ความคิดเห็นที่ 1 ไม่รู้นะ แต่สำหรับผม ผมต้องการครับ ABS/AIRBAG ยอมเสียเงินเพิ่ม 40,000 บาท เพื่อแลก สองสิ่งนี้ครับ จากคุณ : TVIC_1408 เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 11:36:18

ความคิดเห็นที่ 2 อย่าใช้คำว่า โง่ เลยครับ คุณเองยังสงสัย เพราะ ขาดความรู้ จากคุณ : NHON เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 11:37:46

ความคิดเห็นที่ 3 คืออาจจะมีตังค์ แต่ขับเป็นอย่างเดียว เลยไม่ได้ดูว่ารถระดับนี้บางรุ่นมันก็ไม่มีติดมาให้ เพราะคิดว่ารถแพงๆ มันคงจะเซฟตี้คนผู้โดยสารอยู่แล้ว...มั้ง จากคุณ : Oak Ark เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 11:40:06

ความคิดเห็นที่ 4 เปลี่ยนจาก โง่ เป็น ไม่เข้าใจรายละเอียดในประโยชน์ของ ABS-Airbag ดีพอ และเปลี่ยนจาก งก เป็น คนประหยัด จะดีกว่ามั้ยครับ จากคุณ : Phak Phoom เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 11:41:03

ความคิดเห็นที่ 5 บางครั้งคนเราก็ไม่โง่ ไม่งก ไม่อีโก้หรอก เพราะเงินมันไม่เท่ากันไง คนพร้อมเรื่องเงินจะออกรถที่มีออฟชั่นครบทุกอย่างก็คงไม่เดือดร้อนอะไร เพราะมีกำลังทรัพย์ที่จะจ่าย แต่สำหรับคนที่ไม่พร้อมเรื่องเงิน แต่จำเป็นต้องมีรถนี่ซิ สำคัญมาก แต่ผมก็อดสงสัยไม่ได้เหมือนกัน ว่าไอ้อุปกรณ์พวกนี่มันเซฟชีวิตเราได้จริง ๆ เหรอ เพราะเห็นข่าวที่ออกมา ขนาดบีเอ็ม หรือ เบ็นซ์ มีทั้งแอร์แบ๊ก เอบีเอส และอุปกรณ์ที่ทันสมัยสุด ๆ ก็เห็นตายคารถกันหลายราย เพราะอะไรเหรอครับ อุปกรณ์ไม่ทำงาน หรือว่าเชื่อมั่นใน เทคโนโลยี่เกินไปเลยประมาท จากคุณ : คนลำตะคอง เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 11:44:17 A:58.137.207.214 X: TicketID:272813

ความคิดเห็นที่ 6 คิดว่าคนส่วนใหญ่อยากได้อุปกรณ์ดังกล่าวครับ แต่มันติดขัดอยู่ที่เงิน เงิน เงินและก็เงิน จากคุณ : ยาน้ำแก้ไอตราตะแป๊ะแกล้งตาย เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 11:45:01

ความคิดเห็นที่ 7 ไม่มีปัญญาซื้อรถแพงนะครับ แต่ ... ก็ไม่ได้ต้องการทั้ง ABS แล้วก็ Airbag ครับ เพราะอะไรหรือ ? ๑. มันต้องจ่ายเงินซื้อ (ถ้าได้ฟรีๆ มีคนออกส่วนต่างให้ ผมก็ค่อนข้าง    สนใจนะ) ๒. มันเพิ่มชิ้นส่วนที่จะต้องบำรุงรักษา หรือเสียให้รถ ๓. มันเพิ่มราคาอะไหล่บางชิ้นให้หาลำบาก และแพงขึ้น เดี๋ยวนี้รถบาง    รุ่นต้องใช้ตลับลูกปืนเฉพาะ เพราะเป็นเซนเซอร์ ABS ๔. อุปกรณ์ทั้งหมด ก็ไม่ได้เทพอะไร ใส่ไว้ก็ต้องตายอยู่ดี ๕. มันไม่ใช่อุปกรณ์สำคัญ ที่รถทุกคันต้องมี แค่ไฟหน้า ยังสำคัญกว่า    เลยครับ ไม่มีขับรถตอนกลางคืนไม่ได้เลย เหตุผลหลักๆ ผมเป็นทำนองนี้ครับ แต่ ... ยืนยันว่า ไม่ได้ต้องการให้ใคร มาคิดเหมือนผม ทุกวันใช้มักกร ไม่มีทั้ง ๒ รายการนั่น ก็ใช้งานรถได้ไม่ มีปัญหาอะไร มีความสุขดี เกือบ ๒๐ ปีแล้วคันนี้ จากคุณ : สยึมกึ๋ย เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 11:46:14

ความคิดเห็นที่ 8 ถูกใจท่านหยึ๋มจริงๆ จากคุณ : ลำไผ่ MKII เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 11:51:55

ความคิดเห็นที่ 9 "Agreed with ท่านหยึมฯ ครับ" จากคุณ : หนุ่ม No.7 เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 12:00:12

ความคิดเห็นที่ 10 มีตังค์เลือกได้ใครก็อยากมี แต่ถ้ามีจำกัดก็ต้องเอาสิ่งที่จำเป็นก่อน ถ้าต..รู มี60ล้าน ก็ไปซื้อเฟอรารี่แล้ว จากคุณ : sbflower เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 12:00:21

ความคิดเห็นที่ 11 ผมระบุชัดเจนนะครับ ว่าสำคัญต่อความปลอดภัย ไม่ได้สำคัญต่อการทำให้รถวิ่งได้หรือไม่ได้ เพราะรถยนต์ มีล้อ มีตัวถัง มีเครื่องยนต์มันก็วิ่งได้แล้วครับ ไม่มีพวงลาลัยยังวิ่งได้เลย แต่เลี้ยวไม่ได้ จากคุณ : Last sector เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 12:00:31

ความคิดเห็นที่ 12 เพราะมันไม่ฟรีไงครับ ถ้าคิดแบบนั้น ผมว่า ผู้ผลิต ก็น่าจะแถมให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานไปเลย โดยที่ไม่ต้องเพิ่มเงิน แบบนี้ถึงจะเห็นคุณค่าจริง ได้ใจไปเต็มๆ บางคนออกรถ 3 ล้านแต่ขับในเมือง ไปไกลๆนั่งเครื่องบิน หารถเช่า บางคน รถยี่สิบปี แต่ก็ขับไปทั่วประเทศ จากคุณ : BaLL182 เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 12:01:15

ความคิดเห็นที่ 13 ผมเชื่อว่า ยังมีคนเข้าใจผิดหรือ ยังไม่เข้าใจเกี่ยวกับ อุปกรณ์พวกนี้อยู่ครับ ไม่ต้องขนาด ABS AIRBAG หรอกครับ แต่เกียร์ธรรมดา กับ ออโต้ ก็พอครับ ทุกวันนี้ ผมยังได้ยิน คนที่ไม่ใช้เกียร์ออโต้ ซึ่งเหตุผลคือ - อันตราย สาเหตุเพราะ เขาเห็นข่าวที่ รถเกียร์ออโต้ไหลไปทับคนลงมาเปิดประตูบ้าน อะไรพวกนี้ - เสียง่าย - อัตราเร่งไม่ดี แต่ สิ่งที่ได้ยินคือ พวกที่บอกถึง 3 ข้อนี้ ไม่เคยขับเกียร์ออโต้เลย หรือ ขับไม่เป็นนั่นเอง ผมว่า อุปกรณ์ทุกอย่าง มันก็มีทั้งข้อดี และ ไม่ดี ถ้าหากเราจะคิด ให้มันดี หรือมันไม่ดี แม้กระทั่งเซ็นทรัลล็อก แน่นอน รถสมัยนี้ มันมีทั้งนั้น แต่บางคน เคยได้ยิน กลับไม่ชอบ เซ็นทรัลล็อก เขาให้เหตุผลว่า เวลาเปิด มันเปิดหมด เกิดเป็นผู้หญิงคนเดียว เดินมาที่รถ เปิดประตูปุ๊บ เกิดมีโจรนั่งหลบอยู่ฝั่งผู้โดยสารตอนหน้า ก็สามารถเปิดมาจ๊ะเอ๋ ปล้น ข่มขืนได้สบาย ๆ กระจกไฟฟ้า ก็เหมือนกัน แน่นอนว่า รถสมัยนี้ มันก็มีแทบทั้งนั้น แต่บางคน ก็ยังมองว่า มันอันตราย ซึ่ง ต่างประเทศ มีเด็กเสียชีวิตเพราะกระจกไฟฟ้าก็เยอะ หรือ ABS บางคนคิดว่ามันไม่ดี บ้างก็ว่า ระยะเบรกยาวกว่าบ้างอะไรบ้าง AIRBAG ก็เช่นกัน ซึ่งมันเป็นอุปกรณ์ที่ต้องใช้ควบคู่กับเข็มขัดนิรภัย ความรู้เท่าไม่ถึงการ ไม่ต้องใครหรอกครับ อาของผมนี่เหละครับ ขอเผาอาตัวเองหน่อย เพิ่งจะซื้อรถที่มี AIRBAG มาใช้ เป็นรถมือสอง แต่เขาไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ซึ่งผมก็เตือนบอกว่า ทำไมไม่คาดเข็มขัดนิรภัย คำตอบได้ที่รับคือ รถอามี AIRBAG แล้ว เวลาชนมันก็ช่วยเราได้เอง เฮ่อ ผมนี้อึ้ง ว่ามีคนคิดแบบนี้ด้วยหรือเนี่ย ซึ่ง ผมก็พยายามอธิบายนะว่า มันช่วยให้ไปตายเร็วขึ้นนะสิไม่ว่า หากไม่คาดเข็มขัดนิรภัยแล้ว AIRBAG ออกมาเนี่ย ผมก็บอกว่า รู้ไหมว่า รถที่ไม่มี AIRBAG และไม่คาดเข็มขัดนิรภัย กับ รถที่มี AIRBAG และไม่คาดเข็มขัดนิรภัยเช่นกัน หากเกิดการชนที่ ความเร็วระดับนึง เท่า ๆ กัน ผลคือ รถคันที่ไม่มี AIRBAG และไม่คาดเข็มขัดนิรภัย อาจจะเจ็บน้อยกว่า อีกคันที่มี AIRBAG และไม่คาดเข็มขัดนิรภัยเสียอีก ผมเชื่อว่า อุปกรณ์อัจริยะ มากมาย ซึ่งปัจจุบัน ผมมองว่ามันเป็น AIRBAG ABS นี่เหละ มันกำลังกลายเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรถทุกรุ่นไปแล้ว ยี่ห้ออื่นผมไม่ทราบ แต่ขอยกตัวอย่าง HONDA ก็แล้วกัน อย่างรถ BRIO เอง ที่เป็น ECO CAR ซึ่งรุ่นถูกสุด ราคา 399,900 บาท ก็ยังมี AIRBAG คู่ พร้อม ABS ให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน หรือ HONDA JAZZ ที่จำหน่ายรุ่นปัจจุบัน ซึ่งทุกรุ่นมี AIRBAG คู่และ ABS เป็นอุปกรณ์มาตรฐานเช่นกัน และแน่นอนว่า HONDA CITY Minorchange ที่กำลังจะเผยโฉมเร็ว ๆ นี้ ก็ต้องมี AIRBAG คู่ พร้อม ABS ให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานเช่นกัน ในทุกรุ่นย่อย และหลังจากนั้น ก็จะเหลือเพียง CIVIC Model Change เพียงตัวเดียวที่จะมีการให้ AIRBAG คู่ และ ABS เป็นรุ่นสุดท้าย เพราะปัจจุบัน CIVIC FD ยังมีบางรุ่นที่ไม่มี ถุงลมนิรภัยให้ ซึ่งก็คือรุ่นล่างสุด ของทั้งเกียร์ธรรมดา และออโต้ ณ วันนี้ เราคุยกันถึง อุปกรณ์ ABS AIRBAG ว่ามันจำเป็นไหม กับ วันนี้ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว เราอาจจะคุยกันถึงเรื่อง พวงมาลัยพาวเวอร์ เซ็นทรัลล็อก กระจกไฟฟ้า ว่า มันจำเป็นไหม และผมเชื่อว่า อนาคต ก็ต้องมีคนมาตั้งคำถามว่า พวกระบบ ควบคุมการทรงตัว ม่านถุงลม มันจำเป็นไหมแน่ ๆ ครับ จากคุณ : Mr.VTEC เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 12:03:42

ความคิดเห็นที่ 14 เซฟตี้เบ้ล สำคัญกว่าเยอะครับ  ส่วนตัว คนไม่เอา ต้องโง่ด้วยหรอ ???? คราวหน้าก็บอกให้ ผู้บริหารแถมให้ฟรีๆสิ จะไ้ด้ไม่โง่ หรือว่า คนกำหนดราคาและสเปคมันโง่ ถึงออกตัวสเปคที่ไม่มี ABS-AIRBAG ออกมา จากคุณ : ปลาโลมา_:P เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 12:05:15

ความคิดเห็นที่ 15 ^ ^ ผมเห็นกลับกันนิดหนึ่ง ได้โปรดเถิด พลีสสสสสส ! ... อย่าเอา ABS และ Airbag ไปเป็นอุปกรณ์มาตรฐานเลยครับ เพราะ อย่างไง โรงงานก็ไม่ได้ใส่มาให้ฟรีๆ หรอก มันก็บวกไปในค่ารถแล้ว ดังนั้น เอาไว้ใส่ให้ สำหรับคนที่อยากได้หนะ ดีอยู่แล้วครับ แล้วยืนยันครับ อุปกรณ์นั่น ก็ไม่ได้สำคัญต่อความปลอดภัยครับ อุปกรณ์ ที่สำคัญต่อความปลอดภัยเลย คือ เบรคครับ พวงมาลัยครับ ไฟครับ แตร ครับผม ส่วน ABS และ Airbag เป็นแค่ตัวช่วยเสริม ที่อาจจะเพิ่มโอกาส รอดให้ คราวคับขันครับผม เพราะมิฉะนั้นแล้ว ผมคงตายไปนานแล้วครับ ตายไปพร้อมกับมังกรแล้ว เพราะ มันไม่มีทั้งคู่ครับ ทุกวันนี้ก็ยังใช้อยู่ครับ และดูเหมือน ผมก็ไม่ได้ สนใจอะไหล่สองชิ้นที่ท่านว่าตรงไหนเลย เพราะ เบรคก็ยังเบรคได้ จากคุณ : สยึมกึ๋ย เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 12:11:38

