ความคิดเห็นที่ 1 เส้นทางไปขนอมที่สวยที่ข้างทางมีภูเขาและป่า เส้นทางใต้นะที่จริงเหมาะสำหรับผู้รักการขับขี่มอเตอร์ไซค์เราเป็นอย่างดีเลย เพราะทางราบเรียบ และถนนดำเป็นเงา ต้นไม้สองข้างทาง ภูเขาและทางคดเคี้ยวข้างหน้า เว้าเป็นทางเลาะขอบเขาได้สวยงาม ขี่กันมาเรื่อยๆ ด้วยความระมัดระวังและไม่ชำนาญเส้นทาง เลือกที่จะขี่เลาะขอบเลียบทะเล ลมทะเลพัดมาก็ทำให้คลายร้อนไปได้บ้าง จากคุณ : PinePh เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 23:09:33

ความคิดเห็นที่ 2 เส้นทางถนนสวยจริงๆ จากคุณ : PinePh เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 23:10:51

ความคิดเห็นที่ 3 อีกมุมของถนน จากคุณ : PinePh เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 23:11:41

ความคิดเห็นที่ 4 เอาภาพถนนมาฝากอีกเพราะชอบจริงๆ จากคุณ : PinePh เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 23:12:19

ความคิดเห็นที่ 5 เเม้กระทั่ง out of focus ก็ยังสวย จากคุณ : PinePh เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 23:12:52

ความคิดเห็นที่ 6 ชอบลูกศรนำทาง จากคุณ : PinePh เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 23:13:28

ความคิดเห็นที่ 7 ไหน ๆ ก็มาทั้งที่สุราษฎร์ธานี ก็เลยแวะออกถนนใหญ่เพื่อไปสักการะพระบรมธาตุไชยาเอาสิริมงคลกับทั้งผู้ขี่และผู้ซ้อน ที่พระบรมธาตุผู้คนไม่คึกคักเท่าไหร่ พระธาตุไชยา เป็นพระธาตุองค์ย่อม บรรยากาศภายในเงียบสงบดี และดูเหมือนจะมีการปรับปรุงเพิ่มเติมเห็นได้จากกองของกระเบื้องที่ให้คนบริจาคและเขียนชื่อ เพื่อได้บุญกันวางเรียงกันเต็ม จากคำบอกเล่าของชาวเมืองไชยาได้มีตำนานที่เล่าขานเกี่ยวกับเจดีย์พระบรมธาตุไชยาว่า ครั้งหนึ่งมีพี่น้องชาวอินเดียสองคนชื่อ ปะหมอ กับปะหมัน ทั้งสองเดินทางโดยเรือใบเข้ามาถึง เมืองไชยา ได้พาบริวารขึ้นบกที่บ้านนาค่ายตรงวัดหน้าเมือง ในตำบลเลเม็ด เจ้าเมืองมอบให้ปะหมอ ซึ่งเป็นนายช่างมีความเชี่ยวชาญการก่อสร้าง สร้างเจดีย์พระบรมธาตุไชยา ครั้นเสร็จก็ตัดมือตัดเท้า เสีย เพื่อมิให้ปะหมอไปสร้างเจดีย์ที่งดงามเช่นนี้ให้ผู้ใดอีก ปะหมอทนบาดพิษบาดแผลไม่ได้ ถึงแก่ความตาย เจ้าเมืองได้หล่อรูปพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรไว้ เป็นเครื่องหมายแทนตัวปะหมอ ส่วนน้องชายที่ชื่อปะหมันได้ไปครองเกาะพัดหมัน และตึงรากอยู่ที่นั้นจนกระทั่งสิ้นชีวิต สถานที่ตั้งบ้านเรือนของปะหมันนั้นเป็นที่ดอนน้ำท่วมไม่ถึง มีนาล้อมเนื้อที่ประมาณ 1 ไร่เศษ สมัยโบราณที่นี่ศักดิ์สิทธิ์เป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้านมาก คณะมโนราห์ที่เดินทางผ่านจะต้องหยุดไหว้รำร้องถวายมือ คณะใดไม่เคารพคนในคณะจะชัก หรือเกิดเหตุขัดข้องต่างๆ ถ้าใครไปตั้งคอกเลี้ยวหมูในบริเวณดังกล่าวหมูจะตายหมดทั้งคอก เจดีย์พระบรมธาตุไชยาเป็นสถาปัตยกรรมแบบศรีวิชัยองค์เดียวที่ยังอยู่ในสภาพที่ดีที่สุด สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นประมาณพุทธศตวรรษที่ 13-14 ไม่ปรากฎประวัติการสร้างและผู้สร้าง เข้าใจว่าสร้างในขณะที่เมืองไชยาสมัยศรีวิชัยกำลังเจริญรุ่งเรืองสูงสุด จากคุณ : PinePh เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 23:14:25

