ความคิดเห็นที่ 1 เนื่องจากล้อหน้าหลังเป็นแบบดอกกึ่ง ๆ วิบาก รัดด้วยยาง dunlop ผลิตในไทย และระยะยุบ shock up หน้าที่เยอะพอสมควร ทำให้การขับขี่ในสภาพถนนปกติ คือ ถนนคอนกรีต ถนนยางมะตอย ทั่วไปจะสัมผัสที่ความกระด้าง กรุบ ๆ รู้สึกได้ แต่ไม่ได้น่ารำคาญแต่ประการใด อยู่ในเกณฑ์รับได้ ซึ่งถ้าจะเปรียบเทียบรถอีกคันที่เป็น kawasaki ksr ใส่ล้อหนาม จะมีความรู้สึกกระเด้งกระดอนกว่าอย่างชัดเจน แต่รถแบบนี้ ถ้าเรานำไปทางถนน ลูกรัง ทางทราย หรือทางดินแดง มันเป็นสวรรค์ของรถพวกนี้เลยก็ว่าได้ จากคุณ : shotokan เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 20:28:18

ความคิดเห็นที่ 2 ปาด กบ เขียด คางคก อึ่งอ่าง อ่ะเสร็จแล้วครับต่อเลย จากคุณ : agira012 เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 20:40:00

ความคิดเห็นที่ 3 ความรู้สึกในการขับขี่ บนถนนซึ่งมีความขรุขระ หรือมีเนินกั้น ก็สามารถวิ่งผ่านไปได้แบบง่าย  ๆ หรือมีฟุตบาทก็ปีนขึ้นได้ ด้วยความที่ ตัวรถ klx125 จะว่าเล็กก็ไม่เล็ก จะใหญ่ก็ไม่ใหญ่ คนที่ความสูงไม่มาก ก็สามารถที่บังคับมันได้ สิ่งที่ต้องชมคือ ระบบครัช และระบบส่งกำลัง หลายท่านคงจำครั้งแรกเวลาเราฝึกหัดรถมีครัชมือมาก่อน ผมก็เช่นกัน ฝึกออกตัว รถดับแล้ว ดับอีก กว่าจะฝึกให้ใช้ครัชได้คล่องรถมอไซด์เครื่องไม่ดับไปซะก่อนก็ใช้เวลาพอควร แต่ รถคันนี้ ระบบครัชมันเข้าง่าย ๆ หาเกียร์ว่างง่าย เบาแรง ซึ่งทำให้เพื่อนผมซึ่งขี่ ksr และไม่เคยขี่รถมีครัชมาก่อนในชีวิต สามารถคล่อมรถคันนี้ แล้วสามารถเปลี่ยนเกียร์ กดครัช วิ่งออกไปได้ แบบไม่มีการดับ ด้วยความที่ย่านการตัดต่อกำลังกว้าง กำลังต้น ๆ ไม่ดีดดิ้น ทำให้รู้สึกว่ามันเชื่องจริง ๆ ส่วนเรื่องกำลังเครื่องยนต์ สำหรับ klx125 ที่ให้สเตอร์หลังมา 47 มีประโยชน์มาก ทำให้มันกระฉับกระเฉงดีเลยทีเดียว แต่ถ้าเป็น dtx125 เท่าที่เคยลองต้นมันไม่ดีเลย ต้องรอรอบสักแป๊บ สงสัยเป็นที่สเตอร์ 44 ของมันด้วย แต่ อย่างหวังว่ามันจะแรงนะครับ แรงมันก็คงเหมือน รถมีครัช 125cc ทั่วไป เพราะจุดเด่นของรถคันนี้ คือ 1. ลุยทางลำบากได้ดี ตัวรถน้ำหนักเบา คุมง่าย 2. ระบบช่วงล่าง นุ่มนวล แม้ซ้อน 2 ก็ยังรู้สึกดี แต่รถหน้าเชิดเลยจะให้ดีต้องเพิ่มความแข็งสปริง โดยปรับให้แข็งขึ้น 3. ระบบไม่ซับซ้อนการดูแลรักษาง่าย หมายถึงเรื่องที่ไม่ใช่ไฟฟ้านะครับ การแกะการถอดง่ายมาก อยู่ในตำแหน่งที่สามารถถอดเข้าออกได้เร็ว แก้ไขเมื่อ 13 มิ.ย. 53 20:45:24 จากคุณ : shotokan เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 20:40:16

