ความคิดเห็นที่ 1 ใช้ 2.4 G อยู่ครับ ถ้าไม่ได้บรรทุกเต็มพิกัด 5 ที่นั่งบ่อยๆ 2.0 ก็พอ ที่ใช้อยู่แบ่งเป็นข้อดีข้อเสียดังนี้ครับ ข้อดี อัตราเร่งดี ความเร็วเดินทางถ้าไม่ขับเร็วมากกว่า 150 ไม่เครียด เกาะดีครับ เคยต้องเบรคบนเขาแถวแพร่ไปลำปาง ตอนกลางคืนด้วย อยู่กลางโค้ง ระบบช่วยได้เยอะ  ควบคุมได้ดี เงียบดี  เครื่องยนต์กำลังดีมาก ข้อเสีย ถ้ารถติดๆในเมืองแถวสาทร กินน้ำมัน 7 kms/l ความนุ่มนวลสู้ยี่ห้อ N ไม่ได้เลย จ่ายแพงกว่าหลายแสน ถ้าคุณไม่ได้สนใจข้อดีข้างบน ผมว่าเอาเงินไว้เติมน้ำมันเถอะ จากคุณ : thaveeca (Thaveeca) เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 19:57:04

ความคิดเห็นที่ 2   ถ้าจะเลือกจริงๆ 2.0 ดีกว่าครับ จากคุณ : จอมโจรขยี้ใจ เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 20:01:22 A:125.26.230.58 X: TicketID:214949

ความคิดเห็นที่ 3 2.4 เลยครับ เพราะ 2.0 ออกตัวอืด 2.4 ไม่นั่งเต็มรถบ่อย แต่มีกำลังสำรองไว้ สบายใจครับ แต่ teana ก็แจ๋วนะ จากคุณ : usand3b เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 20:51:01

ความคิดเห็นที่ 4   ขอบคุณสำหรับทุกความคิดเห็นค่ะ ส่วนใหญ่แล้วจะขับคนเดียวมากกว่า อย่างมากก็มีคนนั่งด้วยอีกสักคนสองคน สิ่งที่กังวล คือ การกินน้ำมันในระยะทางไกลๆมากกว่าค่ะ เพราะไม่ได้อยู่กรุงเทพฯ ถ้า 2.4 ไม่ได้กินน้ำมันน้อยกว่า ก็พอจะรับได้ อัตราความเร็วที่ขับ เร็วแบบสุดๆ ก็แค่ประมาณ 140 แต่ปกติ จะไม่เกิน 120 ค่ะ ที่รู้สึกแปลกๆอีกอย่าง คือ ความเร่งตอนออกตัว เพราะเคยทดลองตัว 2.4 Hybrid ยังรู้สึกว่าอืดๆเลย >__< ขอสอบถามคุณ Thaveeca นิดนึงนะคะ เวลาขับทางไกล กินน้ำมันประมาณไหนอะคะ คุณจอมโจรขยี้ใจ อยากได้ 2.0G เหมือนกันค่ะ เพราะรู้สึกว่า option ก็ครบแล้ว คุณ usand3b Teana ก็น่าสนใจค่ะ แต่กลัวขายต่อลำบาก (ประสบการณ์จากคันที่ใช้อยู่นี้เอง) ขอบคุณอีกครั้งสำหรับความคิดเห็นดีๆค่ะ จากคุณ : อย่างไรก็ดี เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 21:21:55

ความคิดเห็นที่ 5 ผมใช้ตัว 2.4V ครับ แต่อยากแนะนำให้เลือก 2.0 ดีกว่า เพราะประหยัดกว่ากันเฉพาะวิ่งทางไกล แต่ถ้าติดถึงราคาที่ต่างกันตั้งแต่แรก บวกลบค่าตัวรถกับค่าน้ำมันแล้ว ยังไงๆตัว 2.0 ก็ประหยัดกว่า ลองคิด 1.5 ล้าน +ค่าน้ำมัน 3 แสน = 1.8      กับ  1.2 ล้าน +ค่าน้ำมัน 3 แสน = 1.5 จากคุณ : MirrorLake เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 22:20:11

