ความคิดเห็นที่ 1 ปิดแอร์ค่ะ ไฟขึ้นนั่นปกติค่ะ ลุยน้ำ แต่คืนวันจันทร์ที่ 9 ที่ผ่านมา ขับแถวลาดพร้าว มีรถคันนึ่งวิ่งผ่านเราไป ขับเร็วด้วยนะ ซึ่งข้างหน้ามีแอ่งน้ำขัง สาดเลยทีนี้ เรามองไม่เห็นทางเลย กดเบรคเลย กลัวชนคันหน้า แต่ดีข้างหลังไม่มีรถ และดีที่เราไม่เป็นไรกัน (ขับรถหน้าฝนอย่าขับเร็วกันนักนะคะ ใจเขา ใจเราค่ะ) จากคุณ : Crazy-MOTOGP เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 53 15:42:18

ความคิดเห็นที่ 2 ขับช้าๆ ถ้าเกียร์ธรรมดาก็เลี้ยงครัชท์ให้ดีๆนะ ที่เหลือก้แล้วแต่บุญกรรมจะทำไมแล้วปล่ะ ^^ จากคุณ : passkiss เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 53 15:49:33

ความคิดเห็นที่ 3 หลังจากผ่านมาแล้วก็อย่าลืมไปถ่ายของเหลวทิ้งนะครับ จากคุณ : johnlee (johnlee) เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 53 15:51:40

ความคิดเห็นที่ 4 จอดหรือหาทางใหม่ แล้วรอให้น้ำหายท่วมก่อน เงินทั้งนั้น จากคุณ : Joke_Jordan เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 53 15:54:22

ความคิดเห็นที่ 5   ปิดแอร์ พยายามอย่าให้รถดับ ถ้ารถดับอย่าไปสตาร์ท ถ้าดับแล้วอย่าไปฝืนสตาร์ท น้ำจะวิ่งเข้าเครื่อง เครื่องจะเสียหาย จากคุณ : นัท เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 53 15:59:02 A:117.47.140.178 X: TicketID:185294

ความคิดเห็นที่ 6 สิ่งที่ควรทำทันทีคือ  ปิดระบบทำความเย็นครับ.... จากคุณ : ป.ปาแปง เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 53 16:04:01

ความคิดเห็นที่ 7 แล้วสมมุติ ว่าถ้าดับจริงๆ แล้วเราจะทำอย่างไงอ่ะค่ะ ต้องรอจนน้ำลดเลยหรือเปล่า จากคุณ : pattpung เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 53 16:04:14

ความคิดเห็นที่ 8 ขอสอบถามเป็นความรู้หน่อยได้มั้ยคะ ว่าทำไมต้องปิดแอร์อ่ะ จากคุณ : Life is a large dream เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 53 16:05:58

ความคิดเห็นที่ 9 ตอบ#8 พักลมแอร์จะได้ไม่ทำงาน ไปตีกับสิ่งต่างๆที่ลอยมากับน้ำ อาจทำให้เสียหายได้ครับ จากคุณ : nutua เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 53 16:23:50

ความคิดเห็นที่ 10 เท่าที่รู้มาว่าน้ำท่วมต้องปิดแอร์ เพราะพัดลมอากาศด้านล่างของรถเราจะพัดเอาน้ำ หรือเศษขยะที่มากับน้ำเข้าเครื่องค่ะ จากคุณ : นางร้ายลิเก๊ลิเก เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 53 16:24:09

ความคิดเห็นที่ 11 ปิดแอร์แล้วอย่าลืมเปิดหน้าต่างนะครับ เปิดหน้าต่างระวังรถสวน...สาดน้ำนะครับ อิอิอิ จากคุณ : helldog เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 53 16:52:17