ความคิดเห็นที่ 4 หลังจากเอาลองไปขับเล่นในที่ไม่ถึงขนาดเข้าป่า วิบากมาก แต่จะเน้น ทางชันหน่อย ถนนลูกรังบ้าง ก็ถือว่า รถประเภทนี้ เด่นจริงเรื่องช่วงล่าง ทำให้คนมีทักษะในการควบคุมรถไม่มาก สามารถไปในที่ ที่คนพื้นถิ่น อาจจะใช้แค่รถบ้าน ๆ ในทางสัญจรประจำที่ยาก  ๆ ทำให้เราเข้าถึงพื้นที่นั้นได้ง่ายขึ้นครับ จากคุณ : shotokan เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 20:44:11

ความคิดเห็นที่ 5 ด้วยน้ำหนักรถ 113 kg ทำให้เวลาตกหลุม หรือร่องน้ำ กู้ขึ้นมาไม่ยากนัก แต่ ของเดิมติดรถดันไม่มี เหล็กจับกันตก ทำให้ต้องหาซื้อมาใส่กันอีกเช่นเคย โดยรวมอุปกรณ์เพื่อใช้งานทางลุย ถ้าอยากลุย หรือให้สะดวกสบายจริง ๆ ต้องซื้ออีกหลายอย่าง เช่้น guardhand , กันใต้ท้องรถ ฯลฯ วัสดุบนตัวรถออกแบบมาให้ สามารถให้ตัวได้เยอะหน่อย เช่น ไฟเลี้ยว หน้ากาก ไฟท้าย จากคุณ : shotokan เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 20:51:08

ความคิดเห็นที่ 6 ไฟหน้า ใช้หลอดเหมือนรถยนต์คือ h4 ให้แสงสว่างที่ดีมาก เกินตัวรถ โคมรวมแสงขณะใช้เวลากลางคืนให้แสงที่เข้ม สว่างดีมากครับ จากคุณ : shotokan เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 20:52:15

ความคิดเห็นที่ 7 เรือนไมล์ ให้มาแบบ ไม่ต้องไปดูกันมาก เรียบมาก แทบไม่ต้องไปก้มดู เลขเข็มความเร็วทีเดียว เล็กจริง ๆ คนสายตาไม่ดี คงลำบาก  น่าจะออกแบบให้มีความชัดเจน หรือใหญ่กว่านี้ ถึงแม้จะไม่ใช่ ดิจิตอล แต่ต้องมองชัดนะผมว่า จากคุณ : shotokan เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 20:54:21

ความคิดเห็นที่ 8 ในส่วนของเครื่องยนต์ คงเน้นการดูแลรักษาง่าย เพราะเป็นหม้อลม ระบายความร้อนด้วยอากาศ ดู ๆ แล้วส่วนตัวเครื่องดูโปร่ง ๆ โล่ง ๆ จากคุณ : shotokan เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 20:56:20

ความคิดเห็นที่ 9 ด้วยถังน้ำมันความจุ 7 ลิตร เท่าที่ผมลองขี่ไปได้ 222 km ไฟน้ำมันเตือนขึ้นมา เข้าปั๊มเติมน้ำมันไป 4.99 ลิตร คิดเป็น 44.49 km/litre การขับขี่ก็ ไปเที่ยวบนเขา ลูกรังบ้าง ในเมืองบ้าง ด้วยความเร็วประมาณ ไม่เกิน 90 km/h ถ้าอยากให้แน่นอนอาจจะต้องเฉลี่ยหลาย ๆ ถังครับ แก้ไขเมื่อ 13 มิ.ย. 53 21:32:14 จากคุณ : shotokan เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 21:01:41

