Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เสียความรู้สึกกับ Honda, ศูนย์บริการฮอนด้าหัวหมาก และ รถ CRV มาก รบกวนขอความคิดเห็นว่าควรทำอย่างไรต่อไปดี ติดต่อทีมงาน

HONDA CRV 2.0E ออกรถ วันที่ 8 เดือน 9 ปี 2010 ออกมาได้ประมาณ 1 อาทิตย์ เจอปัญหา เสียงดัง 2 จุดคือด้านหลัง เป็นเสียงคล้ายๆ เหล็กกระทบกัน และอีกจุดคือคอนโซลหน้า มีเสียงคล้ายๆ พลาสติก ไม่แน่น จึงได้แจ้งเซลล์ เพื่อขอเอารถเข้าไปเช็คดู ในวันนั้นได้มีการทดสอบโดยมีคนรับรถทดสอบด้วย พบว่าเสียงด้านหลังดังจริง แต่ยังไม่ชัดเจน ส่วนด้านหน้ายังไม่ได้ยิน จึงแจ้งแก่ตนองว่า งานปัญหาเสียงดังนี้เอารถทิ้งไว้วันเดียวไม่สามารถแก้ไขให้หายได้ คือเสียงที่เกิดขึ้นมันต้องขับไปสักพักแล้วจะได้ยิน แต่เวลาเค้าทดสอบรถใช้เวลาไม่นาน ก็ไม่แปลกที่จะไม่ได้ยินอะไร ครั้งนั้นเลยไม่ได้เอารถทิ้งไว้เพราะจำเป็นต้องใช้รถทุกวัน และคิดว่าไม่น่าจะเป็นไรมาก เลยคิดว่าค่อยเอามาเช็คอีกครั้งตอนมีเวลา

1. นำรถเข้าศูนย์ครั้งที่ 1  วันที่ 18 - 20 พ.ย 2010
    ได้โอกาสตอนที่ไปต่างประเทศ เลยเอารถเข้าไปเช็ค เพราะมันมีเสียงดังผิดปกติขึ้นอย่างชัดเจน วันรับรถ น้องชายไปรับแทน พบว่ารถสตาร์ทไม่ติดด้วย ศูนย์แจ้งต้องนำรถไปชาร์จไฟก่อน ให้กลับมารับรถใหม่อีกครั้ง  หลังจากตัวเองทราบเรื่อง ได้โทรสอบถามกับทางศูนย์ อยากรู้ว่ารถอาการเป็นอย่างไร ช่างแจ้งว่าพบเสียงที่คอนโซลหน้าดัง วิธีการซ่อมคือต้องทำการแกะวิทยุออกมา แต่ต้องให้เจ้าของรถตัดสินใจ เนื่องจากงานนี้ถ้าแกะออกมา วิทยุและส่วนคอนโซล อาจเป็นรอยได้ และทางศูนย์จะไม่รับผิดชอบหากเกิดรอยใดๆ แต่ไม่ได้เปิด Roaming ไว้ จึงติดต่อไม่ได้ เลยยังไม่ได้ทำการซ่อมใดๆ ในส่วนด้านหน้า และส่วนด้านหลัง ช่างบอกว่าไม่พบเสียงดัง และสอบถามถึงเรื่องรถสตาร์ทไม่ติด ทางพนักงานรับรถแจ้งว่า ไม่ได้เป็นเรื่องผิดปกติแต่อย่างใด แต่ถ้านำรถไปใช้งานแล้วมีปัญหาในส่วนนี้ให้แจ้งกลับมาที่ศูนย์ เนื่องจากรถมีประกัน

    หลังจากเอารถออกมา ก็ยังคงได้ยินเสียง (เหมือนเดิม) ที่แย่ไปกว่านั้นคือดังขึ้น เรื่อยๆ ในส่วนของด้านหลัง จนทุกคนที่ขึ้นรถถามเป็นเสียงเดียวกันว่าเสียงอะไร จึงได้โทรกลับไปบอกเซลล์ทันที และขับรถไปที่ศูนย์เพื่อให้ช่างฟังเสียงที่เกิดขึ้น ช่างแจ้งว่า ได้ยินเสียงดังชัดเจนในส่วนด้านหลังซ้าย แต่ส่วนคอนโซลยังคงได้ยินไม่ชัดเจน ให้นัดวันนำรถกลับมาเช็คอีกครั้ง แต่ตนเองได้ยินเสียงทั้ง 2 ดังตลอดขณะที่ขับรถคันนี้

