ความคิดเห็นที่ 1 อยากรู้เหมือนกันครับ ตรงไหนมี จะได้ขับช้าๆ พอพ้นไปก็ซัดให้จม จากคุณ : napatn เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 53 16:07:37

ความคิดเห็นที่ 2 ภาพข้างบนแต่งเพื่อ พรางสายตาใช่มั้ยครับ   ยังไม่เนียนพอนะน่ะ   666 ผมล้อเล่น จากคุณ : BLUE SONIC เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 53 16:19:09

ความคิดเห็นที่ 3 เราต้องค่อยสังเกตครับ ทำได้ง่ายๆ โดยขับช้าๆ ไม่เกิน 90 ไม่ยังงั้นก็ต้องพยายามขับชิดซ้ายไว้ครับ เพราะกล้องอาจ ตั้งอยู่ข้างทาง ทำตามที่ผมบอก รับรอง ถ้ามีกล้อง ก่อนถึงที่หมายยังไงก็ต้องเจอครับ จากคุณ : คนมาบแค เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 53 16:38:34

ความคิดเห็นที่ 4 จี้ตูดคันหน้าไว้ครับ อย่าให้ทิ้งระยะเกิน 2 เมตร รับรองถ่ายรูปไม่เห็นทะเบียนแน่นอน จากคุณ : ลุงเต่า เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 53 17:17:20

ความคิดเห็นที่ 5 ถ้าไม่ทำแบบความเห็น 3 ก็ต้องขับเร็วแบบที่กล้องตรวจจับไม่ได้ ชัตเตอร์กล้องถ่ายรูปไม่ทัน อยากรู้จังว่าชัตเตอร์กล้องใช้ความเร็วเท่าไร ขนาดของระยะทางที่เฟรมภาพถ่ายจับภาพได้กี่เมตร เท่านี้เราก็คำนวณความเร็วแบบที่ว่าชัตเตอร์กล้องกดไม่ทันได้แล้ว จากคุณ : คนเมืองกรุง เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 53 17:24:39

ความคิดเห็นที่ 6 เพิ่งโดนมาเมื่อเดือนกันยายน ทางสายเอเชีย จ.ตากค่ะ โดยเค้าจะส่งรูปถ่ายรถของ พร้อมทั้งแจ้งความเร็วที่เราขับเกินไป แล้วส่งจดหมายไปให้ที่บ้าน จากนั้นก็ไปจ่ายเงินที่ไปรษณีย์โดนค่าปรับไป 400 บาท ทั้งนี้ต้องซื้อซองจดหมาย 2 ซอง เขียนชื่อที่อยู่ของตัวเอง แล้วก็จ่ายค่า EMS ประมาณ 70 กว่าบาทค่ะ  (โดยซองจดหมายที่จะส่งกลับมาให้เรา จะเป็นใบเสร็จรับเงินจากกรมทางหลวงค่ะ)  ยังไงก็ขับขี่ปลอดภัยนะค่ะ เส้นทางที่ตั้งกล้องตรวจจับความเร็วอัตโนมัตินี้ มีอยู่หลายจุดทั่วประเทศ   ได้แก่   1. เส้นทางสายพหลโยธิน ช่วงรังสิต ถึง สระบุรี 2  จุด   2. เส้นทางสายมิตรภาพ ระหว่าง สระบุรี ถึง นครราชสีมา 2  จุด   3. เส้นทางสายมิตรภาพ   ระหว่าง นครราชสีมา ถึง ขอนแก่น 2  จุด   4. เส้นทางสายเอเชีย ระหว่าง อยุธยา ถึง   นครสวรรค์ 1  จุด   5. เส้นทางสายเอเชีย ระหว่าง นครสวรรค์ ถึง ตาก 1  จุด   6. เส้นทางสายเอเชีย ระหว่าง ตาก ถึง เชียงใหม่ 1  จุด   7. เส้นทางสายกรุงเทพ นครปฐม   วังมะนาว 1  จุด   8. เส้นทางสายกรุงเทพ วังมะนาว 1  จุด   9. เส้นทางสาย วังมะนาว   ถึง หัวหิน 1  จุด   10. เส้นทางสายเพชรเกษม ( เลี่ยงเมือง ) ชะอำ ถึง ปราณบุรี 1 จุด   11. เส้นทางสายเพชรเกษม ประจวบคีรีขันธ์ ถึง ชุมพร 1  จุด   12. เส้นทางสายเพชรเกษม ชุมพรถึง สุราษฎร์ธานี 1  จุด   13. เส้นทางสายบางนา - ตราด   ระหว่าง กรุงเทพ ถึง บางปะกง 1  จุด   14. เส้นทางสายสุขุมวิท ระหว่าง ชลบุรี ถึง   พัทยา 1  จุด   15. เส้นทางสายมอเตอร์เวย์ ชลบุรี ถึง ระยอง 2  จุด   16. และเส้นทางสายสุขุมวิท ระหว่าง ระยอง ถึง จันทบุรี 1 จุด จากคุณ : อังกี้ (อั้งเกย) เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 53 17:30:58

