ความคิดเห็นที่ 1 +1 จากคุณ : ++ เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 06:33:15 A:192.168.101.249 X:58.8.156.186 TicketID:297402

ความคิดเห็นที่ 2 ค่าเสียหาย ค่าทำขวัญ เราเรียกว่าค่าความฝัน อยากเรียกเท่าไรคิดเอาเลยไม่มีทางได้ตามที่คิด กรีณีอุบัตติเหตุ เคยเจอมา ตายเรียกมา2ล้าน สุดท้ายได้ไป5หมื่น เราถึงเรียกค่าความฝันไง เพราะฝันเอาว่าอยากได้เท่าไร เฮ้อๆๆๆไม่มีใครอยู่เหนือกฏหมาย เรียกร้องกันตามสมควร อย่าให้ถึงกับต้องขายบ้าน ขายชีวิตมาจ่ายกันเลยนะ แค่นี้บาปมันก็ตามน้องคนนี้จนชีวิตนี้จะหาความสุขไม่ได้แล้ว เพราะทำคนตายไปเยอะ คนดีๆทั้งนั้นป่านนี้ท่านที่เสียชีวิตไปอยู่บนสวรรค์แล้ว ท่านเหล่านั้นคงไม่อยากให้คนที่มีชิวิตอยู่ต้องมาทำบาปเพราะการเสียชีวิตของท่านหรอก สัตว์โลกต้องเป็นไปตามกรรม จากคุณ : แม่น้องภาม เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 06:34:20

ความคิดเห็นที่ 3 เรื่องการชดเชย เห็นว่าเค้ามีช่วยเบื้องต้นไปบ้างแล้วนะครับ ส่วนก้อนใหญ่คงจะตามมาอีก ไหนจะเรื่องศาลบังคับชดใช้อีก คงไม่น้อยครับก็ตามข่าวกันต่อไปดีกว่านะครับ เรื่องที่ พ่อ แม่ เค้าไม่ได้ร่ำรวยมาก ก็อาจเป็นจริงนะ ดูจากรถที่ขับ ไม่ได้เป็นรถสปอร์ท รถหรูสิบ ยี่สิบล้าน ราคาแพงอะไรมาก   อยากเห็นความยุติธรรมก็ต้องรอศาลหน่อยครับ และก็อย่าลืมว่า คดีนี้เป็นอุบัติเหตุ ไม่ใช่เจตนาฆ่า  เป็นญาติพี่น้อง ผมเอง ผมก็อภัย และอโหสิให้ครับ   เรื่องที่แม่เค้าพูดเรื่องไม่ให้ลูกขับรถไปข้างนอก คุณไม่เชื่อ แต่ผมเชื่อนะ เพราะมันไม่ได้เป็นประโยชน์อะไรกับรูปคดี  ยิ่งทำให้น้องคนขับผิดมากขึ้นไปอีกด้วยซ้ำ ฐานไม่เชื่อฟังพ่อ-แม่  แม่เค้าจะโกหกเพื่อให้ตัวเองดูดี แต่ลูกดูแย่ขึ้นแบบนั้นเหรอครับ   เรื่องเอารถเพื่อนมาขับ คุณก็ไม่เชื่อ  แต่ก็อีกนั่นแหละครับ มันเป็นประโยชน์อะไรกับรูปคดี น้องเค้าก็ผิดเท่าเดิม  จะรถตัวเองหรือรถเพื่อน เค้าก็ชนจนมีคนตาย ข้อเท็จจริงอันนี้ก็ไม่ถูกบิดเบือนไปตรงไหน  เค้าจะโกหกไปเพื่อ? เรื่องบอกว่าแกล้งบาดเจ็บ  จะบาดเจ็บน้อย ไม่บาดเจ็บเลย ก็ผิดเท่าเดิม ศาลคงไม่ตัดสินลดโทษ เพียงเพราะว่าคนขับชนบาดเจ็บ   ถ้าจะขอความเห็นใจ ความสงสาร คงไม่แปะแค่จุดเล็กๆที่หัว  พันแขน พันขา ให้รอบตัวไม่ดีกว่าเหรอ สุดท้ายแล้ว ถ้าเค้าจะโกหกเพื่อบิดเบือนรูปคดี มีอีกตั้งมากมายหลายวิธี แต่ไม่ใช่ซักวิธีที่คุณพยายามจะจับผิด    เค้าก็ออกมาสารภาพแล้วว่าเป็นฝ่ายชน  คงไม่มีอะไรเปลี่ยนเธอจากผิดเป็นถูกไปได้    และดูท่าทาง น้องเค้าก็ปกติ ไม่น่าจะเป็นคนชั่วช้าเลวทรามอะไร  อย่างน้อยก็ก็ยังสำนึกได้ที่ไม่หนีไปไหน ผมลองคิดแบบคนเลวๆ ผมเป็นคนขับคงแกล้งเป็นคนเจ็บที่มากับรถตู้ พอรถนำตัวเราไปถึงโรงพยาบาลก็หาโอกาสหนีไป  รถที่ยืมมาก็โยนความผิดให้คนอื่นไป แค่นี้ก็รอดตัว   คุณจะพบเห็นเคสชนแล้วหนีแบบนี้ได้ทั่วประเทศไทย เอาแบบที่ผมเคยเห็นมากับตาก็มี รถเมล์คันที่ผมนั่งขับชนมอเตอร์ไซค์ ตายคาที่ คนขับ ดึงป้ายชื่อตัวเองข้างหลังรถ แล้วก็ทิ้งรถหนีไปลอยนวล ผมว่าคอยติดตามไปเรื่อยๆก่อนดีกว่ามั้ยครับ  เรื่องนี้ตำรวจตั้งข้อกล่าวหาแล้ว คนชนก็รู้ตัวแน่นอนแล้วแล้ว  รอให้ดำเนินคดี จนจบ หรือจะตามเรื่องว่าคดีไปถึงไหน แง่นั้นก็น่าจะพอครับ แก้ไขเมื่อ 09 ม.ค. 54 07:01:48 แก้ไขเมื่อ 09 ม.ค. 54 07:05:08 จากคุณ : seven-elephant เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 06:50:20

ความคิดเห็นที่ 4 ช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา.....อุบัติเหตุเกิดขึ้นเยอะ บาดเจ็บ ล้มตาย พิการกันเป็นจำนวนมาก ตามเส้นทางสายหลักๆ ที่ผ่านในแต่ล่ะจว. คดีประมาท รอคิวฟ้องศาลตรึมเลย..... ร้อยทั้งร้อย.....จำเลย ก็จะรับสารภาพทั้งนั้นหล่ะ ศาล พิพากษาโดย....ไม่ต้องพิเคราะห์ ต้องสืบพยานใดๆ[ตามกม.] เห็นแต่......''รอลงอาญา'' จนเป็นบรรทัดฐาน จำไว้ว่า.....นี่คือ คดีประมาท มิใช่ คดีเจตนาฆ่า มาตราฐานการตั้งข้อหา.....ก็ต้องแบบเดียวกันด้วย ประมาท ก็คือ.....ประมาท   จะเห็นเป็นข้อหาอื่น.....ได้ไม่ ปล.ก็รอ ให้อย.ฟ้องศาลก่อนซิ..... มธ.จัดทนายร่วม จะเข้าเป็นโจทก์ร่วม ดูแลคดีเป็นพิเศษให้ เราจะไปคิดเอง เออเอง แทนคู่ความเค้าได้อย่างไง..... เดี๋ยวชั้นศาล คู่กรณีเค้า ก็ตกลงค่าเสียหายกันเอง......ในเบื้องต้น ถ้าผู้เสียหาย ญาติผู้เสียชีวิต ไม่พอใจ.....ในการเยียวยา ก็สามารถดำเนินคดีทางแพ่ง[ละเมิด] ต่อได้อีกชั้น..... อันนี้ ก็เป็นเรื่องของทั้งสองฝ่ายแล้ว.....ที่จะตกลงกันในเรื่องจำนวนเงิน มันก็เป็น....เรื่องนอกเหนือ ที่เราๆท่านๆจะเข้าไปก้าวก่ายในทางคดีได้. ลป.ที่ตั้งกระทู้ว่า....''พิสูจน์ความจริงทุกข้อกล่าวหา'' หมายความว่า....เราต้องใช้''หลักการ''พิสูจน์ข้อกล่าวหา โดยใช้ระบบศาลด้วยหรือป่าวววว ถ้าใช้.....ก็ต้อง รอ ให้เป็นไปตามขบวนการของมัน แก้ไขเมื่อ 09 ม.ค. 54 08:16:29 แก้ไขเมื่อ 09 ม.ค. 54 08:27:21 จากคุณ : toad9116 เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 07:05:34

ความคิดเห็นที่ 5 ติดตามความเคลื่อนไหว จากคุณ : oonvhh เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 07:05:51

ความคิดเห็นที่ 6 ชีวิตคนเรามีค่า จงใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาท กฏหมายมีไว้ทำไมเมื่อคนมีเงินมากทำให้กฏหมายไม่ศักดิ์สิทธ์ได้ แย่จังประเทศไทย คนรวยทำตัวหน้ารังเกียจ จากคุณ : แรงกดดัน เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 07:09:17 A:27.130.73.88 X: TicketID:302139

ความคิดเห็นที่ 7 +ไป1 แถวโหวตอีก1 จากคุณ : MeanZa เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 07:28:04

ความคิดเห็นที่ 8 ความเห็นส่วนตัว 1.เรื่องอนุญาตขับรถ ตามพ่อแม่เค้าบอกไม่ให้ลูกเค้าขับต่อเมื่ออายุ18 เราว่าพ่อแม่เค้าคงหมายถึงให้ขับรถตามอำเภอใจมากกว่า ถ้าพ่อแม่เค้าให้ขับรถจริงรถที่ชนคงไม่ใช่รถของเพื่อนหรอก 2.เรื่องอายุ ตอนที่มอบตัวทั้งที่สถานนีตำรวจและสถานพินิช ต้องเอาเอกสารสำเนาต่างรายงานตัวด้วยนิ ทั้งใบเกิด บัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน 3.เรื่องแผลที่หัวไม่แน่ใจอาจเมคขึ้นมาก้อได้ และอาจเป็นแผลนิดเดียวแต่ติดผ้าปิดแผลซะใหญ่โต 4.เรื่องค่าเยียวยา รอศาลตัดสิน สุดท้ายก้ออยากเห็นอยากเห็นครอบครัวน้องไปเยี่ยมคนเจ็บ ญาติคนตายนะ เห็นป้าน้องให้สัมภาสว่าอีก2-3วันจะไปเยี่ยม รอดูละกันว่าจะไงต่อ แก้ไขเมื่อ 09 ม.ค. 54 07:40:32 จากคุณ : MUSIC*TB เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 07:38:21

ความคิดเห็นที่ 9 ผมว่า จขกท.ไม่ได้พูดเรื่องคดีประมาทอย่างเดียวนะ แต่ใจความเขาพูดถึงคดีละเมิดด้วย และก็เห็นด้วยกับ จขกท. เพราะกว่าจะเลี้ยงมาจนโต คิดว่าแก่ตัวไปจะอยู่กับลูกกับหลานมีความสุขในปลายชีวิตกับเป็นว่าความสุขไม่มี มีความเศร้าความทุกข์เกาะติดอีกนาน ใช้ธรรมมะเหรอ สมาธิเพื่อลืมเหรอ ถ้าครอบครัวคนที่ตายทำได้ก็ยอดคนแล้ว เวลามันนานกับครอบครัวผู้สูญเสีย ส่วนคนก่อเหตุ ศาลเยาวชนให้โอกาสกลับตัว แต่อยากถามว่าศาลจะเยียวยาให้ครอบครัวคนตายอย่างยุติธรรมอย่างไร เพราะทุกคนรู้ว่าเด็กไม่ติดคุกตามกม. แต่ทุกคนไม่รู้ว่ายี่ต๊อก บรรทัดฐานค่าของชีวิตคนเป็นเงินเท่าใด เพราะเป็นดุลพินิจของศาล แปลกไหม ...คนจนคนรวยคนจบเอกคนเรียนป.4ต้นทุนไม่เท่ากัน อนาคตหาเงินได้ไม่เท่ากัน จากคุณ : ทุกคนรู้แต่แกล้งไม่รู้มากกว่า เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 07:39:17

ความคิดเห็นที่ 10 คุณอาจจะหมดเนื้อหมดตัว  แต่ครอบครัวคุณยังอยู่ครบ คุณเสียแต่ทรัพย์สินเงินทอง มันเป็นราคาที่คุณต้องจ่ายให้กับสำนึกรับผิดชอบต่อสังคม ที่คุณไม่ได้สอนลูกมากพอ ชอบท่อนนี้จัง จากคุณ : likewhite เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 07:48:05

