Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ขี่รถลุยลาวในอดีต......ไปเที่ยวพม่าดีกั่ว{แตกประเด็นจาก V10765985} ติดต่อทีมงาน

มาแว้ววววววว
เมื่อวานไม่ได้เข้าเน็ต เนื่องเพราะหลานมาขอทำข้อมูลเพาเวอร์พ็อยต์........เลยต้องให้สิทธ์เขาหน่อย

คห3......5555 เจอะแล้วยังล่ะ
คห4......ป่านนี้คงอ่านจบไป2รอบแล้วมัง
คห5.......รถซูซูกิไรเดอร์ ตัวแรกเป็น126.7ซี.ซี.ครับไม่มีออยคูลเลอร์ ผมซื้อมาคันแรกดูเหมือนจะ6หมื่นว่าจะเอาไปทำแข่งซะหน่อย....ปรากฏว่าสเป็ครถไม่ผ่านครับ......คือเกิน125.อีตอนไปซื้อไม่รู้ว่ามันเป็น126.7
พอมาอีก3ปี พี่แกออกรุ่นเป็น125 มีออยล์ออกมาเสร็จแล้วราคาลดลงมาเหลือ4.7หมื่น.....น้าหยอยแค้นตามวยซะไม่มี.......

หลังจากนั้นเขาก็ออกรุ่น150ออกมา...เป็นรุ่นฮาฟแฟริ่ง..น้าหยอยใช้อยู่1คันและขายไปแล้ว......แล้วก็ฟูลแฟริ่ง......เป็นรุ่นล่าสุด.เห็นเขาขายกันอยู่ที่22-23k

ตอนนี้น้าหยอยใช้อยู่2คันเป็นรุ่น125 oil cooller คันหนึ่งเอาไปใส่ลูกสูบ cbr150     อย่างที่เคยเอามาเขียนเล่าให้ฟังไปแล้ว ส่วนอีกคันหนึ่งเป็น125เดิมๆ  ว่าจะปล่อยให้ใครเอาไปอุปการะอยู่เหมือนกัน.....ยังไงก็หลังไมค์มาถามได้เด้อ
คห6.....ช่าย....ชาวเขาของเราก็ใช้วิธีโงแบบนี้เหมือนกัน
.............................................................................................
วันนี้กลับมาเล่าเรื่องไปเที่ยวพม่าต่อละครับ........ย้อนให้อ่าน3บรรทัดเหมือนเดิม
ว่าแล้วพระนางอเลนันดอก็สั่งการให้กรมวังและปุโรหิตผสมปุโรเหา จัดงานอย่างยิ่งใหญ่ภายในพระราชวังอย่างเอิกเกริก…       . 10 วัน10 คืนเพื่อเตรียมฉลองรัชทายาทองค์ใหม่ให้สมพระเกียรติเสียหน่อย

เจ้านายหลายคนกระหยิ่มยิ้มย่องว่า ตัวเองคงจะได้รับการคัดเลือกแน่นอน ก็เลยยกขบวนขันหมากแห่แหนกันมาอย่างอึงคะนึง…         ..ใครมีสมบัติพัศฐานอะไรก็แต่งองค์ทรงเครื่องมาจนเพียบ…         .กะจะขึ้นนั่งเมืองและแต่งงานควบซะสองเด้งอย่างสง่าผ่าเผยแบบจ้าวผู้ได้รับเลือกเป็นรัชทายาทนั่นแหละ


การณ์มันไม่เป็นไปอย่างที่ว่าแฮะ…. เพราะเมื่อเจ้าต่างกรมทั้งหมดเข้ามาถึงวังแล้ว         พระนางอเลนันดอก็สั่งให้”แตงดาหวุ่นคยี”คุมหัวหมู่ทะลวงฟันของพม่าจับเอาเจ้าต่างกรมทั้งหมดเข้าไปจำขังและใส่ขื่อคาครบทุกประการ เพื่อรอการประหารเป็นเด้งที่ 3


ซวยเลยว่ะ….เจ้าต่างกรมหลายคนคงอุทานอย่างนี้นะครับ


งานนั้น พระนางอเลนันดอ สั่งให้กรมวังทั้งหมดผลัดกันเข้าเวรแบบเตรียมพร้อม 24 ชั่วโมงตลอดวัน           โดยในแต่ละวันพระนางสั่งให้เพชฌฆาตราชมัล      

เอาจ้าวต่างกรมทยอยไปเลี้ยงโต๊ะจีนวันละ 10 กว่าราย โดยกำหนดให้เลือกเอาการประหารชีวิตจ้าวยอดซวยเหล่านั้นเป็นเวลาเดียวกับที่ยี่เกพม่ากำลังรบกัน…..(จำได้ใช่ไหมครับว่าพระนางอเลนันดอสั่งให้มีมหรสพในวัง 10 วัน 10 คืนนั่น)


