ความคิดเห็นที่ 1 ยกตัวอย่างน้องผมละกัน เข้า P เวลาไฟแดงเพื่อก้มหาของ หรือแต่งหน้า มันบอกว่าชัวร์ดีว่ารถไม่ไหลแน่ จากคุณ : Guynes เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 08:47:26

ความคิดเห็นที่ 2 ไม่เข้าใจเหมือนกัน อยากรู้เหมือนกัน อิๆ มันดึงยาวเกิน เลยชอบอยู่แค่ N จากคุณ : mairuna เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 08:49:32

ความคิดเห็นที่ 3 ก็ดีไปอย่างนะ  เพราะไฟเบรคแบบใหม่แสนจ้า จากคันหน้ามันแยงตาน่ะ ติดนานๆมันแสบตาเหลือเกิน แต่การออกตัว ควรสังเกตตัวเลขนับถอยหลัง(ถ้ามีทุกแยกคงดี) ออกตัวช้า รถผ่านแยกได้น้อย รถสะสมท้ายแถวก็เยอะ คงไม่มีใคร ทำอะไรถูกใจทุกคนไปหมดหรอก ใจเย็นๆดีกว่า อิอิ จากคุณ : cyber-ta เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 08:50:05

ความคิดเห็นที่ 4 ผมถ้าติดไฟแดงนานเกิน 60 วินาที ก็จะ N + เบรคมือครับ แต่บางครั้งมองไม่เห็นสัญญาณไฟว่าเขียวจะรู้ก็คันข้างหน้า เคลื่อนที่ ถึงได้ปลดเบรคมือและเปลี่ยนเกียร์เป็น D ก็ใช้เวลาอยู่เหมือนกัน ก็คงต้องขออภัยคันข้างหลังที่เร่งรีบด้วยครับ จากคุณ : คนรักเมีย เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 08:50:27 A:180.183.108.180 X: TicketID:099691

ความคิดเห็นที่ 5 เค้าคงคิดว่าจอดสนิทคงต้อง P อย่างเดียวมั่งครับ จากคุณ : ta1234 เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 08:50:44