ความคิดเห็นที่ 12 การขัยรถลุยน้ำระดับหัวเข่า ผมไม่แนะนำ แม้ว่าอีกไม่ไกลก็จะถึงที่หมายแล้วก็ตาม เพราะจะเสียมากกว่าได้ เบาที่สุดก็เครื่องดับ แล้วก็ต้องนั่งแช่น้ำ รอ รอ แล้วก็รอความช่วยเหลือ หนักหน่อยก็ น้ำเข้าเกียร์ ไดชาร์ทไหม้ ไม่คุ้มแลกกับการลุยแม้แต่น้อย ทางที่ดีคือจอดครับ ไม่ไป หรือยอมวิ่งอ้อมไปทางอื่นทีพอไปได้ เหมือนเคสแถวระยองเมื่อไม่นานมานี้ ที่รถจมน้ำ 3-4 คัน คงเข้าใจว่าน้ำไม่ลึก เลยลองลุยดู ปรากฏว่าเครื่องดับ จะเข็นก็ไม่ได้ เพราะเป็นทางลาดเป็นแอ่ง น้ำก็ขึ้นเร็วมาก ท้ายสุดก็ยืนมองรถตัวเอง ค่อยๆจมน้ำไปต่อหน้า ช่วยอะไรไม่ได้เลยแม้แต่น้อย แต่ถ้าจำเป็นจริงๆก็ให้วิ่งที่เกียร์ต่ำสุด ปิดแอร์ตามที่คห.ข้างบนแนะนำ ไปอย่างช้าๆที่สุดเท่าที่จะทำได้ สมัยก่อนยุคที่น้ำท่วมรามคำแหง ผมอยู่ในม.เสรี ต้องออกมาข้างนอก มีรถ ALFA อยู่คันขับลุยน้ำระดับรองเท้าแตะ ลอยไปลอยมาที่พื้นรถ ขับเข้าขับออกหลายเที่ยว เพราะไม่มีทางเลือกอื่น ไม่มีปัญหาเครื่องดับแม้แต่ครั้งเดียว แต่ก็ต้องแลกกับค่าซ่อมบำรุงบานเลย จากคุณ : dansivilai เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 53 17:20:03

ความคิดเห็นที่ 13 ช่างใจก่อนลุยแ้ล้วกันครับว่า ถ้าเป็นอะไรแล้วคุ้มหรือปล่าว ผมเคยขับลุยมาครั้งนึง แต่ตอนนั้น ใกล้จะถึงบ้านแล้ว ประมาณ ครึ่งโล แล้วในรถมี แม่กับแฟนอยู่ เลยตัดสินใจลุย รถ TOYOTA CROWN น้ำสูงถึงขอบคิ้วข้างประตู แต่ก็ยอมลุย เพราะถ้าให้แม่กับแฟนไปเดินลุยน้ำ ถ้าไปเจออะำไรเข้า (ส่วนตัว) ไม่คุ้มกับซ่อมรถ จึง -ปิดแอร์ -เปลียนมาเป็นเกียร์ L -รอรถในซอย ไม่มีรถสวนมา (น้ำจะได้นิ่งๆ) -ขับช้าๆ เอาให้รอบขึ้นที่ 2500 -ถึงบ้านแล้วจอดทิ้งไว้ ไม่ดับเครื่องประมาณ 15นาที หลังจากนั้น ใช้ต่อได้ไม่มีปัญหาครับ แต่ สถานะการณ์คงไม่เหมือนกันทุกครั้ง ยังไงคิดก่อนละกัน ถ้าน้ำสูง จากคุณ : kittipatr เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 53 17:55:13

ความคิดเห็นที่ 14 ปล่อยคันหน้า กล้าตายไปก่อนครับ แล้วดูว่า น้ำที่ท่วมนั้นขนาดไหน ถ้าสูงถึงบันได รถ ก็ไม่น่าไปละครับ จากคุณ : kimji40d เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 53 17:59:39

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณทุกท่านค่ะ คราวหน้า อาจต้องขับรถอ้อมโลกหนีน้ำกันซ่ะแล้ว น่ากลัว เดี้ยวดับได้ติดเกาะในรถกับพอดี ขอบคุณค่ะ *-* แก้ไขเมื่อ 11 ส.ค. 53 20:03:09 จากคุณ : pattpung เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 53 18:57:56

ความคิดเห็นที่ 16 น้ำสูงเกิน 2/3 ของล้อ ก็ไม่เอาแล้ว นี่น้ำสูงถึงหัวเข่า  ก็กลับสิครับ  จะบ้าลุยไปทำไม   เอาแบบเบาะๆแค่น้ำเข้ารถ  ก็เหนื่่อยแล้ว หนักหน่อยเป็นลูกปืนล้อสี่ตัว ก็ครึ่งหมื่น ถ้าน้ำเข้าเครื่องนี่เอาเท้าก่ายหน้าผากเลย ต่อให้เป็นกระบะยกสูง 4x4 ก็ตามเถอะ น้ำท่วมดุมล้อเมื่อไหร่  ก็เตรียมเปลี่ยนลูกปืนล้อได้เลย จากคุณ : ton99 เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 53 21:55:35

ความคิดเห็นที่ 17 ที่ท่วมปรกติ ก็แย่แล้วละครับ ถ้ามีรถสวน หรือ รถแซงอีก ระดับน้ำจะเพิ่มขึ้นโดยอัตโนมัติทันที ปีที่แล้ว ยังจำได้ น้ำเข้ารถ ต้องไปซักพรม ไม่งั้นเหม็นทั้งรถตลอด จากคุณ : น้องปลาดาว เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 53 23:27:03

