 |
ระหว่างยัดเงิน สัก 5 ล้าน กับต้องเสียให้แต่ละครอบครัว ละ 10 ล้าน รวม 90 ล้าน ผมว่าเขาเลือกตัวเอง ให้เสียน้อยที่สุด แน่ๆ ถ้าเป็นเมืองนอก เขาปรับกันแบบล้มละลายทั้งตระกูลเลยนะครับ
ตัวอย่างนะครับ : โดย : ธนบูลย์ จิรานุวัฒน์ นักวิชาการกฎหมายระหว่างประเทศ
ตัวอย่างโด่งดังไปทั่วโลก คือ กรณี ยูโนแคลได้สัมปทานขุดเจาะพลังงานพม่าในอ่าวเมาะตะมะ คือ บ่อชเว ขณะนั้น รัฐบาลพม่าหรือ SLORG ได้บังคับเกณฑ์แรงงาน (the concentration camp ) ชนกลุ่มน้อย เช่น กะเหรี่ยง มอญ คะฉิ่น ฯลฯ มาทำงานค่ายแรงงานของยูโนแคล มีทหารพม่ารับจ้างคุมบังคับทำงานวางท่อก๊าซ
เผอิญในกลุ่มแรงงานนั้นมีหญิงท้องแก่คนหนึ่งกับสามี ต่อมาเธอคลอดลูกและทำงานไม่ได้ ทหารพม่าเกิดบ้าเลือดขึ้นมา จับทารกลูกกะเหรี่ยงโยนเข้ากองไฟตายอนาถ แม่เข้าไปขัดขวางก็ถูกจับโยนใส่กองไฟไปด้วย
ปรากฏว่า ทารกตาย แม่บาดเจ็บสาหัส กระทั่ง ผัวเมียคู่นี้ทนไม่ไหวหาโอกาสหนีออกมาได้ เข้ามาถึงเชียงใหม่มาพบตัวแทนองค์กรพัฒนาเอกชนชาวอเมริกัน จึงพาทั้งคู่บินไปสหรัฐอเมริกา นำเรื่องขึ้นฟ้องคดีสู่ศาลลอสแองเจลิส มลรัฐแคลิฟอร์เนีย โดยกำกับดูแลของศาลอุทธรณ์เขต 9 สหรัฐอเมริกา
ในอเมริกาเรียกว่า คดีจอห์นโด ปรปักษ์กับยูโนแคล [บริษัทลูกของสแตนดาร์ดออยล์อีกแห่งที่ไปลงทุนในพม่า (John Doe v. Unocal) ] ตั้งชื่อโจทก์ให้เป็นฝรั่ง แต่ความจริงคือกะเหรี่ยง
สู้คดีกัน 2 ศาล ศาลชั้นต้น ยูโนแคลแพ้คดี ถูกสั่งจ่ายค่าเสียหายและค่าปรับไหมแก่โจทก์เป็นเงิน 25,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คดีไปถึงศาลอุทธรณ์ ๆ พิจารณาจะพิพากษากำหนดให้จ่ายค่าเสียหายและค่าปรับไหมสูงถึง 1 แสนล้านเหรียญ บริษัทยูโนแคลรู้ผลล่วงหน้า ก่อนจะอ่านคำพิพากษาหนึ่งสัปดาห์ จึงชิงไปเจรจากับผู้เสียหาย โดยเสนอจะชดใช้ค่าเสียหายและค่าปรับไหมให้โจทก์ 5 หมื่นล้านเหรียญเพื่อให้เรื่องจบ
ผลตกลงกันได้ แต่เงิน 5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ มูลนิธิสาธารณกุศลที่ช่วยออกค่าทนาย และค่าใช้จ่ายระหว่างดำเนินคดีให้โจทก์ หักค่าใช้จ่ายไป ผัวเมียกะเหรี่ยงคู่นี้ได้ประมาณ 2 หมื่นล้านเหรียญ
| จากคุณ |
:
a fat cat in a hat 
|
| เขียนเมื่อ |
:
26 ก.พ. 54 14:56:21
|
|
|
|
|
เอาละเหวย ตระกูลเมพ แถลงการณ์ออกมาแล้ว (ตระกูลใหญ่ ใครกล้าแตะ)