ความคิดเห็นที่ 6 :: เทคนิคการขับรถเกียร์ออโต้ :: เป็นเรื่องของความปลอดภัยทั้งชีวิตและทรัพย์สิน ฉะนั้นควรต้องทราบและปฏิบัติให้ถูกต้องและด้วยความระมัดระวังขั้นสุด เทคนิคการใช้เกียร์ออโต้เมติค ปัจจุบันรถยนต์ที่เป็นเกียร์ออโตเมติกเป็นที่นิยมอย่างมาก เนื่องจากขับขี่สบายไม่ต้องเมื่อยเปลี่ยนเกียร์และเหยียบคลัตช์ (Clutch) ตลอดเวลายามรถติด แต่อาจมีบางท่านเข้าใจผิดเกี่ยวกับการใช้เกียร์ออโต ส่งผลให้ทอนอายุการใช้งานของรถโดยไม่รู้ตัว... การเปลี่ยนเกียร์จาก D ไป N ในเวลาที่รถติดไฟแดงบ่อยๆ นั้นหลายคนคงเคยปฏิบัติกันอยู่เนื่องจากเวลารถติดขี้เกียจเหยียบเบรกก็เข้าเกียร์ N ไว้ เมื่อรถเคลื่อนก็เปลี่ยนเป็น D ถ้าช่วงรถติดแล้วขยับเคลื่อนทีละนิดทีละหน่อย ทำให้ต้องเปลี่ยน D-N-D-N-D-N อยู่อย่างนี้เท่ากับคุณกำลังทำร้ายระบบเกียร์ของคุณอยู่ ระบบเกียร์ออโตเมติกนั้นจะประกอบด้วยชุดเกียร์ที่ขบกันตลอดเวลา การส่งแรงจาก N ไป Dจะต้องมีการสึกหรอของเฟืองนั้นต้องมีการปล่อยและจับอยู่ตลอดเวลา อายุการใช้งานก็จะสั้นลง เพราะถ้าเบรกอยู่เฉยๆ ระบบเบรกก็ไม่ได้ร้อนขึ้นเพราะว่าจานดิสเบรกหรือดุมเบรกไม่ได้หมุน ผ้าเบรกก็ไม่สึกหรอเพราะว่าล้อไม่หมุน แรงที่ใช้ในการเหยียบก็ไม่มากขนาดจะทำให้ชุมแม่ปั๊มเบรกพังหรือทำให้อายุการใช้งานน้อยลง หลายคนที่เปลี่ยนเกียร์ D-N-D-N-D-N อ่าน ถึงบรรทัดนี้แล้วก็อยากจะเถียงว่าไม่เห็นมีการเปลี่ยนแปลงเลย รถยังคงสามารถขับได้ตามปกติ ระบบเกียร์ก็ยังปกติดอยู่ แต่พฤติกรรมอย่างนี้จะส่งผลแก่รถคุณในระยะยาว เปรียบเหมือนกับการสูบบุหรี่นั่นแหละ ระบบคลัตช์ของคุณจะลื่น ทำให้เวลาออกตัวคุณจะต้องเหยียบคันเร่งมากขึ้นทำให้รอบสูงขึ้น น้ำมันก็เปลืองขึ้น แต่รถกลับไม่ได้วิ่งอย่างนั้นเลยสูงขึ้น น้ำมันก็เปลืองขึ้น แต่รถกลับไม่ได้วิ่งอย่างนั้นเลย การใช้เกียร์ออโตเมติค ปัจจุบันรถยนต์เกียร์ออโตเมติคได้รับความนิยมมากขึ้น โดยเฉพาะการขับขี่ในเมืองที่มีการจราจรติดขัดเนื่องจากขับขี่ได้ง่ายสะดวกสบายเพราะใช้เพียงคันเร่งและเบรกเท่านั้น คันเกียร์ของเกียร์ออโตเมติคจะมีตำแหน่งสำหรับใช้งานต่าง ๆ กันดังนี้ ตำแหน่ง P ใช้สำหรับจอดอยู่กับที่หรือบนพื้นที่ลาดเอียง โดยรถจะถูกล็อกให้หยุดอยู่กับที่ด้วยตัวล็อกภายในเกียร์ ตำแหน่ง R ใช้สำหรับการถอยหลัง ตำแหน่ง N ใช้สำหรับการหยุดรออยู่กับที่บนพื้นราบ ซึ่งในตำแหน่งนี้รถสามารถเข็นให้เคลื่อนที่ได้ ตำแหน่ง D ใช้สำหรับการขับขี่แบบอัตโนมัติโดยเกียร์จะเปลี่ยนไปเองโดยอัตโนมัติตามคันเร่งและความเร็วของรถใช้ ขับขี่ได้ตั้งแต่การเริ่มออกตัวและเพิ่มความเร็วได้ไปเรื่อย ๆ จนถึงความเร็วสูงสุด การขับขี่โดยทั่วไปสามารถใช้เกียร์นี้เพียงเกียร์เดียวเท่านั้นก็ได้ หมายเหตุ สำหรับรถที่มีสวิตซ์โอเวอร์ไดร์ว ซึ่งเป็นอุปกรณ์พิเศษในเกียร์ออโต 4 สปีดบางรุ่น เมื่อสวิตซ์โอเวอร์ไดร์วอยู่ที่ตำแหน่ง ON เกียร์ออโตจะสามารถทำงานได้ตั้งแต่เกียร์ 1 ถึงเกียร์ 4 โดยอัตโนมัติ สวิตซ์โอเวอร์ไดร์วอยู่ที่ตำแหน่ง OFF เกียร์ออโตจะทำงานโดยอัตโนมัติได้ตั้งแต่เกียร์ 1 ถึงแค่เกียร์ 3 เท่านั้น ฉะนั้น การปรับสวิตซ์โอเวอร์ไดร์วจากตำแหน่ง ON ไปเป็น OFF จึงเป็นการลดเกียร์จากเกียร์ 4 มาเป็นเกียร์ 3 เพื่อให้เหมาะกับการเร่งแซงขณะความเร็วสูง และเมื่อปรับสวิตซ์โอเวอร์ไดร์วจากตำแหน่ง OFF ไปเป็น ON จะทำให้เกียร์ 3 กลับไปเป็นเกียร์ 4 อย่างเดิม ทำให้การลดเกียร์เพื่อเร่งแซง หรือเข้าโค้งเป็นไปอย่างคล่องตัวมากขึ้น ตำแหน่ง 2 ใช้สำหรับการขับขี่ขึ้นทางลาดชันที่ไม่สูงมากนัก และสามารถใช้ความเร็วได้พอสมควร ตำแหน่ง L ใช้สำหรับการขับขี่ขึ้นทางลาดชันที่สูงมาก และต้องใช้ความเร็วต่ำ หมายเหตุ การสตาร์ทเครื่องยนต์ถูกออกแบบให้สามารถกระทำได้เฉพาะ ตำแหน่ง P กับ N เท่านั้น เพื่อความปลอดภัย ขอขอบคุณข้อมูลจากกระทรวงคมนาคม สาระควรรู้เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ ที่ความเร็ว 20 กม./ชม. ระยะเบรกที่ต้องใช้อย่างน้อยที่สุด คือ 7 เมตร ที่ความเร็ว 40 กม./ชม. ระยะเบรกที่ต้องใช้อย่างน้อยที่สุด คือ 18 เมตร ที่ความเร็ว 60 กม./ชม. ระยะเบรกที่ต้องใช้อย่างน้อยที่สุด คือ 34 เมตร ที่ความเร็ว 80 กม./ชม. ระยะเบรกที่ต้องใช้อย่างน้อยที่สุด คือ 54 เมตร ที่ความเร็ว 100 กม./ชม. ระยะเบรกที่ต้องใช้อย่างน้อยที่สุด คือ 80 เมตร หลายคนมักเข้าใจว่า เกียร์ออโตเมติกสามารถตอบสนองการขับขี่ได้ไม่เต็มที่ โดยเฉพาะในความเร็วและอัตราเร่งขณะแซง หากมีความเข้าใจเกี่ยวกับเทคนิคต่างๆ ในการใช้เกียร์ออโตเมติก เชื่อว่าจะขับรถเกียร์ออโตเมติกได้อย่างสบาย และเพลิดเพลินด้วยความปลอดภัยไม่แพ้รถเกียร์ธรรมดาเลย ผู้ขับขี่ส่วนมากใช้เกียร์อยู่เพียง 4 ตำแหน่ง นั่นคือ "D4" เมื่อต้องการขับรถไปข้างหน้า "R" เมื่อต้องการถอยหลัง "N" หรือ "P" เมื่อต้องการจอดหรือสตาร์ตรถ อันที่จริงแล้วควรใช้เกียร์ตำแหน่งอื่น เพื่อเหมาะสมกับแต่ละสถานการณ์เช่นกัน เทคนิคการขับรถเกียร์ออโตเมติกเมื่อลงทางลาดชันและการคิกดาวน์ (Kick Down) เมื่อต้องการเร่งแซง สำหรับการขับรถลงทางลาดชัน ขอแนะนำให้เลื่อนเกียร์ไปที่ตำแหน่ง "D3" กรณีที่ทางลงนั้นมีระยะเวลายาวแต่ไม่ชันมากนัก แต่กรณีที่ทางลงนั้นชันมากๆ ให้เลื่อนเกียร์ไปที่ตำแหน่ง "2" เพื่อใช้เครื่องยนต์ช่วยเบรก (Engine Brake) ในขณะเดียวกันควรเหยียบเบรกไปด้วยหรืออาจใช้เบรกมือเพื่อช่วยในการหยุดรถที่ ดียิ่งขึ้น ทั้งนี้อย่าใช้เกียร์ "N" หรือ "D4" ในการขับรถลงทางชัน เพราะจะไม่มีกำลังเครื่องยนต์ช่วยเบรกและช่วยชะลอความเร็ว นับเป็นการขับที่ผิดวิธีและเป็นอันตรายอย่างมาก กรณีที่ต้องการเร่งแซงรถคันอื่น หรือต้องการแรงเพิ่มขับเคลื่อนรถอย่างกะทันหัน สามารถเพิ่มความเร็วของรถด้วยการคิกดาวน์ (Kick Down) โดยเหยียบคันเร่งลงไปเกินกว่า 80% ในครั้งเดียวเกียร์จะเปลี่ยนลงอย่างรวดเร็ว สังเกตได้จากรอบเครื่องยนต์จะสูงขึ้น ในขณะที่รถจะมีความเร็วเพิ่มขึ้น การคิก ดาวน์ (Kick Down) มี 2 ลักษณะคือ 1. คิก ดาวน์ (Kick Down) ลงมา 1 ตำแหน่ง เช่น รถที่ขับ ความเร็วประมาณ 120 กม./ชม. (อัตราทดเกียร์ 4) แล้วเหยียบคันเร่งสุดเกียร์จะเปลี่ยนจากเกียร์ 4 ลงเกียร์ 3 สังเกตจากรอบเครื่องยนต์จะสูงขึ้นเพียงเล็กน้อย 2. คิก ดาวน์ (Kick Down) ลงมา 2 ตำแหน่ง เช่น ขับรถที่ ความเร็วประมาณ 70 กม./ชม. (อัตราทดเกียร์ 4) แล้ว เหยียบคันเร่งสุดเกียร์จะเปลี่ยนจากเกียร์ 4 ลงเกียร์ 2 ทันที เพื่อให้อัตราทดเกียร์เหมาะสมกับความเร็วขณะขับขี่ ทำให้เครื่องยนต์มีอัตราเร่งมากขึ้น สังเกตจากรอบเครื่องยนต์ที่สูงขึ้นมากกว่าการคิกดาวน์ (Kick Down) 1 ตำแหน่ง หนทางให้คุณวางใจ...เกียร์ออโตเมติก เกียร์อัตโนมัติ "เกียร์ออโต้" ดูจะเป็นอุปกรณ์สำคัญที่สุดอีกชิ้นหนึ่ง ซึ่งพวกเรามักจะมองหา... หรือเอามือไปคว้าไว้หลังพอๆ กับพวงมาลัยรถก็ว่าได้และแน่นอน เราจะมองหามันก่อนที่จะบิดสวิตช์กุญแจเสียอีก... ยุคนี้เราจะชินกับ Automatic Transmission ซะยิ่งกว่า "เกียร์ธรรมดา" Manual Transmission ไปเสียแล้ว ยิ่งจำพวกเกียร์ออโตเมติกแบบใหม่ๆ Lock-UP Torque Converter ที่มี CPU 8 BIT- 16 BIT เข้าไปช่วย Calculation การเปลี่ยนเกียร์ด้วยแล้วละก็ยิ่งสะดวกไปกันใหญ่ ล่าสุด CVT หรือ Constantly Variable Transmission ยุคปี 2000 เป็นต้นมา ด้วยแล้วละก็ ยิ่งนุ่มนวลแม่นยำ และแสนจะง่ายดายในการทำงาน แถมยังไม่ยุ่งยากอย่างเกียร์ออโต้สมัยเก่าซะด้วย อ้างอิง : http://www.aspautoservice.com/trick-1.html จากคุณ : JieBoJai เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 08:57:13

