ความคิดเห็นที่ 1 ตอนนี้ก็หารถคันนั้นให้เจอ แล้วเอาไปคืนไฟแนนซ์ถ้าหาไม่เจอก็ต้องไปคุยกับหลานชาย ถ้าคุยกันไม่รู้เรื่องก็ยอมรับสภาพละครับ .. จากคุณ : หนุ่ม ณ เมืองนนท์ เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 53 15:42:55

ความคิดเห็นที่ 2   พี่ชายคุณเป็นพ่อของเค้า...คุณน่าจะพูดคุยบ้างนะ รถคันนั้น ยังเป็นกรรมสิทธิของไฟแนนซ์ ถ้ายังมีการต่อทะเบียน ก็จะพอรู้ได้ว่าอยู่ที่จังหวัดไหน และแน่ๆคือ ยังไงก็โอนชื่อไม่ได้ จากคุณ : ชุดคุ้มครองครู เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 53 15:51:01 A:222.123.101.118 X: TicketID:154396

ความคิดเห็นที่ 3 ผมจะจำเรื่องนี้ไว้เป็นบทสอนใจ  แม้หลานแท้ๆ  ยังชิ่งเราง่ายๆ เคยค้ำให้เพื่อนเหมือนกัน  มีจดหมายมาทวงทุกเดือนเหมือนกัน   เล่นเอาเครียดไปพอสมควร  แต่ยอดเงินไม่เยอะประมาณแสนกว่าๆ จากคุณ : vegetable เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 53 16:02:08

ความคิดเห็นที่ 4 เท่าไหร่ก็ลำบากใจที่จะจ่ายครับ เพราะมันจ่ายไป ไม่เกิดประโยชน์กับเราเลย งานนี้ต้องคุยกับพ่อเด็กแล้ว . . . ญาติกันยังทำกันลงคอ จากคุณ : แค่มีเธอก็สุขใจ เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 53 16:05:58

ความคิดเห็นที่ 5 5 5 5 5 5 เงิน..ไม่เข้าใครออกใครหรอกครับ จากคุณ : Chang Krub เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 53 16:10:40

ความคิดเห็นที่ 6 โอ้ว อ่านแล้วเห็นใจแทนคะ ยังไงก็ขอให้แก้ปัญหาให้ผ่านพ้นไปด้วยดีนะคะ จากคุณ : กะลุ๊กปุ๊ก..ปุ๊ก เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 53 16:24:02

ความคิดเห็นที่ 7 ซ้ำคะ ขอโทษนะก๊าบบ ไมมันขึ้นเบิ้ลซะเยอะเลย T_T แก้ไขเมื่อ 24 มิ.ย. 53 16:26:53 จากคุณ : กะลุ๊กปุ๊ก..ปุ๊ก เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 53 16:24:23

ความคิดเห็นที่ 8 ซ้ำคะ แก้ไขเมื่อ 24 มิ.ย. 53 16:26:07 จากคุณ : กะลุ๊กปุ๊ก..ปุ๊ก เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 53 16:24:57

ความคิดเห็นที่ 9 ซ้ำคะ แก้ไขเมื่อ 24 มิ.ย. 53 16:25:45 จากคุณ : กะลุ๊กปุ๊ก..ปุ๊ก เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 53 16:25:21

ความคิดเห็นที่ 10 อุธาหรณ์เลย...ผมก็ให้คนอื่นเขาค้ำให้...เออ..ยังไงผมก็คงไม่ไปทำให้เขาเดือดร้อนแน่ ๆ จากคุณ : usbred เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 53 16:50:15

ความคิดเห็นที่ 11 ไฟแนนซ์ต้องฟ้องผู้ซื้อด้วยสิ ผู้ซื้อต้องขึ้นศาลด้วย ต้องเจอหลานบนศาลด้วย พ่อแม่ก็ไม่สอนลูกให้มีความรับผิดชอบ ทำคนอื่นเดือนร้อนยังช่วยลูกปกปิดอีก น่า -ังยกครัว  จริงๆ จากคุณ : unzine เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 53 16:58:34

ความคิดเห็นที่ 12 ไม่ค้ำให้ก็หาว่าไม่ช่วยเหลือกัน พอค้ำให้ก็ทำกันซะอย่างนี้ จากคุณ : ลูกชายลุงชุม เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 53 16:58:51

