ความคิดเห็นที่ 1 เข้าคิวรออ่านครับผม จากคุณ : โอ่วโซว เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 11:55:34

ความคิดเห็นที่ 2 รถสวยครับ จากคุณ : วัตถุโตไว เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 11:59:59

ความคิดเห็นที่ 3 ก่อนที่ผมจะไปรับ W202 คันนี้มาใช้ ช่วงนั้นผมกับคุณพ่อกำลังหารถมือ2สักคัน กะว่าหางบประมาณสักคันละ 3-4 แสนบาท ที่มองๆไว้ก็ Viosรุ่นเก่า Altis โฉมก่อนปัจจุบัน แต่พอเปิดดูรถมือสองตามเว็บไซต์คุณพ่อดันไปถูกใจBenzรุ่นนี้ และด้วยความอยากลองว่าเจ้า Benz นี่ มันแหล่มแค่ไหน(อย่างที่เขาร่ำลือกันรึเปล่า) คุณพ่อเลยจัดคันนี้มาในราคา 7.2 แสน(พึ่งมารู้ทีหลังว่าแพง)ครับ จากคุณ : musuko เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 12:05:01

ความคิดเห็นที่ 4 รถที่ได้มาเป็น C class รุ่น Elegance เครื่อง 2,200 cc โฉมW202 ชื่อเรียกโดยทั่วไปเรียกกันว่า C220 (ซีสองสองศูนย์) เจ้าW202 คนส่วนมากจะเล่นรุ่น C180 ไม่ก็ C220 ไปเลยครับ แต่ถ้ืาชอบแบบหลังติดเบาะก็มี C240 กับ C280 ให้เลือก ราคาแค่7แสนกลางๆ แต่ผมซื้อ C220 Airbag2ใบ ในราคา7.2แสน ตอนนั้นมือไวใจเร็วไปหน่อยครับ บวกกับไปเจอรถสภาพดีเลยรีบตัดสินใจซื้อครับ แก้ไขเมื่อ 06 ม.ค. 54 13:24:32 แก้ไขเมื่อ 06 ม.ค. 54 12:13:13 จากคุณ : musuko เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 12:10:38

ความคิดเห็นที่ 5 ผมจะบรรยายไปตามรูป และนอกเรื่องนิดหน่อยนะครับ เนื่องจากผมเป็นคนขีดเขียนไม่ค่อยเก่งเท่าไหร่ จึงต้องขออภัยล่วงหน้าครับ มาดูทางด้านหน้ากันบ้างครับ ไฟหน้าของ W202 จะรวมไฟสปอร์ตไลท์ + ไฟหรี่ไว้ในโคมเดียวกันเลยครับ โดยไฟหรี่จะอยู่ในไฟใหญ่(ตรงนี้ผมชอบ) โดยส่วนตัวไม่ชอบไฟหรี่ที่แยกจากไฟใหญ่สักเท่าไหร่ แต่ตรงนี้ผมไม่ได้ถ่ายรูปมาให้ดูครับ ต้องขอโทษเพื่อนๆสมาชิกด้วย กระจังหน้าที่เห็นในรูปเป็นกระจังหน้าที่ติดรถมา ถ้าใครอยากจะให้รถดูแก่น้อยกว่านี้หน่อย คงต้องไปหากระจังหน้า5ซี่มาตบแต่งก็จะดูวัยรุ่นมากขึ้นครับ แก้ไขเมื่อ 06 ม.ค. 54 12:15:44 จากคุณ : musuko เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 12:15:31

ความคิดเห็นที่ 6 ผมจะบรรยายไปตามรูป และนอกเรื่องนิดหน่อยนะครับ เนื่องจากผมเป็นคนขีดเขียนไม่ค่อยเก่งเท่าไหร่ จึงต้องขออภัยล่วงหน้าครับ มาดูทางด้านหน้ากันบ้างครับ ไฟหน้าของ W202 จะรวมไฟสปอร์ตไลท์ + ไฟหรี่ไว้ในโคมเดียวกันเลยครับ โดยไฟหรี่จะอยู่ในไฟใหญ่(ตรงนี้ผมชอบ) โดยส่วนตัวไม่ชอบไฟหรี่ที่แยกจากไฟใหญ่สักเท่าไหร่ แต่ตรงนี้ผมไม่ได้ถ่ายรูปมาให้ดูครับ ต้องขอโทษเพื่อนๆสมาชิกด้วย กระจังหน้าที่เห็นในรูปเป็นกระจังหน้าที่ติดรถมา ถ้าใครอยากจะให้รถดูแก่น้อยกว่านี้หน่อย คงต้องไปหากระจังหน้า5ซี่มาตบแต่งก็จะดูวัยรุ่นมากขึ้นครับ จากคุณ : musuko เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 12:16:06

ความคิดเห็นที่ 7 ส่วนบั้นท้าย ผมว่าท้ายรถรุ่นนี้เป็นอะไรที่ไม่สวยเอาซะเลย ถ้ามองตรงๆจากท้ายรถ และผมคิดว่ารถรุ่นนี้ไม่ได้เหล็กแข็งแบบที่เค้าพูดกันซักเท่าไหร่ เพื่อนสมาชิกคงจะเห็นรอยบุบตรงฝาท้ายด้านซ้ายใกล้ๆโลโก้C220 อันเป็นผลมาจากการเข็นรถของ รปภ. ในหมู่บ้านที่ผมอยู่  และรุ่นเดียวกันของบ้านอื่นก็เป็นรอยบุบที่เดียวกันเป๊ะๆเลยครับ อีกจุดหนึ่งคือคิ้วมือจับฝาท้ายแตก(ดูจากรูป) คงเป็นเพราะรถมันเก่ามั้งครับ!#$ และท่อไอเสียในรูปก็ไม่ใช่ท่อเดิมแล้ว  ท่อที่ติดมาจากเต๊นท์รถเป็นท่อRacingเสียงดังมากก ผมเลยไปเปลี่ยนท่อninto(ท่อไทย) เสียงลดลงมาเยอะแต่ก็ยังดังอยู่ คิดอยู่ว่าวันดีคืนดีคงไปหาท่อSilentserดีดีมาติดสักชุดคงเงียบลงกว่าเดิมเยอะ แก้ไขเมื่อ 06 ม.ค. 54 12:27:00 จากคุณ : musuko เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 12:25:08

