 |
"บอกเล่าเก้าสิบ"...ประสบการณ์ออกรถใหม่ ที่กำลังจะจบลงด้วยดีของเรา...{แตกประเด็นจาก V9615335}
|
|
ขออนุญาตแตกประเด็นออกมา เล่าสู่กันฟังนะคะ เผื่อว่าเรื่องของเราจะเป็นประโยชน์กับหลาย ๆ ท่าน ที่กำลังจะซื้อรถใหม่ และไม่มีประสบการณ์ในการซื้อรถใหม่เหมือนเราค่ะ ความรู้เรื่องการซื้อรถก็มีแบบงู ๆ ปลา ๆ และมาได้ความรู้ใหม่ ๆ และข้อคิดเห็นมีเหตุผลจากหลาย ๆ ท่านในนี้ค่ะ รายละเอียดเยอะหน่อยนะคะ
จากประเด็นเดิมที่เรามีปัญหาเรื่องแคชเชียร์เช็ก และแนวทางบริการของเซลจนทำให้นอนไม่หลับจนถึงวันที่นัดรับรถ ถือว่า..เราโชคดีอยู่นิดนึง ที่ก่อนรับรถเราได้เจอกับคนรู้จักที่ออกรถจากศูนย์เดียวกัน และเซลคนเดียวกัน คืนก่อนรับรถเราได้โทรไปถามข้อมูลจากเค้า ปรากฏว่า..เซลคนเดียวกัน ส่วนลดเงินสดเท่ากัน แต่ในส่วนของแถมชุดแต่งต่าง ๆ เค้าได้ตกแต่งก่อนออกจากศูนย์ ในขณะที่กรณีของเราต้องรับรถก่อนแล้วเซลจึงจะพาไปแต่งรถนอกศูนย์ (สงสัยเซลคงคิดว่า..นี่ไง "หมูมาแล้ว) ทำให้เกิดการเปรียบเทียบขึ้น
เป็นสิ่งที่ทำให้เราค้างคาใจมาก เราพยายามโทรหาเซลแต่เค้าไม่รับสายเราเลยค่ะ ยิ่งทำให้นอนไม่หลับ ฟุ้งซ่าน เครียดจริง ๆ ค่ะ จากกระทู้เดิมที่คิดว่า..เราจะเข้าไปคุยกับผู้จัดการศูนย์ เราเปลี่ยนใจไปที่สำนักงานใหญ่แทน เพราะทุกครั้งที่เราจะต่อรองกับเซล หรือสอบถามข้อข้องใจหลาย ๆ อย่าง เซลจะต้องขอไปถามหัวหน้าเซลทุกครั้ง ทำให้เราคิดว่าเดี๋ยวเค้าก็คงจะช่วยกันเกลี้ยกล่อมเราอีก ไปที่สำนักงานใหญ่เลยดีกว่า ใจมันร้อนซะขนาดที่ว่า..อยากจะไปรอออฟฟิตเปิดตั้งแต่คืนนั้นเลยแหล่ะ (ตรงนี้ทำให้เราได้ความรู้อีกว่า..เซลเค้าจะมีหัวหน้าชุดคอยดูแลอีกทีค่ะ ไม่ได้ขึ้นกับผู้จัดการฝ่ายขายโดยตรง หัวหน้าที่เค้าไปคอยหาข้อมูลมาให้เรา ก็คือ..หัวหน้าชุดเค้านั่นเอง)
ที่สำนักงานใหญ่มีฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ค่ะ รับเรื่องราวต่าง ๆ ของลูกค้า และเป็นฝ่ายประสานระหว่างลูกค้ากับศูนย์ที่มีปัญหา ที่เราตัดสินใจเข้าไปเราไม่ได้คิดว่าจะเป็นการร้องเรียนนะคะ แต่เราอยากให้สำนักใหญ่แก้ปัญหาเรื่องของเรา เช่น เราสามารถเปลี่ยนศูนย์ออกรถได้หรือไม่ เพราะความเข้าใจว่าศูนย์ก็ต้องช่วยเหลือเซลที่อยู่ในศูนย์อยู่แล้ว และรู้สึกเสียความรู้สึกมากกลัวจะโดนกลั่นแกล้งต่าง ๆ นานา