ความคิดเห็นที่ 8 ด้านในรอบๆ ทีมีองค์พระเรียงราย จากคุณ : PinePh เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 23:14:55

ความคิดเห็นที่ 9 .... จากคุณ : PinePh เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 23:15:27

ความคิดเห็นที่ 10 จากมุมอุโบสถมองลอดออกมาจะเห็นพระสามองค์ที่เป็นศิลปะ ของช่างสมัยโน้น จากคุณ : PinePh เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 23:16:15

ความคิดเห็นที่ 11 จะวางเรียงแค่ 3 องค์ ด้านนอก จากคุณ : PinePh เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 23:16:43

ความคิดเห็นที่ 12 เห็นกันชัดๆ จากคุณ : PinePh เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 23:17:07

ความคิดเห็นที่ 13 กระเบื้องรอเรียงกันอยู่ ให้เขียนชื่อ จากคุณ : PinePh เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 23:17:34

ความคิดเห็นที่ 14 สวยดี แต่ไม่ใหญ่นัก จากคุณ : PinePh เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 23:18:13

ความคิดเห็นที่ 15 หลังจากนมัสการจนอิ่มบุญไปเรียบร้อยแต่ท้องยังคงร้องอยู่เพราะยังไม่อิ่ม ปฎิบัติการตามล่าหาของกินก็เริ่มเกิดขึ้นอย่างไม่รีรอ ในใจก็คิดถึง ไชยานอกจากพระธาตุก็คือ ไข่เค็มไชยานั่นเอง และแล้ว ก็ไปตามล่าหาไข่เค็ม ไข่เค็มไชยาที่พิเศษเพราะเขาว่ามีกรรมวิธีการทำที่ทำให้ไข่ไม่เค็มมากและไข่แดง แดงมันเยิ้ม น่าทานสุดๆ ทำให้สามารถเอามาทำอาหารได้หลากหลายเช่น ไข่แดงมาทำปูจ๋า หรือ ที่เริ่มนิยมกันคือ ปลาหมึกผัดไข่เค็ม และอื่นอีกหลายหลายเมนู จากคุณ : PinePh เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 23:18:55

