ความคิดเห็นที่ 1 เรื่องไม่มีที่ทำมาหากิน คงไม่เกี่ยวนะครับ ไม่งั้นคนที่ตกงาน และไม่มีเงินทองเหมือนคุณ ไม่อดตายกันหมดเหรอครับ เรื่องนี้ ถ้าคุณจะมาบ่นเรื่อง ได้เงินช้า หรือ ได้เงินน้อย หรือ ได้เงินไม่ครบ อันนี้น่าจะปรึกษาห้อง กฏหมายดูนะครับ ว่ามีวิธีการฟ้องแพ่งอะไรได้บ้าง ส่วนเรื่องเวณคืนที่ดิน ผมว่า มันจบไปตั้งแต่มีกฏหมายออกมาแล้วแหละครับ อย่าบ่นเรื่องทำมาหากินเลยครับ ตอนนี้ผมยังตกงาน โดนคนโกงไปตั้งเยอะ แทบหมดตัว เรียกร้องอะไรไม่ได้ ดูคุณสิครับ ยังมีเงิน ได้ค่าเวณคืนมาตั้งหลายบาท จากคุณ : เรื่องขี้หมา เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 17:25:47 A:58.8.77.192 X: TicketID:038237

ความคิดเห็นที่ 2 ลองยื่นจดหมายเข้าหาสื่อทุกช่องเลยครับ... โดยเฉพาะ tpbs ผมคิดว่ามันน่าจะดังพอที่จะทำให้ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองหันมาสนใจเรื่องนี้ได้ ถึงตอนแรกไม่สนใจ... แต่ถ้ามีสื่อไปจี้ถามทุกวันๆ เดี๋ยวก็ไฟลนก้นเอง หรือ...ลองยื่นขอความเป็นธรรมกับนายกดูครับ ถ้าเรื่องได้ออกสื่อแล้ว... คิดว่า ไม่ใครก็ใครคงมีการเด้งเก้าอี้กันบ้าง... (ปล. อย่าลืมแนบ "สำเนา" หลักฐานต่างๆ ไปด้วยนะครับ) จากคุณ : ทัชชี่ เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 17:46:52

ความคิดเห็นที่ 3 ศาลาประชาคม จากคุณ : ครับน้อยไปครับ เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 18:20:59 A:124.120.190.146 X: TicketID:320033

ความคิดเห็นที่ 4 ทำไมต้องยึดมั่นถือมั่นขนาดนั้นละครับ ล้มแล้วก็ลุกขึ้นใหม่ สู้ต่อไป ชีวิตข้างหน้า มันมีโอกาส ให้เสมอ ในเมื่อฟ้าหรือโชคชะตามันเป็นอย่างนั้น แต่เรายังเหลือใจมุ่งมั่นที่จะสู้ จากคุณ : โจ (ฉันมันตัวเปล่า) เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 18:37:04

ความคิดเห็นที่ 5 เป็นกำลังใจให้นะคะ อยากให้สื่อ ติดตาม ประเด็นเรื่อง เงินค่าเวรคืน จังเลย... ใครก็ได้ น่าจะช่วย link ไป post ห้อง เฉลิมไทย สักหน่อยนะ เผื่อ นักข่าว จะเห็น และสนใจ บ้าง เช่น ประเด็น เงินชดเชยค่าเวรคืนที่ดิน ขั้นตอนการบังคับใช้กฎหมายเวรคืน การเปิดเผยข้อมูลและความคืบหน้าโครงการ ช่องทางการต่อสู้เรียกความยุติธรรมตามกระบวนการของกฎหมาย ผลกระทบจากการก่อสร้างโครงการ (จะมีกฎหมายอะไรมาคุ้มครองพวกเขา นักสิทธิมนุษย์ชน NGO สภาทนายความ สถาบันการศึกษาด้านกฎหมาย ใครจะยื่นมือเข้าช่วยเรียกร้องสิทธินี้ให้กับพวกเขาได้) เพราะ ตอนนี้เท่าที่ทราบ หลายพรรคกำลังผลักกำลังดัน ---> 1) โครงการอุโมงค์ลอดใต้แม่น้ำ 2) โครงการสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา 3) โครงการรถไฟฟ้าสายสีต่างๆ 4) โครงการส่วนต่อขยายแนวรถไฟฟ้า หลายโครงการน่าจะกระทบกับบ้านเรือนอีกเป็นจำนวนมาก ชาวบ้านหลายร้อยหลายพันครอบครัว ... ก็ลุ้นๆ แบบกินไม่ได้นอนไม่หลับ หลายโครงการ ปิดบังข้อมูลเงียบเฉียบมาก (แต่ยังเดินหน้าโครงการต่อ) เปิดตัวด้วย .... ขั้นตอนที่ 1 จัดจ้างที่ปรึกษาศึกษาผลกระทบ และความเป็นไปได้ (ฟังเหมือนดูดีเนอะ) ขั้นตอนที่ 2 จัดตั้งคณะกรรมการโครงการ มีการล๊อคการประมูล วางตัวผู้รับเหมา แบ่งสรรปั่นส่วนค่าคอม จนลงตัว แล้วค่อยแถลงข่าวเดินหน้าโครงการ ขั้นตอนที่ 3 ประกาศ พรฏ.เวรคืนที่ดิน เจรจาเดินหน้า เคลียร์พื้นที่ก่อสร้าง ขั้นตอนที่ 4 ตัดริบบิ้น ... นับผลตอบแทนให้ครบตามที่ตกลง ...ความภาคภูมิใจในโครงการสมัยเป็นรัฐบาล ... ซึ่งไม่รู้ว่า พรรคการเมืองไหนจะได้มาเป็นรัฐบาล และแย่งชิงเค้กก้อนโตกันจนมูมมามขนาดไหน.... แต่ที่แน่ๆ ชาวบ้านที่ได้รับการเวรคืน เดือดร้อน....จะทำยังไง สื่อสารมวลชน จะทำหน้าที่ได้อย่างเต็มที่แค่ไหน... จากคุณ : 234 เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 18:42:21 A:101.109.189.161 X: TicketID:288777

ความคิดเห็นที่ 6 ไม่มีความเห็นแล้วครับ ผมแค่บอกว่า แถวบ้านผม ขยายถนน ได้ค่าเวนคืน ไปซื้อบ้านโครงการด้วยเงินสดได้โดยมีทอนครับ แต่หลายคน เลือกจะดาวน์บ้าน แล้วเก็บเงินส่วนหนึ่งไว้ทำทุน จนผมบอกว่า ผมเสียดายที่ครั้งนั้น เวนคืนไม่ถึงที่ของผม เพราะถ้าจะขายเองให้ได้ราคาเท่าเวนคืน คงอีกหลายปีครับ จากคุณ : ฟัก อยู่แม้น เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 18:52:10 A:118.173.118.54 X: TicketID:149505

