ความคิดเห็นที่ 1 แต่ถ้าเปรียบเทียบราคาน้ำมันเครื่องสังเคราะห์ กับราคาน้ำมันเครื่องธรรมดาระดับน้ำมันเครื่องสูงสุด น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ จะมีราคาสูงกว่า 2-3 เท่า ทำให้ไม่สามารถกล่าวได้อย่างเต็มที่นักว่าคุ้มกว่าการใช้น้ำมันเครื่องธรรมดาหรือไม่ นอกเสียจากข้อมูลดังต่อไปนี้ที่คนทั่วไปนำมาเป็นหลักคิดครับ ผู้ที่ต้องการดูแลเครื่องยนต์เป็นพิเศษ , ผู้ที่ต้องการถนอมให้เครื่องยนต์สึกหรอน้อยที่สุด และต้องการให้รถของเรามีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น ซึ่งปัจจัยนี้เป็นปัจจัยหลัก ที่คนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกเลย ผู้ที่ชอบของแพง ถ้าอยู่ในฐานะที่สามารถซื้อหาได้ โดยไม่ได้ทำให้ใครต้องเดือนร้อน (เช่น ต้องแอบจิกเงิน ผบ.ทบ. อิอิ) ผู้ที่ใช้รถประมาณวันละ 100 กม.ขึ้นไป ไม่ว่าจะใช้ในเมืองหรือขับทางไกลก็ตาม โดยสามารถยึดระยะเปลี่ยนน้ำมันเครื่องจากที่กำหนดไว้ได้อีก 5,000 ถึง 10,000 กม. เพื่อชดเชยราคาที่สูงกว่า โดยไม่ต้องกังวลว่าน้ำมันเครื่องจะเสื่อมสภาพหรือไม่ จึงทำให้หมดห่วงไปได้ในเรื่องของน้ำัมันเครื่อง จากคุณ : นันท์ (nant minburi) เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 54 08:52:17

ความคิดเห็นที่ 2 การใช้น้ำมันเครื่องที่มีคุณภาพต่ำแต่เปลี่ยนบ่อยดีกว่าหรือไม่?   ฟันธงได้เลยครับว่า "เป็นวิธีที่ไม่ควรปฏิบัติอย่างยิ่งครับ" เพราะน้ำมันเครื่องคุณภาพต่ำนั้น จะทำให้เครื่องยนต์สึกหรอตั้งแต่แรกที่เติมแล้วครับ เปลี่ยนไปใช้น้ำมันเครื่องที่สูงกว่า ราคาอาจสูงกว่าแต่เรื่องคุณภาพจะดีกว่ามาก ๆ ครับ จะได้ประหยัดเงินในส่วนของค่าใช้จ่าย ในการซ่อมบำรุงเครื่องยนต์ไปได้อีกเยอะครับ แต่มีข้อสำคัญนิดนะครับว่า อย่าแน่ใจจากรูปแบบการบรรจุ และข้อความด้านข้างเท่านั้น เพราะตอนนี้มีน้ำมันของปลอมออกมาขายกันเยอะครับ โดยไม่มีใครตั้งใจจะปราบปรามอย่างจริงจัง ทำให้ผู้บริโภคโดนเอาเปรียบอยู่เสมอมา และไม่สามารถไปเรียกร้องกับใครได้ ให้เราคิดเสียว่าของดี ราคาถูก ไม่มีในโลก ถึงจะแพงแต่คับด้วยคุณภาพ อย่างนี้น่าคบกว่าเยอะครับ การเลือกซื้อน้ำมันเครื่อง   ก่อนอื่นเลยก็ต้องเลือกที่ "ยี่ห้อ"และตัวแทนที่มีมาตรฐาน แล้วจึงค่อยเลือกระดับความหนืด และคุณภาพของน้ำมันเครื่องที่เหมาะสมกับการใช้งานของเรา เช่น น้ำมันเครื่องโดยทั่ว ๆ ไปจะมีค่าดังต่อไปนี้ครับ 10W-40 , 15W-40 , 15W-50 , 20W-50 ส่วนค่าตัวเลขในชุดหลังนั้นจะต้องไม่ต่ำกว่า 40 (ความหนืด) นะครับ ยกเว้นน้ำมันเครื่องสังเคราะห์ ถ้าใช้รถในที่หนาวเย็นบ่อยควรเลือกเบอร์แรก ๆ ไว้ก่อนครับ เช่น 10W-40 หรือ 15W-40 จะดีที่สุด ดูข้อมูลค่าตัวเลขได้ตามตารางข้างล่างครับ จากคุณ : นันท์ (nant minburi) เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 54 08:53:51

