คมชัดลึก :"ณัฏฐ์" แจงภาพ"แพรวา"เครียดโทรหาพ่อ หลังเกิดเหตุรถชนบนโทลล์เวย์ ด้านรองภาณุ ชี้เหตุรถชนเพราะเก๋งขับจี้รถตู้ เตรียมแจ้งความเอาผิด ด้านนายกฯลั่นวัยรุ่นสกุลดังไม่อยู่เหนือกฎหมาย ขณะที่โซเชียลมีเดียรุมจวก"แพรวา"ต้นเหตุรถชนโทลล์เวย์ จนมีผู้เสียชีวิต 8 ศพ
29ธ.ค.) นายณัฏฐ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ดารานักแสดง พี่ชายของนางสาวอรชร หรือ แพรวา เทพหัสดิน ณ อยุธยา ยอมรับว่า ขณะนี้เครียดหลังน้องสาวถูกสังคมประณาม จากกรณีขับรถเก๋งชนรถตู้บนทางด่วนโทลย์เวย์ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 8 ศพ พร้อมชี้แจงว่า ภาพน้องในที่เกิดเหตุที่เผยแพร่อยู่ทางอินเตอร์เน็ตและถูกทุกคนมองว่ากำลังคุยบีบีเล่น จากที่ได้คุยกับน้องสาว น้องกำลังกดโทรศัพท์หาคุณพ่อหลังจากที่เกิดเหตุแล้ว
อย่างไรก็ตามเจ้าตัวเตรียมแถลงข่าวกรณีดังกล่าว "คุณพ่อผมเป็นทหาร รักความยุติธรรมมาก ตั้งแต่ผมโตมา ท่านก็สอนเรื่องความมีระเบียบวินัย ความซื่อสัตย์ ความยุติธรรม" "ณัฏฐ์-เทพหัสดิน ณ อยุธยา กล่าว"
เมื่อเวลา 12.00น. พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รองผบช.น.รับผิดชอบดูแลงานด้านจราจร เปิดเผยถึงมาตรการล้อมคอกอุบัติเหตุบนทางด่วนหรือโทลย์เวย์หลังเกิดเหตุรถตู้ชนรถเก๋งบนโทลย์เวย์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวน 8 รายว่าสาเหตุที่เกิดขึ้นน่าจะเกิดจากความประมาท เพราะดูจากกล้องวงจรปิดมีการขับกระชั้นชิดกัน เมื่อเกิดเหตุกะทันหันขึ้นวิสัยในการหยุดรถจึงทำไม่ได้ไม่ได้เกิดจากการปาดหน้า แต่รถที่ชนก็ไม่แรงเพียงแต่มีการสะกิดรถตู้ให้เสียหลักและแรงเหวี่ยงทำให้ประตูด้านหลังของรถตู้เปิดออกประกอบกับผู้โดย สารก็ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุทำให้ไม่ได้ทันตั้งตัวจึงหลุดลอยออกจากรถตู้ทำให้เสียชีวิตในที่สุด
พล.ต.ต.ภาณุ กล่าวว่า เหตุที่หลุดออกจากตัวรถตู้โดยสาร เพราะผู้โดยสารไม่ได้รัดเข็มขัดนิรภัยและกระเด็นออกมาตกลงจากทางด่วนที่มีความสูงถึง 20 เมตรซึ่งตกลงมาโอกาสเสียชีวิตมีสูง ส่วนเรื่องมาตรการความปลอดภัยจากที่ผู้ขับขี่รถเก๋งคู่กรณีมีอายุเพียงแค่ 16 ปีซึ่งแน่นอนว่ายังไม่สามารถมีใบขับขี่รถยนต์ได้จึงต้องมาวิเคราะห์ว่าทำไมถึงขับรถยนต์ได้กรณีนี้จะมีคำถามตามมาว่าถ้าเป็นลูกของเราแล้วเอารถออกจากบ้านไปทั้งๆ ที่เรารู้ว่าไม่มีใบขับขี่จะต้องดำเนินการอย่างไร ซึ่งต้องหามูลเหตุอีกครั้ง พ่อแม่ผู้ปกครองอาจจะไม่รู้ก็ได้แต่กรณีนี้ยังพิสูจน์ไม่ได้ว่าเป็นรถยนต์ของผู้ปกครองหรือไม่หรือเป็นรถของเพื่อนที่ยืมมาซึ่งหากเป็นรถของผู้ปกครองก็อาจจะเป็นการปล่อยปะละเลยไม่ห้ามปรามซึ่งต้องพิสูจน์กันอีกครั้ง
แต่หากถามว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจป้องกันได้หรือไม่เพราะคนขับรถยนต์ไม่มีใบขับขี่จุดนี้ยอมรับว่าในยามค่ำคืนค่อนข้างยากในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่แต่ผมขอฝากกรณีดังกล่าวให้ผู้ปกครองเข้มงวดหากบุตรหลานยังไม่มีใบขับขี่ต้องไม่อนุญาตให้นำรถออกมาใช้เด็ดขาดไม่ว่าจะขับเก่งแค่ไหนก็ตาม เพราะเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย อย่างไรก็ตามในทางของกฎหมายของเยาวชนนั้นต้องดูที่เจตนาความผิด เช่นกรณีนี้ไม่มีใบขับขี่ก็เข้าข่ายความผิดไม่มีใบอนุญาต แต่หากมีความประมาทก็ต้องเข้าข่ายความผิดอีกอย่างหนึ่ง แต่กรณีนี้เป็นเยาวชนการแจ้งข้อหาก็ต้องรอให้ออกจากโรงพยาบาลก่อน และต้องให้ทนาย อัยการ นักจิตวิทยาเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมกันเพื่อสอบปากคำ ซึ่งขณะนี้ยังต้องรอไปก่อนส่วนจะประมาทหรือไม่ก็ต้องรอคำให้การจากพยานและหลักฐานอื่นๆประกอบแต่จากภาพในกล้องวงจรปิด ก็พบว่า รถเก๋งคันนี้ขับมาอย่าง กระชั้นชิดซึ่งตามกฎหมายก็ระบุให้เว้นช่องว่างเพื่อให้มีระยะเบรคที่พอเหมาะแต่ที่แน่ๆคือมีความผิดที่ไม่มีใบอนุญาตขับขี่อย่างแน่นอน พล.ต.ต.ภาณุกล่าว
