ผมไม่ด่าสหภาพแรงงานหรอก
แต่ผมจะด่า ครม. ทั้งชุดคุณทักกี้/หมัก/ท่านชาย รวมถึงหน้าหล่อ ทั้งหมดน่าด่ามากกว่า ที่ตั้งนโยบาย แต่ไม่อนุมัติลงทุน ชื้อรถจักรหรือรถพ่วงใหม่ ซึ่งนั้นคือแรงผลักดันของทาง สหภาพแรงงาน ต่อการรถไฟแห่งประเทศไทย
อีกทั้งยังสรรหาผู้ว่า รฟท ดำรงตำแหน่งได้ห่วยแตกมาก จะโกงเิอาท่าเดียว
ยังจำกันได้ไหม กรณีพิพาษของโครงการแอร์พอร์ตลิงค์ ที่รฟท ต้องสูญเสียรายได้ จนเป็นหนี้สินความเสียหาย 1200 ล้าน นั้นมาจากฝ่ายบริหาร ฮั้วกันกับเอกชน ตระกูลไหนของไปสืบดู ภูมิใจไทย หรือเปล่า..ไปอ่านเอง
ยังไม่รวมกรณี โครงการโฮปเวลล์ อีก... ที่ฝ่ายบริหารผิดพลาด หนี้สินก่อหลายหมื่นล้าน ซึ่งสหภาพก็ค้านมากมาย แต่ไม่เป็นผลแต่อย่างใด
ในการกลับกัน.. สหภาพถูกประนามจากชาวบ้านว่าหยุดรถทำไม ชาวบ้านเค้าเลยไปด่าสหภาพ แต่ไม่ได้มองว่ามันเจ๊งทุกวันนี้มาจากไหน มันมาจากฝ่ายบริหารแทบทั้งสิ้น
กรณีห้ามรับพนักงานเพิ่ม หรือจัดชื้อราง รถจักร รถพ่วง เป็นมติ ครม.ปี41 จุดนี้ รฟท เลยล้าหลัง ขาดการพัฒนาเป็นสิบๆไป ก็มาจาก ครม. และ ผู้ว่า รฟท แทบทั้งสิ้น
จนปัจจุบันการแปรรูป.. เน้นหนักไปเป็นแยกเป็น 2 บริษัท หนึ่งในสองนี้จะดูแลทรัพย์สินของ รฟท โดยเฉพาะและให้เอกชนเข้ามาดูแล 100% หมายถึงอะไร ก็คงคิดได้ง่ายๆคือเอกชนจะมาลงทุนเพื่อหากำไรในส่วนที่ดิน นั้นคือผลประโยชน์มหาศาลที่ฝ่ายบริหารต้องการอย่างมาก และคำสั่งห้ามชื้อต่างๆ และห้ามรับพนักงานเพิ่ม ก็เป็นตัวจุดฉนวนเร่งให้แปรรูปเร็วขึ้น ( อยากแปรรูปอะไร ก็ตั้งนโยบาย กีดกันองค์กรนั้น ทำให้เละถึงจุดหนึ่งก็สั่งแปรรูป ให้เอกชนเข้ามาเพื่อผลตอบแทนระหว่างเอกชนและผู้บริหารของรัฐบาลได้ไป)
สหภาพแรงงานเค้าค้านการแปรรูป เนื่องจากมียุคหนึ่ง ที่นักการเมืองหวังแปรรูปรวบสาธารณูโภคขั้นพื้นฐานหมด โดยนำบริษัทเครือรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรี คนใกล้ชิด สมัยนั้น เข้าถือครองหุ้นส่วนหนึ่ง (คล้ายกับการโกงกินของอินโดนิเซีย) จึงออกมาประท้วง นั้นโอเค ผมรับได้
แต่หากสุดท้ายแล้ว ยังไม่มีการพัฒนาจริงจังเสียที นโยบายรางคู่ พัฒนารางเดิม ชื้อหัวจักรใหม่ ลำใหม่ เห็นทีต้องปฎิรูปองค์กรเสีย หรือไล่ออกตั้งแต่ รัฐบาลยันผู้ว่า รฟท เลยจะดีกว่า (ไหนๆก็เน่าตั้งแต่หัวลงมาแล้ว)
แปรรูปมา.. ตัวอย่าง ปตท. ถามว่าได้อะไรขึ้นมาบ้าง?