ความคิดเห็นที่ 10 ความเร็วปลายยังไม่ได้ซัดเค้นสุด ๆ แต่เท่าที่ลองเล่น ๆ 0-80 ขึ้นดี แต่ 80-90 ต้องรอหน่อยแต่ไม่นาน ที่ว่าไมล์ kawasaki แข็งน่าจะจริง เพราะคราวที่แล้วก็ลองเทียบกับ gps กับคัน ksr อ่อนไป 5% ซึ่งเจ้า klx125 ก็พอ ๆ กัน ขี่ที่ความเร็วช่วง ๆ ต่าง ไมล์จะอ่อนจาก gps, 5% ซึ่งถ้าเป็นเจ้า mazda2 ของภรรยา นั่นแข็งโป๊ก เท่า gps เปะ ๆ เลย เท่าที่ทราบข้อมูลพอเปรียบเทียบกับมอไซด์คันอื่น มี honda pcx อ่อนประมาณ 5-6 % honda airblade ประมาณ 10% honda cbr150 ประมาณ 15% จากคุณ : shotokan เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 21:08:59

ความคิดเห็นที่ 11 ถ้าไม่นับความเร็ว อัตราเร่งในการเดินทางไกล ความแรง และระบบช่วงล่างปรับได้ละเอียดอย่างรุ่นพี่ klx250 หรือ dtx250 สิ่งทีเป็นจุดเด่นของรถตัวเล็กบาง ๆ จะว่าไปใหญ่ ก็ไม่ใหญ่ เล็กก็ไม่เล็ก คือ 1. น้ำหนักเบากว่ารุ่นพี่ ยี่สิบกว่ากิโล 2. คนธรรมดาไม่สูงมากมีสิทธิขายันถึงพื้นได้ง่าย เวลาลุยขาถึงนี่ค่อนข้างมีประโยชน์ หรือตกหลุม 3. คล่องตัวกว่า 4. ดูเหมือนถ้าขับขี่ด้วยความเร็วไม่สูงนักประหยัดน้ำมันกว่า แต่ถ้าเรียกรอบสูง ๆ ปรี๊ด ๆ เห็นในเวบกินน้ำมันพอ ๆ กับรุ่นพี่ 5. สำหรับ klx125 ให้ shock up ธรรมดามาก็จริง เป็นหัวตั้ง ในแง่การดูแลง่ายกว่า ซึ่งทาง kawa ก็ set up ไว้ค่อนข้างดีครับ จากคุณ : shotokan เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 21:18:36

ความคิดเห็นที่ 12 เกือบลืมอีกเรื่องครับ ระบบเบรค เบรคหน้า เอาอยู่ การกดเบรคนิ่มนวลดีมากครับ ไม่กระด้าง เหมือน ksr หรือ airblade ให้ความรู้สึกดีกว่าจริง ๆ เบรคหน้าถือว่าเอาอยู่ครับไม่ทื่อ นิ่มนวล หยุดได้ หรือว่าถ้าเป็นรถวิบากเขาออกแบบการกดเบรคไว้แบบนี้ เบรคหลังกดให้ตายล้อก็ไม่ล็อค แค่ชะลอความเร็ว หรือเพราะเป็นรถวิบาก จึงต้องออกแบบไว้แบบนี้ อันนี้ท่านใดรู้ช่วยเสริมหน่อยนะครับ แก้ไขเมื่อ 13 มิ.ย. 53 21:31:06 จากคุณ : shotokan เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 21:30:04

ความคิดเห็นที่ 13 สวยดีครับ  รถสีขาวชอบครับ แต่อยากรู้ว่าเรียวแรงต่างจากตัว250มากมั๊ยครับ  ราคาประมาณเท่าไหร่ สนใจอยู่ครับ จากคุณ : bigside1 เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 21:33:55