ความคิดเห็นที่ 16 เรื่องแบบนี้เขาเรียก วิจารญาณส่วนบุคคลครับ ไปว่าคนที่เขาไม่ซื้อรถแบบที่คุณ ต้องการ แบบนั้นไม่ได้หรอก ถ้ากลับกัน คนกลุ่มนั้นเขามองคนที่เห็นอย่างคุณว่าเป็น พวก ซื้อรถแบบนี้มาขับมีเงินอย่างเดียวไม่ได่น่ะ ต้องคิดน้อยโดนหลอกง่ายด้วยแล้ว คุณจะเห็นเป็นประการใด จากคุณ : felansear เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 12:26:32

ความคิดเห็นที่ 17 มีกับไม่มีถ้าลองมันได้ชนแล้ว ตายเหมือนกัน แล้วบางคนงบเขาจำกัดในเมื่อประหยัดตังค์ 4-5หมื่น เขาก็เอา ไม่เลือก ABS Airbag ไม่ได้แปลว่าโง่ หรืองกสักหน่อย คุณอย่าไปมองว่าคนที่ไม่คิด ไม่ทำอะไรเหมือนคุณต้องแปลว่าโง่ มีถุงลมใช่ว่าจะเทพ ตายคาถุงลมก็เยอะไป อยากจะบอก จขกท.ว่า อย่าไปคิดแทนคนอื่น จากคุณ : FC_Barcelona01 เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 12:26:47

ความคิดเห็นที่ 18 ผมยังยืนยันว่า ABS-Airbag มีความสำคัญต่อความปลอดภัยแน่นอนครับ ตามที่คุณ คห.13บอก แต่การที่ผู้ผลิตจะติดตั้งมาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานมั้ย ขึ้นอยู่กับว่าเค้าConcern ในความปลอดภัยของผู้โดยสารมากแค่ใน และกลุ่มเป้าหมายทางการตลาดของเค้ามี price sensitivity แค่ไหน รถรุ่นเก่าๆที่ เครื่องไม่ได้แรงมาก ไม่มีไม่เป็นไรครับ แต่รถรุ่นใหม่ๆความเร็วปลายทะลุ180 กันทั้งนั้น มันผ่อนจากหนักเป็นเบาได้แน่ครับ ไม่มากก็น้อย อย่างคห.13บอกหละครับ ขนาดรถรุ่นที่เล็กกว่าอย่าง Brio March ยังต้องเริ่มติดมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐานแล้ว ถ้าอยากซื้อพวก Altis Civic กระบะบ้าพลัง ที่ไม่มีABS-Airbag ผมก็คงห้ามไม่ได้ครับเป็นสิทธิของผู้ซื้อ ผมตั้งกระทู้เพื่ออยากทราบคำตอบแค่นั้นเอง จากคุณ : Last sector เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 12:27:27

ความคิดเห็นที่ 19 ผมข้อแก้ ไขเป็น ไม่โง่แล้วกันครับ ผมอาจยึดความคิดตัวเองมากเกินไปหน่อย แต่ผมก็มีประสบการณ์ในวงการรถยนต์ไม่น้อยนะครับ จากคุณ : Last sector เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 12:29:08

ความคิดเห็นที่ 20 ย้อนกลับไปที่เจ้าของกระทู้นะครับ บางทีไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากได้  แต่เพราะราคาเท่านั้นมันไม่มีของที่ว่ามาให้ต่างหาก ยกตัวอย่างง่ายๆ  แต่ก่อนจะมี Vigo ตอนที่Sport cruiser D4D 2.5l 4x4 ออกมาใหม่ๆ พี่ต้าแกก็ใส่ ABS มาให้   แต่พอมาเป็น Vigo  ผมจะเปลี่ยนรถใหม่เพราะใช้มานานมากแล้ว แหม่ เจ้าตัว 2.5 4WD ก็ดันไม่มี ABS  มาให้งั้นแหละ  อยากได้ABSก็ต้องไปเล่นรุ่น 3.0 ซะงั้น รถเก๋งบางรุ่น อย่าง JAZZ ตั้งแต่เปลี่ยนรุ่นใหม่มา (​จากรุ่นที่ใช้ CVT เป็น AT 5speed) แกก็ใส่ ABS มาเป็นอุปกรณ์มาตรฐานตั้งแต่รุ่นถูกสุดเลย  ตอนนี้ก็ให้ Airbag มาอีก ประเด็นจริงๆมันไม่ใช่อยู่ที่อยากได้ หรือ ไม่อยากได้  แต่ผมว่าลองมีให้ก็เอาทั้งนั้แหละ แต่เงื่อนไขมันอยู่ที่ราคาของผู้ผลิต และการกั๊ก Options เอาไว้สำหรับรถรุ่นที่ราคาสูงกว่า เพื่อสร้างแรงจูงใจให้คนอยากจะจ่ายเงินเพื่อให้ได้รถที่แพงขึ้นกว่ารุ่นที่เล็งไว้แต่แรก ก็บ่อยไป จากคุณ : lucifer เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 12:31:16

ความคิดเห็นที่ 21 บางคนคิดว่าแน่ เอาอยู่ เลยตัดเจ้าพวกนี้ออกไป บางคนอยากเอาไปแต่ง เปลี่ยนพวงมาลัยซิ่ง บางคนไม่เคยชนหนักๆ เลยไม่คิดว่าต้องใช้ จากคุณ : Gadget เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 12:31:21

ความคิดเห็นที่ 22 สำหรับผม ผมยอมจ่ายครับถ้ามันมีอุปกรณ์อะไรที่ช่วยให้ผมและคนที่ผมรัก บาดเจ็บน้อยลงหรือรอดจากการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุได้ ผมยอมจ่ายครับ ถ้าจะบอกว่าอุปกรณ์สำคัญต่อความปลอดภัยคือเบรค พวงมาลัย ไฟหน้า แตร...มันก็จริงผมว่ามันกำปั้นทุบดินไปนิดนึง จขกท. น่าจะต้องการสื่อว่าหากมีอุปกรณ์ที่ช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุได้ทำไมถึงไม่ติดกัน คำตอบผมว่าน่าจะเป็นเหตุผลเรื่องเงินเป็นหลักและผมว่ามีส่วนน้อยนะครับที่ได้เห็นผลจากการทำงานของ ABSและAirbagแบบจริงๆจังๆ ผมเองขับรถมาสิบกว่าปีเพิ่งจะได้เห็นว่าABSมันทำงานยังไงก็ตอนไปเรียนขับรถของศูนย์ AAS นี่เอง จากคุณ : AppLePie81 เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 12:31:40

ความคิดเห็นที่ 23 ผมว่าตามประสบการณ์ตัวเองนะ ให้ความสำคัญตามนี้ 1. เค้าขาดความรู้(ไม่โง่) เค้าอาจจะฉลาดในหลายๆเรื่องแต่เรื่องนี้เค้าอาจไม่มีความรู้เลย ไม่เห็นประโยชน์ต่อการเพิ่มเงินอีกก้อนเพื่อแลกกับชีวิตและความปลอดภัย 2. เค้าไม่มีเงิน แต่อยากได้รถยนต์รุ่นที่ว่านี้ ลำพังค่าตัวต่ำของรุ่นก็ลำบากมากอยู่แล้ว ซึ่งผมก็ต้องทำแบบนี้ 3. อีโก้ หรือความมั่นใจในตนเองสูง ก็มีส่วนเป็นไปได้ ผมว่าหากบ้านเรามีการเก็บข้อมูล และนำเสนอข้อมูลจากอุบัติเหตุที่ทำให้เสียชีวิตหรือสาหัสจากการใช้รถยนต์ที่ไม่มีถุงลมนิรภัยและเบรคเอบีเอสสูงกว่าปกติ สุดท้ายให้ทำอัตราภาษีแบบใหม่ กรมสรรพสามิตร่วมกับโครงการประกันสุขภาพแห่งชาติ หากติดอุปกรณ์ครบ+โอกาสสูญเสียชีวิตน้อย ภาษีถูก หากไม่ติดอะไรเลย + บาดเจ็บหนักเสียชีวิตสูง ให้ภาษีแพง แก้ไขเมื่อ 09 ส.ค. 54 12:33:10 จากคุณ : AutoSmart (ONT-อ้น) เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 12:31:54

ความคิดเห็นที่ 24 ...มีดีย่อมมีเสียครับ คุณยอมรับได้ไหม๊? ABS??? "เบรค ABS ช่วยให้สามารถควบคุมการบังคับเลี้ยวของรถได้ในขณะใช้เบรคบนพื้นผิวถนนที่ลื่นเท่านั้น!!" แต่ "เบรค ABS ไม่ได้ทำให้รถหยุดได้สั้นลง กลับจะทำให้ระยะเบรกยาวขึ้นด้วยซ้ำ!!" ซึ่งถ้าเบรคกันตรงๆไม่หักหลบอะไรเลย แล้วรอดมาได้โดยไม่ชน ไม่ได้แปลว่ากำลังขับรถเทวดาอยู่นะ มันแค่โชคดีที่คุณอยู่ในระยะที่ต้องใช้ในการหยุด พอดี๊ พอดี เท่านั้นเอง Airbag??? ข้อมูลจากห้องทดลองโดยผู้ผลิตรายหนึ่งระบุว่า แรงกระแทกที่เกิดต่อหุ่นทดลอง โดยทั่วไปจะมีค่าประมาณ 1600 ปอนด์เมื่อปะทะกับถุงลมนิรภัย  ณ จุดที่มันขยายตัวเต็มที่แล้ว แต่ถ้าผู้ขับขี่อยู่ใกล้พวงมาลัยมากกว่าปกติในรัศมี 0 ถึง 2 นิ้วจากจุดที่ถุงลมพองตัวสูงสุด แรงกระแทกจะเพิ่มขึ้นได้เป็น 4000 ถึง 5000 ปอนด์ ในการทดลองแรงปะทะที่เกินกว่า 3000 ปอนด์ก็สามารถก่ออันตรายกับมนุษย์ได้แล้ว มีผู้เคราะห์ร้าย 15 ใน 19 คนที่เป็นผู้หญิง มีรูปร่างเล็ก ที่เลื่อนที่นั่งให้ใกล้พวงมาลัยมากกว่าปกติ จึงมีแนวโน้มที่จะตกอยู่ในกลุ่มเสี่ยง ในบ้านเรา มีไม่น้อยที่อยู่ในข่ายค่อนข้างเสี่ยงที่ว่า ใครที่รู้ตัวว่าความสูงน้อยเข้าเกณฑ์ จึงควรจะซีเรียสกับการใช้ "เข็มขัดนิรภัย" ให้มากกว่าปกติ ส่วนเด็กเล็กนั้นคงต้องพิจารณาเป็นรายๆไป ที่นั่งหลังปลอดภัยที่สุด แก้ไขเมื่อ 09 ส.ค. 54 12:37:25 จากคุณ : toppydrift เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 12:34:26

ความคิดเห็นที่ 25 ใครเคยรอดตายเพราะ ABS-Airbag  คงไม่ลืมความสำคัญของมัน หรือถ้าใครเคยสูญเสียคนรักจากอุบัติเหตุ วันนี้อาจจะต้องคิดว่า หากรถคันนั้นมี ABS-Airbag  เราคงไม่ต้องเสียใจเหมือนทุกวันนี้ ABS-Airbag  ไม่ได้สำคัญอะไรมาก แค่เพิ่มโอกาสรอดชีวิตแค่นั้นเอง !!!!! จากคุณ : anthonyjason เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 12:34:46

ความคิดเห็นที่ 26 ผมเห็นรถส่วนใหญ่ ที่เกิดอุบัติเหตุ ก็มาจากความประมาททั้งนั้น ถ้าท่านไม่ประมาทในการขับรถ อุปกรณ์พวกนี้ ก็หนกรถ และ เสื่อมสภาพเปล่าๆ ถ้าไม่ได้ทำงาน มันอยู่ที่การขับของท่านมากกว่า ถ้าท่านประมาท ต่อให้สุดยอด ABS+Airbag  ท่านไม่ตายก็พิการครับ จากคุณ : จิ๊กโก๋กรุงเก่า เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 12:38:20

ความคิดเห็นที่ 27 นั่งพิจารณา ๓ ข้อ ๑. โง่ ๒. งก ๓. Ego มากไป ยังไม่เคยเจอประสบการณ์เสียว ผมคิดว่า โง่ กับ ฉลาด คงไม่ได้ตัดสินกันแค่ ABS หรือ Airbag หรอกครับ แต่ ... มันอยู่ที่ การใช้รถอย่างไร ไม่ใช้ทั้ง ๒ อุปกรณ์นั้นทำงาน ในรถที่มี หรือ ไม่ต้องการอุปกรณ์ทั้ง ๒ อย่างนั่นเลย ถ้าใครให้มันใช้งานบ่อยๆ ราย วัน ผมว่านั่นแหละ โง่ตัวจริง เพราะ แสดงออกถึงความสามารถในการควบ คุมรถที่น้อยมาก งก ผมมองว่า รู้จักใช้จ่ายมากกว่า เพราะ ของไม่ได้จำเป็นต้องใช้ ก็ยังอุต ส่าห์จะใส่เข้าไป แต่ ... ถ้าไม่เดือดร้อนเรื่องเงิน คิดว่าคุ้มก็ไม่แปลก แต่ เป็นผม ผมมองว่าไม่คุ้ม ส่วน ego ก็แล้วแต่มองครับ ผมเองเคยประสบอุบัติเหตุไหม ตอบว่าเคยครับ ทั้งรถชน รถคว่ำ ก็ไม่ได้โทษเบรคเลย แต่ ... มองกลับมาว่า กรูขับห่วยเอง ถนนเล็กๆ เจือกวิ่งซะเร็ว ถ้าช้ากว่านั้น มันจะคว่ำไหม ตอนชนก็มองไปว่าถ้า ตรูเว้นที่ข้างหน้ามากๆ ให้ภราดร หวดเทนนิสได้ซัก ๒ สนาม มันจะชนไหม สรุปก็คือ การขับรถที่ฉลาดในมุมมองผมนั้น คือการขับรถอยู่ในตำแหน่งที่ เหมาะสม ไม่ชนใครเขา และ ไม่ให้ใครเขาชนด้วย แต่ ถ้าวางตัวเองไว้ในมุมที่คับขันตลอด แล้วหวังพึ่งอุปกรณ์พวกนั้น ผมว่าก็ ไม่แปลกอะไรครับ ทว่า ... ผมเชื่อว่า โอกาสในการเกิดอุบัติเหตุ ก็ยังมาก กว่าวิธีที่ผมใช้ ทั้งๆ ที่ไม่มีอุปกรณ์ ๒ อย่างนั่นครับ จากคุณ : สยึมกึ๋ย เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 12:41:16

