ความคิดเห็นที่ 1 บางทีต้องเข้าใจนะครับคนที่คุณคุยด้วยเป็นแค่พนักงาน ไม่ใช่ช่างผู้ชำนาญงาน ถ้าเกิดพนักงานแนะนำอะไรผิดไปแล้วเขาจะเดือดร้อนนะครับ ผมว่าเข้าศูนย์หรืออู่น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีนะครับ จากคุณ : suddedly เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 13:09:23

ความคิดเห็นที่ 2 มันก็ถูกของเขานี้ครับ คนรับสายอาจจะไม่รู้อาการ ก็ต้องเอารถมาให้เช็คก่อน จากคุณ : กัดจัง เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 13:09:28

ความคิดเห็นที่ 3 ถูกต้องแล้วครับ โดยขั้นตอน ควรต้องเอาเข้าเพื่อตรวจสอบก่อน และรถวิ่งไปแค่หมื่นโล อยู่ในระยะประกัน คุณไม่ต้องกลัวอะไร เขาแก้ให้ไม่มีค่าใช้จ่ายแน่นอน แล้วถ้าแนะนำไป ว่า อาการนี้ ศูนย์ทำไม่ได้หรอกครับ ต้องไปที่อื่น ผมคิดว่า คนฟังจะรู้สึกแย่ ขนาดศูนย์ยังทำไม่ได้ แล้ว..... ตัวไหนจะทำได้เนี่ย แค่เรื่องเฟืองท้าย จากคุณ : BigA เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 13:14:46

ความคิดเห็นที่ 4 อืม ก็เห็นใจทั้งคู่นั่นแหละครับ แต่ช่างที่ศูนย์ ก็เหมือนกับแพทย์ ในการรักษา ต้องมีการตรวจก่อน เพราะเคย โทร.ไปถามหมอ บอกอาการไปเสร็จสรรพ ตบท้ายถามคุณหมอว่าผมเป็นอะไร หมอบอกว่ามาให้หมอตรวจก่อน แล้วจะบอก จากคุณ : ทูรย์ เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 13:26:42 A:125.27.135.111 X: TicketID:294750

ความคิดเห็นที่ 5 ถ้าไม่เอารถไปให้เขาดู แล้วเขาจะรู้ได้ยังไงครับว่ารถคุณเป็นอะไร จากคุณ : felansear เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 13:30:49

ความคิดเห็นที่ 6 เหมือนคุณป่วย แต่โทรถามหมอแค่บอกอาการ แต่อยากให้หมอบอกว่าเป็นโรคอะไร บอกอาการไปเขาก็อาจสันณิฐานไปได้หลายอย่าง เอาให้ชัวร์ก็ต้องนำรถไปตรวจสอบ พอเข้าใจหรือยัง จากคุณ : ผ่านมา เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 13:35:23 A:10.3.30.14 X:58.137.207.212 TicketID:272813

ความคิดเห็นที่ 7 ... ผมว่าเอาเข้าไปนะดีที่สุดแล้วครับ ไม่ได้เข้าข้างศูนย์นะ แต่เคยทำงานในลักษณะนี้มาบ้าง คุยกับลูกค้า ใช่ว่าลูกค้าทุกคนจะให้รายละเอียดที่ถูกต้องเสมอไป ถ้าคุณให้ผิดคนวิเคราะห์ก็นู้นๆๆ ออกทะเลไปเลยครับ เคยมาแล้ว ลองคิดดูซิคับ คุณโทรไปสอบถามในเรื่องที่คุณเองก็ไม่รู้ไม่แน่ใจ เค้าก็คงให้คำตอบได้ในแบบที่ไม่แน่ใจเหมือนกัน แล้วผลสุดท้ายทำตอบที่เค้าบอกมาคุณจะเชื่อได้หรือ ... เอารถเข้าไปให้เค้าเช็คน่าจะดีที่สุดครับ จากคุณ : +.+ เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 13:35:46 A:203.146.89.160 X: TicketID:102582