ความคิดเห็นที่ 7 #6 แสดงว่า ปัญหาคือ ปัจจุบัน หลักเกณฑ์การประเมินที่ดิน+จ่ายชดเชยค่าเวรคืน ได้มาตรฐานหรือยัง? ..... และเป็นธรรมกับทุกฝ่ายหรือไม่? เนื่องจาก ณ ขณะนี้ พบปัญหาคือ บางพื้นที่พอใจ บางพื้นที่ไม่พอใจ เช่น พท. แถวบ้าน คุณฟัก อยู่แม้น ราคาประเมิน "สูงกว่า" ราคาตลาด (ดีใจ) ส่วน พท. จขกท. ราคาประเมิน "ต่ำกว่า" ราคาตลาด (เสียใจ) รวมถึงประเด็นเรื่อง คชจ.เรื่อง ค่ารื้อถอน ... ใครควรเป็นผู้รับผิดชอบ ระหว่าง เจ้าของบ้านที่ถูกเวรคืน กับ โครงการก่อสร้าง? มีหลายประเด็น ค่อนข้างน่าสนใจเนอะ. จากคุณ : 234 เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 19:08:57 A:101.109.189.161 X: TicketID:288777

ความคิดเห็นที่ 8 จริงๆแล้วที่คุณ จขกท. พูดมา รฟม.เค้าก็ทำตาม พรบ.เวนคืนทุกอย่างนะ ดังนั้น ปัญหามันก็คงจะอยู่ที่ กม.ตัวนั้นมันบีบบังคับคนที่ต้องโดนเวนคืนเกินไปหรือเปล่า แต่อยากบอกทุกคนว่า กม.เวนคืน มันก็ออกมาเพื่อ "มหาชน" ส่วนรวมนะ มันจึงไม่แปลก ถ้าเนื้อหา หรือ บทบังคับมันจะดูเอาเปรียบในแง่ของปัจเจกบุคคลไปซะหน่อย เพราะไม่อย่างนั้นการพัฒนาบ้านเมืองมันก็จะทำได้ยากมาก ถ้าขั้นตอนมันเยอะเกินไป ถึงอย่างไงก็ตาม เราก็เห็นใจคุณ จขกท.นะ เพราะมันไม่ใช่แค่บ้านที่ซุกหัวนอนอย่างเดียว แต่มันคือที่ทำกินด้วย ถ้าคุณไม่พอใจกับจำนวนเงินที่ได้ คุณก็ร้องเรียนไปเลย เรียกสิทธิที่เราควรจะได้ ถ้ายังไม่แน่ใจว่าผลจะออกมาเป็นยังไง ก็ลองไปปรึกษาสภาทนายความ หรือ เนติบัณฑิตยสภาดูก่อน อย่าเพิ่งไปจ้างทนายความ พอเรามั่นใจในข้อ กม.ระดับหนึ่งก็ค่อยจ้างทนาย ฟ้องศาล ว่าไป จากคุณ : โต๊ะเขียนหนังสือ เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 19:09:00

ความคิดเห็นที่ 9 เสียใจด้วยที่คุณต้องถูกเวรคืน แต่อาคารพาณิชย์ ซื่้อมาแค่ 2 ปี โดนเวรคืนได้กำไรห้องละ 200,000 บาท เราว่ามันก็โอเคนะ อาจจะพูดทวนกระแส แต่ลองนึกว่า ถ้าทุกบ้านขัดขวางไม่ให้มีการเวรคืน แล้วส่วนรวมจะเป็นไง ถามว่าคุณคุ้มมั้ย ก็คงไม่คุ้ม แต่อย่างน้อยเงินที่ได้ก็ไม่น่าเกลียดเกินไป การต้องหาที่อยู่ใหม่คงลำบากบ้าง แต่ชีวิตก็มักมีเรื่องให้เปลี่ยนแปลงเสมอ ไม่ใช่เหรอคะ มีความเห็นแบบนี้  แล้วใครอย่ามาหาว่าเราทำงานการรถไฟด้วยล่ะ จากคุณ : s (scriptwriter) เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 19:46:15

ความคิดเห็นที่ 10 ลองติดต่อไปที่รายการ " ข่าว 3 มิติ " ด้วยครับ คืนเมื่อวานนี้  ได้ดูรายการนี้  เบรคแรก สัมภาษณ์ ผอ.หน่วยงานนึงในกรมปศุสัตว์ ตอบการสัมภาษณ์อ้ำๆ อึ้งๆ อยู่พักนึง  แล้วรายการก็เดินสกู๊ปนั้นต่อจนจบ จึงโฆษณา หลังเบรคกลับมารายการ  คุณกิตติ รายงานหน้าทีวีเลยว่า  เมื่อกี้นี้ ผู้ว่า โคราช โทรเข้ามาในรายการ แล้วแจ้งว่า จะไม่รออะไรทั้งสิ้น  ได้สั่งการให้ไปไล่ปิด โรงชำแหละไก่ แล้ว  ขอทางรายการช่วยส่งรายชื่อ โรงชำแหละไก่ 30 โรงนั้นมาด้วย จากคุณ : P_Wut เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 20:03:06

ความคิดเห็นที่ 11 #7 คือเรื่องค่าใช้จ่ายในการรื้อถอน ที่เค้าหักไว้ ถ้ายอมรับโดยดุษฏี (เซ็นรับเงิน) ถึงแม้ภายหลังจากการรื้อถอน ก็ได้คืนไม่ใช่หรือครับ หรือผมเข้าใจผิด แต่ก็อย่างว่าใจเค้าใจเรา  บนโลกนี้จะให้ถูกใจเราทุกอย่างก็คงไม่ได้ จากคุณ : หัวหอม++หัวเหม็น เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 20:04:15

ความคิดเห็นที่ 12 ถ้ามันเป็นแค่เรื่องเงินค่าเวรคืนที่ดินเพียงอย่างเดียว ผมจะไม่สนใจเคสนี้เลย แต่เขาทำธุรกิจค้าขายอยู่ตรงนั้นมานานมาก ซึ่งเป็นธุรกิจเฉพาะ ที่ต้องการทำเลที่ดีพอสมควร และฐานลูกค้าเก่า ถึงจะค้าขายได้ ถ้าแปะแกคิดสั้นๆแค่เอาเงินค่าเวรคืนไปซื้อบ้านอยู่ตอนแก่ ต่อไปแปะแกจะเอาอะไรกิน เพราะไม่มีอาชีพแล้ว จากคุณ : แมงแกลบ เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 20:17:26