ความคิดเห็นที่ 14 bigside1 - เรี่ยวแรงหรือครับ ไม่ต้องเทียบดีกว่าครับ 125 ต่างกับ ตัว 250 ต่างกันเยอะ ตัว 125 กำลังมันก็ใกล้เคียง wave125i ครับ ราคาของตัว klx125 ราคา 82,000 ส่วนตัว 250 จำได้ว่า 150,000 จริง ๆ ตัว 250 เหมาะกับคนชอบความแรงเร็ว มันส์ ปรับช่วงล่างได้เยอะ และต้องการพัฒนาทักษะการควบคุมรถแบบ fullsize แก้ไขเมื่อ 13 มิ.ย. 53 21:41:32 จากคุณ : shotokan เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 21:40:39

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณครับ จากคุณ : bigside1 เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 21:46:22

ความคิดเห็นที่ 16 ตอนไปดู Ryuka เจอเจ้าตัวนี้ลงที่ร้านพอดี แต่ช่างไม่เชียร์เลย ช่างบอกว่ามันไม่มีหม้อน้ำ ลำากแน่วิ่งทางไกล สรุปแล้ว ไม่มีปัหาอย่างช่างว่าเลยใช่ไหมครับ จากคุณ : spras77 เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 22:21:49

ความคิดเห็นที่ 17 ร้อนมากหรือเปล่าครับ ไม่มีหม้อน้ำ? ผมขี่หนูดี250 ยังใส่ขาสั้นไม่ไหวเลยครับ ....ขนหงิก จากคุณ : หยอครับ เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 22:27:09

ความคิดเห็นที่ 18 ไม่มีหม้อน้ำนี่ลุยได้ดีกว่าตัว 250 อีก  ตัว250 ลากลุยเกียร์ 1-2 ไปสักหน่อยพัดลมหมุนตลอดๆๆ ๕๕๕ กลัวได้พักเครื่องจังถ้าลุย เละ เลอะ ยาวๆๆ เรื่องเบรคหลังปกติ น่าจะล๊อคได้ง่ายนะครับ เพราะรถประเภทนี้ เน้นเบรคหลังเปลี่ยนทิศทางเวลาลุย มากกว่าเบรคหน้านะครับ ย้ำยังไงก็ไม่ล๊อคหรือว่า เร็วไม่พอหว่า ปล.250 วิ่ง 30 กม./ชม ก็ล๊อคแล้ว จานหลังขนาด 230มม. จานหน้า 240 มม. ตัว125 ไม่แน่ใจเรื่องขนาดว่าเท่าไหร่นะครับ จากคุณ : ตั้มขาว เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 22:57:27