ความคิดเห็นที่ 8 กระจกมองข้างของ W202 เป็นทรง...กระบอกทึบๆ มีทั้งแบบพับไฟฟ้า แบบมีไฟเลี้ยว แต่ที่ติดรถผมมาเป็นแบบพับไม่ได้ แต่สามารถให้ตัวได้ทั้งด้านหน้า และหลัง เวลาเราขับไปเฉี่ยว หรือมีคนมาเฉี่ยวกระจกมองข้างรถเรา คุณภาพของกระจกมองข้าง... ผมไม่ได้ถ่ายเนื้อกระจกมาให้ดู แต่จะบรรยายเป็นคำพูดให้ฟังนะครับ ทัศนวิสัยของกระจกมองข้างค่อนข้างดี เรื่องกระจกมองข้างผมแบ่งไว้เป็น 3 Level 1. แคบแบบพวกกระจกRacing กระจกแบบนี้มุมมองจะแคบมาก 2. ปานกลางกำลังดี 3.ใหญ่มองได้กว้างแบบพวกหูช้างของรถกระบะ ผมให้คะแนนกระจกมองข้างของเจ้า W202 อยู่ในระดับ 2 ปานกลาง+ ตัวกระจกมีขนาดค่อนข้างเล็ก แต่มุมมองในกระจกไม่ได้แคบเลยครับ ถือว่าครอบคลุม และไม่หลอกตา เหมาะสำหรับการขับในเมืองเป็นอย่างมาก แถมกระจกยังเป็นสีฟ้า(ตัดแสง) และกระจกคนขับด้านขวายังมีเส้นแบ่งพาโนรามา มาให้ด้วย  ตรงนี้ต้องขอโทษที่ไม่ได้ถ่ายรูปมาให้ดูครับ และที่ผมให้คะแนน ปานกลาง+ เพราะว่าที่ความเร็วสูงๆ 140 150 160 กระจกมองข้างไม่มีเสียงลมรบกวนน่ารำคาญให้ได้ยินเลยครับ ต่างกับรถคันอื่นๆที่ผมเคยขับมาเลย แค่ที่ 110 เสียงลมผ่านกระจกมองข้างก็เสียงดังน่ารำคาญแล้ว แก้ไขเมื่อ 06 ม.ค. 54 12:35:40 จากคุณ : musuko เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 12:33:47

ความคิดเห็นที่ 9 อ้อมีรูปเนื้อกระจกด้วย ผมก็ลืมว่าถ่ายมาเหมือนกัน จากคุณ : musuko เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 12:36:36

ความคิดเห็นที่ 10 มือจับประตูมีทั้งแบบสีดำทั้งหมด สีเดียวกับตัวรถ และทูโทนแบบของผมครับ จากคุณ : musuko เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 12:37:11

ความคิดเห็นที่ 11 ตัวนี้ เดิม ..ๆ ..น่าจะประมาณ ปี 95-97 .. ราคา 7.2 แสน นี่แร๊งงงส์ พอดู เลย.. แต่ดูสภาพก็สวยดีครับ.. ผมเคยใช้อยู่ 5 ปี.. จนเวลาล่วงเลย มาสิบกว่าปี.. ถึงวันนี้ ผมว่ามันก็ยังสวยอยุ่นะ..ไม่ได้เชย จนดูไม่ได้.. นี่ถ้าลงงบ อีกสัก แสน..นะ แหล่มเลย ทีเดียว.. จากคุณ : ~cupid~ เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 12:37:16 A:223.204.66.165 X: TicketID:230028

ความคิดเห็นที่ 12 ไฟเลี้ยวในรุ่นของผมจะเป็นสีขาว แต่ใน C180 จะเป็นสีส้มครับ และใน C240 หรือ C280 จะเป็นสีขาวขลิบส้ม จากคุณ : musuko เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 12:38:10

ความคิดเห็นที่ 13 ล้อที่ติดรถมาเป็นล้อ 15 นิ้วครับ แต่คุณพ่อไปเปลี่ยนเป็นล้อ 17 หน้ากว้าง 8 นิ้ว เป็นแม๊กcopy Brabus Block6 ยางใส่ Dunlop LM703 215 45 R17 ครับ ความนุ่มนวลไม่ต้องพูดถึง กระด้างสุดๆไปเลย ต่างจากล้อ 15 เดิมๆ อันนั้นนุ่มมากกกก แต่อยากหล่อก็ต้องทนครับ -..- จากคุณ : musuko เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 12:40:46

ความคิดเห็นที่ 14 กระโปรงท้ายเดิมๆความจุเยอะพอควร แต่พอติดแก๊สไปแล้วความจุลดลงไปเยอะทีเดียว ปล. ขออภัยในความซกมก พอดีพึ่งกลับจากไปเที่ยวทับเบิกครับ ของยังไม่ได้เอาลงเลยครับ จากคุณ : musuko เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 12:43:50

ความคิดเห็นที่ 15 เทียบกับความยาวของขวดน้ำ1ลิตรครับ แก้ไขเมื่อ 06 ม.ค. 54 12:45:18 จากคุณ : musuko เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 12:44:25

ความคิดเห็นที่ 16 อุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยที่ให้มาครับ  เวลารถเรายางรั่วกลางคืน เจ้าสัญลักษณ์นี้สามารถถอดแล้วกางเป็นขาตั้งไว้เตือนรถที่วิ่งตามหลังมาได้ครับ จากคุณ : musuko เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 12:46:44

ความคิดเห็นที่ 17 ความกว้างห้องโดยสารทางด้านหน้า ดูในรูปเหมือนจะกว้างนะครับ เป็นเพราะเลนส์กล้องมันwideจัด แต่ผมอธิบายง่ายๆ ให้ไปลองนั่งTaxi Altis Lemo ความกว้างพอๆกันครับ จากคุณ : musuko เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 12:47:51

ความคิดเห็นที่ 18 แผงประตูข้างดีไซน์คลาสสิค(โบราณ) จากคุณ : musuko เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 12:48:25

ความคิดเห็นที่ 19 เรียบ หรู มีสไตล์ ดีค่ะ ^^ จากคุณ : ยำผักกูด เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 13:14:51

ความคิดเห็นที่ 20 สวิซปรับเบาะนั่ง และมือเปิดประตูครับ ผมชอบตรงนี้มากๆ เบาะนั่งปรับได้ 8 ทิศทาง พนักพิง กระดกเบาะหน้าหลัง ตัวรองท้ายทอยปรับสูงต่ำได้ และปรับได้เท่ากันหมดทั้งเบาะคนขับ และเบาะคนนั่งครับ แก้ไขเมื่อ 06 ม.ค. 54 16:15:43 แก้ไขเมื่อ 06 ม.ค. 54 16:15:26 แก้ไขเมื่อ 06 ม.ค. 54 16:14:44 จากคุณ : musuko เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 13:16:17

ความคิดเห็นที่ 21 ผู้โดยสารตอน2 ไม่กว้างมากครับ นั่งไม่สบาย ผมลืมบอกว่า เบาะรุ่นนี้ไม่ได้นุ่มเลยครับ ฟองน้ำค่อนข้างแข็ง ใครชอบนุ่มๆ แนะนำให้ไปทำฟองน้ำใหม่หมดครับ นุ่มแน่นอน จากคุณ : musuko เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 13:18:06

ความคิดเห็นที่ 22 ให้ดูระยะ Leg Room นะครับ แ่ค่ประมาณความยาวขวดน้ำเล็ก 1 ขวดเอง ปล.ปรับเบาะตอนหน้าในช่วงที่ผู้โดยสารตอนหน้านั่งสบายที่สุดครับ จากคุณ : musuko เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 13:19:29