ความคิดเห็นที่ 11 เห็นคุณเจ็ดช้างเข้ามาบอกว่าสารพัดจะจับผิด แล้วก็เห็นใจเข้าใจทางฝ่ายครอบครัวแพรวาดีมาก งั้นผมจะชี้แจงทีละประเด็นนะครับ >เรื่องการชดเชย เห็นว่าเค้ามีช่วยเบื้องต้นไปบ้างแล้วนะครับ >ส่วนก้อนใหญ่คงจะตามมาอีก ไหนจะเรื่องศาลบังคับชดใช้อีก คงไม่น้อยครับก็ตามข่าวกันต่อไปดีกว่านะครับ เท่าที่เห็นคือช่วยงานศพให้คุณแม่ ดร ไปสามหมื่นนะครับ แล้วก็ขนมเปี๊ยะให้คนเจ็บ การพยายามเยียวยามีเท่านั้น ส่วนอีกหลายๆ ท่าน ญาติก็ออกมาบอกแล้วนี่ครับ ว่าไม่มีการติดต่อใด ๆ จากครอบครัวแพรวา ตอนนี้เงินที่ฝ่ายญาติคนเจ็บคนตายได้ หลัก ๆ คือจากประกันของรถตู้ครับ >>เรื่องที่ พ่อ แม่ เค้าไม่ได้ร่ำรวยมาก ก็อาจเป็นจริงนะ ดูจากรถที่ขับ ไม่ได้เป็นรถสปอร์ท รถหรูสิบ ยี่สิบล้าน ราคาแพงอะไรมาก   ส่งลูกไปเรียนไฮสคูลที่อเมริกาได้ ก็ต้องรวยระดับนึงหละครับ แค่ขนมเปี๊ยะมันเกินไปครับ ถ้าเป็นผมคงเป็นกระเช้าซุปไก่ รังนก ผลไม้อะไรพวกนี้ รวยหรือไม่รวยไม่สำคัญ แต่ต้องรีบแสดงความจริงใจครับ ไม่ใช่ความเขี้ยว อย่างตอนนี้ผมเรียกว่าไม่จริงใจครับ >>อยากเห็นความยุติธรรมก็ต้องรอศาลหน่อยครับ รอแต่ศาลไม่ได้ครับ ศาลตัดสินตามข้อเท็จจริงที่ตำรวจทำเรื่อง แล้วส่งต่อให้อัยการส่งฟ้องไป ถ้าตำรวจทำสำนวนอ่อน ๆ แกล้งๆ ละเลยหลักฐานสำคัญมากหน่อย อัยการไม่ดูต่อให้รัดกุม จากประมาทมาก ก็เป็นประมาทร่วม มีผลต่อการชดเชยคดีแพ่งครับ นั่นถึงทำไมสังคมต้องร่วมกดดัน >> และก็อย่าลืมว่า คดีนี้เป็นอุบัติเหตุ ไม่ใช่เจตนาฆ่า  เป็นญาติพี่น้อง ผมเอง ผมก็อภัย และอโหสิให้ครับ   รับทราบครับ  แต่ถ้าเป็นญาติพี่น้องผม ถ้าความประมาท มีเรื่องของความคึกคะนองเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยเยอะมาก  คงต้องใช้เวลาทำใจนานหน่อย ยิ่งถ้าเป็นลูกตาย พ่อตาย เมียตาย คงไม่ใช่วันสองวัน >>เรื่องที่แม่เค้าพูดเรื่องไม่ให้ลูกขับรถไปข้างนอก คุณไม่เชื่อ แต่ผมเชื่อนะ เพราะมันไม่ได้เป็นประโยชน์อะไรกับรูปคดี  ยิ่งทำให้น้องคนขับผิดมากขึ้นไปอีกด้วยซ้ำ ฐานไม่เชื่อฟังพ่อ-แม่  แม่เค้าจะโกหกเพื่อให้ตัวเองดูดี แต่ลูกดูแย่ขึ้นแบบนั้นเหรอครับ >>เรื่องเอารถเพื่อนมาขับ คุณก็ไม่เชื่อ  แต่ก็อีกนั่นแหละครับ มันเป็นประโยชน์อะไรกับรูปคดี น้องเค้าก็ผิดเท่าเดิม  จะรถตัวเองหรือรถเพื่อน เค้าก็ชนจนมีคนตาย ข้อเท็จจริงอันนี้ก็ไม่ถูกบิดเบือนไปตรงไหน  เค้าจะโกหกไปเพื่อ? น้องอาจจะดูแย่ แต่พ่อแม่ดูดีขึ้นครับ เพราะห้ามแล้ว แต่ลูกดื้อเอง มันต่างจากพ่อแม่ละเลยรู้เห็นเป็นใจให้ลูกขับครับ แต่จำได้ว่าพ่อหรือแม่บอกน้องขับที่อเมริกาได้นี่ครับ ทำไมมาเมืองไทยห้าม ข่าวบอกไม่มีใบขับขี่ทั้งไทยทั้งอเมริกานี่  เรื่องพวกนี้มีผลต่อการตัดสินใจของญาติๆ เวลาต้องชดใช้ทางแพ่งแน่นอนครับ   >>เรื่องบอกว่าแกล้งบาดเจ็บ  จะบาดเจ็บน้อย ไม่บาดเจ็บเลย ก็ผิดเท่าเดิม ศาลคงไม่ตัดสินลดโทษ เพียงเพราะว่าคนขับชนบาดเจ็บ   ถ้าจะขอความเห็นใจ ความสงสาร คงไม่แปะแค่จุดเล็กๆที่หัว  พันแขน พันขา ให้รอบตัวไม่ดีกว่าเหรอ ศาลคงรอลงอาญาแหละครับ แต่การมีภาพว่าเจ็บมาก มันก็มีผลต่อการลดแรงกดดันในสังคมได้   นี่คนตายแบบสยอง 9 ศพ คนขับไม่เป็นไร  บางคนในสังคมเค้ารู้สึกว่ามันไม่เป็นธรรม   เค้าจึงต้องลดแรงกดดันไงครับ  อันนี้ผมเข้าใจ แต่การแกล้งเอาอะไรมาแปะหัวแล้วโดนจับได้ว่าหลอกนี่ยิ่งเสียหาย การโกหกไม่เคยช่วยให้อะไรดีขึ้นหรอกครับ   เป็นผมจะบอกตรงๆ ว่าตัวไม่บาดเจ็บมาก แต่เศร้าโศรกเสียใจขนาดไหนมากกว่า แม้กายไม่เจ็บ แต่ใจเหมือนตายไปแล้ว แต่นี่ยังมีอารมณ์มีเวลามาลบ twister บ้างอะไรบ้าง คนนอกทำได้หรือ น่าจะต้องเป็นเจ้าตัวทำ เพราะต้องรู้ password  คุณทำคนตายไป 9 คน แต่ยังมีอารมณ์ห่วงตัวเอง กลัวคนอื่นมาเช็คประวัติ จะให้คิดยังไง >>สุดท้ายแล้ว ถ้าเค้าจะโกหกเพื่อบิดเบือนรูปคดี มีอีกตั้งมากมายหลายวิธี แต่ไม่ใช่ซักวิธีที่คุณพยายามจะจับผิด    เค้าก็ออกมาสารภาพแล้วว่าเป็นฝ่ายชน  คงไม่มีอะไรเปลี่ยนเธอจากผิดเป็นถูกไปได้    และดูท่าทาง น้องเค้าก็ปกติ ไม่น่าจะเป็นคนชั่วช้าเลวทรามอะไร  อย่างน้อยก็ก็ยังสำนึกได้ที่ไม่หนีไปไหน ระหว่างขับมา 140 กับ 80 แล้วชนกันหนะ คุณว่าศาลจะเมตตาใครครับ สุดวิสัยกับคึกคะนองมันต่างกัน โดยเฉพาะในเรื่องของความรู้สึก และจากผิดคนเดียว มันแปลงเป็นผิดสองคน ประมาทร่วมได้อีก  พวกนี้มันมีผลต่อการชดเชยทางแพ่งอีกนั่นแหละครับ   ผมเองก็ไม่เคยบอกว่าน้องเค้าชั่วเลวทรามนี่ครับ  เค้าลงชื่อกันสองสามแสนคนใน FB ผมก็ไม่ลง แต่ผมเห็นว่าครอบครัวมีน้ำใจน้อยมากเท่านั้น >>ผมลองคิดแบบคนเลวๆ ผมเป็นคนขับคงแกล้งเป็นคนเจ็บที่มากับรถตู้ พอรถนำตัวเราไปถึงโรงพยาบาลก็หาโอกาสหนีไป  รถที่ยืมมาก็โยนความผิดให้คนอื่นไป แค่นี้ก็รอดตัว   คุณจะพบเห็นเคสชนแล้วหนีแบบนี้ได้ทั่วประเทศไทย เอาแบบที่ผมเคยเห็นมากับตาก็มี รถเมล์คันที่ผมนั่งขับชนมอเตอร์ไซค์ ตายคาที่ คนขับ ดึงป้ายชื่อตัวเองข้างหลังรถ แล้วก็ทิ้งรถหนีไปลอยนวล เวลาเกิดเหตุแบบนั้น คนเราบางทีคิดไม่ทันหรอกครับว่าทำไงดี แถมบนโทลเวย์แบบนั้น แรงขนาดนั้น กู้ภัยก็มาเร็ว จะหนีคงไม่ง่าย ไปยืนข้างรถแบบนั้นเค้าก็รู้แล้วว่าคนขับ และแค่หนีไม่หนี ไม่ได้บอกว่าคนขับมีสำนึกดีแค่ไหนครับ   แต่การกระทำหลังจากนั้นต่างหาก ที่บ่งบอกสำนึกของคนได้ >>ผมว่าคอยติดตามไปเรื่อยๆก่อนดีกว่ามั้ยครับ  เรื่องนี้ตำรวจตั้งข้อกล่าวหาแล้ว คนชนก็รู้ตัวแน่นอนแล้วแล้ว  รอให้ดำเนินคดี จนจบ หรือจะตามเรื่องว่าคดีไปถึงไหน แง่นั้นก็น่าจะพอครับ ก็เพราะติดตามแล้วมันทะ:-)ๆ ไงครับ ถึงมีคนมาตั้งกระทู้ มากดดันกัน เพราะถ้ามัวแต่รอศาล ปล่อยให้ จนท  ที่อยู่ในสังคมอุดมเส้นสาย ทำคดีไปตามยถากรรม  คนที่ควรจะได้รับการชดเชยที่เหมาะสมกว่านี้ จะไม่ได้ คนที่ควรจะรับผิดชอบกว่านี้ ซึ่งก็คือพ่อแม่ครับ ไม่ใช่เจ้าตัวคนขับ ก็ไม่ต้องรับผิดชอบมากนัก จากคุณ : ประกอบ เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 07:58:06

ความคิดเห็นที่ 12 ลงชื่อเป็นกำลังใจให้ จขกท จากคุณ : gracemeanlucky เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 08:11:51

ความคิดเห็นที่ 13 คห 3 นี่ไม่แปลกครับที่จะคิดแบบนั้น เพราะตัดสินใจหรือคิดภายใต้ข้อมูลที่จำกัด หรือรู้มาไม่ครบ และตัดสินใจภายใต้สภาพแวดล้อมแบบส่วนตัว เอาแค่เรื่องรถก็แล้วกัน เอาง่ายๆถ้าครอบครัวคุณไม่อนุญาตให้ลูกขับรถออกไปข้างนอก คุณจะซื้อรถให้ลูกมัยครับ เอาละครับคำตอบของคนปกติธรรมดา ถ้าไม่ให้ขับแล้วจะซื้อรถให้ลูกทำวิมานอะไร ซื้อมาไว้จอดเฉยๆ แต่น้องคนนั้นได้รถ honda city สีขาว มาในครอบครอง ไปเข้าคลับ ไปไหนต่อไหน ถ่ายรูปมาอวกในเว็บได้ แต่งรถได้ แล้วแบบนี้คุณว่าใครโกหก ส่วนปนะเด็นเรื่องรูปคดีไม่มีใครเค่าเถียงหรอกว่าที่ทำไปโกหกไปแล้วรูปคดีจะเปลี่ยน แต่ที่คนเค้าหมั่นไส้และเกลียดคือ มโนสำนึก มนุษยธรรม ที่ทำลงไปว่าพลาดทำคนตายไป 9 คนแล้วยังทำตอ...หน้าตาย ไม่มีอาการเสียใจหรือตะหนกใดๆ รวมถึงปั้นเรื่องนู้นเรื่องนี้ให้ครอบครัวและตระกูลดูดีดูถูกต้องด้วย ยอมรับว่าทางกฏหมายน่ะเอาผิดไม่ได้  แต่เรื่องแบบนี้สังคมไม่ยอมรับครับ สังคมต้องการคนจริงใจ ผิดก็ก้มหน้ารับผิด รีบเอาเงินชดเชยมาเยียวยา และที่สำคัญผมตัดสินใจจาก fact ว่าณ ปัจจับันตอนนี้ไม่มีใครได้รับเงินชดเชยยกเว้นแม่ดอกเตอร์   ที่ได้รับไปมหาศาลถึง 30,000 บาท บอกตามตรงเงิน 30,000 ซื้อโลงดีๆก็หมดแล้ว อย่าว่าจะจัดงานเลยครับ เป็นครอบครัวคุณโดนคุณถึงจะตัดสินใจเรื่องนี้จากความรู้สึกอีกแบบนึงแล้วจะเข้าใจ แต่ผมว่าตอนนี้คุณตัดสินใจเรื่องนี้ base on ความรู้สึกของคนที่พลาดทำให้เกิดอุบัติเหต แล้วคิดว่าถ้าเราพลาดแบบนี้บ้างจะทำยังไงมากกว่า ไม่แน่นะคุณก็เคยเกิดอุบัติเหตแรงๆเหมือนกัน เลยทำให้คิดอนุมานว่าตัวเองทำแบบนั้น   ความคิดมันถึงได้ดูเอนเอียงไปทางน้องหนูแสนดี จ่าย 30,000 นั่น ปล  แล้วที่บอกว่าเดี๊ยวมีก้อนใหญ่ตามมา อย่าพูดเลยครับ ของแบบนี้มันอยู่ที่การเยียวยา  ควรรีบจ่ายรีบเยียวยา ไม่ใช่รอเรืองเกิดหลายเดือนแล้วค่อยจ่าย   หรือรอศาลจบคดีอีก 5 ปีแล้วค่อยจ่าย คนเจ็บคนตายเค้าขาดรายได้ ไม่มีเงิน  แถมต้องเดินเรื่องทำศพ ทั้งเสียใจ คุณไม่ให้เค้าตอนนี้แล้วจะไปให้เค้าปีไหน บอกตามตรงผมว่าครอบครัวนี้ไม่จ่ายหรอกจนกว่าจะมีคำสั่งศาล เพราะเค้ามั่นใจว่าคดีนี้ clear ได้ทีนี้พอศาลจบก็ให้ในตัวเลขที่ไม่มาก เช่น 5 แสนต่อศพ ทีนี้พอผู้เสียหายไม่พอใจจะไปฟ้องก็ต้องไปร้องต่าศาลแพ่งซึ่งนับไปเลยไม่ต่ำกว่า 2 ปี ของแบบนี้มันอยู่ที่น้ำใจ พลาดได้ แต่พลาดแล้วเยียวยามั๊ย ตอนนี้ให้ไป 30,000 แล้วที่เหลือเมื่อไร่ ใจคนเจ็บ ญาติคนตาย ใจคอจะให้เค้าอยู๋กันแบบนี้เหรอ แก้ไขเมื่อ 09 ม.ค. 54 08:14:43 จากคุณ : NAN_KUNG เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 08:12:03

ความคิดเห็นที่ 14 การเลี้ยงลูกไม่ยากครับ แต่จะเลี้ยงให้ดีมีความรับผิดชอบต่อสังคมมันยากครับ วัยรุ่นสมัยนี้ ผมบอกได้เลยครับ ไม่มีความรับผิดชอบในสังคมมากพอ พ่อแม่เลี้งแบบเทพกันซะส่วนมาก พอเกิดเรื่องถูกตำรวจจับ ก็จะมาพูดว่า ลูกฉันลูกผมเป็นเด็กดีไม่เคยทำตัวเหลวไหล แล้วพวกเด็กแว้น เด็กอะไรต่อมิอะไรอีกเยอะที่ออกมาทำตัวมีปัญหาจะให้ว่ายังไงกันหละครับ เคสนี้ก็เป็นกรณีศึกษาได้อีกกรณีหนึ่งสำหรับผู้ปกครองทั้งหลาย กลัวลูกลำบากซื้อรถให้ไปเรียน พอเกิดเรื่องก็อย่าแก้ตัว ก็ช่วยกันรับผิดชอบต่อสังคมมั้ง จากคุณ : แปะเก้า เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 08:59:19

ความคิดเห็นที่ 15 จะคอยติดตามคดีนี้ต่อไป  ไม่ได้อยากให้น้องติดคุก ไม่ได้อยากให้หมดอนาคต  แต่น้องต้องชดใช้ในสิ่งที่ทำไปให้กับญาติผู้เสียชีวิต เข้าใจว่าประมาท แต่ผู้เสียชีวิตเหล่านั้นต้องไม่ตายฟรี... ฝากถึงพ่อแม่น้องด้วยว่า เงินหาใหม่ได้ แต่ชีวิตคนเงินเท่าไหร่ก็ชดเชยไม่ได้  อย่าเห็นแก่ตัวให้มากนัก... จากคุณ : ChubbyGal เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 09:01:08

ความคิดเห็นที่ 16 เฮ้ย... ไอ้ที่คุณว่ามา ก็มาจากจินตนาการล้วนๆเหมือนกันไม่ใช่เหรอ ถ้าว่ากันไปตามกระบวนการยุติธรรม... ตามกระบวนการยุติธรรมไม่มีคำว่าน้ำใจครับ จากคุณ : sirnitfi เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 09:10:33

ความคิดเห็นที่ 17 ไม่อยากให้น้องเขาหมดอนาคตครับ แต่ที่น้องเขาทำคนหมดอนาคตอย่างน้อย9ครอบครัว คนเกี่ยวข้องรับผลกระทบเป็นร้อยก็ควรจะชดใช้ให้สมน้ำสมเนื้อครับ จากคุณ : pom-yel เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 09:15:44

ความคิดเห็นที่ 18 จะคอยติดตามคดีนี้ต่อไปค่ะ จากคุณ : YesterdayOnceMore เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 09:20:21

ความคิดเห็นที่ 19 เข้ามาติดตามต่อ.... จากคุณ : Gangmai เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 09:28:15

ความคิดเห็นที่ 20 อย่าให้ตกครับ จะติดตามตอนจบ จากคุณ : teecyber เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 09:28:59