ขอบคุณสำนักงานใหญ่นะคะที่ช่วยเหลือในการประสานระหว่างลูกค้ากับศูนย์ ซึ่งมันผ่านไปได้ด้วยดี เค้าติดต่อให้เราได้คุยกับผู้จัดการฝ่ายขายทางโทรศัพท์ก่อนในเบื้องต้น และให้เราเดินทางไปคุยกันที่ศูนย์ต่อค่ะ ข้อตกลงทั้งหมดจึงเกิดความเปลี่ยนแปลง ถ้าเราขี้เกียจที่จะมีปัญหา หรือขี้เกียจเดินทางไปสำนักงานใหญ่ และตัดสินใจเอารถออกมาเลย เราคงจะมีเรื่องค้างคาใจไปอีกนาน ข้อเปลี่ยนแปลงมีดังนี้
1. ขอเปลี่ยนวันรับรถ จากเมื่อวานเป็นวันอังคารหน้า เพื่อรอการตกแต่งรถให้เรียบร้อยจากศูนย์ ซึ่งการตกแต่งรถจากศูนย์ก่อนรับรถมีผลต่อไปในภายภาคหน้านะคะ ถ้าเราเชื่อเซลที่จะไปตกแต่งของข้างนอก เราเสียเงิน จำนวน 17,000 บาท เท่ากัน รายการได้จำนวนเท่ากัน แต่ถ้าวันนึงหากเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น เช่น อุบัติเหตุ หรือรับรถแล้วรายการที่ติดตั้งมีปัญหา ศูนย์จะไม่รับผิดชอบในส่วนที่เราไปติดตั้งข้างนอก จะต้องประสานกับเซลที่แนะนำเท่านั้น และหากเซลคนนี้ลาออก หรือหายไปจากโลกนี้ ลูกค้าหรือผู้บริโภคจะไม่มีอะไรรับประกันการบริการทันที...ข้อนี้สำคัญมากค่ะ แต่ถ้าเรา..ติดตั้งก่อนออกจากศูนย์ ของทุกชิ้นจะมีการประกันของศูนย์ ถึงแม้เซลจะลาออกหรือหายตัวไป ศูนย์ก็จะเป็นผู้ดูแลเราไปตลอด (ข้อนี้ ถ้าท่านใดที่ได้ทำการตกลงกับเซลไปแล้ว กำลังเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ควรรีบไปคุยกับผู้จัดการฝ่ายขายโดยด่วน อย่าปล่อยปละเหมือนเรา)
2. เปลี่ยนรายการในใบจอง เนื่องจาก เมื่อมีปัญหานี้เกิดขึ้น ทางศูนย์จะมีแบบฟอร์มในการแก้ไขเพิ่มเติมรายการในใบจองได้ค่ะ ซึ่งเราได้แก้ไขในจองใบแรกที่เลือกรับส่วนลด 17,000 บาท เป็น ไม่รับส่วนลดค่ะ และเราได้อธิบายให้ผู้จัดการเข้าใจว่าในวันที่เราตัดสินใจจองรถ เราได้แจ้งกับเซลไปตั้งแต่แรกว่า..พี่ไม่เอาส่วนลดนะ ขอเปลี่ยนเป็นของแถม จึงได้แก้ไขแบบฟอร์มนี้โดยเพิ่มรายการของแถมทุกรายการที่เซลเขียนในกระดาษเปล่าให้เรา นำรายละเอียดทุกรายการลงในแบบฟอร์มนี้ทั้งหมด (คิดไปคิดมา..จริง ๆ มันก็ไม่ได้เรียกว่าของแถมหรอกเนอะ เพราะเป็นการนำส่วนลดของเราไปซื้อนั่นเอง)
3. เปลี่ยนเซลผู้ดูแลค่ะ โดยผู้จัดการฝ่ายขายจะเป็นผู้ดูแลลูกค้าเองหลังจากนี้ จนถึงวันรับรถ และเราได้บอกเล่าเหตุการณ์ที่เซลโทรมาต่อว่าเราหลังจากโดนผู้จัดการต่อว่า ทำให้ต้องมาลงที่ลูกค้า ผู้จัดการฝ่ายขายเค้าก็ดูเข้าใจในในเหตุการณ์นะคะ สังเกตได้จาก...