 |
ความคิดเห็นที่ 21 |
คิดว่าไม่โม้ครับ
เคยไปฝึกงานตอนจบใหม่ๆในเยอรมัน โดนคุณยายขับจากัวร์แซงที่ความเร็วเกิน 200 kms ( แซงแบบหายไปเลย ) ผมขับเกือบ 200 แล้วนะ ( ออดี จำรุ่นไม่ได้เครื่อง 2500 cc sedan )
มีข้อสังเกตุให้พิจารณาครับ เวลาหน้าหนาว หมอกลงจัดๆ เคยดูข่าวต่างประเทศไหมครับ ชนกันที่หลายๆสิบคัน มีข่าวแบบนี้ทุกๆปีครับ ถนนเรียบมาก โค้งก็มีองศารับโค้ง ขนาดนั่งรถทัวร์ขาล่องจากลูเซิน ( สวิสฯ ) ลงมาทางลูกาโน ลงมาถึงมิลาน คนขับยังทิ้งโค้งตั้ง 120 ( รถทัวร์คันสูงๆนะเนี้ย ) ถนนดีเยี่ยม ช่วงล่างเยี่ยม เครื่องยนต์เยี่ยม ทำได้สบายครับ
เคยฟังจากนายเยรมันคนเก่า เขาอธิบายว่าถนนออโต้บาน เป็นแนวคิดที่ทำขึ้นเป็นทางเลือกสำหรับคนที่ไม่อยากเสียเวลากับเครื่องบิน แต่ใช้เวลาพอๆกัน ยกตัวอย่างกรุงเทพฯ - เชียงใหม่แล้วกันนะครับ
สมมุติว่าเราต้องเดินทางไปเชียงใหม่ด้วยเครื่องบิน เวลาเครื่องออก 8.00 น. เราคงต้องไปถึงสนามบินซัก 1 ชั่วโมงก่อนเครื่องออก + เวลาเดินทางจากบ้านถึงสนามบินอีก 1 ชั่วโมง แปลว่าเราต้องเริ่มออกเดินทางจริงๆ 6.00 น แค่ตรงนี้ก็ 2 ชั่วโมงแล้วนะครับ
เวลาบิน 50 นาที + 30 นาทีอย่างเร็ว ( ล้อเครื่องบินแตะพื้น จนเราได้สัมภาระออกจากประตู Arriver ตรงนี้อีก 1 ชั่วโมง 30 นาที แล้วครับ
เวลาที่เสียไปจากสนามบินสู่เป้าหมาย ( เชียงใหม่สนามบินอยู่ใกล้เมือง เอาซัก 30 นาทีพอ )
รวมเวลาทั้งหมดคือ 2 + 2 ชั่วโมง = 4 ชั่วโมง
กรุงเทพฯ - เชียงใหม่ = 623 kms ( ขอมูลจากแผนที่ทางหลวงประเทศไทย )
ถ้าเราขับรถความเร็วเฉลี่ยอยู่ที่ 150 kms ก็จะใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง + รวมพักด้วยก็จะประมาณ 5 ชั่วโมง + นี่คิดแค่ว่าเดินทางคนเดียวนะครับ ถ้าเดินทาง 4 คนค่าใช้จ่ายก็จะยิ่งถูก ( แนวคิดแบบนี้มีมานานกว่า 20 ปีแล้วครับ ตอนนั้นค่าน้ำมันไม่แพงขนาดนี้และยังไม่มีสายการบินต้นทุนต่ำด้วย ถือเป็นแนวความคิดที่ทันสมัยมากในขณะนั้น )
ผมว่าในภูมิภาค Indo China อีกไม่เกิน 5 ปี เราก็จะได้เดินทางแบบยุโรปได้ ( เดินทางด้วยรถยนต์ไปในประเทศ กัมพูชา , เวียดนาม , ลาว , จีน , พม่ายังไม่แน่ใจ ) แต่ความเร็วคงไม่ได้เพราะ ถนนไม่ดีเท่า
| จากคุณ |
:
thaveeca (Thaveeca) 
|
| เขียนเมื่อ |
:
4 ต.ค. 53 14:07:48
|
|
|
|
|