ความคิดเห็นที่ 21 อยากให้ทุกคน ทุกครอบครัว ดูแลเอาใจใส่บุตรหลาน เยอะๆ เพราะบางทีเค้าแอบเอารถเราไปใช้ก็ได้ แล้วทั้งเรา และเค้าก็ผิด อยากฝากถึงทุกๆครอบครัวด้วย ส่วนผิด ก็ต้องยอมรับ ต่อให้สูงแค่ไหน ต่ำแค่ไหน ก็คนเหมือนกันคะ จากคุณ : เป็นสาวแล้วคะ เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 09:50:08

ความคิดเห็นที่ 22 ให้กำลังใจ จขกท ค่ะ เต็มที่ค่ะ ^^ จากคุณ : เขียนบนiPhone (Troubleshoot) เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 10:00:27

ความคิดเห็นที่ 23 คุย ๆ  กันให้มากๆ  นะครับตอนนี้   เพราะอีกซักพักก็จะเปลี่ยนเรื่องคุยกันแล้วครับ ไปเป็นเรื่องอื่น เพราะ "  ที่นี่คนไทยไม่ว่าเรื่องอะไรผ่านไปก็จะจำอะไรไม่ได้แล้ว " ผมพูดจากเรื่อง ที่ผ่านมาแล้วเงียบ เช่นที่ผ่านมาครับ จากคุณ : BRAVO.carbine, เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 10:17:20

ความคิดเห็นที่ 24 มีใครมีวิธีคิด ค่าทดแทน เป็นจำนวนเงินไหมครับว่า มันต้องคิดอย่างไร จะได้ประมาณการ ไว้ก่อนได้ครับ ใครรู้วิธีคิด ขอความกรุณาด้วยครับ จากคุณ : ลมหนาวและดาวลูกไก่ เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 10:23:15

ความคิดเห็นที่ 25 จริงๆ แล้ว กลัวว่าการแตกกระทู้ และเนื้อหามันจะ ขัดแย้งกันนะ เพราะหัวข้อมันยังเป็น "พิสูจน์ทุกข้อกล่าวหา"  เลยกะว่าจะลองๆ รวบข้อมูลก่อนค่อยทำ แต่ถ้าแตกออกมาแล้ว ตอนนี้ ขอพูดแต่ ประเด็นที่ยังค้างอยู่นะครับ 1. อายุ ของ นางสาวเอ   ทางตำรวจแจ้งว่า อายุ 17 ปีกว่าๆ กรณีนี้ขอยกไว้ก่อน จนกว่า จะมีความคืบหน้า 2. ใบขับขี่สากล ใบขับขี่สหรัฐ มีหรือไม่ ? จากที่ทางครอบครัวเคยแถลงมาก่อนว่ามี เคยขับรถที่อเมริกา ตแนนี้ ผู้ปกครองแจ้งว่า ไม่มี ไม่เคยมี อันนี้รออีกนิดครับ จะกระจ่างในเร็ววัน 3. รถฮออนด้าของใคร ? ข้อสังเกตของผผมมีเยอะมาก จากข่าวเมื่อ 3 วันก่อน "นอก จากนี้ ยังได้ออกหมายเรียกเจ้าของรถเก๋งฮอนด้าซีวิค ที่ให้ผู้ต้องหายืม มารับทราบข้อกล่าวหาเรียบร้อยแล้ว แต่ไม่ระบุว่าเป็นวันและเวลาใด" ข้อสังเกตุ (คดี เดียวกัน เรื่องเดียวกัน เจ้าของรถคือใคร แล้วทำไมให้มาทีหลัง ไม่บอกเวลาสถานที่ สุดท้ายมีตัวตนหรือไม่ ? ทำไมไม่ทำให้โปร่งใส ไหน ท่าน นิ่มมะโน แถลงว่า ทั้งคู่ ถ้าไม่มาวันที่ 5 จะออกหมายจับ ท่านลืมหรือไม่ ? ) มาดูในส่วนของ เจ้าของรถฮอนด้ากันบ้างครับ ไปค้นมาจาก ภูเก็ตเลยนะนี่ เนื้อข่าวโดย คุณชัยวุฒิ พวงสุวรรณ  สวท. ภูเก็ต  วันที่ ::  2/1/2554 ผู้ครอบครองรถยนต์เก๋งซีวิคเดิม (คนที่จนท.ตำรวจแจ้งว่ามีข้อมูลเป็นเจ้าของ 8-1-2011) ยืนยันว่า ทำธุรกรรมต่างๆกับทางบริษัท ธนาคารทิสโก้ จำกัด(มหาชน) สาขาภูเก็ตสมบูรณ์แล้ว และมีการนำรถไปประมูลต่อ จนเกิดอุบัติเหตุที่กรุงเทพมหานคร (2/1/2011) นางเรืองแก้ว นามมล อายุ 33 ปี ทะเบียนบ้านอยู่ในบ้านเลขที่ 29/73 ถนนราชปาทานุสรณ์ ตำบลป่าตอง อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จากข่าวอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นที่กรุงเทพมหานคร และมีชื่อตนเอง ปรากฏว่า เป็นเจ้าของรถฮอนด้า ซีวิค สีขาวคันเกิดเหตุ ป้ายทะเบียน ฎว 8461 กรุงเทพมหานคร เพราะมีญาติมาแจ้งให้ทราบ เมื่อวันที่1 มกราคมนี้และมีความห่วงกังวลบ้างและกลัวว่าจะมีความผิด อย่างไรก็ดีขอยืนยันว่าได้ดำเนินการเคลียร์ปัญหาหนี้สินค้างชำระกับ ทางบริษัท ธนาคารทิสโก้ จำกัด(มหาชน) สาขา ภูเก็ต ที่ให้สินเชื่อ 190,000 บาทเพื่อไปจ่ายเป็นค่าผ่อนรถที่บริษัทอนุภาษวิวิธการ จำกัด ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ฮอนด้าในจังหวัดภูเก็ตเรียบร้อยแล้ว สำหรับใน ระหว่างการครอบครองรถอยู่นั้น ป้ายทะเบียนรถคือ กท 2847 ภูเก็ต และทางบริษัท ธนาคารทิสโก้ จำกัด(มหาชน) สาขาภูเก็ต มีการทำเอกสารสัญญาตามหลักฐาน MRHSD 26309T 700203 หมายเลขเครื่องยนต์ K 20 Z 29 P 00422 อย่างไรก็ดี ในช่วงที่ผ่านมา ผ่านมา ได้ผ่อนชำระ มาโดยตลอด และพึ่งได้ขาดการผ่อนชำระ มาเมื่อประมาณเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2553 นาง เรืองแก้ว กล่าวด้วยว่า บริษัทฯนี้ แจ้งว่า จำเป็นจะต้องนำรถคืนไป ตั้งแต่วันที่ 10 พฤษภาคม 2553 และต่อมา มีนายวีระพล ไม่ทราบนามสกุล (ไม่แน่ใจว่าเป็น ผู้ชายที่รับสมอ้างว่าเป็นเจ้าของรถที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งในข่าวหรือไม่ ?) เป็นตัวแทนบริษัท มารับรถคืนไป ตั้งแต่วันที่ 5 สิงหาคม 2553 ต่อมา พยายามติดต่อทางบริษัทฯ เพื่อขอซื้อรถ ที่ยึดไป กลับคืนมา แต่ ทางบริษัท แจ้งว่า มีการเปิดประมูล และมีเจ้าของใหม่แล้ว จึงของให้ ตนเองไปรับเงิน ส่วนต่าง หลังจากที่หักค่าดำเนินการหรือธรรมเนียมต่างๆ หรือ มีเงิน ที่เปิดในบัญชีของธนาคารนี้ ที่กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2553 เป็นเงินรวมทั้งหมด 147,888.75 บาท ทั้งนี้ เอกสารหลักฐานต่างๆ ที่ดำเนินการเป็นคู่สัญญากับบริษัท ธนาคารทิสโก้ จำกัด(มหาชน) สาขาภูเก็ต หรือสำนักงานใหญ่ กรุงเทพมหานครมีครบถ้วนสามารถตรวจสอบได้ทุกเมื่อ -------------------- http://ndc.prd.go.th/pageconfig/viewcontent/viewcontent1.asp?pageid=449&directory=2011&contents=326100 ถ้าเป็นตามข้อมูลที่มีการโพสไว้ในหลายๆที่นี้ จะอนุมานได้ว่า ตัวรถกำลังจะเปลี่ยนชื่อ โดยเจ้าของคนใหม่ คำถามคือ รถอยู่ในระหว่าง กำลังโอนหรือไม่ ? เพราะช่วงเวลาลงตัวพอดี คนประมูลประมูลไป เอาไปขายให้.........แล้วอยู่ระหว่างกำลังโอน หรือเปล่า ? ตรงนี้หากต้องการข้อพิสูจน์ เบื้องต้น เรามาดู ความสัมพันธ์ของคนให้ยืมกับ คนยืมก่อนดีไหม ? ว่ามีข้อสังเกตใดบ้าง ? 1. ถ้าอายุต่างกันเยอะ ต้องดูว่า รู้จักกันยังไง ถ้าต่างกันมากๆ เช่น 17 กับ 35 อันนี้ต้องดูว่าเป็นอะไรกัน ? ถ้าเป็นเพื่อนก็ น่าจะเกินไป แต่ความสัมพันธ์ต้องไม่ธรรมดา เพราะ ให้ยืมรถกันได้ ราคาก็ นะ เกือบล้าน 2. ชื่อคนขับ ตกลงเป็นใคร เพราะ เนื้อข่าววันแรกๆ ก็เป็นชื่อคุณเรือง ซึ่ง คุณเรืองบ้านอยู่ภูเก็ต ไม่ได้ รู้จักกับ สกุล เทพหัสดินฯ เลย และข่าววันแรกบอกว่า ยืมรถเพื่อนมา อันนี้ น่าคิดนะครับ ข่าวนี้อาจเปลี่ยนแปลงรูปคดีไปเลยครับ เนื้อข่าว จากเวบจราจร http://www.trafficpolice.go.th/view_traffic.php?id=13555 จากคุณ : เจ้าหญิงน้อยแห่งอันดามัน เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 10:55:15

ความคิดเห็นที่ 26 ไม่รู้จะรีบดราม่าไปถึงไหน รถตู้อาจผิดก็ได้ จากคุณ : anonymous coward เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 10:56:36

ความคิดเห็นที่ 27 เนื้อข่าวอ้างอิงกับ คห. 25 ของผม จากคุณ : เจ้าหญิงน้อยแห่งอันดามัน เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 11:07:07

ความคิดเห็นที่ 28 คุณเจ้าหญิงน้อยฯ เด็กสาวอายุ 16 ปี 6 เดือนไม่ใช่เหรอคะ ฟังจากข่าวทีวี และอ่านเจอว่าแถว ๆ นี้ว่าเกิดเดือน มิย. 37 จากคุณ : August Rush เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 11:08:19

ความคิดเห็นที่ 29 #27   ข่าวนี่.......... ประมาณว่า  ความผิดทั้งหมดตกอยู่ที่เจ้าของ Civic ช่ายปะ   เหอๆๆ.......... เฮ้อ............. จากคุณ : Piano Player เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 11:14:51

ความคิดเห็นที่ 30 ไม่ใช่ครับ ลองอ่านดู ก็น่าจะพอทราบว่า มันมีอะไรที่ ไม่ตรงกับ ถ้อยแถลงของ ผู้ปกครอง นาวสาว เอ และตัวนางสาวเอ เลยครับ แล้วถ้าจากหลักฐานที่มี นางสาวเอ ยืมรถใคร ? จะรีบขับไปคืนใคร ? เจ้าเดิมตามชื่ออยู่ภูเก็ต ? เจ้าของใหม่ ธนาคารทิสโก้ ? ุคุณแม่บอกยืมมา นางสาวเอบอกยืมมา ยืมใคร ? ผมมีแต่ข้อสงสัยเกี่ยวกับคดีนะครับ จากคุณ : เจ้าหญิงน้อยแห่งอันดามัน เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 11:25:17

ความคิดเห็นที่ 31 ความคิดเห็นที่ 28 บ้างก็ 16 บ้างก็ 17 ครับ ผมเทียบดูแล้ว เรื่องอายุ รอไปอีกนิดครับ จากคุณ : เจ้าหญิงน้อยแห่งอันดามัน เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 11:26:39

ความคิดเห็นที่ 32 "ความเห็นที่ 26 ไม่รู้จะรีบดราม่าไปถึงไหน รถตู้อาจผิดก็ได้" จนป่านนีแล้ว ยังมีคนคิดแบบนี้อยู่อีกแฮะ จากคุณ : lynet เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 11:53:33

ความคิดเห็นที่ 34 4. ในส่วนของ โทรศัพท์ ขณะขับรถอยู่มีการใช้โทรศัพท์อยู่หรือไม่ ? ตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สงสัย และ เริ่มสอบสวนแล้วโดยจะทำเรื่องขอดูข้อมูลการโทร  ของนางสาวเอ แล้ว (ส่วนนึงที่ผมอยากเพิ่มเข้าไปคือการตรวจสอบ bb เข้าใจว่าต้องประสานขอไปทาง RIM ผู้เก็บข้อมูลการ แชท เพราะผมเชื่อว่า มีการลบ chat log ไปแล้ว 100% แต่ถ้าตำรวจทำ ผมว่าน่าจะได้ เพราะเป็นการขอหลักฐานทางคดี ที่สะเมือนขวัญ ) เนื้อหาข่าวจาก เมเนเจอร์  "ความประมาทที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ปัจจัยที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุมาจากความประมาท แต่กรณีนี้ ชุดสอบสวนกำลังปรึกษาหารือว่า จะทำหนังสือไปยังผู้ให้บริการด้านโทรศัพท์เคลื่อนที่ เพื่อขอตรวจสอบการใช้โทรศัพท์มือถือในวันเกิดเหตุย้อนหลังในช่วงก่อนเกิด อุบัติเหตุ เธอได้พูดคุยโทรศัพท์มือถือหรือไม่ เพราะหลักฐานจากกล้องวงจรปิดระบุวันและเวลาอย่างชัดเจน หากนำมาเปรียบเทียบแล้วพบว่ามีการใช้โทรศัพท์มือถือก็จะมีการแจ้งข้อกล่าวหา เพิ่มเติมว่า ใช้โทรศัพท์ระหว่างขับขี่ ก็จะรู้ว่าก่อนอุบัติเหตุเกิดขึ้นเพราะอะไร"พล.ต.ต.อำนวย กล่าว                ขณะที่ ผู้เชี่ยวชาญด้านโทรศัพท์มือถือ เปิดเผยถึงขั้นตอนการขอตรวจสอบการใช้โทรศัพท์มือถือของลูกค้าว่า หากพนักงานสอบสวนทำหนังสือมาเพื่อขอตรวจสอบตามขั้นตอนของกฎหมาย ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะพิจรารณาดำเนินการให้ตามขอบเขตของกฎหมาย ซึ่งจะสามารถตรวจสอบได้ทั้งข้อมูลการโทรเข้าและโทรออก ว่ามีโทรศัพท์เข้ามากี่โมง หรือโทรศัพท์ออกกี่โมง รวมถึงการตรวจสอบการส่งข้อความสั้น (เอสเอ็มเอส) ข้อความภาพ (เอ็มเอ็มเอส) ก็สามารถตรวจสอบได้เช่นกัน ซึ่งพนักงานสอบสวนต้องนำวันเวลาจากกล้องวงจรปิดมาเทียบค่ามาตรฐานให้ตรงกับ เวลาโลก เมื่อเปรียบเทียบได้แล้วนำข้อมูลวันและเวลาจากกล้องวงจรปิดกับโทรศัพท์มือ ถือมาดูกัน http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9540000002400 จากคุณ : เจ้าหญิงน้อยแห่งอันดามัน เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 12:04:25

