ความคิดเห็นที่ 1 TPS = Throttle Position Sensor แปลว่า ตัวตรวจจับตำแหน่งลิ้นเร่ง หรือที่ผมเขียนเอาไว้ว่าเป็นตัวตรวจจับ มุม/องศา ของลิ้นปีกผีเสื้อ นั่นแหละ ตัวเดียวกัน (ทีนี้จะได้รู้กันทั่ว ๆ หน่อยว่า TPS มันแปลว่าอะไร) หน้าที่คือ คอยส่งสัญญาณไฟฟ้าให้ ECU เพิ่มระยะเวลาในการฉีดหรือตัด น้ำมันให้สัมพันธ์กับความเร็วรอบเครื่อง เช่น ที่รอบเดินเบา, ขณะเร่ง หรือ ตอนที่มีสภาวะ Load อย่างที่เขียนไว้ใน คคห 36 (กระทู้ V9543002) การทำงานของ TPS (อ่า...คราวนี้รู้แล้วว่าคืออะไร)  จะใช้อุณหภูมิของน้ำ กับแรงดันในท่อร่วมไอดี ซึ่งจะถูกแปลงเป็นสัญญาณไฟฟ้า แล้วส่งสัญญาณ นี้ไปให้ ECU เพื่อฉีดน้ำมัน จากคุณ : Hacker1 เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 53 23:42:52

ความคิดเห็นที่ 2 องค์ประกอบของการควบคุมการฉีดน้ำมัน :- สัญญาณการสตาร์ท เซ็นเซอร์อุณหภูมิน้ำ เซ็นเซอร์อุณหภูมิอากาศ ตัวตรวจจับตำแหน่งลิ้นเร่ง (TPS....มาอีกแล้ว) มาตรการไหลของอากาศ ความเร็วรอบเครื่องยนต์ (ซึ่งต่อมาจากคอยล์จุดระเบิด) แว๊คคั่มเซ็นเซอร์ และ O2 เซ็นเซอร์ ในที่นี้จะขอใช้สิทธิ์พาดพิงเฉพาะตัว TPS เท่านั้นนะคร๊าบบบบบ จากคุณ : Hacker1 เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 53 23:43:21

ความคิดเห็นที่ 3 การล้าง TPS มีผลเสียอย่างไร จากรูปจะเห็นได้ว่า ตัวเรือนลิ้นเร่ง จะมีท่ออยู่ด้วยกันทั้งหมด 3 ท่อ 2 ท่อซ้าย-ขวา คือท่อน้ำ(ข้า-ออก) TPS ต้องการอุณหภูมิน้ำจาก 2 ท่อนี้ อีกท่อนึงที่อยู่ตรงกลาง คือท่อแรงดันของท่อร่วมไอดี ซึ่งอากาศจะถูกดึง ผ่านลิ้นที่ผมทำการล้างไป คราบเขม่าที่มาเกาะติดอยู่บริเวณนี้ ทำให้ การเปิด-ปิดของลิ้นตัวนี้ ติดขัด อย่างที่ผมบอกไว้ใน คคห ที่ 13 จากคุณ : Hacker1 เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 53 23:44:33

ความคิดเห็นที่ 4 เมื่อลิ้นตัวนี้มันติดขัด ย่อมส่งผลในการแปลงสัญญาณให้กับ ECU ผิด เพี้ยนไปด้วย  ทำให้เกิดปัญหาในรอบเดินเบาไม่นิ่ง  เพราะในขณะ ตำแหน่งเดินเบา (ไม่ได้เหยียบคันเร่ง) ลิ้นปีกผีเสื้อปิดอยู่ อากาศก็จะไหลผ่าน โพรงบายพาส แทน แต่ลิ้นเดินเบากลับค้างอยู่ ไม่ว่าจะเปิดไม่หมด หรือปิดไม่สนิท ก็จะส่งสัญญาณไปให้ ECU และ ECU ก็จะสั่งการฉีดน้ำมันออกมา คือตอนนี้ ECU ถูก TPS หลอก เมื่อส่วนผสมของอากาศกับน้ำมันไม่บาล๊านซ์กัน ผลก็คือ รอบเดินเบาไม่นิ่ง จากคุณ : Hacker1 เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 53 23:45:56

