ความคิดเห็นที่ 1 ตามรูปข้างบนในเรื่องการกระจายแรงเบรค หน้า-หลัง สิ่งที่ต่างระหว่างมีกับไม่มี EBD คือ ถ้าไม่มี EBD แรงเบรคหลังจะขึ้นตามแรงเบรคหน้าไปจนถึงจุดหนึง หลังจากนั้นความชันก็จะเปลี่ยนไปเป็นอีกค่านึง ซึ่งจุดตรงนี้ อาจจะใช้ตัวคุมแรงดันแบบ PV ในรถเก๋ง หรือใช้เป็น LSPV ในรถกระบะก็ได้ ดังนั้นถ้าอยากจะได้แรงดันเบรคหลังแบบเต็มๆ  ก็ทำได้โดยการถอด PV หรือ LSPV ส่วนเรื่องเบรคหลังจะล็อคจนรถปัด  คงเป็นไปไม่ได้เพราะมี ABS คุมอยู่ (แต่ไม่รู้ว่า การที่มีแต่ ABS เพียวๆ  ตอนเบรคทางโค้งมันจะทำให้อาการเป็นยังไง)   แต่ตรงนี้มีเรื่องให้สังเกตุอยู่นิดนึง สมัยที่มีเรื่องเบรคทื่อแต่ปลอดภัยกันขึ้นมา มีจอมโวยคนนึงเขาบอกว่า  รถรุ่น XXX  เบรคหลังจับไม่ดีแรงเบรคน้อย แต่จากที่ได้เห็นการปรับแก้อาการที่มีปัญหากัน  มันดันกลายเป็นว่า สาเหตุที่เกิดอาการเบรคทื่อแต่ปลอดภัยนั้น   มันเกิดจากการที่ผ้าเบรคหลังมีระยะห่างมากเกินไป และบวกการปรับ LSPV ให้มีแรงเบรคหลังมากเกินไป วิธีแก้ในตอนนั้นคือ ตั้งผ้าเบรคหลังให้ชิด  แล้วลดแรงดันเบรคหลังลงมา ดังนั้นไม่รู้ว่า  วิธีการดิบๆแบบที่ผมนำเสนอไปข้างบนนั้น มันจะทำให้เกิดอาการเบรคทื่อแต่ปลอดภัยตามมาหรือเปล่า ถ้ารถเป็นดิสเบรค 4 ล้อ อาจจะไม่เจออาการแบบนั้นก็ได้ จากคุณ : ton99 เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 53 00:01:22

ความคิดเห็นที่ 2 บทความข้างล้างนี่ผมคัดลอกจากเว็บผู้จำหน่ายรถเจ้าหนึ่งมา //// การกระจายแรงเบรกที่ล้อหน้าและล้อหลัง             การทำงานของระบบ EBD จะเป็นไปโดยอัตโนมัติทันทีที่ผู้ขับกดแป้นเบรก  โดยกล่องสมองกลจะนำค่าความต่างของความเร็วในการที่ล้อหน้าคู่หน้าและหลัง  ที่เกิดขึ้นในขณะที่ผู้ขับขี่กดแป้นเบรกใช้ในการคำนวณเพื่อหาปริมาณแรงกันน้ำมันเบรกสูงสุดที่ระบบจะสามารถส่งให้เบรกทำงานได้  โดยไม่ก่อให้เกิดอาการเบรกล็อกที่ล้อหลังจนเกิดอาการท้ายปัด  โดยเฉพาะในกรณีที่มีการบรรทุกสัมภาระหรือมีผู้โดยสารมาก  รถที่มีการบรรทุก น้ำหนักส่วนใหญ่จะกดลงที่ล้อหลัง  ทำให้ เบรกหลังต้องรับภาระมากกว่าปกติ   /// สิ่งที่กราฟจากในรูปข้างบนแสดง   มันไม่มีส่วนที่กล่าวถึงการใช้ ความเร็วล้อ มาควบคุมแรงดันน้ำมันเบรค ตามที่บทความนี้กล่าวถึงเลย จากคุณ : ton99 เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 53 00:06:52

ความคิดเห็นที่ 3 แหล่งข้อมูลประกอบ http://www.phithan-toyota.com/th/articledetail.php?article_id=197 http://en.wikipedia.org/wiki/Electronic_brakeforce_distribution จากคุณ : ton99 เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 53 00:07:15

ความคิดเห็นที่ 4   อะไรบางอย่างที่มัน control ด้วยปฎิกริยาของมนุษย์ไม่ได้ ก็ต้องพึ่ง คอมพิวเตอร์แหละครับ จากคุณ : c10uf เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 53 00:18:51

ความคิดเห็นที่ 5 ทางโค้ง ลงเขา ฝนตก  ผมว่าระบบนี้ได้ประโยชน์นะครับ ทำให้ระบบเอบีเอสทำงานละเอียดมากขึ้นแค่นั้นเอง จากคุณ : Tangible เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 53 07:02:57

ความคิดเห็นที่ 6 ABS รุ่นอื่นอาจจะเป็นแบบ 4 เซนเซอร์ 4 แชนแนล (ล้อ) แต่ยี่ห้อจิ๊บๆถังเดียวยังเหลือ จะเป็น ABS แบบตรวจจับ 4 ล้อ (เขาอาจจะใช้คำว่าอิสระก็ได้) แต่ก็แค่ 3 แชนแนล หน้า 2 หลัง รวมกัน 1 ถ้ามี EBD ล้อหลังทั้ง 2 ก็จะต้องทำงานพร้อมๆกัน เหมือนๆกัน ถ้าสั่งให้จับปล่อยก็จะจับปล่อยเหมือนๆกัน มีแรงกระทำจากระบบ EBD เหมือนๆกัน ถ้ามี ABS ก็ควรจะมี EBD และ BA มาร่วมช่วยด้วย แต่ถ้ามีแต่ EBD BA สงสัยจะล๊อคตายหมุนติ้วๆก่อนแน่ๆ หุหุ เพราะระบบนี้ มักจะทำงานพร้อมๆกับ ABS อาจจะทำงานก่อน จนระบบ ABS ทำงานตาม ก็เป็นได้ (ล้อเริ่มล๊อค) จากคุณ : Themad เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 53 07:11:35