ความคิดเห็นที่ 35 ตห 30 งงด้วยคน มีลับลมคมใน จะเป็นได้มั๊ยว่า คิดแบบคนมองโลกแง่ร้าย ตระกูลดีมีชื่อ สามารถนำรถยึดมาใช้ได้ฟรีๆ ในระหว่างที่อยู๋ประเทศไทย แต่มาเกิดอุบัติเหตซะก่อน ส่วนเจ้าของเดิมผู้ญ นั้นโดนยึดรถไปแล้วไม่เกี่ยวแล้วเพพราะขาดส่งค่างวด ส่วนผู้ช ที่มาอ้างว่าเป็นเจ้าของรถ คือคนที่เดือดร้อนถ้าหากรู้ว่ามีการนำรถยึดออกไปให้คนภายนอกขับ อันนี้เดาแบบคนมองโลกแง่ร้าย จากคุณ : NAN_KUNG เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 12:07:20

ความคิดเห็นที่ 36 โหวตให้ เพราะเกลียดพวกชอบพูดโกหกจนไม่รู้ตัวว่าอันไหนจริงอันไหนเท็จ โดยเฉพาะการโกหกเพื่อผลประโยชน์ตนเองและพวกพ้อง ใครจะเดือดร้อน แค่ไหนก็ไม่แคร์  ขอเพียงแต่ปัดความรับผิดชอบออกไปให้พ้นตัว   จะตามเรื่องนี้ต่อไป จะได้รู้กันว่ากลไกระบบความยุติธรรมยังทำงานได้ อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ จากคุณ : Bud&Ping เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 12:26:47

ความคิดเห็นที่ 37 ติดตามมาตลอด จากคุณ : ชายหกน้ำตกเนื้อ (ชายหกน้ำตกเนื้อ) เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 12:42:31

ความคิดเห็นที่ 38 ถึงขนาด ทางมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ลงมาช่วยดูแล และพูดในรายการเอียสอ  ชัดเจน แล้วนะครับ ว่าเบื้องต้น ไม่มีการติดต่อ หรือทำตามสมควร ในการดูแล แม้กระทั่งงานศพ ก็ไม่ไป ไม่อยากให้คุณแม่เลี้ยงลูก ปกป้องลูกโดยวิธีนี้  .............  มันช่าง โดนใจจริงๆ อีกทั้งการปกปิด แล้วมีคนจับผิดได้ ก็เพราะ การ"โกหก" ไงครับ ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเลย ไม่โปร่งใสสักอย่าง เอะอะก็อยู่ในกระบวนการ แล้วก็พูดไม่ตรงกัน ใครมันจะเชื่อ ก็สมควรแล้วที่จะโดนจับผิดโดนแฉก็ออกมาแถ   สุดท้าย การชดเชยที่สมน้ำสมเนื้อ  เป็นสิ่งที่ต้องทำให้ดีที่สุด ต่อให้ ต้องขายบ้าน ขายรถ  ทรัพย์สินของครอบครัวนี้จะหายไป เพื่อไปชดเชย 9 ครอบครัวก็ต้องทำ น้องที่ระบุอายุไม่ได้ก็เรียนเมืองไทย ไม่ต้องไปเมืองนอก   (ถ้าจะบอกว่านามสกุลนี้แต่ก็ไม่ได้รวย) ก็อยู่อย่างพอเพียงไป แต่ต้องชดใช้ ครอบครัว ผู้ที่จากไปทั้ง 9 ด้วย ไม่ใช่ จะมาลอยหน้าลอยตา แล้วก็จะโดนแฉ โดนจับผิดอีก ไม่จบไม่สิ้น   ถ้ายังไม่เปิดใจยอมรับผิดและแก้ไขจริงๆ ผมว่า โดนอีกหลายดอกเลย จากคุณ : kengkang เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 13:02:16

ความคิดเห็นที่ 39 เอาใจช่วยด้วยคนค่ะ ขอให้เกิดความยุติธรรมที่สุด....ไม่อยากให้คนผิดลอยนวล จากคุณ : kasidit05 เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 13:27:35

ความคิดเห็นที่ 40 อนาถใจเจ็ดช้าง #3 มาก คุณอ่านข่าวแล้วคิดได้แค่นี้ใช่มั้ยเนี่ย ถ้าคุณไม่ใช่ญาติคนชน ผมก็เชื่อว่าคุณต้องเคยชนคนตายมาก่อนแน่นอน เข้าใจกันดีจริงๆ ลองครอบครัวคุณหรือญาติคุณ หรือแฟนคุณโดนชนตายก่อนนะครับ แล้วค่อยมาเขียน ครอบครัวของ A พยายามโกหกเพื่อเบี่ยงเบนประเด็นตลอดเวลา ตั้งแต่ว่ารถตู้ขับเบี่ยงเลนเข้ามา รีบเอารถไปคืนเพื่อน มีใบขับขี่ที่เมกา อาการบาดเจ็บ ฯลฯ โกหกเพื่อให้ดูว่าเค้ามีเจตนาน้อยที่สุดน่าสงสารที่สุดไงศาลจะได้ปรานี ค่าชดเชยค่าเสียหายต่างๆรวมถึงบทลงโทษก็จะลดลง เรื่องแบบนี้ใช้แค่คอมมอนเซนส์ก็น่าจะรู้ได้นะ แต่คุณเจ็ดช้างคงทำงานใช้แต่แรงกายสมองเลยทำงานไม่ดี ตัวอย่างง่ายๆก็คุณหงิกที่ชนคนตายนั่นไง ทำไมต้องแกล้งหงิก ทำไปเพื่ออะไร ตอนนี้เป็นไง ติดคุกมั้ย ถ้าคุณไม่โง่จนเกินไปคงจะเข้าใจนะ คดีใหญ่โตขนาดนี้ คนเสียชีวิตมากมาย อยู่บนโทลเวย์ด้วย หนียังไงก็จับได้แน่นอน ไม่มีอะไรที่ตำรวจไทยทำไม่ได้ (เพียงแต่จะทำรึเปล่านั่นอีกเรื่อง) ยิ่งประชาชนสนใจด้วย ตำรวจจะแกล้งปล่อยก็คงทำไม่ได้ ซึ่งถ้าหนีแล้วจับได้เรื่องใหญ่กว่านี้อีก 100 เท่า ศาลก็คิดได้เลยว่าเจตนาหลบหนีอีก ติดคุกแหงม แต่ผมเชื่อว่าสมมติว่าให้หนีได้ ตำรวจปล่อย เรื่องเงียบ จบ ยังไง A ก็หนีแน่นอนเพราะความรับชอบ จิตสำนึกไม่มีเลยแม้แต่นิดเดียว อุบัติเหตุเกิดได้ เพียงแต่เกิดแล้วคุณเสียใจมากขนาดไหน คุณจริงใจรับผิดชอบขนาดไหน เป็นผมหรือคนอื่นทั่วไป ชนเสร็จถ้ายังเดินได้ไม่สาหัส ยังไงก็ต้องไปเยี่ยมเหยื่อทันที เพื่อดูแลว่าเป็นยังไงบ้าง มีอะไรที่เราช่วยเหลือได้บ้าง นี่ปล่อยไว้กี่วัน แกล้งป่วยหนักอยู่นั่น กว่าจะไปเยี่ยม ไม่ได้เยี่ยมเองด้วย กว่าจะจ่าย ซึ่งจ่ายจริงรึเปล่าก็ไม่รู้เพราะครอบครัวผู้เสียหายยังบอกว่าไม่ได้รับการติดต่ออยู่เลย ทุกอย่างมันตีความได้อย่างเดียวว่าไม่จริงใจ ไม่เสียใจและไม่มีความรับผิดชอบเลย ถ้าจะทำต่อจากนี้ไปก็เพื่อหลอกสังคมเท่านั้นเพราะมันนานเกินกว่าจะแสดงความจริงใจแล้ว ชัดเจนขนาดนี้ยังคิดอย่างอื่นได้อีกเหรอเนี่ย และสิ่งสุดท้ายคือตำรวจ ทำงานได้แย่มาก สองมาตรฐานของจริง สมควรจะปฏิรูปอย่างจริงจังได้แล้ว ขอไว้อาลัยไทยแลนด์ จากคุณ : สะเหร่อคุง เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 13:40:24

ความคิดเห็นที่ 41 เเละจุดจบเรื่องนี้ก็เหมือนเดิมอีกครั้ง ไม่รู้ว่ายังจะมีให้ลุ้นต่ออีกไหม ขอให้ผลกรรมตามทันในเร็ววันนะครับ เชื่อว่าสักวันต้องออกมาขับรถอีก ขอให้นึกถึงภาพชนรถตู้ไว้ตลอดเวลานะครับ จะได้มีสติหรือจะสติแตกก็เลือกเอานะครับ จากคุณ : karinkr เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 14:01:57

ความคิดเห็นที่ 42 รู้สึกว่าตอนนี้ข่าวก็เริ่มเงียบ ๆ แล้วนะคะ.........เป็นกำลังใจให้นักสืบพันธ์ทิำพย์ค่ะ จากคุณ : เด็กน้อยร้อยชั่ง เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 14:47:10

ความคิดเห็นที่ 43 ขอบคุณคุณประกอบมากค่ะ..ที่เข้าใจคนแก่..เพราะรอโหลดนานๆแล้วจะออกแนวหงุดหงิด.. ้เห็นด้วยเลยค่ะ..ว่าครอบครัวนี้พยายามปรับเข้า"โหมดเขียม"...อย่างสุดชีวิต การที่ออกข่าวมาแบบต่างคนต่างพูด..โดยใช้วิธีหน้าทนเข้าสู้..ไม่คำนึงว่า วันก่อนนั้นพูดเอาอย่างไร..วันใหม่ก็พูดอีกอย่าง.. กลับกลอกไปวันๆ..เพียงเพื่อให้เข้าทาง"คดี" ที่ศาลอาจเมตตาลดหย่อนให้มากสุด.. ไม่ได้คำนึงถึงศักดิ์ศรีชาติตระกูลกันแล้ว...ตลบตะแลงเอาตัวรอดไปวันๆ..ทหารใหญ่... ที่ออกมาประกาศปาวๆว่า..เสียใจอย่างสุดซึ้งกับครอบครัวของผู้เสียหาย..แล้วก็ตบท้ายด้วยการอาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยให้คุ้มครอง.. (มันเกี่ยวกันตรงไหน..พ่อคุณ?) โน่นนนน..ไปเยียวยาผู้เสียหายโน่นนนน...ไปถามไปไถ่ไปแสดงความเสียใจอย่างจริงจัง.. แม่ทีนเอจตีนผี..นั่นก็ควรที่จะไปกราบศพ..ไปขอขมา.. ไม่มีใครเขาเขาจะมาเข่นฆ่ากับเด็กที่ด้อยในวุฒิภาวะหรอก.. แต่นี่..กลับยังเดินทำหน้าระรื่น..ต่างกับหน้าของผู้ให้กำเนิดที่หมองจนไม่มีราศรี.. แล้วเลิกซะที..กับคำบอกเล่าว่าจะ"บวชชี" น่ะ..ไม่ได้ซาบซึ้งไปด้วยเลยแม้แต่นิด..เพราะคนเราถ้าไม่สำนึกแล้ว..เข้าไปบวชเพื่อแค่หมายจะล้างมลทินก็จะไปมัวหมองพระศาสนาซะเปล่าๆ.. เข้าไปแก้ปัญหาให้ตรงจุด..อย่าพยายามเลี่ยงโดยใช้แม่..ใช้ป้า..หรือคนอื่นๆมาเป็นเกราะกำบังให้.. โต...จนขับรถซิ่งชนจนคนตายเป็นเบือ เกลื่อนกระจายเต็มโทลล์เวย์ได้ ก็ต้องรู้จักรับผิดชอบในการกระทำนั้นๆได้โดยการแสดงความเสียใจ.. ไม่ใช่พูดตามบทที่ทนายความยัดเยียดให้พูดซ้ำๆซากๆว่า.."หนูขอโทษ..มันเป็นอุบัติเหตุ" อย่ามาอ้างว่า..กลัวโน่น กลัวนี่..เป็นลูกเป็นหลานทหาร..เป็นเลือดเนื้อของนักรบก็ต้องมีความองอาจ..ไม่ใช่ตาขาวเหมือนพวกขี้ขลาด.. ไม่รู้ว่าได้รับการอบรมสั่งสอนมาเช่นไร..มันถึงได้บิดๆเบี้ยวๆไปหมด.. ทำให้ประชาชนอย่างเราๆท่านๆก็พลอยต้องมาช่วยกันจับผิดกันไปด้วย.. เริ่มตั้งแต่ อายุ (ใช่หรือไม่ใช่)... ใบขับขี่ (มีหรือไม่มี..ของในหรือของนอก?).. เจ้าของรถ...(ที่บัดนี้ก็ยังไม่รู้ว่าใคร?).. บาดเจ็บ.. (ที่ไม่มีใครเชื่อ) จะกลับไปเรียนต่อหรือไม่กลับ..(อ้าว..ที่ก็มาจากคำสัมภาษณ์ของมารดาไม่ไม่เคยตรงกันสักวัน) การอนุญาตให้ขับรถทั้งๆที่ไม่มีใบขับขี่ (พ่อกับแม่..พูดไม่ตรงกัน) เปลือกต่างกับแก่น..จนไม่รู้ว่าจะเชื่อตรงไหน.. เปลือก..เหมือนรวย..เพราะภาพลักษณ์ที่มีนามสกุลดัง..ไปเรียนไฮสกูลที่อเมริกา...พ่อแม่ซื้อรถหรูรอไว้ให้ก่อนที่จะมีใบขับขี่.. แก่น..หรือแกนกลาง..ที่มารดาไปอ้างว่า..ครอบครัวก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไร (แต่พ่อบอกว่า..ซื้อรถให้ลูกเอาไว้ไปทำผม..ทำเล็บ) จนอาจประมาณไว้ว่า..เป็นแค่มนุษย์เงินเดือนที่พยายามทำทุกอย่างที่จะส่งเสริมให้ลูกสาวให้เป็นไฮโซที่สมบูรณ์แบบ โดยใช้นามสกุล..ใช้เส้นสายญาติพี่น้องเพื่อที่จะได้มีที่ยืนในชั้นแนวหน้าของสังคมไทย เพราะเดี๋ยวนี้เหล่าพวกเซเลบเขาก็ล้วนแต่มีงานไซด์ไลน์ที่สร้างเม็ดเงินไปอย่างเป็นกอบเป็นกำ เช่น..เป็นแบรนด์แอมบาสเซเดอร์ หรือ พิธีกร ถ้าเป็นในกรณีนี้..ก็ขอแสดงความเสียใจไว้ด้วยเพราะมันสุดจะเยียวยาเสียแล้ว ตอนนี้..ในฐานะประชาชนที่เฝ้าหาความยุติธรรมให้แก่ผู้เสียหาย..มองเรื่องนี้เหมือน"นิยาย" รายวัน..ไม่รู้ว่าพวกเขาจะมาเล่น"ปาหี่" หรือ "โกหก" อะไรให้ฟังกันอีก..ก็ต้องติดตามกันต่อไป..อย่างไม่กระพริบตาเชียว.. แก้ไขเมื่อ 09 ม.ค. 54 14:50:17 จากคุณ : WIWANDA เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 14:48:18

ความคิดเห็นที่ 44 ถ้าพูดอะไรตรงไป ตรงมา ทำให้สิ่งที่ควรทำ ชื่อเสียงสกุลก็คงไม่เสียหายไปมากกว่านี้หรอกครับ จากคุณ : entaneer_cmu เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 15:01:20

