต้องมีแน่ๆ ไอ้โรงไฟฟ้านิวเคลีย ต้องมีการต่อต้านจากพวกที่ไม่อยากใช้ไฟฟ้าแน่ๆ หุหุ แล้วจะตั้งที่ใหน   อันนี้เรื่องใหญ่  ก็ต้องตั้ง source ให้ใกล้กับ Load คือตรงใหนใช้ไฟเยอะก็สร้างบริเวณนั้น   ประเทศไทย กทม. ใช้ไฟเยอะ  ก็ตั้งแถวชานเมืองเช่น  ปทุม นนทบุรี  อะไรประมาณนี้   แล้วใครจะยอมให้ตั้งข้างบ้านตัวเองล่ะ   อันนี้ต้องให้ค่าตอบแทน เช่น รัศมี 30 ตารางกิโลเมตร ใช้ไฟฟรี 100 ปี  และ ได้รับค่าตอบแทน 10% ของกำไรของโรงไฟฟ้า อิอิ ฝันไปป่าวเรา จากคุณ : 3t3 เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 53 15:35:38

ความคิดเห็นที่ 32   มีการเสี่ยงของการรั่วไหล ครับ ถ้ารัฐบาลกล้า รับรองจริง ก็ให้คนที่ตัดสินใจเรื่องนี้ มาสร้างบ้านข้างๆโรงไฟฟ้าสิครับ เป็นการยืนยันว่า ไม่รั่วไหลแน่นอน อย่างนั้นคนทั่วไปเห็นด้วยหมด แต่ใครจะกล้า อิอิ จากคุณ : takkub เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 53 16:33:41

ความคิดเห็นที่ 33 30# การตรวจสอบการก่อสร้าง และการทำงานเป็นหน้าที่ของ ทบวงการปรมาณุระหว่างประเทศครับ ถ้าไม่ผ่าน ก็ถูกปิด ไม่เกี่ยวอะไรกับ รัฐบาลเลย ส่วนวัถุดิบหรือยูเรเนียมนั้น สัญญาซื้อจะกำหนดเป็ฯสัญญาระยะยาวครับ ไม่แน่ใจว่ากี่ปี น่าจะ10ปีขึ้นไป ส่วนเรื่องทิ้งบอมโรงไฟฟ้านั่น ไม่มีใครเค้าทำกันหรอกครับ มันโดนกันทั้งภูมิภาค หรืออาจจะทั้งทวีป ทำไปก็โดนรุมทึ้งเปล่าๆ จากคุณ : nohqaq เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 53 17:10:26

ความคิดเห็นที่ 34 32# เรื่องการรั่วไหล คาดว่าคงไม่มี บางที่เกิดเหตุจนต้องปิดปฏิกรณ์ ยังไม่พบการรั่วไหลเลยครับ แล้วการตรวจสอบนั้น แน่นอนว่าจะมีการตรวจสอบจากต่างประเทศด้วย ฉะนั้นไม่ต้องกลัวว่า รบ. จะปกปิด จากคุณ : nohqaq เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 53 17:13:57

ความคิดเห็นที่ 35 ท่าน nohqaq ครับ มีหน่วยงานใดๆ ในประเทศ ที่ไม่อยู่ในการควบคุมของรัฐบาลด้วยหรือครับ ? คงมีแต่ศาลแล้วหละมั้ง (บางครั้ง ศาลยังแกว่งเลย) และ หลังจาก ๑๐ ปีขึ้นไปที่ท่านว่า ... ราคามันเป็นเท่าไหร่ครับ มั่นใจหรือ ว่าจะไม่มีการขึ้นราคา ใครยืนยัน ? ถ้าเรื่องระเบิดโรงไฟฟ้า ไม่มีใครทำกัน งั้นแนะนำเหมือนเดิมครับ ให้เอาไป ตั้งไว้ชายแดนทั้งหมดครับ ผมก็อยากรู้เหมือนกันว่า ... จะมีชาติไหน ที่อยู่ ใกล้ๆ แล้วจะยอมรับกับ "ความปลอดภัย" ของมันครับ จากคุณ : สยึมกึ๋ย เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 53 19:03:57