ความคิดเห็นที่ 19 spras77 - ไม่มีหม้อน้ำแหละดีนาผมว่า อาจจะแรงม้าไม่มาก ไม่จี๊ด แต่ไปเรื่อย ๆ สังเกตุชาวบ้าน ชาวเขาพื้นถิ่น เขาก็รถหม้อลมธรรมดา ๆ honda dream , honda wave นะครับ ทางโหด ๆ เขาขับกันประจำ ก็รถบ้าน ๆ เรานี่แหละ อาศัยว่าเขาชินทางมากว่าเราเยอะครับ และการวิ่งไกลยิ่งไม่มีปัญหา แค่ร้อน ๆ จัด ๆ แรงม้าจะหายจากคอกบ้างเล็กน้อย แต่อย่าไปกังวลครับ ไม่ได้สำคัญอะไรมากมายถ้าเป็นการขับขี่เพื่อการท่องเที่ยว หยอครับ - นี่แหละครับข้อดีหม้อลม คุณไม่ต้องกังวลอะไร เหมือนขี่ wave125 คือไม่มีความร้อนจากเครื่องยนต์ให้สัมผัสเลยครับ อัดให้ตายยังไงก็ไม่ heat หรอก ไม่งั้นชาวบ้านรถหม้อลมบ้าน ๆ ไม่ซื้อมาใช้กันเต็มดอยหรอกครับ ส่วนรถวิบากรุ่นพี่ klx250 หรือต่างค่าย มันจำเป็นต้องมีหม้อน้ำ คงเพราะความร้อนจากเครื่อง 250 และการที่พยายามเรียกแรงม้าให้ได้มากที่สุด และพัดลมทำงานก็จะพัดผ่านหน้าขาให้อุ่นเล่น ยิ่งเกียร์ 1 2 นี่ชัดเลย ตั้มขาว - ตัว 125 จานหน้า หลังผมก็จำไม่ได้เหมือนกันครับ เห็นด้วยเหมือนกันว่า ตัว หม้อลม ถึงแม้จะไม่แรง พอร้อนจัด ๆ แรงม้าจะหายไปบ้าง แต่ลุยนี่สบายใจ เพราะไม่มีอะไรต้องกังวล เพราะขี้นดอย ทางโหด ๆ ทีไร เห็นคนพื้นถิ่น รถหม้อลมซะส่วนใหญ่ ขี่สบาย ๆ ซ้อนสอง แถมบางทีต่างของหลังรถอีก ยกให้เลยเจ้าถิ่น ส่วนเรื่องทักษะการขับรถแนวนี้ ไม่สันทัดเลยครับ เหมือนคนเพิ่งคลาน ไถลไปก็หลายครั้งเวลาเจอทางเปียก ๆ แต่อาศัย รถเบา และขายันถึงพื้น เลยประคองตัวมาได้ แก้ไขเมื่อ 13 มิ.ย. 53 23:26:06 จากคุณ : shotokan เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 23:23:41

ความคิดเห็นที่ 20 ขอบคุณครับ คุณตั้มขาว และ เจ้าของกระทู้ สำหรับการชี้แนะ ก็จริงอ่ะครับ ตอนขี่ไอ้ตัวเล็กKSR ยังใส่ขาสั้นได้เลย ไม่ร้อนเหมือนหนูดี ผมยังมือใหม่มากน่ะครับ ก็หาอ่านเอาจากหลายเวป โดยเฉพาะ dtrackerthailand  ก็ได้ความรู้เพิ่มขึ้นเยอะ บางครั้งสงสัย อยากถาม แต่ก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นคำถามยังไงเหมือนกัน  แถมพิมพ์ไม่เก่งอีก จากคุณ : หยอครับ เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 23:39:06

ความคิดเห็นที่ 21 ศุกร์นี้ไปลองรถใหม่เจ้าของ R1 สีน้ำเงินนะ แรงโพดๆ แรงจนสายครัชขาด วันจันทร์ส่งซ่อมและเช็คใหญ่ จอดอยู่หน้า Focus เนี่ย จะถึงเชียงราย สองทุ่มกว่าๆ จะแวะไปดูร้าน Spectrum Aquaruim หน้าท่ารถด้วย ตู้และสัตว์น้ำเทพๆทั้งนั้นเลย(ช่วงนี้บ้าตู้ไม้น้ำ 555) จากคุณ : yozzy เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 00:57:05

ความคิดเห็นที่ 22 คันเนี้ย จากคุณ : yozzy เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 00:58:18

ความคิดเห็นที่ 23   ขอบคุณมากครับสำหรับรีวิว ได้ประโยชน์มากๆ จริงๆ ก็ขอบคุณทุกท่านที่เคยนำ DTX/KLX มาลงให้ความรู้ไว้นะครับ ทั้ง คุณ shotokan คุณตั้มขาว คุณ HIRO รวมทั้งเรื่องรถเสียของคุณ หยอครับ ด้วย ของผมตัวต่อไป คงเป็น KLX นี่แหละ แต่ก็ยังลังเลระหว่าง 125 หรือ 250 ปัจจุบันใช้ SL230 ไม่มีทะเบียน ก็เริ่มลุยคล่องขึ้นแล้วครับ แต่ไม่มีทะเบียน ก็เลยเอาออกถนนใหญ่ไม่ค่อยได้   รถผมก็เบรคหลังไม่ล๊อกเหมือนกัน แค่ช่วยชะลอนิดหน่อยเอง ของ SL230 ตัวนี้ หน้า/หลัง  240/220 ครับ (KLX250 หน้า/หลัง  250/240 KLX125 หน้า/หลัง  240/190) แหม อ่านตอนแรกอุตส่าห์ดีใจ ไหง เป็นว่า รถเราก็ผิดปกติเหมือนกัน เฮ้อ จากคุณ : ไม่รู้จะอยู่ที่ไหนดี เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 07:45:35