ความคิดเห็นที่ 13 คุยกับพ่อมันก่อน ถ้าคุยกับพ่อมันไม่รู้เรื่องก็ส่งลูกมันให้ตำรวจซะ ตอนขอให้ค้ำมันแทบจะกราบตีนให้แต่พอเจอปัญหา หัวมันยังไม่เห็นเลย ญาติเรานี่แหล่ะปวดหัวสุด จากคุณ : dreamersn เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 53 17:05:50

ความคิดเห็นที่ 14 คิดจะค้ำใครก็ต้องรับผิดชอบครับ  ไม่งั้นอย่าค้ำ  ไฟแนนท์ถ้าคุณไม่ค้ำให้เค้าก็จะไม่ปล่อยอยู่แล้ว  คุณค้ำก็แปลว่าวางใจได้มีคนตามหนี้ได้เค้าถึงปล่อย   ไม่ได้ซำเติมนะครับ  เห็นใจ ต้องจ้างนักสืบอย่างเดียวแล้วครับ จากคุณ : tro22 (tro_22) เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 53 17:38:49

ความคิดเห็นที่ 15 ตามกฏหมายแล้วโดนเต็มๆ ครับ เซ้นต์ไปแล้ว ผูกมัดหมด จากคุณ : จ๊างหลวง เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 53 17:42:21

ความคิดเห็นที่ 16   เค้าคงฟ้องผู้ค้ำในฐานะ''ลูกหนี้ร่วม'' การบังคับคดี....จึงบังคับผู้ค้ำก่อนได้ไง สัญญาผู้ค้ำสมัยนี้.....ระบุชัดว่า ให้ผู้ค้ำประกัน เป็นลูกหนี้ร่วมเสมอ ก่อนฟ้อง....เค้าต้องแจ้งเราก่อนซิ.....หมายเรียก จขกท.ไม่ทราบหรือ..... แต่ไงถึง....ทราบคำพิพากษาได้ บอกหน่อย..... การยึดทรัพย์ ต้องยึดโดยเจ้าพนักงานบังคับคดีเท่านั้นน่ะ.... ไม่ใช่ เอาตร.มายึด ยกของไป เอาชายชุดดำมาขู่ แก้ไขเมื่อ 24 มิ.ย. 53 19:21:41 จากคุณ : toad9116 เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 53 17:46:17

ความคิดเห็นที่ 17 หลานชายอายุเท่าไหร่ครับ และชื่อรถเป็นของใครครับ (เดาว่าน่าจะเกิน 20 ปี และชื่อรถเป็นชื่อหลานชาย) ยังไงหลานชายก็เป็น จำเลยที่ 1 ครับ ให้ฟ้องหลานก่อน  (ให้ฟ้องหลานชายด้วย ตาม คห 11.) เป็นการป้องกันตัวเองก่อน ยืนยันว่า ยังไงก็ต้องไล่บี้ หลานชายก่อนครับ ส่วนเรื่องการชดใช้ยังไม่ต้องจ่ายนะครับ ยกเว้นเสียว่า เรายอมจ่ายให้มันจบๆไปครับ แต่ส่วนใหญ่ที่จบลง สุดท้ายแล้ว เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รอง  กระดูกยังต้องเอามาแขวนคอ หรือได้รถมาเพิ่มแต่ต้องผ่อนต่อ(เสียเงินเพิ่มครับ) จากคุณ : thongchai9309 เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 53 18:08:37

ความคิดเห็นที่ 18 อย่าทำใจเย็นนะครับ ทำเพลินๆอาจเพิ่มเป็น 1 ล้านได้ง่ายๆ ถึงฟ้องล้มละลายเลยหละ ญาติก็ญาติเถอะ ถ้าไม่สนใจก็ฟ้องไปเลย เอาเงินเราคืน จากคุณ : dansivilai เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 53 18:14:38