ความคิดเห็นที่ 5 เพราะฉะนั้นการล้างลิ้นเดินเบา เท่ากับเป็นการทำให้รอบเดินเบาเสถียรขึ้น จากคุณ : Hacker1 เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 53 23:46:43

ความคิดเห็นที่ 6 สิ้นเปลืองน้ำมันมั๊ย...ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ เพราะมันเป็นแค่รอบเดินเบา ล้างตอนไหน..ก็เฉพาะตอนมีอาการเท่านั้นแหละ ต้องปรับตั้งอะไรใหม่มั๊ย...ไม่ต้องครับ มาร์คอย่างที่ผมบอกไว้ แกะตรงไหน มาร์คตรงนั้น เข้าศูนย์ทำได้มั๊ย...ทำได้คือเปลี่ยน เสี่ยงมั๊ย...รีวิวมาซะละเอียดขนาดนี้แล้ว ถ้าเสี่ยง ผมก็คนแรกแล้วกัน ขอบคุณทุก ๆ ท่านอีกครั้งครับ ที่ร่วมแจม ร่วมแลกเปลี่ยน จากคุณ : Hacker1 เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 53 23:58:23

ความคิดเห็นที่ 7 Two thumb up !! จากคุณ : Red Sparrow เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 53 00:43:59

ความคิดเห็นที่ 8 เครื่องร้อน ตอนรอบเดินเบา มอเตอร์เดินเบาต้องปิดสนิด เหมือนรูปความคิดเห็นที่ 5 ใช่ไหม เพราะเคยรื้อเล่นจะมีสปริง (ตัวบน รูปความคิดเห็นที่ 3) เวลาเครื่องร้อน สปริงตัวนี้จะยืด ช่วยให้ปิดสนิท หรือเพื่อไม่ให้ปิดสนิทเลยไม่แน่ใจ จำได้เก็บไว้เป็นความรู้ แก้ไขเมื่อ 06 ส.ค. 53 08:28:15 จากคุณ : dib2000 เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 53 08:27:01

ความคิดเห็นที่ 9 เมื่อวานลองถอดมาล้างอีกเป็นครั้งที่ 4 และ 5 ถอดสองเพราะครั้งลืมไขเข็มขัดรัดสาย โดยล้างเน้นตรงลิ้นเดินเบาในรูป ความคิดเห็นที่ 5 ผลคือทำงานได้ดีตอนเครื่องไม่ร้อนมาก คือชดเชยตอนเปิดแอร์ให้รอบคงที่ที่  แตพอเครื่องร้อนมากขึ้นก็เป็นเหมือนเดิมคือรอบตกตอนเปิแอร์ลงเหลือ 400 เลยทำให้เครื่องสั่นตลอดเวลาแอร์ทำงาน ความคิดเห็นที่ 8 บอกว่ามีจะมีสปริง (ตัวบน รูปความคิดเห็นที่ 3) เวลาเครื่องร้อน สปริงตัวนี้จะยืด ช่วยให้ปิดสนิท เลยคิดว่าคงต้องรื้อออกมาครั้งที่ 6 แน่นอนมาดูสปริงตัวนี้เพื่อมันทำงานผิดตอนร้อน แล้วถ้าไม่เอาน้ำร้อนไปเลี้ยง ชุดเดินเบา ในรูป ความคิดเห็นที่ 3 ที่บอกว่า 2 ท่อซ้าย-ขวา คือท่อน้ำ(ข้า-ออก) เพื่อที่ว่ามันจะได้ไม่ร้อนมากเพราะตอนเครื่องร้อนไม่มากมันทำงานได้ดีอยู่ แล้วทำไมต้องมีน้ำเขาไปวนที่ชุดเดินเบาเพราะตัวมันเองมันก็ไม่ค่อยร้อนอยู่แล้วถ้าตัดออกจะเป็นอย่างไร ท่องที่อยู่ตรงกลาง ที่เป็นท่อต่อไปท่อแรงดันของท่อร่วมไอดี ถ้าต่อแบบนี้แสดงว่าอากาก็ไหลผ่านเข้าท่อไอดีโดยไม่ต้องผ่านชุดลิ้นควบคุมเลยซิเพราะมันต่อถึงกันกับอากาศขาเข้าก่อนลิ้นปีกผีเสื้อแล้วทำไมต้องทำแบบนี้ในเมื่อเราต้องการควบคุมปริมาณอากาศให้ผ่านลิ้นเดินเบาเพื่อการควบคุมถ้าทำแบบที่เขาใจแสดงว่าชุดนี้ก็จะต่อตรงควบคุมไม่ได้ ท่อ NCR นี้เขียนว่า J30 R7 จริงๆด้วย ตกลงต้องเป็น R9 ขึ้นไปหรือถึงทน E85 ได้คือวันนั้นคุยกับผู้ผลิต NCR เขาว่าออกแบบมาให้ทนได้แสดงว่าไม่จริงหรือเขาไม่รู้ซึ่งไม่หน้าเป็นไปได้เพราะเขาส่งออกด้วย คงต้องหาโอกาสไปดูวิธีทดสอบที่โรงงานจะได้ชวน จขกท กับคนสนใจไปด้วยกัน จากคุณ : นกเดินทาง เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 53 10:17:37