ความคิดเห็นที่ 24 yozzy - อยากไปลองเหมือนกันครับ supermotard นี่ คงแรงน่าดูขนาดว่าสายครัชขาด ไม่รู้จะอยู่ที่ไหนดี - ครับถือว่าแบ่งปันประสบการณ์กันครับ บางทีข้อมูลในเวบหลายคนอาจจะยังไม่เคยสัมผัสรถประเภทนี้ แต่มันเหมาะลุยจริง ๆ ครับ ปัญหาหลัก ๆ ตัวนี้เท่าที่หาข้อมูลในเวบมา และผมเจอด้วยตัวเองคือ ขณะเครื่องร้อนจัด ๆ แล้วเราจอดตากแดดจัด ๆ ในสภาพร้อนมาก ๆ ผลคือ พอจะ start ใหม่ start ติดยากมากๆๆๆๆๆๆ ถึงขนาดต้องเปิดคันเร่งช่วยเลยทีเดียว แต่ สอบถามคุณ Hiro และหาข้อมูลในเวบเช่นกัน แก้ปัญหาง่ายมาก เพราะเหตุปัญหาเนื่องจากระบบนำไอน้ำมันมาเผาไหม้ใหม่นั่นเอง ในตัวส่งออก ไม่มีระบบนี้ แต่มีในไทยเพราะเนื่องจากมาตราฐานไอเสีย ก็แก้ปัญหาโดยไม่ต้องผ่านมันซะ ตัดมันออกจากระบบซะ โดยดึงสายแค่เส้นเดียว ระบบก็จะเหมือนตัวส่งนอกแล้ว ปัญหาดังกล่าว หายสนิทครับ จากคุณ : shotokan เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 08:22:10

ความคิดเห็นที่ 25 ลองขี่มาแล้วครับ   รถอะไรไม่รู้   เบรคนุ่มมือมากชอบครับ   แต่กำลังเครื่องยนต์   สงสัยผมเกิดในยุค 2t มั๊งเลยรู้สึกเรี่ยวแรงยังไม่เข้าตาผมเท่าไหร่  มันไม่ฮุกเหมือนพวก DT หรือ MTX  หรือ  อย่างที่เคยควบวิบากเทพอย่าง YZ และ RM มา  มันฮุกมากๆบิดเป็นมา  จับแฮนด์ไม่แน่พอมีกระชากหลุดแน่ๆ  เหอะๆ แก้ไขเมื่อ 14 มิ.ย. 53 09:19:04 จากคุณ : โก๋เชียงราย (Prathai) เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 09:18:06

ความคิดเห็นที่ 26 คุณหยอครับ สอบถามกันได้เลยไม่ต้องเกรงใจครับ แลกเปลี่ยนข้อมูลกันเก็บเกี่ยวไว้เยอะๆ ครับ มือใหม่หลายคน ฝึกซ้อม ทรงตัว วงกลม ไม่กำครัทซ์ เกียร์ 1 ทั้งวนซ้าย ขวา เลข 8 ทำบ่อยๆครับจะรู้จังหวะ และวงแคบลงได้ ยืน หรือนั่ง นั้น ไม่ต่างกันมาก แต่ยืนจะหายเมื่อยกว่านะครับ ปล.เรื่องเบรคนิ่มๆๆ 250 ก็เป็น แต่ผมจะเปลี่ยนเป็นสายถัก เอาให้มันคมขึ้นกว่านี้ครับ จากคุณ : ตั้มขาว เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 09:51:46