2. นำรถเข้าศูนย์ครั้งที่ 2  วันที่ 3 - 4 ก.พ. 2011
    ก่อนการส่งรถเข้าซ่อม ได้มีการออกไปทดสอบเสียงดังกับช่างที่ศูนย์ และพบอาการเสียงดังชัดเจนในส่วนของด้านหลัง และเสียงที่คอนโซลหน้าด้วย แต่ในวันรับรถพนักงานแจ้งว่าอาการเสียงดังยังไม่หายนะ ค่อยให้เอารถกลับมาซ่อมใหม่ (เสียงยังดังชัดเจนเหมือนเดิม) โดยครั้งนี้ได้ตรวจเช็คช่วงล่าง และตัวถัง ขันช่วงล่างให้แน่น ครั้งนี้ความรู้สึกตัวเองและคนรอบข้างเริ่มแย่กับทางศูนย์ และ Honda มาก เลยนึกถึงเหตุการ์ณที่ CRV เคยเป็นข่าวดังหน้าหนึ่งมาแล้ว เริ่มไม่มั่นใจในตัวศูนย์บริการที่นี้ และผลิตภัณฑ์ เลยร้องเรียนไปยัง Honda ใหญ่ถึงปัญหาที่เกิดขึ้น ผลตอบกลับมาว่าจะรับเรื่องไว้แล้วให้ทางศูนย์ติดต่อกลับ ไม่นานหัวหน้าช่างของศูนย์ได้ติดต่อขอให้นำรถเข้ามาซ่อมอีกครั้ง

    ถึงจุดนี้ เริ่มมีความกังวลเกิดขึ้น ว่าทำไมรถถึงซ่อมไม่หายสักที และเสียงด้านหลังก็ดังกว่าเมื่อก่อนขึ้นเรื่อยๆ และดังเกือบตลอดเวลานั้นมันเกิดจากอะไร ที่ก็ไม่มีใครสามารถตอบ และแก้ไขได้ ซ้ำร้ายไปกว่านั้น จะอีกกี่ครั้งที่ต้องนำรถเข้าไปซ่อมเพราะในระหว่างซ่อมไม่มีรถใช้จะลำบากมาก เพราะงานตนเองต้องใช้รถเกือบทั้งวัน

    โดยการจะนำรถไปซ่อมในครั้งนี้ทางเราก็เริ่มไม่มั่นใจและเสียความรู้สึกไปมากแล้ว เลยติดต่อไปยังเซลล์เพื่อต่อรองให้ครั้งนี้ทางศูนย์ได้มีความตั้งใจแก้ปัญหาจริงๆ และบอกว่าถ้าครั้งนี้ซ่อมไม่สำเร็จจะขอให้ทางศูนย์ทำเรื่องขอเปลี่ยนคันให้ ทางเซลล์และหัวหน้าก็ช่างรับปากอย่างดีว่าถ้าซ่อมครั้งนี้ยังไงต้องให้หาย ถ้าไม่หายจะทำเรื่องขอเปลี่ยนรถให้

