ความคิดเห็นที่ 1 ผมพยายามเซริทหาข้อมูล การเที่ยวของ กลุ่มนู้น กลุ่มนี้ ในอินเตอร์เน็ท ช่วงปีแรกที่ได้รถมา ผมมีความสุขในการขับขี่แบบเป็นกลุ่มมากครับ เพราะเพื่อนที่รู้จักล้วนแต่เป็นเพื่อนที่ดีสำหรับผม คอยช่วยเหลือผมทุกอย่าง จากคุณ : Jackkrit_P เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 15:35:16

ความคิดเห็นที่ 2 แม้ไม่มีเงินจะกิน แต่ผมก้อสุขใจที่ได้ขี่รถเที่ยวกับเพื่อนๆ ของผม มันคงเป้นเพราะผมยังไม่มีภาระมั้งครับในตอนนั้น จากคุณ : Jackkrit_P เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 15:36:56

ความคิดเห็นที่ 3 แล้วผมก้อเริ่มเข้าสู่งวงการของ Biker ครับ พอผมได้สัมผัส พี่พี่ที่ผมรู้จักเป็นคนที่ดีครับ ไม่เหมือนที่ผมเคยคิด จากคุณ : Jackkrit_P เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 15:39:27

ความคิดเห็นที่ 4 แต่.... นี่มันไม่ใช่ สิ่งที่ผมต้องการครับ สิ่งที่ผมต้องการคือการขี่รถอย่างอิสระ ไปไหนได้ตามที่หัวใจผมเรียกร้อง จากคุณ : Jackkrit_P เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 15:40:57

ความคิดเห็นที่ 5 ผมจึงเริ่มขอแยกตัวออกมา และการเดินทางแบบลุยเดี่ยวก้อเริ่มจากนั้นเป็นต้นมา จากคุณ : Jackkrit_P เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 15:42:45

ความคิดเห็นที่ 6 ผมมีความสุขครับ คงเป้นเพราะคนที่อยู่ข้างหลังผม เค้าก้อชอบเหมือนกัน จากคุณ : Jackkrit_P เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 15:44:45

ความคิดเห็นที่ 7 เพื่อนๆ ผมก้อเริ่มหายไป ทีละคน ทีละคน บางคนมีลูกน้อย บางคนบวช บางคนมีปัญหาทางการเงิน แก้ไขเมื่อ 08 มี.ค. 54 15:46:27 จากคุณ : Jackkrit_P เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 15:46:07

ความคิดเห็นที่ 8 แต่ผมและแฟนก้อยังมีความสุข กับสองล้อของผมมาเรื่อยๆ ครับ จากคุณ : Jackkrit_P เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 15:47:58

ความคิดเห็นที่ 9 มันไม่เคยเกเรเลยสักครั้ง คงเป็นเพราะผมดูแลมันอย่างดี จากคุณ : Jackkrit_P เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 15:49:08

ความคิดเห็นที่ 10 และมันพาผมไปถึงทุกที่ที่ต้องการแม้ตัวมันจะอยู่ในสภาพแบบนี้ จากคุณ : Jackkrit_P เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 15:50:47

ความคิดเห็นที่ 11 เวลา 4 ปี ที่ผ่านมา ทำให้มันแก่ลงเรื่อยๆ จากคุณ : Jackkrit_P เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 15:51:51

ความคิดเห็นที่ 12 เข้ามาดูคนหัวใจใกล้เคียงกัน... จากคุณ : =Razzo= เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 15:52:28

ความคิดเห็นที่ 13 จาก 30 โลลิตร ก้อกลายมาเป็น 23 โลลิตร จากคุณ : Jackkrit_P เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 15:53:11

ความคิดเห็นที่ 14 ติดตามครับ จากคุณ : *380 Z เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 15:54:54

ความคิดเห็นที่ 15 ผมคิดเสมอครับในตอนนั้น ว่ายังงัยก็เอาไว้แบบนี้หล่ะ ไม่ขาย จะเก็บไว้ จากคุณ : Jackkrit_P เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 15:57:56

ความคิดเห็นที่ 16 แต่มันจะพาผมไปได้อีกไกลขนาดไหน เพราะค่าซ่อมบำรุงมันก้อสูงขึ้นเรื่อยๆ ตามอายุ และเลขไมล์ของรถ จากคุณ : Jackkrit_P เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 16:00:59

ความคิดเห็นที่ 17 ถึงแม้มันจะเหมือนกลับมาเป็นรถคันใหม่ของผมอีกครั้ง... จากคุณ : Jackkrit_P เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 16:02:19