ความคิดเห็นที่ 13 หลายๆคนรู้จักแต่ราคา แต่ไม่รู้จักคำว่า "มูลค่า" จากคุณ : ปืนเถื่อน เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 20:17:56

ความคิดเห็นที่ 14 ทั้งอาแป๊ะและจขกท.ต่างก็เป็นเจ้าของธุรกิจที่ถูกบีบบังคับจากทางการให้ย้ายออกจากแหล่งทำมาหากินของเขา ดังนั้น เรื่องเงินมันไม่สำคัญเท่าทำเลหรอก มีเงินซื้อบ้านใหม่ได้ แต่จะหาทำเลที่ทำมาหากินได้ีดีเท่าเดิม แน่เหรอ? ถ้ารฟม.คิดแค่ว่ากHจ่ายให้แล้วไงพวกสูก็ไปหาที่อยู่ที่ตั้งร้านใหม่สิ เราว่ามันผิด เวลาตีราคามันไม่ควรจะตีราคาเพียงมูลค่าของที่อยู่อาศัยให้เขานะ แต่มันควรจะตีราคาเพิ่มเป็นค่าสูญเสียรายได้ในธุรกิจเขาด้วย คนจะเต็มใจย้ายออกแน่นอนถ้าเขาได้รับสิ่งที่คุ้มค่าหรือเทียบเท่ากับสิ่งที่เขามีอยู่เหมือนตอนอยู่ที่เดิม จากคุณ : เสียงจากบ้านนา เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 20:31:43

ความคิดเห็นที่ 15 ผมตามอ่านกระทู้แรก ก็เข้าใจความรู้สึกคุณนะ แต่พอเห็นตัวเลขแล้ว มันไม่ได้น่าเกลียดเลย สำหรับการเสียสละเพื่อส่วนรวม (กำไร 2 แสนในสองปี) แต่มันก็เป็นทางเลือกของคนในครอบครัวคุณเอง ผมคงไม่ก้าวล่วงอะไร จากคุณ : GeneralAK เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 20:58:56

ความคิดเห็นที่ 16 กำไร 200,000 นี่ ถ้าร้านอยู่ตรงนั้น มันทำกำไรได้มากกว่านั้นตั้งเยอะ นี่เล่นเวรคืนคิดแต่ค่าที่ดิน แล้วค่าเสียโอกาส ค่าหมดอาชีพ ค่าชดเชยต่าง ๆ ไม่มีให้เลยนะครับ ขนาดโดนรถชนทำงานไม่ได้ เค้ายังมีค่าเสียโอกาสจากการประกอบอาชีพให้เลยครับ จากคุณ : pwit เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 21:37:32

ความคิดเห็นที่ 17 คำนวนเฉพาะค่าที่ดินนะ ซื้อมาคูหาละ 5,500,000 บาท เป็นเวลา 2 ปี อัตราดอกเบี้ยน่าจะประมาณ 7.5 - 10 % ต่อปี น่าจะได้ 412,500 - 550,000 บาท/ปี คำนวนเฉพาะค่าที่ดินนะ 2 ปีก็ประมาณ 825,000 - 1,100,000 ต่อคูหา ได้ 200,000 บาท ต่อคูหานี่ขาดทุนไม่คุ้มเลยครับ ไหนจะ ค่าเสียโอกาส อื่นๆ อีกยังไงก็ให้น้อยไปมากๆๆๆ ครับ จากคุณ : ... เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 22:23:31 A:61.90.12.201 X: TicketID:155521

ความคิดเห็นที่ 18 ข้างบน ผมคำนวนแค่ดอกเบี้ย ยังไม่คุ้มเลย ไม่รู้ 200,000 ต่อคูหา ต่อ 2 ปี ตัวเลขนี้ยกมาจากไหน ไหนกำไรจากที่ดินจะเพิ่มมูลค่าอีก ดอกเบี้ยที่ดินอีก ค่าเสียโอกาส 200,000 บาทน้อยมากนะผมว่า จากคุณ : ... เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 22:29:32 A:61.90.12.201 X: TicketID:155521

ความคิดเห็นที่ 19 *16 กำไร 200k/คูหา ผมว่ามันก็น้อยนะ แต่ไม่ทุเรดมากเท่าไร แต่เข้าใจ จขกท ครับ ทำเลที่ตั้งในการค้าขาย สำคัญมาก อย่างคุณแม่ผม ทำธุรกิจขายเสื้อผ้าเล็กๆ ได้ทำเลดี เดือนนึงได้ทำไร 30k-40k (ขาย ส-อ และวันหยุดราชการ เช้ายันเย็น) 5-6 เดือนก็ 200k แล้ว แต่ที่ขายได้ราคานี้ ทำเลที่ตั้ง สำคัญมากครับ เข้าใจเลยว่า การที่โดนแย่งที่ทำกิน มันเครียดแค่ไหน เป็นกำลังใจให้ จขทก ครับ อ่อ ต้องขอบคุณ คุณ คุณฟัก อยู่แม้น เหมือนกัน ถ้าไม่แสดงคิดเห็นต่าง ก็คงไม่รู้ความจริงจาก จขกท เหมือนกัน เห็นต่างแบบไม่เกรียนก็ ok ครับ จากคุณ : ซอย เทอ มัน เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 22:33:32 A:124.122.253.136 X: TicketID:307626

ความคิดเห็นที่ 20 เรื่องมันผ่านไปแล้วก็คงต้องเลยตามเลยล่ะครับ บ้านผมก็เคยโดนเวนคืนเหมือนกัน และโชคดีที่ได้ค่าเวนคืนตามราคาตลาด แต่คุณพ่อได้ไปยื่นเรื่องอุทธรณ์กับทางหน่วยงานที่มาเวนคืนนั่นแหละ จำได้ว่า เป็นค่าเสียโอกาสทางธุรกิจ เพราะบ้านผมเป็นตึกแถวค้าขายริมถนนใหญ่ในย่านชุมชน และ 3 เดือนต่อมาก็ได้เงินเพิ่มมาอีก 15% นะครับ .. จากคุณ : พายุ.... เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 22:40:57