ความคิดเห็นที่ 27 ขอบคุณมาก จากคุณ : ayuhi292 เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 10:10:18

ความคิดเห็นที่ 28 ขอบคุณมากครับ จากคุณ : หยอครับ เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 11:50:43

ความคิดเห็นที่ 29 #22   คันนั้นในไทยมีขายด้วยเหรอ  เอามารีวิวมั่งจิ.. อยากให้แรงปลายมันมากว่านี้อีกนิด  ซัก 110  ก็ยังดี จากคุณ : Piano Player เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 17:06:49

ความคิดเห็นที่ 30 โอ้...เพื่อนเรา กลับบ้านครั้งก่อนยังเป็นหนุ่มตี๋ มาวันนี้เป็นยุ่นซ่าส์เสียแล้ว... เดี๋ยวจะหาดรีม100สักคันแต่งวิบากไปเล่นด้วยเน้อ...  งั้นสรุปPCXไม่เอาแล้วแม่นก่อ.. จากคุณ : หล้าเนื้อหุ้มเหล็ก เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 17:50:12

ความคิดเห็นที่ 31 #22 มีไม่กีคันครับ รถไม่ค่อยนิยม เผลอๆยังไม่รู้จักอีก วันที่เท่าที่ลองขี่แบบสายครัชขาดๆ ไปซ่อม แรงมากมาย อีกสองสามวันจะได้ลองแบบเต็มๆ แล้วจะมารีวิวให้ครับ จากคุณ : yozzy เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 21:27:28

ความคิดเห็นที่ 32 แอบมาดู...คิคิ เพิ่งกลับมาจากเชียงรายอะคัรบพี่ ไปเอารถน้องมาแต่ง..555 รีบไปรีบช็อป รีบเอารถ รีบกลับ เอาไว้ไปชิวๆๆ จะแวะไปให้เลี้ยงข้าวนะ..555 จากคุณ : [H]-I-R-O เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 23:53:43

ความคิดเห็นที่ 33   สอบถามคุณ Hiro และหาข้อมูลในเวบเช่นกัน แก้ปัญหาง่ายมาก เพราะเหตุปัญหาเนื่องจากระบบนำไอน้ำมันมาเผาไหม้ใหม่นั่นเอง ในตัวส่งออก ไม่มีระบบนี้ แต่มีในไทยเพราะเนื่องจากมาตราฐานไอเสีย ก็แก้ปัญหาโดยไม่ต้องผ่านมันซะ ตัดมันออกจากระบบซะ โดยดึงสายแค่เส้นเดียว ระบบก็จะเหมือนตัวส่งนอกแล้ว ปัญหาดังกล่าว หายสนิทครับ สายแค่เส้นเดียวที่ว่ามันตรงไหนอะครับ จากคุณ : nay (baristazaa) เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 53 13:23:18

ความคิดเห็นที่ 34 nay (baristazaa) - ให้สังเกตุสายจากถังน้ำมันเข้าสู่ตัวแยกไอน้ำมัน สังเกตุง่าย ๆ จะเป็นสายที่แต้มสีแดงอยู่ปลายสาย สังเหตุตรงกระปุ๊กดำ ๆ ที่อยู่ข้างรถ สายที่เข้ากระปุ๊กดำ ๆ ตรงกลางกระปุ๊กนั่นแหละครับ ให้ดึงสายนั้นออกมา แล้วอุดรูตรง ตัวแยกไอน้ำมันซะ ไม่ให้สิ่งสกปรกเข้า ต่อมา สายที่แต้มที่แดงปลายสายด้านบนจะต่อเข้าถังน้ำมัน ให้ดึงออกทั้งเส้น แล้วเอาสายน้ำมันยาวประมาณ 2 ฟุต มาใส่แทนเพื่อให้ทิ้งน้ำมันไปทางด้านขวาแทน เพราะถ้าใช้สายเดิม น้ำมันจะตกที่ตัวเครื่อง จากคุณ : shotokan เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 53 16:34:54