ความคิดเห็นที่ 18 ผมไม่เคยพามันไปเจ็บตัวแรงๆ หนักๆ เลยสักครั้ง หักที่สุดก้อแค่ ชนตูดรถเค้ากันล้มงอ และลื่นล้มเบาๆ บนภูเขา จากคุณ : Jackkrit_P เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 16:06:19

ความคิดเห็นที่ 19 เคยคิดว่าสักครั้งหนึ่งอาจจะพามันไปวิ่งกินลมเล่นที่ฝั่งฟากตรงข้ามนั้น จากคุณ : Jackkrit_P เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 16:08:35

ความคิดเห็นที่ 20 แต่ตอนนี้คงไม่มีโอกาสจะพามันไปแล้วครับ ผมตกลงกับแฟน คงต้องปล่อยมันไปแล้ว มันคงถึงเวลา แม้มันจะยังวิ่งได้อยู่ แต่คงอีกไม่นาน มันคงจะต้องซ่อมบำรุงกันครั้งใหญ่ โดยที่ผมอาจจะต้องเสียเงินในราคาที่ซื้อ Wave มือ 2 ได้ 1 คัน จากคุณ : Jackkrit_P เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 16:13:23

ความคิดเห็นที่ 21 ตามเข้ามา ชม-เชียร์ ครับ จากคุณ : Solid Extreme เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 16:14:11

ความคิดเห็นที่ 22 ผมประกาศขายรถของผม โดยใจก็รู้สึกเสียดาย แฟนผมก้อเสียดายมันมาก รักมันมากเหมือนกัน 6 ก.พ. 54 เวลาประมาณ 5 โมงเย็น มีคนนัดดูรถผม แต่เมื่อสอบถามไปมาเค้าเป็นร้านมาซื้อรถไปขาย ผมไม่ขายให้เค้าไม่รู้ทำไม จากคุณ : Jackkrit_P เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 16:16:46

ความคิดเห็นที่ 23 และในวันเดียวกัน เวลา 21.00 น. มีคนนัดผมดูรถที่พาต้าปิ่นเกล้า เมื่อเค้าเห็นรถได้พูดคุยกัน ผมอธิบายถึงตัวรถทุกอย่างถ้าเค้าพอใจที่จะดูแลมันต่อ ผมก้อยอมปล่อยมันไป สรุปว่าเค้าพอใจที่จะเอารถไปเดี๋ยวนั้นเลย เค้าเดินไปที่ตู้ ATM กดเงินมาให้ผมแล้วเอารถผมไปแล้ว จากคุณ : Jackkrit_P เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 16:19:39

ความคิดเห็นที่ 24 เป็นรถที่ผมเคยอยากได้มาก... ตอนอยากได้ก็ไม่มีเงินซื้อ พอมีเงินซื้อก็ไม่มีขายแล้ว... เฮ้อ...มันไม่ใช่ของเรา จากคุณ : เปอร์โยต์205 เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 16:23:35

ความคิดเห็นที่ 25 ผมรู้สึกตัวเบา โหวงเหวง ชอบกล ณ เวลานั้น ทำไมมันเร็วจัง ยกโทรศัพท์หาแฟน เชื่อไหมครับ ผมน้ำตาซึมออกมาโดยไม่รู้ตัว ตอนเดินอยุ่บนสะพานลอยข้ามถนน แต่แฟนผมนอนร้องไห้อยู่ที่ปลายสาย คืนนั้นผมนอนไม่หลับเกือบทั้งคืน ตื่นเช้ามาผมก้อมามองตรงที่มันจอด มันรู้สึกแปลกๆ ยังงัยพิกล จากคุณ : Jackkrit_P เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 16:26:04

ความคิดเห็นที่ 26 ต่อๆ รอติดตามครับ จากคุณ : หนุ่มธนู เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 16:26:55

ความคิดเห็นที่ 27 ณ ตอนนี้ผ่านมา 1 เดือน ผมได้รถคันใหม่ เพิ่มมาอีก 2 คัน แต่ก็ยังอดคิดถึงมันไม่ได้สีกที ถ้าเจ้าของคนใหม่ได้มาอ่านในกระทู้นี้ ผมฝากดูแลมันด้วยนะครับ คิดถึงมันอย่างจับใจ จากคุณ : Jackkrit_P เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 16:30:13

ความคิดเห็นที่ 28 เศร้านะครับเรื่องนี้.... ...แต่ขอให้เก็บความทรงจำที่ดีไว้ก็พอครับ ดีกว่าผมซะอีก ที่ยังไม่มีความทรงจำดี ๆ แบบนี้บ้างเลย จากคุณ : Lexon เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 16:31:23