ความคิดเห็นที่ 10 ได้เลือด .......ครับ จากคุณ : ppnyc เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 53 11:54:02

ความคิดเห็นที่ 11 ถึง คุณนกเดินทาง ผล คือทำงานได้ดีตอนเครื่องไม่ร้อนมาก คือชดเชยตอนเปิดแอร์ให้รอบคงที่ที่ แต่พอเครื่องร้อนมากขึ้นก็เป็นเหมือนเดิมคือรอบตกตอนเปิแอร์ลงเหลือ 400 เลยทำให้เครื่องสั่นตลอดเวลาแอร์ทำงาน …ตอนที่ลองรถ คือปล่อยเป็นรอบเดินเบา ไปเรื่อย ๆ ใช่ไหมครับ แล้วก็เปิด แอร์ ถ้าในกรณีนี้ เมื่ออุณหภูมิยังต่ำอยู่ ลิ้นเดินเบาจะเปิด ECU สั่งฉีดน้ำมัน เพิ่ม เลยรู้สึกว่าตอนเครื่องไม่ร้อน รอบนิ่งดี แต่พอถึงอุณหภูมิทำงาน ECU ไม่สั่งฉีดน้ำมันเพิ่มแล้ว รอบก็จะตก เพราะแอร์ไปฉุดรอบเครื่องยนต์ลงมา จากตรงนี้ไปมันจะเป็นหน้าที่ของ IDLE UP ซึ่งจะมีหน้าที่ชดเชยรอบแอร์ให้ แทน จากคุณ : Hacker1 เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 53 23:34:45

