ความคิดเห็นที่ 1 ขับทุกวันระบบต่างๆได้ทำงาน แบตได้ชาร์ทเรื่อยๆ รถเพื่อนคุณห้าวันวิ่งทางไกลครั้งหนึ่ง ระบบก็ได้ทำงานเต็มที่ยาวๆ แบบนี้จะเอาเป็นข้อสรุป ว่าคันไหนจะเสียง่ายคงไม่ได้ สำหรับผมถือว่า ทั้งสองคันได้ใช้งานทั้งคู่ แต่ไม่ได้ใช้งานหนักเท่านั้นเอง ต้องเอาปัจจัยอื่นมาประกอบเรื่อง การขับรถอย่างถูกวิธี การซ่อมบำรุงที่ ตรงเวลา สภาพเส้นทาง ฯลฯ มาดูประกอบด้วย จากคุณ : 61/404 เขียนเมื่อ : 21 มิ.ย. 53 13:28:23

ความคิดเห็นที่ 2 กระทู้ซ้ำผมแจ้งลบนะครับ จากคุณ : SGT.AIRMAN เขียนเมื่อ : 21 มิ.ย. 53 13:28:27

ความคิดเห็นที่ 3 ขับวันละ 20 กิโล ไม่น้อยหรอกครับ ถ้าขับระยะทางสั้นเกินไป เครื่องยนต์จะอยู่ในอุณภูมิที่ยังไม่เหมาะสม ซึ่งจะทำให้สึกหรอสูงกว่าปรกติ แก้ได้โดยการสตาร์ทอุ่นเครื่องก่อนขับซัก 5-10 นาที หรือถ้าไม่มีเวลา ก็ค่อยๆออกตัวอย่าพึ่งขับรุนแรงจนกว่าเครื่องจะร้อน จากคุณ : แมงแกลบ เขียนเมื่อ : 21 มิ.ย. 53 13:34:10

ความคิดเห็นที่ 4 เครื่องยนต์ของรถคุณถือว่าได้ทำงานหนักกว่าของเพื่อนคุณครับ แม้ว่ารถคุณวิ่งวันละ 12-13 กิโลเมตร แต่มันคือ 6-7 กิโลเมตรต่อการสตาร์ทรถหนึ่งครั้ง แนะนำให้เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามระยะเวลา (เช่น 6 เดือนครั้ง) แทนที่จะถ่ายตามระยะทาง และหมั่นตรวจสอบบำรุงรักษาเป็นระยะๆก้อไม่น่าจะเป็นไร จากคุณ : pae2010 เขียนเมื่อ : 21 มิ.ย. 53 13:44:06

ความคิดเห็นที่ 5 ถ้ารถคุณใช้งานในเมืองถือว่ารถคุณใช้งานหนักกว่าครับเพราะการวิ่งรอบต่ำ 2,000 รอบ/นาทีเป็นช่วงที่ส่วนผสมเชื้อเพลิงหนา เกิดเขม่ามากกว่า การระบายความร้อนไม่ค่อยดีความร้อนสะสมในห้องเครื่องสูงกว่า ชิ้นส่วนในห้องเครื่องเสื่อมกับน้ำมันหล่อลื่นเสื่อมไวกว่า ระยะสั้น 6 กม.ก็จริงแต่วิ่ง 30-40 นาทีแต่ถ้าวิ่งโล่งๆ เวลาเท่านี้ไปได้ไกลกว่านั้นเยอะครับ ส่วนรถเพื่อนคุณแบตเตอรี่น่าจะเสื่อมไวครับ จากคุณ : ล็อกอินไม่ปรากฏสัญชาติ เขียนเมื่อ : 21 มิ.ย. 53 15:04:46

ความคิดเห็นที่ 6 วิ่งครั้งละไม่เกิน 8 กิโล ในคู่มือบอกว่าเป็นการใช้งานหนักเพราะ เครื่องยังเพิ่งจะร้อนจนถึงอุณหภูมิทำงานก็ดับเครื่องแล้ว ช่วงที่เครื่องสึกหรอสูงสุดก็คือช่วงที่สตาร์ทรถจนกระทั่งความร้อนถึงขีดกลาง ซึ่งนั่นผ่านไปครึ่งทางแล้ว วิ่งปีละ 6 พันโล แต่ใช้งานหนักไปครึ่งนึงของระยะทางที่ใช้ เทียบกับรถอีกคันที่อาทิตย์นึงวิ่งยาวๆที รถคันนั้นอาจจะสภาพเครื่องดีกว่า คิดว่าใช้งานหนักไม่เกิน 5% ของระยะทางรวมเท่านั้น จากคุณ : Miami_Dolphin เขียนเมื่อ : 21 มิ.ย. 53 19:11:23

ความคิดเห็นที่ 7 รภวิ่งน้อย ๆ แต่เครืองสึกหรอมากกว่ารถที่วิ่งมากกว่า...เออสงสัยต้องเอารถ ไปตากแดดให้เครื่องร้อนแล้วค่อยสตาร์ท จากคุณ : usbred เขียนเมื่อ : 21 มิ.ย. 53 22:18:34

ความคิดเห็นที่ 8 คู่มือหลายๆยี่ห้อ ระบุในทำนองนี้ครับ แต่จะใช้คำว่าใช้งานหนักแทน ไม่ได้ใช้คำว่าเสียเร็ว เพื่อจะได้เข้าศูนย์บำรุงรักษาเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องเร็วขึ้น ที่เป็นเช่นนี้ผมก็ลองนึกดูว่าทำไม? คิดว่าคงเป็นเรื่องความชื้นเข้าไปปนในน้ำมันเครื่องสูง + กาซที่เกิดการเผาไหม้ ตกค้างในห้องเครื่อง เมื่อ 2 สิ่งนี้รวมกันมันมีฤทธิ์ทำปฏิกิริยากับ น้ำมันเครื่อง ทำให้น้ำมันเครื่องเสื่อมเร็ว แต่ถ้าวิ่งนานและไกลพอ เครื่องมันก็ร้อน ทำให้ความชื้นมันถูกไล่ออกจากน้ำมันเครื่อง และนานพอที่จะไล่ได้หมด จากคุณ : Poonoi เขียนเมื่อ : 21 มิ.ย. 53 22:58:25