ความคิดเห็นที่ 29 ถึงเวลาหนึ่งก็ต้องมีจากกันครับ เก็บไว้แต่ความทรงจำก็พอ เตรียมพร้อมสำหรับรถคันใหม่ครับ จากคุณ : Teroman เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 16:36:01

ความคิดเห็นที่ 30 ถึงมันจะไม่ใช่สิ่งสำคัยที่สุดในชีวิตผม แต่มันก้อเป็นช่วงเวลาดีดี ของผมและแฟน ที่ได้ใช้ชีวิต อย่างมีความสุขร่วมกับมัน ถึงจะไม่มีมัน แต่การเดินทางของผมก้อคงยังไม่สิ้นสุด เพียงแต่ว่า ณ ขณะนี้เริ่มมีภาระเข้ามาบ้างแล้ว ตามปกติของวิถีชีวิตมนุษย์ ถึงจำให้การเดินทางแต่ละครั้งต้องคิดพอสมควร จบแล้วครับ อาจจะดูไร้สาระ  แต่เพราะผมคิดถึงมันจริงๆ ครับ จากคุณ : Jackkrit_P เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 16:37:16

ความคิดเห็นที่ 31 ตำนานรักดอกเหมย  ^^" จากคุณ : Chip Muffin เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 16:38:10

ความคิดเห็นที่ 32 ลองขอซื้อคืนมาครับ ... ถ้าได้ ผมจะโอเวอร์ฮอล ให้ฟรีๆเลย ถ้าผมรู้ว่าคุณ Jackkrit_P บอกขาย ผมคงได้มาเค้าอยู่ด้วยกัน อ่านคห. 25 แล้วเห็นภาพ มันจุกในคอ ครับ จากคุณ : nasay เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 16:49:35

ความคิดเห็นที่ 33 งานเลี้ยง ย่อมมีวันเลิกรา ผ่านมา ก็ต้องผ่านไป ขอให้ทำใจได้เร็วๆครับ แล้วก็พร้อมสู้กับอนาคตต่อไป ไม่แน่ เมื่อคุณพร้อม คันต่อไปอาจจะเป็นฮาเล่ย์สักคันครับ จากคุณ : `SEPULTURA_`FROM_`HELL เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 17:06:06

ความคิดเห็นที่ 34 เข้าใจความรู้สึกของ จขกท ครับ ผมเคยมีความรู้สึกนี้เหมือนกัน  ตอนที่ขายไอ้ดำของผมไป ขับตามกันมาจากขนส่ง  พอเจ้าของใหม่เค้าขับแยกกับผมไป  ผมมองมันจนลับตาเลยครับ  รู้สึกมีก้อนอะไรไม่รู้จุกอยู่ที่คอ จากคุณ : กูนเน่อร์ เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 17:13:53

ความคิดเห็นที่ 35 ถ้าคนมองว่ามันเป็นแค่พาหนะ คงไม่เข้าใจความรู้สึกนี้หรอกครับ สำหรับบางคนที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาด้วยกันกับรถคู่กาย มันเป็นมากกว่านั้นจริงๆ จากคุณ : o_extreme เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 17:24:53

ความคิดเห็นที่ 36 ผมเคยซื้อมอไซค์อายุมากกว่าตัวเองจากคนที่เคยนั่งเบาะเด็กของรถคันนั้นมาขับอยู่หลายปี เคยขี่มันไปให้พี่เพื่อนสอนวิธีถอดออกมาทุกชิ้นทำความสะอาด ทำสีด้วยมือตัวเอง วิ่งหาอะไหล่ทั่วกรุงเทพฯ พาแฟนที่ไม่อยู่ในโลกนี้แล้วซ้อนท้ายวิ่งทางไกลเพื่อเอามันไปใช้ทำงานต่างจังหวัด หลายปีต่อมาเมื่อถึงเวลาเปลี่ยนงาน ผมก็ขายฮอนด้า C100 คันนั้นให้เพื่อนที่ทำงานเดียวกันไป มอเตอร์ไซค์คันนั้นสอนให้ผมรู้ว่าเมื่อถึงเวลาที่สมควร การยื้อยุดไว้ไม่ให้อะไรกับใคร ทุกอย่างดำเนินไปไม่ย้อนกลับ รวมทั้งชีวิตเราด้วย ไม่นานนี้ผมกำลังจะเดินทางไกลด้วยมอเตอร์ไซค์อีกคัน ตั้งใจว่าจะแวะไปหาเพื่อนซึ่งเพิ่งกลับมาติดต่อกันได้ไม่กี่ปีนี้เอง ผมบอกเขาไว้แล้วว่าจะไปเยี่ยม C100 ของผมหน่อย เขาบอกว่ารีบมาเลย ยังเก็บไว้อย่างดี ผมคงไม่ร้องไห้หรอกครับเวลาเจอมัน ผมว่ารถคันนั้นสอนผมไว้ดีเกินกว่าที่จะไปทำอะไรอย่างนั้นแล้วหละ ^_^. แก้ไขเมื่อ 08 มี.ค. 54 18:45:09 จากคุณ : รันตี เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 18:44:00