ความคิดเห็นที่ 16 ที่ยุโรปนั้น ที่อิตาลี เองก็มีการเลี้ยงไก่ เอาไข่มาทาน มาเป็นส่วนผสมของเส้นสปาเก็ตตี้ เหมือนการทำบะหมี่ไข่ และก็มีเป็ดเลี้ยงกันพอควร แต่ไม่เห็นเลย ที่จะนำไข่เป็ดมารับประทานกัน ตามตลาดก็ขายกันแต่ไข่ไก่ ไข่นกกระทา แต่ไม่มีไข่เป็ด ถ้าจะหากันจริงๆ ก็จะหาได้ก็ร้านชาวจีน แม้แต่อาหารเหลาจีนทีนี้ก็ไม่มีเมนูไข่เป็ด แต่จะเป็นเป็ดย่าง หรือ เป็ด อบ มากกว่า ว่าแล้วก็ลองมองหากัน มีร้านรวงเรียงรายตามข้างทางเต็มไปหมด ที่ขายแบบเป็นเพค ดิบ ที่ต้องนำมาต้มหรือทอด เอง แต่เราตั้งใจที่จะทานกันเป็นอาหารกลางวันเพราะการเดินทางก็ต้องเดินด้วยท้อง และที่สำคัญ หิว!! ในที่สุดก็แวะปั้ม ปตท. ที่ใกล้แยกไชยา ใจคิดว่ามาถูกที่แน่ๆ ค่ะ เพราะไม่ว่าจะเป็นปั้มที่ไทยหรือต่างประเทศก็ไม่ต่างกันเลยที่จะต้องมีอะไรให้กิน ง่ายๆ อย่างรวดเร็ว  แต่ในปั้มของไทยจะพิเศษกว่าเพราะจะมี จะมีอาหารให้ทานแบบหนักไม่ว่าจะเป็นก๋วยเตี๋ยว ข้าวแกง  เลยแวะปั้มที่มีร้านข้าวแกงขาย แยกไชยาพอดิบพอดี ใจอยากทานอาหารใต้สุดเผ็ดมาเมืองใต้ทั้งที ไทยและอิตาลีไม่ต่างกันเลยเพราะที่ทาง ใต้ของ อิตาลีก็มีพริกเป็นหลักเลย บางร้านที่ขายพวก salami คือไส้กรอกอัด ต่างๆ ก็แขวนพริกเรียงร้อยเป็นพวงสวยงามน่าทานจริงๆ ว่าแล้วเราก็สั่งอย่างง่ายๆ และรวดเร็ว เพื่อที่จะได้เดินทางต่อ แต่ทว่าอาหารรสชาดหวานมากและไม่เผ็ด ข้าวแกงใต้นั้นเขาจะเสริฟ พร้อมกับน้ำพริกกะปิกับเขาผักจิ้มมาแกล้มแต่แล้วน้ำพริกก็หวาน พร้อมทั้งไข่เค็มไชยา ไม่ได้สมชื่อเหมือนที่คาดไว้ ผิดหวังไปอย่างมากจริงๆ ไข่ใบละ 10 บาท อืมเทียบกับคุณภาพที่ได้รับนับว่าราคาไม่ย่อมเยาว์เอาเสียเลย อาจจะเป็นเพราะหิวตาลายเลยไม่ได้ไปถูกร้าน เออ ตามร้านอาหารข้างทางแบบนี้ น้ำปลาที่เขามีดูสีซีดๆ จืด เราเป็นคนติดความหอมเค็มๆ ของน้ำปลา จึงต้องพกพาไปด้วยเพื่อเพิ่มรสชาดให้อร่อยมากขึ้น และชอบคือตราปลาหมึกเพราะจะไม่เค็มมากเกินไป แก้ไขเมื่อ 21 พ.ค. 54 23:20:18 จากคุณ : PinePh เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 23:19:24

ความคิดเห็นที่ 17 จากนั้นพออิ่มท้องก็เติมน้ำมัน และผู้ขี่ก็ใส่อุปกรณ์ช่วยรัดหลัง ไม่ใช้รัดหน้าท้องเพราะอ้วนนะ แต่รัดเพราะพยุงกระดูกสันหลังช่วงต่อระหว่างบั้นเอว เพราะโดยปกติอาการปวดหลังจะเกิดระหว่างข้อต่อของบั้นเอว และอีกอย่างคือ กล้ามเนื้อช่วงท้องไม่แข็งแรงทำให้การพยุงหลัง ไม่ดี ทางการแพทย์แนะนำว่า ท่าบริหารคือทำให้กล้ามเนื้อหน้าท้องแข็งแรงจะทำให้อาการปวดหลังหายไป ง่ายที่สุดคือซิทอัพ หรือ ง่ายๆ ที่สุดคือการนั่งราบกับพื้น และใช้มือทั้งสองข้างเหยียดแขนไปข้างลำตัว และยกขาทั้งสองข้างขึ้นจากพื้นไม่ต้องสูงมากนัก นับ 1-20 และค่อยๆ เพิ่มขี้น ตามลำดับ ทำทุกเช้าเมื่อตื่นนอน หรือ ท่าที่ง่ายที่สุดคือนอนราบกับที่นอน และเพียงแค่ยกขาสองข้างในระดับ 45 องศา นับ 1-20 และเพิ่มขี้นตามลำดับ เพียงเท่านี้ ก็จะไม่ต่างจากการทำซิทอัพเลย อย่าเห็นว่าท่าง่ายและคิดว่าจะไม่ได้ผล ลองทำดูแล้วจะทราบว่ากล้ามเนื้อส่วนท้องเกร็งและทำให้เกิดเป็นกล้ามเนื้อที่กระชับขึ้นจริงๆ ตอนแรกที่ลองทำ แค่ 1-5 ก็จะไม่ไหวเสียแล้ว จากคุณ : PinePh เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 23:28:40