ความคิดเห็นที่ 8 อาการผิดปกติของรถบ้างอย่าง ต้องเอาไปลองวิ่งจริงให้ช่างเขาได้สังเกตุถึงจะรู้ก็มีเยอะครับ บอกอาการอย่างเดียวมันวินิจฉัยไม่ได้หรอก สมมุติว่าทางศูนย์รับสาย ลูกค้าแจ้งอาการ เจ้าหน้าที่บอกเลยว่ารถเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ต้องเปลี่ยนตรงนั้นตรงนี้ ค่าใช้จ่ายเท่านี้ พอลูกค้าเอาไปทำจริง ปรากฎว่าเสียไม่กี่อย่าง บางอย่างไม่ต้องเปลี่ยนแค่ขยับนิดหน่อย แบบนี้ก็จะมีลูกค้าหาว่าศูนย์เดาอาการมั่วกะฟันเงินอีก จากคุณ : คนเมืองกรุง เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 13:41:01

ความคิดเห็นที่ 9 ผมว่าทางศูนย์น่าจะมี Acknowlage ให้กับ Call Center ไว้หน่อยก็ดีนะครับ บางกรณีหากลูกค้าสามารถแก้ไขเองได้ จะได้แนะนำไปเลย การเอารถเข้าศูนย์ ไม่ใช่แค่ครึ่งวันเสร็จ (แม้เรื่องเล็กน้อยก็ตาม) ด้วยเหตุที่รถต้องเค้าคิวรอการตรวจเช็ค รอการซ่อม ซึ่งผมมองว่าเป็นการเสียเวลาโดยใช่เหตุ จากคุณ : ~น้องผึ้งอัดกระป๋อง~ เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 13:45:27

ความคิดเห็นที่ 10 ตามขั้นตอนการทำงาน พนักงานทำถูกต้องแล้วครับ จากคุณ : นายอิงค์ เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 13:51:37

ความคิดเห็นที่ 11 Acknowlage นี่คืออะไรครับ จากคุณ : SengKun เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 13:52:04

ความคิดเห็นที่ 12 คือจุดประสงค์ของผมที่โทรไปจริงๆแล้ว ผมไม่ได้อยากรู้ว่ารถผมเสียงดังมาจากไหนอ่ะครับ แต่ผมอยากรู้ว่าถ้ารถมีปัญหาเรื่องเฟืองท้าย ทางศูนย์จะทำยังไงให้ผมอ่ะครับ เอาง่ายๆครับ สมมติรถคุณแอร์ไม่เย็น คุณคิดว่าคอยล์เย็นรั่วแน่ๆ คุณโทรไปถามศูนย์ว่า ถ้าคอยล์เย็นมีปัญหารั่ว จะทำยังไงให้คุณ คำตอบที่คุณคาดหวังคือ “เคลม” แต่ถ้าตอบมาว่า “ไม่เคยเจอปัญหานี้” หรือ “ขอตรวจสอบรถดูก่อน” ทั้งๆที่คุณระบุไปแล้วว่าถ้าปัยหามาจากคอยล์เย็น คุณยังจะกล้าเอารถเข้าศูนย์นั้นเพื่อแก้ปัญหาให้คุณไหมครับ ถ้าดูจากบทสนทนา ผมพยายามถามพนักงานว่า ถ้าพบว่าเป็นปัญหาเรื่องเฟืองท้ายจริงๆ ศูนย์จะทำยังไง แต่ทางศูนย์บอกกลับมาว่า ไม่เคยพบปัญหาเฟืองท้ายหอนเลย ซึ่งก็แปลได้หลายความหมายครับ 1. ลูกค้าหลายคนเคยเข้าไปที่ศูนย์แจ้งความผิดปกติเรื่องนี้แล้ว แต่ศูนย์วิเคราะห์ว่าไม่ใช่เฟืองท้าย ก็เลยบอกผมว่าไม่เคยเจอปัญหาเฟืองท้ายหอน (ซึ่งความจริงแล้ว เป็นยังไงผมก็ไม่ทราบครับ) 2. ไม่เคยมีใครไปแจ้งความผิดปกติเรื่องเฟืองท้ายเลย ศูนย์เลยไม่มีข้อมูลทางด้านนี้ ผมแค่อยากได้ความมั่นใจว่า ผมจะไม่เสียเวลาไปเปล่าๆ ถ้าเอารถเข้าศูนย์นี้เท่านั้นเองครับ ซึ่งผมเอาคำพูดของเขามาคิดดูแล้วผมคงต้องถ่อขับรถเข้าไปศูนย์ใหญ่ๆที่เคยรับเรื่องปัญหาเฟืองท้าย ก็น่าจะจบง่ายกว่าครับ ขอบคุณมากๆสำหรับทุกคำชี้แนะครับ จากคุณ : ใจสะออน (ใจสะออน) เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 14:10:17