ความคิดเห็นที่ 37 หนูก็เคยคิดเหมือนกัน..... ถ้าเมื่อเราขายรถคันที่เรารักไป ... สักวันหนึ่ง ถ้าเรายังผูกพันและคิดถึงเขาอยู่ และมีกำลังมากพอ หนูจะตามเขากลับมาค่ะ.... เช็คกับเลขทะเบียนเล่ม ตัวรถ เลขเครื่อง ก็น่าจะพอตามได้แหละ ของรัก จะมีค่ามาก เมื่อเขาจากไป ฉะนั้น ของอะไรที่มีอยู่ ก็ให้รักและทนุถนอมเขาไว้นานๆ นะคะ จากคุณ : 234 เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 18:45:11 A:115.67.199.235 X: TicketID:288777

ความคิดเห็นที่ 38 มีความรู้สึกนี้เหมือนกันครับ  ระหว่างผม กับ เจ้าแดง Wave 100 ถึงคนอื่น จะมองมันว่าเป็นเศษเหล็ก หรือ มอไซด์ด้อยค่า ราคาถูก แต่เรื่องราวระหว่างเรา มันมากกว่านั้นครับ ถึงไม่มีใครรู้  แต่ว่า เราทั้งคู่ รู้ดีครับ  ป.ล.  แต่มีพบ ต้องมีจากครับ เป็นไปตาม กฏของโลกนี้ครับ สักวัน ที่ผมต้องแยกจากเจ้าแดง ก็คงมาถึงเหมือนกัน  เราทำได้แค่ เก็บไว้ ในความทรงจำระหว่างกันเท่านั้นครับ  ป.ล.2 คงไม่มีรูปไหนแล้วมั๊งนอกจากรูปนี้ ที่จะแสดงให้เจ้าแดงเห็นว่า รักมันมากแค่ไหน  จากคุณ : เตี้ย ล่ำ ดำ แก่ เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 18:59:29

ความคิดเห็นที่ 39 อะไรที่เคยอยู่ร่วมกันมาย่อมคิดถึง และผมคิดว่าสิ่งนั้นก็คิดถึงเราเหมือนกัน จากคุณ : สิงโตอ้วน เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 19:58:23

ความคิดเห็นที่ 40 เข้าใจความรู้สึกเลยครับผมเคยขี่ KSR มา 3 ปีกว่าใช้งานมันทุกวันเอาไปเที่ยวด้วยตลอด ตอนที่ขายก็หวิวๆแทบไม่เชื่อสายตาว่านั่นรถที่ผมหวงนักหนาไม่เคยให้ใครมาคร่อมเล่น กลับถูกคนที่ไม่ใช่ผมขี่หายวับไปต่อหน้าต่อตา คิดแล้วยังใจหายอยู่เลย T^T - - - - - - - - - - - - - - - - จขกท.เชื่อในสิ่งที่มองไม่เห็นมั้ยครับ ? หลังจากผมเปลี่ยนจาก KSR มาเป็น D-Tracker 125 หมอดูประจำตัวของแฟนผม ทักว่าคันใหม่เนี้ยมันไม่ใช่คันเดิมนะ ความรู้สึกจะต่างไปจากคันเดิมคนละเรื่องเลย ซึ่งจากที่ผมได้ขี่ในวันแรกจนถึงวันที่ขายไปพูดตรงๆผมรู้สึกไม่ผูกพันธ์กับมันสักเท่าไหร่ แต่คันถัดมา CBR250 พอผมบอกวันเวลาที่จะออกรถ บอกเลขที่จองไว้ กับสีรถ หมอดูคนนี้บอกว่า "ถ้ารู้สึกเหมือนกับมันเป็นรถคันแรก(KSR)ก็อย่าแปลกใจนะ เพราะมันคือรถคันแรกนั่นแหละ ได้กลับมาโดยบังเอิญเลยนะ" ผมก็งงสิครับ ช่วงล่างก็ต่างความแรงก็ต่างขนาดก็ต่างประเภทรถก็ต่างมันจะเหมือนได้ยังไง ปรากฏว่าวันที่ไปเอารถระหว่างขี่กลับบ้านขนลุกเลยครับเพราะความรู้สึกผมมันใช่เลยเหมือนกับ กำลังขี่ KSR คันแรกอยู่ยังไงยังงั้นเลยครับ ทั้งๆที่พึ่งขี่รถรุ่นนี้ยังไม่ชินมือเลย แต่เหมือนเคยผูกพันธ์กันมานาน การบังคับไหลลื่นแบบไม่น่าจะเป็นไปได้ ผมเชื่อว่าสักวัน จขกท. จะต้องเจอคันเดิมในคันใหม่เหมือนกับที่ผมเจอครับ ปล.ปกติผมจะเชื่อเฉพาะในเรื่องที่พิสูจน์ได้แต่นี่คือครั้งแรกที่ผมเชื่อในสิ่งที่พิสูจน์ไม่ได้ =) จากคุณ : B.line เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 20:27:39