ความคิดเห็นที่ 21 ของอย่างนี้ไม่โดนเอง ไม่รู้สึกหรอกครับ มือถือผมจะขายให้เพื่อนแบบได้กำไรเยอะยังคิดแล้วคิดอีก อันนี้บ้านที่เก็บเงินมาค่อนชีวิตโดนบังคับให้ขาย ใครเคยจะอยากขายอ่ะครับ จากคุณ : Dolphin In Love เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 07:23:40

ความคิดเห็นที่ 22 เอาง่ายๆครับ สถาบันที่ชื่อ AREA (ภาษาไทยชื่ออะไรจำไม่ได้) เขาประเมินว่าราคาเท่าไหร่ หรือปีก่อนแถวนั้นมีขายไปเท่าไหร่ บางที ราคาอาคารที่โดนเวนคืน มันไม่อาจเทียบกับราคาที่ไม่โดน ผมถามง่ายๆว่า ถ้าบ้านคุณจะโดนทุบ จะต้องขายที่ราคาเท่าไหร่ คือคุณจะคำนวณเอง มันคงไม่ได้ เรื่องค่าเสียโอกาส เพราะถ้าคิดอย่างนั้น ก็จะมีคนคิดค่าเสียโอกาสเหมือนกัน ถ้าคุณทำให้ไม่มีรถไฟฟ้าตรงนั้น ปัญหาคือใครจ่าย (แนวคิดการออกแบบสถานี รฟม ในที่แออัด มัน ห่วย ครับ แต่ไม่เกี่ยวกับกรณีนี้) จากคุณ : You'll never walk alone เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 07:29:30

ความคิดเห็นที่ 23 ผมเเองเมื่อก่อนก็เคยอยู่ในเตาปูนครับ อยู่มาหลาย 10 ปี ก่อนที่จะย้ายไปที่อื่น เพื่อนผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้นที่โดนเหมือนกันครับ แต่ก็ไม่ได้ถามเรื่องค่าทนแทนเท่าไร มันก็ย้ายไปอยู่ตึกแถว ๆ นั้นที่ไม่โดนแวนคืนแหละครับ หลายครอบครัวต้องย้ายที่อยู่อาศัย  บางคนมองที่จำนวนเงินมันเหมือนจะเยอะอยู่ ถ้ามองในระยะสั้นน่ะครับ แต่ถ้ามองในระยะยาว 10 20 ปี มันสามารถสร้างเงินได้ขนาดไหน ตรงนั้นมันทำเลหากิน มีตลาดสด มีห้าง มีเส้นทางเชื่อมต่อไปได้หลายเส้นทาง ทำเลดีจะตายครับแถวนั้น ผมเองยังอยากย้ายกลับไปอยู่ที่เดิมเลย      แต่ปัจจุับันก็มีแวะเวียนไปแถวนั้นบ้างก็เห็นความเปลื่ยนเเปลงไปเยอะครับ ..... แต่ความรู้สึกผมมันแย่ลงน่ะ ไม่รู้เพราะผมคิดไปเองหรือเปล่า      ปล.ร้านมอไซค์ จขกท ผมเองก็เคยไปใช้บริการอยู่เมื่อก่อนครับ  เป็นกำลังใจให้ จขกท ครับ จากคุณ : แป๊ะปากซอย เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 07:42:28

ความคิดเห็นที่ 24 อาคารที่พักอาศัย กับ อาคารพาณิชย์ คงคิดอัตราค่าเวนคืนเหมือนกันไม่ได้หรอกครับ ดังนั้นบางคนอาจจะพอใจ บางคนอาจจะไม่พอใจ ก็เป็นเรื่องปกติ เพราะต่างคนต่างก้มีสถานะต่างกัน คนที่ถูกเวนคืนที่อยู่อาศัยก็แค่หาบ้านใหม่ ซึ่งเดี๋ยวนี้ก็หากันง่ายครับ แต่ถ้าถูกเวนคืนอาคารพาณิชย์นั่นคืออาชีพ เหมือนต้องตกงานไปหาอาชีพใหม่นั่นแหละครับ กว่าจะหาทำเล กว่าจะทำร้าน กว่าจะได้เปิด กว่าจะสร้างฐานลูกค้าใหม่ แล้วจะมาชดเชยกันแค่ตัวอาคารยังไงก็ไม่เป็นธรรมหรอกครับ เห็นใจมากๆ ครับ จากคุณ : monkeygig เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 07:54:48

ความคิดเห็นที่ 25 "ผมได้แต่ปลอบโยนพี่ว่าเรายังคุณแม่อายุเกือบ 80 ปีป่วยด้วยโรคร้าย ไตพิการ ความดัน พากินสัน เบาหวาน ต้องฟอกไต 2 ตรั้ง/อาทิตย์ เราควรทำหน้าที่ตรงนี้แทนพี่ชายให้ดีที่สุด" เป็นกำลังใจสู้ต่อไปครับ จากคุณ : supas เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 08:37:03

ความคิดเห็นที่ 26 ที่นี่ประเทศไทย สู้ต่อไปครับ จากคุณ : วิหคไร้รัง เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 09:38:57

ความคิดเห็นที่ 27 การถูกเวณคืนมักถูกใคำจำกัดความว่าต้องเป็นผู้เสีนสละเพื่อส่วนรวม ..ถูกต้องครับ.....แต่ ทำไมไม่ตอบแทนผู้เสียสละให้ดีหน่อยล่ะครับ ที่เวณคืนก็มิได้นำไปทำสวนสาธารณะ แต่นำไปหาซึ่งผลกำไรอีกที ก็ถือได้ว่านี่เป็นการลงทุนอย่างหนึ่งเหมือนกัน ฉะนั้นอย่าเอากฏหมายมาเป็นเครื่องบังคับใช้ พวกเราก็รู้ดีว่ามีกฏหมายฉบับ ล้าสมัยไม่ทันกาลแต่ราชการก็ยังนำมาบังคับใช้อยู่ ไม่ยอมแก้ไขสักที มีคำถามอีกว่าก็ทางการเค้าให้เกินกว่าที่ซื้อมาเมื่อ 2 ปีที่แล้วยังไม่พอใจอีกเหรอ ขอตอบแทนว่า ตัวเลขของการลงทุนซื้อมา กับค่ากิจการมันต้องแยกกันครับ หลายกิจการอยู่ที่ทำเลที่ตั้ง และความคุ้นเคยของลูกค้า แม้บางครั้งย้ายออกไป แต่ลูกค้าไม่ตามไปก็จบเห่ได้เหมือนกัน เงินที่ได้มาก็แค่ได้สถานที่ใหม่เท่านั้น แต่กิจการที่ดีอาจไม่ตามมาด้วย จากคุณ : dansivilai เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 09:50:52