ความคิดเห็นที่ 13 ก็เค้าทำตามขั้นตอนบริษัทไง..... จากคุณ : toad9116 เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 14:12:22

ความคิดเห็นที่ 14 ไม่ใช่หมอนะครับ บอกอาการแล้วรู้ได้ 555 จากคุณ : dreamersn เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 14:22:33

ความคิดเห็นที่ 15 เข้าใจ จขกท. นะครับ แต่กับอาการพวกนี้ไม่ควรใช้คำว่า "คิดว่า" นะครับ คนที่ผมรู้จักพอซึ่งที่บ้านพอจะมีช่างทำได้มีอาการกับรถขึ้นมายังขับเข้าศูนย์เลย เป็นรถใหม่ปีแรกเหมือนกัน คิดซะว่าเพื่อความปลอดภัยดีกว่านะครับ จากคุณ : oommy เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 14:34:51

ความคิดเห็นที่ 16 จขกท. เค้าแค่ต้องการรู้ว่าถ้าเฟืองท้ายหอน จะแก้อย่างไรมากกว่า เพราะยังไงก็ต้องนำรถเข้าไปตรวจสอบก่อนซ่อมอยู่แล้ว จขกท. ใช้ PJS หรือ Triton หรือเปล่าครับ 2 ตัวนี้ขึ้นชื่อเรื่องเฟืองท้ายเลยหละ 555 แก้ไขเมื่อ 22 ก.พ. 54 14:41:15 จากคุณ : XenoType เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 14:35:51

ความคิดเห็นที่ 17 เขาทำอะถูกแล้ว คุณน่ะ ใจร้อนไป คุณลองโทรไปถามช่างที่เก่งที่สุดในประเทศไทย ยังไงเขาก็ต้องขอดูอาการรถคุณก่อน ขนาดไปหาหมอ นั่งอยู่ตรงหน้าหมอ คุณบอกอาการ หมอยังบอกเลยว่า ขอตรวจอาการก่อนนะครับ เขาไม่ได้สั่งยาให้คุรกินทันที เห็นป่ะ จากคุณ : Kt-Kw เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 14:37:23

ความคิดเห็นที่ 18 คุณ xeno Type ผมใช้ triton ครับ จากคุณ : ใจสะออน เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 14:40:48

ความคิดเห็นที่ 19 เคสคุณใจสะออน น่าจะเป็นขั้นตอนของเจ้าหน้าที่อะคะ แต่เคสของเราซิ ขำแบบเคืองๆ คือว่า เพิ่งรับรถออกจากศูนย์บริการ พอขับออกมาได้ไม่ไกล เริ่มรู้สึกว่า รถหนัก อืด เร่งไม่ค่อยขึ้น แต่ด้วยความที่ที่กลับรถ กลับไปศูนย์อยู่ไกล ก้อเลยโทรไปถามก่อน มีเจ้าหน้าที่ผู้หญิงรับสาย เราก้อบอกอาการว่า "รถเพิ่งออกจากศูนย์ตะกี้ แต่ทำไมรถรู้สึกหนักๆ เร่งไม่ค่อยขึ้นค่ะ ไม่ทราบว่าเป็นอะไร" เจ้าหน้าที่ผู้หญิงคนนั้น ก้อบอกว่า "สักครู่นะคะเดี๋ยวถามช่าง" แล้วเธอก้อตะโกนถามช่าง (เสียงลอดเข้ามาในโทรศัพท์) "ช่างๆ ลูกค้าถามว่า ทำไมรถหนักๆ เอาหินใส่ไปให้ลูกค้าหรือเปล่า" เหอๆ ได้ยินเสียงเล็ดลอดออกมาตอนนั้น อารมณ์ขึ้นค่ะ ก้อเลยบอกเจ้าหน้าที่คนนั้นไปว่า "คุณค่ะ ตกลงว่า ช่างเอาหินใส่รถดิฉันหรือค่ะ อ่อ! แล้วถ้าจะเม้าท์กับช่าง ช่วยกดพักสายโทรศัพท์ไว้ด้วยนะคะ บังเอิญดิฉันเป็นลูกค้า ไม่ใช่เพื่อนเล่นค่ะ" ......เล่าสู่กันฟังค่ะ :-)....... จากคุณ : Once Time Ago เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 15:00:38