ความคิดเห็นที่ 36 ผมบอกแล้วไงครับว่าโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ต้องได้รับอนุญาตจากองค์กรสากลระหว่างประเทศ ผมไม่ได้บอกในประเทศนะครับ ถ้ามาตรฐานเราไม่ผ่าน เราก็ไม่สามารถซื้อยูเรเนียมมาใช้ได้นะครับ แล้วมีอะไรที่ไม่ขึ้นราคามั้งล่ะครับ ถ่านหิน น้ำมัน ก๊าสธรรมชาติ มันก็ขึ้นทั้งหมดแหละ ทำไมมาห่วงแค่ยูเรเนียมขึ้นราคา จากคุณ : nohqaq เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 53 21:45:18

ความคิดเห็นที่ 37 ^ ^ แล้วท่านว่า แดด ลม คลื่น น้ำ หรือ ความร้อนใต้โลก มีอะไรขึ้นราคาบ้างครับ ? ทำไมจะต้องพยายามทำอะไรที่ ... ไม่จบด้วยตัวเองครับ ! ถ้าทำโรงไฟฟ้านิวเคลียร์จริง ผมก็ขอให้ไม่ผ่านมาตรฐานแล้วเดินเครื่องไม่ได้ แล้วกัน ประการสำคัญ ไปตั้งไกลๆ บ้านผมด้วย ซักพันสองพันกิโลเมตรได้ยิ่ง ดี เพราะผมไม่ต้องการ จากคุณ : สยึมกึ๋ย เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 53 22:24:27

ความคิดเห็นที่ 38 มันไม่ขึ้นราคา แต่ไม่สามารถนำมาใช้งานได้อย่างเต็มที่นี่ครับ พลังงานอนันต์แบบนั้นใครๆก็อยากได้ครับ แต่ความเป็นไปได้มันยังต่ำอยู่ ไม่งั้นก็ใช้กันทั่วโลกแล้ว จากคุณ : nohqaq เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 53 23:08:03

ความคิดเห็นที่ 39 มันใช้ได้ไม่เต็มที่ เพราะ การพัฒนา ยังมาไม่ถึงขีดสุดครับ มันเป็น เรื่องของ "เทคโนโลยี" ทั่วๆ ไปครับ ที่ต้องอาศัย ระยะเวลาในการ ปรับปรุง แก้ไข ครับผม ไอ่เรื่องใช้กันทั่วหรือไม่นั้น เอามาเป็นมาตรฐานไม่ได้หรอกครับ เวลา มันเปลี่ยนแปลงได้ทุกสิ่งครับ ทุกวันนี้ หลายสิ่งหลายอย่าง ที่เราได้ใช้ มันก็ไม่ได้มีมาตั้งแต่โบร่ำโบราณหรอกครับ ความเป็น ไปได้มันก็ต่ำพอๆ กันนี่แหละครับ เมื่อก่อน โทรศัพท์มือถือมีที่ไหน เดี๋ยวนี้ โทรศัพท์มือถือแบบใช้ ดาวเทียม ยังมีเลย ย้อนกลับไปซักร้อยสองร้อยปี ผมว่าไม่มีเอ้า จากคุณ : สยึมกึ๋ย เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 53 23:32:06

ความคิดเห็นที่ 40 ใช้ครับ ทุกอย่างต้องรอการพัฒนา แต่ประเทศต้องการไฟฟ้าตอนนี้ จึงต้องเลือกจากประเภทที่สามารถใช้งานได้จริงไงครับ ที่บอกเรื่องใช้กันทั่ว แค่ต้องการสื่อว่าทางเลือกที่เหลือยังไม่สามารถใช้งานได้จริงครับ จากคุณ : nohqaq เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 53 23:47:32