ความคิดเห็นที่ 7 เห็นด้วยกับท่าน Themad เรื่องปัญหาปัดเป๋อาจเกิดขึ้นได้ ในกรณีที่มี EBD BA และ ABS เป็นแบบ 3 Channel แต่ยี่ห้อจิ๊บๆที่ว่านี่ หากเป็นรุ่นที่มี EBD แล้ว จะเป็น 4 Channels 4 Sensors ครับ ส่วน BA นี่เป็นส่วนของ mechanic ไม่ใช่อิเลคทรอนิกครับ @คุณton99 ภาพที่หัวกระทู้นั้น น่าจะทำให้สับสนได้เหมือนกัน ก่อนอื่นมาดูที่โครงสร้างทางกายภาพก่อนนะครับ เพราะระบบต่างๆเช่น TRC VSC EBD เมื่อโครงสร้างทางกายภาพเอื้อ คือมี Input ที่เพียงพอ มี hardware ที่ function ได้ละเอียดพอ ก็ใส่ซอฟท์แวร์เข้าไปให้มันทำงาน ถึงจะเรียกเป็น EBD, VSC ได้เต็มปากเต็ฒคำ การที่มี ABS 4 Ch. -> เราก็เอาความสามารถในการแยกแรงดันได้ล้อใครล้อมันมาต่อยอด EBD 3 Ch. ก็อาจจะมีข้อจำกัดคือดีมากตอนที่บรรทุก และทางตรงๆ พอทางโค้ง ตัวเปล่าๆ อาจจะทำให้เกิดท้ายเป๋ ได้ง่ายซะมากกว่าดี ถ้าจะแก้ โดยใส่ YAW sensor เพื่อให้วัด Lateral G Force มาประกอบการตัดสินใจแล้ว ก็ทำระบบให้มันเป็น VSC ไปด้วยเสียเลยดีไหม ผมสงสัยว่าภาพอธิบาย EBD ที่คุณต้นเอามา อาจจะทำให้สับสนดูเป็น VSC ได้เหมือนกัน ผมเข้าใจคุณต้นถูกไหมครับ ผมเองก็เคยสับสนมาก่อนเหมือนกัน จากคุณ : kroner เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 53 07:39:03

ความคิดเห็นที่ 8 แก้ไขเมื่อ 17 ส.ค. 53 08:07:08 จากคุณ : NoFlyZone เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 53 08:05:27

ความคิดเห็นที่ 9 ไม่ขึ้นซะงั้น เอาใหม่ๆ จากคุณ : NoFlyZone เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 53 08:07:00

ความคิดเห็นที่ 10 และอีกกรณีนึง ผมว่าชัดเจน มากกว่ากราฟที่โตโยต้าเอามาบอกอีกครับ จากคุณ : NoFlyZone เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 53 08:09:53

ความคิดเห็นที่ 11 หรือกรณีไม่มีการบรรทุกเลย EBD จะสั่งลดแรงเบรคหลังลง เพราะขณะเบรคแรงๆ ล้อหลังย่อมยกตัวขึ้นจากแรงเบรคที่กระทำต่อล้อหน้า ถ้าคงแรงเบรคหลังไว้อาจเกิดการล็อคตัวขึ้นได้ ถึงจะมี ABS ก็ตาม และกรณีบรรทุกเต็มพิกัด น้ำหนักถ่วงจะทำให้รถเบรคยากขึ้น เหมือนรถบรรทุก 10 ล้อ ที่วิ่งมาแล้วเบรคเบรคกะทันหัน น้ำหนักของตัวรถจะทำให้ระยะเบรคยาวขึ้น ถึงจะห้ามล้อแล้วแต่ก็ไม่เพียงพอ เพราะน้ำหนักเบรคมันเฉลื่ยกันหมด แต่ถ้าแปรกำลังเบรคให้เฉลื่ยที่ล้อหลังมากขึ้นกรณีบรรทุกเต็มพิกัด และลดกำลังเบรคหน้าลงบางส่วน ก็ช่วยให้ระยะการเบรค "อาจจะ" สั้นลงได้ เหมือนเจ้า LSPV หรือ LSV หรืออะไรทั้งหลายพยายามทำกัน จากคุณ : NoFlyZone เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 53 08:18:33

ความคิดเห็นที่ 12 เห็นด้วยที่ว่า EBD ก็ทำงานทำนองเดียวกันกับ ABS นั่นแหละ เพียงแต่ EBD เขามีการปรับขยายช่วงการทำงานขึ้นเล็กน้อยโดยเริ่มควบคุมแรงดันน้ำมันเบรคที่ค่าslipของล้อต่ำกว่าABSเดี่ยวๆและควบคุมแรงดันเบรคในลักษณะตรึงไม่ให้เพิ่มเป็นหลัก เทียบกับย่านการทำงานของABSซึ่งจะมีการตรึงแรงดันไม่ให้เพิ่มประกอบกันกับการลดแรงดัน มีการเปรียบEBDว่าเป็น "Pre-ABS" ทีนี้ถ้าจะลอง by-pass PV หรือ LSPV ของรถที่มีABSเดี่ยวๆ แรงดันน้ำมันเบรคหลัง = หน้า เบรคมีแนวโน้มหลังล็อคก่อนหน้า ABSก็จะทำงานป้องกันล้อ(หลัง)ล็อค แต่ในรายละเอียดคิดว่าจะมีข้อแตกต่างกันอยู่คือ - การทำงานช่วงก่อนล้อล็อคไม่เนียนเท่าEBD ตามที่อธิบายข้างบน และก็ไม่เนียนเท่าABSเดี่ยวสภาพเดิมซึ่งมี PV หรือ LSPV ปรับแรงดันเบรคหน้า-หลัง - PV และ LSPV อาจมีslopeแรงดันหลัง-หน้าช่วงต้น(ช่วงที่ตัดจุด0)ไม่เท่ากับ 1 ขึ้นอยู่กับการออกแบบระบบเบรคของรถแต่ละรุ่น การby-pass PV หรือ LSPV ทำให้แรงดันน้ำมันเบรคหลัง=หน้า ตลอดเวลา(ก่อนABSทำงาน) คือ slope = 1 ทำให้สมดุลย์เบรคหน้า-หลังโดยรวมผิดเพี้ยนไป เช่นอาจทำให้ล้อหลังล็อคก่อนล้อหน้ามากๆ เปรียบเทียบกับระบบเบรคที่ออกแบบมาสำหรับEBDโดยทั่วไปจะออกแบบระบบเบรคมาสำหรับแรงดันน้ำมันเบรคหลัง=หน้ามาเลย เป็นการประหยัด PV / LSPV จากคุณ : akeb เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 53 08:28:00

ความคิดเห็นที่ 13 ส่วน BA จากประสบการณ์ 9 ปีกับเจ้าอัลติส ZZE122 ที่มี ABS/EBD/BA/VSC/TRC (2 ระบบหลังไม่พูดถึง) เฉพาะระบบ BA จะทำงานกรณีเบรคชนิดกดลึกเบรคเกินว่า 60 % ทันที แล้วความเร็วยังไม่ชะลอ เช่น ถนนลื่น / ลงสะพานเร็วๆแล้วเจอรถติด หรือ ลงเขาแล้วต้องกดเบรค ระบบนี้เหมือนจะ "ดูด" ความเร็วลงทันที ทั้งๆที่กดเบรคไม่ได้ลึกเท่าไร และในกรณีฉุกเฉินมีอันต้องกระทืบเบรคเพื่อหยุด ระบบ BA จะช่วยเพิ่มแรงเบรคมากขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีเพราะระยะเบรคสั้นลงมาก ส่วน EBD ถือว่าเสริมระบบ ABS มากกว่ากรณีเข้าโค้งและบรรทุกหนัก เพราะถ้าปล่อย ABS ทำงานอย่างเดียวคงไม่พอ เพราะ ABS ไม่ได้ฉลาดถึงขนาดรู้ว่าตอนนี้รถกำลังทำอะไรอยู่ ตัว ABS มีหน้าที่แค่ดูล้อไม่ให้ล็อคเท่านั้น EBD ถึงเสนอตัวเป็นผู้ช่วย คอยดูตัวรถว่าตอนนี้กำลังทำอะไรอยู่ และคอยบอก ABS ว่า "อย่าเพิ่งทำอะไรนะ เดิ๋ยวเค้าจัดการให้ก่อน ถ้าไม่ไหวพี่ค่อยมาช่วยผมอีกแรงแล้วกัน" ส่วน VSC และ TRC จะไม่พูด ถึงแม้จะทำงานเกี่ยวเนื่องกัน แต่มันไปช่วยเรื่องการทรงตัวและการตัดกำลังเครื่องยนต์เพื่อช่วยมากกว่า แก้ไขเมื่อ 17 ส.ค. 53 08:33:44 จากคุณ : NoFlyZone เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 53 08:32:54