ความคิดเห็นที่ 45 ครอบครัวคนตายไม่ได้ต้องการเงินมากมายหรอกครับ แค่อยากได้"น้ำใจ" ซึ่งครอบครัวเด็กสาว "ไม่เคยมีให้" แม้แต่พวงหรีดหรือตัวแทนไปงานศพ(ควรเป็นพ่อแม่เองซะด้วยซ้ำ) (ไม่นับ ดร.เป็ดนะครับ เพราะเป็นรายเดียวที่ยอมโผล่ไป คงเพราะ ดร. ได้รับพระราชทานเพลิงศพ) คนไทยให้อภัยกันได้ครับ แต่ไม่ใช่กับ "ความไร้น้ำใจ" เช่นนี้ ขอเน้นครับว่า "ไม่ใช่เรื่องเงิน" หากแต่เป็น "น่้ำใจ" จากคุณ : Ancient name of the Baroque เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 15:13:41

ความคิดเห็นที่ 46 นาง ลัดดาวัลย์ กล่าวต่อว่า ลูกสาวของตนคงต้องเรียนต่อในประเทศ เนื่องจากมีโรคประจำตัวไม่สะดวกที่จะนั่งเครื่องบินไปต่างประเทศได้ แนะนำให้คุณแม่คุยกับคุณพ่อบ้างนะครับ จะได้เตี๊ยมเรื่องให้ตรงกัน "ตอนลูกสาวอยู่ที่อเมริกาก็ขับรถเอง พอกลับมาเมืองไทยผมก็อนุญาตให้ขับรถได้ในละแวกบ้าน" "เพิ่งจะเปลี่ยนชื่อเป็นอีกชื่อเมื่อตอนกลับจากสหรัฐอเมริกาเมื่อ 6-8 เดือนที่แล้ว" ตกลง ว่าไปต่างประเทศไม่ได้เหรอครับ พึ่งกลับมาไม่ใช่เหรอ หรือคุณพ่อเข้าใจผิดว่าลูกไปต่างประเทศ? หรือว่าโรคประจำตัวนี่มันพึ่งเป็นตอนกลับมา? ************************************************** ส่วนเรื่องการยืมรถเพื่อนมาขับนั้น   ตนไม่ทราบเรื่อง คุณแม่ครับ กลับไปดูที่ตัวเองเคยให้ข่าวไว้บ้างนะครับ "เหตุที่เกิด..ลูกสาวยอมรับว่าขับรถเร็ว! เพราะจะรีบเอารถไปคืนเพื่อน ไม่ใช่รถของเรา ดิฉันไม่เคยอนุญาตให้ลูกขับรถไปข้างนอกแบบนั้น ตกลงทราบหรือไม่ทราบครับ จะให้ดี ว่างๆผมว่าไปตรวจกันทั้งพ่อแม่ลูกเลยก็ดีนะครับ ประสาทหน่ะ!!!! *************************************************** ฝากเรื่องนี้จากกระทู้เก่าด้วยครับ ส่วนตัวผมเองนะคิดว่า คนเราอะถ้าพูดความจริง พูดร้อยครั้งพันครั้ง มันก็ต้องเหมือนกันนะครับ ก็พิจารณากันดูแล้วกัน ส่วนตัวผมเองก็เห็นใจน้องเค้าอยู่บ้าง อาจคงเพราะมีพ่อแม่สปอยล์อย่างนี้แหละ ถ้าไม่มีพ่อแม่อย่างนี้ น้องเค้าอาจจะออกมาขอโทษได้จริงใจกว่านี้ (มั้ง???) จากคุณ : mornkung69 เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 15:15:24

ความคิดเห็นที่ 47 อยากให้ฟ้อง เรียกแค่ค่าเทอม ค่าใช้จ่าย ที่ แม่ ดร. ศาสตรา พ่อแม่ของลูกท่านอื่น ที่ต้องเสียไป เอาเฉพาะค่าเทอม ที่พ่อแม่ต้องจ่าย ตั้งแต่ลูกเค้าเรียนอนุบาล จนถึงปริญญา ตรี ปริญญาโท พ่อแม่นางแพรรา ควรจะออกมารับผิดชอบด้วย โกรธมากๆๆ เป็นพ่อแม่ภาษาอะไร เลี้ยงลูกให้เป็นคนประมาท ทำลายชีวิตผู้อื่น แล้ว ยังมุดหัว ไม่มีจิตสำนึกที่จะขอโทษอย่างจริงใจ โดยเฉพาะ ครอบครัวของน้องที่เพิ่งจบ วิศวะ นาโน คุณทำยังงี้กับครอบครัวเค้าได้ยังไง พ่อแม่เค้ายังไม่ได้ยินดีกับความสำเร็จของลูก ที่จะได้รับปริญญาเอกแน่ๆๆ ได้เป็น ดร. ทำประโยชน์ให้แก่ประเทศมากกว่าลูกสาวของเค้า ฟ้องมันทั้งตระกูล ห้าม นางสาวแพรวา มีใบขับขี่ตลอดชีวิต เพราะเดี๋ยวมันจะทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนอีก พ่อแม่เค้าจะรู้ไหมเนี่ยว่าสังคมตอนนี้ รู้แล้วว่าบ้านเค้าทำธุรกิจ กระเบื้องมุงหลังคาไปโดยไม่รู้ตัว ทั้งด้าน ทั้งทน แต่เสียเงินน้อยกว่า แก้ไขเมื่อ 09 ม.ค. 54 15:44:08 จากคุณ : ตระกูลA เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 15:16:12

ความคิดเห็นที่ 48 จขกท. พูดเหมือนฟันธงไปแล้วว่าเค้าประมาทคนเดียว ไม่ใช่ประมาทร่วม ซึ่งส่วนตัวคิดว่ามันเป็นการตัดสินที่เร็วเกินไป ผมไม่กล้าบอกหรอกว่ามันเป็นอย่างไร เพราะจากข้อมูลที่ผมได้เห็น ก็มีเพียงแค่กล้องวงจรปิด ที่เห็นอะไรไม่ชัดเจนเลย ผมคิดว่า ข้อมูลมันต้องมีมากกว่านี้ ถึงจะนำมาประกอบการตัดสินใจ และสามารถตัดสินคนๆ นึงให้ผิดได้น่ะครับ ถ้า จขกท. หรือใครก็แล้วแต่ ที่มีข้อมูลแค่นี้ ผมว่าอย่าใช้อารมณ์ตัดสินไปก่อนดีกว่าครับ และถ้าสุดท้าย เรื่องจริงมันคือ ประมาทร่วม แล้วคุณจะรับผิดชอบยังไง จากคุณ : ไปกินก๋วยเตี๋ยวเรือ เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 16:07:42 A:203.155.63.66 X: TicketID:280004

ความคิดเห็นที่ 49 มาลองคิดถึงประเด็นเรื่องเจ้าของรถเพิ่มเติมบ้าง  ว่าทำไมป่านนี้ยังสรุปไม่ได้ว่าใครคือเจ้าของรถ กรณีนี้เจ้าของรถเกี่ยวข้องขนาดไหน ต้องมีส่วนรับผิดชอบไหม? แน่นอนว่าเจ้าของรถต้องร่วมรับผิดชอบด้วย เพราะคุณปล่อยให้คนไม่มีใบขับขี่เอารถไปขับ ในทางแพ่งต้องร่วมชดใช้ด้วย เพราะมีส่วนในความประมาท แล้วทำไมยังไม่รู้ว่าเป็นใคร ผ่านมาสัปดาห์นึงแล้ว? เรื่องนี้คิดได้หลายมุมครับ  จากข่าว เจ้าของเดิมที่ภูเก็ตน่าจะไม่เกี่ยว รถโดนไฟแนนท์ยึดไปแล้ว ปัญหาคือแล้วใครกำลังครอบครองรถหละ ไฟแนนท์ยึดรถแล้วคงไม่เอาไปจอดแช่  ย่อมต้องหาทางขายต่ออย่างรวดเร็วที่สุด  รถน่าจะถูกขายต่อ หรือให้เช่าซื้อ หรืออะไรทำนองนี้ไปแล้ว แพรวาคงไม่ได้ยืมมาจาก บ ไฟแนนท์แน่ๆ ผมไม่ใช่นักกฏหมาย ไม่รู้ว่าการซื้อรถยึดต่อจากไฟแนนท์มีแบบไหนบ้าง สัญญาการซื้อขายเป็นอย่างไร หลังจากมีการเปลี่ยนมือแล้ว ถ้ารถยังติดจำนอง ชื่อผู้ครอบครองตามสมุดทะเบียนคือใคร ถ้าเป็นไฟแนนท์ ผู้ครอบครองจะใช้อะไรอ้างอิงว่าตัวเป็นเจ้าของรถ สัญญาซื้อขาย หรือสัญญาเช่าซื้อหรือเปล่า ผมไม่เคยผ่อนรถครับ รวมถึงเจ้าของรถอาจจะไม่ได้อยู่ในรูปบุคคล  แต่เป็นบริษัท ซึ่งสามารถซื้อรถในชื่อบริษัท แล้วเอารายจ่ายมาคิดเป็นค่าลดหย่อนต่างๆ ในทางภาษีได้ ถ้าเจ้าของเป็นบริษัท ก็ต้องหาต่อว่าทำไมเด็กอายุ 16 เอามาขับได้ เป็นบริษัทของใคร  ถ้าโยงไปโยงมากลายเป็นบริษัทของพ่อ จะเกิดอะไรขึ้น ตอนนี้การวิ่งเต้นปกปิดข้อมูล อาจจะไม่ได้แค่คิดถึงเรื่องผลทางคดี ทั้งทางแพ่งและอาญาเท่านั้นแล้ว แต่ยังต้องรวมถึงการปกปิดข้อมูลเพื่อรักษาหน้า จากคำโกหกต่างๆ ที่พรั่งพรูออกมาเพื่อปัดความรับผิดชอบตอนแรก ๆ ที่ยังไม่มีเวลาคิดมากนัก ไม่ได้เตี๊ยม ไม่ได้เตรียมตัวเตรียมคำตอบที่สมเหตุสมผลไว้ก่อน   ทำให้ต้องหาทางลง เลยต้องถ่วงเรื่องใครเป็นเจ้าของรถให้ช้าไว้ เพราะเกิดสังคมจับได้  ว่าพ่อแม่หรือญาติสนิทนั่นแหละเป็นเจ้าของ หน้าตาจะยิ่งไม่เหลือ ตอนนี้ตั้งตัวกันได้แล้ว  ต่อไปเราคงได้เห็นลูกดื้อแพ่ง ลูกเงียบ จากทางฝ่ายผู้ก่อเเหตุมากขึ้น   ถ้ามีการวิ่งเต้น การร้องขอ  คงมีการขอให้อย่าเปิดเผยประเด็นนี้ เพราะหน้าจะแหกยับไม่เหลือก็ได้ จากคุณ : ประกอบ เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 16:12:31

ความคิดเห็นที่ 50 เรียน #49 ผมไม่เชิงฟันธงว่าประมาทคนเดียวหรือประมาทร่วมครับ ถ้าผลออกมาว่าประมาทร่วมก็คือประมาทร่วม  แต่อยากให้เป็นการประมาทร่วมจริงๆ  ไม่ใช่บิดเบือนหลักฐานจนเป็นแบบนั้น รถขับอยู่ข้างหน้า บนถนนโล่งๆ ทัศนวิสัยจำกัด  มีรถหลังมาชน ถ้าประมาทร่วม ใครประมาทกว่าใครครับ คันหลังหรือคันหน้า ผิดมากผิดน้อย ไม่ใช่ประเด็นหลักของผม แต่ความรับผิดชอบนี่แหละที่สำคัญ เพราะคนที่สูญเสียแต่ละราย น่าเห็นใจมาก ๆ ขอให้มองประเด็นนี้เป็นหลัก ถ้าครอบครัวออกมาแสดงความรับผิดชอบมากกว่า ยังไม่ต้องหาว่าใครถูกผิด  แต่รับรู้ว่าลูกมีส่วนผิดแน่นอน  ออกมาแสดงน้ำใจ ไม่ปัดความรับผิดชอบ  ผมคงไม่ต้องมาร่วมออกความเห็น ข้อมูลประกอบการคดี ที่จะบอกว่าใครประมาทกว่าใครมี เช่นภาพจากกล้องตัวอื่นๆ  ประจักษ์พยานในที่เกิดเหตุ รวมถึงระหว่างนั้น มีการใช้โทรศัพท์ไหม   ทำไมไม่ตรวจแอลกอฮอล์ ปัญหาคือหลักฐานต่างๆ จะถูกนำมาใช้ นำมาพิจารณาไหม หรือแกล้งถูกละเลย เราถึงมีกระทู้นี้และก่อนหน้า เพื่อมาดักคอให้คนที่รับผิดชอบทำคดีรู้ว่า สังคมจับตาดูอยู่นะ คุณเชื่อไหม ว่าความยุติธรรมในไทยซื้อได้ ถ้าคุณวิ่งเต้นถูกทาง และคู่กรณีไม่ใช่คนใหญ่คนโต นี่แหละทำไมคนถึงไม่พอใจมีมาก จากคุณ : ประกอบ เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 16:26:04

ความคิดเห็นที่ 51 ผมคนนึงขอค้านกระแส  ให้กำลังใจน้องแพรวา จากคุณ : art8new เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 16:33:56

ความคิดเห็นที่ 52 @ art8new ไม่มีใครว่าคุณหรอกค่ะ เพราะมันเป็นสิทธิส่วนบุคคล.. แต่ที่เรามาพูดกันอยู่นี่..คือเรื่องของบรรทัดฐานของการใช้รถใช้ถนนต่อไปในภายภาคหน้า.. ถ้าขนาดนานาระดับมันสมองของประเทศ..ต้องมาดับสูญไปเพราะพ่อแม่เลี้ยงลูกไม่ถูกทาง..ปล่อยให้ออกมาเพ่นพ่าน ขับรถซิ่ง..แล้วมาอ้างว่าเป็นอุบัติเหตุอย่างหน้าตาเฉย..อีกทั้งดูเหมือนว่า...ฝ่ายตำรวจก็พลอยจะ"โอ๋" จนออกหน้าออกตาเข้าไปอีก.. ความหวังของผู้เสียหาย..ฝากไว้ที่ทีมกฏหมายของธรรมศาสตร์เพียงอย่างเดียว..เพราะเกี่ยวข้องกันโดยตรง แต่ถ้าเป็นคนเดินดินหาเช้ากินค่ำ..หรือลูกหลานของดิฉันที่ต้องใช้รถใช้ถนนล่ะ..??? จะไปพึ่งใคร? จากคุณ : WIWANDA เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 17:02:59

ความคิดเห็นที่ 53 พิสูจน์ทุกข้อกล่าวหา   ... ใครกล่าวหาใครครับ  คุณ จขกท. หรือ พนักงานสอบสวนเป็นคนกล่าวหา จากคุณ : โรแบโต้ง เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 17:38:30

ความคิดเห็นที่ 54 จุดนึงที่ต้องไม่ลืมนะครับ ข้อมูลที่เราได้รับส่วนมากจะผ่านสื่อ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่เราตำหนิอยู่ว่าเสนอข่าวไม่เป็นกลาง เท่าที่รู้ สื่อเขียนข่าวคลาดเคลื่อนบ่อยนะครับ จากคุณ : naipui เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 17:50:42