ความคิดเห็นที่ 41 แต่ถ้าให้เสี่ยง ... ผมว่า ใช้เท่าที่มีไปก่อนดีกว่า เพราะ ต่อให้มีโรงไฟฟ้า นิวเคลียร์อีก ๑๐ โรง ไฟฟ้าบ้านผม ก็ไม่ได้ดีอะไรขึ้นมาแน่นอน ไม่ได้ ช่วยอะไรอยูดี ไฟก็ยังตกเหมือนเดิม จากคุณ : สยึมกึ๋ย เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 53 00:22:26

ความคิดเห็นที่ 42 ตอนนี้ก็ซื้อไฟฟ้าจากต่างประเทศใช้อยู่แล้วนะครับ และการที่ใช้พลังงานจากก๊าสธรรมชาติถึง 70% อย่างในปัจจุบัน ก็ถือว่าเสี่ยงมากอยู่แล้ว จึงต้องหาพลังงานจากแหล่งอื่นมาเสริม จากคุณ : nohqaq เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 53 00:42:10

ความคิดเห็นที่ 43 แล้วแต่จะคิดครับ หากจะสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ผมยอมเสี่ยง ในความคิดของท่านดีกว่า เพราะ แหล่งพลังงานอื่น ดูไม่เป็นมิตร เท่าไหร่เลย ... ยกเว้นพลังงานที่ได้เปล่าจากธรรมชาติ จากคุณ : สยึมกึ๋ย เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 53 00:57:23

ความคิดเห็นที่ 44 เสี่ยงแบบผมครั้งล่าสุด ก็คือทำน้ำท่วมกาญจนบุรีไงครับ เพราะการส่งก๊าสจากพม่ามีปัญหา ทำให้ไฟฟ้าไม่พอ จนเขื่อนต้องปล่อยน้ำเพิ่มเพื่อปั่นไฟ จากคุณ : nohqaq เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 53 11:46:31

ความคิดเห็นที่ 45 ถึงท่านหยึม เรื่องไฟตก  ให้ลองโทรไปแจ้ง กฟภ ดูก่อน มาตรฐานแรงดันไฟบ้านของ กฟภ จะอยู่ที่ 220v โดยจะมีค่าต่ำ ค่าสูง อยู่ช่วงนึง ตอนนี้ผมจำตัวเลขไม่ได้  แนะนำให้ลองไปหาที่เว็บ กระทรวงพลังงานดู ถ้าค่าแรงดันที่วัดได้ที่บ้าน มันต่ำ หรือสูงกว่า ค่าที่เขารับประกันเอาไว้ ให้โทรแจ้งการไฟฟ้าได้เลย แล้วเขาจะมาปรับแรงดันที่หม้อแปลงให้ ส่วนของ กฟน มาตรฐานแรงดันไฟบ้านจะอยู่ที่ 230v ถ้าเกิน 238v ก็ให้โทรแจ้งได้ จากคุณ : ton99 เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 53 11:47:33