ความคิดเห็นที่ 41 ซึ้งๆ รถเก่าเราก็ขายไปให้เพื่อนถูกๆ แต่เพื่อนดันไปขายต่อทำกำไรซะงั้น จากคุณ : gboy เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 20:36:54

ความคิดเห็นที่ 42 อ่านเสร็จก็อึ้งไปพักใหญ่ๆเหมือนกัน รถของผมก็เคยผ่านการเป็นซากรถมา 2 ครั้ง  - ครั้งแรกน้าชายเคยเอาไปเสยท้าย 6 ล้อ  - ครั้งที่สอง เอาไปฝากเพื่อน เพราะเรียนจบต้องทำงานไกลบ้าน เพื่อนเอาไปเสย 10ล้อ อีก พังยับเยิน โชคดีที่ไม่กระทบเฟรม     เพื่อนผมทิ้งมันจมดินไปครึ่งคันเกือบ 10 ปี  เพราะผมเคยคิดว่าจะไม่ขี่มอไซค์อีก เจอกันอีกทียิ่งกว่า น้ำตาซึม     ตระเวนล่า หาอาหลั่ยอยู่เกือบ 2 ปี กว่าจะพอใกล้เคียงเค้าโครงเดิม     ของบางอย่างมันยิ่งกว่าผูกพัน ของบางอย่างไม่ใช่ว่ามีเงินก็ซื้อได้ ของบางอย่างก็มีแต่คนที่เจอมาเหมือนกันถึงจะเข้าใจ...     (ไม่ต้องลงรูปแล้วมั๊ง...ก็ไอ้คันนั้นแหละ  ^^) แก้ไขเมื่อ 08 มี.ค. 54 21:10:51 จากคุณ : กาละมังบิน เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 21:06:05

ความคิดเห็นที่ 43 เข้าใจความรู้สึกนี้เป็นอย่างดี รับรู้ถึงอารมณ์ที่พูดไม่ออกตอนเขาขี่ หรือ ขับมันออกไป ไม่กล้าแม้นจะพูดกับแฟนว่าไม่เป็นไรนะ เดี๋ยวเราก็ได้รถใหม่แต่บางที่ความผูกพันธ์มันก็ใช้เงินซื้อไม่ได้จริงๆ เคยขายมาก็หลายคันแต่ละครั้งความรู้สึกก็ต่างกันไป จากคุณ : TritonBoy เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 21:30:23

ความคิดเห็นที่ 44 เ็ป็นคำพูดที่กลั่นมาจากใจ อ่านแล้วรู้สึกดีครับ จากคุณ : oasis (nopadols171) เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 21:50:03