ความคิดเห็นที่ 23 เบาะรองหัวผู้โดยสารตอนหลัง สามารถพับเก็บได้ครับ จากคุณ : musuko เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 13:19:56

ความคิดเห็นที่ 24 หน้าตาเกียร์ขึ้นบันไดแบบโบราณ เกียร์ใช้งานง่ายครับ และเป็นแบบขั้นบันได ทำให้เราstepเวลาเราเปลี่ยนเกียร์ เกียร์ของรุ่นนี้ยังไม่ใช่เกียร์ไฟฟ้าครับ การทำงานนุ่มนวล(ถ้าซ่อมมาแล้ว) แต่ก็ไม่ได้นุ่มนวลเหมือนรถญี่ปุ่นรุ่นใหม่ๆครับ ในภาพยังมีปุ่มปรับกระจกไฟฟ้าทั้ง4บาน คู่หน้า Auto เฉพาะขาลงครับ และมีปุ่มปรับกระจกข้าง ปุ่มเลือกโหมดเกียร์ E และ S E หมายถึง Economy โหมดประหยัดเกียร์จะเปลี่ยนตามรอบเครื่อง S คือ Standard ไม่ใช่ Sport นะครับ โหมดนี้เกียร์จะเปลี่ยนตามความเหมาะสมครับ แก้ไขเมื่อ 06 ม.ค. 54 13:22:59 จากคุณ : musuko เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 13:21:22

ความคิดเห็นที่ 25 พวงมาลัยทรงคลาสสิค(โบราณ) ขนาดเส้นรอบวงใหญ่กว่ารถสมัยนี้ครับ สาวไม่สนุกเหมือนพวงมาลัยเล็กๆึครับ และพวงมาลัยจับได้เกือบเต็มมือ ไม่เล็ก ไม่ใหญ่อวบอ้วนเหมือนทางฝั่งBMWครับ แต่สภาพหนังเดิมๆที่ได้มา ก็ถือว่าขับสมัยจับติดมือเลยครับ แก้ไขเมื่อ 06 ม.ค. 54 13:25:30 จากคุณ : musuko เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 13:23:53

ความคิดเห็นที่ 26 ปุ่มปรับระดับไฟหน้าสูงต่ำ  ปุ่มเปิดไฟหน้า ไฟตัดหมอก สปอร์ตไลท์ ไฟ Park รวมกันอยู่ในชุดเดียวกัน ไฟ Park คืออะไร ผมยกตัวอย่างเช่น เราจอดซื้อไม้ไล่หนูข้างถนน เราก็เปิดไฟหรี่ท้ายด้านขวา + ไฟหรี่หน้าด้านขวา ด้านเดียวได้ครับ เลือกได้ว่าจะเปิดเฉพาะด้านซ้าย หรือว่าด้านขวา ไฟ park นี้ผมใช้ประจำ เวลาจอดหน้าบ้านช่วงโพล้เพล้ จนมีคนมาทักประจำว่าหลอดไฟท้ายขาดข้างนึงเพ่... และที่เห็นสัญลักษณ์ P นั้นคือตัวปลดเบรคมือครับ แก้ไขเมื่อ 06 ม.ค. 54 13:28:55 จากคุณ : musuko เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 13:28:21

ความคิดเห็นที่ 27 ภาพนี้ซกมกไปหน่อยนะครับ ซ้ายสุดเล็กๆคือเบรคจอด หรือ ParkingBreak ครับ เวลาใช้ก็เหยียบลงไปเลยครับ เวลาปลดก็ใช้มือดึงตัวปลดใต้ปุ่มเปิดไฟหน้าจากภาพก่อนหน้านี้ คันเร่งของรถยุโรปส่วนมากจะเป็นแบบโผล่ขึ้นมาจากพื้น ซึ่งตรงนี้ผมชอบมาก รถคันนี้เป็นคันเร่งสายครับ ยังไม่ใช่คันเร่งไฟฟ้า แต่พวก C240 จะเป็นคันเ่ร่งไฟฟ้าแล้ว คันเร่งที่โผล่มาจากพึ้นแบบนี้สำหรับผมแล้ว ทำให้ลักษณะการวางเท้าเป็นแบบการพักไว้บนที่พักเท้า และส้นเท้าแตะพรมนิดๆ และด้วยตัวคันเร่งที่หนัก+ฝืดอยู่แล้ว ทำให้เวลาขับทางไกล เราไม่ต้องเกร็งข้อเท้ามากเพื่อคุมคันเร่ง(มันฝืด เลยไม่ต้องเลี้ยงคันเร่งมาก) ทำให้ขับสบายเท้ามากกว่ารถที่เป็นคันเร่งไฟฟ้า และเป็นคันเร่งแบบโผล่มาจากด้านบน การที่เราใช้ส้นเท้าเป็นจุดหมุน และด้วยคันเร่งที่เบา ทำให้เราต้องเกร็งข้อเท้ามากเพื่อคุมคันเร่งที่เบาหวิวให้นิ่งครับ แต่W202มีข้อเสียสำหรับผมก็คือ เบรคอยู่ห่างจากคันเร่งไปนิด และเบรค อยู่สูงจากคันเร่งค่อนข้างมาก ทำให้ต้องชักเท้ากลับขึ้นมาเพื่อกดเบรค ทำให้เวลาขับในเมืองที่ต้องใช้การเบรคบ่อยครั้งค่อนข้างเมื่อยครับ จากคุณ : musuko เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 13:38:57

ความคิดเห็นที่ 28 ปุ่มปรับกระจกไฟฟ้าครับ จะปรับกระจกข้างไหนก็บิดไปข้างนั้น และกดซ้ายขวา หน้าหลังได้ตามใจชอบเลยครับ จากคุณ : musuko เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 13:40:06

ความคิดเห็นที่ 29 แผงคอนโซลผมว่าเป็นการดีไซน์ที่เป็นอมตะมากๆเลยครับ ดูสบายตา และลงตัวกับรูปทรงของรถดี เครื่องเสียงนั้นไม่เดิมแล้วครับ เป็น JVC ติดจากเจ้าของเก่ามา เสียงของลำโพงเดิมๆติดรถ ผมว่าดีเลยครับ เหมาะสำหรับฟังเพลงเบาๆ นุ่มๆ เบสก็มีมากพอสมควรเลย  ถ้าใครชอบเสียงที่ใสกว่ากนี้ คมกริบกว่านี้ แค่เปลี่ยนลำโพงก็น่าจะเพียงพอแล้วครับ และบนคอนโซลจะมีปุ่มล๊อค ปลดล๊อคประตูรถ ไฟฉุกเฉิน ปุ่มเอาเบาะรองหัวด้านหลังลง แอร์จะเป็นแอร์Autoจอยาว ใ้ช้งานง่าย มี Heater มาให้ด้วย แต่แอร์ค่อนข้างเอาใจยากหน่อย พอเ็ย็นก็เย็นจัด พอเราปรับให้ร้อนก็กลายเป็นอุ่นซะงั้น จากคุณ : musuko เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 13:42:55