ความคิดเห็นที่ 55 @ ตุณ naipui ไม่ลืมหรอกค่ะ..ก็เป็นเพราะสื่อไม่เป็นกลาง..เอนไปทางด้านเดียวจนเอียงกระเท่เร่..จึงได้เกิดกระทู้นี้ขึ้นมา..เพื่อเป็นการนำมารวบรวม..วิเคราะห์หาความเป็นกลางในรูปแบบของสภาประชาชนชาวไซเบอร์.. และที่สำคัญ...ในหลายกรณีที่เคยเกิดขึ้นมา..อย่างกระแส"ปิดตาอ่านหนังสือ.." ที่คนเก่งชาวหว้ากอของเราได้จุดประกายขึ้นมาจนทำให้ประชาชนเริ่มมองเห็นเป็นเหตุเป็นผลกันมากขึ้น..ว่า..เดี๋ยวนี้เล่ห์เหลี่ยมของการค้าได้ไหลคืบเข้ามาหากินกับเด็ก... เพราะจับจุดอ่อนของพ่อแม่ได้ว่า..ใครๆก็อยากให้ลูกเป็น"อัจฉริยะ" แบบเรียนลัดด้วยกันทั้งนั้น..เสียเงินเสียทองเท่าไหร่ไม่ว่า.. สื่อเอง..ที่เคยช่วยโหมโฆษณาการค้าประเภทนี้..ต่างก็พยายามปิดปากเงียบ...หมกเม็ด..ไม่รับผิดชอบอีกตามเคย... ดังที่เรียนให้ทราบข้างต้นว่า...ดิฉันและชาวไกลบ้า่น (หมายถึงคนไทยในต่างประเทศ) ให้ความสนใจในคดีเก้าศพ..เพราะมันสะเทือนขวัญจนกระทั่งเข้าขั้นเสียขวัญกันเลยทีเดียว..เพราะพวกเขา"เลือดเย็น" กันมาก เพราะแทนที่จะมาดูแลคนเจ็บ คนตาย..กลับดูเหมือนเอาเวลามาวิ่งปิดปากคนโน้นคนนี้..แม้กระทั่งให้การแบบซี้ซั้ว..ก็ยังเป็นที่ยอมรับ..ยังมีคนแสดงความเห็นอกเห็นใจ อนึ่ง..ดิฉันเป็นคนที่สนใจในประวัติศาสตร์ทั้งไทยและเทศ ***  อ่านมามาก..และที่เคยชื่นชอบ..ก็คือหนังสือเล่มนี้.."จงรักเกียรติยิ่งชีวิต" ตอนนี้..ดิฉัีนคิดว่า..วลีนี้..คือคำประดิษฐ์ขึ้นมาให้ฟังหรูๆ เหมือนมีพลัง มีอำนาจเพื่อมาเสริมบารมีให้ลูกให้หลาน..อันเหมือนสโลแกนให้พึงสำเหนียก หากแต่...ชนรุ่นหลังหาได้เข้าใจนัยยะหรือมีความซึมซับตามข้อความนั้นไม่.. *** หมายเหตุ เืพื่อเป็นการยืนยัน..ไปกดหาชื่อดิฉันดูได้ในพันทิบ..ห้องสมุด(ประวัติศาตร์) แก้ไขเมื่อ 09 ม.ค. 54 19:27:28 จากคุณ : WIWANDA เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 18:36:29

ความคิดเห็นที่ 56 ผมคนนึงขอค้านกระแส  ให้กำลังใจน้องแพรวา จากคุณ : art8new [FriendFlock] [Bloggang] เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 16:33:56 [แก้ไข] อีกหน่อยให้มานมาชนคนในครอบครัวคุณแล้วกัน สาธุ จากคุณ : INTEGRATE เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 18:58:26

ความคิดเห็นที่ 57 เรื่องแบบนี้ "ไม่เกิดกับตัว ก็ไม่รู้สึก" เวลาจะพิมพ์อะไรลงไปหัดคิดถึงประโยคที่ว่า "เอาใจเค้ามาใส่ใจเรา" กันบ้าง คิดว่าทุกคนที่ติดตามกรณีเรื่องนี้เพียงแค่ต้องเห็นคำว่า "จริงใจ"+"ความรับผิดชอบ"+"น้ำใจ"+"ความเห็นอกเห็นใจ" แค่นั้น สุดท้ายก็คือ ความเข้มแข็งของ "ผู้ใช้กฎหมาย"ว่าอยู่"เหนือกฎหมาย"แต่อยู่ใต้"อำนาจหรือเงินตรา" รึไม่? เป็นบทสะท้อนถึงคำว่าสองมาตรฐานอันแท้จริง หันไปมองครอบครัวน้อง"พ"แล้วกันกลับมามองครอบครัวของผู้เสียชีวิตทั้ง 9 แล้ว"อนาถ"ใจนัก จากคุณ : beYummy เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 19:46:52

ความคิดเห็นที่ 58 แปลกดี ทีคนขับรถบรรทุกชนคนตาย หนีไปแทบทุกราย ไม่ยักกะมาตั้งกระทู้ประณามขุดคุ้ยกันขนาดนี้ หรือว่าเป็นเพราะคนตายเป็นชาวบ้านตาสีตาสา ไม่ใช่ปัญญาชนแบบกรณีนี้ ตกลงท่านทั้งหลายก็สองมาตรฐานเหมือนกันใช่ไหม จากคุณ : ม้าหงอย เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 19:56:14

ความคิดเห็นที่ 59 ผมว่าคุณนั้นละแปลก จริงมั้ย ม้าหงอย หากตรรกคุณคิดแบบนั้น ไม่รู้เลยเหรอหรือว่่าแกล้ง... จากคุณ : ลุงสนุก เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 20:26:17

ความคิดเห็นที่ 60 คนขับรถบรรทุกชนคนตาย คุณไม่สังเกตุเหรอว่าไม่นานก็จับได้โดยไม่ต้องหาหลักฐานอะไรมากมาย เข้าคุกแบบเอ็กเพรสด้วยซ้ำ คดีนี้เค้าตามหาความมีน้ำใจและความรับผิดชอบจากคนที่เรียกตัวเองว่าไฮโซ ไม่ได้ต้องการให้เด็กน้อยตาดำๆที่แสน...เค้าเข้าคุกและตายในคุกซะหน่อย จากคุณ : kongkwancafe เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 21:11:30

ความคิดเห็นที่ 61 เห็นตรรกะคห. 58 แล้วปวดหัว ถ้าอย่างนี้เกิดผมมีเงิน 1,000 บาท อยากทำบุญให้บ้านเด็กยากไร้ทีนึงต้องทำทุกบ้านทั่วประเทศไทยถึงจะไม่สองมาตรฐานหรือนี่? ไม่สิ ต้องทำทั่วโลกเลยไม่งั้นจะสองมาตรฐาน อ้าว แล้วคนแก่ยากไร้ล่ะ เฮ้ย! ไหนจะคนพิการอีก ไม่ได้ๆ เดี๊ยวจะมีคนว่าสองมาตรฐาน เงินก็มีแค่นิดเดียว สุดท้ายคนที่มีตรรกะแบบคุณวันๆก็ไม่ได้ทำอะไรเลย จากคุณ : Onizu_9 เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 21:19:02

ความคิดเห็นที่ 62 โหวตค่ะ...จะคอยติดตามตลอด จากคุณ : bombgolf เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 21:22:54

ความคิดเห็นที่ 63 คนธรรมดาอย่างเราๆท่านๆ ถ้าขับรถแล้วชนคนตายแบบนี้ หลักฐานมันพร้อมนะครับ ยังไงก็จะต้องถูกควบคุมตัว แล้วคุณถึงจะมีสิทธิ์ยื่นขอประกันตัวออกมา แล้วนี่.... เป็นข่าวเมื่อสามวันก่อนครับ ตำรวจให้เหตุผลว่า ผู้ต้องหาเป็นผู้เยาว์ ไม่มีท่าทีจะหลบหนี และอยู่ในสกุลใหญ่ ทำให้เชื่อได้ว่าจะไม่หลบหนี ก็ถูกของมันครับ แต่ผมฟังแล้วโมโหอย่างประหลาด จากคุณ : คนตามสื่อ (คนตามสื่อ) เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 21:30:11

ความคิดเห็นที่ 64 พอดีเผลอลื่นหกล้มแล้วมือเผลอไปโดนปุ่มENTERอิอิ จากคุณ : Badromance เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 21:52:25

ความคิดเห็นที่ 65 โหวตให้ครับ ว่าแต่...กล้องวงจรปิดโทลเวย์ชัดได้แค่นี้จริงเหรอครับ หรือว่ามันมีอะไรมาบังกล้องให้มัวได้ขนาดนั้นครับ.. จากคุณ : sarprong เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 22:03:55

ความคิดเห็นที่ 66 ขนมเปี๊ยะกล่องเดียว ขี้ตืดมากๆเลยขนาดของเยี่ยมคนเจ็บยังไม่ลงทุน แค่นี้ก็ส่อถึงสันดานแล้วล่ะว่าคงทำทุกวิถีทางให้จ่ายค่าชดเชยน้อยที่สุด จากคุณ : น้องจุ่น เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 22:30:05

ความคิดเห็นที่ 67 ที่แน่ๆ พี่สิบล้อเค้าจะมีคำขวัญสุดฮิปติดท้ายรถว่า "คันหน้าตีนผีกูไม่ว่า คันหลังแ_ร_ากูไม่เอา" จากคุณ : หมาน้อยซอย4 เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 22:42:28

ความคิดเห็นที่ 68 รถทะเบียน กทม. น่าจะโอนกันเรียบร้อยแล้วนะ เจ้าของเดิมตัดไปได้เลย ธนาคารทิสโก้ นำออกประมูลแล้ว เจ้าของเดิมได้ส่วนต่างแล้ว ตัดไปอีกประเด็น ประเด็นคือ "โอนเป็นชื่อใคร" ทำไมถึงตรวจสอบได้แค่เจ้าของเดิม ?? ทั้งๆที่ใช้ทะเบียนใหม่แล้ว จะบอกว่าขูดตัวถัง ดูเพิ่มทั้งๆที่ป้ายทะเบียนแท้ๆ ก็เห็นอยู่ทนโท่ ไม่เข้าใจว่า เจ้าของเดิมมาเกี่ยวได้ไง ประเด็นลดค่าใช้จ่ายบริษัทนี่ก็เข้าท่าดี จากคุณ : Kunzite เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 22:44:45

ความคิดเห็นที่ 69 ลาก 9 ศพไปเมืองผี แล้วยังลากคนเป็นเจ้าของรถเดิมมาอีก เฮ้อ!!ท่าทางยังไงก็ไม่ผิดใช่มั้ย จะปัดสวะให้พ้นตัวว่างั้น เฮอะ!!นี่แหละน้า พูดกันง่ายๆสรุปๆสั้นๆเลย ถ้าเด็กนี่ไม่เอารถมาขับมันจะมีคนตายมั้ย?ถึงจะบอกอุบัติเหตุก็เถอะ ชักแม่น้ำทั้งห้าอีกแล้ว ทุเรศสุดๆ นี่แค่ตรรกะ กินข้าวแล้วอิ่มท้องยังนึกไม่ออก อีกเรอะ จากคุณ : wan_p เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 00:39:21

ความคิดเห็นที่ 70 ประทับใจ.คห.58.. ตั้งแต่เกิดเหตุก่อนปีใหม่..อ่านมาหลายกระทู้จนตาลาย.. อินไปกะเนื้อเนื้อเรื่อง จนมา คห.58 นี่แหละ.. อืม..สะดุดใจเลย..ว่าเราเป็นกลางหรือป่าว.. จากคุณ : หาตัวเองไม่เจอ (หาตัวเองไม่เจอ) เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 01:00:45

ความคิดเห็นที่ 71 คห.48 ประมาททางอาญาไม่มีประมาทร่วมนะคะ เพราะประมาทไม่อาจมีตัวการได้นะคะ มีแต่ต่างคนต่างประมาท แล้วก็รับโทษแยกกันด้วย คือประมาทใครประมาทมัน รับโทษเหมือนกัน แต่คนขับรถตู้ (ถ้าประมาท) ก็ไม่ต้องรับโทษทางอาญาแล้ว เพราะโทษทางอาญาระงับลงเมื่อผู้กระทำความผิดตาย ส่วนน้อง พ. ก็ต้องรับโทษตามที่บัญญัติไว้ค่ะ แต่จะรอลงอาญาหรือไม่นี่เป็นดุลพินิจของศาล เพราะงั้นไม่ว่าใครจะประมาทกว่าใครทางอาญาไม่มีผล ส่วนทางแพ่งจะเรียกว่าละเมิดร่วมค่ะ ไม่ได้เรียกว่าประมาทร่วม เพราะละเมิดของทางแพ่งจะมีทั้งที่จงใจ และประมาทเลินเล่อ ซึ่งทั้งนี้ทั้งนั้นก็เป็นเรื่องที่หากทั้งน้อง พ.และคนขับรถตู้ประมาททั้งคู่ล่ะก็ ก็ต้องร่วมกันรับผิดชอบต่อผู้เสียหาย และก็ไม่ต้องดูด้วยว่าใครประมาท (ละเมิด) มากกว่ากันด้วย เพราะต้องรับเท่ากันเพราะถือว่าประมาททำให้ผู้อื่นเสียหาย ส่วนละเมิดอีกอันที่คุณบอกว่าใครผิดมากกว่ากัน เค้าคิดจากของผู้เสียหาย กล่าวคือว่า ความผิดของรถตู้ (ถ้าประมาท) หรือความผิดของน้อง พ. กับความผิดของผู้เสียหาย อันนี้ก็มาดูว่าผู้เสียหายประมาทหรือไม่ ค่าสินไหมก็จะลดลงตามการละเมิด (ประมาท) นั้น หากผู้เสียหายประมาทมากค่าเสียหายก็จะลดลง ทำให้ค่าสินไหมทดแทนลดลง แต่ถ้าน้อง พ. หรือคนขับรถตู้ (ถ้าประมาท) ประมาทมากกว่า น้อง พ. และคนขับ (ถ้าประมาท) ก็ต้องชดใช้ค่าสินไหมแก่ผู้เสียหาย กับรถตู้ก็เช่นกัน เหมือนกับกรณีผู้เสียหาย คือ ถ้าคนขับรถตู้ประมาทด้วย น้อง พ. ก็ รับผิดต่อคนขับรถตู้น้อยลง (อันที่จริง คนขับรถตู้ก็คือผู้เสียหายนั่นแหละ) ถ้างงก็ถามได้นะคะ พิมพ์เองก็ชักงงเอง แก้ไขเมื่อ 10 ม.ค. 54 02:37:38 แก้ไขเมื่อ 10 ม.ค. 54 02:40:41 จากคุณ : fuyumesekai เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 02:30:43

ความคิดเห็นที่ 72 สิ่งบ่งชี้ที่ชัดเจนที่สุดว่ามีมีการปกปิดหรือพยายามปกปิดข่าว ก็คือเรื่องความเป็นไปเป็นมาของรถซีวิค สองอาทิตย์ผ่านไป รายละเอียดเกี่ยวกับรถไม่ปรากฏแม้แต่น้อย ซึ่งในความเป็นจริงแล้วในการตรวจสอบทะเบียนรถและการตรวจสอบเลขตัวถัง คงทำตั้งแต่วันแรกที่ลากรถไปเก็บแล้ว และตำรวจคงทราบแล้วว่ารถคันนี้เป็นของใคร มีที่มาที่ไปอย่างไร แต่รายละเอียดเกี่ยวกับรถที่ไม่เป็นข่าวเลยแม้แต่น้อย เป็นเพราะอะไร ก็ทราบๆ กันอยู่ - รถไฟแนนซ์ยึดจริงหรือไม่ (อาจจะจริง เพราะมีการขายทอดตลาด มีเงินทอนกลับคืนเจ้าของรถ) - ใครประมูลรถไป - รถโอนทะเบียนใหม่เรียบร้อยหรือไม่ - ทะเบียนทีเห็นเป็นของรถคันนั้นหรือไม่ - รถเอาไปใช้ทำเรื่องผิดกฎหมายมาหรือไม่ (ส่งยา)   - เป็นรถถูกโขมยหรือแจ้งหายหรือไม่ - ถ้าเป็นรถถูกโขมย คนครอบครองเข้าข่ายรับซื้อของโจรหรือไม่ - รถคันนั้นอยู่ในความครอบครองของใคร - แล้วรถคันนั้นถูกขับโดย น.ส.เอได้อย่างไร ไม่น่าเชื่อที่คำถามข้างต้นตำรวจไทยจะไม่ทราบ หรือทราบแต่มันมีอะไรลึกๆ หรือมีอะไรปิดปาก เลยไม่ได้มีการเผยแพร่ แม้กระทํ่งทิสโก้ ไฟแนนซ์ที่ถูกพาดพิง ก็ยังปิดปากเงียบ ยอมให้สังคมตั้งคำถามเรื่องรถ แทนที่จะออกมาให้ความกระจ่าง ความไม่ชอบมาพากลหลายๆ อย่าง ถ้าปล่อยผ่านไป มันเหมือนสายลมและแสงแดด ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป ท่านม้าหงอยใน คคห 58 ก็ดู CSI บ่อยๆ ไม่ใช่หรือ ไม่คิดว่ามันมีสิ่งผิดปรกติอะไรหลายๆ อย่างในเรื่องนี้หรือ หรือคิดว่ามันก็เหมือนสายลมแสงแดดทั่วไป ทำความผิดปรกติให้เป็นความปรกติ สักวันหนึ่งคนเราคงเฉื่อยชากับทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวราวกับหุ่นยนต์ เพราะไม่ว่าอะไรมันก็ปรกติไปหมด จากคุณ : vandyman เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 02:40:28

