Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
รู้ทันเซลล์ ภาค2 ตอนจะซื้อรถต้องเลือกเซลล์ดีๆ

ต่อเนื่องจากเนื้อหาเดิมจากกระทู้ที่แล้วครับ
http://www.pantip.com/cafe/ratchada/topic/V9767743/V9767743.html

โดยในตอนนี้จะแบ่งออกเป็น 3 เรื่องด้วยกัน คือ
1.เซลล์ขายรถ
2.เซลล์ขายประกัน
3.เซลล์ไฟแนนซ์

โดยเราจะเริ่มที่ เรื่องแรกเลยนะครับ
1.เซลล์ขายรถ
เซลล์ที่ดี ควรจะรู้ข้อดี-ข้อเสียของรถ และสามารถ demo รถให้เราดูได้ทุกส่วนของรถ ควรจะรู้เทคนิดของเครื่องยนต์บางอย่าง เช่น SOHC หรือ DOHC เพื่อที่จะตอบลูกค้าได้อย่างชัดเจน และที่สำคัญ เซลล์ต้องผ่านการขับรถรุ่นนั้นๆ มาแล้ว ก่อนที่จะทำการขายให้ลูกค้า เพราะจะสามารถตอบลูกค้าได้ แทบทุกอย่างครับ และที่สำคัญที่สุด เซลล์ที่ดี ต้องตามลูกค้า ต้องง้อลูกค้า ไม่ใช่ปล่อยให้ลูกค้าตาม ไม่สนใจลูกค้า ควรมองว่าลูกค้าเป็นพระเจ้า (ถ้าเห็นลูกค้าเป็นคนมาขอรถไปใช้ ก็อย่าไปซื้อกับเซลล์คนนั้นเลย) และตอบข้อเสนอ หรือข้อซักถามของลูกค้าให้เร็วที่สุด(ไม่ใช่ต้องให้โทรไปตามเอาคำตอบเอง)

เมื่อเราเลือกยี่ห้อ รุ่นรถได้แล้ว เราก็เข้าไปที่โชว์รูม เพื่อจะไปหาเซลล์ให้เสนอราคา ว่ามีแคมเปญอะไรบ้าง ที่เราจะได้ การที่เราจะทราบว่าเซลล์ดีหรือไม่ตามย่อหน้าด้านบน จะใช้เวลาซักหน่อยครับ ถ้าเซลล์ไม่ดีจริง ผมแนะนำให้เปลี่ยนศูนย์เลยดีกว่าครับ เพราะจากประสบการณ์ที่ผมเจอเซลล์ดีๆ พอซื้อรถออกไป เซลล์ก็โทรกลับมาถามนู้น ถามนี่ และเวลานำรถเข้าไปเช็ค เซลล์นี่แหละ ก็ดูแลเราอีกครับ ซึ่งส่วนใหญ่ที่พบ เซลล์จะหายหน้า เมื่อจองรถเสร็จครับ

ผมมีโอกาสได้เข้าไปที่โชว์รูมแห่งหนึ่ง เมื่อเร็วๆ นี้ ไปยืนดูรถรุ่นหนึง เป็นเวลา 20-30 นาที ไม่มีเซลล์ในโชว์รูมคนไหน ให้ความสนใจผมเลย แย่มากๆ คงคิดว่าหน้าตาแบบนี้ แต่งตัวแบบนี้ คงไม่มีปัญญาซื้อรถ ดังนั้นผมเลยทำได้แค่ดูรถ ภายใน ภายนอก รอบๆ เดินวนดู 5-6 รอบ แล้วจึงไปทำการจองที่ศูนย์อื่น เป็นจำนวน 2 คัน (มันไม่ง้อลูกค้าก็ตามใจ ไปซื้อที่อื่นก็ได้)

ศูนย์ที่ผมจอง ผมแค่โทรเข้าไปครับ เซลล์เสนอแคมเปญมาทางโทรศํพท์เลย แคมเปญดีใช้ได้ และที่สำคัญ เซลล์ไม่แสดงท่าทีรำคาญเหมือนกับหลายๆ ศูนย์ที่ผมโทรเข้าไป ผมจึงรับข้อเสนอไว้พิจารณา และเปรียบเทียบกับศูนย์อื่นไปเรื่อย จนกระทั่งช่วงเย็น ผมได้โทรไปต้อรองอีกรอบ และเซลล์ก็ไม่มีปัญหา ตกลงตามที่ผมต่อรอง ผมก็เลยจองเลย ด้วยวาจา และในวันรุ่งขึ้น เซลล์คนดังกล่าว เดินทางมารับจองถึง ณ Office ของพ่อผมเลย ซึ่งพ่อผมเองก็ได้ชมเซลล์คนนี้ให้ผมฟังว่า เซลล์คนนี้ดีมากครับ

ดังนั้นการเลือกเซลล์ที่ดี จะช่วยดูและเราไป อีกนานครับ อย่าไปเลือก เพราะข้อเสนอดี เพราะบางที อาจจะตุกติกกับเราในวันส่งรถได้ (ผมเคยเจอมาแล้ว ทั้งๆ ที่ในใบจองระบุชัดเจน แต่ก็ยังกล้า)

2.เซลล์ขายประกัน
เซลล์ขายประกันในที่นี้แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือเซลล์ขายรถ ที่เสนอประกันด้วย และเซลล์จากบริษัทประกันภัยโดยตรงครับ