ความคิดเห็นที่ 7 Kick Dow ไม่่ค่อยใช้อ่ะ ส่วนใช้แ่ต่ Kick Up ให้มันเปลี่ยนเกียร์เร็วขึ้นประหยัดน้ำมัน ส่วนการจอดไฟแดงผมมักใส่ P ครับ เพราะมันจะหลอนหากใส่ N เวลาที่รถคันข้าง  ๆมันค่อยๆ ออกตัวไปข้างหน้า ทำให้ดูเหมือนว่ารถเราถอยหลังต้องกระทืบเบรคปึ๊ง.... จากคุณ : Eastern Far away เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 09:04:42

ความคิดเห็นที่ 8 อ่านแล้วงงในจุดประสงค์ แต่เข้า P คนที่ซวยคือเค้า ถ้าเค้า D เหยียบเบรคข้าง คนซวยคือคันหน้าและหลัง จากคุณ : puri puri pon pon เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 09:04:51

ความคิดเห็นที่ 9 สำหรับเกียร์ออโต้ แล้วถ้ารถติดนานๆ แล้วไม่อยากเหยียบเบรคค้างไว้ แบบว่าเมื่อยขา จะเข้าเกียร์อะไรครับ ช่วยบอกทีครับ จากคุณ : คนรักเมีย เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 09:04:59 A:180.183.108.180 X: TicketID:099691

ความคิดเห็นที่ 10 เขาปลอดภัยไว้ก่อนอ่ะครับ ผมเคยเจอแบบนี้มากับตัว จอดรถห่างจากคันหน้าซึ่งเป็นหญิงวัยทึมทึก ประมาณ สามเมตร ติดสัญญาณไฟที่แยกข้างทางรถไฟแถวๆ แฟลตสหกรณ์ฯ สามเสน ... รถเค้าไหลช้าๆมาข้างหลัง ยังไม่รู้ตัว ผมก็ปล่อยให้เค้าไหลมาเรื่อย ไม่กดแตรเตือน ละ จนมันมาชนกันชนหน้ารถผมตึง ! เธอรู้ตัวเว้ย ! รีบลง จากรถตีหน้ายักษ์มาที่ผมเลย ผมขำ แว้ดๆก่อนเลย ผมไข กระจกลง ถามว่าอะไรยาย ? นังนี่ก็ใส่ผมไม่ยั้ง (ในใจอยาก ลงไปตบให้แว่นมันกระเด็นจริงๆ) ผมก็บอกว่า คุณมาว่าอะไร ผม ก็รถคุณมันไหลมาชนรถผมตะหาก ... ชะงักเว้ย ! แต่ไม่ยอม ... คนเรานี่มันสันดานจริงๆให้ตายเถอะ ! เถียงอีกว่า เขามอง ถนนอยู่ตลอดเวลา เป็นไปไม่ได้ ... ก็พอดีรถแท็กซี่ที่จอดข้างๆ รถผมในอีกเลน มีผู้โดยสารนั่งมา ผู้โดยสารคนนั้นเลยไขกระจก ลงมาและพูดเสียงดังว่า รถคุณน่ะไหลมามาชนรถเค้า ! ยัยนี้เลย หน้าม้านไป รีบหันไปขึ้นรถ ดึงรถออกไปจากที่ท้ายชนผมอยู่... พอไฟเขียวก็รีบออกไปเลย ... เนี่ยครับ มันเป็นงี้ คนรอบครอบ เลย P ไว้ก่อน...ผมเองก็เสี่ยงนะครับ ถ้าวันนั้นมันไม่ยอมและ ผมไม่มีพยาน ผมอาจโดนหมาต๋ามันจับก็ได้ ... เพราะหน้ารถผม มันชนติดอยู่กับตูดรถนังแร้งทึ้งนั่น ... ต่อไปถ้าเห็นรถใครข้าง หน้าไหลมา ทางที่ดีเตือนด้วยแตรแบบสุภาพๆหน่อยดีกว่าครับ จากคุณ : เต๋านีโอ เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 09:05:04