ความคิดเห็นที่ 3 การตรวจสอบคุณภาพน้ำมันเครื่องด้วยตัวคุณเอง   ตามปกติผู้ใช้รถต้องหมั่นตรวจระดับน้ำมันเครื่องอย่างสม่ำเสมอสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง ไม่ควรปล่อยให้ระดับน้ำมันเครื่องอยู่ในระดับที่ต่ำจนเกินไป ซึ่งในการตรวจระดับน้ำมันเครื่อง คุณสามารถทำได้ตามขั้นตอนดังนี้ จอดรถอยู่ในแนวระดับราบ อุ่นเครื่องยนต์จนถึงอุณหภูมิทำงาน ดับเครื่องยนต์ทิ้งไว้ 4-5 นาที เพื่อให้น้ำมันเครื่องไหลกลับมาลงอ่างแล้วจึงทำการตรวจสอบ น้ำมันเครื่องที่ปลายก้านวัดน้ำมันเครื่อง ควรอยู่ระหว่างขีด " F " และ " L " (ส่วนรถมอเตอร์ไซต์ก็ดูที่ตาแมวแถว ๆ บริเวณเครื่องได้ครับ ) ถ้าน้ำมันยังไม่ได้ระดับให้เติมน้ำมันเครื่องทีละน้อย จนถึงระดับที่เหมาะสม (น้ำมันควรอยู่ระหว่างขีด " F " และ " L ") ข้อควรระวัง อย่าเติมน้ำมันเครื่องมากเกินไป เพราะหากมีน้ำมันเครื่องมากเกินไป ข้อเหวี่ยงอาจตีไปโดน และกระเด็นเข้าสู่ห้องเผาไหม้ จนทำให้เกิดควันขาว และทำให้เครื่องยนต์เสียหายได้ ในระหว่างการตรวจเช็ค ควรระมัดระวัง เพราะอาจสัมผัสถูกท่อร่วมไอเสียขณะที่มีอุณหภูมิสูง   สุดท้ายนี้ การเลือกใช้น้ำมันเครื่องนั้น ควรใช้ปัจจัยหลาย ๆ อย่างมาเป็นตัวตัดสินใจ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการปฏิบัติตามคู่มือจะดีที่สุด ว่าควรใช้แบบไหนและอย่างไร ในคู่มือการใช้รถมีบอกเอาไว้อยู่แล้วครับ แต่ถ้าใครต้องการดูแลเครื่องยนต์ให้อยู่ทนทานและสภาพดี และไม่ได้กังวลเรื่องราคามากนัด ก็เลือกใช้น้ำมันเครื่องคุณภาพดีไปเลยครับ และสิ่งสำคัญระลึกไว้เสมอครับว่า "ของดีราคาถูก ไม่มีอยู่ในโลกนี้ ของดีราคาแพง แต่มักจะแพงอย่างมีเหตุผลครับ" จากคุณ : นันท์ (nant minburi) เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 54 08:54:34

ความคิดเห็นที่ 4 พี่ครับ  10w-30 ของฮอนด้า กับ 10w-30 ของรถดีเซลนี่  เติมแทนกันได้เลยใช่มั้ยครับ  รอบหน้าตอนเปลี่ยนน้ำมัน ผมจะได้ใส่แทนเลยถ้าหาของไม่ได้  ขอบคุณครับพี่ จากคุณ : นกกระจอกตัวอ้วน เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 54 09:15:16