ความคิดเห็นที่ 73 รอชม   แต่เสียดายคนตาย จากคุณ : ผ่านนานแล้ว เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 02:50:49

ความคิดเห็นที่ 74 บาปติดตัว   ภาพติดตาครับ ผมว่ามีฝันร้ายทุกคืนแน่ เหมือนในหนัง จากคุณ : azakedul (Azakedul) เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 03:35:48

ความคิดเห็นที่ 75 เรื่องรถ..ถ้าทางตำรวจจะเอาเรื่องจริงๆก็ย่อมได้ค่ะ... เพราะทางเจ้าของเดิมได้ออกมาให้ข่าวแล้วว่า..ทางไฟแน้นซ์ยึดคืน และเคลียร์กันเรียบร้อยตั้งแต่กลางปีที่แล้ว.. ทางไฟแน้นซ์ ก็คงอยากจะปล่อยออกขาย..ระหว่างนั้นก็คงให้ใครต่อใครที่สนใจทำ่ท่าว่าอยากจะซื้อ..เอาไปลองขับดูก่อน...อันนี้เป็นเรื่องปรกติในแวดวงสังคมเพื่อนฝูงที่เชื่อใจกันได้.. และเกิดขึ้นได้ในกรณีนี้..เด็กทีนเอจคนนั้น อาจจะเป็นผู้อาสาเอารถไปคืน หรือพ่อแม่ใช้ให้ขับรถเอาไปคืน..หรืออาจกำชับว่า..ไปให้ทันก่อนเวลาเท่านั้นเท่านี้นะ..พอเหตุเกิดขึ้นมา..ก็วิ่งปิดข่าวกันใหญ่..เพราะ..ต่่างก็ต้องกล้ำกลืน.. ทางพ่อแม่..ก็คงต้องรับจ่ายในเรื่องของรถที่เสียหายไปอยู่ดี..หรืออาจจะจ่ายไปแล้ว..เจ้าของหรือบริษัทไฟแน้นซ์จึงเงียบกริบ เพราะ..เข้าไปเกี่ยวข้องก็รังแต่จะเสียชื่อ..ทางตำรวจก็หยวนๆกันไป..ไหนๆก็ไม่ติดคุกอยู่แล้ว หันมาช่วยให้คดีเบาบางไปจะดีกว่า.. ตอนนี้..พอเห็นได้ชัดว่า..ทางครอบครัวนี้กำลังมองหา"ปาฎิหารย์" หรือ พยายามกำหนดให้มี "การบังเกิดของปาฏิหารย์"  เช่นอาจหาสาเหตุมากล่าวโทษรถตู้..หรือ.."ความประมาทร่วม" (ดังคคห.ข้างบน) ทุกอย่างที่อาจเป็นช่องทางให้"จ่าย" หรือ "รับโทษ" น้อยที่สุด.. ซึ่งดูเหมือน....มีคนและหน่วยงานพร้อมที่จะให้ความร่วมมือเยอะมาก ยกตัวอย่างเช่น..ในเรื่องของอายุ..หรือ ใบเกิด ถ้าเป็นความจริงอย่างที่เขาแจ้ง..ก็น่าจะแสดงความบริสุทธิ์ใจกับประชาชน อย่างน้อยก็เพื่อเป็นการยืนยันด้วยศักดิ์ศรีของชาติตระกูล โดยการแสดง สูติบัตร..ให้หมดความเคลือบแคลงและข้อครหา.. หรือ..น่าจะมีครูบาอาจารย์ของเด็กนั่น..ออกมารับรองว่า..เกิดเมื่อนั้นเมือนี้จริง.. เปล่า...ไม่มีสักนิด...ครอบครัวนี้..ณ. ปัจจุบัน ทุกคนเหมือนกับเกิดมาจากกระบอกไม้ไผ่...พ่อแม่ทำงานทำการอะำไรที่ไหน..ไม่มีใครรู้.. แต่ทีกับพวกหาเช้ากินค่ำ..พอทำความผิดขนาดไม่ต้องร้ายแรงอะไรหนักหนา.."สื่อ" ก็เอามาแฉได้จนหมด ไม่ว่าจะเป็นบ้านช่อง..หรือแม้กระทั่งอาชีพพ่อแม่.. จากคุณ : WIWANDA เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 05:30:12

ความคิดเห็นที่ 76 ขอให้กรรมจงตามให้ทันครับ.. จากคุณ : nc@1600cc เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 05:58:34

ความคิดเห็นที่ 77 เรื่องจะเงียบแล้วครับ จากคุณ : joyrisus เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 07:58:19

ความคิดเห็นที่ 78 วันก่อน  ขับรถกลับบ้านกับลูกอายุ 9 ขวบ คุยกันเรื่อง ลูกยังขับรถไม่ได้หรอก อายุยังไม่ถึง เดี๋ยวมีปัญหา คุยไปคุยมา ลูกเลยถามว่า " แพรวาเป็นคนสุขุมไหม แม่" เราก็งง เลยตอบไปว่า " ขับรถทำคนตายตั้ง 9 ศพ พ่อแม่เค้าปล่อยลูกออกมาขับรถเพ่นพล่านได้ยังไง อายุน้อย ยังไม่มีความสุขุมเท่าผู้ใหญ่หรอก" ลูกเลยตอบว่า " แพรวา สุขุม ขุมนรก ไงแม่" ลูกบอกเด็กๆ เล่นทายคำกันที่โรงเรียน เลยจำเอามาตั้งคำถามกับแม่ไง เออ เด็กมันยังคิดกันได้ไง วุ้ย คำถามแบบนี้ จากคุณ : ตระกูลA เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 08:30:15

ความคิดเห็นที่ 79 เหมือยจะเริ่ม ละลายไปกับสายลมแสงแดดเลย มีคนพูดโดนใจ ซักวันเราคงเป็นเหมือนหุ่นที่เห็น ทุกสิ่งทุกอย่างปกติหมด เป็นงั้นจริงๆคงเศร้า แม้เสรีภาพ ในด้านความคิดยังถูกปิดกั้น แบบนั้นมันเกิดมาเพื่อตายชัดๆ ปล.ป้าวิครับ เป็นพวกหาเช้ากินค่ำ ปานนี้เขานั่งสัมภาสที่บ้านแล้ว ไม่น่าเกินสามสี่วัน ข้อมูลตั่งแต่รุ่นปู่ของนามสกุลโดนแฉหมด จากคุณ : ลมหนาวและดาวลูกไก่ เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 08:57:42

ความคิดเห็นที่ 80 ขอแสดงความเห็นด้วยนะครับ ผมเป็นคนหนึ่งที่นั่งรถตู้สายที่เกิดเหตุกลับบ้านเป็นประจำ ตอนที่เรียนปริญญาเอกอยู่และต้องไปทำแลปที่ MTEC ยังมานั่งคิดเลยว่าถ้าอุบัติเหตุนี้เกิดเร็วกว่านี้ผมคงเป็นคนหนึ่งที่อยู่ ในรถคันนั้น ทีนี้ประเด็นที่เกิดในนี้คือถามหาความจริงใจครับ ถามว่าถ้าคนที่เสียชีวิตคือญาติ พี่ น้อง หรือคนในครอบครัว คุณจะรู้สึกอย่างไร? รอติดตามความยุติธรรมครับ เคยมีคำพูด ๆ หนึ่งที่ผมได้ยินเป็นประจำสำหรับผู้ที่อยู่ในเมืองไทยครับ "ค่าของคนอยู่ที่คนของใคร" ก็ต้องรอดูกันครับว่าคำพูดนี้จะเป็นจริงอีกหรือไม่ จากคุณ : ดร.โอ๋ (pote_aoe) เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 09:16:23

ความคิดเห็นที่ 81 จะรอติดตามและให้กำลังใจครับ จากคุณ : i-dine เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 09:17:00

ความคิดเห็นที่ 82 อากให้ความจริงเปิดเผยเร็วๆ ค่ะ จากคุณ : YesterdayOnceMore เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 09:50:09

ความคิดเห็นที่ 83 เห็นด้วยกับเจ้าของกระทู้ทุกประการ แต่กิฟท์หมด กดถูกใจไม่ได้ (หมดเพราะติดตามกระทู้นี้เลยคะ) จากคุณ : หนึ่งสิทธิ (baybamboo) เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 10:09:44

ความคิดเห็นที่ 84 คุณความคิดเห็นที่ 3 คะ ก็ถ้าน้องหรือคนในครอบครัวเขาโกหกแล้วมันไม่ได้มีผลต่อคดีอะไร จะโกหกไปทำไม คนอื่นเขารู้ เขาจะไม่สงสาร เขาจะรู้สึกไปในทางลบเพิ่มมากขึ้น ดังนั้น ไม่ควรที่โกหกดีกว่า เพราะถ้ามันไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับรูปคดี แล้วที่คุณบอกว่า ถ้าเป็นคุณ คุณจะปลอมตัวรวมเป็นคนเจ็บแล้วหาโอกาสหนี ตำรวจเดี๋ยวนี้ เขาจับตัวคนร้ายกันโดยใช้ญาณวิเคราะห์ขนาดนั้น จนคิดว่าจะตามหาคนขับรถไม่ได้เหรอคะ มันรอดตัวกันง่ายขนาดนั้นเชียวหรือคะ? ถ้าคุณเป็นคนธรรมดา ทำวิธีนั้น ยังไงคนเจ็บและผู้เสียหายเขาก็เรียกร้องให้ตามจับตัวคุณจนได้ในที่สุดแหละคะ รอดได้ไม่กี่วันหรอก ปล เป็นแค่ความคิดเห็นหนึ่งเท่านั้นคะ อาจจะไม่ถูกใจคุณเพราะคิดต่าง แต่ไม่อยากจะเหยี่ยบย่ำน้องเขาจนชีวิตนี้อยู่ในสังคมไม่ได้คะ เห็นใจเหมือนกัน แต่ไม่อยากให้คดีนี้หายไปในกลีบเมฆ จากคุณ : หนึ่งเสียง (baybamboo) เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 10:24:09

ความคิดเห็นที่ 85 ยังเข้ามาติดตามต่อครับ จากคุณ : jerry-t เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 10:28:41

ความคิดเห็นที่ 86 อ่านเจอในห้องศาลาประชาคม เห็นความเห็นนึงบอกว่า พี่ชายเขาคุยในเฟซบุ้คว่าครอบครัวมีเงินไม่ต่ำกว่าห้าร้อยล้าน แล้วตอนนี้แม่มาบอกว่าไม่ค่อยมีเงิน ไม่ค่อยมีเงิน แต่ส่งลูกไปเรียนเมกาได้ รู้มาว่าเมกา ถ้าไปในฐานะนักเรียนต่างชาตินี่ต้องเข้าเรียนโรงเรียนเอกชน ค่าเทอมไม่ต่ำกว่าล้านแน่ แล้วค่ากินอยู่อีก ซื้อรถป้ายแดงให้ลูกได้ แบบนี้เขาไม่เรียกว่าไม่ค่อยมีเงินหรอก เร็วๆ นี้มาให้สัมภาษณ์อีกว่า ลูกมีโรคประจำตัว นั่งเครื่องบินนานๆ ไม่ได้ แล้วอีตอนไปเรียนทีแรกนี่นั่งคองคอร์ดไปเรอะ หรือว่าหายตัวได้ ทีแรกบอกว่ามีใบขับขี่เมกา ตอนนี้กลายเป็นไม่มี โกหกหลายเรื่อง หลายหน เลยจำไม่ได้หมดหรือเปล่านี่ จนป่านนี้ ได้ไปเยี่ยมญาติผู้เสียชีวิตทั้งเก้า ไปขอกราบขอโทษเขาหรือยัง จากคุณ : อนาถใจ เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 10:34:38 A:110.32.86.117 X: TicketID:188044

ความคิดเห็นที่ 87 honda city ป้ายแดงที่พ่อแม่เธอออกให้ ทั้ง ๆ ที่ไม่มีใบขับขี่ นั่นน่าจะเป็นการแสดงว่าเธอคงขับซิ่งมานานแล้ว จนพ่อแม่ไว้ใจในฝีมือถึงได้กล้าออกรถให้ แม้ไม่มีใบขับขี่ ไม่เคารพกฏหมายมาตั้งแต่ หัวหน้าครอบครัวที่เป็นข้าราชการ แต่ตระกูลดัง ยังไงมีปัญหาอะไรพ่อเธอเคลียร์ให้ได้อยู่แล้ว นี่แหละสังคมไทย คนชัวไม่ติดคุกเยอะแยะ ขอแสดงความเสียใจกับผู้สูญเสีย จากคุณ : komuin เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 10:38:27 A:58.9.19.231 X: TicketID:259779

ความคิดเห็นที่ 88 ^ ^ โห .. เด็ก 9 ขวบ คิดกันแบบนี้เลยหรือครับ สมัยนี้ สมัยผม ดูการ์ตูน เล่นลูกแก้ว จับตั๊กแตน เรื่อยเปื่อย ไม่เคยคิดเรื่องพวกนี้เล้ย.. จากคุณ : อิ อิ เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 10:45:36 A:58.181.157.122 X: TicketID:169317

ความคิดเห็นที่ 89 แต่การบอกว่า "ซื้อรถมาให้ลูกขับไปทำเล็บทำผมแถวบ้านเท่านั้น" บ้านเราก็พอมีไม่ขัดสน แต่ถ้าลูกอายุขนาดนี้จะไปทำเล็บทำผม "จักรยาน" ค่ะ จากคุณ : จันทร์กลางหาว เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 11:27:50