ความคิดเห็นที่ 28 เห็นใจทั้งคู่ เพราะวิธีคิดมันไม่เหมือนกัน และของอย่างนี้มันอยู่ที่ความพอใจ บางคนเป็นที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ หรือโดนเวนคืนแค่บางส่วน ก็เหมือนถูกหวย แต่ถ้าเป็นที่ทำเลดีๆ เป็นที่ค้าขาย เป็นที่อยู่อาศัย เป็นใครก็คงไม่อยากย้าย (-ต่อไปนี้พูดรวมๆนะครับ ถ้าเข้าใจผิดก็ขออภัย-) เวนคืนมันไม่เหมือนเวลาเอกชนมาขอซื้อที่ เราจะเรียก 20 ล้าน 50 ล้าน ก็ได้ อยู่ที่การเจรจา  ถ้าเขายอมจ่าย ก็ win-win กันทั้งคู่ แต่พอเป็น"รัฐ" มันอยู่ที่ีข้อกฎหมาย มีระเบียบ มีวิธีคำนวณ (จะกี่แบบก็ว่ากันไป) ถึงเขาอยากจ่ายตามความพอใจของเรา (เพราะยังไงก็ไม่ใช่เงินเขาอยู่แล้ว) แต่ก็คงทำไม่ได้ ในทางกลับกัน ถึงเขากดราคาไป ก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา (คงไม่เอาส่วนต่างมาแบ่งกันเอง..หรือถือว่าเป็นผลงานเหรอ) ดังนั้น จึงเห็นด้วยกับหลายๆความเห็น ว่ามันอยู่ที่ "กฎหมาย" ถ้าแก้กฎหมายให้จ่ายเยอะๆ ทุกคนก็ happy (แต่ต้นทุนโครงการก็สูงขึ้น) อีกเรื่องคือ ราคาที่ทั้ง 2 ฝ่ายประเมิน  มันคือราคา ณ วันไหน? ตามที่ผมเข้าใจ ก่อนเวนคืนก็ต้องมีการออกกฎหมายเพื่อกำหนดแนวเขตที่จะโดนเวนคืน ซึ่งระยะเวลานับจากกำหนดแนวเขต-ประเมินราคา-ต่อรอง-จ่ายเงิน-ย้ายออก-รื้อถอน ใช้เวลาเป็นปี บางรายอาจหลายปี ขณะที่ราคาอสังหาริมทรัพย์มันขึ้นทุกปี ยิ่งถ้ามีโครงการรถไฟฟ้า ทางด่วน ถนนตัดใหม่ ฯลฯ ราคาก็ยิ่งขึ้น เช่น สมมติเดิมราคาอยู่ที่ 10 ล้าน  พอเริ่มก่อสร้าง อาจขึ้นไป 15 ล้าน  ในอนาคตพอโครงการเสร็จ ราคาเป็น 20 ล้าน จนท.อาจจะยึดราคา ณ วันประเมิน  แต่พอถึงเวลาจะต้องย้ายจริงราคาอาจจะขึ้นไปอีก (ยังไม่รวมค่าเสียโอกาส) ซึ่งมันก็กลับมาที่เรื่องกฏหมายและวิธีประเมิน สุดท้าย ก็คงต้องร้องเรียนไปตามขั้นตอนกฏหมาย+สื่อต่างๆ ถ้ากรณีที่ จนท.ทำตามกฏหมายแล้ว ประเมินตามวิธีที่กำหนดแล้ว ถึงจะไม่ได้รับเงินเพิ่มจากการเวนคืน แต่..ก็อาจจะได้รับเงินเยียวยาจากหน่วยงานหรือแหล่งอื่นๆ จากคุณ : The Chew เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 10:18:15

ความคิดเห็นที่ 29 ปัญหาจริงๆ คือ ราคาประเมิน กรมที่ มันห่วยมากครับ ไม่งั้น ธนาคาร เค้าจะมี หน่วยงานของเค้าเอง เวลาประเมินกู้บ้าน เหลอ จากคุณ : noname เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 11:15:55 A:203.153.166.116 X: TicketID:111907

ความคิดเห็นที่ 30 เห็นใจ และขอให้กำลังใจ จขกท และครอบครัว ต่อสู้ต่อไปครับ จากคุณ : ผู้ไม่ประสงค์ออกนาม (\"ำฟพำกรืนหฟีพห) เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 11:26:46

ความคิดเห็นที่ 31 ขอมองต่างมุมนะครับ ผมว่า เรื่องฟ้องศาล คุณเข้าใจอะไรผิดไปนะครับ อันนี้ คุณฟ้องศาลปกครอง ไม่ใช่ศาลแพ่ง ที่ศาลปกครอง เขารับฟังด้วยหลักฐาน และใช้หลักการแสวงหาข้อเท็จจริงเองด้วย ดังนั้น คุณแค่เขียนให้ชัด ว่าเดือดร้อนอะไร อย่างไร แนบหลักฐานประกอบให้ครบถ้วน ไม่ต้องใช้ภาษากฎหมายเหมือนเขียนฟ้องในกรณีศาลแพ่งครับ แล้วทนายก็ไม่ต้อง เขาไม่ได้ให้ทนายมาว่าความกันในศาลปกครอง การพิจารณาจะใช้พยานหลักฐานจากทั้งสองฝ่ายเป็นหลัก ถ้าเห็นว่าเงินชดเชยไม่เหมาะสมจริงๆ และสามารถชี้แจงให้เป็นเหตุเป็นผลได้จริง ว่า ควรได้มากกว่านี้ และเหตุผลนั้นเป็นที่ยอมรับได้ในระดับสากล คุณได้ค่าเวนคืนเพิ่มแน่นอนครับ แต่ถ้าไม่ลอง ไม่รับ แต่ยืนกรานจะไม่ย้ายแบบนี้ ในบั้นปลายน่ากลัวจะแพ้นะครับ เพราะอีกฝ่ายมาด้วยกฎหมายล้วนๆ เลย จากคุณ : ลูกหมีเขี้ยวยาวเขาโง้ง เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 12:10:39