ความคิดเห็นที่ 14 เข้ามาอ่านและขอบคุณทุกท่านครับ ได้ความรู้มากเล่ย จากคุณ : pisake เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 53 08:58:40

ความคิดเห็นที่ 15 กระทู้ที่ดีครับ จากคุณ : Tangible เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 53 11:49:48

ความคิดเห็นที่ 16 มาถึงจุดนี้  ผมได้ข้อสงสัยเพิ่มขึ้นมาแล้วครับ ที่ผ่านมา  รถที่มี EBD นั้น  ต้องมี YAW sensor ทุกคันด้วยหรือเปล่า ถ้าไม่มี Yaw sensor  การพยากรต่างๆคงใช้แค่ sensor ABS มาคิดคำนวนความเร็วอย่างเดียว การที่ใช้แต่ sensor ABS อย่างเดียว  ผมว่าไม่น่าเพิ่มแรงเบรคหลังโดยที่ไม่ให้ ABS ทำงานได้ ถ้ามี YAW sensor แล้ว ผมว่าแค่เพิ่ม software ควบคุมเข้าไปอีกชุด มันก็กลายเป็น VSC VSA ESP แล้ว อย่างกรณี Civic1.8 AS ที่มี ABS EBD ผมว่ารุ่นนี้ไม่น่าจะมี YAW sensor  เพราะยังไม่เคยได้ยินพวกที่ซนๆบอกว่ามี สำหรับ EBD ของรุ่นนี้  มันทำให้ผมสงสัยการทำงานมันขึ้นมา เดิมทีรถรุ่นนี้  ผ้าเบรคจากโรงงาน  จะมาในแนวเบรคแล้วมันไหลๆ โดยช่วงที่เริ่มเบรคจะมีแรงดึงแรงพอสมควร  แต่พอเริ่มใกล้หยุดแรงดึงกลับเบาลง ซึ่งดูเหมือนว่า  ทางโรงงานตั้งใจทำเนื้อผ้าเบรคมาให้ล้อล็อคยากๆ ตามความเข้าใจเดิมของผมที่มีกับ EBD  ผมเข้าใจว่า ระบบจะเพิ่มแรงเบรคหลังให้จนเต็มที่   จนทำให้ล้อหลังเกือบล็อค  หรือล็อคแล้ว ABS ทำงานก่อน   แล้วล้อหน้าถึงจะเริ่มล็อคตามมาทีหลัง แต่พอผมได้เปลี่ยนผ้าเบรคคู่หน้าใหม่ ให้มีแรงเบรคค่อนข้างมาก คราวนี้กลับกลายเป็นว่า  อาการมันก็ไม่ได้ต่างอะไรกับรถที่ไม่มี EBD เลย คือ ล้อหน้าจะล็อคเร็วมาก  ตามแรงเบรคของผ้าเบรคหน้าที่ดีกว่าล้อหลังมาก มันเหมือนว่าระบบ EBD นี้  มันไม่ได้เพิ่มแรงเบรคหลังให้ขึ้นมาเลย แต่พอมาดูรูปกราฟแรงดันเบรคหน้าหลัง ของรถ Toyota ข้างบน ถึงได้ความกระจ่างว่า  ทำไมอาการเบรคใน Civic มันถึงเป็นแบบนั้น ดูแล้ว EBD ของ Honda ก็ทำงานเหมือนของ Toyota ส่วนรูปข้างล่าง เส้นสีเขียว คือ แรงดันเบรคหน้าหลัง ของ EBD ที่ผมเคยเข้าใจมาตลอด ผมขอวาดเฉพาะกรณีที่บรรทุกเต็มพิกัดอย่างเดียว  เพราะจะได้มองเห็นได้ชัดเจน แก้ไขเมื่อ 17 ส.ค. 53 12:39:18 แก้ไขเมื่อ 17 ส.ค. 53 12:36:19 จากคุณ : ton99 เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 53 12:35:12

ความคิดเห็นที่ 17 #16 - ไม่เคยเห็น ABS หรือ ABS +EBD มีัyaw sensor จะมีก็แต่ G sensor (longitudinal G) เป็นบางรุ่น - การทำงานควบคุมแรงดันน้ำมันเบรคของ ABS และ ABS +EBD มีแต่ตรึงแรงดันไม่ให้เพิ่มกับลดแรงดัน ไม่มีการเพิ่มแรงดันที่มาจากแม่ปั๊มไปเบรค(แรงดันไปเบรคเพิ่มได้จากการเพิ่มแรงดันจากแม่ปั๊มจากการกดแป้นเบรค) เฉพาะระบบESCจึงมีการเพิ่มแรงดันเบรคจากตัวควบคุมเอง(ระบบสั่งเบรคเองโดยคนขับไม่ได้กดแป้นเบรค) ***ข้างล่างไม่ถูกต้อง ดูที่แก้ไขที่#31 - ถ้าแปลี่ยนผ้าเบรคหน้าให้มีค่าmuดีกว่าหลังมากๆ เส้นการกระแรงเบรคในอุดมคติสีแดง(ล้อหน้าล็อคพร้อมล้อหลังในทุกสภาพถนน)ทั้งไม่บรรทุกและบรรทุกเต็มพิกัดจะลดเตี้ยทั้ง2เส้น สมดุลย์การเบรคจะเปลี่ยนไปข้างหน้าและมีผลมากกว่าในกรณีไม่บรรทุก ทำให้ทั้งEBDและABSเริ่มทำงานเร็วมากตั้งแต่ค่าmuถนนต่ำๆ มันทำให้ระบบเบรคทำงานเป็นขั้นๆ(digital)เสียเป็นส่วนใหญ่ แทนที่จะเป็นแบบต่อเนื่อง(analog)เป็นส่วนใหญ่ แก้ไขเมื่อ 18 ส.ค. 53 07:49:43 แก้ไขเมื่อ 18 ส.ค. 53 07:48:34 แก้ไขเมื่อ 17 ส.ค. 53 13:23:27 จากคุณ : akeb เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 53 13:21:45

ความคิดเห็นที่ 18 YAW sensor รุ่นใหม่ ๆ น่าจะมีทุกคันนะ รถผม Yaris auto ขับลงเนิน แตะเบรค ที่ความเร็ว 80 มันสับเกียต่ำ (engine break) ให้เองเลย แปลว่ามันต้องมี sensor เพราะ ขับพื้นราบไม่เป็น ตอนขับขึ้นเขาชัน ๆ  มันสับเกียร์ไวขึ้น แตะคันเร่งนิดเดียวก็สับเกียร์ต่ำให้เลย (ไม่รู้คิดไปเแองป่าวนะ แต่รู้สึกแบบนั้น) ส่วน EDB ผมเข้าใจว่ากระจายล้อซ้ายขวา ให้แรงเบรคไม่เท่ากันนะ เพราตอนเข้าโค้ง ทุกล้อมันรับแรงไม่เท่ากัน แรงเบรคสูงสุดก็รับได้ไม่เท่ากัน จึงมีนะบบนี้ กระจายแรงแบรค จากคุณ : สปุ้กนิกปาปิยองกุ๊กๆ เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 53 13:27:51