ความคิดเห็นที่ 90 จำได้ว่า ไม่นานมานี้มีข่าวที่จีน ขับรถชนคนตายไป 8 คนมั้ง ถ้าจำไม่ผิด ศาลเขาประหารเลยทีเดียวเชียว.... ส่วนตัวเชื่อว่าฮัมมูราไบเป็นประมวลกฏหมายที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด... ถ้าหากว่า 1 ใน 9 ศพนั้นเป็นพ่อ แม่ พี่ น้อง ผมๆคงให้อภัยเธอไม่ได้ล่ะครับ (ขอโทษจริงๆถ้าจะบอกว่าต่อให้เอาชีวิตคนทั้งโลกมากองต่อหน้า ผมก็ขอเลือกชีวิตแม่ผมแค่คนเดียว....) เพราะมันเกิดจากความประมาทซึ่งเกิดจากความไม่สนใจในชีวิตของผู้อื่น (ไม่มีใบขับขี่ + ขับเร็วเกินกว่ากฏหมายกำหนด- ง่ายๆว่าคะนอง)ไม่ใช่อุบัติเหตุอันเกิดจากเหตุสุดวิสัย (ถ้าเบรคแตก,ยางระเบิดอีกเรื่องนึง) ผมไม่ทราบว่าก่อนชนเธอทำอะไรอยู่ เมา.... กดบีบี..... จิ้มวิทยุ ผมในฐานะคนขับรถเร็วเหมือนกัน ดูจากวงจรปิดแล้วไม่ค่อยอยากเชื่อว่าเธอจดจ่อบนท้องถนน (อยากเห็น chat log ในบีบีเธอมาก) อ่านหลายๆความเห็นที่ออกมาเรียกร้องความยุติธรรมแทนแพรวาแล้วละเหี่ยใจ.... แล้วความยุติธรรมของ 9 ศพที่เสียชีวิตไป อยู่ที่ไหน.... อย่าบอกนะครอบครัวได้เงิน 20 ล้านต่อศพ ยุติธรรมและ (คุณตีราคาชีวิตพ่อ แม่คุณคนล่ะเท่าไร....) ผมเห็นว่าการที่สังคมรุมประนามเธอ ถ้าเทียบกับชีวิตอันมีค่าและประโยชน์ต่อสังคม ต่อประเทศชาติอันหาที่เปรียบไม่ได้ทั้ง 9 ท่านนั้น สังคมยังกระทำต่อเธอไม่พอเสียด้วยซ้ำ ต่อให้เธอผูกคอตาย หรือกลายเป็นบ้าผมก็ไม่รู้สึกผิด ผมกลับมองว่านั่นเป็นสิ่งที่เธอควรจะได้รับเป็นการตอบแทน.... ไม่เคยโพสต์ในกระทู้แพรวาเลย แต่อึดอัดมากกับสังคมนี้ คนฝ่าไฟแดง ขับย้อนศร  ยิงปืนขึ้นฟ้า กระทำผิดกฏหมายแล้วทำให้คนที่เคารพกฏหมาย คนที่เคารพในชีวิตและทรัพย์สินของบุคคลอื่นต้องเป็นฝ่ายตาย.... คนที่ทำผิดกฏเหล่านั้นโดนแค่ข้อหาประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย..... พอไปด่าคนเหล่านั้น มีคนออกมาโต้ตอบแทนอีก อึดอัดจริงๆ จากคุณ : มึนตึน เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 12:10:24

ความคิดเห็นที่ 91 30 มิ.ย.2537 จากคุณ : hpnetwork_1 (hpnetwork_1) เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 12:12:36

ความคิดเห็นที่ 92 ความคิดเห็นที่ 56     ผมคนนึงขอค้านกระแส  ให้กำลังใจน้องแพรวา จากคุณ : art8new [FriendFlock] [Bloggang] เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 16:33:56 [แก้ไข] อีกหน่อยให้มานมาชนคนในครอบครัวคุณแล้วกัน สาธุ จากคุณ : INTEGRATE   เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 18:58:26   สะใจมะ  ดีๆชอบๆ เราไม่เห็นเห็นรู้สึกไรเลย อิจฉาน้องเค้าซิที่่หน้าตาสวย ถึงได้เข้าข้างรุมด่ากันจัง หรือว่ามีแฟนไม่สวยเท่านี้  เอิ๊กๆ จากคุณ : art8new เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 12:13:32

ความคิดเห็นที่ 93 สิ่งที่สังคมต้องการ นั้นไม่ใช่จะเหยียบซ้ำเด็กสาววัย 16 ให้จมดิน แต่ต้องการ ความยุติธรรม และ น้ำใจต่อครอบครัวผู้เสียหาย จาก ครอบครัว เทพหัสดิน ณ อยุธยา จากคุณ : LadyLavender เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 12:15:24

ความคิดเห็นที่ 94 ทุกๆคนครับ สัญญานะครับ ว่าจะไม่ให้เรื่องนี้เงียบ จากคุณ : ultra chet เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 12:19:41

ความคิดเห็นที่ 95 ล่าสุดข่าวช่ิอง7 ครอบครัวแพรวาได้ไปเยี่ยมผู้บาดเจ็บและเจรจากับครอบครัวดร.ศาสตร์ตรา เพียงครอบครัวเดียวและอีก8ครอบครัวยังไม่ได้รับการติดต่ิอ จากคุณ : MUSIC*TB เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 12:21:36

ความคิดเห็นที่ 96 คงใช้ ความสงบ สยบข่าวกันอยู่ จากคุณ : tull142 เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 12:35:05

ความคิดเห็นที่ 97 ...เข้ามาดู จากคุณ : เชร็ค 3 เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 12:46:42

ความคิดเห็นที่ 98 ใครช่วยเช็คข้อมูลให้ด้วยนะคะ เราเปิดข่าวช่อง TNN เมื่อเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา เห็นว่าทะเบียนไม่ใช่ของรถคันนี้ รู้สึกทะเบียนนี้ป็นของอีกยี่ห้อเจ้าของใช้อยู่ที่พิษณุโลกค่ะ จากคุณ : ไม่บอกดีกว่า เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 13:35:37

ความคิดเห็นที่ 99 ยาวจริงๆ 3 ภาคแล้ว จากคุณ : mairuna เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 13:36:11

ความคิดเห็นที่ 100 เรื่องอย่าให้เงียบก็พอ.. ผิดถูกยังไงยังไม่รู้ชัด (มั้ง) แต่ที่แน่ๆจิตสำนึกไม่มีทั้งบ้าน.. จากคุณ : N.J.Dahlia เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 13:46:50

ความคิดเห็นที่ 101 อัพเดท วันที่ 19 มค. 2554 เจ้าหน้าที่ ตำรวจ เรียกเจ้าของรถ เข้ามาพบพนักงานสืบสวนครับ วันเสาร์พอดี ถ้าว่างจะไปแอบสังเกตุการ์ณด้วย มาดูรายละเอียดกัน จะได้ทราบว่า เรามาถูกทางแล้ว เนื้อข่าวดังนี้ (เนื้อข่าวจากนสพ.สีขาว) (สีเหลืองคห. ของผม) (สีแดง อ้างอิงคำพูด) พ.ต.ท.ฉัตรชัย เอี่ยมอ่อง พนักงานสอบสวน (สบ 2) สน.วิภาวดี กล่าวถึงความคืบหน้าคดีว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายเรียกตัวเจ้าของรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้าซีวิค คันที่ น.ส.แพรวาขับไปก่อเหตุ ให้มาพบพนักงานสอบสวนในวันที่ 19 ม.ค.นี้ โดยออกหมายเรียกไปตามชื่อที่ปรากฎอยู่ในหมายเลขทะเบียนรถของกรมขนส่งทางบก โดยขณะนี้ทราบเพียงว่าเจ้าของรถคันดังกล่าวเป็นผู้หญิง และพักอาศัยอยู่ที่จังหวัดภูเก็ต แต่ไม่สามารถให้ชื่อจริงได้ เพราะอยู่ในขั้นตอนการสอบสวน (รายละเอียดตามที่ผมลงไว้ครับ เจ้าของรถคนเดิมที่ทำการคืนรถให้ทางทิสโก้ไปแล้ว ดังนั้น ข้อสังเกตุของผมตั้งแต่แรกตรงกันกับ จนท.) อีกทั้งยังต้องรอสอบปากคำถึงความเกี่ยวข้องกับรูปคดีด้วยว่ามีความข้อง เกี่ยวกับทาง น.ส.แพรวาอย่างไร และเป็นผู้อนุญาตให้ น.ส.แพรวาขับรถคันดังกล่าวหรือไม่ (อันนี้คุณ ร. เจ้าของรถตามชื่อ ที่ภูเก็ต ได้ยืนยันมา 10 วันแล้วว่า "ไม่เคยรู้จัก และไม่ได้เป็นญาติกัน ไม่ได้เป็นเพื่อนด้วย เจ้าของรถเดิมอายุราว 33 ปี กับแพรวาอายุ 16 17 18 ปี )                พ.ต.ท.ฉัตรชัยกล่าวด้วยว่า ก่อนหน้านี้ได้มีผู้หญิงคนหนึ่งอ้างกับเจ้าหน้าที่ว่าเป็นเจ้าของรถคันดัง กล่าว แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่เชิญตัวมาสอบปากคำหรือปักใจเชื่อ (อันนี้คห.ผมเอง ผมขอเดาล่วงหน้าเลยว่าเป็น ซ. ) เนื่องจากจะต้องเชิญเจ้าของรถ ซึ่งมีชื่อตรงกับเจ้าของทะเบียนรถมาให้ปากคำก่อน เพื่อสอบสวนถึงที่มาที่ไปของรถคันดังกล่าวว่าใครกันแน่ที่เป็นเจ้าของรถเก๋ง ฮอนด้าซีวิค สีขาวที่แท้จริง (อันนี้ 19 กระจ่างครับ กระจ่างเลยแน่นอน รอให้ถึงวันนั้นก่อน) ประเด็นตกค้างคือ ? 1. แล้วจะรีบเอารถไปคืนใคร ในวันเกิดเหตุ 2. คุณแม่บอกรถยืมมา ถ้ายืมคุณ ร. นางสาวเอ ต้องขับไปภูเก็ตเลยนะ 3. รถคันดังกล่าวเข้าประมูลไปแล้ว เมื่อเดือนสิงหา ถ้ายังไม่ได้โอน ทิสโก้ เป็นเจ้าของคนสุดท้าย ผมอยากรู้มากๆ ยืมรถธนาคารได้ยังไง ? จากคุณ : เจ้าหญิงน้อยแห่งอันดามัน เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 14:13:24

ความคิดเห็นที่ 102 ลืม เครดิต http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9540000001877 จากคุณ : เจ้าหญิงน้อยแห่งอันดามัน เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 14:18:48

ความคิดเห็นที่ 103 คดีนี้ดังเพราะ บุคลากรที่สูญเสียไป มันสำคัญมากนะครับ ถ้าเกิดบุคลากรเหล่านี้ยังอยู่ อาจจะมีใครสักคนที่ได้รับรางวัลโนเบลก็ได้ และหลายๆ คนย่อมรู้ดีครับว่า ทุน กพ. มันไม่ใช่จะมีกันเยอะแยะ ปีนึงประมาณ 10 ทุน กับเด็กที่แข่งขันกันเป็นแสน เพราะฉะนั้น คนที่ได้รับ ย่อมเป็น "หัวกะทิชั้นเลิศของประเทศไทย" ดังนั้นประเด็นมันเลยย้อนกลับไปถามว่า ทั้งที่ๆ รู้อยู่แก่ใจกันทั้งครอบครัวว่า "ไม่มีใบขับขี่" แล้วทำไมถึงปล่อยให้มาขับรถในยามวิกาลได้ (หลังพระอาทิตย์ตก - พระอาทิตย์ขึ้น) ดังนั้้นสิ่งที่สังคมต้องการ คือ "การออกมารับผิดชอบ" กับสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ได้หวังจะตอกย้ำ หรือสร้าง ตราบาป ให้กับ นางสาวเอ(นามสมุติ) ครับ สรุปกันตรงๆ สำหรับผม ไม่สนหรอกครับว่านามสกุลจะใหญ่คับฟ้ามาจากไหน หรือบทลงโทษมันจะรุนแรงแค่ไหน แต่ที่ผมเสียดายคือโอกาสของประเทศเรา โอกาสที่เราจะมีเทคโนโลยีของตัวเอง ที่จะสามารถเอาไปต่อกรกับนานาประเทศครับ ถึงตรงนี้ เงินเท่าไร มันก็ไม่พอที่จะชดใช้กับโอกาสที่สูญเสียไป แก้ไขเมื่อ 10 ม.ค. 54 14:37:16 จากคุณ : Priory of Syon เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 14:28:23

ความคิดเห็นที่ 104 เอาละๆ ข่าวล่าอัพเดทอีกที สงสัยจะต้องตามต่อจริงจังละ สรุปจากเจ้าพนักงานสอบสวน รถยนต์ทะเบียน เลขทะเบียน ฎว 8416 กทม  นั้น เป็นรถถูกสวมทะเบียน ซึ่งตรวจสอบแล้วว่า ทะเบียนดังกล่าว นั้น นาง น้ำอ้อย ปูงาม เป็นเจ้าของ มาก่อน ทว่า รถของนางน้ำอ้อยนั้นเป็น มิตซูบิชิสีดำ !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! และจากการตรวจสอบ ขนส่งภูเก็ต ยืนยันแล้ว น.ส.วิชชุตา วรขจิต กรรมการผู้ถือหุ้นใหญ่ ไซเบอร์โอเอซิส เป็นผู้ครอบครอง มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่เลขที่ 1221 ถนนลาดพร้าว 94 แขวงและเขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ น.ส.วิชชุตา วรขจิต เป็นเจ้าของตัวรถฮอนด้า (ขณะเกิดเหตุข่าวบอกว่า เจ้าตัวอยู่ภูเก็ต แต่รถอยู่กทม. ) และขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่สอบสวนกล่าวว่า "ส่วนความรับผิดทางอาญา จะต้องดูว่านางสาววิชุตตา ส่งมอบรถให้แก่สาว17ผู้ก่อเหตุซิ่งซีวิคชนรถตู้ โดยตรง หรือ ส่งผ่านผู้ปกครอง หากส่งมอบให้โดยตรง อาจต้องรับโทษทางอาญาในฐานะตัวการเท่ากับผู้ก่อเหตุ แต่หากส่งมอบผ่านผู้ปกครอง ผู้ปกครองของนางสาวแพรวาจะต้องรับโทษทางอาญาด้วย ฐานให้ผู้เยาว์ซึ่งไม่อยู่ในฐานะรู้ผิดชอบชั่วดี นำรถยนต์ไปใช้ โดยไม่สามารถอ้างว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นขาดเจตนาที่จะกระทำการประมาท เนื่องจากกฎหมายระบุไว้ว่าความผิดจากความประมาทจะอ้างว่าไม่เจตนาเพื่อ ปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ " สรุป เป็นคดีอาญาครับ อยู่ที่วันที่ 19 นี้ ว่าจะออกมารูปไหน เนื้อข่าวจาก TNN24 http://www.tnnthailand.com/news/details.php?id=22383 และคลิปข่าวจากเมเนเจอร์ จากคุณ : เจ้าหญิงน้อยแห่งอันดามัน เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 14:38:15

ความคิดเห็นที่ 105 คลิปไม่ขึ้นครับ รบกวนกดครับ http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9540000001877 จากคุณ : เจ้าหญิงน้อยแห่งอันดามัน เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 14:40:07

ความคิดเห็นที่ 106 ขอให้อย่าเป็นมวยล้ม..ต้มคนดูด้วยเถอะ ..สาธุ.. {-/\-"} จากคุณ : Chang Krub เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 14:53:04

ความคิดเห็นที่ 107 ช่วยกลับไปโหวต ภาค 1 และ 2 ด้วยครับ ทำให้ทั้ง 3 ภาคขึ้นกระทู้แนะนำ http://www.pantip.com/cafe/ratchada/topic/V10079402/V10079402.html http://www.pantip.com/cafe/ratchada/topic/V10085470/V10085470.html จากคุณ : ลุงเต่า เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 14:56:11

ความคิดเห็นที่ 108 และก็อย่าลืมว่า คดีนี้เป็นอุบัติเหตุ ไม่ใช่เจตนาฆ่า  เป็นญาติพี่น้อง ผมเอง ผมก็อภัย และอโหสิให้ครับ   ^ ^ ^ ^ ถ้าหนึ่งในนั้นเป็นญาติพี่น้องคุณ แล้วเขาไม่มีความจริงใจกับคุณแบบนี้ พยายามจะโยนขี้ให้คนอื่นแบบนี้ งานศพก็ไม่ยอมไป คุณจะยังคิดแบบนี้ อยู่หรือเปล่าครับ ถ้ายังคิดแบบนี้อยู่คุณคงเป็นคนที่ประเสริฐมากนะครับ จากคุณ : saahe เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 14:59:32