ความคิดเห็นที่ 32 ไม่อยากจะแนะนำแบบนี้เลยครับ คือถ้าคุณจับจุดถูก ช่วงนี้ช่วงหาเสียงครับ ลองแขวนป้ายตัวใหญ่ๆ ขอร้องให้คุณอภิสิทธิ์ช่วย เวลาท่านไปหาเสียง หรือปราศัย แล้วพยายามทำตัวให้โดดเด่น ให้เป็นข่าวใหญ่ แล้วถือป้ายใหญ่ๆ ไปหน้าที่ทำการรถไฟ หรือหัวลำโพง ของแบบนี้ต้องลองดูซักต้ังครับ ไม่ได้ด้วยเลห์ก็เอาด้วยกล บางทีการทำอะไรที่มันสิ้นคิดแบบนี้ ก็อาจมีผลมากกว่ามารอให้คนอื่นเขาเห็นใจครับ จากคุณ : ความรักฉันคือเธอ เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 13:24:52

ความคิดเห็นที่ 33 ขอแสดงความเสียใจไปยังผู้ที่ถูกเวรคืนทุกคน ด้วยเหตุว่า เพื่อสิ่งที่ดีกว่า จนบัดนี้ผมยังไม่แน่ใจว่า คำว่าดีกว่า มันคืออะไร รถก็ยังติดเหมือนเดิม อากาศก็เน่าเสียเหมือนเดิม รถเมล์ก็ยังห่วยเหมือนเดิม เอาเทปบันทึกภาพเมื่อ 20ปีที่แล้วมาเปิด ก็ยังเป็นภาพเดิมๆ ภาพของประชาชนที่ถูกภาครัฐเอารัดเอาเปรียบเสมอมา ไม่มีสิทธิ เสรีภาพ ตามระบอบประชาธิปไตย ระบบมัดมือชก ระบบที่ไม่เคยได้รับการพัฒนาเลย อาจเพราะว่าประเทศเรายังคงอยู่ในระหว่าง กำลังพัฒนา จากเมื่อ 20ปีที่แล้วก็เป็นได้ จากคุณ : พัฒนาไปเรื่อยๆนะ จนตายนั้นละ เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 13:38:53 A:110.168.185.209 X: TicketID:312087

ความคิดเห็นที่ 34 ขอแสดงความเสียใจกับ จขกท. ด้วยครับ จากอดีตลูกค้าเก่า จากคุณ : อภิบาลคนดี เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 16:09:47

ความคิดเห็นที่ 35 ผมงงมากนะนี่ถ้าสมมุติว่ากู้ธนาคารมา2ล้านรฟมมาเวนคืนให้มา2.2ล้านผมก็ต้องเอาเงินไปใช้หนี้ธนาคารก่อนใช่ไหมผมจึงจะเหลือเงินดังนั้นถ้าใครผึ่งซื้อ้านผึ่งผ่อนไม่กี่ปีก็ต้องไปหาทำเลใหม่โดยเองแบบไหนนี่สรุปธนาคารได้ดอกเบี้ยใช่ไหมนี่ หรือว่าผมคิดผิดดั้งนั้นค่าเสียโอกาสที่คนที่ถูกเวนคืนได้มันน่าจะไม่ใช่แค่ค่าตึกใช่ไหม ขออภัยคีบอร์ทฟังกดเว้นวรรคไม่ได้ จากคุณ : บรุษผู้สับสน (บรุษผู้สับสน) เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 16:18:12

ความคิดเห็นที่ 36 บางคนบอกกำไรห้องละ 2 แสนก็ดีแล้ว   55.. เคยถามคนขายไม๊ครับ ว่าเค้าอยากขายหรือเปล่า  เวนคืนมันต้องยุติธรรมและรับผิดชอบมากกว่านี้ครับ จากคุณ : ทำใจนิ่งๆ เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 17:09:07

ความคิดเห็นที่ 37 ต่างกรรมต่างวาระครับ บางที่ทำเลห่วยแตกทำอะไรก็ไม่ขึ้นอย่างเก่งก็เป็นได้แค่ที่สร้างบ้านอยู่อาศัย แต่ได้ราคาดีคุ้มมาก ส่วนบางทีทำเลหาไม่มีอีกแล้วราคาดีแค่ไหนก็ไม่อยากได้... จากคุณ : DarKTaMaBoO เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 19:13:47

ความคิดเห็นที่ 38 อ่านแล้วได้แต่สงสารและเห็นใจท่าน จขกท.จริงๆ ถ้าเป็นผมโดนมั่งก็ไม่รู้อาการจะออกแบบไหนเหมือนกัน     บ้านเรามันก็เป็นแบบนี้แหละ ถ้าไม่มีอำนาจวาสนาละก็ เสียงมันไม่ดังหรอก  และ   คำว่า เสียสละ มันควรจะมาตามหลังคำว่า ยุติธรรม นะครับ จากคุณ : Pizzeria เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 54 11:11:29

ความคิดเห็นที่ 39 ส่วนต่างที่เพิ่มแค่ห้องละสองแสน -> รับไม่ได้ครับ นี่ไม่ใช่การซื้อที่ดินเปล่าไว้นั่งเล่นรอราคาขึ้นของคนมีเงินเหลือ เหตุผลเพราะ ครอบครัวนี้จะเสียเงินอีกมากมายจากการย้ายถิ่นฐานร้านค้า - หาที่ใหม่ - ตั้งร้านใหม่ - รอสร้างฐานลูกค้า ---> ระหว่างนั้น รายได้ต่อเดือนของครอบครัวนี้จะลดลงอย่างมหาศาล เหลือถึง 10% ของรายได้เดิมหรือเปล่าก็ไม่รู้ - ใช้เวลาอีกเท่าไหร่ ที่ฐานลูกค้าจะได้เพิ่มขึ้นเท่าหรือใกล้เคียงกับที่ตั้งร้านเดิม แล้วระหว่างนั้น เค้าจะทำยังไงครับการรถไฟที่รักคอดคอด จากคุณ : หมอเถื่อน เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 54 12:50:55

ความคิดเห็นที่ 40 เงินส่วนต่างจำนวน 2 แสนต่อคูหา ต้องนำมาแบ่งปันให้กับพนักงานหลายคนที่อยู่กับเราเป็นเวลาหลายสิบปี คนงานบางคนอยู่กับเราทั้งคอบครัวเพราะทำงานกับคุณพ่อตั้งแต่เปิดร้าน เราคงเลิกกิจการโดยไม่ให้เงินติดตัวเป็นทุนดำเนินชีวิตของเค้าไม่ได้ ถ้าเป็นที่ทำงานเพื่อนๆล่ะครับบริษัทถูกปิด บริษัทลอยแพไม่ช่วยเงินพนักงานเลย ครอบครัวเราทำไม่ได้หวังว่าเพื่อนๆทุกคนในนี้คงเข้าใจว่าเงินที่เกินมา ไม่ได้มากมายเลยมันชดเชยกับสิ่งสูญเสียไม่ได้จริงๆ จากคุณ : ร้านยาง (jaai13) เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 54 16:51:09