3. นำรถเข้าศูนย์ครั้งที่ 3 วันที่ 14-22 ก.พ. 2011 (เดิมทางศูนย์ขอไว้ 3 วัน ถึงวันที่ 16 ก.พ. แต่เนื่องจากยังซ่อมไม่เสร็จจึงขอเพิ่มระยะเวลาในการซ่อม)
    ครั้งนี้ในระว่างที่รถกำลังซ่อม ตนเองก็ได้มีการโทรสอบถามกับทางช่าง, เซลล์ และหัวหน้าเซล์ ตลอดเวลา รวมทั้งเข้าไปสอบถามด้วยตัวเองที่ศูนย์ด้วย ซึ่งทุกครั้งคำตอบที่ได้จากทุกคนคือยืนยันว่าต้องซ่อมให้ได้ แต่เวลาที่ถามว่ารถไปถึงไหนข้อมูลที่ได้จากแต่ละคนเริ่มไม่ตรงกัน ตนเองเริ่มไม่สบายใจกว่าเดิมเพราะเห็นวี่แววว่าช่างไม่สามารถซ่อมได้ แล้วตนจะต้องทำไงต่อไป
    ในวันที่ 15 ก.พ.  ได้โทรไปสอบถามทางศูนย์ถึงความคืบหน้า พนักงานแจ้งว่ากำลังแก้ไขอยู่ จะโทรกลับมาบอกถ้ารถเสร็จเรีย บร้อยแล้ว พอวันที่ 16 ก.พ. ได้โทรไปสอบถามอีกครั้ง พนักงานก็ตอบแบบเดิม หลังจากนั้นมีพนักงานโทรกลับมาแจ้งว่าขอเลื่อนวันรับรถออกไปก่อน เนื่องจากยังแก้ไขไม่เสร็จ  และในวันต่อๆ มาก็ได้โทรสอบถามอาการ พนักงานก็ได้แต่แจ้งว่า เสียงเบาลงแล้ว แต่ยังไม่หาย เลยตัดสินใจบอกเซลล์ว่าให้ทำเรื่องเปลี่ยนคันใหม่ให้ตอนนี้เลยเพราะไม่ไหวแน่ถ้าจะต้องให้นำรถเข้าซ่อมทุกเดือนแบบนี้ และก็ไม่รู้ด้วยว่าปัญหาที่เกิดขึ้นหากปล่อยไปนานๆ เข้าจะเป็นยังไง จากนั้นได้มีหัวหน้าเซลล์ติดต่อเข้ามาและรับปากอีกเสียงนึงว่ายังไงครั้งนี้ก็จะซ่อมให้ได้ แต่ทางตนก็ไม่ไหวกับเรื่องนี้และรับไม่ได้กับอะไรหลายๆ อย่าง เลย และขอให้ศูนย์ได้เตรียมทำเรื่องเปลี่ยนรถไว้เลย ตามสัญญาที่ให้ไว้ ก่อนนำรถเข้าซ่อมในครั้งนี้
    จนมาถึงวันที่  21 ก.พ. 2011 ช่วงบ่ายแก่ๆ ได้มีการโทรสอบถามถึงความคืบหน้า ทางพนักงานก็ยังแจ้งว่า เสียงยังไม่หาย โดยขณะนี้ได้รื้อในส่วนของคาน และทดสอบวิ่ง เพื่อดูว่าสาเหตุเกิดจากคานหรือไม่ และได้ทำการแก้ไขในส่วนของตัวถังไปด้วย ในครั้งนี้มีช่างเทคนิคจากศูนย์ใหญ่เข้าร่วมทดสอบด้วย เลยได้บอกไปว่าขอรับรถภายในวันนี้ พอช่วงเย็นได้โทรไปที่ศูนย์อีกครั้ง ทางพนักงาน รับสายแจ้งว่า ขอสอบถามจากหัวหน้าช่างก่อนแล้วจะโทรกลับ สักพักพนักงานโทรกลับมาบอกว่า ต้องขอเลื่อนการรับรถอีกครั้งเนื่องจากติดปัญหารถยังประกอบไม่เสร็จ ทั้งๆ ที่แจ้งไว้ก่อนแล้ว แต่ในที่สุดทางเซลล์ได้โทรมาขอ โดยบอกว่าขณะนี้ได้ทดสอบรถเกี่ยวกับเรื่องของคาน และอุปกรณ์ค่อนข้างซับซ้อนเลยขอเลื่อนไปวันที่ 22 ก.พ. แทน เลยบอกว่าขอเป็นช่วงเช้าประมาณ 8 โมงเช้า เนื่องจากต้องใช้รถไปทำงาน แต่ทางศูนย์แจ้งว่าน่าจะประกอบไม่ทัน  จะขับรถมาส่งให้ที่ทำงานแทน  จน 10 โมงกว่า ยังไม่มีใครโทรแจ้งใดๆ จึงโทรสอบถามเซลล์แจ้งว่ารถประกอบเสร็จแล้ว   แต่ขอเลื่อนเป็นช่วงบ่าย รอจนบ่ายก็ยังไม่มีการติดต่อจนช่วง 3 โมง เซลล์แจ้งว่าออกมาแล้วแต่ฝนตกรถติดมากอยู่ตรงพระรามเก้า ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงจากพระรามเก้าจนมาถึงวิภาวดี ขณะรับรถได้สอบถามงานซ่อมว่าเรียบร้อยมั๊ย ทั้งทางหัวหน้าเซลล์ เซลล์ และพนักงานส่วนงานบริการ ยืนยันว่าเรียบร้อย ระหว่างขับมาไม่มีเสียงดังใดๆ เกิดขึ้น และได้แนะนำว่าถ้าตนเองนำรถกลับไปใช้แล้วยังคงมีเสียงให้แจ้งกลับไปที่ศูนย์ได้เลย สรุปรอบนี้เข้าไปถึง 8 วัน
   สำหรับการซ่อมครั้งนี้ได้แจ้งว่าให้ทางศูนย์เคลือบสีรถให้ด้วย แต่ทางศูนย์แจ้งว่า ทำให้ไม่ทัน ซึ่งขัดกับคำพูดของหัวหน้าเซลล์ที่บอกว่ารถเสร็จแล้ว ตั้งแต่ตอนช่วง 10 โมง  แต่ยังนำรถมาให้ไม่ได้ เนื่องจากต้องรอเซลล์คนที่จะนำรถมาส่ง เพราะติดงานออกบูธอยู่ พอเลิกงานในวันนั้น ได้นำรถกลับมาใช้ ปรากฎว่าเสียงต่างๆ ยังคงมีอยู่ ทั้งในส่วนของคอนโซลหน้าซึ่งได้รับแจ้งจากพนักงานรับรถในภายหลังว่ายังไม่ได้ทำการแก้ไขใดๆ และ ในส่วนของเสียงจากทางด้านหลังที่ได้ยินน้อยกว่าเดิม แต่ยังมีอยู่ จึงได้โทรแจ้งทางหัวหน้าเซลล์ ทางหัวหน้าเซลล์ได้ทำการนัดเพื่อทดสอบรถในเช้าวันต่อมา
   