ความคิดเห็นที่ 19 #18 yaw sensor คือตัววัดการหมุนรอบแนวตั้งของตัวรถนะครับ มีใช้ในระบบVSCของToyota Yaris ABS EBD BA ไม่มีัyaw sensor และไม่มี G sensor (ตัววัดแรงGของรถในแนวที่กำหนดเช่น แนวตรง แนวขวาง แนวตั้ง)   เกี่ยวกับระบบการเปลี่ยนเกียร์ออโต้ ก็ไม่มีทั้ง yaw sensor และ G sensor น่าจะใช้patternการกดคันเร่ง,ความเร็วของรถครับ จากคุณ : akeb เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 53 15:45:01

ความคิดเห็นที่ 20 ที่ลงเนินยกคันเร่งแล้วดึงเกียร์ลงให้นั้น  เกียร์สมัยใหม่ที่ฉลาดหน่อย  ก็จะเป็นแบบนี้ครับ ถ้าฉลาดจัดๆ  เข้า D ไว้ลงเขา มันลงให้ถึงเกียร์ 1 เลยครับ  แต่ต้องขับรู้จังหวะมันหน่อย ที่มันทำได้  อาจจะไม่ต้องใช้ sensor อะไรเพิ่มเลยก็ได้ อาศัยอ่านความเร็ว กับตำแหน่งคันเร่ง  แค่นี้ก็น่าจะพอแล้วครับ โปรแกรมแค่ว่า  ถ้าไม่เร่งแล้วความเร็วไม่ลดแต่ดันแถมเพิ่มความเร็วลงอีก เหตุการณ์แบบนี้  จึงน่าจะเป็นการวิ่งลงเนิน  ดังนั้นจึงลดเกียร์ต่ำให้ แก้ไขเมื่อ 17 ส.ค. 53 18:49:11 จากคุณ : ton99 เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 53 18:48:28

ความคิดเห็นที่ 21 ขอคิดต่ออีกหน่อยนะครับ สำหรับการเบรคทางตรง  ถ้ามี EBD แล้ว แบบนี้ ABS ของล้อหลังก็เหมือนหมดความหมายไปเลย เพราะ EBD จะใช้การอ่านความเร็วแตกต่างระหว่างล้อหน้ากับล้อหลัง เมื่อไหร่ที่ล้อหลังเริ่มหมุนช้ากว่าล้อหน้า  ก็คุมแรงดันเบรคให้ลดลงมาอีกหน่อย ถ้าคุมแรงดันได้ดี  ล้อหลังมันจะไม่ล็อคเลย ที่นี้มาคิดต่อในตอนเบรคทางโค้ง  ถ้าใช้การอ่านความเร็วล้อแต่ละล้ออย่างเดียว ระบบ EBD มันจะรู้ได้อย่างไร  ว่าล้อไหนควรจะเติมแรงเบรคให้เท่าไหร่ เพราะตอนเลี้ยว ล้อทั้ง 4 ความเร็วมันจะไม่เท่ากันเลย การเทียบความเร็วก่อนล้อล็อค  คงใช้การไม่ได้ จากคุณ : ton99 เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 53 19:21:15

ความคิดเห็นที่ 22 ได้ความรู้มากเลยครับ  ขอบคุณครับ  ฉลาดจริงๆ คนคิดระบบพวกนี้ จากคุณ : JACK (yingtanarak) เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 53 19:56:19

ความคิดเห็นที่ 23 ขอลงชื่อเข้าฟังนะครับ ช่วงนี้ขับแต่ 3 ล้อ  ลืมข้อมูลเรื่อง EBD ABS ESC ไปเยอะเลย จากคุณ : ถัง เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 53 21:08:15

ความคิดเห็นที่ 24   EBD ใช้ Hardware ของ ABS ครับ แต่ software ต่างกันเล็กน้อย ABS จะทำงานเมื่อล้อใกล้ล็อก EBD จะทำงานเมื่อล้อหมุนช้ากว่าล้อหน้า จากคุณ : ป๋า เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 53 22:04:20 A:172.16.5.104 X:203.146.104.42 TicketID:110672

ความคิดเห็นที่ 25 #21 - เวลาเลี้ยว ABS, EBD คำนวณอย่างไรน่าคิดเหมือนกัน แต่รู้ว่ามันประมวลค่าslipของแต่ละล้อออกมาได้และควบคุมแรงเบรคตามค่าslip โดยนอกจากเปรียบเทียบความเร็วของล้อทั้ง4แล้วยังมีการเช็คอย่างอื่นๆด้วย เช่น ความเร็วของรถ อัตราการเปลี่ยนแปลงความเร็วแต่ละล้อ/ความเร็วของรถว่าผิดปกติหรือเปล่า (Deceleration Threshold Based Algorithms) - EBD - ABS ทำงานต่อเนื่องกันตามค่าslip  EBD ทำงานก่อนที่slipต่ำกว่า15% ถ้ายังกดแป้นเบรคเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ slipก็เพิ่มขึ้นจนถึง~15% ABSก็ทำงาน จากคุณ : akeb เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 53 22:35:26

ความคิดเห็นที่ 26 เข้ามาเก็บข้อมูลต่อครับ ฝากเพิ่มเติมเรื่อง G-Sensor / Yaw Sensor ผมมักพบว่ารถที่ขับเคลื่อน 4 ล้อ ระบบ ABS มักจะติดตั้ง G Sensor มาด้วย อย่างมิตซูบิชิ Galant VR4 รุ่นเก่าเป็นสิบกว่าปีมาแล้วก็ติดตั้ง G Sensor มาถึงตอนนี้ Fortuner รุ่นก่อนไมเนอร์เชนจ์ที่ไม่มี EBD ก็ติดตั้ง G Sensor มาด้วย สงสัยบ้างไหมทำไมรถพวกนี้ถึงต้องใส่ G Sensor มา ในขณะที่ Yaris ทำไมไม่ใส่มาให้ครับ จากคุณ : kroner เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 53 23:51:56

ความคิดเห็นที่ 27 พวกรถสูง ตอนเบรครถมันจะโยนเอียงมากกว่ารถเตี้ย เวลามันโยนมันส่งผลกับค่า G ด้วย ผมขอเดาว่า  คงวัดค่า G เอาไว้  เพื่อคุมแรงดันเบรคไม่ให้เบรคแล้วมีค่า G มากเกินไป ถ้ามีค่า G มากๆตอนเบรคแล้วมีเลี้ยวเสริม  ผมว่ามีโอกาสกลิ้งโกโร่สูงครับ จากคุณ : ton99 เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 53 00:12:37

ความคิดเห็นที่ 28 แถมหน่อยนะครับ  ไม่รู้ว่าเกี่ยวด้วยหรือเปล่า ผมเคยเห็น Jazz รุ่นบ้านๆ ตัวญี่ปุ่น  มันมี sensor วัดมุมปีกนกล่างล้อหน้าด้วย ไม่รู้เหมือนกันว่า  ใช้วัดเอาไปทำอะไรบ้าง จากคุณ : ton99 เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 53 00:17:47