ความคิดเห็นที่ 5 กอล์ฟ ใช้ PTT สังเคราะห์ 100%   เสียงเครื่อง เสียงเข้าเกียร์  เงียบ กริ๊บ! จากคุณ : กอล์ฟ (spry_dragon) เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 54 09:18:55

ความคิดเห็นที่ 6 ผมยอม ลดระยะการเปลี่ยนถ่าย น้ำมันเครื่อง จาก 10000 มาเป็น 5000 กิโล ดีกว่าครับ น้ำมันเครื่อง ที่ระยะ 20000 กิโล ยังไงก็สกปรก กว่า ล่ะครับไม่ว่าจะใช้น้ำมันเครื่องอะไร จากคุณ : นายสบายสบาย เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 54 09:21:59

ความคิดเห็นที่ 7 . แก้ไขเมื่อ 05 ม.ค. 54 09:22:59 จากคุณ : กอล์ฟ (spry_dragon) เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 54 09:22:18

ความคิดเห็นที่ 8 กระป๋องเท่าไรครับกอล์ฟ จากคุณ : นันท์ (nant minburi) เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 54 09:43:33

ความคิดเห็นที่ 9 ow40 ของ Mobil 1  ผมเกินมา 3000 กิโลเมตรแล้วยังไม่ได้เปลี่ยนเลย  อิอิ  เอาไว้เปลี่ยนอีก 2000 กิโลมตรล่ะกันเนอะ !  อิอิ จากคุณ : PRUEKPOOm เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 54 09:44:45

ความคิดเห็นที่ 10 #5  ผมว่าของ ptt เครื่องดังกว่า mobil 1 นะครับ !! จากคุณ : PRUEKPOOm เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 54 09:45:39

ความคิดเห็นที่ 11 รถยนต์ที่บ้าน ใช้ สังเคราะฆื 100 % มอไซด์ที่บ้านเลยได้รับอนิจสงค์ด้วย จากคุณ : จิ๊กโก๋กรุงเก่า เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 54 09:46:51

ความคิดเห็นที่ 12 จากคุณ : นกกระจอกตัวอ้วน ถ้าหาไม่ได้จริงๆ ก็เติมได้เลยครับ เพราะมันแค่เสริม ตัวสารชะล้างเขม่า และสารป้องกัน กรดกำมะถัน ที่เกิดจากงการเผาใหม้ของน้ำมันดีเซล เพิ่มเข้าไป  เท่านั้นครับ ผมว่าฟีมพ์น้ำมัน น่าจะแข็งแรงกว่าของน้ำมันเครื่องเบ็นซินเสียอีกนะครับ เพราะเครื่องยนต์ดีเซล ใช้อัตราส่วนแรงอัดสูงมากๆ กว่า 22 ต่อ 1 เพื่อจุดระเบิด ไอน้ำมัน โดยไม่ต้องใช้หัวเทียนเสียอีกนะครับ จากคุณ : นันท์ (nant minburi) เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 54 09:50:24

ความคิดเห็นที่ 13 เครื่องยนต์จะสึกหรอสูงช่วงสตาร์ท เนื่องจากไม่มีน้ำมันเครื่องไปหล่อเลี้ยง หลังจากสตาร์ทแล้วปั้มน้ำมันเครื่องจะส่งน้ำมันเครื่องเข้าไปเลี้ยงชิ้นส่วนต่างๆ ก็ต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง ซึ่งช่วงนี้เป็นช่วงที่มีการสึกหรอสูง ฉะนั้นน้ำมันเครื่องสังเคราะห์มีคุณสมบัติการยึดเกาะผิวได้ดีกว่าน้ำมันเครื่องธรรมดา จึงปกป้องเครื่องยนต์ทันทีที่สตร์าท (คงเคยได้ยินข้อความโฆษณาน้ำมันเครื่องสังเคราะห์มาบ้าง) ถึงแม้จะดับเครื่องไว้นานๆ น้ำมันเครื่องสังเคราะห์จะมีฟิล์มบางๆ ติดกับผิวโลหะอยู่ ส่วนน้ำมันเครื่องธรรมดาก็จะไหลลงสู่ก้นอ่างน้ำมันเครื่องหมดจึงไม่ปกป้ัองตอนสตาร์ท จากคุณ : Maechai เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 54 09:52:34