ความคิดเห็นที่ 30 ช่องเขี่ยบุหรี่ครับ จากคุณ : musuko เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 13:43:34

ความคิดเห็นที่ 31 ช่องใส่แก้วน้ำครับ จากคุณ : musuko เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 13:44:13

ความคิดเห็นที่ 32 พนักวางแขนกลาง จากคุณ : musuko เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 13:44:34

ความคิดเห็นที่ 33 ความจุเยอะมาก ใส่อะไรมั่วไปหมด จากคุณ : musuko เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 13:45:59

ความคิดเห็นที่ 34 หน้าปัดแบบคลาสสิค ดูก็รู้ว่าเก่า สามารถปรับความสว่างได้ ตัวจับเลขไมล์เป็นดิจิตอล ไม่เชื่อว่ารถสิบปีที่แล้วเป็นแบบนี้ครับ และมีเลขบอกอุณหภูมิภายนอกรถด้วยครับ แก้ไขเมื่อ 06 ม.ค. 54 13:47:18 จากคุณ : musuko เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 13:46:48

ความคิดเห็นที่ 35 ช่องแอร์เย็นสบาย และตัวบอกระดับแก๊สของ AG ครับ จากคุณ : musuko เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 13:48:09

ความคิดเห็นที่ 36 ไฟเก๋งหน้า แลกระจกมองหลัีงแบบตัดแสงด้วยการปรับมือครับ แต่ถ้าใครอยากจะได้กระจกตัดแสงแบบAutoก็มีครับ หาได้ตามเซียงกง ครับ จากคุณ : musuko เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 13:49:00

ความคิดเห็นที่ 37 ช่องเก็บเอกสารด้านฝั่งคนนั่ง ที่ผมเรียกว่าช่องเก็บเอกสารเพราะว่ามันใส่ได้แค่นั้นจริงๆครับ จากคุณ : musuko เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 13:49:31

ความคิดเห็นที่ 38 แผงลำโพงประตูหน้า เสียงดีนะนั้น จากคุณ : musuko เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 13:50:02

ความคิดเห็นที่ 39 เครื่องรหัส m111 2,200 cc เรี่ยวแรงมีน้อย ม้าแค่ร้อยกว่าๆ ออกตัวอืดสุดๆ แต่ปลายตั้งแต่ 110 ขึ้นไปมาเร็วมาก สามารถไหลได้ถึง 200 km/h เลยทีเดียวครับ ความทนทานไม่ต้องพูดถึง อึดถึุกสุดๆ อะไหล่เต็มบ้านเต็มเมือง แก้ไขเมื่อ 06 ม.ค. 54 13:54:16 จากคุณ : musuko เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 13:53:04

ความคิดเห็นที่ 40 พัดลมไฟฟ้าสำหรับแผงแอร์ครับ จากคุณ : musuko เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 13:55:07

ความคิดเห็นที่ 41 กลับมาที่ฝาถังน้ำมัน ต้องปลดล๊อคประตูรถ ฝาถังน้ำมันถึงจะเปิดได้ครับ จากคุณ : musuko เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 13:56:14

ความคิดเห็นที่ 42 สุดท้าย...ที่ปัดน้ำฝนแบบพาโนรามา ใบปัดอันเดียวแต่ปัดได้ทั้งบาน ผมว่ามันไม่เร็วพอนะครับ หรือว่ามันเก่าแล้วก็ไม่รู้ แต่ก็เท่ห์ดีครับ จากคุณ : musuko เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 13:57:07

ความคิดเห็นที่ 43 อืม รุ่นนี้ผมชอบครับ ถ้ามีเงินคงหามาไว้ซักคัน จากคุณ : . (นาข้า) เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 14:03:55

ความคิดเห็นที่ 44 อยากได้จริง ๆ แฮะ แต่กลัวได้มาแล้วจะซ่อมแพง จากคุณ : เงินเดือนสามพันขับวอลโว่ เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 14:09:17

ความคิดเห็นที่ 45 รถสวยครับ ญาติผมเพิ่งสอยมาคันนึงเหมือนกัน ผมเองก็แอบเข้าไปดูใน one2carบ่อยๆ เล็ง c220 รุ่นสุดท้ายไว้ ออฟชั่้นครบดี ^^ จากคุณ : kunimihero เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 14:13:48