ความคิดเห็นที่ 18 อิ่มแบบไม่อร่อยเสร็จแล้ว ก็ออกเดินทางจนมาจนเห็นป้ายเลี้ยวไปทางถึงขนอมผ่านดอนสัก ตอนแรกกะว่าจะได้ข้ามเรือไปที่เกาะสมุยแต่เวลาไม่เอื้ออำนวยจึงได้เลยไปที่ขนอม กว่าจะถึงก็จวนจะค่ำ ประมาณ 6โมงเย็นได้ พระอาทิตย์ใกล้ลาลับขอบฟ้าพอดี ได้ความสวยงามจากแสงทองที่ส่องมาจริงๆ แก้ไขเมื่อ 21 พ.ค. 54 23:31:44 จากคุณ : PinePh เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 23:30:20

ความคิดเห็นที่ 19 แสงเริ่มใกล้หมด ตอนพระอาทิตย์ตก ตกเร็วจริงๆ จากคุณ : PinePh เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 23:33:59

ความคิดเห็นที่ 20 สีเหลืองทอง จากคุณ : PinePh เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 23:34:50

ความคิดเห็นที่ 21 อีกภาพ จากคุณ : PinePh เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 23:35:13

ความคิดเห็นที่ 22 หันหลัง ยิงภาพรัวๆ ก่อนที่พระอาทิตย์จะลาไป จากคุณ : PinePh เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 23:35:50

ความคิดเห็นที่ 23 ... จากคุณ : PinePh เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 23:36:12

ความคิดเห็นที่ 24 อย่าเพิ่งกลับบ้านสิ พระอาทิตย์ จากคุณ : PinePh เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 23:36:47

ความคิดเห็นที่ 25 สวย... จากคุณ : PinePh เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 23:37:11

ความคิดเห็นที่ 26 ผ่านตลาดก่อนที่จะไปถึงโรงแรมที่หมาย เลยแวะซื้อน้ำเต้าหู้ของโปรดเสริมกำลังจากถั่วเหลืองหลังจากได้น้ำเต้าหู้ มีเด็กมากับพ่อซื้อน้ำเต้าหู้เหมือนกัน ถ่ายรูปด้วยกันและน้องเธอยิ้มสวยเลยเเชะมาอีกภาพ จากคุณ : PinePh เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 23:38:35

ความคิดเห็นที่ 27 หลังจากได้น้ำเต้าหู้ ก็ขับตรงจากตลาดเข้าไปเรื่อยๆ จนไป ถึงสุภารอยัล เป็นโรงแรมใหญ่ที่วิวสวยเป็นแบบดั้งเดิมเห็นได้จากการออกแบบของอาคาร ได้ความเป็นโมเดิรน์ ที่เป็นเหลี่ยมตัดมุมของรูปแบบสมัยก่อน ที่พิเศษคือวิวที่มองจากห้องพัก สวยแปลกตา ได้เห็นภูเขาใหญ่โอบล้อมทะเล กลมกลืนกันได้อย่างลงตัว รูปถ่ายตอนเช้าอีกวัน จากคุณ : PinePh เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 23:39:59