ความคิดเห็นที่ 11 ไม่รู้นะ แต่เรา P ตลอดเหมือนกันน่ะ เคย N แล้วรถมันไหลเหมือนกัน หลอนกับคันข้างๆ ด้วย (เหมือนคห.บน) ถามอีกนิด แล้วถ้าเราดึงเบรคมือขึ้นเลยโดยที่เป็น D รถมันจะเจ๊งเร็วมั้ยอ่ะ จากคุณ : แม่มดหมวกดำ เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 09:11:08

ความคิดเห็นที่ 12 รู้ได้ยังไงครับว่าเขาเข้าเกียร์P ......มีวิธีสังเกตุยังไงครับ ทั้งเกียร์กระปุกและออโต้ จากคุณ : X-700 เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 09:14:37

ความคิดเห็นที่ 13 เข้าเกียร์ P มีโอกาสที่เปลี่ยนเกียร์อาจจะผิด มาเกียร์ถอยหลังได้ครับ รถด้านหลังอาจจะซวยได้ จากคุณ : ohmee04 เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 09:15:56

ความคิดเห็นที่ 14 เพือนก็จอด p เนี่ยแหละ วันดีคืนดีเจอ mu7 จูบท้าย อย่างจัง คงไม่ต้องบรรยายต่อว่าเกิดอะัไรขึ้น จากคุณ : Ace-pilot เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 09:16:56

ความคิดเห็นที่ 15 แล้ววิธีที่ถูกคือ ใส่ D แล้วดึงเบรกมือใช่ไหมครับ หรือใส่ N แล้วดึงเบรกมือ จากคุณ : ออกญามหาเท่ห์ เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 09:19:19

ความคิดเห็นที่ 16 มีคนเคยแนะนำว่า ถ้ารถติดไฟแดงนาน ให้ใช้ N และดึงเบรกมือ เพราะการใช้ P กรณีที่มีรถมาชนท้าย จะทำให้เบรกรถเราพัง จากคุณ : กะลาสีรุ้ง เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 09:23:12

ความคิดเห็นที่ 17 มันเมื่อยเท้าอะครับ จากคุณ : ก้องบ้า เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 09:24:53

ความคิดเห็นที่ 18 ขับรถมันต้องมีสติ จะเกียร์ P หรือ N มันก็ต้องระมัดระวังพอกัน ใส่เกียร์ N ก็ต้องดูว่ารถไหลไหม ถ้าจะใส่เกียร์ P เวลาเปลี่ยนเกียร์ก็ต้องดูอีกเหมือนกันว่าใส่เกียร์ถูกไหม ตั้งสติมีสมาธิเวลาขับรถมันก็ไม่พลาดแล้ว จากคุณ : เสียงจากบ้านนา เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 09:25:22

ความคิดเห็นที่ 19 ^ ^ ถ้าใช้ P เบรคไม่พังหรอกครับ แต่เกียร์น่ะน่าเป็นห่วงครับ ขึ้นอยู่กับโดนกระทุ้งหนักไม๊  17#  18#  มาเร็วจัง ^^" แก้ไขเมื่อ 28 มิ.ย. 54 09:29:55 จากคุณ : กาละมังบิน เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 09:28:22

ความคิดเห็นที่ 20 เพราะมันมีคำถามเยอะแบบนี่แหละ ผมถึงไม่ชอบรถเกียออโต้ เลย จากคุณ : เจม (JJCOMBO) เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 09:28:44

ความคิดเห็นที่ 21 ตกลงต้องทำอย่างไร เพราะปัจจุบัน D N  ตลอด จากคุณ : รักซ้อนซ่อนรัก เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 09:28:49

ความคิดเห็นที่ 22 เจอคันหน้าเข้าเกียร์ P (เห็นไฟถอยติดแว๊บนึง) ผมเสียวทุกที กลัวออกตัวผิดเกียร์ ถอยมาชนผม ส่วนตัวผม ติดไฟแดงจะใช้เบรคมือกับเกียร์ว่างตลอดเกือบยี่สิบปีที่ขับรถมาและทุกระบบเกียร์ด้วย จากคุณ : Gadget เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 09:33:11

ความคิดเห็นที่ 23 ไม่เข้าใจว่าจะมาบ่นทำไมรถเขา จะทำไรก็เรื่องของเขามันอยู่มราทักษะของแต่ละคนอะคับ บ่นทำไม รถติดนานๆผมก็ P ไม่เห็นว่ามันจะไปเดือดร้อนใครนิคับ ในเมื่อการเปลี่ยนเกียร์จาก P ไปเป็น D มันต้องเหยีบเบรคก่อนไม่ใช้หรือคับมันจะไม่ปลอดภัยตรงไหน.งง หรือถ้ามันช้าก็ไม่กี่วินาทีจะอะไรกันนักหนาทุกคนมีโอกาสช้าได้อะคับ ถ้าไม่รู้จะบ่นอะไรบ่นคัวเองว่าตรูคิดอะไรบ้าๆยังงี่ได้ยังไงดีกว่าคับ แก้ไขเมื่อ 28 มิ.ย. 54 09:39:39 จากคุณ : tongfar111 เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 09:37:30

ความคิดเห็นที่ 24 ตามปกติใช้ N+เบรคมือครับ ไม่เคยใช้ D+เบรคมือนะ มันฝืนๆ ไงไม่รู้ จากคุณ : @Momotaro@ เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 09:38:11

ความคิดเห็นที่ 25 คันข้างหน้าผมใครจะเข้าเกียร์อะไรผมก็ไม่สนใจหรอกครับ ถ้า........ ไฟเขียวแล้วเขาแสดงท่าทีเกรงใจคันหลังหน่อย ทำท่าว่ารีบร้อนหน่อย ไม่ได้ต้องการขนาดล้อฟรีควันคลุ้ง คราวใดผมติดไฟแดงคันแรก ผมไม่เคยต้องทำให้คันที่2-3-4 ต้องลุ้นเพราะผม ผมพร้อมในสติอยู่เสมอ ออกตัวเร็ว ไม่เหม่อ บางคันก็น่าโมโห ไฟเขียวแล้ว นวยนาด ยื้ดเยื้อเหลือเกิน กว่าจะไล่ความเร็วไปได้ บางครั้งผมสังเกตุ หากคันแรกออกตัวช้า จะทำให้คันท้ายๆไม่ทันไฟแดงเลยล่ะ พลาดไปราวๆ2-3คันต่อครั้ง คือขอบอกว่าไม่ชอบพวกที่ขับรถลอยชาย คิดว่าตัวเองมีคันเดียวบนถนน ขับ6ล้อตามผมจะกดแตรลมให้สะดุ้ง จากคุณ : johnlee เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 09:42:14