ความคิดเห็นที่ 45 ผมเข้าใจความรู้สึกเจ้าของกระทู้ดีครับ วันที่ขายฮอนด้า โซนิคที่บางคนอาจเห็นว่ามันเป็นเศษเหล็กผุๆคันหนึ่ง  แต่ผมผ่านร้อนหนาวมากับมัน เคยขี่ไปหัวหิน ไป พัทยา นครสวรรค์ ชัยนาท ลำปาง ทำให้ผมทำใจไม่ได้ กลัวเขาจะไม่ได้ล้างเจ้าคันเก่งของผม เหมือนที่ผมเอาใจใส่ล้างรถทุกครั้งที่มันเปื้อน คอยเช็ดถูปัดฝุ่น ทุกวัน   วันที่ญาติกันมาขอซื้อ เพราะเห็นว่าเขาไมีมีพาหนะแล้วเราพอมีปัญญาจะออกคันใหม่ได้  จึงตัดใจขาย ด้วยหัวใจที่แสนอาลัยอาวรณ์ น้ำตาที่ไหลอาบยามดวงอาทิตย์อัสดงฉายแสงอ่อนๆ มากระทบที่ตาที่ชุ่มไปด้วยน้ำ แห่งความคะนึงถวิลหา ญาติผมพามันไปเป็นเจ้าของใหม่แล้ว ใจก็ดีใจที่ญาติเราอายุปาไป จะ40แลว มีศักดิ์เป็นพี่ชายลูกลุงจะได้มีพาหนะใช้ซะที อีกใจก็คิดว่าเอารถเราไปแล้วกลัวเอาไปแต่งซิ่ง หรือขับไปล้ม เพราะความรักและเมตตาที่มอบมาให้ด้วยช่วงที่เราอยู่ด้วยกัน โซนิคคันนี้เป็นยิ่งกว่าญาติ เป็นเหมือนเพื่อนคู่ใจ กินข้าวทุกเย็นล้อมวงคนในบ้านผมยังต้องเอามาจอดข้างๆวงข้าว จนคนในบ้่านชอบแซวว่าเห่อรถเงินก็ไม่ค่อยมีอาศัยเก็บเอาไปซื้อน้ำยาขัดซื้อฟองน้ำ ผ้าชามัว น้ำยาเคลือบราคาแพงของดี มาคอยเช็ดทุกวัน  แล้วในที่สุดก็ได้ถอยเวฟคันใหม่ ตอนแรกผมปฏิเสธเพราะยังอาลัยและคิดถึงรถคันเก่าอยู่ ว่าตอนนี้เขาจะเอามันไปขี่ที่ไหน จะเอาไปลงหลุมหรือเปล่า ขี่ขึ้นลูกระนาดเขาจะชลอเหมือนตอนเราขับไหม ขับอัดหรือเปล่า จวบจนได้ขับเวฟตัวหใม่ซึ่งเป็นหัวฉีด แม้จะยังไม่คุ้นเคยเหมือนตัวเก่า แต่ด้วยความที่มันเป็นรถที่ขับได้นุ่มนวล อัตราเร่งติดมือ อัตราการประหยัดน้ำมันเป็นเลิศ มันทำให้ผมได้รู็สึกถึงความคุ้นเคยเหมือนเคยได้ขับมาก่อนในอดีตชาติ หรืออาจเป็นบุพนิมิตรที่ทำให้ผมได้คุ้นเคยอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ยามเมื่อเข้าเกียร์ที่นุ่มนวลเหมือนเท้าสัมผัสปุยเมฆ เมื่อสะบัดข้อมือลงเบาๆทำให้สัมผัสได้ถึงแรงจี มันพุ่งทะยานออกไปข้างหน้าเหมือนกระสุนปืนที่วิ่งผ่านพ้นลำกล้องทะยานไปอย่างอิสระเสีภาพที่ไร้ขอบเขตความรู้สึกถึงคันเก่าเริ่มเลือนลางไปกับเวลาที่ผ่านไป เหมือนกระแสวารีที่บิดเกลียวแล้วกลืนหายไปในสายธาร Multi-Reflector Headlight เท่ สะดุดตา ด้วยโคมไฟหน้าใหม่ ชุดเดียวกับไฟเลี้ยวสไตล์โมเดิร์นเพิ่มเสน่ห์ให้แตกต่างไม่ซ้ำใครด้วย Crystal Eye Line สีส้ม ช่วยให้สว่างและโดดเด่นยิ่งขึ้น เพิ่มจุดสังเกตได้ในระยะไกล Wide Sporty Meter ใหญ่ ดีไซน์สวย ไฟสัญญาณครบชุดมั่นใจด้วยไฟแสดงความพร้อมของหัวฉีดที่เรือนไมล์หลังจากบิดกุญแจสตาร์ท Tough Console คอนโซลด้านในสีสันทูโทน หรูมีสไตล์* (*เฉพาะรุ่น NF110TM) Renew Athletics Shield ปฏิวัติรูปลักษณ์สไตล์เดิมๆ ของรถแบบบังลมทั่วไป สู่ดีไซน์ใหม่แบบ 3 มิติ ด้านนอกโค้งรับกับกระจังหน้า