ความคิดเห็นที่ 46 ผลสรุป... ผมจะสรุปเป็นข้อๆให้ฟังเลยนะครับ 1.เครื่องยนต์ เหมาะสำหรับขับเรื่อยๆไม่เร่งรีบ ออกตัวค่อนข้างอืด แต่ทำความเร็วปลายได้มาก จาก 110-180 km/h ใช้เวลาแป๊บเดียว แต่ผมว่ามีจุดอ่อนมากกับการขึ้นเขา...ผมพาเจ้าW202ไปขึ้นทับเบิกมา ผู้โดยสาร5คน รวมคนขับด้วย รู้สึกว่ารถมีแรงบิดน้อยมาก แต่ถ้าเราขับคันเดียวขึ้นเขาโดยใช้จังหวะของคนขับ...ขึ้นได้สบายๆเลยครับ แต่มันเป็นไปไม่ได้ในช่วงเทศกาล ซึ่งก็แน่นอนเวลาเราส่งรถขึ้นเนินไปแล้วไปเจอคันหน้าที่ติดอยู่กลางเนิน... จังหวะนั้นแหละครับเหนื่อยแทนรถจริงๆ กว่าจะลากขึ้นไปถึงยอดดอยได้ก็ลำบากพอตัวครับ แต่ถ้าขับแบบรถว่างๆใช้จังหวะส่งรถขึ้นไปนี่สบายๆครับผม เรื่องเสียงเครื่องยนต์ไม่ดังเข้ามาห้องโดยสารมากมายนักครับ 2.เบรค เบรคติดรถมาเบรคอยู่ แต่ต้องใช้แรงกดเบรคค่อนข้างหนัก แต่เบรคอยู่แน่นอนครับ  ถ้าอยากให้ดีกว่านี้ แนะนำให้ไปเปลี่ยนเป็นหม้อล้มชั้นครึ่งครับ เบรคสบายเท้ากว่านี้แน่นอน 3.ช่วงล่าง การเกาะถนนถือว่าดีเยี่ยม ให้ความรู้สึกเหมือนขับรถถังติดล้อ แต่ก็ไม่ได้หนักแน่นเหมือนรุ่นพี่W124(รุ่งโรงจำปา) จากการใช้ขึ้นเขาข้อ ไปจังหวัดเลย รถเกาะถนนดีมากๆ ไม่มีออกอาการปัดสบัดอวัยวะให้ได้เห็นกันเลยครับ 4.ฟีลลิ่งพวงมาลัย พวงมาลัยเหมือนทดรอบมาเยอะ ระยะฟรีมาก พวงมาลัยไม่ไวมาก แต่ระยะฟรีนี่ตั้งได้ แต่ผมยังไม่ได้ไปลองทำดูเลยครับ 5.ความสะดวกสบาย รถค่อนข้างแคบในตอนหลัง ผู้โดยสารจะนั่งไม่สบายมากเท่าไหร่นัก ด้านหน้ากว้างขวางพอตัว แต่ช่วงวางเท้าจะแคบเพราะรถเป็นรถขับหลัง ทำให้เท้าซ้ายติดเกียร์ครับ อุปกรณ์ที่ให้มาสะดวกสบายโดยเฉพาะเบาะไฟฟ้า อันนี้ผมชอบมากครับ ก็ถือว่าดีสำหรับรถอายุ 10 ปีครับ 6.ความนุ่มนวล ถ้ารักความนุ่มนวลโปรดใช้ล้อ15นิ้วต่อไปครับ แต่ถ้าชอบความหล่อเหลาจัดได้เลยครับ 17 18 19 นิ้ว แต่กระด้างสมใจอยากแน่ๆ(สปริงเดิม) 7.ความประหยัด W202บริโภคน้ำมันเยอะพอสมควรครับ แต่กับแก๊สกลับไม่บริโภคดุอย่างที่คิด แก๊ส 1 ถัง 58ลิตร สามารถขับไ้ด้ 430+ กิโลเมตรเลยครับ(ขับเรื่อยๆ110-120) แต่ถ้าเร่งรีบกดคันเร่งมาก ก็จะเหลือประมาณ 350กิโลเมตร การขับขี่ในเมือง(รถติด) แก๊ส300บาท(ราคาแก๊ส11.60) ผมวิ่งได้ประมาณ 250 กิโลเมตรครับ 8.อะไหล่ อะไหล่รุ่นนี้ไม่แพง ไม่ถูกครับ และหาได้ทั่วไป เรียกว่าไม่ต้องกลัวซ่อมไม่ได้ครับ จากทั้งหมดเพื่อนๆคงจะเห็นข้อดีข้อเสียในมุมมองของผมมาเยอะ ถ้าจะเปรียบเจ้า W202 C220 คันนี้กับคน ก็เหมือนคนวัยกลางคนอายุประมาณ 45 ปี ที่ประสบผลสำเร็จในชีวิตพอสมควร รถดี เครื่องแรงเยอะพอตัว รูปโฉมไม่โบราณยังดูสวยอยู่ ของแต่งเต็มบ้านเต็มเมือง เกาะถนนเยี่ยม แต่การทดสอบการชนได้ดาวไม่ถึง 5 ดาว(ดูจากคลิปที่มีคนเคยเอามาโพสในนี้) เอาเป็นว่าอยากทราบอะไรก็มาโพสถามผมได้เลยนะครับ และออกตัวก่อนว่าเขียนไม่ค่อยเก่งครับ วันนี้กราบสวัสดีทุกๆท่านแต่เพียงเท่านี้ครับผม จากคุณ : musuko เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 14:19:01

ความคิดเห็นที่ 47 ขอบคุณครับ รถสวยดี จากคุณ : ton_sakura เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 14:33:01

ความคิดเห็นที่ 48 รถสวย ถ่ายรูปก็สวย บ้านก็สวย มาพลาดก็ของที่ฝากระโปรงหลังเนี่ยแหละ 555 หยอกเล่นนะครับ  รถสวยจริงๆครับ ^^ จากคุณ : Avexter เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 14:42:47

ความคิดเห็นที่ 49 555+ พอดีพึ่งกลับจากไปเที่ยวสดๆร้อนครับ เลยไม่ได้เอาของลง แหะๆ จากคุณ : musuko เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 14:44:45

ความคิดเห็นที่ 50 แฟนคลับ ตามมาชมครับ รถสวยครับ จากคุณ : multiple เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 14:45:41

ความคิดเห็นที่ 51 เคยนั่ง สมัยอยู่มหาลัย บ่อยๆ (รถเพื่อนครับ รุ่นเดียวกัน แต่เกียร์ auto) เป็นรถดี ที่ option ไม่ ขาดไม่เกิน และ คุณภาพสูง ออกไปทาง ทนทานไม่จุกจิก ครับ น่าใช้งานมากๆ ดูตามภาพ ตัวรถสภาพดีจริงๆ อายุไม่ต่ำกว่า 10 ปี แต่เห็นไมล์ วิ่งไปแค่ 150,000 โล 7.2 แสน ไม่แพงครับ ถ้าได้ ผ้าม่านไฟฟ้า หลังติดมาด้วย แหล่มเลย จากคุณ : noname เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 15:01:03 A:58.136.28.211 X: TicketID:111907

ความคิดเห็นที่ 52 ขอบคุณคุณnonameที่เตือนความจำผม รุ่นนี้ถ้าใครต้องการม่านหลังไฟฟ้าก็มีนะครับ หรือคอพวงมาลัยปรับบนล่าง เข้าออกได้ ก็มีเหมือนกันครับ จากคุณ : musuko เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 15:05:48

ความคิดเห็นที่ 53 เห็นด้วยว่าจับมาแพงครับ ราคานี้ ซื้อได้ 1.5 คัน จากคุณ : NightWolf เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 15:06:21

ความคิดเห็นที่ 54 ขอบคุณครับ รถสวยดี สภาพยังสวยอยู่เลยครับ จากคุณ : ZamBoTTa เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 15:06:34

ความคิดเห็นที่ 55 ราคาที่ซื้อแพงเกินจริงไปเยอะครับ จริงๆไม่น่าเกิน 5 แสน แต่ถ้าเอามาใช้งานแล้วพอใจก็ถือว่าโอเคแล้วครับ จากคุณ : sert_pp เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 15:35:44

ความคิดเห็นที่ 56 แถมให้อีกนิด..นึง..เป็นทริค เล็กๆ ของรุ่นนี้ ที่เกี่ยวกับกุญแจ จริงๆ บางเรื่องผมก็จำไม่ได้แล้วนะ..อาศัย เจ้าของกระทู้ มารีวิว เตือนความจำ หน่อย..555 การ พับหมอนหนุนหัว ด้านหลัง..ใช้กดปุ่มหน้าคอนโซล.. เด็ก สตรีชรามีครรภ์ ควรระวัง ตกใจ..มัน ตก ดัง ตุ๊บ เลย ทีเดียว ส่วนม่าน เป็นอุปกรณ์ เสริม..ของผมได้แถม มา ตอนออกรถ.. ทริคของกุญแจ พับ รุ่น นี้..คือ ปุ่ม เปิดปิดประตู ..สามารถสั่งการ ปิดกระจก ..จากภายนอกรถ ได้..ในกรณี ที่ลืมปิดหน้าต่าง. แล้วล๊อค รถ เรียบร้อย..ให้กด ปุ่ม ค้างไว้..สักไม่กี่วิ..ระบบ จะเลื่อนกระจก ขึ้น โดยไม่ต้องเปิด..ประตู เสียบกุญแจ เพื่อปรับกระจกขึ้น..อีก. กุญแจระบบนี้..แบบพับ..ใช้ได้หมด ..ทั้ง ..S ปลาวาฬ E ตากลม.ตัวแรกๆ ก่อน กุญแจน้ำเต้า.. แล้ว ก็ C ตัวนี้.. จากคุณ : ~cupid~ชักคิดถึง.. เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 15:59:14 A:223.204.66.165 X: TicketID:230028