ความคิดเห็นที่ 26 ถ้าผมซื่อรถเกียร์ Auto ผมจะใช้ N+เบรคมือครับ.. เพราะมันมีโอกาสที่เกียร์จะพังเพราะโดนชนท้ายอย่างใน คห. 14 ว่าไว้.. คนขับเกียร์ MT เยอะแยะ(กระบะ) เข้า N เหยียบเบรค หรือ N ดึงเบรคมือ ตอนติดไฟแดง ก็ไม่ค่อยเห็นไหลไปชนใครนะครับ.. จากคุณ : InBox เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 09:43:14

ความคิดเห็นที่ 27 การใช้ที่ถูกต้องคือ ถ้ารถเคลื่อนตัวไปเรื่อยๆ ติดไม่นาน ก็ใส่ D ไว้ตลอด ถ้าเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาบ่อยๆ จะสึกหรอเร็วขึ้น ถ้าติดเกิน 1 นาทีขึ้นไป ใส่ N และถ้ากลัวไหลก็เบรคมือครับ แค่นี้พอแล้ว (เคยเจอบางคนเข้า P แล้วเผลอนึกว่า เป็น N เข้าเกียร์ลงมา 1 ตำแหน่ง เหยียบคันเร่ง ปรากฎว่าถอยชนคันหลังเรียบร้อยเลย) เกียร์ P ไว้สำหรับจอดหรือจอดในทางชันนะครับ (รถติดไม่ได้เรียกว่าจอดนะ) วิธีสังเกตรถที่จอดด้วย P คือ มีไฟถอยหลังขึ้นตอนรถติด หรือตอนออกตัวครับ ส่วนเกียร์ธรรมดาไม่มี P ครับ ---------------------------------------------- เกียร์ P ออกแบบมาเพื่อการจอดในทางชันครับ ลองดูปกติรถเกียร์ธรรมดาจอด ก็แค่เข้า N แล้วดึงเบรคมือ แต่ถ้าจอดทางชัน รถเกียร์ธรรมดาจะเข้าเกียร์ 1 หรือ R เพื่อขัดไว้ ไม่ให้รถไหล ในกรณีที่เบรคมือไม่สามารถหยุดรถให้สนิทได้ ในขณะเดียวกันเกียร์ AT ไม่สามารถเข้าเกียร์ขัดไว้ได้เหมือนเกียร์ธรรมดา จึงต้องมีเกียร์ P เอาไว้ครับ สำหรับผมเองขับ AT จอดที่บ้าน ทางเรียบ ก็จอดที่ N ดึงเบรคมือ และดึงกุญแจออกเลย (รถผมดึงกุญแจออกที่ตำแหน่ง N ได้ แต่ถ้าขับ City ดึงไม่ได้ ก็ทิ้งไว้ P ไปเลย) **คิดซักนิดว่า เกียร์ธรรมดาไม่มีเกียร์ P ทำไมถึงไม่มีปัญหา แค่นั้นแหละครับ จากคุณ : XenoType เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 09:46:00

ความคิดเห็นที่ 28 ความคิดเห็นที่ 23     ไม่เข้าใจว่าจะมาบ่นทำไมรถเขา จะทำไรก็เรื่องของเขามันอยู่มราทักษะของแต่ละคนอะคับ บ่นทำไม รถติดนานๆผมก็ P ไม่เห็นว่ามันจะไปเดือดร้อนใครนิคับ ในเมื่อการเปลี่ยนเกียร์จาก P ไปเป็น D มันต้องเหยีบเบรคก่อนไม่ใช้หรือคับมันจะไม่ปลอดภัยตรงไหน.งง หรือถ้ามันช้าก็ไม่กี่วินาทีจะอะไรกันนักหนาทุกคนมีโอกาสช้าได้อะคับ ถ้าไม่รู้จะบ่นอะไรบ่นคัวเองว่าตรูคิดอะไรบ้าๆยังงี่ได้ยังไงดีกว่าคับ แก้ไขเมื่อ 28 มิ.ย. 54 09:39:39 จากคุณ : tongfar111     นั่นดิ...ไม่เข้าใจเหมือนกันมาบ่นทำไม แก่ไวเปล่าๆ จากคุณ : pk1997 เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 09:49:20

ความคิดเห็นที่ 29 ปกติผมจะ N + เบรคมือ  แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมากกับคนที่ เข้าเกียร์ P นะ แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่า  ถ้ามีรถมาชนท้าย  เกียร์เค้าต้องพังแน่ๆ  ..... อย่างงั้ยยยก็ไม่เท่า  ที่มีคนบอกว่า  ใช้เกียร์ D แล้วดึงเบรคมือ .... คนนี้ไม่บ้าก็ต้องโง่สุดๆ ต้องเป็นภัยต่อมวลมนุษย์จริงๆ 555 จากคุณ : หนุ่มเมืองเพ็ด เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 10:02:28

ความคิดเห็นที่ 30 เหมือนความเห็น 23 ครับ จะจอดเข้าเกียร์ P, N, หรือ D ก็แล้วแต่เขาครับ ไม่มีกฏหมายห้าม และไม่ได้ทำให้รถพังแตกต่างกันเลยครับ เท่าที่รถที่บ้านใ้ช้เกียร์ออโต้มากกว่า 15 ปี บอกว่าเข้าเกียร์ P แล้วรถชนทำเกียร์พัง ผมก็ไม่ต้องสนใจครับ คนที่ชนผมเป็นคนจ่ายค่าซ่อมให้ผมเท่านั้นเอง จากคุณ : ผ่านมาเห็น เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 10:14:09

ความคิดเห็นที่ 31 ไม่เข้าใจเหมือนกัน  เกียร์ N ก็มี เบรคมือ ก็มี ทำไมไม่ใช้   จะเข้า P  เพื่อผ่าน R  ทำไม หรือว่ารถเกียร์ ออโต้บางคัน ไม่ต้องผ่าน R ก็เลยเข้า P ง่ายหรืออย่างไร  นะ จากคุณ : puylogin เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 10:38:23