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีสังคมกังวลกรณีที่วัยรุ่นขับรถเก๋งชนรถตู้โดยสารจนทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ซึ่งอาจไม่สามารถดำเนินคดีได้เพราะมีนามสกุลดังว่าไม่หรอกครับ ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย ไม่มีใครสิทธิพิเศษ เมื่อถามว่าจะให้ความมั่นใจได้อย่างไรว่าสามารถดำเนินคดีได้ นายกฯ กล่าวว่า ก็ต้องมีการติดตามคดีอย่างเต็มที่
เมื่อถามถึงการบังคับใช้กฎหมายเพราะคนก่อเหตุอายุแค่ 16 ปี นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า นี่แหละคือสิ่งที่เราพยายามอย่างมากขณะนี้ คือ 1.การเคารพกฎหมาย 2.ความไม่ประมาท อันนี้ก็เป็นจุดอ่อนมาโดยตลอด และเราจะต้องเข้มงวดกวดขันมากขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเกิดอุบัติเหตุ ชื่อของ น.ส.อรชร หรือแพรวา เทพหัสดิน ณ อยุธยา ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงในโลกโซเชียลมีเดีย โดยรุมประณามการขับรถโดยประมาทในวัยเพียงแค่ 16 ปีของเธอซึ่งมีภาพจาก กล้องวงจรปิดมายืนยันความผิด บางส่วนก็คาดเดาว่าการเป็นลูกหลานนามสกุลดังจะทำให้เธอหลุดพ้นจากคดีดังกล่าว นอกจากนี้ยังมีการส่งฟอร์เวิร์ดข้อความประณาม แพรวา เรียกร้องความยุติธรรมให้แก่เหยื่อที่เสียชีวิต ที่ส่งต่อๆ กันไปทั่วโลกไซเบอร์ รวมทั้งบรอดคาซท์ทางบีบีด้วย
ทั้งนี้ เนื้อความที่น่าสนใจ อาทิขอเรียกร้องความยุติธรรมให้นักศึกษาธรรมศาสตร์ ที่เสียชีวิตจากเด็กอายุ 16 ปี ที่ขับรถชนรถตู้จนพวกเค้าเสียชีวิตครับ ภาพจากล้องวงจรปิดบนทางด่วนโทลล์เวย์ช่วงก่อนเกิดเหตุ รถตู้วิ่งอยู่เลนกลางด้วยความเร็วประมาณ 80 กม./ชม. รถเก๋งซีวิค วิ่งตามหลังมาด้วยความเร็วสูง แล้วเกิดเปลี่ยนเลนไปทางขวากะทันหัน ทำให้ด้านหน้ารถเก๋งชนท้ายขวาของรถตู้อย่างแรง ทำให้รถตู้หมุนหัวรถหันไปทางด้านซ้าย วินาทีต่อมา รถเก๋งซึ่งก็เสียหลักหมุน ทำให้ด้านข้างขวาของรถเก๋งกระแทกซ้ำเข้าไปที่ด้านซ้ายของรถตู้อย่างจัง ผลจากการชนซ้ำทำให้รถตู้กระแทกเข้าไปที่ขอบปูนอย่างรุนแรง
ผู้ที่ขับรถชนพวกเค้าเสียชีวิตชื่อแพรวา หรืออรชร เทพหัสดิน ณ อยุธยา อายุ 16 ปี เกิดวันที่ 30 มิถุ นายน 2537 และเป็นน้องสาวของพระเอกช่อง 5 ชื่อ ณัฏฐ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา นาทีนี้รูปของแพรวาที่เคยถ่ายแบบไว้ในเว็บต่างๆ ถูกลบหมดสิ้น และมีความพยายามอย่างยิ่งที่จะปกปิดชื่อผู้กระทำผิดในสื่อต่างๆ ด้วยความเป็นนามสกุลดังและมีพ่อเป็นนายตำรวจใหญ่ ฯลฯ
รายงานข่าวแจ้งว่า หลังกระแสในโลกไซเบอร์ที่ขุดคุ้ยเรื่องราวของแพรวา ทำให้มีกระแสข่าวว่า "ณัฏฐ์" เตรียมจะแถลงข่าวในเร็ววันนี้ เพราะเรื่องราวเริ่มบานปลายถึงชื่อเสียงวงศ์ตระกูล
ที่มา : http://www.komchadluek.net/detail/20101229/84283/พี่แจงภาพแพรวาโทรหาพ่อหลังรถชน.html
ตร.ยันแพรวายังอยู่เมืองไทย แค่ย้ายห้อง
29 ธค. 2553 15:26 น.