ความคิดเห็นที่ 28 คนที่ใช้รถที่ไม่มี แอร์แบค/ABS ก็จะหาเหตุผลต่างๆ นาๆ มาบอกว่ามันไม่จำเป็น แต่โดยส่วนตัว ผมยอมเสียเงินเพิ่มเพื่ออุปกรณืเหล่านี้ มันก็เหมือนกับการทำประกันชีวิตแหละ จากคุณ : TVIC_1408 เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 12:48:40

ความคิดเห็นที่ 29 #13 ------------------------QUOTE--------------------------- ทุกวันนี้ ผมยังได้ยิน คนที่ไม่ใช้เกียร์ออโต้ ซึ่งเหตุผลคือ - อันตราย สาเหตุเพราะ เขาเห็นข่าวที่ รถเกียร์ออโต้ไหลไปทับคนลงมาเปิดประตูบ้าน อะไรพวกนี้ - เสียง่าย - อัตราเร่งไม่ดี แต่ สิ่งที่ได้ยินคือ พวกที่บอกถึง 3 ข้อนี้ ไม่เคยขับเกียร์ออโต้เลย หรือ ขับไม่เป็นนั่นเอง ------------------------------------------------------------- //อาจจะนอกเรื่อง แต่ชอบประโยคนี้ค่ะ ^^' เพราะเวลาเราบ่นกับที่บ้านว่าขับเกียร์ธรรมดาแล้วเมื่อย ผู้ใหญ่ที่บ้านเราก็ชอบยกข่าวที่รถเกียร์ออโต้ไหลไปทับคนมาพูดให้เราฟัง #24 เราก็ตัวเล็กค่ะ (สูง 150cm เอง) จึงต้องเลื่อนเบาะมาข้างหน้าเยอะมากๆ แบบนี้ถ้าใช้รถมี AIRBAG ก็อาจเกิดอันตรายจาก AIRBAG ได้น่ะสิ Y-Y เคยคิดไว้ค่ะว่าถ้าเปลี่ยนรถใหม่อยากได้ที่มี AIRBAG, สงสัยจะต้องศึกษาข้อมูลเพิ่มซะแล้ว.. จากคุณ : Cookies 'n Cream Frappe เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 12:53:34

ความคิดเห็นที่ 30 ผมเองก็ใช้กะบะตอนเดียวส่งของอยู่เช่นกันไม่มีทั้ง Airbag , ABS ไม่มีระบบควบคุมการทรงตัวอะไรทั้งนั้น แน่นอน กระจกมือหมุน กระจกมองข้างปรับมือ ถ้าถามว่าให้ผมเพิ่มเงินอีก 4-5 หมื่น เพื่อเอาไหม ผมก็คงเลือกไม่เอา อุปกรณ์พวกนี้มีทั้งได้ใช้แล้วเพิ่มโอกาสรอดชีวิต แต่ถ้าสุดวิสัยตายพร้อมพวกนี้ก็มีเยอะไป จากคุณ : BaLL182 เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 12:56:19

ความคิดเห็นที่ 31 มาคุยกันขำๆนะครับ  อย่าซีเรียสนะ ทุกๆระบบที่เรารู้กัน เช่น ABS หรือ AirBag , VSC ฯลฯ  หมายถึงต้องเพิ่มต้นทุนเข้าไปในสินค้า  ซึ่งหมายถึงเพิ่มราคาขายของสินค้าแบบไม่ต้องคิดมาก ( บางคนยังคิดว่า VSC ก็แค่เพิ่ม software เข้าไป ทำไมแพงกว่า ABS ธรรมดาอีก  , แป่ววววว  VSCมันต้องการอุปกรณ์ในการ generate แรงดันน้ำมันเบรคเพื่อให้ชุดแม่ปั๊มเบรคทำงาน , ในขณะที่ ABSธรรมดาอาศัยแรงดันน้ำมันเบรคจากเท้าคนเหยียบ ร่วมกับตัวควบคุมแรงดันน้ำมันเบรค  ส่วนที่เพิ่มขึ้นมาจึงมี Hardware ด้วย) การกำหนดราคาขายในแต่ละสินค้า  จะต้องพิจารณาจากหลายๆปัจจัย  อาทิเช่น โครงสร้างตลาดของรถรุ่นนั้นๆ มีใครขายบ้าง มีคนซื้อมากพอไหม  ทำออกมาดีๆใส่optionเยอะๆ ขายราคาตามต้นทุน แต่ไม่มีคนซื้อ เพราะโครงสร้างของตลาดตรงนั้นไม่ใช่กลุ่มคนมีเงินสูง หรือ ไม่ใช่กลุ่มคนที่คาดหวังอะไรสูงๆ ราคาสูงกว่าคู่แข่ง บางครั้งผู้ซื้อเองก็มีข้อจำกัดในเรื่อง"งบประมาณ" สำหรับมนุษย์เงินเดือน  บางทีผ่อนเพิ่มขึ้นอีกแค่เดือนละ 1,500 บาท  มันอาจจะหมายถึง ต้องตัดค่าใช้จ่ายบางสิ่งออกไป ต้องทนกระเบียดกระเสียนขึ้นอีก บางครั้งผู้ซื้อเองก็มีอุปนิสัยที่แตกต่างออกไป ยกตัวอย่างเช่น เมื่อหลายปีมาแล้ว มิตซูบิชิขายกระบะได้มากที่ภาคใต้  ทั้งๆที่ยุคนั้นกระบะมิตซู ( ยุคstrada ,L200 ) มีชื่อเสียงในเรื่องการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงเกินหน้าเกินตาคู่แข่ง  แต่คนทางนั้นนิยมซื้อรถด้วยเงินสด  ราคารถที่แตกต่างกันถึง 5หมื่นบาท ทำให้ไม่ต้องตัดสินใจอะไรมากมายนัก  ไม่ใส่ใจด้วยว่าคู่แข่งที่จ่ายแพงกว่า ประหยัดน้ำมันกว่า ขายต่อได้ราคาดีกว่า เพราะค่าใช้จ่ายในอนาคตจะถูกบวกไปกับต้นทุนในการขนส่งสินค้า  แต่ให้ความสำคัญกับการลงทุนครั้งแรกก่อน บางครั้ง ผู้ขายเอง ก็ใช้กลยุทธในเรื่องของความปลอดภัยเป็นจุดขาย ซึ่งความปลอดภัยไม่ใช่เรื่องล้อเล่น คนที่ตระหนักเรื่องนี้เขาเข้าใจกันดี แต่เชื่อไหม พื้นฐานของคนไทยส่วนใหญ่ ก็ไม่เคยมองเรื่องความปลอดภัยเป็นจุดเริ่มต้น มองแค่ปากท้องของตัวเอง มองแค่"สิทธิ"ของตัวเอง แต่ไม่เคยมอง"สิทธิ"ของคนอื่น  มองว่าคนอื่นขับรถเร็วจี้ก้น แต่ไม่เคยคิดว่าตัวเองขับรถช้าขวางทาง  ขับช้าแต่ไม่ยอมชิดซ้าย  ก็มีบ่อยๆไป เอาง่ายๆ แค่หมวกกันกระแทก หรือ หมวกกันน้อค ที่พูดกันมากี่ปีแล้ว เข็นมาเป็นพรบ.มีบทลงโทษก็แล้ว   ทุกวันนี้ผมก็ยังเห็นคนไม่ใส่หมวกกันน้อคบิดมอไซค์กันอยู่เลย  ไม่ต้องไปดูตจว.หรอก กทม.ก็มีให้เห็นบ่อยไป รถบัส รถบขส. คิดว่ามันมี ABS หรือ เปล่า  มันขนชีวิตผู้โดยสารไปเป็นตัวประกันเที่ยวละกี่คน  ผมเองยังเคยนั่งรถบขส.โชว์ท้ายดริฟให้ใจเต้นมาแล้ว  ถ้าคนขับมันไม่ชำนาญ สงสัยวันนั้นได้ไปนอนรพ.แทนไปทำงานเหมือนกัน เครื่องบินซะอีก บินอยู่บนฟ้า  แต่ดันต้องมี ABS เพราะเวลาที่ล้อแตะพื้น มันต้องเบรคเพื่อให้หยุด  การหยุดจะต้องหยุดอย่างมั่นคง ไม่เซ ไม่แถ ไม่เลี้ยวเอง สุดท้ายจะมีหรือไม่มี อยู่ที่"จำเป็นแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้หรือไม่"   ไม่มี ไม่ได้แปลว่าอันตราย  แต่การมีหมายถึง เสี่ยงน้อยลง จากคุณ : lucifer เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 12:59:47

ความคิดเห็นที่ 32 ไม่ว่ารถจะราคาเท่าไหร่ ก็อยู่ที่นิสัยการขับขี่นั่นแหละ จากคุณ : หมูเทียมไข่เจียว เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 13:00:41

ความคิดเห็นที่ 33 ตอนที่ผมซื้อรถคันล่าสุดก็ไม่อยากได้นะครับสำหรับ ABS&Airbag ขับรถยนต์มาตั้งแต่อายุสิบกว่าขวบไม่เคยมีคันไหนมี ABS Airbag สักคัน ตอนที่จะซื้อคันล่าสุดตอนแรกก็ว่าจะซื้อรุ่นล่างที่ไม่มี 2 อย่างนี้เหมือนกัน ประหยัดได้ตั้งห้าหมื่น (นอกจาก 2 อย่างนี้แล้วยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ เพิ่มมาอีก) .... แต่โดยคำสั่งของภรรยาเลยจำใจต้องเพิ่มเงินซื้อตัวท็อปมาใช้ ... ด้วยเหตุผลที่ว่า ... เขาชอบตัวท็อปอ้ะ ขับมา 4 ปีกว่าๆ รถไม่ได้วิ่งเยอะเท่าไร แต่เกือบทุกตั้งที่ออก ก็จะเป็นทริปยาวๆ เสมอ จนกระทั่งบัดนี้ยังไม่เคยมีเหตุการณ์ไหนที่ทำให้ต้องใช้ ABS เลย ช่วงเบรคธรรมดา กับการเหยียบย้ำจนเคยชินก็อยู่แล้ว แต่โดยคำสั่งภรรยาซื้อตัวท็อปมาก็ไม่ผิดหวังครับ สิ่งที่ได้ใช้มากที่สุดคือกระจกมองหลังลดแสงสะท้อนอัตโนมัติที่ได้ติดมาด้วยคุ้มมากๆ คิดถึงรถคันนี้ทุกครั้งที่ไปขับรถคันอื่นในเวลากลางคืน จากคุณ : ไต้ฝุ่นน้อยสีฟ้า เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 13:11:39

ความคิดเห็นที่ 34 ผมมีไว้อุ่นใจกว่าครับ  .... เก็บไว้ใช้ยามจำเป็นครับ มีกว่าจะใช้แล้วมันไม่มี   สำหรับบางท่านอาจจะไม่จำเป็น ไม่อยากเสียตังเพิ่ม ก้คงมีเหตุผลสำหรับบุคคลอยู่แล้ว     ..แต่สำหรับผมเลือกที่จะมีครับ จากคุณ : ถูกทิ้งที่รังสิต เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 13:15:07

ความคิดเห็นที่ 35 น่าเศร้าใจที่คนไทยมักจะไม่เห็นความสำคัญของความปลอดภัย บางคนถึงกลับบอกว่าไม่ใช่อุปกรณ์สำคัญ จะบอกว่ามีอุปกรณ์พวกนี้ก็ตายอยู่ดีไม่ถูกหรอกครับ ไม่มีอุปกรณ์อะไรในโลกทำให้รอดตายร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่มันก็ช่วยได้ในบางโอกาส ถ้าโอกาสรอดชีวิตเพิ่มขึ้นแต่ 1% กับราคาแค่นี้ผมว่ามันคุ้มค่ามาก จากคุณ : The Fates เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 13:20:24

ความคิดเห็นที่ 36 ซ้ำครับ แก้ไขเมื่อ 09 ส.ค. 54 13:23:10 จากคุณ : The Fates เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 13:22:32

ความคิดเห็นที่ 37 แหะ แหะ แค่ตัวต่ำสุดก็จะแย่แล้วครับ ที่สำคัญเคยรอดตายเพราะ safety belt มาก่อน จากคุณ : oudi เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 13:27:26

ความคิดเห็นที่ 38 คนมันจะตาย อุัปกรณ์ ตัวช่วยครบ มันก็ไม่รอด จากคุณ : tuo712 เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 13:38:34

ความคิดเห็นที่ 39 งบจำกัดแค่นั้นอ่ะครับ จากคุณ : @สนสามใบ@ เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 13:39:09

ความคิดเห็นที่ 40 บางคนบอกว่า ABS ถุงลม ไม่จำเป็น ที่เห็นจากเฉพาะในกระทู้นี้นะ ผมรอดชีวิตมาเพราะ ABS มา 2 ครั้งแล้วนะ เกิดจากการเบรกรุนแรงทั้งสิ้น ถ้าหากเจอเบรกแบบธรรมดา รถผมคงสบัดและชนไปแล้ว Airbag ไม่เคยลอง แต่มีคนไปลองมา หน้าเค้าไม่เป็นไร แต่คอเค้าเป็นแผลลึกเพราะเข็มขัดนิรภัย จากคุณ : Ronin23 เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 13:40:02

ความคิดเห็นที่ 41 จขกท. ถ้าอยากทราบกว่านี้ ลองไปเรียนด้านการตลาดดูครับ จะได้เห็นว่าความต้องการของผู้บริโภคมันไม่เหมือนกัน บริษัทผู้ผลิต ถึงต้องมีรุ่นที่ไม่มีพวก ABS Airbag มาให้ไงครับ เพราะผู้ผลิตทำวิจัยมาแล้ว ว่าจะมีคนประเภทนี้อยู่เยอะ และต้องการตอบสนงความต้องการของผู้บริโภคครับ จากคุณ : XenoType เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 13:51:39