ความคิดเห็นที่ 32 ถ้ามีรถชนท้าย ห่วงท้ายรถก่อนเถอะครับ จากคุณ : tatae (tatae_kung) เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 10:40:16

ความคิดเห็นที่ 33 อืม..เข้า P กันให้เยอะๆ ชนเบาๆจะได้จ่ายแบบหนักๆ ไปต่อไม่ได้ด้วย เจอมินิส้มจัดให้ซักที จากคุณ : ของเล่นใหม่ เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 10:43:06

ความคิดเห็นที่ 34 หลากหลายความรู้สึกจริงๆ จากคุณ : XXL เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 10:50:57

ความคิดเห็นที่ 35 ใช้กระปุกอ่า เลยรอดตัว (มั้ง) จากคุณ : Drama Kitty เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 10:54:24

ความคิดเห็นที่ 36 กฎหมายไม่ได้ห้าม เขาก็เลยทำกำันจนชินหละ จากคุณ : สยึมกึ๋ย เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 10:57:29

ความคิดเห็นที่ 37 สลับ D N D N บ่อย ๆ มันจะพังได้ไง ส่วนที่ทำให้รถพังได้มากที่สุดคือ "ความร้อน" "การเสียดสี" ซึ่ง ถ้าคุณใส่ D ค้างไว้ แล้วเหยียบเบรค สิ่งที่ทำงานคือระบบเกียร์ ต้องทดกำลัง เพื่อไม่ให้ล้อหมุน ทำให้ระบบเกียร์ร้อน ทั้งที่ไม่ควรต้องทำงานในขณะรถจอด แล้วตอนหยุดรถน่ะ จะเกียร์อะไรก็ควรเบรค ทิ้งไว้สักพัก เพราะไม่มีใครรู้หรอกว่า คันหลังจะมาชนเราหรือเปล่า หรืออาจจะโดนชนต่อ ๆ กันมาอีก เบรคไว้ อย่างน้อยตูดเราก็พัง ซ่อมง่าย แต่หน้าเราจะได้ไม่ไปทิ่มคนอื่นให้ห้องเครื่องมันพัง หม้อน้ำมันแตก แต่ถ้าหยุดไปสักพักแล้ว ก็น่าจะปลอดภัยแล้ว จากคุณ : jaminonez เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 11:02:17

ความคิดเห็นที่ 38 ความคิดเห็นที่ 30     เหมือนความเห็น 23 ครับ จะจอดเข้าเกียร์ P, N, หรือ D ก็แล้วแต่เขาครับ ไม่มีกฏหมายห้าม และไม่ได้ทำให้รถพังแตกต่างกันเลยครับ เท่าที่รถที่บ้านใ้ช้เกียร์ออโต้มากกว่า 15 ปี บอกว่าเข้าเกียร์ P แล้วรถชนทำเกียร์พัง ผมก็ไม่ต้องสนใจครับ คนที่ชนผมเป็นคนจ่ายค่าซ่อมให้ผมเท่านั้นเอง จากคุณ : ผ่านมาเห็น   เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 10:14:09     กลัวจะซวยกว่านั้นครับ คือคนชนจะยืนยันว่าซ่อมท้ายรถอย่างเดียว เกียร์อยู่ด้านหน้าไม่ได้ชน จะมาอ้างว่าทำให้เกียร์พังไม่ได้ และหากอ้างว่าในขณะนั้นเข้า พี อยู่ คนชนจะอ้างโน่นนี่ต่อไปอีกน่ะสิครับ กลัวว่าเหตุการณ์จริง จะไม่ง่ายขนาดนั้น เพราะอย่างน้อยถ้าผมพลาดชนท้ายใคร ผมไม่ซ่อมเกียร์ให้แน่นอน ในเมื่อเลือกที่จะเอ็น ได้ แล้วไป พี ทำไม รถไม่ได้จอดแบบดับเครื่อง ผมคงไม่ พี กลางถนนแน่ๆ อย่าโกรธผมนะ แค่เล่าให้ฟัง จากคุณ : johnlee เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 11:03:42

ความคิดเห็นที่ 39 ^ ^ ^ จะมาบอกว่าเพิ่มว่า เจอกรณีเดียวกันเดะ ทุกวันนี้ยังตกลงกันไม่ได้ แถมมันมีอาการหลังจากนั่นอีก 2- 3วัน เลยทำไรไม่ได้ แก้ไขเมื่อ 28 มิ.ย. 54 11:09:09 จากคุณ : Ace-pilot เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 11:07:06

ความคิดเห็นที่ 40 ^ จิ้มไป 38 จริงครับ..ผมเห็นด้วย.. บางคนถอยหลังมาชนคนอื่น..ยังแก้ตัวว่าโดนชนท้ายได้เลย..ถ้าไม่มีพยาน แก้ไขเมื่อ 28 มิ.ย. 54 11:11:00 แก้ไขเมื่อ 28 มิ.ย. 54 11:10:34 จากคุณ : InBox เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 11:08:47

ความคิดเห็นที่ 41 เกียร์ P  ติดไฟแดง โดนเสยก้นงานจะงอก จอดนานเข้า N ดึงเบรคมือน่าจะเซฟกว่า ขับตจว. เหยียบเบรครออย่างเดียว รถไม่ค่อยเยอะ จากคุณ : แสนสุขสมนั่งชมวิหค เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 11:09:26

ความคิดเห็นที่ 42 ติดไฟแดงใช้ N ค่ะ เพราะติดทีก็ 180 วิ. ตลอด จากคุณ : plakadas เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 11:24:56

ความคิดเห็นที่ 43 เข้า N + เบรคมือ ตลอด ทุกครั้งที่ใส้เกียร์ว่าง ทั้งรถเกียร์ธรรมดาและออโต้ทุกคันที่ผมขับ เพราะผมทำจนเป็นนิสัยไปแล้วครับ จากคุณ : กวีเหนือ เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 12:29:16

ความคิดเห็นที่ 44 เข้ามาอ่าน NNPP เหอๆๆ ไม่รู้เรื่อง ไม่เคยขับเกียร์ออโต้ รู้แต่ว่า เมื่อไฟเขียวก็ต้องรีบออกตัว อย่าโอ้เอ้ บนถนนไม่ใช่มีแต่เราคนเดียว รถที่ต่อท้ายเราอีกเยอะ ^_^ จากคุณ : Kt-Kw เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 12:36:29