ความคิดเห็นที่ 41 มันเป็นระบบเลวๆของพวกนักการเมืองกับบริษัทพัฒนาที่ดินของประเทศหนึ่งครับ เพราะจะได้ซื้อที่ดินไว้เก็งกำไรได้ราคาถูกครับ พอรถไฟฟ้ามาทีก็โฆษณากันโครมๆที่ดินก็ขึ้น โครงการก็ขายได้ แต่กับพื้นที่ๆรถติดมากๆ การจราจรแออัดมากๆ มักไม่ขอบทำกันครับ เพราะ "ไม่มีที่ดินให้พวก "เฮีย" ได้เก็งกำไรกันแล้ว" ครับ หากทำไปคนได้ประโยชน์จะมีแต่ "ประชาชน" ครับ พวก "เฮีย" ไม่ชอบทำกันครับ จริงๆแล้วโครงการรถไฟฟ้าสร้างทีเป็นพันเป็นหมื่นล้านบาท ควรเพิ่มค่าเวรคืนให้คุ้มค่ากับผู้ที่เสียสละให้ส่วนรวมครับ (เช่นให้ 2.5 เท่าราคาตลาดไปเลย) จากคุณ : Top27 เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 54 18:22:38

ความคิดเห็นที่ 42 ความจริงที่ชาวบ้านที่ถูกเวนคืนไม่รู้...พ.ร.บ.เวนคืน และที่สำคัญที่ชาวบ้านไม่รู้จริงๆคือ คำสั่งการกำหนดค่าทดแทนแก่ผู้ถูกเวนคืนโดยกระทรวงคมนาคม ทั้ง  กม.ทั้ง 2 ฉบับล้วนเขียนไว้ดีแล้วทั้งสิ้น แต่ รฟม.ไม่ปฏิบัติตามเลย กล่าวคือทั้งละเว้น และข้ามขั้นตอน ขอยกตัวอย่างเช่น เมื่อประกาศเวนคืนออก พรฎ.แล้ว เจ้าหน้าที่ รฟม.ต้องเข้ามาสำรวจทรัพย์สินอย่างเป็นธรรม แต่จริงๆแล้วไม่เป็นเช่นนั้น บางบ้าน 2 ชั้นและมีดาษฟ้า รฟม.ก็ตีราคาแค่ ตึก 1 คูหา 2 ชั้นเท่านั้น ถ้าชาวบ้านไม่ขอรายการ การคำนวนราคาจากรฟม.ก็ไม่มีโอกาสรู้เลย ส่วนเรื่องราคาที่ดิน และค่าวัสดุก่อสร้าง กม.เขียนไว้ชัดเจนว่าต้องเป็นราคาที่ซื้อขาย ณ วันที่ประกาศเวนคืนเท่านั้น ไม่ใช่ราคาประเมินจากกรมที่ดิน แล้วเรื่องการวางเงินที่ธนาคาร รฟม.ก็ทำผิดขั้นตอน รฟม.ไม่มีสิทธิ์ทำเช่นนั้น เพราะกม.เขียนไว้ชัดเจนว่ารฟม.ต้องเชิญผู้ถูกเวนคืนมาตกลงราคาเท่านั้น กม.เขียนว่ากรณีติดต่อผู้เวนคืนไม่ได้เท่านั้นจึงเอาเงินไปวางที่ธนาคารได้ ความจริงเงินค่าเวนคืนตั้งไว้สูงถึง 9000 ล้านบาท แต่ รฟม.เล่นกลไม่ยอมจ่ายเงินนี้แก่ผู้เวนคืน จากคุณ : ชาวเตาปูน เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 54 13:32:11

ความคิดเห็นที่ 43 เห็นใจเจ้าของกระทู้ครับ กดโหวตให้ทั้งสองกระทู้แล้ว และจะไปตั้งที่ห้องเฉลิมไทยให้ และหาทางไปโพสใน TPBS อยู่ แต่พออ่านไปได้ซักพักเหมือนผมไม่มีหลักฐานอะไร และอ่านแล้วยังไม่เพียงพอจะให้นำไปโพสได้ อยากให้ท่านเจ้าของกระทู้แตกกระทู้ที่ 3 เพื่อแสดงหลักฐานที่มีทั้งหมด และเพื่อนๆในที่นี้จะสามารถช่วยได้อย่างเต็มที่ และตอนนี้ผมเริ่มเสียวแล้วสิ หน้าบ้านผมจะมีโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่เป็น สำโรง - บางปู จะผ่านหน้าบ้านเช่นกัน ตามแผนโครงการ บ้านผมไม่โดน แต่พออ่านของเจ้าของกระทู้แล้ว ทำเอาเสียวแทนเลย แถมฝั่งตรงข้ามผมเป็นโรงเรียนนายเรือ สถานที่เก่าแก่ ไม่รู้จะเวนคืนได้ไหม? (หรืออาจไม่ได้) งานนี้บ้านผม ซวยแน่ๆ หน้าผมเป็นถนน 3 เลน เกาะกลางน่าจะกลางซัก 50-60 เซนติเมตรเห็นจะได้ พอมาคิดๆดูแล้ว บ้านผมน่าจะโดนมะเหลือ (หรือถ้าเหลือก็เหลือบ้านหลังกะจิ๊ด ก็ไม่รู้จะเอามาทำซากอะไร) ถึงตอนนั้นก็คงต้องสู้ต่อไป และถ้ามีเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้น ขอนำกรณีของเจ้าของกระทู้เป็นที่ศึกษาละกันนะครับ เห็นใจครับ อยากช่วย แต่ผมไม่ใช่นักกฏหมาย ยังเป็นนักศึกษาอยู่ อ่านแล้วก็ว่าไปช่วยโพส แต่พออ่านมาเรื่อยๆแล้ว เห็นว่า หลักฐานยังไม่พอ เอาไปเดี๋ยวมีคนด่าเปล่าๆ ขอรอกระทู้ที่หลักฐานพร้อมมากกว่านี้นะครับ  เพราะถ้ามีนักข่าวสนใจ ผมว่าเค้าคงต้องขอรายละเอียดยิบมากกวานี้แน่ๆ เป็นกำลังใจให้ครับ ปล.ถ้าบ้านผมโดนนี้ คงเสียใจเลยครับ พ่อแม่ผมใช้เวลาถึง  28 ปี เพื่อสร้างที่อยู่ให้ลูกได้อยู่ทุกวันนี้ กว่าจะมาเป็นทุกวันนี้ได้ พ่อกับแม่ชอบเล่าให้มฟังเสมอ ยากแสนเขนกว่าจะได้มาขนาดนี้จริงๆครับ ทำงานอาบเหงื่อทุกวัน แถมทำวันละ 16 ชั่วโมงทุกวัน ไม่ได้ทำเพื่อใครนอกจาก "ลูก" คับ จากคุณ : popzeta เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 54 02:22:12