ความคิดเห็นที่ 57 เห็นแล้ว คิดถึงคันเก่าตัวเอง รุ่นเดียวกัน C220 แต่ชุด แอร์ของผมเป็นอีกแบบนึง และของผมเป็นสีน้ำเงิน ขายไป 7 ปีที่แล้ว ล้านนึง วิ่งไป แสนกว่าๆ พูดให้เขย่าขวัญเล่นๆว่า สาเหตุหลักที่ขายไป เพราะเหนื่อยใจกับค่าซ่อมนี่แหละครับ จากคุณ : Niceguy_C3 เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 15:59:29

ความคิดเห็นที่ 58 จริงๆ ว่า..ราคา สูง..แต่คง ไม่..ได้ ต่ำกว่า ห้าแสนหรอกครับ. เพราะเท่าที่ดู ที่ราคาต่ำกว่า นี้..ส่วนมากจะเป็น รุ่น ปี 95 ลงมา. เป็นรีโมท ยิง กระโปรงหลัง.. แต่รุ่นเจ้าของกระทู้ น่าจะเป็น รุ่น ปลายๆ ..ประมาณ ปี 96-97 ฉะนั้น ราคาน่าจะอัพ ขึ้นมานิดนึง.. น่าจะเลยห้า.ขึ้นมาถึง หก ..ในกรณ๊ สภาพดีดี. ประเภท ต่ำกว่าห้าแสน.คงเป็น ปีเก่า ..หน่ะครับ.. แต่บางคนกลับชอบ..เพราะ ปี เก่า..ๆ ..เป็นรถ นำเข้า.. รุ่นนำเข้า ส่วนมาก..มี ที่ฉีดน้ำปัดกระจกหน้าด้วย.. จากคุณ : ~cupid~ เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 16:02:15 A:223.204.66.165 X: TicketID:230028

ความคิดเห็นที่ 59 ชุดแอร์ตัวนี้ น่าจะเป็นตัวกลาง..ประมาณ รถผม ..ถ้าผมจำไม่ผิด..มันแยกอิสระ ซ้าย-ขวา ถ้าเก่ากว่านี้..จะเป็นแบบ บิดหมุน.. แต่ หลังๆ ก็จะมี แอร์ อีกรุ่น..รุ่นปลายๆ รุ่น..ตอน E ตากลม ออกมาใหม่ๆ..ก็จะเป็นแอร์ อีกแบบ ที่ใช้ หน้าปัทม์ แอร์ เหมือน.. E ตากลม.. แต่ผมจำแบบไม่ค่อยได้นะ..มันสับสน กะ อีตากลม..ตัวใหม่ ตัวเก่า.. ผมขาย ไปน่าจะ ร่วม สิบปี แล้ว.. ลืมๆ .. จากคุณ : ~cupid~ เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 16:06:11 A:223.204.66.165 X: TicketID:230028

ความคิดเห็นที่ 60 รถผมในเล่มลงไว้ว่าจดทะเีบียนตอนปี 1999 ครับ สงสัยเจ้าของเก่าลาก จากคุณ : musuko เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 16:09:42

ความคิดเห็นที่ 61 คุณ cupid ตอนนี้ใช้ BMW E34 อยู่ ใช่รึเปล่าครับผม จากคุณ : musuko เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 16:10:19

ความคิดเห็นที่ 62 ดูใหม่มากๆ อิอิ จากคุณ : โอไซริส เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 16:11:58

ความคิดเห็นที่ 63 รถผมรู้สึกจะประกอบในประเทศด้วยครับ เป็นของเบนซ์ธนบุรีครับ แต่รถนอกoptionจะเยอะจริงๆครับ แต่ส่วนมากจะเป็นปีเก่าๆครับ จากคุณ : musuko เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 16:20:25

ความคิดเห็นที่ 64 คันเร่งรถของเจ้าของกระทู้ยังเป็นคันเร่งเเบบเดิมอยู่ครับ มันเลยเเข็ง ลองให้ช่างย้ายสายคันเร่งใหม่ครับ มันจะนิ่มขึ้นครับ รถผมก็รุ่นเดียวกับเจ้าของกระทู้ ย้ายสายเเล้วนิ่มมากเลยครับ อีกอย่างรุ่นนี้ถ้าซื้อมือสองมาเเล้ว เช็คสายน้ำมันด้วยนะครับ ว่ายังดีหรือเปล่า เพราะรถเก่าเเล้ว อ้ออีกอย่างหนึ่งถ้าเเอร์ไม่เเรงมั่นเอากรองเเอร์มาเปล่าด้วยนะครับ เพิ่มเติมให้นิดหน่อย ถ้าอยากหาข้อมูลเพิ่มเติมของรถเเนะนำเข้าไปสมัครสมาชิกที่ครับคนใช้จริงตามนี้เลยครับ http://www.benzowner.net/forum/ http://www.benzunity.com/forum/index.php http://www.clubcclass.net/webboard/index.php http://www.mercedesmania.com/index.php ดีใจกับรถใหม่ด้วยครับ จากคุณ : เด็กบ้านนอก (Suparoek) เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 16:23:43