ความคิดเห็นที่ 42 อยากได้เหมือนกัน ถ้าตังค์พอ จากคุณ : mama_jaijai (MAMAJAIJAI) เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 14:00:42

ความคิดเห็นที่ 43 ไม่รู้นะ ผมเจอประสปการณ์เฉียดมาก็เยอะ หลายครั้งเลย เฉียดแค่ยมบาลมารอยิ้มเลยก็หลายที แล้วผมก็ใช้กระบะบ้าพลังที่คุณ จขกท. ว่าซะด้วย แถมผมก็ไม่อยากได้ทั้งถุงลมและ ABS นั่นเลย ผมบอกให้เลยนะว่าถ้าจะรอดจากประสปการณ์เฉียดนี่ ไม่ใช่มี ABS หรือ ถุงลม แต่คุณต้องมี 1.เบรคที่ดีๆ ล้อที่เกาะถนน ไม่ใช่เบรคก็ไม่ดี ล้อก็ลื่น อันนี้ ABS เทพไหนก็ช่วยไม่ได้ 2.สติ มีสติตลอดเวลา เจอเรื่องคับขันมี ABS เหยียบค้างแต่ไว้มือแข็งหลับตาปี๋ สติกระเจิง รถก็ไหลไปข้างหน้ามันก็เสยตาย5อยู่ดี 3.อย่าลืมว่า ABS มันป้องกันรถไม่ให้ไถล ไม่ใช่ทำให้ระยะเบรคสั้นลง หลายครั้งผมรอดเพราะระยะเบรคแบบไม่มี ABS นี่แหละ คนนั่งมาด้วยกันยังบอกว่า ไม่คิดว่าจะเบรคได้สั้นขนาดนี้ 4.มีรถแล้วรู้ระยะเบรคของรถตัวเองกันไหม รู้ว่าถ้ามา 100 แล้วเหยียบไปเต็มที่ แค่ไหนจึงจะหยุด รู้ไว้จะได้เผื่อระยะเบรคได้ถูกต้อง แล้วยังมีเหตุผลอีกมากที่ผมกล้าบอกได้เลยว่า อย่าเอา ABS มายัดเยียดให้รถของผม รวมทั้งเกียร์ AUTO ด้วย ไม่อยากได้ ยังไงผมก็เชื่อว่า ผมทำได้ดีกว่าเครื่องจักรแน่นอน อ้อ แต่เรื่องเข็มขัดนิรภัยนี่คนละเรื่องกันนะครับ อันนี้ผมเห็นด้วย เพราะมันช่วยให้ผมรอดมาหลายครั้งแล้ว ครั้งที่สำคัญคือบนทางด่วน คราวนั้นถ้าม่คาด ก็กระเด็นตกลงมาตายแน่นอน แต่กับ ABS หรือ แอร์แบ็ค ผมว่า ให้คนใช้ตัดสินใจเองดีกว่า คุณ จขกท. ก็ด้วย อย่าคิดว่าคนอื่นเขาโง่ คนอื่นเขาก็มีเหตุผลของตัวเองทั้งนั้น ไม่อย่างนั้นคนอื่นก็จะว่าคุณโง่ด้วย ของไม่จำเป็นต้องใช้ โง่ไปติดให้เสียเิงิน แต่ที่เขาไม่ว่าคุณเนี่ย เพราะเขาเข้าใจว่า แต่ละคนมีเหตุผลความจำเป็นต่างกัน ดังนั้น อย่าดูถูกคนอื่นอีกครับ แก้ไขเมื่อ 09 ส.ค. 54 14:16:46 จากคุณ : NATSKI13 เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 14:08:45

ความคิดเห็นที่ 44 ประเทศอื่นๆเค้ากำหนดให้ ABS แอร์แบกต้องเป้นอุปกรณ์มาตรฐานในการซื้อรถไปแล้ว คุณเข้าใจถูกแล้วว่าเก่งแค่ไหนก็เอาไม่อยู่ แต่คนไทยจำนวนมากงกไม่เข้าท่าและชอบเถียงว่าแค่นี้เอาอยู่เหลือเฟือหรือไม่ก็มั่นใจในตัวเองมากเกินไป พวกนี้ก็แค่รอเวลาว่าจะพลาดขึ้นมาเมื่อไหร่เท่านั้นเอง เคยเห็นไหมครับ? ซื้อรถตัวล่างสุดมาไม่มีอะไรเลย อ้างว่าจนไม่มีเงินมากพอเอารุ่นสูงกว่านี้ แต่ใส่ชุดแต่งรอบคัน เครื่องเสียง ล้อแม็กใหม่เยอะแยะเต็มไปหมดรวมมูลค่าแล้วหลายแสนละ อยากจะงกจะเขียมอะไรก็เชิญครับชีวิตคุณเอง แค่ถ้ารถผมโดนชนแล้วมารู้ว่ารถคู่กรณีพลาดเพราะไม่มี ABS ผมจะลากมันมาทำให้สาหัสกว่าเดิมเอง จากคุณ : ex เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 14:19:36 A:202.149.29.81 X: TicketID:323451

ความคิดเห็นที่ 45 ,, จะมีระบบ ABS EDB ABC DEF อะไรก็ช่างครับ ,, ,, แต่ถ้ายังลดต้นทุนด้วยวิธีการให้ยางติดรถห่วยๆ มา ,, ,, เบรคเทพยังไงก็เอาไม่อยู่ เผลอๆ โอกาสตายมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ ,, จากคุณ : pseudomorph เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 14:35:58

ความคิดเห็นที่ 46 #13 ถ้าคนใช้ เซ็นทัลล๊อคเป็น ก่อนเปิดล๊อคยังไงก็ต้องมองรอบรถก่อน หลังเปิด หากขึ้นรถไปแล้วต้องล๊อครถก่อนสตาร์ท คนส่วนมากเปิดประตูมาแล้วสตาร์ทรถก่อน และชอบทำอะไรมิอะไรมากเรื่อง เช่น เสียบชาร์จโทรศัพท์ เปิดเพลง เปิดแอร์ ซึ่งพวกนี้ทั้งหมดมันควรทำหลังจาก ล๊อครถแล้วทั้งสิ้น #15 ABS ไม่ได้สำคัญแค่ตอนชนอย่างเดียว เวลาฝนตกถ้ามีอะไรตัดหน้าแล้วต้องเบรคกระทันหันและรุนแรง ABS ช่วยได้ หากคนเบรคไม่เป็น(กรณีไม่มี ABS) รถอาจหมุนได้ แล้วถ้ามีรถสวนมาไม่ต้องบอกว่าจะเกิดอะไร ใช้เป็นก็มีประโยชน์ ใช้ไม่เป็นก็เป็นโทษ แก้ไขเมื่อ 09 ส.ค. 54 14:42:05 จากคุณ : ImuglyPoo เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 14:36:46

ความคิดเห็นที่ 47 ถนนโล่งๆ 120 สบายๆ รถเยอะหน่อย 80-100 ฝนตก 40-60 ค่อยๆ คลานไป อยู่ที่ ประสบการณ์+สติ+ขับขี่+วินัยมากกว่า เอางี้ดีกว่า หายอดอุบัติเหตุ ของแต่ล่ะปีนะครับ เอารถเก๋งก็ได้ มีกี่คัน แล้วแยกมา 2 กลุ่มเลย ว่าแบบ ไม่มี ABS+แอร์แบก หรือ แบบมีทั้ง2อย่าง แบบไหนเกิดอุบัติเหตุมากกว่ากัน จากคุณ : ... เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 14:43:56 A:202.149.127.130 X: TicketID:283347

ความคิดเห็นที่ 48 ผมว่ามันติดขัด ก็ตรงราคานี่หละครับ จากคุณ : REX-REX เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 14:48:23

ความคิดเห็นที่ 49 ตอนซื้อคันปัจจุบันนี้ก็เลือกแบบไม่มี ABS และ Airbag เพราะตอนนั้นไม่มีทุนทรัพย์เพียงพอ (ไม่โง่, ไม่งก, ไม่อีโก้ แต่เป็นเพราะไม่มีตังค์) แต่ผมว่ามันช่วยผมให้ขับช้าลงได้บ้างนะครับ (คนเรามักจะประมาทเมื่อคิดว่าตัวเองมีอะไรต่ออะไรครบหมดแล้ว เหมือประกันชั้น 3 ที่ต้องระวังมากกว่าประกันชั้น 1 นั่นเอง) แต่ตอนนี้ถ้าจะซื้อรถใหม่คงต้องเลือกแบบมีระบบความปลอดภัยพอควรแล้วล่ะครับ เพราะมีครอบครัวแล้ว ความปลอดภัยต้องมาเป็นที่หนึ่ง จากคุณ : SitWalkStand เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 14:49:34

ความคิดเห็นที่ 50 ผมก็ใช้อยู่รถที่คุณว่าบ้าพลังอยู่ แต่ก๋ไม่เห็นความจำเป็นที่ต้องใช้ ABS กับAirbag เพราะ 1. ขาดความรู้หรือ ไม่หรอกเพราะก่อนซื้อรถ ผมศึกษาข้อมูลทางเทคนิคของรถแต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่น ที่สนใจ ในด้านต่าง ๆ ตั้งหลายเดือน 2. งกหรือ ก็ไม่งกหรอก แต่ไม่รู้ว่าจะเสียเงินเพิ่มไปทำไม เพราะผมขับรถตามกฎ แล้วก็เอื้ออาทรเพื่อนร่วมทาง ยิ่งขับบนมอเตอร์เวย์ เขาแนะนำให้เว้นระยะเท่าใด ผมก็ปฏิบัติตาม 3. Ego มากไปหรือ ไม่รู้ จากคุณ : แอ๊บแบ๊ว เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 14:53:52 A:125.27.122.232 X: TicketID:294750

ความคิดเห็นที่ 51 ไม่มีเงินซื้อรถยนต์ครับ เลยไม่ขอ ออกความคิดเห็นเรื่อง จะจ่ายเงินเพิ่มเพื่อซื้อ อุปกรณ์เสริมความปลอดภัยหรือไม่ แต่เคยเจออุบัติเหตุ ต่อหน้าต่อตา รถกระบะ ยี่ห้อหนึ่ง สโลแกนกระบะนิรภัย วันนั้นฝนตกถนนลื่น เค้ากำลังจะกลับรถใต้สะพาน แล้วลื่นไถลไปชนกับเสาไฟส่องสว่างที่เป็นเหล็ก รถเสียหายไม่มาก แต่ Airbag ด้านคนนั่งทำงาน คนอื่นๆในรถไม่มีใครเป็นอะไร เลย แต่ น้องคนที่นั่งตรง airbag เลือดกลบปาก แขนส้น เพราะ airbag กระแทก แต่ถ้าผมมีเงินซื้อรถเมื่อไหร่ ผมก็เลือกรุ่นที่มันมีอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยครับ จากคุณ : อาตี๋ซันจิ เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 15:05:16

ความคิดเห็นที่ 52 โอ้...งั้นผมคงโง่บรรลัยจักร(คหสต นะครับ) ผมขับแจ๊ส หูดำตัวต่ำสุด ปี 05 เกียร์ธรรมดา ล้อกะทะ เบาะผ้า วิทยุเทป(ฟังพงษ์เทพ อย่างเดียวก็มีม้วนเดียว) มือจับดำ ไม่เอาชุดแต่ง ไม่มีประกันชั้น 1 อ่า ปัจจุบันค่อยๆเปลี่ยนเป็นล้อแม็ก วิทยุเอ็มพีสาม บ้างแล้ว ขับไม่เกิน 80 อย่างมาก 100 เดียว เคยไป 120-130 สองครั้ง ปัสสวะแทบกระจายเพราะมันเหินๆ ถามว่าอยากได้แอร์แบ็ค กับ ABS ไหม อยากสิครับ แต่มันมีตังแค่เท่านี้ก็เลยคิดว่า ต้องระมัดระวังเอาเอง ทั้งตัวเราและเพื่อนร่วมทาง ตอนนั้นจำได้ กำเงินไปพอดี มีแค่นั้นก็ต้องออกแค่นั้นครับ จริงๆอยากได้เฟอรารี่ แต่เฟอรารี่บอกว่าไม่ให้ดาวน์ 200000 ผ่อน 5000 นาน 50 ปี เลยอดไป แก้ไขเมื่อ 09 ส.ค. 54 15:14:19 จากคุณ : Eakiji Onisuka เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 15:09:46

ความคิดเห็นที่ 53 ไม่มีตังค์ จากคุณ : sLiimFit เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 15:13:16

ความคิดเห็นที่ 54 เราว่าจำเป็น อันนี้ความเห็นส่วนตัว เพราะประสบการณ์ตรงกับตัวเอง สำหรับรถคันแรกที่ไม่มีอุปกรณ์ช่วย 2 ครั้งกับอุบัติเหตุหนัก ๆ ส่วนต่างก็ไม่ได้ต่างกันมากมายขนาดจ่ายไม่ได้ อีกอย่างเราถือว่าบนถนนไม่ได้มีเราคนเดียว เราไม่ประมาท แต่เพื่อนร่วมถนนเราไม่รู้ ดังนั้นป้องกันไว้ดีกว่า จากคุณ : มนอุ๊งอิ๊ง เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 15:28:22

ความคิดเห็นที่ 55 เพราะมันไม่ทำงานให้เราดูบ่อยๆ ครับ แต่บอกจริงๆนะ หลังจากเห็นมันทำงานแล้ว จะไม่ซื้อรถที่ไม่มี ABS และ AIRBAG อีกเลย จากคุณ : mai81 เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 15:32:01

ความคิดเห็นที่ 56 ขับรถมา 15ปี เดือนทางไกลรวมแล้วเกินแสนกิโล ผมเคยเบรคกระทันหันหลายรอบมากนะครับก็มีแต่เหยียบเบรคเป็นจังหวะนี่แหละที่ทำให้รอดมาได้ ถามว่าอยากได้ ABS มั๊ย ตอบว่า หึ ส่วนairbag แล้วแต่ครับ มีก็ได้ไม่มีก็ได้ จากคุณ : บ่าวอุบลคนไค เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 15:43:53

