ความคิดเห็นที่ 1 รอบเครื่องขึ้นสูงแน่นอนครับ เสียงเครื่องดังกระหื่มเลย แต่ไม่เปนไรหรอก  ไม่พัง จากคุณ : โอ๊ะเอ๊ะ เขียนเมื่อ : คาร์ฟรีเดย์ 53 11:09:58

ความคิดเห็นที่ 2 ถ้าใช้เกียร์สอง แรงต้านของเครื่องยนต์จะน้อยกว่าโมเมนตั้ม  ถ้าบรรทุกของหนัก เครื่องมันจะต้านไม่ไหว รอบเครื่องจะค่อยๆเพิ่มขึ้น  ถ้าเบาลง ก็อาจจะยังเพิ่มขึ้น แต่ช้าลง แต่ถ้าเกียร์ 1 ถ้าเป็นรถที่ cc สูง แรงต้านจะเยอะกว่าโมเมนตั้มของรถ ดังนั้นรอบเครื่องจะไม่เพิ่มขึ้น แล้วอาจจะช้าลงด้วยซ้ำ แต่ถ้ารถ cc ต่ำ เกียร์ 1 รอบเครื่องก็จะยังเพิ่มขึ้น ต้องใช้เบรคช่วยครับ จากคุณ : `SEPULTURA_`FROM_`HELL เขียนเมื่อ : คาร์ฟรีเดย์ 53 11:31:04

ความคิดเห็นที่ 3 ถ้ารอบไม่สูงมากก็ไม่น่ากลัวครับ แต่ถ้าสูงมากก็ใช้เบรคร่วมกับเบรคเครื่องยนต์ก็ช่วยได้ครับ จากคุณ : ฟรีค่าแรงตลอด5หมื่นโล เขียนเมื่อ : คาร์ฟรีเดย์ 53 11:59:03

ความคิดเห็นที่ 4   เครื่อง 4 จังหวะน้ำมันเครื่องเข้าไปหมดอยู่แล้วครับ ไม่เป็นไรแน่นอน ส่วนฉีดโซ่ ก็ฉีดตามข้อต่อด้านในครับ ฉีดกวาดไปเลย ปล่อยทิ้งไว้สักพัก แล้วเช็ดส้วนที่เลอะออก จากกนั้นก็ปล่อยทิ้งไว้ข้ามคืน (เอาไปขี่เลยก็ได้ครับ แต่มันจะดีดติดล้อ เช็ดออกยาก เหนียวหนึบ) จากคุณ : 555 เขียนเมื่อ : คาร์ฟรีเดย์ 53 12:03:47 A:119.42.117.6 X: TicketID:168961

ความคิดเห็นที่ 5 ลงทางชัน(ในป่า) เข้าเกียร์ 1 แล้วเลียเบรค ...อย่าจึ๊ก หัวจะทิ่ม ถ้าทางชันมาก ความเร็วยังมากยากควบคุม เข้าเกียร์ 1ไว้ ดับเครื่อง...แล้วเลียครัชแทน อันนี้จำมาจากพี่ ๆ siam enduro club กับ พี่ๆ KLX ใน dtrackerthailand บนถนนทางดำ เข้าเกียร์2 (ความคิดผม) น่าจะพอไหว เรื่องฉีดโซ่ ฉีดไปบนโซ่ หาอะไรมาบังไม่ให้มันพุ่งกระฉูดไปส่วนอื่นครับ นาน ๆ ก็หาโอกาสล้างโซ่ซะที ก่อนจะฉีด ไม่รู้เกี่ยวกับยี่ห้อหรือเปล่าน๊ะ ของผมฉีดไว้ค้างคืนแล้วยังสะบัดสะบิ้ง เลอะเทอะเลย ฮ่าฮ่า จากคุณ : หยอครับ เขียนเมื่อ : คาร์ฟรีเดย์ 53 12:08:54

ความคิดเห็นที่ 6 ไม่ต้องกลัวเครื่องระเบิดหรอกครับ รอบไม่ไปได้สูงเกินที่ออกแบบไว้ จนเป็นอันตรายหรอกครับ จากคุณ : Nemomancear เขียนเมื่อ : คาร์ฟรีเดย์ 53 12:15:29

ความคิดเห็นที่ 7 +++++ใช้เกียร์ต่ำ ตามที่เพื่อนบอกมาครับ...อีกนิดตรงที่...เกียร์ต่ำ แต่ไม่ต้องกำคลัทซ์ เน้อ... จากคุณ : mantu เขียนเมื่อ : คาร์ฟรีเดย์ 53 13:01:38