ความคิดเห็นที่ 65 จำได้ หละ รถ คุณ น่าจะ เป็น ปลายๆรุ่นจริงๆ ครับ ปี 97 ขึ้นไป เนื่องจาก แอร์ คุณ เป็น รุ่นใหม่...รุ่นเดียวกะ E ตากลม ตัวแรก.. ออก ช่วงนั้นห่างกันไม่กี่เดือน ..มีเปลี่ยนแอร์ใหม่..(ผมต้องนั่งนึกหน่อย นานแร๊ะ )) ส่วน แอร์ รุ่น ผม ..เป็น ตัวที่ ปุ่ม เยอะๆ ..((คิดตั้งนาน))มันคาบเกี่ยวกับ ตัว E ตากลม ..(ในช่วงนั้นได้ขับประจำอยู่หลายคัน)) รุ่นที่ผมเจอ.จดช้าสุดเป็น ปี 2000 แต่เป็น 240 เพราะตอนนั้น เป็นรุ่นปลายมากๆ แล้ว.. ส่วนปัญหา ใหญ่ ของรถรุ่นนี้ในขณะนั้น ..คือ ปัญหา ระบบ สายไฟ..(สายไฟกรอบ เพราะใช้ ของรีไซเคิ้ล )และ แอร์ ที่เจอกันบ่อย..ๆ ว่าเหยียบแล้ว วูบ.. เพราะ เกี่ยวกับระบบแว็คคั่ม หรือไรเนี่ยะ .. ถ้าลมเบา..แกะ ใต้ เกะ ฝั่งคนนั่งออก จะมี ..กรองแอร์..ต้องหมั่นเปลี่ยน หมั่นเป่า หน่อยครับ..ซื้อ..ร้านอะไหล่ ไม่กี่ตัง..เปลี่ยนเองได้ไม่ยาก..ถ้าไม่ปวดหลังนะ เพราะต้อง ก้มๆ เงยๆ ซะหน่อย..มันอยู่ใต้เกะ . อีกเรื่องที่ควรระวัง คือ...ระบบลูกลอยแทงค์.. หน้าปัทม์ แจ้ง..ว่า น้ำมันเต็มถัง..แต่ความจริง แห้ง ..เพราะ ลูกลอย มันเจ๊ง..เคยเกือบพาผม ไปกินข้าวลิง ที่นึง ที่ต่างจังหวัด.. ************************************************ คุณ musuko ...คนใช้ E 34 น่าจะเป็น รถ แป่ะ เหล่านั๊ง แบบแต๊ดแต๋ หน่ะครับ.. E 34 ผมใช้ ในช่วง ระหว่าง เดียวกัน กับ..C นี่หล่ะครับ.. เกือบ สิบปี แล้ว แช่นกัน.. กะ E ตากลม 230 อีก ตัว.. ไล่ ๆ กันเลย.. ถึงจำไม่ค่อยได้ ไง.. ตอนนี้...ใช้ ซู ซู กิ แครี่ ครับ.. สูงสุดคืนสู่สามัญ 5555555 จากคุณ : ~cupid~ เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 16:51:44 A:223.204.66.165 X: TicketID:230028

ความคิดเห็นที่ 66 555+ รถผมก็ผ่านการซ่อมมาแล้วครับอาการเหยียบแล้วลมหาย โดยการเปลี่ยนถุงลมแบ่งช่องแอร์(มีประมาณ6ถุง) จริงๆทำเป็นระบบบานพับแบบรถญี่ปุ่นก็หมดเรื่อง แต่มันไม่เทพพอ ต้องซ่อมแพงๆเข้าไว้ -*- สายไฟก็เปลี่ยนมาทั้งคันแล้วครับ(จากเจ้าของเก่า) รุ่นนี้มีอีกอย่างที่เซ็งก็คือ อะไหล่เทียบไม่ทนเอาซะเลยครับ คันชักคันส่งของเทียบ ราคา 3,600 บาท ใช้ได้ 1 ปี หลวมซะแหล่วครับ จากคุณ : musuko เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 16:57:26

ความคิดเห็นที่ 67 ขอขอบคุณทุกความคิดเห็นเลยนะครับ อยากสอบถามอะไรโพสถามได้เลยนะครับ จากคุณ : musuko เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 16:59:11

ความคิดเห็นที่ 68 ผมว่ามันสวยแบบคลาสสิคดีครับ จากคุณ : Wazabi.G เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 17:17:56

ความคิดเห็นที่ 69 ที่บ้านเป็น C180 ปี 95 ครับ มีปัญหาเรื่องเบรคเหมือนกันครับ รู้สึกว่าเวลาเบรคแล้วมันไม่ค่อยมีแรง ต้องเหยียบแรงๆ เคยไปให้ช่างดูเค้าบอกไม่มีอะไร แต่ผมขับมันรู้สึกได้ว่ามี ... อันนี้คือเทียบกับรถอื่นๆที่เคยใช้น่ะครับ แต่ดูจาก คห.46 แล้วท่าทางจะเป็นลักษณะของรถรุ่นนี้ ? อีกอย่างที่เจอคือ แอร์ เหมือนกันครับ หนาวมาก พอจะปรับให้มันเย็นน้อยลงก็จะร้อนไปเลย (เป็นแบบหมุนครับ) จากคุณ : นางฟ้าแก้มบุ๋ม (นางฟ้าแก้มบุ๋ม) เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 17:56:46

ความคิดเห็นที่ 70 สวยมากครับรุ่นนี้ สวยข้ามกาลเวลาทีเดียว จากคุณ : *380 Z เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 18:54:07

ความคิดเห็นที่ 71 ราคาแรงไป ดูจากรูปนี่ ประตูข้างซ้ายไปทำสีใหม่มาแถมพ่นไม่เนียนสีเพี้ยนอีกต่างหาก และคงทำสีมาใหม่ทั้งคันแล้ว จากคุณ : New (utccinter) เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 20:22:11

ความคิดเห็นที่ 72 ล้อสวย เรื่องทำสี ไม่ต้องตกใจ รถอายุขนาดนี้ ไม่ทำสีมาบ้างสิแปลก จากคุณ : kung เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 20:52:18 A:125.25.247.169 X: TicketID:280656

ความคิดเห็นที่ 73 คุณ utccinter ตาดีมากครับ รถคันนี้ทำสีประตูมาจริงๆครับ จากคุณ : musuko เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 21:16:45

ความคิดเห็นที่ 74 ไรว้า.. ที่บ้านเพิ่งปล่อย C240 ปี 2000 ไปในราคาไม่ถึง 6 แสน แอบเสียดาย แก้ไขเมื่อ 06 ม.ค. 54 21:46:34 จากคุณ : charbon เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 21:38:03