ความคิดเห็นที่ 12 ผมอยากให้คุณนกเดินทาง ลองเทสตัว IDLE UP อีกทีครับ ว่าเสียหรือเปล่า   1) วอร์มเครื่องจนเข็มความร้อน อยู่ตรงกลาง  พัดลมหม้อน้ำทำงาน 2) เปิดแอร์ พัดลมแอร์ทำงาน (รอบจะตกหรือไม่ตกช่างมัน) 3) ใช้นิ้วบีบที่ท่อยางของตัว IDLE UP ท่อไหนก็ได้ 4) ถ้าตัว IDLE UP ปกติ เครื่องจะสั่น รอบจะตก (ถ้าตก ถ้าสั่นอยู่แล้ว    อาจจะดับไปเลยก็ได้) 5) ถ้าบีบหรือปล่อย แล้วไม่มีอะไรเกิดขึ้น ตัว IDLE UP เสีย เบิกศูนย์ ตัวละ    1000 บาท มาพร้อมท่อ 2 เส้น แต่ถ้าไม่แน่ใจ ลองหารถรุ่นเดียวกัน ยืม    เปลี่ยนใส่ ทดลองดูอีกที 6) ตัว IDLE UP ไม่เสีย แก้ไขโดย :-    - ตรวจเช็ค ท่อยาง ว่าใส่แน่นหนาดี มีฉีกขาด หรือรั่วตรงจุดไหนหรือเปล่า    - ถ้าเคยไปปรับแต่งน๊อต ก็ให้ค่อย ๆ ปรับไปทีละ ¼ จนกว่ารอบจะนิ่ง 7) ลองสตาร์ทกับแก๊สดู ว่าเป็นอย่างไร จากคุณ : Hacker1 เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 53 23:43:40

ความคิดเห็นที่ 13 ความคิดเห็นที่ 8 บอกว่ามีจะมีสปริง (ตัวบน รูปความคิดเห็นที่ 3) เวลาเครื่องร้อน สปริงตัวนี้จะยืด ช่วยให้ปิดสนิท เลยคิดว่าคงต้องรื้อออกมา ครั้งที่ 6 แน่นอนมาดูสปริงตัวนี้เพื่อมันทำงานผิดตอนร้อน ...ไม่เกี่ยว และไม่ควรไปยุ่ง จากคุณ : Hacker1 เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 53 23:53:42

ความคิดเห็นที่ 14 แล้ว ถ้าไม่เอาน้ำร้อนไปเลี้ยง ชุดเดินเบา ในรูป ความคิดเห็นที่ 3 ที่บอกว่า 2 ท่อซ้าย-ขวา คือท่อน้ำ(เข้า-ออก) เพื่อที่ว่ามันจะได้ไม่ร้อนมากเพราะตอน เครื่องร้อนไม่มากมันทำงานได้ดีอยู่ แล้วทำไมต้องมีน้ำเขาไปวนที่ชุดเดินเบาเพราะตัวมันเองมันก็ไม่ค่อยร้อนอยู่ แล้วถ้าตัดออกจะเป็นอย่างไร ....ท่อน้ำ 2 ท่อ ออกแบบมาเพื่อนำอุณหภูมิของน้ำมาใช้ในการสตาร์ทเย็น เนื่องจากการสตาร์ทเย็น ทำให้เครื่องยนต์มีความฝืดและสึกหรอสูง จึงจำเป็น ที่จะต้องให้ ECU รับรู้ว่าในขณะนั้นอุณหภูมิต่ำ โดยให้ฉีดน้ำมันเพิ่ม เพื่อให้ เครื่องยนต์ถึงอุณหภูมิทำงาน การที่คุณนกเดินทางบอกว่า “รถไม่ร้อนแล้วทำงานดี” มันเป็นเพราะ ลิ้นเดินเบา เปิดอยู่ และ ECU สั่งฉีดน้ำมันเพิ่มให้อยู่ครับ จากคุณ : Hacker1 เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 53 23:56:25

ความคิดเห็นที่ 15 ถ้าเอาออกจะเป็นไรมั๊ย.....อย่างแรกเลยการสตาร์ทเย็น รอบจะสูงไปตลอด และหรืออาจจะไม่ลดลงมาเลย ซึ่งน่าจะขึ้นไปถึง 1500 รตน นานกว่าตอนใส่ ท่อน้ำ ไม่เป็นไร ใช้ความร้อนในห้องเครื่องแทนก็ได้......ให้ล้มเลิกความคิดนี้ได้เลย เพราะหากจะใช้ความร้อนสะสมที่เกิดขึ้นในห้องเครื่อง ถ่ายเทไปอยู่ตามชิ้นส่วน โลหะต่าง ๆ ภายในห้องเครื่อง อุณหภูมิของน้ำหล่อเย็นขณะทำงานจะอยู่ราว ๆ 95 C แต่อุณหภูมิของห้องเครื่องที่เคยวัดได้ตอนพีคสุด ๆ แล้ว อยู่ที่ 78-80 C ถ้ารถวิ่งก็จะดรอปลง เหลือ 55 - 60 C เพราะฉะนั้นการถอดออก เป็นผลเสียมากกว่าครับ… จากคุณ : Hacker1 เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 53 23:58:32