ความคิดเห็นที่ 7 ลองสังเกตสิบล้อครับ พวกเขาจะรู้ดีว่าตรงไหนมี แล้วอยู่ตรงไหน (เฉพาะคนที่วิ่งมานาน) โดยสิบล้อจะกระพริบไฟใส่กัน เป็นการเตือน ว่าข้างหน้ามีด่านน่ะ .... จากคุณ : ยืนงงในดงTEEN (bee1234baza) เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 53 17:45:37

ความคิดเห็นที่ 8 ในรูปนี่สงสัยจะตั้งด่านนานไปหน่อย จากคุณ : jcomps เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 53 17:47:14

ความคิดเห็นที่ 9 เห็นด้วยกัน คห.7 ครับ และสังเกตศาลาพักผู้โดยสาร ก่อนถึงจุดตรวจประมาณ 1-2 กม. จะมีตำรวจตั้งกล้องหรือเรดาร์จับความเร็ว และ ว.บอกด่านข้างหน้า เมื่อสังเกตเห็นสิบล้อกระพริบไฟให้กัน ก็ลดความเร็วลงหน่อย ขับชิดซ้าย ไม่น่าจะเสียตังค์ ผมใช้เส้นทางมิตรภาพ ช่วง อ.บ้านไผ่ ถึง ขอนแก่น ทางหลวงมักซุ่มอยู่ ประมาณ กม. 10 จากอ.บ้านไผ่ จากคุณ : คนใช้รถ (kru_eed) เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 53 17:53:30

ความคิดเห็นที่ 10 กล้องเกลิ้ง...มันก็ไม่มีหรอกครับ ไอ้พวกที่ดักจับ(ตามสะดวก)เนี่ย...มันเอาคนเป็นๆ นี่แหละครับ ซุ่มดูอยู่ห่างๆ (มันมีระยะของมันนะ) ก่อนเราถึงพวกมัน แล้วก็วิทยุบอกกัน  พอเห็นเราไปใกล้ๆ ก็กระโดดออกมาโบกระวังชนมันนะครับ... จากคุณ : สิงโตยนต์ เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 53 18:29:28

ความคิดเห็นที่ 11 เคยเจอครั้งนึง ตั้งกล้องตรงร่องกลางถนนแถบใต้สะพานลอยครับ เพราะท่านตำหนวดกลัวความร้อนเป็นที่สุด สังเกตุง่ายๆครับมีสะพานข้ามหัว ก็คอยระวังๆกันบ้างครับ จากคุณ : มะแข่น เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 53 18:51:12