ความคิดเห็นที่ 8 ทางลงเขาสำหรับรถเกียร์ธรรมดา ไม่ว่าจะเป็น 2 หรือ 4 จังหวะ  ต้อพิจารณาดูว่าทางงที่ลงมีความลาดเอียงมากน้อยขนาดไหน 1.ถ้าทางลาดเอียงมาก ก็ใช้ เกียร์ 1 ขับลงมาโดยเราไม่ต้องไปบิดคันเร่งเพื่อเร่งความเร็ว ให้เอามือไปแตะคับเบรคมือไว้ เท้าก็แตะที่เบรค เพื่อชะลอความเร็วลงเมื่อความเร็วสูงเกินไป 2.ทางลาดเอียงปกติสมารถขับได้ตามรอบเครื่องที่วิ่งมาตามความเร็วปกติ เพียงแต่เมื่อความเร็วรถมากขึ้นก็ลดเกียรลง 1 เกียร์ ไม่ต้องบิดคันเร่ง เมื่อถึงจังหวะบิดคันเร่งส่งรถให้วิ่งไปก็ทำ 3.ต้องมีสติ รู้ประสิทธิภาพรถของตัวเอง อย่าประมาท ใช้ความเร็วให้เหมาะสมกับเส้นทาง ตามป้ายแนะนำ จากคุณ : ssam เขียนเมื่อ : คาร์ฟรีเดย์ 53 13:04:22

ความคิดเห็นที่ 9 ที่ข้างบนว่ามานั้นเลยครับ ขอเพิ่มอีกนิด สำหรับผม เทคนิคการขับขี่ลงเขาหรือทางชันคือ ยิ่งลงทางที่ลาดชันมากเท่าไร ใส่เกียร์ต่ำลงเรื่อยๆ และใช้ความเร็วให้น้อยลงเท่านั้น จากคุณ : NATSKI13 เขียนเมื่อ : คาร์ฟรีเดย์ 53 14:08:35

ความคิดเห็นที่ 10 ใช้คติที่ว่า "ขึ้นเขาเกียร์ไหน ลงเขาเกียร์นั้น" ครับ ขึ้นเขาชันมากๆ เราต้องใช้เกียร์ต่ำ เวลาลงเขาชันมากๆก็ต้องใช้เกียร์ต่ำเหมือนกันครับ จากคุณ : เล็ก เขียนเมื่อ : คาร์ฟรีเดย์ 53 15:38:47

ความคิดเห็นที่ 11 ข้อมูลดีๆทั้งนั้นเลยครับ จากคุณ : AppLePie81 เขียนเมื่อ : คาร์ฟรีเดย์ 53 15:52:37

ความคิดเห็นที่ 12   ขอตอบเกี่ยวกับการหล่อลื่นโซ่ละกันครับ ปกติแล้วเราจะทำการหล่อลื่นตรงส่วนที่มีการเคลื่อนไหว สำหรับโซ่แล้วจะมีส่วนที่เป็น สลัก ที่สอดไว้กับข้อต่อ โซ่บางประเภทจะมีโอริงประกอบด้วย การหล่อลื่น ก็ให้ฉีดน้ำมันหล่อลื่น ในร่องโอริงนั่นแหละ (แบบไม่มีโอริงก็เหมือนกัน) แต่นิดนึง สำหรับโซ่แบบโอริง ควรใช้น้ำมันที่ระบุว่าใช้ได้สำหรับโซ่แบบโอรืงเท่านั้น มิฉนั้นน้ำมันหล่อลื่นจะทำปฏิกริยาให้โอริงเสียหาย และแตกในที่สุด จากคุณ : SIMcityCorN เขียนเมื่อ : คาร์ฟรีเดย์ 53 15:58:24

ความคิดเห็นที่ 13 รอบมันไม่สูงจนพังหรอกครับเพราะว่ามันไปต้านกับแรงอัดในกระบอกสูบอีกทีครับ จากคุณ : popktb เขียนเมื่อ : คาร์ฟรีเดย์ 53 17:51:16

ความคิดเห็นที่ 14 ใช้เกียร์ต่ำๆเข้าไว้ครับ อาจจะมีแตะเบรคบ้าง ถ้าเราเริ่มรู้สึกกลัวนะ (ตัวผมนี่แหละ - -'') ส่วนหล่อลื่นโซ่ ตาม #12 ครับ ไม่ต้องไปหยอดที่สเตอหรอกครับ ผมว่าหยอดที่โซ่ไป ก็ไปหล่อลื่นที่สเตอต่อเหมือนกัน จากคุณ : naturezzang เขียนเมื่อ : คาร์ฟรีเดย์ 53 20:59:14