การเลือกประกัน เราควรเช็คอัตราเบี้ยประกัน และทุนประกันให้ดีครับ ควรเช็คกับผู้ขายจากบริษัทโดยตรงครับ เพื่อให้ทราบเบี้ยที่แน่นอน ครับ และนำไปเปรียบเทียบกับเซลล์ขายรถ ที่แถม หรือขายให้เราอีกครับครับ ว่าต่างกันหรือไม่อย่างไร

ข้อควรระมัดระวังคือ การที่บริษัทขายรถแถมประกันให้ ควรถามว่า เป็นประกันของบริษัทอะไร และถามว่า ระบุชื่อผู้ขับหรือไม่ เพราะโชว์รูมบางแห่ง แถมให้แบบระบุชื่อ และหมกเม็ดไม่ยอมบอกให้ลูกค้าทราบ ซึ่งบางครั้งลูกค้ารู้ตัวอีกทีเมื่อตอนเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งสายไปเสียแล้ว

อีกเรื่องหนึ่งคือ ประกัน ซ่อมศูนย์หรือไม่ และถามให้แน่ใจ ว่าศูนย์ที่ว่า มีศูนย์ไหนบ้าง ที่รับซ่อม เพราะเบี้ยซ่อมศูนย์จะแพงกว่าเบี้ยซ่อมอู่ครับ

ดังนั้นการเลือกประกัน ควรระบุไปให้ชัดในใบจอง ว่าประกันของบริษัทไหน ทุนประกันเท่าใด และระบุชื่อคนขับหรือไม่


3.เซลล์ไฟแนนซ์
เซลล์ไฟแนนซ์แบ่งเป็น 2 ส่วน เช่นเดียวกัน คือมีเซลล์ ขายรถ และเซลล์จากไฟแนนซ์โดยตรง

เราควรเข้าไปหาเซลล์ไฟแนนซ์โดยตรงก่อนว่าอัตราดอกเบี้ยเท่าใด และมีเงื่อนไขอย่างไร ก่อนที่เราจะกลับไปคุยกับเซลล์ที่ขายรถให้เราครับ ว่าให้อัตราดอกเบี้ยเท่ากันหรือไม่ เพราะเซลล์ขายรถบางคนจะทำการบวกดอกเบี้ยเข้าไป ซึ่งผลต่างของดอกเบี้ย เซลล์ขายรถรับไปครับ ดังนั้นจึงควรรอบครอบเอาไว้ครับ

และจากการเพิ่งทำสัญญากับ 2 ไฟแนนซ์ เมื่ออาทิตย์ก่อน เจอซึ่งทั้ง 2 คัน จัดไฟแนนซ์คนละแห่ง ซึ่งไฟแนนซ์ ก..... ไม่มีปัญหาอะไร แต่เมื่อเจอไฟแนนซ์ ธ... กลับมีปัญหา เนื่องจากเซลล์ของทางบริษัทไฟแนนซ์ได้บังคับให้ทำประกันคุ้มครองวงเงินเช่าซื้อ (ค่าเบี้ยผมที่เซลล์คิดให้ผมคือ 2 หมื่นกว่า)   ซึ่งสำหรับผม ไม่จำเป็น เพราะผมมีประกัน ที่ดีกว่านั้นมากอยู่แล้ว แต่เซลล์ไฟแนนซ์ยืนยันว่าต้องทำ และทุกไฟแนนซ์ ก็ต้องทำ ผมเลยโทรไปหาเซลล์ของไฟแนนซ์ ก.... เพื่อถามว่า จริงหรือไม่ ซึ่งก็ได้คำตอบว่า ไม่จริง และประกันดังกล่าว ขึ้นอยู่กับความสมัครใจของลูกค้า

ดังนั้นเงื่อนไขต่างๆ ผู้ซื้อรถเองควรศึกษาให้รอบครอบ อย่าให้เซลล์ ที่ไหน มาเอาเปรียบ บังคับให้ทำประกันชีวิต เพื่อคุ้มครองวงเงินเช่าซื้อครับ ขอให้เปลี่ยนไฟแนนซ์ไปเลยครับ เจอแบบนี้ แย่มากๆ ครับ

หลักการคิดค่างวด

การคิดอัตราค่างวด = (F x ((R x Y)+1))/M
**การคิด มีหลายวิธีหลายสูตร แต่เท่าที่ผมลองมา วิธีนี้ เร็วที่สุด

โดยที่
F = ยอดจัด Finance
R = ดอกเบี้ย เช่น ดอกเบี้ย 2.45% จะเท่ากับ 2.45/100 = 0.0245
Y = จำนวนปีที่จัดไฟแนนซ์
M = จำนวนเดือนที่ผ่อน

ตัวอย่าง ยอดจัด 5 แสน ผ่อน 2.69% เป็นเวลา 3 ปี
ค่างวด = (500000 x ((0.0269 x 3)+1))/36 = 15009.72 บาท/งวด

แก้ไขเมื่อ 18 ต.ค. 53 10:22:01

แก้ไขเมื่อ 18 ต.ค. 53 10:14:32

แก้ไขเมื่อ 18 ต.ค. 53 10:06:57

จากคุณ : XenoType
เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 53 09:53:22




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com