ความคิดเห็นที่ 12 เวลาปฎิบัติงานของ กล้องจับความเร็ว (ผมเรียกว่ากองถ่าย)  เช้ามืด-ก่อน 8 โมง  ช่วงนี้ท่านออกเวร หรือ ยังแฮ้งจากเมื่อวาน  8.30 - 11.30  น ช่วงเวลาทอง ของตัวเงินตัวทอง เอ๊ย ตำหนวด  11.30-14.00  น ช่วงพัก อากาศร้อนไม่ไหว  แต่ละท่านอ้วนยังกะหมีคว....   จุดซุ่มก็ทางโค้งแล้วตรง  หรือ ทางลงเขา  อาจจะอยู่บนรถตู้เปิดท้ายพร้อมอุปกรณ์  หรือขึ้นไปบนสะพานลอย แบบหลังไม่นิยมเพราะทนอากาศร้อนไม่ค่อยได้  มักจะอยู่หลังรถตู้เป็นหลัก    14.00 - 16.30 น   ผลัด 2    16.30 เป็นต้นไป   แสงน้อย  หมดเวลาราชการ  สรุปยอด  ไปรับลูก  เปรี้ยวปาก  19.00 - 02.00  จับรถบรรทุก  รถขนผัก (ตอนนี้ถูกห้ามแล้ว จาก ผบ ตร คนใหม่)  เวลาที่ท่านปลอดภัยจากกล้องกองถ่ายคือ   ฝนตก  เช้ามืด  ตอนเย็น  แดดร้อนจัด    ขอให้โชคดีทุกท่าน   ขับรถใช้สติ เจอด่านแบบนี้ก็กระพริบไฟสูงแจ้งเพื่อนร่วมทาง  ผมหมดสิทธิขับเร็ว  เพราะบริษัทมี GPS จับความเร็วขับเกิน 100 ไม่ได้เลยไม่ค่อยมีปัญหา จากคุณ : แจ้ห่ม47 เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 53 19:18:20

ความคิดเห็นที่ 13 ลองหาเครื่อง GT200 มาไว้ในรถซักเครื่อง แล้วเอาชิพใบสั่งใส่ไว้ เวลาจะโดนจับ  เข็มมันจะชี้ไปทางกล้องครับ  ปล.ทำเองก็ได้เห็นว่าต้นทุนไม่กี่บาท จากคุณ : เด็กชายประจวบ เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 53 20:08:00

ความคิดเห็นที่ 14 โดนมากับตัว 2 ด่านซ้อน ไปส่งน้องที่สุวรรณภูมิ  ขากลับ  กทม.-พิษณุโลก จะซุ่มอยู่ตรงเกาะกลางที่มันมีต้นไม้บังครับ  กว่าจะเห็นว่ามีคุณตำรวจซุ่มอยู่ก็เหยียบไป140 แล้ว ด่านที่สองก็เลยบอกว่าเพิ่งโดนมาตะกี๊เอง  พร้อมกับโชว์ใบสั่งให้ดู พี่ท่านเลยปล่อยครับ เสียไป 1 ด่าน  อิอิ จากคุณ : น้องขาวปากดำ เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 53 20:14:17

ความคิดเห็นที่ 15 เพื่อนเคยโดนตรงแถว ถ.มิตรภาำพค่ะ ระหว่างปากช่องเข้าโคราช... แต่ไม่มีตำรวจโบกนะคะ เป็นจดหมายไปที่บ้านเลยค่ะ งงเหมือนกันว่ากล้องมันอยู่ไหนหว่า...ภาพที่แนบไปกับใบสั่งคือ ความเร็วรถ ณ ที่ผ่านกล้องแล้วก็ภาพถ่ายรถก่ะป้ายทะเบียน... จ่ายตังได้โดนจ่ายผ่านธนานัติค่ะ จากคุณ : นางร้ายลิเก๊ลิเก เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 53 20:59:26

ความคิดเห็นที่ 16 ผมใช้วิธีดูรถคันหน้า ในระยะไกลๆ ครับ ถ้าชักแถว เป็นระเบียบ ก็เตรียมลดความเร็ว ชิดซ้ายได้เลย เรื่องกระพริบไฟเตือน เดี๋ยวนี้ใช้ไม่ค่อยได้ครับ พี่ตั้ม เล่นดักรอตรงที่ เกาะกลางถนนมีต้นไม้หนาแน่น ฝั่งตรงข้ามกระพริบไฟบอกเราก็ไม่เห็นครับ แก้ไขเมื่อ 14 ต.ค. 53 21:33:17 จากคุณ : หงส์เดี่ยว เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 53 21:32:26

ความคิดเห็นที่ 17 แก้ไขเมื่อ 15 ต.ค. 53 16:22:45 จากคุณ : ชาน้ำผึ้ง เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 53 22:21:52

ความคิดเห็นที่ 18 ชอบ คห. ที่  12 ครับ โดนใจเลย ^^ จากคุณ : ขุนเขาแห่งแม่น้ำแควน้อย เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 53 00:20:54