ความคิดเห็นที่ 29 ผมอ่านจากที่นี่มา http://auto.howstuffworks.com/car-driving-safety/safety-regulatory-devices/electronic-brake-force-distribution2.htm เข้าใจว่าสำหรับพวกที่ไม่มี yaw sensor อาจจะใช้ความเร็วปลายเกียร์  กับความเร็วแต่ละล้อ  มาหาความสัมพันธ์กันได้ แต่ถ้าให้ดี ต้องมี yaw sensor และ steering wheel angle sensor ด้วย จากคุณ : ton99 เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 53 00:26:59

ความคิดเห็นที่ 30 แล้ว ถ้าเกิดกรณีที่ท้ายปัดแล้วยื้อพวงมาลัยไม่อยู่ กดเบรคในรถที่มีทั้ง BA EBD ABS จะช่วยได้ในรูปแบบไหนครับ แล้วระบบVSC จะเป็นตัวช่วยไม่ให้ท้ายปัดใช่รึเปล่า จากคุณ : nut (supernutman) เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 53 01:07:58

ความคิดเห็นที่ 31 แก้ไข #17 เรื่องเปลี่ยนผ้าเบรคหน้า ที่บอกไปใน#17มันผิดกลับกันครับ แก้ไขเป็น - ถ้าแปลี่ยนผ้าเบรคหน้าให้มีค่าmuดีกว่าหลังมากๆ เส้นการกระแรงเบรคในอุดมคติสีแดง(ล้อหน้าล็อคพร้อมล้อหลังในทุกสภาพถนน)ทั้งไม่บรรทุกและบรรทุกเต็มพิกัดจะสูงขึ้นทั้ง2เส้น สมดุลย์การเบรคจะเปลี่ยนไปข้างหน้าและมีผลมากกว่าในกรณีบรรทุกเต็มพิกัด ทำให้ได้ประสิทธิภาพการเบรคของEBDไม่เต็มที่ คือเวลาบรรทุกเต็มพิกัดล้อหลังสร้างแรงเบรคได้ไม่พอไม่ถึงจุดล็อคขณะที่ล้อหน้าล็อคไปก่อน จากคุณ : akeb เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 53 07:45:34

ความคิดเห็นที่ 32 #28 sensor วัดมุมปีกนกล่างล้อหน้าและหลัง เป็นส่วนของระบบปรับความสูงไฟหน้า(Headlight Leveling System) เห็นในรถญี่ปุ่น ตอนแรกเห็นในWishคิดว่าเกี่ยวกับ EBD แต่เช็คกับแผนกเทคนิค Toyota แล้วว่าไม่เกี่ยวกับ EBD #30 "กรณีที่ท้ายปัดแล้วยื้อพวงมาลัยไม่อยู่ กดเบรคในรถที่มีทั้ง BA EBD ABS จะช่วยได้ในรูปแบบไหน" >>> ABS EBD ป้องกันการเสียเสถียรภาพจากการเบรค คือมันไปลดแรงเบรคกรณีล้อล็อคหรือเริ่มล็อค เวลารถท้ายปัด(ล้อหลังไสลด์)จากสาเหตุอื่นแล้วเบรค ABS จะไปตัดแรงเบรคล้อหลังที่ไสลด์/ล็อคอยู่ = มีแรงเบรคเฉพาะล้อหน้า นอกจะไม่ช่วยแล้วยังทำให้แย่ลงอีก ต้องเป็นระบบESCจึงจะช่วยได้ จากคุณ : akeb เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 53 10:51:36

ความคิดเห็นที่ 33 กลับมาเรื่อง g sensor, yaw sensor   รถรุ่นไหน มี/ไม่มี รวบรวมจาก service manual : --------------------------- g sensor   yaw sensor                             Altis 04        ABS                N               N Yaris 07       ABS EBD          N               N Fortuner 05  ABS                Y               N Civic EK        ABS                N               N Civic ES        ABS EBD          N              N Civic FD        ABS EBD          N              N Jazz GD        ABS EBD          N              N Jazz GE        ABS EBD          N              N Xtrail 05       ABS EBD          Y              N Lancer 07     ABS EBD          N              N ใครมีข้อมูลเพิ่มเติมเอามาแชร์กันหน่อย จากคุณ : akeb เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 53 11:28:49

ความคิดเห็นที่ 34 #33 Civic FD รุ่นไม่มี VSA Confirm ตามนั้นครับพี่ ตะกี้ผมเปิดดู Manual พบว่า ไม่มี G Sensor และ Yaw sensor ใน Diagram ส่วนรุ่นมี VSA มี Yaw sensor และ Steering Angle  sensor เพิ่มมา จากคุณ : ถัง เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 53 12:21:05

ความคิดเห็นที่ 35 อีกอย่าง ถ้าผมจำไม่ผิด ตอนใช้ Tiger 4WD คู่มือบอกว่า เบรก ABS ใช้จะข้อมูลจาก G Sensor เฉพาะตอนขับแบบ 4WD เท่านั้น ตอนนี้รถไม่อยู่กับผมแล้ว  ท่านมีข้อมูล รบกวนด้วยครับ จากคุณ : ถัง เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 53 12:23:14

ความคิดเห็นที่ 36 ู^ ^ ^ รถ Tiger 4WD ที่ผมมีอยู่คันหนึ่ง เดี๋ยวขอไปดูแถวใต้เบาะคนขับก่อนนะครับ จากคุณ : kroner เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 53 12:41:55

ความคิดเห็นที่ 37 #31 ขอบคุณครับ  ตอนแรกผมอ่านก็มึนๆ อย่างนี้  สำหรับที่มี EBD การใช้ผ้าเบรคหน้าแรงดีกว่าเบรคหลัง  เหมือนจะเป็นข้อห้ามได้เลย จากคุณ : ton99 เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 53 14:00:20

ความคิดเห็นที่ 38 เจอคำอธิบายการใช้ g sensor จากhttp://www.autoshop101.com/forms/brake09.pdf เขาเรียกเป็น deceleration sensor และบอกว่าใช้กับรถ4wd fulltime ถ้ามาเทียบกับข้อมูลการใช้ g sensor พบว่าใช้กับ4wd realtime (Xtrail) และ 4wd parttime (Vigo 4wd โดย Vigo 2wd ไม่มี g sensor) ด้วย สรุปแนวโน้มว่า g sensor ใช้กับ ABS ในรถ4wd จากคุณ : akeb เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 53 14:44:30

ความคิดเห็นที่ 39 ^ ^ ^ All Fulltime 4WD ซะด้วยสิครับพี่akeb ที่ว่าจำเป็นต้องมี G Sensor (Deceleration Sensor) จากคุณ : kroner เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 53 15:42:25

ความคิดเห็นที่ 40 DMAX 4X4 กับ COLORADO 4X4 ก็มี G sensor ครับ ติดตั้งอยู่ที่ตรงกลางใต้คอนโซลหน้า จากคุณ : kittip เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 53 16:56:23