ที่ รพ.วิภาวดี พ.ต.ท. พิทักษ์ นิยมพฤกษ์ รอง ผกก. งานศูนย์ควบคุมจราจรวิภาวดีรังสิต เดินทางมาสอบปากคำผู้บาดเจ็บ จากอุบัติเหตุรถเก๋งชนรถตู้จนมีผู้เสียชีวิต 8 ศพ ที่ยังพักรักษาอาการบาดเจ็บ ได้แก่ นายวรัญญู เกตุชู อายุ 20 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และน.ส.กัญจนภัส ปัญญาประเสริฐ อายุ 23 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะวิทยาศาสตร์ สถาบันเดียวกัน ว่า ขณะนี้ตำรวจได้ทำการสอบปากคำพยานซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ที่พอให้การได้ และรวบรวมพยานหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิด ส่วนน.ส.อรชร หรือแพรวา เทพหัสดิน ณ อยุธยา อายุ 16 ปี คนขับรถฮอนด้าซีวิคคู่กรณี ขณะนี้ยังคงพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บปวดที่สะโพก ซึ่งการพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลต้องปิดเป็นความลับ เนื่องจากตอนนี้ น.ส.อรชร มีความหวาดกลัว เพราะถูกข่มขู่เอาชีวิต อย่างไรก็ตามตำรวจยังไม่ได้สอบปากคำ น.ส.อรชร และยังไม่แจ้งข้อกล่าวหา เนื่องจาก น.ส.แพรวา ยังเป็นเยาวชน ตำรวจต้องรอสอบปากคำร่วมกับสหวิชาชีพ ซึ่งหลังจาก น.ส.อรชร หายดีจะเชิญตัวมาสอบปากคำทันที ทั้งนี้ ตนขอยืนยันตำรวจจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
พ.ต.อ. ชัยวัฒน์ กลันทปุระ รองผู้บังคับการตำรวจจราจร กล่าวว่า สำหรับคดีนี้ มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนหลายราย เป็นเหตุสะทือนขวัญ โดยเมื่อช่วงเช้าพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบปากคำผู้บาดเจ็บที่พอให้การได้ ซึ่งยังคงพักรักษาตัวที่ รพ.วิภาวดี ซึ่งส่วนใหญ่ให้การไปเท่าที่ตนเองเห็น ส่วนคนขับรถเก๋งคู่กรณียังเป็นเยาวชน หลังเกิดเหตุได้รับบาดเจ็บพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล พนักงานสอบสวนจึงยังไม่ได้สอบปากคำ อย่างไรก็ตามได้ทำหารสอบปากคำมารดา ซึ่งให้การว่า รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอให้ตำรวจทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา เพื่อให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งตนขอยืนยันว่าไม่ต้องห่วงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะคดีนี้ ผู้บังคับบัญชาได้กำชับมาให้พนักงานสอบสวน ดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมา และให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งคดีนี้ได้ตั้งชุดสอบสวนไว้หมดแล้ว เบื้องต้นสำหรับคนขับรถเก๋งจะแจ้งข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ส่วนข้อหาอื่นจะพิจารณาไปตามพยานหลักฐานที่พบ ส่วนกรณีเยาวชนมาขับรถ ตำรวจต้องดูพ.ร.บ.จราจรมาประกอบการพิจารณาความผิด ส่วนรถทั้ง 2 คันให้เจ้าหน้าที่พฐ.มาเก็บรายละเอียดเพื่อเติมเพื่อนำไปประกอบสำนวนคดี ทั้งนี้ อยากฝากถึงผู้ที่เห็นเหตุการณ์สามารถเดินทางมาให้ข้อมูลกับตำรวจ สน.วิภาวดีได้ตลอด 24 ชม. ที่มา : http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=486975
รอดูต่อไป