ความคิดเห็นที่ 19 ถ้าท่านอยากจะขับเร็วแต่กลัวถูกจับ อย่าขับเลยครับ เป็นอันตรายต่อท่านและคนรอบข้างเปล่าๆ เพราะว่าพอท่านขับเร็วแล้วเห็นว่าเป็นด่าน ท่านก็จะเหยียบเบรคเพื่อลดความเร็วแล้วมันอาจจะเกิดอันตรายได้ ทางที่ดีที่สุด อย่าขับเกินที่กฎหมายกำหนดเลยครับ แต่ถ้าอยากจะลองเครื่องจริงๆ ก็เอาเลยครับ เหยียบให้มิด ชิดขวาอย่างเดียว ไหนๆก็จะโดนแล้ว เอามันให้หมดไมล์ไปเลย เพราะถึงจะวิ่ง 120 หรือ 200 ก็โดนเหมือนกัน อยู่ที่ว่าเท่าไหร่แค่นั้นเอง แต่ระหว่างนั้นจะเกิดอะไรขึ้นผมไม่รับผิดชอบด้วยนะครับ ปล. เคารพกฏจราจรเถอะครับ เค้าให้ขับแค่ไหนก็แค่นั้น ถึงที่หมายอย่างมากก็ห่างกันไม่เกินชั่วโมง แต่ความเสี่ยงที่ท่านจะต้องแบกรับนั้นมันเหลือจะคาดคะเนจริงๆ เกิดอะไรขึ้นมาในความเร็ว ณ ขนาดนั้นมันเอาไม่ทันหรอกครับ ไหนจะเพื่อนร่วมทางอีก เห็นใจคนอื่นเค้าบ้าง ปล.2 ถ้าอยากวัดสมรรถนะรถจริงๆ ก็ไปหาตามสนามแข่งเลยครับ จะเหยียบเท่าไหร่ก็จัดไปโลด จากคุณ : ไม่ใช่ฉันและไม่ใช่เธอ (ไม่ใช่ฉันและไม่ใช่เธอ) เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 53 05:44:39

ความคิดเห็นที่ 20 เป็นประโยชน์ดีครับ จะได้ระวังตัวไว้ จากคุณ : หง่าวแมน เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 53 07:50:58

ความคิดเห็นที่ 21 ผมเคยโดนจับบนถนนสายเอเซีย ที่จังหวัดนครสวรรค์อะครับ มีกล้องรึเปล่าไม่สังเกต แต่พี่ตำรวจทางหลวง โบก แจ้งข้อหา ว่าขับเร็วเกิน พรก อยู่ที่ 122 กม/ชม กล้องอยู่ตรงที่ลงเนินมาประมาณ 10โล ที่ผ่านมา( อืม ตั้งกล้องตอนลงเนิน ยิงนกในกรงเลยนี่หว่า แบบเนี๊ย) ผมก็รับสารภาพ เพราะความเร็วเลยเกินลิมิตไปนิดนึง พร้อมขอให้ตำรวจออกใบสั่ง ตามระเบียบ พี่ตำรวจบอก ถ้าออกใบสั่ง ผมจะต้องไปจ่ายค่าปรับที่ สถานี อยู่จังหวัดลพบุรี นะครับ ผมบอก เอ นี่มันสายเอเซีย อยู่เขตนครสวรรค์ ผมต้องไปจ่ายค่าปรับถึงลพบุรีเหรอครับ น่าเห็นใจตำรวจนะครับที่ต้องทำงานไกล ครอบคลุมพื้นที่เป็นร้อยโลอย่างนี้ แล้วทางหลวงนครสวรรค์ไปไหน ทำไมไม่มาปฏิบัติหน้าที่ ถ้าระเบียบราชการ เป็นอย่างนั้น ก็ช่วยออกใบสั่งมา ผมจะได้มีสำเนา ส่งไปร้องเรียนกับสื่อมวลชน ช่วยตำรวจทางหลวงชั้นผู้น้อยที่ต้องทำงานแบกภาระ ข้ามจังหวัด แบบนี้ ในที่สุด ตำรวจท่านนั้น ก็ขอบคุณผม และปล่อยผมโดยไม่ออกใบสั่ง ซึ่งผมก็เสียใจมาทุกวันนี้ ที่ขับเกิน พรก แต่ไม่ได้รับโทษ และไม่ได้ช่วยให้ตำรวจที่ต้องทำงานเหนื่อยยากให้ได้รับความเป็นธรรม อิ อิ อิ จากคุณ : karawara เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 53 10:25:18