ความคิดเห็นที่ 41 ู^ ข้อมูลเพิ่มอย่างนี้ถูกมั๊ยครับ --------------------------- g sensor   yaw sensor DMAX 4X4   ABS EBD         Y               N จากคุณ : akeb เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 53 18:10:31

ความคิดเห็นที่ 42 เรื่อง G sensor ผมพอนึกออกได้แบบนี้นะครับ พวกรถสูงๆ  เวลารถมันเอียงขยับไปองศานึง ตำแหน่ง CG ถ้าวัดเป็นระยะเทียบกับพื้น  มันจะขยับไปมากกว่ารถเตี้ย การที่ยอมให้เบรค  ดึงได้ดีเกินไป  มันจะทำให้น้ำหนักรถมันทุ่มไปข้างหน้ามาก ทำให้ช่วงหลังจากนี้  อาการเบรคจะทำได้ไม่ดีแล้ว จากคุณ : ton99 เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 53 19:28:04

ความคิดเห็นที่ 43 ความคิดเห็นที่ 31     คคห #31 แก้ไข #17 เรื่องเปลี่ยนผ้าเบรคหน้า ที่บอกไปใน#17มันผิดกลับกันครับ แก้ไขเป็น - ถ้าแปลี่ยนผ้าเบรคหน้าให้มีค่าmuดีกว่าหลังมากๆ เส้นการกระแรงเบรคในอุดมคติสีแดง(ล้อหน้าล็อคพร้อมล้อหลังในทุกสภาพถนน)ทั้งไม่บรรทุกและบรรทุกเต็มพิกัดจะสูงขึ้นทั้ง2เส้น สมดุลย์การเบรคจะเปลี่ยนไปข้างหน้าและมีผลมากกว่าในกรณีบรรทุกเต็มพิกัด ทำให้ได้ประสิทธิภาพการเบรคของEBDไม่เต็มที่ คือเวลาบรรทุกเต็มพิกัดล้อหลังสร้างแรงเบรคได้ไม่พอไม่ถึงจุดล็อคขณะที่ล้อหน้าล็อคไปก่อน จากคุณ : akeb +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ คคห #37 #31 ขอบคุณครับ  ตอนแรกผมอ่านก็มึนๆ อย่างนี้  สำหรับที่มี EBD การใช้ผ้าเบรคหน้าแรงดีกว่าเบรคหลัง  เหมือนจะเป็นข้อห้ามได้เลย จากคุณ : ton99 ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงครับ ผมพบเสมอว่าผู้ใช้รถที่ใส่เบรคดีๆที่ล้อหน้า (เพราะล้อหน้ามักหมดก่อน จึงมักเปลี่ยนเฉพาะล้อหน้าที่หมด) ปรากฎว่าผ้าเบรคหน้าหมดเร็วกว่าปกติเสมอ วิธีแก้ก็ไม่ยากนี่ครับ หากต้องการประสิทธิภาพจริงๆของเบรค ควรเปลี่ยนยกคันครับ คือเปลี่ยนผ้าเบรคดีทั้ง 4 ล้อ ซึ่งกรณีแบบนี้ ผมเคยพบว่าช่วยทำให้อายุใช้งานผ้าเบรคหน้าดีๆ ยืดอายุขึ้นใช้งานได้มากขึ้นไปอีกไม่ต่ำกว่า 20% และทำให้ล้อหน้าจานเบรคคดยากกว่าอีกด้วยครับ ซึ่งประเด็นเบรคดีต้องดีทั้ง 4 ล้อนั้น แม้แต่รถที่ไม่มี EBD ก็มีผลไม่แตกต่างกันในส่วนนี้ครับ จากคุณ : kroner เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 53 22:10:55

ความคิดเห็นที่ 44 ^ ^ จริงครับ ตอนคิดก็ลืมนึกถึงพวกที่ไม่มี EBD เลย พี่ kroner พูดแบบนี้  ทำให้นึกถึง Vigo คันนึง คันนี้เขาไปเปลี่ยนเบรคหน้าใหญ่มา  พอเปลี่ยนแล้วเขาบอกว่าเบรคหน้าคตง่ายกว่าเดิม ตรงนี้เข้าใจถึงสาเหตุแล้วครับ  เบรคหน้าใหญ่มันไม่ได้แก้ปัญหาเบรคคต แต่การที่เบรคใหญ่มันทำให้เบรคดี  ภาระเบรคมันยิ่งตกมาที่เบรคหน้าเพิ่มไปอีก จานเลยยิ่งคตง่ายกว่าเดิม จากคุณ : ton99 เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 53 22:23:46

ความคิดเห็นที่ 45 พี่ akeb มีผังการทำงานของตัวที่เป็นตัวคุมแรงดัน ของ EBD ไหมครับ ผมดูๆมาหลายวัน  ไม่เห็นใครพูดถึงส่วนนี้เลย ตอนนี้ผมเข้าใจว่า  มันไม่น่าใช่กลไกชุดเดียวกับ ABS จากคุณ : ton99 เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 53 22:26:02

ความคิดเห็นที่ 46 ความคิดเห็นที่ 42     เรื่อง G sensor ผมพอนึกออกได้แบบนี้นะครับ พวกรถสูงๆ  เวลารถมันเอียงขยับไปองศานึง ตำแหน่ง CG ถ้าวัดเป็นระยะเทียบกับพื้น  มันจะขยับไปมากกว่ารถเตี้ย การที่ยอมให้เบรค  ดึงได้ดีเกินไป  มันจะทำให้น้ำหนักรถมันทุ่มไปข้างหน้ามาก ทำให้ช่วงหลังจากนี้  อาการเบรคจะทำได้ไม่ดีแล้ว จากคุณ : ton99   เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 53 19:28:04   +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ เห็นทีจะจริงนะครับว่า G Sensor จะไม่ยอมให้รถเบรคได้ดีเกินไป โดยจะจำกัดแรง -G ที่เกิดขึ้นขณะเบรคไม่ให้มีค่าลบมากเกินไป ผมยกตัวอย่าง เคส Fortuner ที่ไปติดเครื่องเสียง ปรากฎว่าร้านเครื่องเสียงได้ย้ายตำแหน่งของ G Sensor ซึ่งอยู่ใต้เบาะคนขับออกไป เพื่อที่จะได้ติดตั้งอุปกรณ์เครื่องเสียงตรงใต้เบาะ ปัญหาตามาทันทีที่เมื่อไหร่เบรคฉุกเฉินจน ABS ทำงาน ผลคือรถจะถูกหน่วงน้อยลง ในขณะที่ abs ทำงานปังๆๆๆอยู่ รถกลับพุ่งไปข้างหน้าเร็วกว่าเดิมมาก สุดท้ายต้องกลับไปร้านเครื่องเสียงให้ถอดอุปกรณ์อื่นๆออกไป เพื่อให้ G Sensor ได้กลับมาอยู่ที่เดิม แล้วส่งเข้าศูนย์ไป calribrate G sensor เพื่อความแน่นอนอีกที เคสแบบนี้ ผมเจอมาหลายคันเลยทีเดียวครับ จนต้องโพสเตือนใน Fortuner Club เรื่องการติดตั้งเครื่องเสียง ต้องเตือนอย่าให้ร้านเครื่องเสียงแตะต้อง หรือเคลื่อนย้ายอุปกรณ์ตัวนี้โดยเด็ดขาด ปล. G Sensor นี้วัด 2 แกนด้วยนะครับ จากคุณ : kroner เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 53 22:26:36