ความคิดเห็นที่ 6 - 2.0G น่าจะเหมาะกับการใช้งานของจขกท.ตามที่แจ้งมา..อัตราเร่งดีพอแบบมั่นใจได้เวลาแซง, Option เห็นว่าพอใจในรุ่นนี้อยู่แล้ว, เบรค spec เดียวกับรุ่น 2.4 และแม้แต่รุ่น 3.5 ก็ใช้เหมือนกัน, กินน้ำมันประมาณ 12 กม/ลิตร ที่ความเร็ว 110-120 กม/ชม.นอกเมือง(หากใจเย็นพอขับที่ความเร็ว 100 กม-ชม.ก็จะได้ 13 กม/ชม.) - แม้ว่าขับนอกเมืองมีแนวโน้มว่า 2.4 อาจประหยัดน้ำมันได้ดีกว่า 2.0 เล็กน้อย  แต่ก็น้อยมากน่าจะประมาณ 0.5 กม/ลิตร   ดังนั้น 2.0 จะมีค่าน้ำมันประมาณ 2.50 บาม/กม.  ในขณะที่ 2.4 อยู่ที่ 2.40 บาม/กม. (คิดที่ราคาน้ำมัน 30 บาท/ลิตร)     รุ่น 2.0 มีค่าตัวรถถูกกว่า 2.4 ประมาณ 300,000 บาท..นำมาใช้ชดเชยค่าน้ำมันได้เป็นระยะทางถึง 3,000,000 กม.  รุ่น 2.0 จึงยังคุ้มกว่าอยู่ดีในจุดนี้ - Hybrid มีประโยชน์น้อยมากในการใช้นอกเมือง(มีประโยชน์คุ้มดีเมื่อใช้กับสภาพรถติดมากในเมือง)   ไม่น่าจะเหมาะในแง่ของราคารถสูง  และเกิดมลภาวะส่วนหนึ่งแล้วจากแบตเตอรี่ - หมายเหตุ..เป็นความเห็นจากประสบการณ์ใช้ 2.0G มา 150,000 กม. จากคุณ : PKCHU เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 22:27:46

ความคิดเห็นที่ 7   ขอบคุณคุณ MirrorLake สำหรับความเห็นค่ะ คิดถึงแง่ที่ว่าวิ่งทางไกลประหยัด และค่าตัวที่ถูกกว่า ก็จริงอย่างมากเลยค่ะ ขอถาม คุณ PKCHU ว่า เท่าที่ขับมา มีปัญหาเรื่องระยะเบรก และการออกตัวตอนต้นไหมคะ เช่น มีเพื่อนเคยบอกว่า มันจะอืดๆตอนแรก และ ต้องใช้ระยะเบรกประมาณหนึ่ง คือ ต้องกะให้ดีน่ะค่ะ แต่เท่าที่อ่านมา คิดว่า จะเลือก 2.0G ค่ะ เพราะคิดในใจไว้ตั้งแต่ต้นด้วย ขอบคุณทุกๆท่านที่มาให้ความเห็นนะคะ ^___^ จากคุณ : อย่างไรก็ดี เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 22:42:20

ความคิดเห็นที่ 8 2.0 ออกตัวอืดตรงไหนครับ ม้ามีตั้ง 147 ตัว ผมใช้อยู่ อัตราบริโภคใกล้เคียง มาสด้า 2 เลย แก้ไขเมื่อ 25 ก.ค. 53 23:15:56 จากคุณ : gamete เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 23:14:52

ความคิดเห็นที่ 9   ขอบคุณค่ะคุณ gamete แสดงว่ากินน้ำมันน้อย ^0^ ยิ่งรู้สึกว่าน่าใช้เข้าไปอีก เรื่องการออกตัว ก็ฟังเขามาอีกทีน่ะค่ะ พอดีตอนไปลอง ลองตัว Hybrid แล้วไม่ค่อยชอบตอนจังหวะออกตัวตอนต้น เหมือนต้องเหยียบคันเร่งเยอะ (อาจจะเพราะขับไม่ดีเองก็ได้ค่ะ) จากคุณ : อย่างไรก็ดี เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 23:22:04

ความคิดเห็นที่ 10   เล็งมานานแล้วแต่ยังไม่มีตังค์ซื้อ อิอิ ส่วนตัวชอบ 2.4 มากกว่าครับเพราะ.... 1. เกียร์ 5 speed ตอบสนองดีกว่า 2. ผมชอบใช้รถมากกว่า 5 ปี แน่นอนว่าเครื่อง 2.0 แบกรับน้ำหนักตัวถังรถใหญ่ขนาดนี้นาน ๆ เครื่องมีปัญหาแน่ ๆ 3. อยู่ต่างจังหวัดครับ เลยไม่กังวลเรื่องติดไฟแดง แค่นั้นหละ จากคุณ : jomnalists เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 53 00:23:35