ความคิดเห็นที่ 57 ซื้อเืผื่อไว้ แต่ไม่อยากใช้ Air Bag / ABS ถ้าได้ใช้แสดงว่าวิกฤตแล้ว เมื่อก่อนเคยใช้ชีวิตเป็นกะเหรี่ยงอยู่เมืองหนาว ตอนหลังจากหิมะตกถนนลื่นมากเพราะว่าอุณหภูมิต่ำลงกว่าจุดเยือกแข็ง น้ำบนผิวถนนกลายเป็นน้ำแข็ง แต่ดันจำเป็นต้องออกเดินทางไปธุระ ต้องผืนทนเสี่ยงขับออกไป ตอนออกตัวไม่ยาก แต่ตอนหยุดรถนี่ยากที่สุด ไม่อยากจะเหยียบเบรคเลยเพราะว่าถ้าเบรคแรงไปรถก็เสียหลักได้ง่ายๆ สมัยนั้นเอบีเอสเป็นอุปกรณ์เสริมใช่ว่ารถทุกคันจะมี รถที่ใช้อยู่ไม่มี จะหยุดรถแต่ละที่ต้องตั้งหลักเป็นไมล์ๆล่วงหน้า ค่อยๆปล่อยใหลลดความเร็วอย่างช้าๆ ถามว่ากระทันหันเอบีเอสช่วยได้ใหม ช่วยไม่ได้ครับ ต่อให้มีเอบีเอสแต่ไม่ตั้งสติเบรคก็หมุนตกถนนได้ แต่ถ้ามีก็อุ่นใจมากกว่าอย่างน้อยเอบีเอสมันก็ซอยถี่กว่าเท้าเรา อย่างน้อยตอนที่รถใกล้หยุดมันก็ช่วยได้ เพราะถ้าไม่มีไถลยาวครับ แต่เมื่อมีโอกาสได้ขับรถของเพื่อนที่มีเอบีเอสทำให้รู้ว่ามันดีอย่างนี้นี่เอง รู้อย่างงี้ซื้อรถรุ่นที่มีเอบีเอสไปแล้ว ปัจจุบันนี้กลับมาอยู่บ้านเกิดเมืองนอนที่แสนอบอุ่น ถามว่าเคยเครียดกับการขับรถในสถานการณ์อันตรายแบบครั้งเมื่ออยู่เมืองหนาวใหม ไม่เคยครับ เคยเฉียดใหม ไม่เคยอีกเช่นกัน ถามว่าอยากได้เอบีเอสกับแอร์แบคมาทำไม ก็ต้องตอบว่ามีไว้ดีกว่าไม่มีครับ เผื่อเอาไว้สำหรับเหตุการณ์วิกฤตครับ ปล.ถึงมีเอบีเอสกับแอร์แบ็คแต่ไม่มีสติก็ช่วยไม่ได้นะครับ สติไม่ต้องซื้อแต่ต้องหาเอาเอง ขับรถปลอดภับนะครับทุกท่าน โชคดีครับ จากคุณ : bigbluebug (little rhody) เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 16:48:00 A:125.27.228.50 X: TicketID:318623

ความคิดเห็นที่ 58 #24 Abs ทำให้ระบบเบรคสั้นลงเกือบทุกสภาพถนนยกเว้นถนนโรยกรวดกับหิมะครับ จริง ๆ มีลิงค์อ้างอิงเยอะเกี่ยวกับเรื่องนี้แต่ว่าที่เพื่อนผมชอบยกมาเถียงบ่อยที่สุดถือถ้าดีจริงทำไมรถแข่ง F1 ไม่เอามาใช้ ซึ่งที่จริง F1 เคยเอามาใช้แล้วแต่ว่ามันทำหน้าที่ได้ดีเกินไปเลยโดนแบน http://www.formula1.com/inside_f1/understanding_the_sport/5284.html จากคุณ : Zkizzik เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 16:50:43

ความคิดเห็นที่ 59 ประเด็นของจขกท. 1.ขาดความรู้ 2.งก 3.อีโก้ ผมว่าน่าจะเป็น 1.อีโก้ 2.งก 3.ขาดความรู้ มากกว่านะครับ จากประสบการณ์ส่วนตัว อีโก้ ก่อนเลยครับ ตอนตัดสินใจซื้อรถ ไอ้เราก็ขับรถมานานแล้วก็ไม่เคยประสบอุบัติเหตุ ลำดับต่อมาก็น่าจะเป็นงกครับ เพราะมีอีโก้แล้วเลยคิดว่าจะจ่ายเพิ่มทำไม ขับรถเป็นครับ อุบัติเหตุก็ไม่เคยมี ส่วนรู้ด้านความรู้รถคันนึ่งไม่ใช้ถูกๆนะ่ครับกว่าจะตัดสินใจซื้อก็ต้องศึกษาดีแล้วแหละ แต่หลังจากไปเป็นกะเหรี่ยงอยู่เมืองหนาว อีโก้ผมหายไปเลยครับ จากคุณ : bigbluebug (little rhody) เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 16:59:08 A:125.27.228.50 X: TicketID:318623

ความคิดเห็นที่ 60 คำถามโลกแตกครับ ใครใคร่จ่าย ก็จ่ายเพื่อความปลอดภัยเมื่อยามที่คุณต้องมีมัน ไม่อยากจ่าย ขับมีสติ ตกใจควบคุมสติได้ทุกเสี้ยววิ ก็ปลอดภัยครับ ผมก็คงรบเร้าให้มีติดทุกคันไม่ได้ ส่วนผมก็เลือกซื้อที่มี ABS และ ถุงลมเสมอ เพราะห่วงคนที่เรารัก อุบัติเหตุ บอกไม่ได้ครับว่าเกิดเมื่อไร เราไม่ได้ประมาท ใช่ว่าคนอื่นจะเหมือนเราทุกคน เมาแล้วขับกันถมเถ อีกอย่าง ผมไม่สามารถ เหยียบเบรคและถอนเพื่อไม่ให้ล้อล๊อกขณะจะชนเพื่อหักหลบได้(ผมคงไม่เก่งพอ) จากคุณ : ^Nobi^ เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 17:11:54

ความคิดเห็นที่ 61 ไม่ได้งก ไม่ได้โง่ ไม่ได้ Ego แต่ ผมก็ไม่ได้สนใจทั้ง 2 อย่าง ใช้รถมา 3 คันก็ไม่เคยมีซักคัน ดังนั้น ถ้าซื้อแล้วเค้ามีให้ก็รับ ถ้าไม่มีก็ไม่โหยหา รู้ครับ ว่า ABS มันดีจริง ทำให้มีโอกาสหักหลบได้ "แต่" ทุกวันนี้ก็เห็นรถที่ ABS ยังชนกันอยู่ทุกวัน เพราะ คนขับ ไม่มีสติเอาไม่ใช่เหรอเวลาเบรคแล้วก็ตกใจ ทำอะไรไม่ถูกแบบนี้ ต่อให้มี โคตะระ ABS ก็ชนอยู่ดี จากคุณ : kittipatr เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 17:14:07

ความคิดเห็นที่ 62 คห. 58 ใน link ที่โพสไว้ไม่ไ้ด้บอกเลยครับว่าเบรค ABS ทำให้เบรคได้สั้นกว่า บอกแต่ว่าเบรคของเอฟวันมีประสิทธิภาพมากว่า ทำให้หยุดรถจากความเร็วจาก 160 กม/ชม ได้ระยะสั้นกว่าเบรคของรถยนต์ธรรมดาที่หยุดจากความเร็วจาก 100กม/ชม โดยหลักการแล้วเอบีเอสจะใช้ระยะทางยาวกว่าเบรคธรรมดานะครับ สิ่งที่ผมเข้าใจคือการเบรคธรรมดาแล้วล้อล็อคทำให้ยางเกิดแรงเสียดทานกับผิวถนนที่แห้ง เมื่อเกิดแรงเสียดทานที่มากกว่าก็น่าจะใช้ระยะทางหยุดรถที่สั้นกว่า ส่วนเอบีเอสจะเกิดแรงเสียดทานระหว่างยากกับผิวถนนที่น้อยกว่าเพราะว่า หลักการทำงานจะปรับแรงดันไม่ให้เกิดอาการล้อล๊อค ล้อก็จะค่อยๆหมุนช้าลงจนหยุด แต่ถ้าในกรณีที่ถนนลื่นเป็นน้ำแข็งหรือเป็นถนนกรวดเบรคล้อล็อคยังไงก็เกิดแรงเสียดทานน้อยกว่าผิวถนนเรียบแห้ง ล้อล็อคยังเสี่ยงกับการเสียอาการเสียหลัก แต่เอบีเอสจะช่วยแก้สถานการณ์ได้ ทำให้ล้อค่อยๆหยุดหมุน จากคุณ : bigbluebug (little rhody) เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 17:21:12 A:125.27.228.50 X: TicketID:318623

ความคิดเห็นที่ 63 ที่มองว่าABSไม่จำเป็นเพราะ เคยขับทั้งสองอย่างไม่เคยเหยียบกะทั่งล้อตาย จะซื้อเผื่ออะไร Airbag ก็เฉยๆ จากคุณ : เบนซ์ เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 17:31:27 A:124.122.166.3 X: TicketID:295677

ความคิดเห็นที่ 64 จากที่อ่านคห.หลายๆคนแสดงว่ายังไม่เคยใช้งาน ABS ขออนุญาตแชร์ประสบการณ์ "ผมเคยขับแบบรีบร้อนกดมาเกิน 180km/h ถนนสี่เลน จู่ๆก็มีรถไถนาแบบเดินตามพ่วงกระบะท้ายค่อยๆเปลี่ยนเลนจากนอกถนนฝั่งซ้ายสุดตัดข้ามมาเลนขวาสุดเพื่อกลับรถตัดหน้ารถตัวเอง รู้สึกตกใจมากเพราะมาเร็วมาก แต่มีสตินึกได้ว่ารถรุ่นที่ใช้มีทั้งแอร์แบ็คและเอบีเอส ตัดสินใจกดเบรคเต็มที่สุดกำลังที่ขาจะมีแรง รถยนต์ก็ดีใจหายพอเบรคเอบีเอสทำงาน การจับต่อความรู้สึกเหมือนรถยนต์กำลังขับลงบันได กระตุกเป็นจังหวะแบบแรงมากๆหลายๆครั้ง กระตุกชนิดเจ็บหน้าอกกับเข็มขัดนิรภัยทีเดียว ตัวรถยนต์ก็ลดความเร็วอย่างรวดเร็ว จากนั้นผมก็ค่อยๆประคองพวงมาลัยสองมือเลี้ยวอ้อมหลังผ่านรถไถนาแบบเดินตามพ่วงกระบะท้ายไปได้ในที่สุด"   หลายคนเข้ามาอ่านที่นี่ ไม่ได้เกิดมาเป็นนักขับและมีประสบการณ์ช่ำชองเหมือนหลายๆคห. อาจจะชี้นำให้เข้าใจผิดคิดว่า เอบีเอสไม่สำคัญ แต่สำหรับผมและประสบการณ์การขับรถยนต์มากว่า 17 ปีมันสำคัญต่อชีวิตเรามากๆครับ จากคุณ : AutoSmart (ONT-อ้น) เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 17:47:41

ความคิดเห็นที่ 65 ABS เบรคสั้นกว่าทุกกรณีครับ หาคลิปทดสอบตามยูทูปได้ จากคุณ : FFK-KZ@Fiesta เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 17:47:54

ความคิดเห็นที่ 66 "สิ่งที่ผมเข้าใจคือการเบรคธรรมดาแล้วล้อล็อคทำให้ยางเกิดแรงเสียดทานกับผิวถนนที่แห้ง เมื่อเกิดแรงเสียดทานที่มากกว่าก็น่าจะใช้ระยะทางหยุดรถที่สั้นกว่า ส่วนเอบีเอสจะเกิดแรงเสียดทานระหว่างยากกับผิวถนนที่น้อยกว่าเพราะว่า หลักการทำงานจะปรับแรงดันไม่ให้เกิดอาการล้อล๊อค ล้อก็จะค่อยๆหมุนช้าลงจนหยุด" คุณความเห็นที่ 62   ABS ทำงานแบบนี้ครับ เมื่อระบบตรวจพบว่าล้อข้างใดข้างหนึ่ง มีรอบในการหมุนไม่สอดคล้องกับ ล้อข้างที่เหลือ หรือ ไม่สอดคล้องกับความเร็วรถ หรือ ไม่สอดคล้องกับ  แรงGที่ติดลบลงมา  ระบบจะสั่งการให้ชุดวาล์วและชุดปั๊มทำการตัดแรงดันและสร้างแรงดันคืนให้ระบบเป็นจังหวะ  ( ด้วยความถี่หลายครั้งต่อวินาที , ไม่เคาะตัวเลขออกมานะครับ  เพราะว่าเทคโนโลยี่ในปัจจุบัน พัฒนามามากแล้วครับ  หลายค่ายพัฒนามากน้อยไม่เท่ากัน ) การทำงานมันก็เหมือนกับ เราเหยียบปล่อย เหยียบปล่อย เหยียบปล่อย  แต่มันถี่มาก ในขณะที่ABS ทำงานนั้น จะมีทั้งล้อล๊อคและล้อหมุนสลับกันไป   ผิดกับอาการล้อล้อคตายที่จะลอคค้างอยู่ แรงเสียดทานของยางกับพื้นถนนในสภาวะที่ล้อล้อคตาย จะต่ำกว่าในเวลาที่ล้อยังไม่ลอคตายนะครับ ( ความรู้พื้นฐานในวิชาฟิสิคส์ในระดับมัธยมปลาย ในหมวดเรื่อง แรงเสียดทาน , ความเสียดทานจลน์ , ความเสียดทานสถิตย์  , นั่งติวลูกสาวเมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว ) ถ้าคุณใช้งาน ABSเป็น  เหยียบเบรคเป็น เลี้ยงเบรคเป็น  บางทีอาจจะไม่เคยสัมผัสอาการตึกๆที่มันสู้ปลายเท้าเวลาที่กระแทกเบรคเลยก็ได้   ระยะเบรคจากรถที่มี ABS นั้น อาจจะสั้นยาวไม่เท่ากัน ขึ้นกับลักษณะในการเบรคของผู้ขับขี่  และทักษะ หากรถไม่มีABS แต่คนขับทักษะดีกว่า  ระยะเบรคก็จะสั้นกว่า  เพราะสามารถเลี้ยงหรือผ่อนเบรคได้ก่อนที่ล้อจะล้อคตาย  ผิดกับคนที่ไม่มีทักษะและพึ่งABS แล้วก็เชื่ออะไรต่อมิอะไรมามากมายโดยไม่เคยคิด คือ กดมันหนักไว้ก่อน กดให่้ABSทำงาน ( นั่นก็คือ ล้อลอคไปแล้วนะ แต่ระบบทำการตัดต่อแรงดันน้ำมันเบรคให้ จึงเหมือนกับเหยียบผ่อนด้วยความถี่หลายสิบครั้งต่อวินาที )  ระยะเบรคจึงยาวกว่ารถที่ไม่มีABS แต่ขับเป็น สำหรับผม จะมีหรือไม่มีABS บนถนนแห้ง  ระยะเบรคก็สั้นทั้งนั้นแหละ  เพราะเลือกที่จะกำหนดแรงเหยียบเบรคลงไป  ร่วมกับการใช้engine brakeอย่างถูกวิธี   รถผมมีABSทุกคัน  แต่ผมใช้ประโยชน์จาก ABS มากที่สุดคือ บนถนนที่ลื่น  และจำเป็นต้องเบรคแบบทันทีทันใด   เคยหัดกันไหมครับ  เบรคแล้ว ABS ทำงาน  แต่ยังเหลือระยะเบรคอยู่อีกเยอะ ก็แค่ถอนเบรค แล้วเลี้ยงเบรคให้แรงพอที่รถจะหยุดแต่ล้อไม่ล้อค และ ABSยังไม่ทำงาน จากคุณ : lucifer เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 17:58:33