ความคิดเห็นที่ 14 ขอบคุณมาก จากคุณ : ayuhi292 เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 54 09:52:56

ความคิดเห็นที่ 15 คุ้มไหมไม่แน่ใจ...แต่ อย่าเป็นน้ำมันปลอมละกัน.... จากคุณ : เอกะยอง เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 54 09:55:57 A:113.53.123.216 X: TicketID:293437

ความคิดเห็นที่ 16 ผมเห็นด้วยนะ โดยเฉพาพประโยคที่ว่า "การใช้น้ำมันเครื่องที่มีคุณภาพต่ำแต่เปลี่ยนบ่อยดีกว่าหรือไม่?" ผมบอกได้เลยว่าไม่ควร เพราะน้ำมันเครื่องคุณภาพต่ำทำให้เครื่องยนต์สึกหรอง่าย ถึงมันจะคุ้มกับราคาตอนเปลี่ยนน้ำมันเครื่องแต่ละครั้งก็จริง แต่ระยะยาว มีโอกาสจ่ายเงินซ่อมเครื่องเร็วกว่ารถที่เติมน้ำมันเครื่องเกรดดีๆแน่นอน แล้วลองคิดดูว่ามันจะยังคุ้มหรือไม่คุ้มครับ จากคุณ : Mr.Submarine เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 54 10:00:50

ความคิดเห็นที่ 17 แล้วกึ่งสังเคราะห์ล่ะครับ ควรเปลี่ยนกันที่ กี่กิโลครับ ตอนนี้ใช้ Valvoline อยู่ ใช้มา 1,700 แล้ว ควรเปลี่ยนรึยังครับ ใช้งานวันละ 15 โล ครับ จากคุณ : amprezza เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 54 10:02:56

ความคิดเห็นที่ 18 โดยส่วนตัว ผมว่าไม่คุ้มครับ ... เพราะว่า ประสิทธิภาพ ไม่ได้ดีกว่าอย่างเป็นสัดส่วน กับ ส่วนต่างของราคาครับ จากคุณ : สยึมกึ๋ย เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 54 10:09:15

ความคิดเห็นที่ 19 เจ้าอ้วนผมใช้คาสตอนป๋องทอง100%ครับ    เข้าเกียนิ่มๆเลยครับ     ส่วนn   pro  ผมใช้PTT  สังเคาะครับเพราะไม่ได้ขี่นานๆขี่ทีครับ จากคุณ : nsr 150 sp เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 54 10:24:55

ความคิดเห็นที่ 20 ผมใช้สังเคราะห์ 100% มาตลอด สุดท้าย ขายรถมือสองไปถูกๆ จากคุณ : letpost เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 54 10:26:20

ความคิดเห็นที่ 21 เอ่อ ผมใช้กึ่งสังเคราะห์เปลี่ยนทุก 5 พันกิโลครับ ไม่ทราบว่าดีรึเปล่าครับ ใจจริงก็อยากจะใช้สังเคราะห์ 100% เปลี่ยนทุก 1 หมื่น นะครับ แต่เปลี่ยนทีเกือบ 3000 (รถกระบะนะครับใช้ที 7 ลิตร) จากคุณ : hotmale เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 54 10:34:18

ความคิดเห็นที่ 22 จาก คห.5 คุณกอล์ฟ น่าจะคิดไปเอง..เพราะน้ำมันเครื่องไม่เกี่ยวกับระบบเกียร์เลย.. จากคุณ : InBox เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 54 10:43:15

ความคิดเห็นที่ 23 น้ำมันเครื่องเกี่ยวกับระบบเกียร์แน่นอนครับ เพราะเป็นครัชเปียกไม่ใช่ครัชแห้งครับ ถ้าน้ำมันเครื่องไม่มีคุณภาพหรือใช้ไปนานๆเกียร์จะแข็ง ถ้าเป็นพวกสังเคราะห์เข้าเกียร์ง่ายและนิ่มด้วย เสียงเครื่องก็เงียบด้วย จากคุณ : เอ็ม เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 54 10:57:08 A:183.89.239.115 X: TicketID:301662