ความคิดเห็นที่ 11   2.0G เลยครับ ประหยัดเงินท่านแน่นอน อัตราเร่งไม่ได้น่าเกลียดอะไร จะเค้นหนักก็ได้ ถ้าอยากทำ ตบเกียร์ลงเอา ที่แน่ๆ ประหยัดเงินได้ 3 แสนแน่นอนแล้วครับ จากคุณ : PMC K.SRI เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 53 00:45:55

ความคิดเห็นที่ 12 สำหรับผม เคยขับโฉมเก่าปี 2003 2.4Q หลายปี จนได้มีโอกาสไปลองขับรุ่นใหม่ 2.0G เท่านั้นแหละ รู้สึกได้เลยอืดอืด เร่งไม่ค่อยขึ้น ต้องกะจังหวะและระยะใหม่หมดเวลาจะแซง คิกดาวน์ขึ้นแต่รอบ แต่ความเร็วไม่ขึุ้้นตามรอบ แต่มันก็สามารถไหลไปได้เรื่อยๆ แค่มาไม่ไวเหมือนรุ่น 2.4 เท่านั้นเอง เอาเป็นว่าถ้ารถคันเก่าคุณเครื่องยนต์ต่ำกว่า 2.2 ลิตร ก็อาจจะรู้สึกเฉยๆว่าไม่อืด แต่ถ้ามากก็ ก็น่าจะรู้สึกได้บ้างเวลาแซง บรรทุกเต็มอัตรา จากคุณ : Fair382 เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 53 01:29:08

ความคิดเห็นที่ 13 เชียร์ 2.0 ครับ จากคุณ : KapampaBlue เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 53 03:54:56

ความคิดเห็นที่ 14   ถ้าไม่มีปัญหาเรื่องเงิน เอา 2.4 ดีกว่าครับ รุ่น 2.0 กำลังเครื่องไม่ค่อยเหมาะกับน้ำหนักรถเท่าไหร่ รถหนักแต่เครื่องเล็ก ตอนใช้ในเมืองก็คงไม่รู้สึกอะไร แต่ออกนอกเมืองมาจะรู้สึกว่าอืด ยิ่งถ้าตามต่างจังหวัดที่เป็นถนนสองเลนส์ด้วยแล้วยิ่งรู้สึกว่าอืด ทำให้ยิ่งต้องเหยียบคันเร่งเค้นกำลังเครื่องมากขึ้น ไปๆมาๆจะกินน้ำมันมากกว่ารุ่น 2.4 จากคุณ : Thibault เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 53 07:11:39

ความคิดเห็นที่ 15 - เบรคดี  น่าพอใจมาก - ออกตัวได้น่าพอใจเช่นกัน   ไม่ถูกคันหลังไล่แน่นอน   แต่บางครั้งคุณอาจไล่คันหน้า จากคุณ : PKCHU เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 53 12:26:28

ความคิดเห็นที่ 16   มาอ่านช้าไปหน่อย มีคนมาแนะนำเต็มเลย ^0^ ขอบคุณมากๆทุกคนค่ะ รถคันเก่าเครื่องไม่ถึง 2.0 ค่ะ เลยมองหาคันที่ใหญ่กว่าเดิมหน่อย แต่ไม่ได้ต้องการความเร็วสูงๆ เพราะตัวเองขับรถไม่ค่อยแซง (โดนว่าบ่อยๆว่า ทำไมไม่แซงไปเลย) ยกเว้นถนนโล่งมากๆจริงๆ (เปลี่ยนเลนยังไม่ค่อยกล้าเลยค่ะ) เท่าที่อ่านดู มีทั้งสองความเห็น เลยคิดว่า เปิดทำงานมา จะแวะไปลองทั้งสองแบบ (ถ้าเขามีให้ลอง) แล้วเปรียบเทียบดูว่า เราเหมาะกับคันไหน แต่เรื่องการใช้น้ำมันก็คงไม่รู้อยู่ดี ก็ต้องฟังพี่ๆเพื่อนๆในห้องนี้ค่ะ สรุปว่า ข้อมูลในนี้เป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจมากๆค่ะ ต้องขอบคุณห้องรัชดา และพันทิพมา ณ ที่นี้ค่ะ ^___^ จากคุณ : อย่างไรก็ดี เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 53 15:12:37