ความคิดเห็นที่ 67 จขกท.เข้ามาเชคยอด วันนี้ผมได้เห็นหลายคำตอบหลายมุมมองมากครับ ขอบคุณมาก และคิดว่า ไม่น่าจะมีใครในห้องรัชดาย้ำเบรกได้ด้วยความเร็ว50Hz แน่นอน ไหนว่าเก่งกว่ากล่องECUไงครับ ผมว่าEgoนะ จากคุณ : Last sector เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 18:06:36

ความคิดเห็นที่ 68 ผมไม่รู้ว่าเอาข้อมูลเรื่อง 50 Hz มาจากไหน แต่เท่าที่ใช้รถมา เวลา ABS ทำงาน คันเหยียบเบรคจะสั่นเนื่องจากมันจับ-ปล่อยๆๆ ตลอด แต่ไม่น่าถึง 50 Hz แน่ๆ เพราะน้ำมันเบรคก็เป็นน้ำมันไฮดรอลิกชนิดหนึ่ง คงไม่ได้ทำงานได้รวดเร็วเหมือนอุปกรณ์ไฟฟห้า แต่ที่แน่ๆ มีไว้ก็ดีกว่าไม่มี แต่มองในมุมกลับกัน สมัยก่อนไม่มีระบบนี้ก็ขับรถกันได้ ผมว่าของแบบนี้มันจะบอกว่าจำเป็นก็ไม่เชิงครับ จากคุณ : Donkey เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 19:10:10

ความคิดเห็นที่ 69 กำลังจะถามเรื่อง 50Hz อยู่เหมือนกัน เป็นตัวเลขที่น่าทึ่งมาก แต่สุดท้ายแล้วยอมรับก็ได้ครับว่าผมมีอีโก้ ไม่ยอมใช้ ABS เจ้าของกระทู้ชนะครับ จากคุณ : บ่าวอุบลคนไค เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 19:13:41

ความคิดเห็นที่ 70 ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS เกิดมาจากแนวคิดในการแก้ปัญหาการลื่นไถลในขณะเบรก เนื่องจากความฝืดของระบบเบรกมีมากกว่า ความฝืดของยางกับพื้นรถ เราทราบกันดีว่า ในขณะเบรกเราไม่ต้องการให้ล้อล็อกตายเพราะจะทำให้ควบคุมรถไม่ได้และการที่ล้อล็อกตาย ก็เพราะมีแรงจากการเบรกกดอยู่ การทำให้ไม่ให้ล้อล็อก ต้องปลดแรงจากการเบรกออก แต่พอปลดแรงเบรกออก รถก็ไม่หยุด เป็นเงื่อนไข กลับไปกลับมาอยู่อย่างนั้น    วิศวกรจึงแก้ปัญหานี้โดยการออกแบบให้ระบบเบรกทำงานแบบจับ-ปล่อยในจังหวะที่เร็วประมาณ 50 ครั้ง/วินาที เพราะพบว่าถ้าทำได้ เร็วมาก ๆ จะทำให้ได้ผลอย่างที่ต้องการทั้งสองทางคือ การที่ล้อไม่ล็อกทำให้ยังสามารถที่จะควบคุมทิศทางของรถได้ และในขณะเดียวกัน ก็สามารถทำให้รถหยุดได้ด้วย แต่การที่จะให้ระบบเบรกทำงานอย่างนั้นได้ต้องมีอุปกรณ์ที่ค่อนข้างซับซ้อนเข้ามาเกี่ยวข้อง เช่น ต้องมีตัว ตรวจจับการหมุนของล้อ, มีหน่วยประมวลผล เป็นต้น เพื่อรับทราบว่าความเร็วในการหมุนของล้อแต่ละข้างเริ่มจะหยุดนิ่งหรือแตกต่างกัน หรือไม่ อย่างไรก่อนจะสั่งการให้ระบบเบรกทำงาน รวมทั้งมีชุดปั๊มและวาล์วที่สามารถทำงานด้วยความถี่หลายสิบครั้งต่อวินาที ลักษณะการทำงานแบบจับ ๆ ปล่อย ๆ นี้เองที่ผู้ขับขี่บางท่านสงสัยว่าระบบเบรกในรถของตนจะผิดปกติหรือไม่ เพราะเมื่อเหยียบเบรก แล้วมีแรงต้านกระตุกถี่ ๆ ที่แป้นเบรก ซึ่งในกรณีนี้ถ้าเป็นที่มีระบบ ABS ไม่มีอะไรผิดปกติแต่กลับแสดงว่าระบบทำงานได้ดี แต่ถ้าเป็นรถที่ ไม่มีระบบ ABS แล้วมีอาการคล้าย ๆ อย่างนั้น คงต้องนำรถเข้าศูนย์ตรวจเช็กกันเสียทีแล้ว เพราะจานเบรกอาจจะคดหรือมีชิ้นส่วนอะไร หลุดหลวมก็ได้ ที่มา:http://www.welovecivic.com/forum/index.php?topic=5504.0 จากคุณ : Last sector เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 19:17:11

ความคิดเห็นที่ 71 เดี๋ยวงัดเอาเครื่องคอมพ์ตัวเก่า ๔๘๖ DX๔ ๑๐๐ MHz ที่บ้านไปใส่แทนดีกว่า จะได้เพิ่มเป็น ๑๐๐ MHz เลยแรง กว่าเดิมอีกจม !!!! ผมอยากได้เบรคแยก ๔ แป้นอะ จะได้เลือกกดได้ จากคุณ : สยึมกึ๋ย เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 19:36:29

ความคิดเห็นที่ 72 50 Hz นี่น่าจะเป็นอย่างอื่นนะครับ คนแปลคงเข้าใจผิดกับความเร็วในการประมวลผลหรือเปล่า เพราะหาดูหลายๆที่ผมเจอแค่นี้ครับ When the ABS system is in operation you will feel a pulsing in the brake pedal; this comes from the rapid opening and closing of the valves. Some ABS systems can cycle up to 15 times per second. http://auto.howstuffworks.com/auto-parts/brakes/brake-types/anti-lock-brake1.htm จากคุณ : บ่าวอุบลคนไค เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 20:17:47

ความคิดเห็นที่ 73 เอาเถอะครับ จะ15 หรือ50ครั้งต่อ วินาที เท้ามนุษย์ก็ไม่สามารถอยู่ดี จากคุณ : Last sector เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 20:20:14

ความคิดเห็นที่ 74 ถ้าให้เลือกได้ฟรีๆ เลือกรถให้คนที่เรารักขับ ผมเลือก BMW (ซีรีย์ไหนก็ได้) Airbag10ใบ ABS4ล้อ และมีระบบDSC ครับ จากคุณ : musuko เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 20:39:13

ความคิดเห็นที่ 75 สำหรับผม ... ผมใช้ Civic FD MC รุ่น S A/T ไม่มี ABS - AIRBAG ครับ -- คนใช้รถระดับ 7 - 8 แสนบาท บางคน (อย่างผม) ผมซีเรียสเรื่องราคานะ เพราะผมขยับขึ้นมาจากรถระดับ Jazz City Lancer มาเป็นเจ้านี่ ที่ราคาสูงกว่าแสนกว่าบาทแล้วนะ จำได้ว่า ตอนนั้นรุ่น S A/T (AS) ราคา 831,000 บาท ต่างกับรุ่น S A/T ที่ราคา 789,000 บาท อยู่เกือบ 5 หมื่นบาทแน่ะ -- และในตอนนั้น หลายๆอย่างมันพอดีไง 1. ตอนออกรถ FD แต่ละโชว์รูม รอกันนานมากๆ ผมเดินเข้าโชว์รูมนี้ ต้องการรถ สีเทาโพลิช รุ่น S A/T เซลล์บอกว่า มีรถเลย รับรถได้ทันที ... อ้าวตรงใจ ทำไมจะไม่เลือกล่ะ 2. เคยขับ และ เคยใช้ ABS นะ ใน Sunny Neo ฝนตกๆ ลงสะพานข้ามแยกสุทธิสารมา คันหน้าเบรค ผมก็เบรคตาม พอดีกับแอ่งน้ำ เสียง ABS ดังลั่น แต่รถนิ่งสนิทครับ -- แต่ ณ ตอนนั้น ผมโทษยางห่วยๆที่ติดมากับรถ แถมใกล้หมดสภาพนะ ทำให้ล้อล็อคง่ายน่ะครับ -- เลยไม่เห็นความจำเป็นเท่าไหร่ เพราะส่วนตัวซีเรียสกับสภาพยางอยู่แล้ว ลื่นนิด ลื่นหน่อย ก็เปลี่ยนทิ้งอยู่แล้ว และไม่เคยคิดจะเอายางคุณภาพต่ำมาใส่รถน่ะครับ -- อีกอย่าง คันเก่าก็ไม่มี ABS ขับห้าวกว่าตั้งเยอะ ไม่เห็นจะมีปัญหา เบรคจนล้อล็อคไม่เกิน 5 ครั้ง (ใช้รถมา 13 ปี) ดังนั้น ณ ตอนนั้นมั่นใจฝีมือตัวเองครับ 3. ผ่อน 5 ปี ส่วนต่าง 5 หมื่นบาท คิดเป็นแต่ละเดือน อาจจะไม่เยอะสำหรับบางคน แต่สำหรับผม มันเยอะครับ -- หลังจากใช้รถมาได้ 8 เดือน ก็ประสบอุบัติเหตุจากความประมาทของตัวเอง และด้วยความที่รถไม่มี ABS ทำให้ไม่กล้าที่จะหักหลบออกด้านข้าง เพราะกลัวหมุนครับ -- หลังจากนั้น ผมก็ปรับปรุงแก้ไขจุดอ่อนของตัวรถครับ ทำจุดอ่อน ให้เป็นจุดเด่น ไง รถผมไม่มี ABS ล้อล็อคง่าย ผมก็ปรับปรุงระบบเบรคใหม่ ผมลงทุนไปร่วม 2 หมื่นบาท ทั้งผ้าเบรค จานเบรค และน้ำมันเบรค ... หลายคนบอกว่า รถไม่มี ABS ใส่ผ้าเบรคดีๆเข้าไป ล้อก็ยิ่งล็อคง่ายน่ะสิ คำตอบคือ "ไม่จริง" ครับ มาลองรถผมได้ เบรคเดิม อากาศเย็นๆกดปุ๊บจับปั๊บ เบรคหัวทิ่ม แต่ขับเร็ว กดเบรคแล้วไหลยาว พอกระทืบหนักๆ ก็ล็อค คุมยากครับ เบรคใหม่ ระยะฟรีเยอะมาก ขับช้า อากาศเย็น ต้องออกแรงเยอะ แต่พอร้อนแล้ว เบรคแรงๆ มันจับแบบหนึบดูดเท้า การเฉลี่ยแรงเบรคทำได้ดี หน้าไม่ทิ่ม แต่ดูดลงทั้งคัน อาการล็อคยามกระทืบเบรคมีน้อยมากๆ ระยะเบรคสั้นมากๆครับ และเพราะเบรคชุดใหม่นี้ มันก็ทำให้ผมรอดมาได้หลายครั้ง ชนิดที่เห็นแล้วว่า ยังไงก็ไม่รอด แต่มันหยุดได้แบบ "เหลือเชื่อ" นิ่มๆ เลยล่ะ คนขับยังงงเองเลยครับ ไม่ได้ Anti ABS - AIRBAG นะ แต่มาบอกเหตุผลว่า ทำไมถึงไม่เลือก และเชื่อว่า หลายคนก็คิดแบบผม ... แต่โอเค ถ้าอนาคต ต้องเปลี่ยนรถ มีงบมากพอ ถ้าเลือกได้ ผมก็เลือกที่จะมีแหละ จากคุณ : เด็กบูรพา เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 20:55:40