ความคิดเห็นที่ 16 ท่อที่อยู่ตรงกลาง ที่เป็นท่อต่อไปท่อแรงดันของท่อร่วมไอดี ถ้าต่อแบบนี้แสดง ว่าอากาศก็ไหลผ่านเข้าท่อไอดีโดยไม่ต้องผ่านชุดลิ้นควบคุม เลยซิเพราะมันต่อ ถึงกันกับอากาศขาเข้าก่อนลิ้นปีกผีเสื้อแล้วทำไมต้องทำแบบ นี้ในเมื่อเราต้อง การควบคุมปริมาณอากาศให้ผ่านลิ้นเดินเบาเพื่อการควบคุมถ้า ทำแบบที่เขาใจ แสดงว่าชุดนี้ก็จะต่อตรงควบคุมไม่ได้ ...ไม่ใช่นะครับ...ลิ้นเดินเบาตัวนี้แหละเป็นตัวควบคุมอากาศให้ไหลผ่าน ขณะ สตาร์ทเย็น ส่วนบายพาส อากาศจะไหลผ่านตอนที่เราไม่ได้เหยียบคันเร่ง โดยไม่ทำให้ เครื่องดับ (ลิ้นปีกผีเสื้อปิดอยู่) อย่างที่บอกไว้ใน คคห 2 ว่าการฉีดน้ำมัน มีเซ็นเซอร์หลายจุด ที่ส่งข้อมูลมาที่ ECU เพื่อประมวลผล และสั่งฉีดน้ำมันครับ จากคุณ : Hacker1 เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 53 00:39:08

ความคิดเห็นที่ 17 เช้านี้กลับมาอ่าน  คคห 16 ของตัวเองอีกที เลยย้อนกลับไปดูที่ คคห 3 ข้างบนใหม่อีกที และย้อนกลับไปดูกระทู้เดิมอีกที และต้องขออภัยเป็นอย่างแรง สงสัยจะอ่านที่คุณนกเดินทางเขียนไว้ แล้ว ไม่เข้าใจ + เบลอ ท่อตรงกลางเส้นนั้นเป็นท่อสุญญากาศ และแยกไปเข้าอีกท่อของตัว IDLE UP ดูรูปก่อนนะครับ ยืนจากตำแหน่งด้านซ้ายของรถ และมองตรง ๆ ลงไป มุมขวาล่างคือ ตัว IDLE UP มุมซ้ายล่างคือ เรือนลิ้นเร่ง จากคุณ : Hacker1 เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 53 09:06:50

ความคิดเห็นที่ 18 ลืมบอกเรื่องสำคัญรถผมเครื่อง 1500 เครื่อง 5 AFE ไม่มี IDLE UP เข้าใจว่าตัวนี้เป็นวาวล์ปิดเปิดอากาศ โดยเปิดตอนเปิดแอร์ทำงานเพื่อชดเชยรอบ ผมแก้ปัญหาไม่หายเลย ไปหามาใส่เองโดยใส่ขั่นตรงท่อร่วม ไอดี อีกข้่างยังปล่อยลอยเพราะแค่ทดลอง ผลคือตอนเปิดแอร์รอบก็ไม่ตกลงมาก แต่ก็ยังตกอยู่ดี ปรับสกรูช่วยจนสุดก็ยังตก พอร้อนเข้าเกียร์เปิดแอร์ก็ยังเป็นอยู่สั่นเหมือนเดิม จากคุณ : นกเดินทาง เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 53 10:19:49