ความคิดเห็นที่ 45 จริงๆ นะครับเวลาจอดติดไฟแดง พอไฟเขียวเห็นไฟเบรกคันหน้าติด แล้วเห็นไฟถอยติดแว๊บ! ขึ้นแล้วดับ ยอมรับว่าเสียวทุกครั้ง - -' ใครถนัดเข้า P ก็ทำไปครับแล้วแต่ความเคยชิน แต่ต้องระวังด้วย กันพลาดๆ ส่วนผมติดไฟแดงนานๆก็เข้า N แล้วดึงเบรกมือทุกครั้ง แบบว่าชินแบบนี้อ่ะ จากคุณ : blackcamera เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 13:12:18

ความคิดเห็นที่ 46 "ไม่รู้ได้หลักการนี้มาจากไหนกัน กรมขนส่ง คู่มือรถ บรรพบุรุษบอกต่อกันมา แถมเวลาไฟเขียว ก็ไม่รีบนะ จนคันหน้าขยับแล้วถึงจะเริ่มเปลี่ยนเกียร์" แล้วจขกท. ทำยังไงล่ะครับ.. บรรพบุรุษบอกต่อกันมา..หรือเปล่าครับ..หรือเอาหลักการมาจากไหน.. "ขับรถทุกวันนี้ พยายามไม่สนใจคงจะสุขภาพจิตดีกว่านี้" คุณแนะนำคนอื่นได้.. ต้องทำเองได้ด้วยนะครับ.. จากคุณ : ตะวันลับฟ้า เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 14:04:07

ความคิดเห็นที่ 47 แรกๆผมก็เฉยๆกับคนที่ขับแบบนี้ แต่ผมเคยเจออยู่สองที  ที่พอไฟเขียว แล้วพี่แกดันใส่เกียร์ R วิ่งถอยมาใส่ หลังจากนั้นเป็นโรคระแวง  พวกที่จอดติดไฟแดงแล้วเข้า P ตลอดเลย จากคุณ : ton99 เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 14:20:22

ความคิดเห็นที่ 48 ก็คนส่วนมากที่ขับๆ กันเนี่ย  ขับอย่างเดียวละครับ  อย่างอื่นกรูไม่รู้  คู่มือไม่เคยอ่าน........ จากคุณ : boy and girl เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 15:17:45

ความคิดเห็นที่ 49 เข้า N + เบรคมือ ตลอด ว่าแต่  จขกท.  ก็ไม่้มีใคร กรมขนส่ง คู่มือรถ บรรพบุรุษบอกต่อกันมาว่าห้าม P จากคุณ : ม่อน เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 15:40:57

ความคิดเห็นที่ 50 อย่าเถียงกันไปเลยพี่น้องชาวไทย...ใช้ยังไงก็ใช้ไปอย่างนั้น อย่าไปทำความเดือดร้อนให้ชาวบ้านชาวเมืองเขาก็พอแล้ว ถ้ามันจะพังหรือไม่พัง ก็ตังเขา สไตล์ใคร สไตล์ มัน คนเรามันไม่ได้มองด้านเดียวกันเสมอไป นะตัวเทอ แก้ไขเมื่อ 28 มิ.ย. 54 16:06:14 จากคุณ : Oh_No!!_8505 เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 16:05:03

ความคิดเห็นที่ 51 รถhybrid ป่าวคะ จากคุณ : panny เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 16:10:00

ความคิดเห็นที่ 52 N + เบรคมือครับ ส่วนแยกฟอร์จูน ถนนพระรา9 ขาเข้า ใส่ D เหยียบเบรคอย่างเดียว เด็กเช็ดกระจกเยอะเหลือเกิน ต้องกระดึ๊บๆรถหนี จากคุณ : NHU~MU~RAS เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 16:37:56

ความคิดเห็นที่ 53 ผม เกียร์มัว อย่างเดียวอ่ะ จากคุณ : บุรุษแห่งดวงดาว เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 16:55:09

ความคิดเห็นที่ 54 คุณแค่รู้สึกว่าเขาช้าเวลาออกตัว กับพอดีที่คันหน้าเข้าเกียร์ P  ก็เลยเป็นประเด็น ทั้งที่ใครจะเข้าเกียร์อะไรก็ได้ จะว่าง จะdog จะเบรค จะจอดกี่นาที มันก็ตามสะดวกของแต่ละคนล่ะ ถ้าคันหน้า  ตอนนั้นคุณไปเห็นว่าเค้ากำลังจู๋จี๋คนข้างๆ  กระทู้คงเป็น "เบื่อพวกที่ชอบจู๋จี๋ตอนรถติดจริงๆ" สรุป ไม่มีหลักการ คำสอน หรือระเบียบข้อไหนระบุ  ว่าต้องใส่เกียร์อะไรเวลารถติดไฟแดงหรอกครับ จากคุณ : pronong เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 17:12:09

ความคิดเห็นที่ 55 อิอิ ใช่พรีอุส อ่ะ กดปุ่มเข้า เกียร์ P  กดลงเข้าเกียร์ D ไม่ผ่าน R ดังนัน เจอพรีอุส อยู่ข้างหน้าปลอดภัย แน่ว่าเขาไม่ถอยมาชนยกเว้นคุณชนเขา แก้ไขเมื่อ 28 มิ.ย. 54 17:38:50 จากคุณ : Batxman เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 17:36:46

ความคิดเห็นที่ 56 บางคนว่าไม่อ่านคู่มือ อันนี้เอามาจากของเบนซ์ครับ Park position This prevents the vehicle from rolling away when stopped. Do not shift the transmission into position P more unless the vehicle is stationary. แปลว่าถ้าจะไม่ให้รถไหลเมื่อจอดให้ใส่ P ครับ จากคุณ : ผ่านมาเห็น เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 18:41:59