ความคิดเห็นที่ 76 เรื่อง Hz  ของชุดวาล์ว+ ปั๊ม  ABS นั้น เทคโนโลยี่เมื่อ 20ปีที่แล้ว ทำได้ 15Hz หรือ 15 ครั้งต่อวินาทีครับ เคยอ่านเจอว่าบอชพัฒนาความถี่ในการทำงานได้สูงกว่านี้นานแล้ว  แต่ผมไม่ยืนยันในตัวเลข  แต่ 50Hz นี่ก็เคยแว่วๆมา แต่ไม่อยากยืนยัน เพราะมันผ่านตามานาน ถามว่าทำได้หรือไม่ ฮ่า ฮ่า 50Hz แค่นี้เอง ทำไมจะทำไม่ได้ครับ  แค่ 50ครั้งต่อวินาที  มันเป็นเรื่องของชุดวาล์วและปั๊มที่ตัดต่อแรงดันน้ำมันเบรคโดยอาศัยการทำงานของระบบโซลินอยด์และอุปกรณ์อิเลคทรอนิคส์อีกหลายส่วน  ทำได้ครับ  ไม่ใช่เรื่องพิเศษอะไรครับ   เทคโนโลยี่การผลิตมันได้รับการพัฒนามานานจนหลายๆสิ่งไม่ใช่ของยากอีกต่อไปแล้วครับ ผู้ผลิตจะใส่มาให้ใช้หรือไม่ อันนี้อีกกรณีหนึ่ง ยุคเมื่อ 20ปีก่อน ABS มีเฉพาะในรถแพงๆ ราคาเป็นล้าน หรือ รถนำเข้าแหละครับ ผมขับรถญี่ปุ่นคันเล็กๆ วางเครื่องเทอร์โบ  ก็ต้องดิ้นรนไปหาจานเบรคหน้าใหญ่ๆมาใส่แทน หายางดีๆมาใช้ ก็เหมือนคุณเด็กบูรพาว่าไว้นั่นแหละครับ  มันดีกว่าเดิมจริงๆ จากคุณ : lucifer เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 21:20:11

ความคิดเห็นที่ 77 เรื่องทางเทคนีคเราไม่รู้ แต่หากตัวคุณเองหรือคนที่คุณรักเคยผ่านประสบการณ์เฉียดตายจากการขับรถ แล้วรอดตายมาได้ ความคิดเรื่องอุปกรณ์ความปลอดภัย อาจจะ เปลี่ยนไป ไม่เฉพาะ ABS Airbag แต่รวมถึงอุปกรณ์ความปลอดภัยอื่นๆด้วย ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์มามุงดูกันใหญ่หลังรถเกิดอุบัติเหตุชนหนัก รถพังยับเยินแต่ห้องโดยสารยังคงสภาพอยู่ได้ คนขับปลอดภัยไม่เป็นอะไรเลย ไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน ชาวบ้านบอกปาฏิหาริย์ ห้อยพระอะไรเนี่ย คนขับยังนั่งกลัวตัวสั่นอยู่ในรถ เหตุการณ์เกิดเร็วมาก เราไม่รู้หรอกว่าชาวบ้านพูดถูกมั้ยว่ารอดตายไม่บาดเจ็บได้เพราะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หรือว่าอุปกรณ์ความปลอดภัยต่างๆมันช่วยเอาไว้ หรืออาจเป็นไปได้ว่าทั้งสองอย่างช่วยเอาไว้ จากคุณ : groundtruth เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 21:43:42

ความคิดเห็นที่ 78 เบรกแบบมี ABS กับไม่มี ABS สภาพถนนแห้งครับ ดูเอาเองว่าอันไหนระยะเบรกสั้นกว่า (กรณีเป็นคนขับทั่วไปนะครับไม่ใช่นักขับแรลลี่) http://www.youtube.com/watch?v=nYRR7rkKa2w http://www.youtube.com/user/etaoff#p/u/0/uoRslu9iqpQ จากคุณ : dxxa เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 22:32:52

ความคิดเห็นที่ 79 คห.78 ดูคลิ๊บแล้วมีคำถามแล่นเข้ามาในหัวทันที เหยียบเบรคยังไงให้ล้อล็อค ต้องใช้ความสามารถเป็นรายบุคคล ^^ จากคุณ : . เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 00:38:02 A:110.168.90.2 X: TicketID:271694

ความคิดเห็นที่ 80 ประหยัดค่า airbag ไว้ จะได้เอาเงินไปทำประกันชีวิตเพิ่ม จากคุณ : LoNgHoRn sAiD sO!!! เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 04:52:24

ความคิดเห็นที่ 81 รถยนต์คันนึงของผมไม่มีครับ แต่บิ๊กไบค์ผมบอกต้อง ABS เท่านั้นไม่มีไม่เอาเพราะมีประสบการณ์เกือบเสยท้ายรถขนดินตัดหน้ากระชั้นชิดแล้วมอไซด์ผมไม่มี ถนนลื่นด้วย กว่าจะเบรกอยู่เหลือระยะแค่ฝ่ามือเดียว ไม่รู้สิหากมีจะเบรกได้ดีกว่านี้ไหมแต่ผมคิดว่าต้องมี สถานการณ์ปกติไม่มีก็ได้แต่มีดีกว่าไม่มีนะ แต่หากไม่มีก็ไม่เป็นไรเพราะทุกอย่างเราต้องแลกมาด้วยเงินทั้งนั้น จากคุณ : GoldenBoy11 เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 08:21:52

ความคิดเห็นที่ 82 สรุป คห.78 คือไม่มีabs ถนนแห้งไม่มีสั้นกว่าใช่ไหมครับ แสดงว่าถนนเปียก abs ช่วยได้ แต่แห้งนี่ทำให้ระยะเบรกยาวกว่า ใช่ไหม จากคุณ : GoldenBoy11 เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 08:29:57

ความคิดเห็นที่ 83 ^^ คห.82 ลองดูใหม่ โดยเทียบตำแหน่งจากที่ช่างกล้องยืนอยู่ก็ได้ครับ ผมว่าผมที่ได้ออกมาเท่าๆกันที่ความเร็ว120 ตามคลิป จากคุณ : Last sector เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 08:37:39

ความคิดเห็นที่ 84 เอนจิ้นเบรคก็มี ใช้ๆบ้าง เกียร์ออโต้ก็ใช้ได้ ขับDอยู่ก็ดึงลงมาD3ซะ ขับไม่เคยใช้เอนจิ้นเบรค ผมยังไม่เคยเบรคขนาดล้อตายเลย ทำไม ไม่ซื้อรถABS จะทำให้ไม่ฉลาดรึไงครับ ขับรถคนอื่นที่มีABS ก็ไม่ไม่ได้ใช้การทำงานของมันเลย ขับรถแบบฉลาด คิดว่าขับอย่างไรถึงจะเบรคน้อยที่สุด นั่นคือสิ่งที่ผมทำอยู่บ่อยๆ จากคุณ : เบนซ์ เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 09:10:27 A:124.120.62.154 X: TicketID:295677

ความคิดเห็นที่ 85 ผมทำแบบนี้นะครับ ไม่ทราบเหมือนกันว่า คนอื่นทำอย่างไง เพราะว่า มีโอกาสได้เป็นเจ้าของ รถที่มี ABS และ ไม่มีครับ หากขับรถที่ไม่มี ABS เหยียบเบรคจม Teen ล้อมันก็จะล๊อค ถ้าไม่เป๋ ไม่ปัด ไม่เสียการทรงตัว ผมก็แช่ไว้แบบนั้น มันก็หยุดครับ แต่ ถ้ามัน ออกแนวเป๋ หลุด แถก ผมจะชักเบรคนิดหนึ่ง ล้อก็จะไม่ล๊อคแล้วครับ ก็จะเลี้ยวได้ และแก้อาการปัดได้ครับ ไม่เห็นต้องไล่กระทืบกดปล่อยกดปล่อยเลยครับ แต่ยอมรับนะว่า ABS มันทำงานได้ ตามระบบของมัน ถือว่า ดีและง่าย ครับผม จากคุณ : สยึมกึ๋ย เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 09:14:27

ความคิดเห็นที่ 86 50 Hz คือความสามารถที่ตัว ABS ทำได้ครับ แต่เวลาเบรคจริงมันจะคำนวนตามทฤษฎีของมันโดยปกติความถี่จะอยู่ที่ช่วงประมาณ 0.5 วิเอง เท่าที่อ่านข้างบนที่เข้าในผิดหลัก ๆ คงเป็นเรื่องเบรคปล่อยของ ABS ไอ้คำว่าปล่อยนี่ไม่ได้แปลว่าจะไม่มีแรงเบรคนะครับตลอดเวลาีที่คุณเหยียบเบรคมันก็มีแรงเบรคตลอดแต่ว่ามันผ่อนเพื่อให้ล้อไม่ล็อคเหมือนที่เราผ่อนเท้่าเวลาเบรคปกติ หลักการของ ABS คือเวลาเบรคค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานจะสูงที่สุดเมื่อล้อหยุดหมุนประมาณ 15% (100% คือล้อล็อค ส่วน 0% คือล้อหมุนปกติ)  ซึ่งจะแตกต่างกันไปตามสถาณการณ์ต่าง ๆ  ABS จะเบรคและคำนวนแรงเสียดทานที่ได้จนเมื่อเริ่มลดลงคือผ่านจุดพีค  ABS จะเิริ่มผ่อนเบรคค่าสัมประสิทธิ์ก็จะตีกลับไปที่พีคและลดลง ตัว ABS ก็จะจับได้อีกว่ามันลดลงก็จะเริ่มเพิ่มแรงเบรคเข้าไปใหม่  ซึ่งถ้าทฤษฎีเป็นแบบนี้นักขับระดับเซียนก็น่าจะเอาชนะ ABS ได้ ??  ก็คงต้องตอบว่าจริงบางส่วนครับ ถือถ้ารถอยู่ในสภาพที่น้ำหนักบนล้อทั้งสี่เท่ากันหมด สภาพพื้นผิิวสภาพล้อเหมือนกันหมด คนที่ควบคุมเบรคทั้งสี่ล้อผ่านแป้นเบรคอันเดียวจะมีคนที่ทำไ้ด้ดี ABS แน่นอน แต่ว่าในความเป็นจริงไม่มีทางเป็นอย่างนั้นหรอกครับ แค่มีคนขับมานั่งล้อขวาก็หนักกว่าล้อซ้ายแล้ว ซึ่ง ABS จะได้เปรียบตรงจุดนี้เพราะว่าทำงานแยกกันทั้งสี่ล้อ วิธีใช้ ABS ที่ถูกต้องที่สุดคือกระทืบเต็มแรงครับบางคนเข้าใจว่าต้องผ่อนเหมือนเบรคปกตินี่อันตรายมากนะครับ ส่วนเรื่องใช้ไม่ใช้นี่ผมเห็นด้วยกับหลาย ๆ ท่านนะครับ อยู่ที่ความคุ้มค่าให้เลือกใช้ตามความเหมาะสมมากกว่า เพราะงานวิจัยเรื่องอุบัติเหตุของ ABS ก็ไม่ได้ให้ผลที่น่าพึงใจจนต้องออกมาเป็นกฎหมายเหมือนเรื่องเข็มขัดนิรภัยครับ จากคุณ : Zkizzik เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 13:10:00

ความคิดเห็นที่ 87 http://www.monash.edu.au/muarc/reports/Other/RACV%20ABS%20braking%20system%20effectiveness.pdf #62 เรื่องข้อมูลที่บอกว่า ABS เบรคได้สั้นกว่าครับ ไม่ได้อยากเอามาลงเพราะไม่คิดว่าจะมีใครสนใจจะอ่าน จากคุณ : Zkizzik เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 13:12:41

ความคิดเห็นที่ 88 ตอนขับรถคันเก่า ไม่มีเบรค ABS แต่หม้อลมเบรคชั้นครึ่ง เบรคเอาอยู่ตลอด ไม่เคยล้อล๊อคเลยครับ พอคันใหม่ หม้อลมเบรคชั้นเดียว มีเบรค ABS แต่เบรคไม่่ค่อยอยู่ ABS ทำงานบ่อยมาก ๆ ถ้าเป็นรถระบบดี ๆ ก็อุ่นใจแหละครับ ไม่ต้องมีก็ได้นะ ABS เนี่ย แต่ถ้าจะให้ซื้อรถใหม่ล่ะก็ คงเลือกที่มีระบบความปลอดภัยเต็มที่ล่ะครับ จากคุณ : เงินเดือนสามพันขับวอลโว่ เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 16:14:24