ความคิดเห็นที่ 75 รถสวยครับ รุ่นนี้เป็นแอร์จอซึ่งเป็นปีท้ายๆแล้วครับ มากระซิบให้ว่าจอแอร์ของคุณmususkoสามารถทำอะไรได้มากกว่าควบคุมแอร์นะครับ ขอบอก โดยคุณสามารถที่จะตรวจสอบการทำงานของระบบต่างๆในรถคุณเองได้โดยไม่ต้องพึ่งช่างด้วยครับ เริ่มต้นจาก วิธีการตรวจสอบระบบแอร์ของW202สำหรับรุ่นที่ผลิตตั้งแต่ 09/1995 1.บิดสวิทช์กุญแจไปที่ตำแหน่ง1 2.ปรับอุณหภูมิแอร์ทั้งซ้าย ขวา ไว้ที่ 72 องศา Fหรือ 22องศา C 3.กดปุ่มRESTค้างไว้อย่างน้อย6วินาที 4.จอแสดงผลอุณหภูมิแอร์ด้านซ้ายจะแสดงตั้งแต่"01"คือเลขตำแหน่งของอุปกรณ์นั้นๆ 5.กดปุ่มปรับพัดลมไปเรื่อยๆเพื่ออ่านค่าของอุปกรณ์ในลำดับต่อไป 6.กดปุ่มRESTเพื่อกลับไปสู่ระบบควบคุมแอร์ตามปกติ รายการอุปกรณ์ที่อ่านค่าได้ 01   เซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิภายในรถ(B10/4) 02   เซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิภายนอกรถ(B14) 03   เซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิแอร์(B10/1) 05   เซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิน้ำยาแอร์ที่ตู้แอร์(B10/6) 06   เซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิน้ำหล่อเย็นในหม้อน้ำ(ECT Sensor)(B11/4) 07   แรงดันน้ำยาแอร์ หน่วยเป็น บาร์ เช่น 06’4=6.4บาร์ 08   เซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิน้ำยาแอร์ที่คอมเพรสเซอร์(B12/1) 10   แรงดันไฟฟ้าที่Blowerแอร์ 20   แรงดันไฟฟ้าควบคุมที่พัดลมไฟฟ้าหน้าเครื่องยนต์ เช่น 7=7 มิลลิแอมป์ 21   รอบเครื่องยนต์/นาที เช่น 00..99(X100)=9900 รอบ/นาที 22   ความเร็วรถยนต์ 23   แรงดันไฟฟ้าที่ขั้ว58D เช่น99.0=99%ของแรงดันแบตเตอรี่ 24   แรงดันแบตเตอรี่ เช่น 12.8=12.8 โวลท์ 40   รหัสซอฟท์แวร์ กล่องควบคุมแอร์ 41   รหัส แสดงถึงชื่อผู้ผลิตกล่องควบคุมแอร์ 42   เวอร์ชั่น1 แสดงรหัสตัวถัง 43   เวอร์ชั่น2 แสดงรุ่นของเครื่องยนต์ 54. สัญญาณการตัดต่อคอมแอร์กรณีฉุกเฉินโดยกล่องECU จากคุณ : MBV220 เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 10:50:23

ความคิดเห็นที่ 76 นอกจากนั้นคุณยังสามารถที่จะตรวจสอบได้ว่าระบบต่างๆในรถมีการชำรุดหรือไม่โดยทำแบบนี้ครับ 1.บิดสวิทช์กุญแจไปที่ตำแหน่ง1 2.ปรับอุณหภูมิแอร์ไว้ที่ LO 3.ภายใน20วินาทีกดปุ่มRESTและละลายฝ้าพร้อมๆกันค้างไว้อย่างน้อย5วินาที 4.ไฟLEDที่ปุ่มกดอากาศหมุนเวียนจะกระพริบและจอจะแสดง" di A" 5.กดปุ่มAUTOด้านซ้ายไปเรื่อยๆเพื่ออ่านค่าของอุปกรณ์ในลำดับต่อไป 6.ค่าErrorที่เกิดขึ้นอยู่จะแสดงตัวเลขก่อนและค่าErrorที่เคยเกิดขึ้นแบบไม่ถาวรจะแสดงเป็นลำดับถัดไป เมื่อหมดค่าErrorจะเห็น"END" 7.ถ้าจะลบErrorเองให้กดปุ่ม ขึ้น และ ลง พร้อมๆกันจนจอแสดง"---" ถ้าไม่ต้องการลบให้กดปุ่ม AUTO 8.บิดกุญแจมาที่ตำแหน่งปิดเพื่อจบการทำงานครับ จากคุณ : MBV220 เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 11:03:16

ความคิดเห็นที่ 77 ขอบคุณมากครับผมคุณMBV220 จากคุณ : musuko เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 13:24:37

ความคิดเห็นที่ 78 อารียาทูบี หลังแรก หน้า สระน้ำ ใช่ไหมเอ่ย ^^ รถสวยดีครับ  แอบมองหลายที   แก้ไขเมื่อ 07 ม.ค. 54 13:29:54 จากคุณ : kitagawa_keiko เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 13:26:21

ความคิดเห็นที่ 79 น้านนน คุณ kitagawa_keiko อยู่ที่นั้นเหมืือนกันเหรอครับ นั้นบ้านพี่สาวผมอ่ะครับ ผมไปอาศัยล้างรถประจำครับ 555+ จากคุณ : musuko เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 13:41:03

ความคิดเห็นที่ 80 ขอบคุณมากสำหรับการทำรีวิวดีๆ มาแบ่งปันความรู้กันครับ จากคุณ : saiyajin (Saiyajin) เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 15:08:36

ความคิดเห็นที่ 81 ด้วยความยินดีครับคุณmusuko ส่วนเรื่องแอร์เย็นมากไปน้อยไปนั้นคาดว่าคงจะโดนอุดDuovalveที่ปล่อยน้ำร้อนเข้าHeaterไปเรียบร้อยแล้วเพราะเวลาDuovalveเสียช่างทั่วๆไปมักจะตัดระบบดังกล่าวทิ้งซึ่งไม่ถูกต้องเพราะการปรับอุณหภูมิลมจากตู้แอร์จะใช้ความร้อนจากHeaterที่รับน้ำร้อนจากหม้อน้ำซึ่งควบคุมปริมาณการไหลโดยDuovalveดังกล่าว เมื่อถูกตัดไปจึงทำให้ไม่สามารถปรับความเย็นได้ละเอียดหรือถูกต้องครับ ถ้าอยากทราบว่าโดนตัดไปหรือไม่ก็ลองทำตามคหที่76แล้วอ่านค่า417และ418ดูได้ครับ ส่วนเรื่องออกตัวอืดนั้นลองตรวจสอบระบบเชื้อเพลิงหรือเกียร์ดูสิครับ เท่าที่เคยใช้C220รุ่นนี้ตั้งแต่ป้ายแดงจนครบ7ปีผมถือว่าออกตัวได้เร็วใช้ได้เลยนะครับเพราะ150แรงม้ากับบอดี้เล็กๆแบบนี้ไม่น้อยแล้วนะครับ จากคุณ : MBV220 เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 54 16:57:13

ความคิดเห็นที่ 82 ถึงกาลเวลาจะผ่านไปนานเท่าใด  ก็ยังแลดูไฮโซเหมือนเดิมคะ จากคุณ : VIPUSER เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 18:54:49

ความคิดเห็นที่ 83 ล้อเปลี่ยนไปเท่าไรคับ อยากเปลี่ยนอยู่ โหลดไหมคับ จากคุณ : nine 12 เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 54 17:06:34

ความคิดเห็นที่ 84 รถสวยมากเลยคับ ราคาผมไปสูงไปนิดหน่อยแต่ก้อไม่มากอะไร เพราะราคาซื้อใช้เอง โดยรวมผมว่าสภาพดีมากเลยคับ ส่วนที่บอกว่าเป็น ปี1999 ก้อเป็นไปได้คับ เพราะรถรุ่นนี้ แอร์จอยาวจะมีประมาณปี 1997 ขึ้นไปคับ รถสวยเดิมมากคับ ชอบมากเลย ดูดีมีเสน่ห์คับ จากคุณ : Mr.Bosszaa เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 21:37:42

ความคิดเห็นที่ 85 รถสวยมากครับ จากคุณ : alwaysfluke เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 01:09:24