 |
ขอแนะนำจขกท.ดังนี้
- อันดับแรกต้องดูค่าซ่อม/ค่าอะไหล่ที่อู่เสนอก่อนว่ามีมูลค่าเท่าใด(หมายถึงอู่ต้องตรวจสอบให้ครบถ้วนทั้งหมด แต่กรณีเสียหายหนักอู่ไม่สามารถตีราคาได้ครบทุกชิ้นส่วน จะต้องรอตรวจสอบหรือรื้อรถก่อนจึงจะได้ราคาที่ชัดเจน)
- หากราคาค่าซ่อมออกมาไม่ถึง 70% ของทุนประกันภัยซึ่งกรณีทุน = 380,000 บาท 70% = 266,000 บาท หากไม่ถึงจำนวนดังกล่าวประกันก็จัดซ่อมให้ตามปกติ
- หากราคาค่าซ่อมเกินกว่า 70% (เกิน 266,000 บาท) ตรงนี้ประกันภัยและผู้เอาประกันภัยสามารถตกลงได้ 2 แนวทางคือ
1. ประกันภัยจ่ายทุน = 380,000 บาท แล้วซากโอนให้ประกันภัย
2. ประกันภัยจ่าย = 266,000 บาท แล้วซากผู้เอาประกันภัยไปขายเอง
เหตุที่ต้องดำเนินการตามแนวทางเนื่องจากเงื่อนไขกรมธรรม์หมวดว่าด้วยความเสียหายต่อรถยนต์ข้อ2 การชดใช้ความเสียหายต่อรถยนต์ระบุว่า 2.1 ในกรณีรถยนต์เสียหายสิ้นเชิง(เสียหายสิ้นเชิงหมายถึงค่าซ่อมเกิน 70%ของมูลค่าในขณะเกิดเหตุ-ไม่ใช่ราคารถใหม่ เป็นราคาตลาดของรถรุ่นเดียวกันในตลาดมือสอง) ประกันภัยมีสิทธิจ่ายทุนประกันภัยและหากทุนประกันภัยไม่ต่ำกว่า 80%ของมูลค่ารถในเวลาที่ทำประกันภัย ผู้เอาประกันภัยจะต้องโอนซากให้ประกันภัย ดังนั้นส่วนมากจึงเจรจากันตาม 2 แนวทางข้างต้น
| จากคุณ |
:
พัฑฒิดา (พัฑฒิดา) 
|
| เขียนเมื่อ |
:
13 พ.ค. 54 15:42:02
|
|
|
|
|
อัพเดท...กรณีประกันชั้นหนึ่ง มีก็เหมือนไม่มีค่ะ
) ซึ่งถ้าประกันที่แถมมาของน้องหมดเมื่อไหร่ ผมก็จะเปลี่ยนไปใช้ของกรุงเทพฯ เหมือนเดิม
