 |
เรื่อง..เซ็งเซ็ง..ก่อนวันรับรถ และแคชเชียร์เช็ก
|
|
ท้าวความก่อนนะคะ..เราได้ตัดสินใจจองรถ และได้ไปดูรถก่อนที่จะตกแต่งเพื่อรอวันรับรถ ซึ่งจะถึงในวันพรุ่งนี้ ตื่นเต้นค่ะ ตามประสาคนไม่เคยมีรถป้ายแดง ดูของแต่ง ดูโน่นนี่ แต่พอทุกอย่างเกือบจะลงตัว ก็ดันจะไม่ราบรื่นซะแล้ว
เซลที่เราติดต่อด้วย เค้าบอกว่าเค้าเป็นมือใหม่ค่ะ เมื่อสองวันก่อนเราพยายามติดต่อเซลทั้งวัน แต่ไม่สามารถติดต่อได้ เพื่อสอบถามรายละเอียดในการรับรถ ทั้งเอกสารและการเงิน เรารู้สึกว่าเซลไม่ได้ชี้แจงรายละเอียดให้เราตั้งแต่แรก ซึ่งเค้าบอกว่าเค้าเป็นมือใหม่ เราก็อืมม ใหม่..ก็ใหม่
เราได้สอบถามเกี่ยวกับการจ่ายเงินดาวน์ด้วยแคชเชียร์เช็ก เค้าบอกว่าสามารถทำได้ แต่ทั้งนี้ ในเรื่องของเงินจองรถจำนวนนึง และค่าส่วนลดที่เป็นโปรโมชั่นอีกจำนวนนึง เวลาซื้อแคชเชียร์เช็กจะต้องหักเงินทั้งสองรายการออกไปด้วย จึงจะเป็นยอดเงินดาวน์ในแคชเชียร์เช็ก
เมื่อเช้าเซลพยายามติดต่อเรามาค่ะ เราก็สอบถามเรื่องเอกสารต่าง ๆ แต่มีเรื่องนึงที่เราเองสะเพร่า คือ เรื่องเงิน เราบอกว่าเราจะจ่ายเป็นแคชเชียร์เช็ก ดูเซลตกใจมาก ทั้งที่เราได้แจ้งไว้ตั้งแต่วันจองแล้ว ไม่อยากถือเงินสดแล้วต้องมานั่งนับกันอีกอะค่ะ เซลปิดโทรศัพท์โดยใช้มือบังไว้หันไปถามคนข้าง ๆ แล้วหันกลับมาบอกว่าถ้าจ่ายเป็นแคชเชียร์เช็กจะต้องเสียค่าธรรมเนียม ร้อยละ 3 ทำให้เราตกใจและบอกเซลว่าทำไมไม่แจ้งพี่ตั้งแต่แรก ถ้าพี่ซื้อมาแล้วจะทำยังไง (เราดาวน์เยอะค่ะ เพื่อที่จะได้ผ่อนไม่ลำบาก)
เราเลยโทรไปถามสามีว่าได้ซื้อแคชเชียร์เช็กไปหรือยัง เพราะจะต้องเสียค่าธรรมเนียม 3% ด้วยความไม่รู้ทั้งเราและสามี สามีเราเลยโทรไปสอบถามเรื่องแคชเชียร์เช็กที่จะซื้อจากธนาคารกรุงไทย ซึ่งเค้าให้บริการดีมากค่ะ ตอบข้อสงสัยได้หมด และได้แจ้งว่าการจ่ายค่าดาวน์รถไม่มีค่าธรรมเนียมร้อยละ 3 ตามที่เซลบอก มีแต่ค่าธรรมเนียมตอนซื้อแคชเชียร์เช็กเท่านั้น
ขอข้ามตรงนี้ไปนิดนึงนะคะ เราเตรียมตัวจะเอาของตกแต่งเพื่อไปให้ศูนย์ติดช่วงบ่าย ๆ ปรากฏว่าเซลโทรมาต่อว่าเรา ตัวเซลเองยังไม่พอ ยังให้เพื่อนร่วมงานโทรมาต่อว่าอีกคน เนื้อหาประมาณว่า..ทำไมพี่มีไรไม่พูดกับหนูก่อน หนูโดนข้างบนต่อว่าพูดให้ลูกค้าฟังไม่รู้เรื่อง ตกลงพี่รู้เรื่องมั้ยเนี่ย พี่มีปัญหาอะไรหรือเปล่า เซลเพื่อนร่วมงานก็ว่าอีกว่า..พี่รู้มั้ยพี่ทำให้น้องเค้าร้องไห้ เค้าโดนเรียกไปว่า กลายเป็นปัญหาใหญ่ (ช่วงนี้เราก็ยังงง ๆ อยู่ค่ะ เพราเราไม่รู้ว่าสามีโทรไปสอบถามเรื่องแคชเชียร์เช็กจากธนาคาร) แต่เริ่มรู้สึกโมโห ว่าเราไปทำอะไรให้