ความคิดเห็นที่ 20 ผมว่าเขาก็ทำถูกแล้วหละครับ ไม่เห็นรถ ไม่ได้ลองขับเอง ไม่ได้ยินเสียงกับหู จะให้ฟังธงว่าเป็นนู่นนี่ได้ไงละครับ ไม่ได้ว่านะครับ ถ้ามันเป็นมากขนาดนั้นในคลับ ไม่มีคนเอาประสบการณ์ในคลับมาตั้งกระทู้เลยเหรอ หรือคุณไม่อ่าน แต่ดันโทรไปถามแบบลองเชิง ผมว่าเขาตอบแบบนั้นหละถูกแล้ว เกิดเขาตอบฟันธงมา แต่ไม่โดนใจคุณ หรือ ไม่ตรงอาการ คุณก็มาตั้งว่าเขาอีก โดนทั้งขึ้นทั้งล่อง จากคุณ : JiGsAw&dOuBle B เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 15:02:11

ความคิดเห็นที่ 21 เขาอะตอบถูกแล้ว ใครจะไปรู้ได้ละ ว่าเสียงเกิดจากอะไร เฮ้อๆๆๆ จากคุณ : ออ เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 15:51:48 A:58.9.72.242 X: TicketID:293567

ความคิดเห็นที่ 22 โอ้โห....ยับเยิน เอ่อ...ท่านใดที่คิดว่าจะตำหนิหรือด่าผม (เพื่อเอามันส์หรืออะไรก็แล้วแต่) รบกวนอ่านคำชี้แจงเพิ่มเติมของผมที่ความเห็น 12 ก่อนนะครับ อ่านแล้วจะด่าต่อก็ตามสบายครับ หุหุ ส่วนท่านที่ด่าไปแล้ว....ยังไงก็ขอบคุณที่เสียสละเวลามานั่งพิมพ์คำด่านะครับ จากคุณ : ใจสะออน (ใจสะออน) เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 16:19:45

ความคิดเห็นที่ 23 คนที่คุยด้วยคงไม่ใช่ช่างชำนาญการซ่อมครับ อาจจะเป็น cell , call center หรือใครก็แล้วแต่ แต่ถ้าคุณอยากได้คำตอบมากกว่านั้น คุณต้องเพิ่มคำถามเข้าไปครับ เช่น ผมมีเรื่องสงสัยว่า ถ้าเกิดปัญหาแบบนี้ มันจะต้องซ่อมที่ตรงไหน ยังไง เป็นการชี้นำ และบีบบังคับให้ปลายสาย ให้คำตอบที่ตรงจุดมากกว่าการแบ่งรับแบ่งสู้นะครับ จากคุณ : panda_bs เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 16:30:29

ความคิดเห็นที่ 24 รถขับอยู่คนเดียว  ยังไม่รู้ว่าเป็นอะไร  แล้วคนที่เค้ารับโทรศัพท์ เค้าจะรู้ได้ยังไง! เคยเจอไม๊...ดูให้หน่อยรถเป็นอะไรไม่รู้... แบบ..มันไม่เหมือนเดิม..... เออ!   แล้วจะรู้ไม๊เนี่ย  ว่าไอ้เดิมมันเป็นยังไง! จากคุณ : แพะภูเขาเจ้าเล่ห์ เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 17:09:51

ความคิดเห็นที่ 25 จะให้เขา ซ่อมให้ทางโทรศัพท์ เหรอครับ แก้ไขเมื่อ 22 ก.พ. 54 22:44:50 จากคุณ : กระท่อมชาวไร่ เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 22:21:21

ความคิดเห็นที่ 26 คำตอบแบบนี้เป็นปกติครับ เพราะถึงแม้เสียงที่ว่าจะเป็นที่เฟืองท้ายหอนจริงๆ เค้าก็ต้องวิเคราะห์ก่อนว่า มันเกิดจากการใช้งาน หรือเกิดจาก ความบกพร่องของอะหลั่ย ซึ่งแค่สองจุดนี้ action มันก็ต่างกันแล้วครับ จากคุณ : Steve Davis เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 22:23:15