ความคิดเห็นที่ 17 2.0 ค่อนข้างเปลืองกว่าครับ เพราะในความเร็วที่เท่ากัน รอบจะสูงกว่า แถมตอนออกตัวค่อนข้างอืด คันเร่งก็เหมือนขี้เกียจ พอเหยียบไปแรงๆกลายเป็นพุ่งเวียนหัว ผมว่าเอา 2.4 ดีกว่าครับ ความเห็นส่วนตัวนะครับ จากคุณ : tunera เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 53 16:00:05

ความคิดเห็นที่ 18 ผมใช้งานจริงทั้ง 2 คัน 2.0G  และ 2.4G ปี 2007 ทั้งคู่ คันแรกรถตัวเอง คันหลังรถประจำตำแหน่ง 1. Option 2.0G มีบลูทูธ+ครูซคอนโทรล 2.4G ไม่มี 2. อัตราสิ้นเปลืองในเมือง 2.0G 7.xx-9.xx Km/L , 2.4G 6.xx-8.xx Km/L (วัดจริง) 3. อัตราสิ้นเปลืองนอกเมือง 2.0G 9.xx-13.xx Km/L , 2.4G 9.xx-12.xx Km/L (วัดจริงด้วยระยะทางประมาณ 450 Km) 3. อัตราเร่ง 2.4G ดีกว่า แต่ก็ไม่ได้ดีกว่าอย่างเป็นนัยสำคัญ 4. รุ่น 2.0G ใช้น้ำมันออกเทน 95 รุ่น 2.4G ใช้น้ำมันออกเทน 91 ความเห็นส่วนตัว 1. รุ่น2.4G ส่วนใหญ่กลุ่มลูกค้าจะเป็นบริษัท ซื้อไปทำรถประจำตำแหน่ง หากต้องการเตรื่องยนต์ 2.4L และความสะดวกสบาย ข้ามไป 2.4V ดีกว่า 2. ผมคิดว่า เกียร์อัตโนมัติ 4 speed ของโตโยต้าน่าจะทนกว่า 5 Speed 3. รุ่น 2.0G ราคาถูกกว่า ทั้งราคารถ และภาษีประจำปี 4. ในทางทฤษฎี เครื่องยนต์ใหญ่ น่าจะเหมาะกับการเดินทางไกลมากกว่า เครื่องยนต์เล็ก แต่ผมว่า 400 cc ที่ต่างกัน ไม่ค่อยช่วยอะไร 5.เดินทางไกล ครูซคอนโทรลช่วยประหยัดได้มาก ลองพิจารณาและทดลองขับดูครับ ขอให้ได้รุ่นที่ถูกใจ จากคุณ : MammothDriver เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 53 16:21:06

ความคิดเห็นที่ 19 หลายๆความเห็นไม่ได้พูดถึงเรื่อง Option ซึ่งเท่าที่ดูๆ 2.0G มีมากกว่า 2.4G นะครับ (น่าแปลกไหม) ผมซื้อ 2.0G ครับ เนื่องจาก Option โดนใจกว่า ลองเปรียบเทียบดูครับ หลายๆอย่าง 2.4G ตัดทิ้งไปครับ เหมือนกั๊กๆไว้ จากคุณ : donkey (Donkey) เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 53 21:04:14

ความคิดเห็นที่ 20 สดๆร้อนๆครับ วิ่งไปกลับหัวหินรวม 400 กิโล ใช้น้ำมันเฉลี่ย 9.5 กิโล/ลิตร (รวมขับในเมืองด้วย) ถ้าปกติวิ่งในเมืองก็ประมาณ 6.xx-8.xx ครับ ผมว่าคุ้มครับสำหรับ 2.0G เพราะเงินมีแค่นี้สำหรับซื้อรถ ไม่ต้องเพิ่มอีกหลักแสน เอาเงินเติมน้ำมันซักสองสามปีได้สบายๆเลยครับ ถ้าต้องเพิ่มเป็น 2.4   ^_^ จากคุณ : ชายผู้ไร้ซึ่งความรัก เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 53 21:34:58

ความคิดเห็นที่ 21   ขอบคุณๆทุกๆความเห็นที่เพิ่มเติมนะคะ ได้อ่านแล้ว ก็ยังคิดว่า ตัวเองน่าจะเหมาะกับรุ่น 2.0G มากกว่า ทั้งเรื่องการเดินทางและ option ยังไงก็จะไปลองขับ แล้วเปรียบเทียบกันค่ะ เสียดายให้ gift ไม่ได้ ไม่งั้นจะกดให้ทุกคนเลยค่ะ ^0^ จากคุณ : อย่างไรก็ดี เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 53 22:08:01