ความคิดเห็นที่ 46 ู^ ^ ท่าน Ton ครับ ผมไม่ได้แค่โทรไปแจ้งนะครับ ไปถึงสำนักงานมาก็ตั้งหลายที ลากเอาทั้งช่าง ทั้งพนักงาน แล้วก็หัวหน้าฝ่ายเขามาตรวจสอบ ยันบ้านก็หลายหนแล้วครับ สับเฟสไปก็ตั้งสามสี่ครั้งแล้วครับ ปัญหาจริงๆ ก็คือ หม้อแปลงของการไฟฟ้า ลูกที่ผมใช้อยู่นั้นมัน ไม่เพียงพอต่อการใช้งานของคนในละแวกนี้ครับ ทำให้ การจ่าย ไฟนั้น ไม่มีเสถียรภาพเลย สวิง แกว่ง และตกประจำ วันหนึ่งมาก แบบหลายสิบครั้ง แต่ ... ทางการไฟฟ้าก็ไม่ยอมเปลี่ยนหม้อแปลงให้ เพราะว่าไฟฟ้า สายเปลือยแถวบ้านผม เป็นเฟสเดียว (มี ๒ เส้น) ทำให้หม้อแปลง ลูกใหญ่กว่านี้ ใส่ไม่ได้ ใส่ได้แค่สูงสุด ๓๐ KVA หม้อแปลงลูกที่มัน ใหญ่กว่านี้ ต้องใช้ไฟแรงสูง ๓ เฟส ครับ (ซึ่งแถวบ้านผมไม่มี) จะ ให้เพิ่มหม้อแปลง เขาก็ทำไม่ได้ เพราะอ้างว่า หลังคาเรือนไม่พอ ค่าต่ำสุดไม่ต้องกลัวครับ น้อยกว่า ๑๗๐ โวลต์ครับ ผมมีเครื่องมือ วัดหลายตัวเชียวหละ ส่วนไฟที่สูงสุด ก็เกิน ๒๔๐ โวลต์ ครับผม นั่น แสดงให้เห็นถึง ความไม่เสถียรของระบบไฟฟ้าครับ (ไม่มีโรงงานนะ) ซึ่งการปรับแรงดันที่หม้อแปลง ทำไปก็เท่านั้นครับ เนื่องจาก มันเกิน ค่าที่หม้อแปลงจะจ่ายได้ครับผม มี ๒ อย่างคือ ใส่หม้อแปลงลูกที่ใหญ่ กว่านี้ กับ เพิ่มหม้อแปลงครับผม แต่ เดี๋ยวผมจะลองโทรไปที่สำนักงานที่ใหญ่กว่านี้ดูอีกทีครับ ตอนนี้ ผมก็อาศัย stabilizer ตัวใหญ่สุดเท่าที่ผมจะหาได้คือ ๓๐๐๐ วัตต์ มา ใส่ไว้ก่อน (เพิ่งใช้ได้มา ๓ วันเอง) จากเมื่อก่อนใช้แค่หม้อดึงไฟ ซึ่ง แทบเปล่าประโยชน์ เพราะ ต้องคอยหมุนขึ้นหมุนลงทั้งวัน เซ็งจริงๆ น้ำก็ไม่มี ไฟก็ไม่ได้เรื่อง ทำไมบ้านนอกนี่มันแร้นแค้นจริงฟะ ขอบคุณมากครับท่าน จากคุณ : สยึมกึ๋ย เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 53 12:44:32

ความคิดเห็นที่ 47 สมมุตินะ เงินสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์  100 บาท ค่านักการเมือง                    30 บาท ค่านายหน้า                         20 บาท ค่ารายทาง                          10 บาท เหลือ                                40 บาท กลัวตรงนี้อ่ะจิ มาตราฐานโรงไฟฟ้านิวเคลีย์มันมี แต่โดนไปซะขนาดนี้ไม่รุ้จะเหลือหรือปล่าว จากคุณ : กบกระโดดไม่ไกล เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 53 16:17:15

ความคิดเห็นที่ 48   ซื้อไฟจากลาว ถูกกว่าผลิตเองหรือ บ IPP มาก พลังงานทดแทน จากแกลบ ชานอ้อย ต้องซื้อแพงกว่าราคาขาย เขื่อนแม่น้ำโขงที่ลาวมี 11 โครงการ กำลังสร้าง1โครงการ ที่ ไชบุรี โดยบ ช.การช่าง ประมาณ 1300 MW ขายไทยกว่า 95% ที่แปลกมากแม่น้ำสาละวินไม่มีเขื่อนผลิตไฟฟ้า เพราะรํฐบาลพม่ามัวแต่ปราบปรามประชาชน จากคุณ : ป๋า เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 53 21:23:51 A:172.16.5.96 X:203.146.104.32 TicketID:110672