ความคิดเห็นที่ 27 จากการคาดเดาว่าทำไมถึงได้คำตอบแบบแปลก ๆ  อาจจะมาจากประโยคนี้ "ผมได้ยินเสียงผิดปกติ  ซึ่งจากการ คาดเดาน่าจะเป็นเสียงเฟืองท้ายหอน  ผมค่อนข้างมั่นใจ ว่าน่าจะเป็นเสียงเฟืองท้ายแน่นอน  เพราะถ้าเป็นอย่างอื่นยิ่งขับเร็วยิ่งเสียงดัง" และประโยคนี้ "คือจุดประสงค์ของผมที่โทรไปจริงๆแล้ว   ผมไม่ได้อยากรู้ว่ารถผมเสียงดังมาจากไหนอ่ะครับ แต่ผมอยากรู้ว่าถ้ารถมีปัญหาเรื่องเฟืองท้าย ทางศูนย์จะทำยังไงให้ผมอ่ะครับ" นั่นหมายถึงว่า คุณคาดเดาอย่างมั่นใจ ว่าปัญหามาจากเฟีองท้าย ตามความเชื่อของข้อมูลที่อ้างว่าได้จากเวป และได้โทรไปสอบถามวิธีการแก้ปัญหาของศูนย์ แต่ศูนย์ตอบกลับว่าไม่เคยเจอเคสนี้  ต้องนำรถเข้าตรวจสอบก่อนถึงจะให้คำตอบที่ถูกต้องได้ (ซึ่งเป็นการตอบที่ถูกต้องแล้ว เพราะหากแนะนำไปแล้วคุณนำรถไปให้อู่นอกซ่อม แต่ไม่ใช่เกิดจากเฟืองท้าย คนที่ตอบก็ต้องรับผิดชอบคำตอบที่ตอบไป) และก็หรือคุณอาจจะไม่ต้องการนำรถเข้าตรวจ เพียงแต่ต้องการข้อมูลเพื่อนำรถไปซ่อมเองถ้าทำได้ เพื่อเป็นการประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย ใช่ไหมครับ (ผมเข้าใจตามนี้น่ะครับ) ตามประสบการณ์ เสียงที่ดังจากช่วงล่าง ไม่เสมอไปว่าต้องมาจากเฟีองท้าย อาจจะเป็น เพลากลาง เพลาขับ น้ำมันเฟืองพร่อง ยางหุ้มเพลาขาดจนทำให้ลูกปืนแตก หรือแม้กระทั่งวัสดุที่ใช้ถ่วงเพลาหลุดก็อาจเป็นได้ เพลาอาจจะคดอันเนื่องมาจากการกระแทกอย่างรุนแรง ฯลฯ  มีหลากหลายสาเหตุ แต่ถ้าอยากทราบสาเหตุที่แท้จริง ก็ต้องนำรถเข้าตรวจ อาจเสียเวลาไปบ้างแต่ก็คุ้มน่ะครับ ฝากไว้น่ะครับ จากคุณ : WKH2001 เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 54 11:35:51

ความคิดเห็นที่ 28 ขอบคุณคุณ WKH2001 ครับ คือจุดประสงค์อย่างเดียวที่ผมโทรเข้าไปถามที่ศูนย์เพื่อประกอบการตัดสินใจว่าผมจะเอารถเข้าศูนย์นี้ดีหรือเปล่าเท่านั้นจริงๆครับ เรื่องการวิเคราะห์สาเหตุผมเข้าใจครับว่ามีหลายสาเหตุ และจำเป็นที่จะต้องเอารถเข้าไปเช็ค แต่ในเมื่อศูนย์บอกผมว่า ไม่เคยมีเคสนี้เข้ามาให้แก้ปํญหา ซึ่งสำหรับผมเป็นเคสที่ค่อนข้างซีเรียส ผมก็รู้สึกเซ็งเป็นธรรมดาครับ แต่ถ้าเขาตอบคำถามผมว่า "ถ้าเช็คแล้วพบว่าเกิดจากความผิดปกติกับเฟืองท้ายจริง ก็อาจจะมีการปรับตั้งให้ หรือถ้าเกิดจากความบกพร่องของตัวผลิตภัณฑ์เองก็จะทำเรื่องเข้าศูนย์ใหญ่พิจารณาอีกครั้ง" แค่นี้ผมก็สบายใจที่จะเอารถเข้าศูนย์นี้แล้วล่ะครับ จากคุณ : ใจสะออน (ใจสะออน) เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 54 12:58:58