ความคิดเห็นที่ 24 ผมดูว่ากรองน้ำมันเครื่องจะเปลี่ยนที่เท่าไร เช่น สเปคระบุว่ากรองน้ำมันเครื่องเปลี่ยนทุกๆ 1 หมื่นกิโลเมตร ผมก็จะเลือกใช้น้ำมันเครื่องเกรดกึ่งสังเคราะห์ซึ่งสามารถใช้งานได้ 10,000km สบายๆ (เป็นห่วงไส้กรองครับ หากน้ำมันเครื่องใช้งานได้ 20,000km เดี๋ยวประสิทธิภาพการกรองจะลดลง สิ่งสกปรกจะผ่านเข้าไปได้) จากคุณ : 2.2SEG เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 54 11:23:18

ความคิดเห็นที่ 25 น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ มันคุ้มสำหรับคนรักรถ ยามขับขี่ก็รู้สึกดีกว่า อันนี้ยิ่งชัดเจนสำหรับรถที่ใช้เกี่ยร์ ใช้คลัทซ์ เพราะน้ำมันเครื่องถูกๆ กับน้ำมันเครื่อง สังเคราะห์ เมื่อวิ่งซัก 80-100 กิโล จะยิ่งเป็นความแตกต่าง น้ำมันเครื่องถูกๆ เมื่อวิ่งใช้งานหนักๆเข้า เมื่อบีบคลัทซ์รู้สึกเลยว่าคลัทซ์เริ่มลื่น เครื่องเริ่มอืด กำลังเครื่องยนต์ตกลงไปเห็นๆ ยิ่งวิ่งนานๆ ยิ่งรู้สึกเหมือนเครื่องยนต์มันทรมาน ความร้อนขึ้นสูงมาก แต่น้ำมันเครื่องสังเคราะห์คุณภาพสูง อาการเหล่านี้แทบไม่มี แค่ยามขับขี่ก็รู้สึกคุ้มที่จะใช้แล้ว ยิ่งหากรถอายุเยอะๆ เลย 5 หมื่นกิโลขึ้นไป รถที่ใช้น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ตลอด สภาพเครื่องยนต์ยังคงฟิตแน่นดีอยู่ ขับขี่สนุก แต่ถ้าใช้น้ำมันเครื่องถูกๆมาตลอด เครื่องเริ่มหลวม กำลังเริ่มตก ถ้าอยากให้กลับมาดีเหมือนเดิม ก็คงต้องฟิตเครื่องใหม่ ซึ่งบางคนอาจจะคิดว่าคุ้มกว่าค่าน้ำมันเครื่องสังเคราะห์ที่เสียไป แต่สำหรับบางคน อาจจะไม่ ซึ่งผมก็เป็นหนึ่งในนั้น อยากให้เครื่องยนต์คงสภาพที่ดีไปนานๆ ไม่อยากต้องแกะเครื่อง ผ่าเครื่องโดยไม่มีเหตุจำเป็นใดๆ อยากให้มันอยู่ไปอย่างนั้น 10 ปี 20 ปี สำหรับผมน้ำมันเครื่องสังเคราะห์ นับว่าคุ้มมาก โดยเฉพาะด้านจิตใจ จากคุณ : kuromonkey เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 54 11:31:19

ความคิดเห็นที่ 26 ผมว่าสังเคราห์ที่แพง เพราะต้องจัดชุดมาเป็นของแถม บังคับซื้อน้ำมันที่ต้องบวกราคาของแถม ถ้าตัดของแถมออก ราคาก็ลดลงไปอีกเยอะ ของผมเน้น กึ่งสังเคราะห์แล้วเปลี่ยนเร็วกว่ารอบละครับ น่าจะถนอมเครื่องได้ดีกว่าใช้ดีๆ แล้วนานเกิน จากคุณ : น้องปลาดาว เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 54 11:47:57