ความคิดเห็นที่ 28 มาถึงก็ยามค่ำอีกเช่นเคย เอากระเป๋าเข้าไปเก็บก็ออกไปเดินหาอะไรทาน โรงแรมจะต้องข้ามถนนไปอีกฝั่งก็เดินลงไปก็จะเจอหาด ก็เดินเลาะขึ้นไปเรื่อย เลียบชายหาด ก็เห็นแสงไฟ สลัวเป็นแสงเทียนที่มีผู้คนนั่งทานก็พอควร ก็เลยได้เข้าไปนั่งทาน นักท่องเที่ยวจะเป็นชาวต่างชาติที่ส่วนใหญ่เป็นชาวเยอรมัน คือร้านที่เข้าไปนั่งทานจะเป็นกลุ่มของชาวเยอรมัน ที่เป็นที่น่าสนใจก็คือเมื่อได้ไปอยู่ต่างประเทศสักระยะก็จะพอสังเกตได้ว่าชาวยุโรปมาจากที่ไหน ก็เป็นอะไรที่สนุกดีในการฟังสำเนียงและดูจากรูปลักษณ์และสามารถคาดเดาได้ว่ามาจากประเทศไหน แต่ถ้าเป็นเมื่อก่อนต่างชาติหรือที่คนไทยเราเรียกว่า ฝรั่งๆ จะเป็นหัวทอง ตัวสูง ตาฟ้า กันไปหมด และแล้วเราก็ได้โต๊ะที่เหมาะไม่ริมทะเลเกินไปเข้ามาด้านในๆ หน่อยกำลังดี ก็จัดแจงสั่งอาหารอาหารที่ทานเป็นแกงเขียวหวาน และก็ ผัดปลาหมึก ก็รสชาดปกติไม่ค่อยถูกใจเท่าไหร่ อาจจะว่าเรื่องมากเรื่องอาหารการกิน แต่เพราะเป็นคนชอบทำอาหารจึงทำได้รสชาดดีเพราะเวลาทำทีไรคนที่ทานจะทานหมดจานทุกที และเหมือนไม่อยากอิ่ม ดังนั้นพอได้ไปทานนอกบ้านที่ทำแล้วไม่ค่อยอร่อยนักก็เลยทำให้รู้สึกว่าเราทำเองอร่อยกว่าแหะ  สั่งกันพอหอมปากหอมคอ เพราะคิดว่าจะไปทานต่อที่ร้านอาหารของที่โรงแรมสุภารอยัล โรงแรม คนเข้าพักเยอะเพราะเป็นกรุ๊ป สัมมนา จนทำให้อาหารเหลือให้สั่งไม่มากเพราะของสดหมด กุ้งก็หมด  ก็เลยสั่ง เส้นใหญ่ผัดขี้เมาทะเลที่มีปลาหมึกมาทาน แต่ได้สปาเกตตี้มาแทน อยู่ที่อิตาลีกินทุกวันก็อยากมากินเส้นใหญ่แต่น้องที่จดรายการ จดผิด  เออ สรุปว่ามื้ออาหารของวันนี้ผิดหวังมากจริงๆ เพราะตั้งแต่กลับมาจากอิตาลีไม่ค่อยได้ทานอาหารไทยอย่างที่คาดหวังเท่าไหร่เลย และแล้วก็ได้เวลาที่ต้องกลับไปล้มตัวลงนอน เป็นหงุดหงิดเล็กน้อย แหมใครจะว่า ก็เรื่องกินเรื่องใหญ่นิค่ะ จากคุณ : PinePh เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 23:41:09

ความคิดเห็นที่ 29 วิวของตึกโรงแรม จากคุณ : PinePh เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 23:43:55

ความคิดเห็นที่ 30 ภายในห้องสะอาดสะอ้านดี วิวมองออกนอกระเบียง แล้วต่อคราวหน้าออกจากขนอมไปสงขลา แก้ไขเมื่อ 21 พ.ค. 54 23:46:55 จากคุณ : PinePh เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 23:44:44

ความคิดเห็นที่ 31 รอบนี้อ่านตั้งแต่ผ่านแม่กลอง หัวหิน ตอนนี้ถึงสงขลาซะแล้ว รอบหน้าถึงKLแน่นอน จากคุณ : นายไข่ย้อย เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 54 01:36:11

ความคิดเห็นที่ 32 เอาคันเก่าไป แล้วคันใหม่ไปใหนอะครับ จากคุณ : โลกกว้างใกล เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 54 09:16:55

ความคิดเห็นที่ 33 @คุณ นายไข่ย้อย ค่อยๆ ขี่นะค่ะ ไม่ได้ซิ่ง :) @คุณ โลกกว้างไกล คันใหม่เป็น Vedett Moto Tour P.2 ค่ะ รอติดตามอ่านนะค่ะ จากคุณ : PinePh เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 54 10:38:41

ความคิดเห็นที่ 34 ขอบตุณครับสำหรับภาพสวยๆ จากคุณ : cbr150phrae เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 54 11:03:43

ความคิดเห็นที่ 35 เข้ามาติดตามชมครับ อยากรู้จังว่าจะไปสุดทางที่ไหน จากคุณ : กุ๊ก - ดีไซน์ " Aye & KoOk " เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 54 11:59:37

ความคิดเห็นที่ 36 สวัสดีค่ะ คุณ cbr150phrae สวัสดีค่ะ คุณ กุ๊ก - ดีไซน์ " Aye & KoOk " ฝากสวัสดีไปยังน้องอายด้วยน้า คิดว่าจะไปสุดทางที่ใจจะไขว่คว้าและกาลเวลาจะพาไปค่ะ :)ถ้าสิ่งต่างๆ เอื้ออำนวย จากคุณ : PinePh เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 54 23:47:30