ความคิดเห็นที่ 47   VIGO มี เซ็นเซอร์แรงหน่วง มีเฉพาะสำหรับรุ่น 4WD และ 2WD พรีรันเนอร์ สวิตช์ตำแหน่ง 4WD มีเฉพาะสำหรับรุ่น 4WD สวิตช์ตรวจจับ รุ่น 4WD A.D.D มีเฉพาะสำหรับรุ่น 4WD(เฟืองท้ายแบบตัด-ต่ออัตโนมัติ) สวิตช์ตำแหน่ง L4 มีเฉพาะสำหรับรุ่น 4WD ผมมี คู่มือการซ่อมรถ ภาษาไทย VIGO VIOS ถ้าสนใจจะส่งไปให้ STEERING WHEEL SENSOR G AND YAW RATE SENSOR download ได้จาก http://jdmfsm.info/Auto/Japan/Mitsubishi/Lancer%20Evo/Manuals/2008%20Lancer%20Evo%20X%20Technical%20Information/ GROUP 35B จากคุณ : ป๋า เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 53 22:29:10 A:172.16.5.44 X:203.149.16.43 TicketID:110672

ความคิดเห็นที่ 48 อันที่จริงกรณี EBD แล้วใส่ผ้าเบรคดีๆแต่ที่ล้อหน้า ผมเห็นว่าท่าน akeb พูดถูกแต่ทีแรกแล้วว่า สโลปของกราฟแรงเบรคจริง ช่วงปลายจะหักลง เพราะภาระกรรมจะถูกเบรคหน้าดึงไปทำงานซะมากกว่าเดิม ทำให้ช่วงปลายของการเบรค กราฟแรงเบรคจริงจะมีสโลป(ความชัน)ช่วงปลายกดต่ำลงมา เพราะระบบทราบดีว่าต้องลดแรงดันเบรคหลังลงได้แล้ว เพราะท้ายมันยก(เร็ว)กว่าปกติ เนื่องจากเบรคหน้าดึงได้แรงกว่าของเดิมๆ ทำให้ล้อหน้ารับภาระกรรมมากกว่าปกติ ส่งผลให้เบรคหน้าร้อนกว่าปกติ เบรคหน้าจึงหมดได้เร็ว บางทีเบรคดีๆกลับเฟดเร็ว และจานเบรคคดได้ง่าย ถ้าต้องการประสิทธิภาพสมบูรณ์แบบทั้งระบบแล้ว ควรจะเปลี่ยนผ้าเบรคดีๆทั้งหน้าและหลังไปด้วยเลย เทคนิคที่ดีคือเปลี่ยนเบรคหลังดีๆก่อนซักระยะหนึ่ง อย่างน้อยซัก 500 ถึง 1000 Km. ให้เบรคหลังมันจับเต็มหน้าก่อน แล้วจึงค่อยเปลี่ยนเบรคหน้าชุดดีๆตาม ทำอย่างนี้แล้ว เบรคจะดีทั้งคัน โดยที่ล้อหน้าไม่หมดเร็วอีกด้วยครับ เพราะเราต้องไม่ลืมว่าระบบไม่ได้ควบคุมแรงเบรคโดยตรง แต่ระบบใช้แรงดันเป็นตัวเพิ่มหรือลดแรงเบรค ซึ่งตรงนี้เอง ไม่ได้แปลว่าแรงเบรคจะเพิ่ม หรือลดลง ในเชิงเส้นตรงต่อแรงดันน้ำมันเบรค โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีที่เบรคหลังเป็นดรัมเบรคครับ จากคุณ : kroner เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 53 22:43:45

ความคิดเห็นที่ 49 แก้ไขเมื่อ 21 ส.ค. 53 22:28:21 จากคุณ : ถัง เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 53 23:45:09

ความคิดเห็นที่ 50 #45 EBD ใช้hardwareชุดเดียวกับ ABS เลยครับ upgradeที่software เป็นหลัก เอารูปการทำงานของ EBD ต่อเนื่องกับ ABS มาให้ดูครับ จากคุณ : akeb เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 53 23:49:16

ความคิดเห็นที่ 51 สนใจครับป๋า  ขอบคุณครับ ของ Vios ผมยังไม่มี  ส่วนของ Vigo ผมมีอยู่อันนึง  ไม่รู้ว่าเป็นอันเดียวกับที่ป๋าจะให้หรือเปล่า แต่ตอนนี้ผมย้ายบ้านมาอยู่แถวบางกรวยแล้วครับ  ผมคงต้องบอกที่อยู่ให้ป๋าใหม่ ป๋ายังใช้เมล  xxxx85@chaiyo.com อยู่หรือเปล่าครับ  ผมจะเมลบอกที่อยู่ใหม่ส่งไป ความจริงถ้าป๋าอยู่แถวบางกรวย  ผมขับไปรับจากมือป๋าเลยดีกว่า  จะได้ไม่ลำบากป๋าส่งให้ เพราะป๋าส่งมาให้  ผมก็ต้องไปเอาที่ไปรษณีย์บางกรวยอยู่ดี จากคุณ : ton99 เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 00:01:29

ความคิดเห็นที่ 52 ของ Vigo ที่ผมมีมันหน้าตาแบบนี้ จากคุณ : ton99 เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 00:04:03

ความคิดเห็นที่ 53 #50 ชัดเจนเลยครับ ตัวโซลินอยด์วาล์วในชุดปั้ม ABS มันคุมแรงดันได้ขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ ผมเคยดูเมื่อนานมาแล้ว  ผมนึกว่ามันทำงานแบบ on-off เสียอีก เพราะเห็นใน ABS มันแค่จับปล่อยๆ จากคุณ : ton99 เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 00:15:21

ความคิดเห็นที่ 54 โซลีนอยด์อยู่นิ่ง แรงดันตรงมาจากแม่ปั้ม ผ่านห้องน้ำมันในปั้ม ABS เมื่อล้อหลังต้องการแรงดันมาก โซลีนอยด์อาจจะอยู่ในสถานะหยุดนิ่งก็ได้ เหมือนกับว่าระบบถูกตั้งให้แรงดันหลังมากไว้ก่อนในรถที่มี EBD แต่หากจะเพิ่มแรงดันหลังอีก เมื่อบรรทุก โซลีนอยด์ก็เคลื่อนตัวให้ห้องน้ำมันตีบลงเวลาเหยียบเบรค เท่ากับเพิ่มแรงดันเพราะลูกสูบโซลีนอยด์เป็นตัวเพิ่มแรงดันให้ ส่วนเวลา ABS ทำงาน โซลีนอยด์ก็เคลื่อนลงแล้วก็ขึ้นสลับกันไป ทั้งนี้ ขณะ ABS ทำงานแรงดันจากแม่ปั้มต้องส่งมาดี คือเหยียบแช่อยู่นั่นแหละโซลีนอยด์จึงจะสั่งทำงานจับได้ดี ที่แรง -G มากๆขณะเบรคจับ ผมเชื่อว่า ABS สมัยก่อนมันคงเป็นแบบ on/off แต่ปัจจุบันซึ่งมีระบบ EBD ด้วยแล้ว ยิ่งถ้าไม่มี Proportioning Valve และ load sensing vale ประกอบอีกด้วย ผมว่า solenoid ในปั้ม ABS คงทำงานมีช่วงมากกว่าแค่เปิดปิดนะครับ ดูอย่าง SCV ซึ่งถือว่าก็เป็น solenoid ชนิดหนึ่ง มันยังทำงานไม่ใช่แค่ on/off เลยนะครับ จากคุณ : kroner เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 00:36:58