พอเริ่มคุยกันรู้เรื่อง เราถึงรู้ว่า เงินส่วนลดจำนวนนึงที่เราจะเปลี่ยนเป็นของแถม และเงินจอง เราจะต้องหักจากเงินดาวน์ สมมติว่าเราดาวน์ 300,000 บาท เราจะต้องหักเงินจอง 5,000 บาท และเงินส่วนลด 17,000 บาท และส่วนลดดังกล่าวในวันจองเซลเสนอว่าถ้าพี่ไม่เอาเงินส่วนลดพี่สามารถเปลี่ยนเป็นของแถมได้ ซึ่งเราก็ยินดีรับเป็นของแถม
ขั้นตอนการอธิบายและการชี้แจงรายจ่ายไม่เคลียร์ เค้าเขียนใบมาหนึ่งใบ บอกแค่ว่าวันรับรถพี่จะต้องเตรียมเงินค่าดาวน์ ป้ายทะเบียน จดทะเบียน รวมแล้วประมาณ 304,700 บาท โดยไม่มีการอธิบายเรื่องการจ่ายแคชเชียร์เช็กให้กับศูนย์ว่าจะต้องหักค่าอะไรออกบ้าง ไม่มีการพูดถึงเงินจองใด ๆ ทั้งสิ้น ของแถมก็จะต้องนำเงิน 17,000 บาท ไปติดตั้งร้านที่เซลเค้าบอกว่าเป็นซัพพลายเออร์ในวันออกรถ คือ จนถึงวันนี้ เซลยังไม่เคยแจ้งยอดจัดให้เราด้วยค่ะ ว่าดาวน์เท่านี้ ส่งกี่ปี จะต้องส่งจำนวนเท่าใด
และเรื่องที่เซลโดนเบื้องบนต่อว่า เราไม่รู้ว่าธนาคารกับศูนย์สามารถประสานกันได้ด้วยวิธีใด เพียงแค่ธนาคารกรุงไทยสำนักงานใหญ่รู้ว่าลูกค้ามีปัญหาเรื่องแคชเชียร์เช็ก ก็คงจะประสานไปยังโตโยต้าสำนักงานใหญ่ทันที (อันนี้ประทับใจเราจริง ๆ ค่ะ) โตโยต้าสำนักงานใหญ่เลยติดต่อมายังศูนย์ที่เราจองรถไว้ ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เซลโดนเบื้องบนเรียกไปว่า และทำให้โทรมาต่อว่าเราอีกที หาว่าเราโทรไปแจ้งเรื่องที่สำนักงานใหญ่ทำให้เป็นเรื่องใหญ่โต พี่มีปัญหาอะไรกับเงิน 17,000 บาทหรือเปล่า ทำให้เค้าโดนศูนย์ว่าจะตุกติกกับลูกค้า เราก็ยังงงอยู่ดี เราบอกว่าเต็มใจที่จะไม่เอาส่วนลดและเปลี่ยนเป็นของแถมเอง แล้วพี่จะต้องแจ้งสำนักงานใหญ่ไปเพื่ออะไร แต่ทั้งนี้ ทั้งนั้น เราว่าที่มา มันก็มาจากข้อมูลเรื่องแคชเชียร์เช็กมากกว่า ที่ทำให้ธนาคารเป็นฝ่ายประสานงานไปที่โตโยต้าเอง
ยอมรับตรงนี้ค่ะ..ว่าเราไม่ได้ศึกษาข้อมูลเรื่องการจ่ายแคชเชียร์เช็กให้ดีก่อน ไปหวังพึ่งพาเซล และเค้าก็หาข้อมูลผิด ๆ มาให้เรา แล้วยังจะมาต่อว่าเราอีก พูดตรง ๆ นะคะ ว่าความยินดีปรีดาที่จะได้ของใหม่ตามประสาคนบ้าเห่ออย่างเราจบลงทันทีค่ะ อยาก..แม้กระทั่งว่า จะยอมเสียเงินจอง แต่จะไม่ขอรับรถแล้ว บางเรื่อง บางอย่าง เราพยายามตัดออกไปเพราะคิดว่าเค้าเป็นเซลใหม่ คงมีอะไรผิดพลาดกันบ้าง คงไว้แต่ความรู้สึกเซ็ง ๆ และคงจะต้องไปรับรถให้เสร็จ ๆ ไปเท่านั้นเอง เฮ้อ...
ขอแค่มาเล่าสู่กันฟังนะคะ ยอมรับจริง ๆ ว่าเครียดมาก ขอให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดี และถ้าท่านใดมีความรู้เกี่ยวกับการรับรถออกจากศูนย์ ขอความกรุณาชี้แนะด้วยนะคะ ว่าเราจะต้องตรวจสอบรายละเอียดในด้านใดบ้าง ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและให้ข้อเสนอแนะค่ะ
จากคุณ |
:
ปูม้า&ปลาดาว
|
เขียนเมื่อ |
:
25 ส.ค. 53 09:31:10
|
|
|
|  |