ความคิดเห็นที่ 27 เราชอบของ mobile 1 เพราะเคยลอง PTT แล้วอืดกว่านิดหน่อย แต่ก็ใช้ได้ทั้งคู่ เอาความชอบเป็นหลัก จากคุณ : Crazy-MOTOGP เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 54 11:55:17

ความคิดเห็นที่ 28 น้านันท์ ประเด็นนี้ไม่รู้จะเกี่ยวมั้ย คือ ลองใช้ คาสตรอล กระป๋องทอง trizone อ่ะนะ ใช้แล้ว เกียร์เข้านิ่ม ลื่น "แต่" หลุดบ่อย แบบว่าจังหวะเปลี่ยนเกียร์จะเว่าบ่อย ไม่เข้าบ้างอะไรแบบนี้ แต่พอใช้ ptt syn แล้ว เกียร์แข็งกว่าเดิม เข้ายากนิดหน่อย แต่ไม่มีปัญหาเว่า เลย จากคุณ : un750 เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 54 12:54:24

ความคิดเห็นที่ 29 ความคิดเห็นที่ 8   กระป๋องเท่าไรครับกอล์ฟ จากคุณ : นันท์ (nant minburi)  310 บาท มั้งครับ  ประมาณนี้  ลืมแล้ว   เปลี่ยนไป 2 รอบแล้ว ไม่ซีเรียสเรื่องราคาเท่าไหร่ แต่ซีเรียสเรื่องทีซื้อ  หายากมว๊าก   จากคุณ : กอล์ฟ (spry_dragon) เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 54 13:17:26

ความคิดเห็นที่ 30 คุ้มดิ  รถผมดรีม125ตอนนี้เหลืออีก 400โลจะวิ่งครบแสน ผมเปลี่ยนน้ำมันที่ 10000 โล  เปลี่ยนมา10ครั้งเอง (+1ตอนรันอิน) สมรรถนะเครื่องก็ยังดี  ลองอัดสุดๆได้ 105-110 เหมือนตอนใหม่ๆแต่วาล์วดังกว่า จากคุณ : ZXR เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 54 13:27:05

ความคิดเห็นที่ 31 ส่วนตัว... ใช้สังเคราะห์์ 100% จะคุ้มค่ามากกว่า เพราะจะเปลี่ยนที่ 5-6,000 km แต่ถ้าใช้แบบธรรมดาหรือกึ่งสังเคราะห์ มือมันจะคัน จะจับเปลี่ยนที่ 2,000 km ในบางครั้งอัดหนักๆแช่ยาวๆ น้ำมันเครื่องจะพร่องไปเยอะ ผมก็จับเปลี่ยนถ่ายเลยครับ จากคุณ : dnt_mocyc เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 54 14:34:43

ความคิดเห็นที่ 32 ส่วนตัวชอบสังเคาะห์ 100% ค่ะ ใช้มาสองปีกว่าแล้ว วิ่งทางไกล รู้สึกได้เลยว่าการระเหยของน้ำมันเครื่องช้าลง ต่างจากกึ่งสังเคราะห์ ประมาณ 5,000 โลก็เปลี่ยนถ่ายครั้งนึง พร้อมไส้กรองน้ำมันเครื่อง ระหว่างนั้นก็เช็คระดับถ้าพร่อง ก็เติมเอา ตอนนี้ 54,xxx โลแล้วเครืองเดิม ก็ไม่เคยมีปัญหาอะไร ใช้งานทุกวัน จากคุณ : สุ ส า น แ ม่ ม ด เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 54 15:04:06

ความคิดเห็นที่ 33 จากคุณ : un750 อั้น  ใช้คาสตรอล กระป๋องทอง trizone อาการ เหมือน คลัชจากไม่พอ หรือตั้งคลัชต่ำไป ทำนองนี้มั้งครับ จากคุณ : กอล์ฟ    เห้นในเวบ cbr ขายกันกระป์อง ละ200 อะครับ จากคุณ : dnt_mocyc   สังเกตุ จากที่ผมก็ใช้รถ จ่ายตลาด มาวิ่งเที่ยว ไกลๆ ทีละหลายร้อยกิโล มันก็วิ่งได้ แต่เครื่องจะแหวนหลวมเร็วมากๆ กินน้ำมันเครื่อง แหลกลาน ครับ เครื่องก็โทรมเร็วกว่าปกติ เนื่องจากออกแบบมาให้ประหยัดวิ่งเร็วธรราดา ๆ แต่พอลากยาวๆ ความร้อนจึงสะสมมากเกินลิมิต ที่ออกแบบมา แหวน ล้า แหวนหลวม  ซีลก้านวาล์วเสื่อมเร็วกว่าปกติเลยครับ จากคุณ : นันท์ (nant minburi) เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 54 15:39:52