ราคาน้ำมันแพงขึ้น อันนี้ตามตลาดโลก แต่กำไรเพิ่มขึ้น.. นี้สิน่าคิดครับ
กำไรส่วนนี้ยังไงก็มาจากประชาชนเป็นหลัก เอากับค่าการกลั่น ค่าการตลาดก็เถอะครับ เทียบกันแล้วยังไม่แปรรูป เราตาดำๆอาจได้ใช้น้ำมันราคาถูกกว่านี้ แต่บริการหรือสถานที่คงไม่ได้ดีเท่าที่เป็นอยู่นี้ครับ
อันนี้ก็มาจากการที่เอกชนเข้ามาถือหุ้นมีทั้งดีและไม่ีดี ดีตรงที่มีการจัดชื้อ จัดจ้าง บริหารได้คล่องตัว (แม้การตัดสินใจจะอยู่กับภาครัฐ) ซึ่งแน่นอนหากเป็นรัฐวิสาหกิจแล้ว อะไรๆก็จะไม่ถูกหรอก คุณอาจจะได้นั่งรถไฟใหม่ เร็วขึ้น แต่ราคาแพงกว่าทุกวันนี้ 3 เท่า หรือเท่ากับขึ้นเครื่องบิน (เค้าต้องหาทางคืนทุน และได้ผลกำไรมากสุด คล้ายกับทางด่วนดอนเมือง-โทเวย์ที่ขึ้นราคาเกือบทุกปี ปัจจุบันผมขึ้นไปทำงาน 85 บาทแล้ว ร่วมทุนกับเยอรมันถ้าจำไม่ผิด) จุดนี้จะปิดประตูของคนจนๆไปเลย
ดังนั้นภาระหนักๆจะตกอยู่กับคนต่างจังหวัด ที่ไม่มีทางเลือกมาก จำยอมต้องใช้บริการรถทัวร์แทน (ราคาถูกกว่ารถไฟ) หรือวิน รถตู้ระหว่างจังหวัด ซึ่งนั้นทำให้เกิดสภาวะอุบัติเหตุและรถติดขึ้นมาอีกเป็นกอง คราวนี้รถไฟก็กลายเป็นรถที่ให้คนมีเงินปานกลางขึ้นแทน ราคาไม่ได้ถูก ดังเช่นทุกองค์กรที่เคยปฎิรูปไปแล้ว ย้อนดูอดีตได้
ปัญหารุกรามใหญ่ขึ้น... เหมือนตัดเนื้อร้ายก้อนนึง ทำให้มันแตกไปทั่วร่าง
จุดสำคัญคือต้อง ปฎิรูป ไม่ใช่ แปรรูป ซึ่งรัฐบาลหากเข้ามาพัฒนาและเลือกคนเก่งๆ ซื่อสัตย์เข้ามาบริหารงานได้ ทั้งเฉ่งคนโกงใน รฟท ออกไป หากแต่ปฎิรูปแล้วไม่เวิร์ค แปรรูปไปก็เห็นจะเป็นโอกาสสุดท้ายเสียมากกว่า
แต่ตอนนี้การจัดแจงเม็ดเงินที่จะลงกับ รฟท มันไม่มีเลย... มันอยู่นอกสายตาเสมอ
เอาเงินไปลงแต่ แอร์พอตลิ้งค์ เสียหมด..
ในฐานะคนสนิทผมเคยทำธุรกิจกับ รฟท มาก่อน
จะบอกคำเดียวว่า องค์กรนี้โกงกินกันมากไม่เป็นรององค์กรไหนๆเลย
เช่น ราคาขาย 100 บาท ต้องขายให้องค์กรนี้ 1100 นอกนั้น 1000 บาทต้องจ่ายให้บนๆขององค์กรทั้งนั้น
การถ่วงดุลอำนาจระหว่างสหภาพกับฝ่ายบริหารผมว่าโอเคแล้ว
แต่ฝ่ายบริหารควรเห็นชอบการจัดชื้ออุปกรณ์ใหม่ๆมาตามสหภาพร้องขอ
มิใช่แปรรูปก่อนค่อยจัดชื้อ... คำถามคือ แปรรูปค่อยจัดชื้อนี้คุณจะเอาผลประโยชน์อะไรกับองค์กร ในการแปรรูปกันแน่? ในเมื่อปัจจุบันก็ทำให้ดีได้แต่เจือกไม่ทำ.. ฝ่ายบริหารใส่เกียร์ว่างซะ หือ?
แก้ไขเมื่อ 19 พ.ย. 53 11:09:45