ความคิดเห็นที่ 19 กฏหมายบ้านเรา และช่องทางที่ง่ายที่สุดของ ทะแน คือ ผู้ค้ำครับ ถ้าผู้กู้เบี้ยวเมื่อไหร่ ผู้ค้ำจะเป็นเป้าหมายหลัก เพราะส่วนใหญ่ผู้ค้ำจะเดือดร้อน เป็นเดือดเป็นแค้น เพราะเนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้นั่ง กระดูกแขวนคอ แถมส่วนจะมีอาชีพมั่นคง หรืออาจพอไปได้เท่านั้นเอง มันแปลกกับเมืองไทย แทนที่จะไปไล่ตามคนกู้ กลับมาไล่ตามคนค้ำ จากคุณ : น้ำเค็ม เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 53 18:52:55

ความคิดเห็นที่ 20 เจ้าหนี้มีสิทธิบังคับคดีกับผู้เช่าซื้อหรือผู้ค้ำก่อนก็ได้ แต่ส่วนใหญจะเลือกผู้ค้ำเพราะจะดูมีทรัพย์ให้ยึด และถ้าคุณชำระหนี้ให้เจ้าหนี้แล้วก็สามารถฟ้องไล่เบี้ยเอากับผู้เช่าซื้อได้ จากคุณ : NVW887 เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 53 19:50:54

ความคิดเห็นที่ 21 ทุกวันนี้บ้านผมก็มีแต่คนแวะมายืมเงินกันเป็นว่าเล่น ญาติสนิทใกล้ชิดทั้งนั้น พี่น้องของพ่อแม่ผมเนี่ยแหละ ตอนยืมบอกว่าเมื่อนั้นเมื่อนี้จะคืน หายไปเป็นปี-บางคนสิบปี เอาตังมาคืนไม่มีดอกซักบาท แถมประโยค "เนี่ยเอาตังมาให้ถึงที่ ไม่ชอบรึไง" ใครจะนับญาติกันก็ตามใจ หมดยุคพ่อ-แม่ ผมเมื่อไหร่ ผมไม่รู้จัก จากคุณ : แมงแกลบ เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 53 20:01:44

ความคิดเห็นที่ 22 คนซื้อๆไปได้อย่างไร ซื้อเหมือนรถยึดตามบ่อนหรือ รถมันโอนไม่ได้อยู่แล้ว ต่อภาษีก็ไม่ได้แน่นอน เพราะไฟแนนซ์เขาจะยกเลิกทะเบียนก่อนฟ้องคุณ ถ้าคุณไม่มีบ้าน ที่ดิน ทรัพย์สินใหญ่ๆที่ตรวจสอบได้ เต็มที่ก็ติดแบล็กลิสท์ ทำเฉยซะก็ได้ คดีแพ่งไม่ไปศาลไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรอก แต่หลานคุณน่ะลักทรัพย์ เพื่อนหลานน่ะรับของโจร จูงมือไฟแนนซ์ไปหาพ่อแม่หลานเลย ถ้าไฟแนนซ์ทำไม่รู้ไม่ชี้ จะฟ้องคุณให้ได้ มาตั้งกระทู้ใหม่ จะแนะนำให้ จากคุณ : 068 เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 53 20:13:54

ความคิดเห็นที่ 23 แถวบ้านผม โดนกันเยอะครับ ค้ำแล้ว "โดน" กรณีนี้ ไปตามรถคืน แล้วขายทอดตลาด ได้เท่าไหร่ ค่อยเป็นหนี้ที่เหลือ จะดีกว่าครับ อาจเป็นหนี้แค่ แสนเดียวกับไฟแนนซ์ และต้องเอาเงินจ่ายคืนคนที่ซื้อรถไปอีก อ๊วก ครับ แถมปวดหัวอีก เสียการ เสียงาน ต้องไปตามหารถ ไม่งั้น ก็ต้องจ่ายหนี้ ซึ่งเค้าขายไป ก็เอาเงินไปแล้ว และไปทวงเงินจากหลานด้วยครับ ว่าเอาไปเท่าไหร่ เอากลับมาให้หมด แถวบ้านผม เป็นข้าราชการ เงินเดือนไม่เท่าไหร่ ต้องโดนหักเงินเดือน โดยไม่เห็นเงารถเลยแม้แต่น้อย น่าสงสาร แต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้ ขืนช่วยคนนึง รับรอง มาเป็นสิบ ต้องเก็บไว้เป็นตัวอย่างครับ ////////////////////// ความเห็นส่วนตัว คนเรา ถ้าคิดจะซื้อรถ เงินดาวน์ แค่ 20% แล้วไม่ต้องมีคนค้ำ ยังไม่มีปัญญาหามา ผมว่า เค้าก็ไม่มีปัญญาผ่อนหรอกครับ มีหลายคน มาขอร้องให้ผมค้ำประกันให้ ผมไม่เคยค้ำให้ใครเลย ญาติๆ ก็มี เพื่อนๆ ก็มี ขนาดเพื่อนของคนแถวบ้าน ยังเคยมาเลย ผมใช้มุขบัตรเครดิตเต็ม ติดบูโร อยู่ แค่นี้ก็ปฏิเสธได้แล้วครับ จากคุณ : napatn เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 53 20:21:41