ความคิดเห็นที่ 18 เห็นด้วยตาม #12 ครับ โดยเฉพาะที่กลับรถใต้สะพานข้ามคลอง ถ้าฝนตกหนัก อย่าเสี่ยงเข้าไปโดยเด็ดขาด!! เพราะตรงกลางมันจะเป็นแอ่ง นึกออกมั้ยครับ ตอนก่อนเข้าไป นึกว่าน้ำท่วมเล็กน้อย แต่พอขับเข้าไปเรื่อยๆ มันก็ยิ่งลึกลงไปเรื่อยๆ ๆ ๆ น่ากลัวมากครับ ผมเคยทะเล่อทะล่าขับเข้าไปครั้งนึง ระทึกขวัญมากครับ แล้วมันจะมืดๆ ด้วย รถลอยยังกะเรือ มิตซูข้างๆ เกือบลอยมาชน เห็นน้ำอยู่ระดับครึ่งประตูรถเลย แต่สุดท้ายก็ผ่านมาได้ โดยที่รถผมไม่ดับ แต่หลังจากนั้นก็ต้องเอารถไปตากแดดให้พรมแห้ง ตามด้วยเข้าศูนย์ เช็คน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ มีน้ำเข้ามั้ย เพราะถ้าน้ำเข้าเนี่ย เกียร์พังแน่ครับ แต่รถผมโชคดีน้ำไม่เข้าห้องเกียร์ ตั้งแต่นั้นมา เข็ดขยาดเลยครับ น่ากลัวมากครับ ขอบอกจริงๆ จากคุณ : LamoonMan เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 53 23:58:46

ความคิดเห็นที่ 19 ถ้าเป็นกระบะไม่มีปัญหาครับ ผมลุยประจำ เมื่อก่อนที่บ้านที่ต่ำกว่าถนน ฝนตกท่วมประจำ ปล่อยไหลเกียร์หนึ่งปล่อยคลัชและบังคับพวงมาลัยอย่างเดียว แล้วปิดท่อไอดีมันจะมีที่ดึงไกล้ๆที่เปิดฝากระโปงในรถ ถ้าเก๋งน้ำครึ่งเข่าคงไม่ไปเพราะมันสูงเกินไป แต่ถ้าระดับพื้นรถลุยโลด จากคุณ : EDM เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 53 11:49:49

ความคิดเห็นที่ 20 บางทีมันไม่มีทางเลือก ทางข้างหน้าน้ำท่วม ลึกขึ้น ลึกขึ้เรื่อย ๆ รถตามมาก็บีบแตรไล่ อีก 4-500 คัน ตามมา ถนนวิภาวดีนี่ละครับ แถว ๆ ดินแดง และแล้ว เครื่องก็ดับ ในใจนึกแต่ว่า จะบีบแตรไล่หา บรรพบุรุษ เหลอ มีรถ วิ่งผ่านไปได้ เฉพาะรถเมล์ ลงมาเข็น รอ อยู่หลาย ชั่วโมง ทหารก็มาช่วยลาก หลังน้ำลด เข็ดจริง ๆ จากคุณ : KU_EE เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 53 13:31:47

ความคิดเห็นที่ 21 ไม่กล้าลุยครับ ผมใช้รถเก่าแชมป์ ปี94 เดิมๆ ปีที่แล้วไปหาลูกค้าตรงเจริญกรุงขากลับฝนตกหนักมาก ขับมาซักพักมันยิ่งท่วมมากขึ้นรีบเลี้ยวเข้าซอยไปจอดก่อนครับ รอประมาณครึ่งชั่วโมงน้ำลดค่อยกลับ ตอนออกมายืนรอถนนใหญ่ รถจอดเสียเป็นสิบๆ คัน อย่าเสี่ยงเลยครับ ไม่งั้นเรื่องใหญ่ จากคุณ : navinto เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 53 20:00:35

ความคิดเห็นที่ 22 ระด้บนํ้าประมาณเข่า???  แน่นะครับ......รอดมาได้ไง? ระดับนํ้าขนาดนั้นมันครึ่งประตูเลยนะ นั้าไม่ท่วมเครื่องเลยหรือครับ แล้วไอ้ไฟแดงๆที่ว่าน่ะ ไฟรูปแบ๊ตหรือเปล่า? ป่านนี้ไดชาร์ทคุณไม่เจ๊งไปแล้วเหรอครับ แล้วนั้ามันไม่เข้าไปในรูหายใจของเกียร์ด้วยหรือนี่ โอ้....แม่เจ้า จขกท.ครับ...อ่านเสร็จแล้วกรุณาไปที่รถแล้วดึงก้านวัดนํ้ามันเกียร์ ออกมาดูเดี๋ยวนี้ ถ้าขุ่นข้น ให้รีบไปถ่ายนํ้ามันเกียร์ทิ้งโดยเร็ว จากคุณ : k.โรจน์ (k.โรจน์) เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 53 23:21:12