ความคิดเห็นที่ 34 เพิ่งจะลองเป็น TOTAL Fully Synthetics 5W-30 มาเร่งเครื่องทันใจ รู้สึกว่าไม่อืดเหมือนเปลี่ยนของศูนย์เลยค่ะ ติดใจสะแล้ว พอดีมีศูนย์เปลี่ยนถ่าย Total ใกล้บ้านด้วย คราวหน้าต้องกลับไปใช้บริการอีก จากคุณ : กระปอมข่าวสาว เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 54 16:14:25

ความคิดเห็นที่ 35 ไม่รู้นะ ผมเปลี่ยนทุกๆ1,000โล เป็นบ้าเปลี่ยน ยี่ห้อน้ำมันเครื่องไม่เกี่ยง น้ำมันเครื่องรถยนต์รถถังใส่ได้หมด เอาแค่เกรดสูงๆดีๆหน่อยเป็นพอ จากคุณ : momaster เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 54 19:55:21

ความคิดเห็นที่ 36 ปกติแล้ว มันใช้ได้ นานเป็น 2 เท่า ของน้ำมันเกรดธรรมดา ถ้า 10000 โล เกรดธรรมดา เปลี่ยน 2 ที เกรดดี เปลี่ยน 1 ที คิดค่าใช้จ่ายก็พอกันอะ แต่ได้น้ำมันเกรดดีกว่า จะเลือกแบบไหนดีหล่ะ  ... แก้ไขเมื่อ 06 ม.ค. 54 05:16:19 จากคุณ : ek_ เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 05:11:06

ความคิดเห็นที่ 37 สังเคราะห์100%คุณภาพอาจจะคุ้มราคา แต่...ใช้กันถึงจุดนั้นรึป่าว คุณแช่5-6000รอบตลอดรึป่าว ถ้าใช่ก็ใช้สังเคราะห์ไปเถอะครับ แต่ชีวิตจริงเติมสังเคราะห์แต่มาขับกันแค่3-4000รอบแบบนี้ไอ้คุณสมบัติที่ดีจนเกินไปมันก็ไม่มีประโชยน์ สังเคราะห์ไม่ได้บ่งบอกว่าเครื่องจะสึกหรอช้ากว่า วัดกันที่API/S... ดีกว่าครับ จากการใช้งานจริงรถ1คันใช้สังเคราะห์มาตลอดปรากำว่า350000โลเครื่องหลวมโครกเหมือนกันไมไ่ด้ต่างจากรถที่ใช้น้ำมันเครื่องธรรมดาเลย แก้ไขเมื่อ 06 ม.ค. 54 09:28:31 จากคุณ : t (chat725) เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 09:27:38

ความคิดเห็นที่ 38 ^ ^ ^ อันนี้เค้าคงจะหมายถึงน้ำมันเครื่องมอเตอร์ไซค์ครับ ซึ่งปกติ จะใช้รอบสูงมาก น่าจะ 7000 รอบขึ้นไปจนถึง 13,000 รอบครับ แบบ 3-4000 รอบนี่ คงขี่ในหมู่บ้านมั้ง จากคุณ : Mr.Submarine เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 14:56:47

ความคิดเห็นที่ 39 ความคิดเห็นที่ 21 กึ่งสังเคราะห์ให้เปลี่ยนที่ 8000 โลครับ ถ้าเป็นแบบธรรมดาถึงจะเปลี่ยนที่ 5000 โล จากคุณ : ถั่งโถมโหมแรงใจ เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 02:55:56