เสมือนทำการพุ่งทะยานจากจุดสตาร์ทของนักกรีฑาด้านในดีไซน์แบบเต็มเข้าชุดกับคอนโซลหน้าสไตล์โมเดิร์น แต่ให้คุณสมบัติดีเยี่ยม ทั้งกันน้ำ และกันลม เหมาะสมทุกสภาพการขับขี่ Sprint Tail Light ไฟท้ายสลิม เรียว ดวงไฟโคมใหญ่ ให้ความสว่างชัดเจน พร้อมดีไซน์คิ้วสีดำ เพิ่มความโฉบเฉี่ยวรับกับมือจับหลังช่วงท้ายแนวเท่ จับถนัดมือ Side Cover ปราดเปรียวแบบรถยนต์ แนวสปอร์ต ด้วยสเกิร์ตดำทั้งด้านซ้ายและด้านขวา Glow Key Shutter ครั้งแรกกับกุญแจนิรภัยสองชั้นที่มีม่านปิดอัตโนมัติทันทีที่ดึงกุญแจออกเพื่อ ล็อคคอรถ เพิ่มความสะดวกสบาย พร้อมพรายน้ำเรืองแสง ช่วยให้มองเห็นได้ง่ายในเวลากลางคืน รูปทรงด้านท้ายโดดเด่นด้วยเบาะนั่งแนวสปอร์ตและโค้งรับกับสรีระ ทำให้นั่งได้สบาย พร้อมกล่องเก็บของอเนกประสงค์ใต้เบาะนั่ง (U-Box) ที่เก็บสัมภาระได้หลากหลาย , ไฟท้ายแบบ Sprint Tail Light รูปทรงเรียวบาง ให้แสงสว่างชัดเจนด้วยโคมไฟใหญ่ตัดเข้าชุดกับคิ้วสีดำดีไซน์โฉบเฉี่ยว ซึ่งรับกับมือจับท้ายแนวเท่ที่กระชับมือ , Side Cover มีรูปทรงปราดเปรียวด้วยสเกิร์ต (Skirt) สีดำเข้มทั้งด้านซ้ายและขวา เป็นแนวเดียวกับรถยนต์แบบสปอร์ต , ระบบกันสะเทือนเป็นแบบโช้คคู่รองรับน้ำหนักได้อย่างมั่นคง , ที่บังโซ่ (Chain Cover) เป็นแบบเต็มสวยงาม , ท่อไอเสียทรงรีขนาดกะทัดรัด (New Standard Muffler) รวมทั้งให้ความปลอดภัยด้วยการติดตั้งเหล็กกันความร้อนจากเครื่องยนต์ และที่สำคัญยังสตาร์ทง่าย เบาแรง ด้วยระบบสตาร์ทที่ไม่ใช้โช้คน้ำมัน พร้อมกลไกลดกำลังอัด ในส่วนด้านเครื่องยนต์นั้น เป็นเครื่องยนต์ใหม่แบบ 4 จังหวะ ขนาด 110 ซีซี ระบบเกียร์วน 4 ระดับ และระบายความร้อนด้วยอากาศ พร้อมติดตั้งเทคโนโลยีระบบจ่ายน้ำมันแบบหัวฉีด PGM-FI ส่งผลให้มี สมรรถนะการขับขี่เพิ่มมากขึ้นถึง 25% และประหยัดน้ำมันมากขึ้น 18% เมื่อเปรียบเทียบกับฮอนด้า เวฟ รุ่นยอดนิยมในปัจจุบัน คือ เวฟ 100 ( ทดสอบตามมาตรฐาน ECE 40 MODE ) รวมทั้งยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยให้ค่าไอเสียสะอาดผ่านมาตรฐานควบคุมไอเสียระดับ 6 และที่สำคัญให้ความประหยัดมากยิ่งขึ้นด้วยการรองรับการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอลล์ E20 ทั้งนี้เพื่อเป็นการเสริมภาพลักษณ์ให้รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ 110 ไอ มีภาพลักษณ์โดดเด่นเพิ่มมากขึ้น พร้อมทั้งเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในวงกว้าง จึงมีการใช้พรีเซ็นเตอร์ในการประชาสัมพันธ์รถรุ่นนี้ผ่านทางสื่อโฆษณาต่างๆ โดยพรีเซ็นเตอร์คือศิลปินนักร้องนักแสดงยอดนิยม " แดน - วรเวช ดานุวงศ์ " จากคุณ : harvardวิทยาคม เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 22:04:19