    วันที่ 23 ก.พ. วันทดสอบรถ ในวันนี้ได้มีอาจารย์ช่างเกี่ยวกับเรื่องเสียง เข้าไปร่วมทดสอบด้วย โดยในครั้งนี้ ให้อาจารย์ช่างนั่งด้านหน้า ระหว่างการทดสอบ อาจารย์ช่างแจ้งว่ามีเสียงที่คอนโซล ดัง ทั้งหมด 3 เสียง มาจากทางด้านซ้าย 1 เสียง ตรงกลาง และด้านขวา โดยได้แจ้งอีกว่าตั้งแต่เป็นช่างมายังไม่เคยได้ยินเสียงคอนโซลรถคนไหนดังเท่าครั้งนี้มาก่อน และในส่วนของเสียงด้านหลัง ทางพนักงานที่นั่งมาด้วยก็ได้ยินเสียงดังกล่าว ซึ่งการทดสอบในครั้งนี้เป็นการยืนยันเป็นอย่างดีว่างานซ่อมครั้งนี้ยังไม่หายแน่นอน หลังจากทดสอบรถเสร็จ ได้เข้าพูดคุยกับทางหัวหน้าเซลล์ พนักงานรับรถและ เจ้าหน้าที่ลูกค้าสัมพันธ์ โดยทางศูนย์แจ้งว่าจะขอแก้ตัวซ่อมรถคันดังกล่าวอีก 1 ครั้ง แต่ได้ปฏิเสธไปว่า ไม่มีการซ่อมใดๆเกิดขึ้นอีกแล้ว จะขอเปลี่ยนรถอย่างเดียวเท่านั้น เนื่องจากมีการตกลงกันไว้ในการซ่อมก่อนหน้านี้แล้ว
   
    ในวันศุกร์ที่ 25 ก.พ. ได้โทรไปยังศูนย์บริการเพื่อขอประวัติการซ่อมรถ  และในตอนที่มารับเอกสารที่ศูนย์นั้น พนักงานแจ้งว่า ผู้จัดการศูนย์ขอคุยด้วย โดยทางผู้จัดการศูนย์ได้เสนอทางเลือกให้ 2 อย่าง คือ
1. ให้โอกาสศูนย์ ซ่อมรถคันนี้ให้หาย โดยระหว่างซ่อมจะมีการนำรถสำรองให้ใช้ แต่ไม่สามารถตอบได้ว่าต้องใช้ระยะเวลาเท่าไหร่จึงจะสามารถซ่อมรถคันนี้ให้หายได้ โดยมีการเสนอฟรีค่าแรงและอะไหล่ ไปจนถึง 100,000 กิโลเมตรและขยายเวลารับประกันรถเพิ่มเป็น 5 ปี หรือ 140,000 กิโลเมตร
2. ซื้อรถกลับคืนในราคาเต็มจำนวน