ความคิดเห็นที่ 44 แล้วทำไม รถไฟมันไม่มุดไปทำใต้ดินหว่า.... งงวุ้ย จากคุณ : ole scorpion เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 54 05:28:34

ความคิดเห็นที่ 45 ถ้าเจ้าของกระทู้ได้กลับมาอ่าน อยากให้ข้อมูลตามนี้ครับ 1. การฟ้องคดีต่อศาลปกครองไม่ต้องใช้ทนายครับ ไม่มีรูปแบบหรือแบบพิธีใด ๆ ในการเขียนคำฟ้อง และการดำเนินคดี อีกทั้งเป็นการพิจารณาคดีระบบไต่สวน ตุลาการจะเป็นผู้แสวงหาข้อเท็จจริงที่จำเป็นต่อการพิพากษา หากมีประเด็นใดที่ตุลาการต้องการข้อเท็จจริงเพิ่มเติม ศาลจะมีหมายไปถามเองครับ 2. ไม่จำเป็นต้องไปศาลปกครองด้วยครับ ส่งคำฟ้องทางไปรษณีย์ได้เลย บางคดีจนจบคดีแล้ว ผู้ฟ้องคดียังไม่เคยไปศาลเลยครับ (ไม่เคยเจอตุลาการด้วย อยู่บ้านเฉย ๆ รอหมายศาลว่าต้องทำอย่างไรบ้าง แล้วส่งไปรษณีย์อย่างเดียวเลยครับ) 3. ส่วนว่าจะเขียนคำฟ้องยังไง ให้เขียนเหมือนเล่าเรื่องเลยก็ได้ครับ ผู้ฟ้องคดีเป็นใคร ได้รับความเดือดร้อนหรือเสียหายจากหน่วยงานใด เดือดร้อนหรือเสียหายอย่างไรบ้าง ได้ดำเนินการเพื่อแก้ไขความเดือดร้อนหรือเสียหายของตนเองไปแล้วอย่างไรบ้าง มีการดำเนินการอะไรจากหน่วยงานบ้าง และผู้ฟ้องคดีประสงค์จะให้ศาลมีคำพิพากษาหรือคำสั่งว่าอย่างไรบ้าง เขียนง่าย ๆ เลยครับ ภาษาที่ใช้ขอแค่สุภาพก็พอครับ 4. ค่าธรรมเีนียมในส่วนของการฟ้องคดีเวนคืนแบบนี้อยู่ที่ร้อยละ 2 ของทุนทรัพย์ครับ แต่ถ้าไม่มีเงินจะชำระค่าธรรมเนียมศาลจริง ๆ ขอยกเว้นได้ครับ และค่าธรรมเนียมศาลจะคืนให้ตามส่วนแห่งการชนะคดีครับ เช่น ฟ้องขอ 100 จ่ายค่าธรรมเนียมไป 2 บาท ศาลพิพากษาให้ตามคำขอ นอกจากได้ 100 แล้ว ยังได้ค่าธรรมเนียมศาลทั้งหมดคืนด้วยครับ ซึ่งการคืนให้นี้ ไม่ต้องขอไปนะครับ บัญญัติไว้ในกฎหมายเลยครับ ทั้งนี้ ถ้ามีปัญหาติดขัดอะไรกับการฟ้องคดี สามารถติดต่อพนักงานคดีปกครองได้ครับ จะมีส่วนให้คำปรึกษาแนะนำอยู่ ถ้าสะดวกไปเองที่แจ้งวัฒนะ ก็แจ้งเคาน์เตอร์ำำำรับฟ้องได้เลยครับว่าขอคำปรึกษา ไม่ก็โทรไปได้ครับที่เบอร์ 1355 จากที่เคยอ่านคำพิพากษา (สามารถหาอ่านได้จากเวบไซด์ศาลปกครองครับ) ศาลท่านจะพิจารณาราคาที่เป็นธรรม รวมถึงพิจารณาราคาที่ซื้อขายในระยะเวลาใกล้เคียง แล้วบวกเพิ่มให้ตามส่วนครับ พิจารณาถึงทำเล ที่ตั้ง และอีกหลายประการครับ เงินค่าชดเชยที่ได้ หากต้องออกจากที่อยู่อาศัยนะครับ จะมีค่าชดเชยทางจิตใจ ค่าต้องออกจากที่อยู่อาศัย ที่คำนวณเป็นสัดส่วนกับการต้องสร้างที่อยู่อาศัยขึ้นใหม่ด้วยครับ ดังนั้น หากคิดว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ศาลปกครองช่วยได้ครับ จากคุณ : เศรษฐกร (เศรษฐกร) เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 54 20:53:20

ความคิดเห็นที่ 46 เรื่องค่าเสียโอกาสที่ทำกินควรชดเชยให้คนที่ต้องย้ายออกให้คุ้มหน่อยเพราะคนเคยหากินอยู่ดีๆไปขอให้เค๊าย้ายออกเพื่อสร้างรถไฟฟ้าแต่ชดเชยแค่75.000บาทมันจะไปพอให้เค๊าอยู่ได้ซักเท่าไหร่กันทำเลก็แย่กว่าเดิมกว่าจะมีลูกค้าเหมือนเดิมก็ต้องใช้เวลาหลายปีควรทำให้คนที่ต้องย้ายออกไปมีทุนไว้สำหรับรอเวลาที่จะพอค้าขายให้มีรายได้พออยู่ได้นะครับคิดถึงคนที่มีรายได้เดือนละ5-60.000บาทแต่ได้รับค่าเสียโอกาสแค่75.000บาทมันจะรู้สึกอย่างไรอย่าเอาเรื่องภาษีมาอ้างเลยจ่ายให้น้อยมันผิดจากชีวิตความเป็นจริงที่คนจะใช้ชีวิตอยู่ต่อไปอย่างไรให้เค๊าอยู่ได้ต่อไป จากคุณ : boonsuk99 (boonsuk99) เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 54 15:30:43