ความคิดเห็นที่ 15 ลงเขาชันๆ ก็ 1-2 สลับกัน แตะเบรคเป็นบางช่วง แต่รถผมเกียร์ 1 ลงเขาทางชันแค่ไหน ความเร็วก็ไม่เกิน 15-19 สักทีครับ เครื่องตัด ล๊อคไว้ให้เลย คงเหมือนน้าหนึ่งได้กล่าวไว้ จากคุณ : ตั้มขาว เขียนเมื่อ : คาร์ฟรีเดย์ 53 21:10:44

ความคิดเห็นที่ 16 เรื่องโซ่  ตาม#12 เลยครับ มาเสริมว่า  ก่อนฉีด ควรล้างโซ่ก่อน   ถ้าไม่ล้าง พวกฝุ่นคราบน้ำมันอะไรต่างๆมันก็จะสะสมไปเรื่อยๆ ผมใช้ Sonax กระป๋องเขียว สำหรับล้างห้องเครื่อง ไม่ทำลายโอริง ฉีดทิ้งไว้  5 นาที แล้วตามด้วยแปรงสีฟันขัด  แล้วล้างน้ำ   ใสปิ้งๆเลย แล้วทิ้ง 1 คืนให้แห้งสนิท (ถ้าไม่ทิ้งก็เอาลมเย็นเป่า) พอแห้งแล้วก็ฉีดโซ่ ตาม#12  แล้วทิ้งไว้ 1 คืนก็เรียบร้อย จากคุณ : ^มนุษย์_ชิว^ เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 13:25:05

ความคิดเห็นที่ 17 ฉีดตรงโอริง(ตามรูป) น้ำมัน สารหล่อลื่นจะเข้าไปได้อย่างไร ต้องฉีดตรงกลางๆที่ ต้องรับแรงดึง แรงบด ขบกับเสตอร์ ด้วยไหมครับ....ผมเข้าใจว่าโอริงมีไว้แค่กันฝุ่นกันน้ำกับกันจารบีรั่วออก หรือเปล่าครับ ชี้แนะด้วยครับ จากคุณ : FADIN (zangzzz) เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 14:18:57

ความคิดเห็นที่ 18   เ่ท่าที่ใช้วิธีที่ทำอยู่ก็คือ "หมั่นหยอดน้ำมันหล่อลื่น ข้อสลักโซ่" เป็นระยะๆ ไม่ให้แห้ง กับ "หย่อนโซ่ พอควร จนเมื่อสวิงอาร์มขนานกับพื้นแล้วโซ่ไม่ตึง" โดยน้ำมันหล่อลื่นโซ่ ก็เอาน้ำมันเฟืองท้ายรถยนตื SAE90-140 ลิตรละ 50 บาทนี่แหละหมั่นหยอดไปเรื่อยๆ เท่าที่ทดลองใช้กับอ้ายอ้วนอยู่ ตอนนี้วิ่งได้ 87,920 กม กับโซ่ติดรถอยู่เลย 666 จากคุณ : monsungja เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 53 10:39:42

ความคิดเห็นที่ 19 ... ตาม 12 ว่าก็ถูกต้อง ตามประโยคที่ให้ไว้ " ปกติแล้วเราจะทำการหล่อลื่นตรงส่วนที่มีการเคลื่อนไหว สำหรับโซ่แล้วจะมีส่วนที่เป็น สลัก ที่สอดไว้กับข้อต่อ" ... แต่รูปที่ให้มามันไม่ถูกซะทีเดียว จากประโยคที่ให้มามันยังอธิบายไม่หมดครับ ส่วนของสลักที่ยึดข้อต่อโซ่แต่ละอันจะมีลูกกลิ้งสวมอยู่ ก็ไอ้ที่เราเห็นเป็นส่วนที่สัมผัสกับโซ่แหละครับ การหยอดน้ำมันก็ควรหยอดตรงต้านข้าง ๆ ลูกกลิ้งจะมีช่องว่างอยู่นิดหน่อย  เพื่อให้น้ำมัน ๆ ไหลผ่านลงไปที่แกนสลักข้อต่อโซ่ได้ เพื่อหล่อลื่นระหว่างสลักกับลูกกลิ้งนี้ครับ ก็ขอเอารูปที่ลงไว้มาทำเพิ่มเติมครับ ... สีเขียวเป็นสลักข้อต่อ ส่วนลูกศรนั่นแหละครับจุดที่ควรหยอดน้ำมัน แก้ไขเมื่อ 24 ก.ย. 53 15:50:43 จากคุณ : พันท้ายนรสิงห์ เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 53 15:49:00