ความคิดเห็นที่ 46 ตอนผมขายcbr150 คันแรกไป ใจหายมากๆ เวลาเจอรถรุ่นเดียวกันขี่ผ่านผมจะแอบมองทะเบียนเสมอ ล่าสุดผมซื้อcbr150 มือ2ตัวเก่ามาขี่ แต่ความรู้สึกไม่เหมือนคันเก่าเลย จนต้องไปเอาcbr250 มาสนองneed ความรู้สึกบางอย่างที่หายไปหลายปี ตอนนี้มันกลับมาอีกครั้งแล้ว จากคุณ : ยิ้ม บางขุนเทียน เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 22:11:29

ความคิดเห็นที่ 47 เข้าใจความรู้สึกเลยครับ ผมกะว่าถ้าไม่จำเป็นยังไงก็ไม่ขาย x1r สีแดงของผมเหมือนกัน ผูกผันกันมาเป็นหมื่นๆ แสนๆ กิโล.. รักมันเหมือนลูก ไม่เคยงอแงเลยสักนิด จากคุณ : Jenjutakarn เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 22:32:22

ความคิดเห็นที่ 48 ขออีก Comment นึง มันโดนใจมากๆ ผมเชื่อว่าแม้แต่ Rossi เอง ก็ต้องเข้าใจ จขกท แน่ รถที่ร่วมเป็นร่วมตาย ร่วมชีวิต กันมา ถึงแม้รถของพวกเรา จะไม่ได้ขั้นเทพอย่าง Rossi แต่ร้อนก็ร้อนด้วยกัน  ฝนก็ฝนด้วยกัน ผ่านร้อน ผ่านหนาว  ผ่านระยะทางที่ยาวไกลมาด้วยกัน มันคือความรู้สึกเดียวกัน แน่ๆ จากคุณ : เตี้ย ล่ำ ดำ แก่ เขียนเมื่อ : 9 มี.ค. 54 00:09:09

ความคิดเห็นที่ 49 เก็บแต่ความรู้สึกดีๆไว้ไอ้น้อง แหม ... รถนี่รำพันเยอะนะ อย่างอื่น เปลี่ยนเป็นว่าเล่น .... เงียบกริบ++++ จากคุณ : THE PETCHs (Khmu_thai) เขียนเมื่อ : 9 มี.ค. 54 08:20:57

ความคิดเห็นที่ 50 ขอบคุณสำหรับกระทู้นี้ ผมกะจะขายเหมือนกัน   ตอนนี้เก็บมันไว้ดีกว่า จากคุณ : aeknakhon เขียนเมื่อ : 9 มี.ค. 54 08:53:48

ความคิดเห็นที่ 51 เคยไปซื้อรถมือสองมา กว่าจะเข้าใจว่าทำไมคนขายไม่ดีใจที่ขายรถได้ ก็ตอนที่เราขายมันไปอีกทีนั่นแหละ จากคุณ : X~JunioR เขียนเมื่อ : 9 มี.ค. 54 11:12:28

ความคิดเห็นที่ 52 ผมมีรถคริสตัลจอดข้างบ้าน เก่าเก็บไม่อยากขาย เพราะเป็นรถคันแรกของบ้าน รู้สึกเสียด้ายถ้าขายก็ได้ไม่เท่าไร เก็บไว้ดีกว่า สักวันจะเอามันมาขี่อีกครั้ง จากคุณ : พยุหะ เขียนเมื่อ : 9 มี.ค. 54 11:54:23

ความคิดเห็นที่ 53 ***** อ่านจบก็หันไปมองคู่หูทั้ง 2 คันของตัวเอง... ฮั่นแน่!!! ส่งยิ้มให้ด้วยวุ้ย ใจเย็นลูกๆ อีก 2 อาทิตย์ เดี๋ยวพ่อพาไปทรมานนะ จากคุณ : ฉันทนากับช่างทาสี เขียนเมื่อ : 9 มี.ค. 54 12:58:47

ความคิดเห็นที่ 54 ความรู้สึก...เหมือนกำลังพลัดพรากจากคนที่เรารัก เศร้าจังเลยค่ะ จากคุณ : ไออิ (goldwing) เขียนเมื่อ : 9 มี.ค. 54 20:10:56

ความคิดเห็นที่ 55 เข้าใจครับ รถคันเก่าผมก็ยังอยู่ไม่อยากขาย คันปัจจุบันก็ Phantom แสนกว่าโลละ ไม่คิดจะขายเลยครับ คงทำใจไม่ได้ครับ ขอบูรณะไว้ใช้ดีกว่า แต่จริงๆมันซ่อมไม่แพงเลยนะครับ ไม่กี่พัน จากคุณ : Mr.Submarine เขียนเมื่อ : 9 มี.ค. 54 23:57:26

ความคิดเห็นที่ 56 ถ้าเจ้า phantom คันนั้นมันมีชีวิต .. มีความรู้สึก.... ป่านนี้...มันคงน้ำตาซึม จากคุณ : teacher_sa เขียนเมื่อ : 11 มี.ค. 54 00:00:02