    หลังจากที่ได้ยินข้อเสนอ จึงถามกลับไปว่าทำไมถึงเสนอซื้อรถกลับเต็มจำนวน เนื่องจากเข้าใจว่า ไม่ได้เป็นปัญหาของรถรุ่นนี้ทุกคัน ยังคงเชื่อมั่นในฮอนด้าอยู่ แต่แค่ไม่มั่นใจในรถยนต์คันนี้แล้วเท่านั้น โดยทาง ผู้จัดการศูนย์ได้ตอบกลับมาว่า เราไม่สามารถเปลี่ยนรถคันใหม่ให้ได้ เนื่องจากไม่มั่นใจว่าคันต่อไปจะเป็นอีกหรือไม่ เลยเสนอทางเลือกที่จะคืนเงินเต็มจำนวนแทน ซึ่งตนเองได้เลือกข้อเสนอที่จะรับเงินเต็มจำนวนคืน เนื่องจากไม่มั่นใจในรถคันนี้แล้ว รวมถึงไม่รู้แน่ชัดว่าจะซ่อมหายโดยใช้ระยะเวลาเท่าไหร่ และซ่อมหายหรือไม่  โดยได้มีการถามย้ำถึงเรื่องการคืนเงินเต็มจำนวนนี้ อีกครั้ง ทางผู้จัดการศูนย์ก็แจ้งว่า คืนตามใบเสร็จ ก่อนจบการพูดคุยกันนั้นทางศูนย์ได้ขอให้พิจารณาในเรื่องนี้ใหม่อีกครั้ง และขอคำตอบในวันรุ่งขึ้น หลังจากกลับมาบ้านได้ปรึกษากับครอบครัว ได้ผลสรุปว่า ขอเงินคืนเต็มจำนวน จึงได้โทรศัพท์แจ้งผู้จัดการศูนย์ ในคืนนั้นเลย แต่ในวันต่อๆ มา ทางผู้จัดการศูนย์จะต้องมีการโทรแจ้งว่า ต้องหักค่าเสื่อมรถ หรือว่าจะให้ทางศูนย์คิดเป็นค่าเช่ารถ คิดเป็นเงินทั้งหมด 164,500 บาท หักจากค่ารถ ซึ่งตนเองไม่ได้รับข้อเสนอและแจ้งให้ทางศูนย์พิจารณาใหม่อีกครั้ง เพราะ  1. เราไม่ได้มีเจตนาจะให้ซื้อคืนแค่จะขอเปลี่ยนรถแต่ทางศูนย์ไม่มั่นใจในสภาพรถคันต่อไปเอง  2. ทางเราไม่ได้มีความตั้งใจที่จะเช่ารถมาขับตั้งแต่แรก ถ้าไม่ยังงั้นคงไม่ตัดสินใจซื้อเงินสดเพราะไม่อยากมีภาระรายเดือน  3.ถ้าจะคิดค่าเสื่อมจริงแล้วเวลาเข้าศูนย์ซ่อม?? จนทางผู้จัดการศูนย์ได้ขอให้เอารถเข้ามาตรวจสอบอีกครั้งเพื่อครั้งนี้จะได้ทำเป็น report ส่งไปยัง Honda เค้าแจ้งว่าได้มีช่างส่ง report ไปแล้ว แต่ข้อมูลในนั้นคือซ่อมจบแล้ว

    วันที่ 3 มี.ค. ได้มีการทดสอบรถร่วมกับทางฮอนด้าประเทศไทย ทั้งทางช่างเทคนิคและเจ้าหน้าที่ลูกค้าสัมพันธ์ ซึ่งระหว่างการทดสอบทั้งทางช่างและเจ้าหน้าที่ลูกค้าสัมพันธ์ยืนยันว่าได้ยินเสียงดังกล่าวตามที่ลูกค้าแจ้งจริงๆ

    วันที่ 4 มี.ค. ผู้จัดการศูนย์โทรมาแจ้งว่า ทางผู้บริหารระดับสูง ได้ยืนยันการหักเงิน 164,500 บาท จากค่ารถเต็มจำนวน

    รู้สึกแย่มากๆ กับผลการพิจารณาที่ออกมาแบบนี้ จึงอยากขอความคิดเห็นจากทุกท่านว่าเราควรจะต้องทำยังไงต่อไป เพราะทางศูนย์ได้แจ้งว่าหากมีการซื้อคืนจริง ทางตนและคนที่ใช้นามสกุลเดียวกันนี้จะไม่มีสิทธิซื้อรถของ Honda ได้อีกต่อไป!!!!

จากคุณ : bm_bb
เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 54 14:00:41




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com