ความคิดเห็นที่ 55 #53 ABS ไม่ได้ควบคุมแรงดันน้ำมันเบรคแบบ on : แรงดัน=แรงดันแม่ปั๊ม / off : แรงดัน=0 หลักๆ ABS ควบคุมแรงดันที่ลูกปั๊มเบรคโดยควบคุมการไหลของน้ำมันเบรคระหว่างแม่ปั๊มเบรคกับลูกปั๊มเบรค มี 3 ภาวะ ดูรูปประกอบ 1 ปกติ/เพิ่มแรงดัน : by-pass ABS รับส่งน้ำมันเบรค/แรงดันจากแม่ปั๊ม แรงดันขึ้นลงตามแม่ปั๊มช่วงABSไม่ทำงาน และแรงดันขึ้นช่วงABSทำงาน 2 คงแรงดัน : ตัดการรับส่งน้ำมันเบรค/แรงดันจากแม่ปั๊ม (แป้นเบรคเริ่มแข็ง) 3 ลดแรงดัน : ใช้ปั๊มผลักน้ำมันเบรคกลับฝั่งแม่ปั๊มขณะที่แรงดันฝั่งแม่ปั๊มสูงกว่า (แป้นเบรคเต้น) การควบคุมการไหลโดย solenoid valve ก็ทำงานแบบ on / off EBD เริ่มทำงานก่อนABSที่ช่วงslipต่ำกว่า และควบคุมแรงดันแบบ เพิ่ม กับ คง เป็นหลัก ดูคำอธิบายเพิ่มเติมได้ตามlinkใน#38 (autoshop101.com) แก้ไขเมื่อ 19 ส.ค. 53 09:42:04 จากคุณ : akeb เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 07:45:37

ความคิดเห็นที่ 56 จากกราฟของท่านakebที่ 55 แปลว่า solenoid ทำงานมี 3 ระดับเป็นอย่างน้อยคือ 1. Holding 2. Increase 3. Reduction เพราะถ้าเป็นแค่ On/off มันน่าจะเป็นแค่ 2 จังหวะนะครับพี่akeb จากคุณ : kroner เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 11:19:11

ความคิดเห็นที่ 57 ใช้valve 2ตัว ครับ แต่ละตัวทำงาน on/off แต่valve 2ตัวนี้ มีทั้งแบบ 2 position soleniod valve 2ตัว หรือ แบบรวมกันเป็น 3 position solenoid valve ตัวเดียวแต่ข้างในมี2valveเหมือนกัน จากคุณ : akeb เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 12:29:22

ความคิดเห็นที่ 58 ขอบพระคุณครับพี่akeb จากคุณ : kroner เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 17:05:43

ความคิดเห็นที่ 59 ไปไล่วงจร ABS มาแล้วครับ ทั้งแบบ 2 ท่า และแบบ 3 ท่า กระจ่างแล้วครับ ไปๆมาๆ  ผมว่าการใส่ EBD นี่  มันจะทำให้ผู้ผลิตลดต้นทุนลงได้ เพราะ PV หรือ LSPV ไม่ต้องใส่มาเลย แค่โปรแกรมระบบ EBD เพิ่มเข้าไปแทน ถึงว่ารถรุ่นใหม่ๆที่มี ABS มักจะมาพร้อม EBD เลย แก้ไขเมื่อ 19 ส.ค. 53 20:17:44 แก้ไขเมื่อ 19 ส.ค. 53 20:16:58 จากคุณ : ton99 เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 20:15:22

ความคิดเห็นที่ 60 อันนี้ผมไปมุด Fortuner ตัวที่มี EBD VSC ถ่ายมามา ไม่รู้ว่าตัวนี้มันคือตัวอะไร จากคุณ : ton99 เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 20:19:47

ความคิดเห็นที่ 61   ความคิดเห็นที่ 51 ความคิดเห็นที่ 52 ของ Vigo เหมือนกัน ครับ EBD ทำงานใกล้เคียง LSPV มากกว่า ใกล้เคียง PV ของ D-Max ABS จะมี3แชลแนล คือ หน้าซ้าย หน้าขวา หลังร่วมกัน ดังนั้น EBD ล้อหลังทั้งคู่ทำงานเท่ากัน ไม่ช่วยบนทางโค้งเหมือนรถที่มีABS จะมี4แชลแนล จากคุณ : ป๋า เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 21:08:52 A:172.16.5.134 X:203.149.16.36 TicketID:110672

ความคิดเห็นที่ 62 เมื่อกี้ไปเปิด spec ของ Navara ดู ผมไปเจอเข้าว่า  ระบบเบรคมี ABS EBD แล้วก็ยังมี LSPV อยู่ด้วย ไม่เหมือนทางฝั่ง Toyota Isuzu Mitsu ที่เมื่อไหร่ที่มี EBD แล้วจะไม่มี LSPV จากคุณ : ton99 เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 21:10:57

ความคิดเห็นที่ 63 รูปที่ 60 ของคุณต้นนี่ ผมว่ามันเป็น port สำหรับ bypass ครับ VIGO และ Fortuner ที่เป็นรุ่นที่มี VSC มันเป็น 4 Ch. ล้อหลังจึงมีท่อน้ำมันมา 2 ท่อ จึงต้องทำท่อให้ใหลกลับไปเสริมแรงดันที่ข้างหน้า เวลาที่รถมีการถ่ายน้ำหนักไปหน้าแบบรุ่นเดิม จึงเกิดท่อใหลกลับอีก 2 ท่อน่ะครับ อันที่จริงผมก็เคยคิดเหมือนคุณton99 เหมือนกันว่า ในกรณีเป็นรถที่มีระบบ ABS อยู่แล้ว EBD มันน่าจะมีต้นทุนต่อหน่วยได้ต่ำกว่าติดตั้ง LSPV ส่วน PV นั้นมันก็น่าจะละได้ ถ้าตัวชุดปั้ม ABS ในสภาวะปกติทำหน้าที่นี้ให้ได้ด้วย ผมขอชื่นชมคุณป๋าสำหรับกระทู้นี้ ที่ท่านมาเผื่อแผ่ ให้ความเห็นที่เป็นสาระมากกว่าแดกดันเหมือนอย่างเคย จากคุณ : kroner เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 53 02:00:17

ความคิดเห็นที่ 64 ผมว่าป๋าแกก็แค่แหย่ๆแกล้งให้โมโหไปอย่างนั้นแหละครับ สมัยแรกผมก็ทะเลาะกับแกมาหลายปีเลย ทะเลาะไปทะเลาะมาเลยยกให้แกคนนึง มาพักหลังนี่  พวกผมเหมือนเป็นแฟนคลับป๋าแกไปซะแล้ว ถ้าไม่เห็นป๋ามาโพสหยิกๆกัดๆใครนานๆ  จะรู้สึกคิดถึง จากคุณ : ton99 เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 53 23:57:36