ความคิดเห็นที่ 89 "วิธีใช้ ABS ที่ถูกต้องที่สุดคือกระทืบเต็มแรงครับบางคนเข้าใจว่าต้องผ่อนเหมือนเบรคปกตินี่อันตรายมากนะครับ  " ถ้าจะอ้างผลทดสอบของอาหมู ( ขออนุญาตเอ่ยนามนะครับ  นับถือกันมานาน เคยไปนั่งสังสรรค์กันที่บ้าน ) ก็จะบอกว่าอาหมูเองก็ยังเปรยว่ามันอาจจะเป็นเฉพาะรถคันนั้น (คันที่แกได้ขับ) แล้วโดยการใช้งานจริง กับรถที่มี ABS ในสภาพถนนทุกแบบ ไม่ว่าจะเป็นทาง offroad หรือ ทาง onroad  เปียก แห้ง  ผมไม่่เชื่อเรื่องการต้องหยียบให้เต็มแรงหรอกครับ  ในเมื่อมันทำงานโดยอาศัย sensor ตั้งหลายตัว  และตัวปั้ม+วาล์วของABSเองก็ไม่ใช่กลไกที่ไม่มีอะไรมาควบคุม   อย่าลืมว่า ถ้า sensorไม่ตรวจเจอว่ามีความผิดปกติ  ระบบABSก็ยังไม่ได้ทำงานตามโปรแกรมของมัน อีกทั้งสมัยก่อนที่บอกกันว่า รถที่ใช้เบรค ABS จะหยุ่นๆ แข็งๆ ต้านๆ หรือ กดแล้วไม่ค่อยจะได้แรงเบรคเท่าไหร่  จึงต้องกดแรงๆนั้น  ผมก็จะเรียนให้ทราบว่า เรื่องเมื่อ 17 -20 ปีก่อน  เกี่ยวกับเบรค ABS นั้น  มันเป็นอดีตไปนานแล้วครับ   ( 17ปีที่แล้ว ถ้าผมจำไม่ผิด ผมว่าห้องรัชดาจัดงานเลี้ยงสังสรรค์กันที่บ้านอาหมูนะ ) Honda Accord 2.4 iVTEC  รถคันที่ 3 ที่มี ABSมาให้ ( 8ปีที่แล้วเอง ) ผมกับครอบครัวได้ใช้  ขับวันแรก แตะเบรคเบาๆ หัวทิ่มกันทั้งคัน  อารมณ์เดิมสมัยเมื่อ 20 ปีที่แล้วที่มีคนบ่นกันเรื่องเบรคของวอลโว่ หรือ เบรคของเบนซ์รุ่นที่มี ABS ว่ามันหน่วงๆ เนือยๆ เหมือนกับต้องเหยียบแรงๆนั้น มันละลายหายไปกับยุคสมัยแล้วครับ   Audi A4 V6 2.4L ทนใช้อยู่ 4ปี คันนี้เป็นคันที่ 2 ที่มี ABS 4sensors 4ch มาให้ ไม่ต้องเหยียบแรงๆก็หยุดครับ  ยางเดิมๆมากับรถก็งั้นๆแหละ  แตะเบรคแรงๆหน่อย ABSก็ทำงาน ( แปลว่าล้อมันลอคไปแล้ว แต่ABSมันช่วยไว้ไม่ให้ลอค ) ก็ถอนเท้า แล้วแตะใหม่  ไม่เห็นจำเป็นต้องเบรคแรงๆก็ได้นี่  เบรคหนะ เบรคให้รถชลอ ไม่ได้แปลว่าเบรคให้หยุดเสมอไป แต่บางครั้ง ในบางสภาพที่แตะเบาๆไปแล้ว ABSมันทำงานก็มี  โดยเฉพาะเวลาเลี้ยวบนถนนที่มีเม็ดทรายลื่นๆโรยอยู่  แตะเบรคเบาๆ ล้อบางล้อมันก็พาลจะลอคเอาได้  หมดความจำเป็นก็คลายเท้ามานิด แตะเบาๆอีกหน่อย ก็ไม่เป็นไร Nissan 200SX รถนำเข้า เมื่อ 16ปีที่แล้ว (​ซื้้อช้าหน่อย เพราะSilviaออกมาแทนแล้ว)  มันเป็นรถ ABSคันแรกที่ผมมี และเป็นคนแรกที่สอนให้ผมรู้ว่า ABS คืออะไร ทำงานเมื่อไหร่ ทำงานอย่างไร  พื้นฐานในการขับรถ การใช้เบรค ก็ยังคงเอามาใช้กับมันได้  ไม่มีอันตรายอะไร ตราบเท่าที่เรารู้ว่าเรากำลังทำอะไร  ยกเว้นว่าเราไม่รู้ว่าเรากำลังทำอะไรอยู่นั่นแหละ ที่อันตราย ( รถคันนั้น ABS แบบ 3sensors 4chanels)   อารมณ์ในการเบรคของรถคันนี้อาจจะไม่จึกหัวทิ่มเหมือนกับ Accordที่ได้มาทีหลัง  แต่ก็ไม่ถึงกับเป็นแบบวอลโว่หรือเบนซ์รุ่นแรกๆที่มี ABS มาให้ รถคันสุดท้ายที่ดูแล้วพลานุภาพน้อยสุดก็คงจะเป็น D4D 4WD 2.5L 2KD  ที่ให้ ABS แบบ 4sensors 4channels มาให้  รถคันนี้ผมใช้มาเกือบ 10ปี  ระยะทางรวม 320,000 กม.  วิ่งบนทางหลวงเส้นหลักๆของเมืองไทย แทบจะทุกเส้น  วิ่งในป่า ทางoffroad ก็เคยหลายที   ลอง ABS มันจะทำงาน  เหยียบเบาๆ บนถนนดินหน้ามันปูที่กำลังเปียกอยู่  มันก็ทำงานครับ  เหยียบมิด เหยียบน้อย รถมันก็ไม่ได้หยุดไกลหรือใกล้กว่ากัน แต่ที่แน่ๆคือ  เล่นเกียร์ 4L แล้วคลานไปโดยไม่ต้องแตะเบรค มันเวอร์คกว่าเยอะ จะเหยียบหนัก หรือ เหยียบเบา  เหยียบแล้วผ่อน เหยียบแล้วแช่  เหยียบแล้วถอนไม่ได้ เพราะมันฉุกเฉิน ไม่มีเวลาแม้จะถอนหรือจะหักหลบ  หรือเบรคแล้ว ABSทำงาน แล้วหักรถหลบโดยที่ยังแตะเบรคให้ ABS ทำงานอยู่ ก็เคยผ่านมาหลายครั้งครับ  แม้แต่เหยียบตอนแรกแล้วABS ทำงาน ถอนเบรคแล้วแตะเบาๆอีกครั้งแล้วหักหลบ ก็ทำมาหลายครั้งเช่นกัน  มันทำได้ครับ  มันไม่ได้อันตรายอะไรหรอก  ตราบเท่าที่เรารู้ว่าเรากำลังทำอะไร และรู้ว่าเราจะเจออะไรถ้าตัดสินใจผิด ตราบนั้นก็ยังไม่อันตรายอะไร ผมยืนยันด้วยประสบการณ์ในการขับรถที่มี ABS มาไม่น้อยกว่า 15 ปี   สิ่งที่พูดๆกันมา ผมพิสูจน์และลองมาด้วยตัวเองทั้งหมด   เหตุผลที่รถABSในยุคก่อนๆได้รับคำแนะนำให้เหยียบให้เต็มเหนี่ยวนั้น ก็เพราะว่าระบบABSในยุคเก่านั้นมันไม่ได้รับการพัฒนาเหมือนกับในปัจจุบัน  แรงเบรคที่เราต้องเหยียบแป้นเบรคนั้นจะต้องออกแรงกว่ารถรุ่นเดียวกันที่ไม่มีระบบABS ทั้งนี้ก็เพราะว่าแรงดันส่วนหนึ่งที่มันจะต้องเข้าไปวิ่งอยู่ในชุดวาล์วและปั๊ม นั่นแหละครับ ที่เป็นต้นเหตุทั้งหมด อีกทั้ง คนที่ไม่มีทักษะอะไรมากมายนัก ( โดยเฉพาะกับคนยุคนี้ ที่หัดขับรถด้วยเกียร์ออโตเมติก , ไปตจว.ด้วยกัน คุยโม้โฉงเฉงว่าขับรถเก่ง  พอบอกให้มาช่วยขับหน่อย ดันบอกว่า"รถพี่มันเกียร์แมนนวล ผมขับไม่เป็น"  ถ้ามีปุ่ม AutoEject ผมกดดีดมันออกไปนอกรถตั้งแต่พ้นอยุธยาไปนานแล้ว )  จะไปสอนอะไรกับการเบรค หรือ เลี้ยงเบรค หรือ ชลอรถเลย  โดยเฉพาะสถานการณ์ฉุกเฉินที่ขนาดคนมีทักษะยังขนหัวลุกบ่อยๆ  มีABSก็กดๆไปเถอะครับ กดไปให้จมๆให้มิดๆ อย่าถอนจนกว่ารถจะหยุด เพราะเท้าคุณไม่ได้ไวเท่ากับคนที่มีประสบการณ์ สมองคุณก็ไม่ได้ไวเท่ากับคนที่มีประสบการณ์ที่เขาดึงเอาประสบการณ์ทั้งหมดในชีวิตมาใช้แก้สถานะการณ์นั้นได้ ดังนั้น ผมไม่ค้านเรื่องให้กดสุดๆ เหยียบแรงๆ เพราะมันเป็นสูตรสำเร็จสำหรับคนทุกๆคน  แต่ผมค้านคำว่า"อันตราย"ครับ  ถ้าเข้าใจว่า ABSทำงานอย่างไรจริงๆ  ผมก็ไม่เห็นว่ามันจะอันตรายอะไรเลย   แต่เอาเถอะ บอกไปแล้ว กดไปเถอะ เหยียบไปเลย  คนขับรถสมัยนี้ทักษะไม่มากนัก เอาตัวให้รอดก็แล้วกันเนอะ ------------------------------------ ปล. ผมเองอาจจะไม่ค่อยได้มาเสวนาในห้องรัชดานานมากแล้ว  แต่ถ้าดูอมยิ้มที่ท้ายlogin ก็จะทราบว่าเป็นสมาชิกรุ่นเก่า  เลขสมาชิก 1270 เท่านั้น  แต่จากสิ่งที่ผมพูดหรือเขียนให้อ่านนั้น มันเป็นประสบการณ์ตรง จริง และ ไม่อ้างอิงนิตยสารรถยนต์เล่มไหนๆ แน่นอนครับ  หลายคนชอบเอาทฤษฎี เอาบทความ เอาประโยคที่ถูกกล่าวอ้างในอดีตมาอ้างถึงใหม่  ซึ่งความจริง เทคโนโลยี่มันเป็นสิ่งที่เป็น Dynamicมาก  ความรู้ใหม่ๆมันเกิด มันงอก และพัฒนาต่อยอดมามากมาย   หลายสิ่งเปลี่ยนไปครับ  คำว่า"ต้อง"หรือ"เท่านั้น" มันล้าสมัยได้เสมอๆครับ   สิ่งที่ผมรู้มาในอดีต ปัจจุบันมันก็ล้าสมัยไปหมดแล้ว  แต่สิ่งที่ยังไม่เคยล้าสมัยเลย ก็คือ"พื้นฐาน"ครับ จากคุณ : lucifer เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 17:47:00

ความคิดเห็นที่ 90 ครับคุณ lucifer เพราะว่ามีหลายกรณีบางทีคนขับรถเขาไม่เคยกดให้ ABS ทำงานเวลากระตุกแล้วเขาจะถอนเท้่าน่ะครับผมก็เลยพิมพ์ไปแบบนั้น ถ้าเป็นสาเหตุที่จะก่อให้เกิดความเข้าใจผิดก็ขออภัยครับ จากคุณ : Zkizzik เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 18:04:04

ความคิดเห็นที่ 91 ทำไมจขกท.คิดแบบนี้หล่ะครับ? ต้องมองในมุมที่ว่าคนเรามีไม่เท่ากันด้วยนะครับ ไม่ใช่ทุกครอบครัวท ี่จะมีพร้อมนะครับ ขอให้เข้าใจตรงนี้ด้วย ทางผู้ผลิตก็เข้าใจในจุดนี้ดี จึงแบ่งรถหนึ่งรุ่นออกมาเป็นรุ่นย่อยๆอีกที ตัวล่างก็ตัดออก ตัวบนก็อัดเต็ม ซึ่งมันก็ถูกต้องแล้ว สิ่งสำคัญมันอยู่ที่เรามีสติในการขับหรือเปล่ามากกว่าครับ มีมันก็ดีกว่าอยู่แล้วครับ ใครๆก็ไม่อยากเจ็บหนักทั้งนั้น แต่ถ้ามีแล้วเพิ่มขึ้นมาอีก4-5หมื่น บางคนก็จ่ายไม่ไหวนะ ลดตรงนั้นแล้วใช้ความระมัดระวังเพิ่มขึ้นจะดีกว่าไหม? ตัวเลือกมันมีหลากหลายครับ ไม่ได้ยึดติดกับคำว่ามีหรือไม่มีอย่างเดียว อย่าคิดแบบเดียวสิครับ จากคุณ : pongchay เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 22:37:41

ความคิดเห็นที่ 92 ถ้าใช้เบรค ABS จำไว้ว่า เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินที่ต้องใช้เบรค ต้องทำสามอย่างเรียก ว่า "Stomp...Stay...Steer" Stomp คือ กระทืบแป้นเบรคให้สุดตีน Stay    คือ เหยียบแป้นเบรคจมเอาไว้อย่างนั้น อย่าปล่อย หรือ ผ่อน Steer  คือ การใช้พวงมาลัยบังคับรถให้เปลี่ยนทิศทาง หลบหลีกสิ่งกีดขวางที่อยู่ข้างหน้า แก้ไขเมื่อ 10 ส.ค. 54 23:15:25 แก้ไขเมื่อ 10 ส.ค. 54 23:14:08 จากคุณ : toppydrift เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 23:12:02

ความคิดเห็นที่ 93 เข้ามาเพราะหลายคนเถียงว่า คนเราเหยียบปล่อยๆเบรคไม่ได้เท่า ABS ทำงานหรอก เป็นความคิดที่คนละประเด็นครับ คนที่ขับรถชำนาญแล้ว เขาจะรู้น้ำหนักเท้าที่เบรคดี ว่าควรจะต้องเหยียบเท่าไร เหยียบลงไปแล้วมันล็อคล้อตายเขาจะคลายน้ำหนักเท้าแค่เล็กน้อยล้อก็ไม่ตายแล้ว ไม่ใช่มาเลียนแบบ ABS เหยียบปล่อยเหยียบปล่อย หรือถ้าเซียนกว่านั้น เขาก็สามารถดริฟได้เลย คนกับเครื่องจักร ทำงานกันคนละอย่าง อย่าเอามาเทียบกัน แล้วก็ไม่ได้บอกว่าทุกคนทำได้ แต่สำหรับหลายๆคน เขาไม่อยากได้ ABS จะด้วยเหตุผลร้อยแปด แต่มันก็มีคนที่ไม่อยากได้อยู่กลุ่มหนึ่ง ซึ่งเขาก็มีเหตุผลของเขา ไม่ได้เป็นเพราะ โง่ ไม่มีตัง หรือ EGO จากคุณ : NATSKI13 เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 54 09:32:54

ความคิดเห็นที่ 94 คห.92 เคลียร์ครับ Safety is a standard not an option. จากคุณ : AutoSmart (ONT-อ้น) เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 54 18:14:51

ความคิดเห็นที่ 95 รับจอง Mitsubishi ทุกรุ่นครับ เงื่อนไขพิเศษมากมายเช่น ดอกเบี้ยพิเศษ ต่ำกว่าที่อื่นๆ ของแถมมากมายจนจุใจ ให้คำปรึกษาข้อมูลตามความเป็นจริง ให้ท่านได้ทราบว่ารถ Mitsubishi มีดีเเละคู่ควรต่อท่านเพียงไหน นอกจากนี้ยัง รับตีเทิร์นรถเก่าของท่าน ให้ราคาสูงเป็นธรรม ไม่หลอกลวงหรือเอาเปรียบ ให้ท่านเป็นเจ้าของรถใหม่ป้ายแดงได้ง่ายขึ้น แถมยังช่วยผลักดันไฟเเนนซ์ให้ผ่านอย่างง่ายดาย รวดเร็วอย่างที่ท่านคาดไม่ถึง โทรมาปรึกษาได้นะครับ ไม่ว่าจะเป็น Spacewagon Pajero sports Triton ทุกรุ่น ดีเซล เบนซิน Cng Lancer EX ยินดีให้บริการอย่างเต็มใจ เพราะเราต้องการให้ท่านประทับใจกับรถMitsubishi. ไปอีกนาน โทรมานะครับ :-) บอย NKC :-) จากคุณ : บอย เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 54 11:21:34 A:223.24.194.63 X: TicketID:324052