ความคิดเห็นที่ 24 คนซื้อต่อก็ เอาไปสวมทะเบียน แล้วมาใช้ต่อไงครับ รถสวมทะเบียนจึงเกลื่อนเมือง ................................................................. ทางที่ดี ตามรถให้เจอ แล้วให้ไฟแนนซ์ไปยึดคืนเลย จ้างนักสืบ ยังคุ้มกว่ามานั่งใช้หนี้เอง (มีสิทธิ์โดยชอบธรรมอยู่แล้ว) หรือไม่ก็ต้องนำตัวผู้ซื้อ ไปขึ้นศาลด้วย โกรธเป็นโกรธ จากคุณ : ทัพยั้ง327 (popvcd1) เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 53 20:35:58

ความคิดเห็นที่ 25 ไปคุยกันดีๆครับ เรื่องในครอบครัว ขอแค่ตามรถเจอ อย่างอื่นค่อยว่ากัน จากคุณ : alfajet เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 53 22:29:06

ความคิดเห็นที่ 26 เตรียมหาเงินเพิ่มครับ จากคุณ : sirnitfi เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 10:24:35

ความคิดเห็นที่ 27 ขอบคุณทุกท่านในความคิดเห็นและคำแนะนำ ที่บอกว่าโดนคำสั่งศาล เรื่องมีอยู่ว่าได้รับหมายศาลครั้งแรกก็ไปขึ้นศาลตามหมาย ศาลให้ไปอธิบายว่าเรื่องเป็นอย่างไรเท่านั้นแล้วให้กลับไปรอการพิจารณา จากนั้นอีก 2 เดือน (เมื่อวานนี้) ทนายโจทย์โทรมาแจ้งว่า ศาลพิพากษาให้ชดใช้ เรื่องรถคันนี้เคยตามแล้ว แต่หลานชายคนนี้ขับรถหนีไป แล้วย้ายบ้านเลย เค้าย้ายบ้านง่ายเพราะเช่าบ้านอยู่ แต่เดิมพี่ชายและหลานอีกคนบอกว่าจะช่วยทุกอย่าง แต่พอเล่าให้พวกเขาฟัง ทุกคนบอกว่ามันเอารถไปขายเพื่อนแล้ว แล้วเพื่อนมันก็ไม่ติดต่อมาอีกเลย จากนั้นทุกคนก็ไม่สนใจ พี่ชายยังบอกอีกว่าไม่รู้จะช่วยยังไง จึงคิดว่าญาติสนิทกันทำกันอย่างนี้ เราไม่มีใครให้ปรึกษา จึงมาขอคำแนะนำและอยากจะขอความช่วยเหลือจากเพื่อนสมาชิก หากวันใดวันหนึ่งท่านพบเห็นรถคันนี้ กรุณาหลังไมค์บอกด้วยนะคะ จะเป็นพระคุณยิ่ง จากคุณ : ยางมะตอยต้อยตีวิด เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 16:10:18

ความคิดเห็นที่ 28   เมื่อวานอ่านผ่านๆแถว Vios project ใน RCW มีคนหาสมุดทะเบียนวีออสปี 03-06 อยู่ ไม่รู้จะเอาไปทำไมนะ (คงไม่บังเอิญหรอก) เป็นกำลังใจให้ครับ จากคุณ : x'Survey เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 16:33:17

ความคิดเห็นที่ 29 27. เป็นไปไม่ได้ครับ ที่ศาลจะสั่งคดีโดยไม่มีหมายนัดคุณไปฟังคำพิพากษา จากคุณ : 068 เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 53 20:47:46