คือพอเสียงกลองดัง….ตะลุ้งตุ้งๆๆๆ…แบบยี่เกรบกันเมื่อไหร่ ก็ให้ถือโอกาสนั้นทุบว่าที่ลูกเขยที่ไม่เคยดูดวงก่อนออกจากบ้านนั้นเสีย…          .นัยว่าเพื่อให้เสียงกลองกลบเสียงร้องอย่างโหยหวนของคนที่กำลังโดนทุบนั่นอย่างหนึ่ง…        ..และเบี่ยงเบนความสนใจของคนบ้ายี่เกให้นั่งดูอยู่กับที่เฉยๆ…ไม่ต้องไปไหนอีกอย่างหนึ่ง


เผลอๆคนดูอาจจะเห็นจริงเห็นจังไปกับการแสดงอย่างถึงลูกถึงคนของนาฎศิลป์นอกจอที่ส่งเสียงร้องผสมออกมากับยี่เกก็เป็นได้…..


จนมาช่วงหลังๆของมหกรรมพม่าแทงกอง  การทุบด้วยท่อนจันทร์ทำท่าว่าจะไม่ทันกับจำนวนของคนที่รอคิวเชือดอยู่        และแถมยังมีข่าวว่าอังกฤษจะส่งข้าหลวงที่ปกครองพม่าใต้เดินทางมาแซงชั่นการส่งวิญญาณของบรรดาเจ้าต่างกรมเสียอีก


บรรดาปุโรหิตที่อยู่ใกล้ชิดกับคุณป้าซูสีไทเฮา ต้องเข้าไปช่วยดัดแปลงบทยี่เกให้มีบทรบกันมากๆหน่อย….คนตีกลองก็ตีกันจนกลองแทบจะแตกและมือแทบหงิกไปเป็นแถวๆ


เรื่องนี้เรื่องจริงนะครับ….เพราะผมได้อ่านบันทึกเรื่องพงสาวดารพม่าที่สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพได้บันทึกเอาไว้          …และท่านเองยังได้สนทนากับไวซ์รอยชาวอังกฤษที่เข้าไปปกครองพม่าในยุคนั้นเองด้วย….

ไวซ์รอย(ตัวแทนในพระองค์…พระเจ้ายอร์จฯแห่งอังกฤษ)เล่าให้ท่านฟังว่า พระนางอเลนันดอสั่งให้ฆ่าจ้าวพม่าไปหลายร้อยคน….

ในขณะที่กำลังจัดแต่งสถานที่เพื่อจัดงานมหรสพและจะจัดงานศพหมู่อยู่นั้น ไวซ์รอยคนนี้ก็ทราบข่าว           ….พยายามแล่นเรือขึ้นไปยังมัณฑะเลย์ เพื่อจะไปขอร้องพระนางอเลนันดอให้ยุติงานเข่นฆ่าอาฆาตที่ไร้เมตตาธรรมนั้นเสีย…

.แต่ไปไม่ทัน เพราะงานเลี้ยงหมู่ได้จบลงก่อนหน้านั้นเพียงวันเดียว….แต่ก็พอทันได้ไปเห็นหลุมฝังศพที่เป็นพูนดินอยู่หลังวังมีขนาดใหญ่มาก….ดินนั้นสูงขึ้นมาจนน่ากลัว….และพม่าได้ให้เอาช้างมาเดินย่ำเพื่อให้ดินยุบลง

เมื่อยหัวแล้วแฮะ..พักก่อนเหอะ เดี๋ยวหลานๆจะตาลาย พรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่
รูปนี้เป็นพระธาตุอินแขวนครับ.....ส่วนมากแล้วคณะทัวร์จะเดินทางไปถึงตีนเขา(ซึ่งมีพระธาตุที่มองเห็นเป็นพระเจดีย์นั้นแหละ-อยู่ข้างบน)
เพราะฉะนั้นรูปที่เห็นจะเริ่มขมุกขมัวไปทุกรูป.........นอกจากเราจะขึ้นไปถ่ายบนยอดเขา ซึ่งจะต้องเดินขึ้นไปประมาณ45นาที.....ไปไหว้1นาทีแล้วก็เดินกลับลงมาอีก30นาที......

ลงมาถึงโรงแรมน้าหยอยก็ตาลายเพราะพยาธิ์ในท้องกำลังเต้นแอโรบิคแดนซ์กันขนานใหญ่......มาถึงห้องโถงในโรงแรมน้าหยอยก็จัดการเอาบักจอห์นี่มักย่าง สาดลงไปในลำคอแบบกะจะเผาให้พยาธ์ตายให้หมดกระเพาะนั่นแหละ...

ปรากฏว่าน้าหยอยเดินตาขวางเข้าไปในห้องอาหารแบบตุปัดตุเป๋า เพราะอะไรน้าหยอยยังหาสาเหตุไม่ได้มาจนป่านนี้

 
 

จากคุณ : เคี้ยงโมโต
เขียนเมื่อ : 5 ก.ค. 54 19:08:39




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com