เซลเดิมที่จะพยายามเข้ามาหาเรา เพราะคิดว่าเราจะมารับรถ ผู้จัดการจะตีกันออกไปทันที บอกกับเซลว่าเดี๋ยวพี่คุยเอง ตั้งแต่เราเดินเข้าศูนย์ไปผู้จัดการฝ่ายขายเป็นคนลงมาดูแลเราเองค่ะ เซลคนเดิมพยายามเดินเข้ามาหาเรา 3 ครั้ง และก็ถูกกันออกไปทั้ง 3 ครั้ง คือเค้าคงคิดว่าถ้ามีการเซ็นรับรถแล้วทุก ๆ อย่างจะได้จบ ๆ ไป อาจจะไม่ได้พาเราติดตั้งชุดแต่งตามรายการที่เค้าเสนอก็ได้ เพราะไม่มีอะไรรับประกันเป็นหนังสือหรือลายลักษณ์อักษร
หลังจากทำเอกสารเรียบร้อยแล้ว เบาใจไปเยอะเลย แต่บริการหลังจากนี้ เช่น ตรวจเช็คระยะ หรือเปลี่ยนถ่ายอะไรก็ว่ากันไป เราอาจจะเปลี่ยนศูนย์บริการ เนื่องจากได้สอบถามที่สำนักงานใหญ่แล้วว่าเราสามารถเปลี่ยนเป็นศูนย์อื่นที่อยู่ในเครือเดียวกันได้ค่ะ
เหตุการณ์หลังจากผู้จัดการฝ่ายขายเสร็จเรียบร้อยแล้ว พอออกมาเราไม่เจอกับเซลคนเดิมนะคะ ผู้จัดการกรุณาเดินมาส่งลูกค้าที่รถ แต่ในเวลาต่อมาช่วงบ่ายแก่ ๆ เซลคนเดิมก็โทรเข้ามาค่ะ น้ำเสียงไม่ได้อ่อนหวานเหมือนในครั้งแรกที่พบหน้าและก่อนออกใบจองซะแล้ว ถามว่า..ตกลงพี่ดาวน์รถเท่าไหร่คะ พอบอกว่ายอดยืนยันไป ขอบคุณค่ะ..แล้วก็วางไปเลย คงจะมีอะไรค้างคาใจเค้าเป็นอย่างยิ่ง แต่ก่อนเราจะจบการสนทนาผู้จัดการฝ่ายขายได้แจ้งทางเราว่า ต่อไปหากมีอะไรให้โทรติดต่อที่เค้าได้เลย โดยไม่ต้องผ่านเซลแล้ว เพราะเค้าจะดูแลเราเอง มีอะไร หรือปัญหาอื่น ๆ ให้สอบถามที่เค้าโดยตรง แต่เค้าคงลืมบอกเซลเค้าว่าไม่ต้องโทรหาลูกค้าอีก หวังว่าคงจะไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นให้เราได้หนักใจอีกแล้วนะ
ที่สำคัญ..เรื่องใบจอง หากท่านใดมีข้อสงสัย ข้องใจ หรือค้างคาใจ ว่าเซลไม่ชัดเจน ให้รีบหาคำตอบให้เร็วที่สุด เข้าไปคุยกับผู้จัดการศูนย์ให้เคลียร์ อย่าปล่อยให้มันเนิ่นนาน จนทำให้ปวดหัวเหมือนกับเราค่ะ
วันอังคารหน้า ทุก ๆ อย่างก็จะจบลงแล้วค่ะ เมื่อมีการรับรถเรียบร้อย ทุก ๆ ท่านที่เกิดปัญหาอย่างเรา อย่านิ่งนอนใจนะคะ เพราะเราเข้าใจเลยว่า..เวลาทุกข์ใจมันเป็นยังไง ขอบคุณทุก ๆ ท่านที่ติดตามและช่วยกันให้คำแนะนำค่ะ
ป.ล. การไปสำนักงานใหญ่ของเรา อาจจะทำให้เซลคนนั้นเดือดร้อน เราไม่รู้ว่าสำนักงานใหญ่จะมีมาตรการลงโทษเค้ายังไง แต่ขออย่าให้เค้าทำกับลูกค้าอย่างนี้อีกเลย แอบขำนิดนึง..เจ้าหน้าที่ลูกค้าสัมพันธ์บอกกับเราว่า..เซลใหม่ยังกล้าทำขนาดนี้ ยิ่งต้องดูแล ขนาดเซลเก่ามากบางคนยังไม่กล้าทำเลย
จากคุณ |
:
ปูม้า&ปลาดาว
|
เขียนเมื่อ |
:
27 ส.ค. 53 10:28:48
|
|
|
|  |