ความคิดเห็นที่ 57 เข้าใจความหมายของคำว่าจอดกันมั้ยครับ ตอนสอบใบขับขี่ก็มี คำว่าจอดกับคำว่าหยุดก็ไม่เหมือนกันหละ เกียร์ P คือเกียร์สำหรับจอดเมื่อดับเครื่อง เกียร์ N คือ เกียร์ว่างใช้สำหรับหยุดรถขณะยังติดเครื่องแล้วดึงเบรกมือเอาก็ไม่ไหลหละ ไม่งั้นรถเขาคงไม่ได้ใส่มาให้ไว้ถามกันหรอกครับ ถึงเวลาโดนชนแล้วเกียร์พังขึ้นมาจะโทษใครดี จากคุณ : อะลาดินเดียวดาย เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 20:35:20 A:124.122.124.148 X: TicketID:319800

ความคิดเห็นที่ 58 ไม่เคยเข้า P ตอนจอดรอไฟแดงเลย ไม่รู้จะเข้า p ทำไม ถ้าแดงไม่นานก็เหยียบเบรค ถ้าแดงนานก็ N+เบรคหรือเบรคมือ แค่นั้นเอง จะปเลี่ยนเกียร์ D N R P , P R N D โดยไม่จำเป็นทำไม จากคุณ : อิอิ (รักสาวอุบล) เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 20:43:36

ความคิดเห็นที่ 59 ไม่เห็นด้วยกับการใส่ D แล้วเหยีบเบรค เพราะเคยโดนรถด้านหลังชนมาแล้ว เพราะเขาใส่ D แล้วเผลอ หยิบโน่นหยิบนี้ เท้าหลุดจากแป้นเบรคเลยมาชน คิดว่าการเปลี่ยนเกียร์แค่นี้ไม่น่าจะมีผลอะไรกับเกียร์ที่จะผังง่ายขนาดที่คห. ต้น ๆ พูด จากคุณ : winmail เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 21:03:23

ความคิดเห็นที่ 60 ผมกลัวพวก P แล้วเวลาออกตัวคิดว่า N>D ด้านรถเราพังนะครับ กว่าจะ P>R>N>D โห คิดดูถ้าพี่ท่านเงอะๆงะๆ  P>R แล้วกดคันเร่ง สยอง ทำไมไม่ N แล้วบวกเบรคมือ มันก็ไม่ไหลแล้ว จากคุณ : FFK-KZ@Fiesta เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 22:34:42

ความคิดเห็นที่ 61 คห 37 DNDN บ่อยๆ พังเร็วกว่านะครับ เพราะแรงดันระหว่างเปลี่ยนเกียร์มันสูงนะครับ ลองหาข้อมูลอ่านดูนะครับ เป็นหลักทางวิทยาศาสตร์นะ ไม่ใช้การเดา จากคุณ : XenoType เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 22:37:25

ความคิดเห็นที่ 62 เราใส่ทั้ง n  หรือ p แล้วแต่จังหวะ   ยกเว้น รถติดและไหลแล้วติดแล้วไหลแบบต่อเนื่อง (แบบรถติดเพราะรถเยอะ ไม่ใช่ติดไฟแดง) อันนี้จะเหยียบเบรคเอานะ ใครที่มาอดทนเหยียบเบรคขณะติดไฟแดงที่ว่า ถึงเบรคเราจะไม่พังแต่สุขภาพจิตเสียแหง๋ๆ ไม่ได้พักขาด้วยนะ แล้วบางทีเพื่อจะหันมาคุยกะคนในรถบ้าง จะเปลี่ยนเพลงบ้างอะไรบ้าง จะมากังวลคอยเหยียบเบรค มันก็ไม่แช่มชื่นเอาสะเลยอ่ะนะ เราว่า ถ้ารถทำท่าจะติดนานๆ ใส่ p อ่ะ ปลอดภัยกว่าจิงๆ เคยก้มลงหยิบของขณะใส่เกียร์ n แขนไปเตะนิดเดียว ไป D เลยทันที เล่นเอา เหยียบเบรคแทบไม่ทันแนะ แต่ถ้าติดไม่นาน ก็ใส่ n+เบรคมือกันรถไหล แต่ก็ไม่แน่เสมอไป บางทีก็ไม่ใส่เบรคมืออ่ะ จะขับลีลาไหน  ...เอาตามถนัดนะ  ขอให้ขับขี่ปลอดภัย เป็นโอเค ป.ล. เรายังไม่เคยเข้าเกียรผิดเปนเกียรถอย ขณะออกรถเลยนะ เพราะยังๆก็ต้องให้เปลี่ยนเกียรเสร็จเรียบร้อยแล้วถึงเหยียบคันเร่ง ซึ่งว่ากันตามจริงมันใช้เวลาแค่ 1-2 วิเองนะ (จะรีบไปไหน เหยียบคันเร่งพร้้อมๆเปลี่ยนเกียร์งั้นรึ) ก็ถ้ารถติดอยู่ ไฟแดง คันหน้าพึ่งออกตัว คุณช้าไป 2-3วิ ก้อยังตามคันหน้าทัน   ยกเว้นว่าคุณติดไฟแดงคันแรก แล้วกะ ซิ่งแหลก แหก โค้ง ก็ว่ากันไปนะ จากคุณ : annyfatgirl เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 23:31:33

ความคิดเห็นที่ 63 ปลงๆเสียบ้าง ขับรถทุกวันก็เครียดทุกวัน จากคุณ : thaita เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 54 00:51:32

ความคิดเห็นที่ 64 มันก็ไม่เดือดร้อนอะไรนะ แต่บางทีมองเห็นไฟถอยหลังติด ก็เสียววาบทุกที เวลาคันหน้าเปลี่ยนเกียร์จากP มาที่D มันต้องผ่านRก่อน จากคุณ : ณปัณณ์ เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 54 08:32:01

ความคิดเห็นที่ 65 แรกๆก้อมีประโยชน์หลังๆไหงมามีแต่สวะๆทั้งนั้นเลย โอ้ยปวดตับ จากคุณ : ของกำนัลจากนรกคือความเจ็บปวด เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 54 14:02:07

ความคิดเห็นที่ 66 เห็นด้วยกับ ความคิดเห็นที่ 61 เพราะถ้าท่านไปศึกษาเอกสารเรื่องนี้ดี ๆ จะพบความจริงแบบที่ว่าครับ โดยเฉพาะท่านที่ใช้รถเกียร์ CVT จากคุณ : Peak Sanshiro เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 54 20:22:29

ความคิดเห็นที่ 67 รถของเราจอด P แล้วกลอนประตูจะปลดล็อกค่ะ เราเลยต้องใช้ N+เบรกเท้า(เบรกมืออยู่ที่เท้า) แทน P จากคุณ : mollxa เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 54 06:44:56