ความคิดเห็นที่ 1 ขับเร็ว มาปาด ชิดขวาครับ จากคุณ : phattanapanp เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 54 11:19:48

ความคิดเห็นที่ 2 เห็นด้วยครับ อยากให้เมืองไทยออกกฎหมายกำหนดเลยว่า รถทุกคันอุปกรณ์เซฟตี้พื้นฐานต้องมีอะไรบ้าง เช่นรถ 5 ประตูต้องมีที่ปัดนํ้าฝนหลัง รถทุกคนที่ขายในเมืองไทยต้องมีระบบ ESP เป็นระบบพื้นฐานติดรถมา ABS กับ BA จำเป็นต้องมีทุกค่าย จากคุณ : HR หน้ามึน เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 54 11:27:26 A:110.171.11.238 X: TicketID:228595

ความคิดเห็นที่ 3 เป็นอีกหนึ่งการตลาดของ เจ้าตลาดรถเมืองไทยที่ยังคงคิดว่ายังไงก็ขายได้ครับ จากคุณ : mr.an เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 54 11:32:20

ความคิดเห็นที่ 4 สีฟ้าสวยมากกกกกกกกกกกก จากคุณ : Mr.Dante เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 54 11:43:21

ความคิดเห็นที่ 5 ไม่ปลอดภัย ให้อ้างมาตรฐานครับ เพราะคุณคิดเองว่าไม่ปลอดภัย คงไม่ได้ เหมือน saleman หรือคนขายประกัน ที่พยายามให้คนซื้อในสิ่งที่ไม่จำเป็น และ 3 สิ่งที่ทำให้ไม่ปลอดภัย 1. ถนน (มีcode แต่ ไปดู ถนนรัชดาหน้าศาล ง่ายๆ โค้งซ้อนโค้ง) 2. คนขับ (ไม่มีcode แล้วแต่ตำรวจ) 3. รถ (ความปลอดภัยการขับขี่ขึ้นกับรถ หรือ คนขับ หรือ ถนน หรือ ทุกอย่าง คุณทำให้จักรยานโดนชนแล้วคนขี่ไม่ตายได้ไหม) จากคุณ : You'll never walk alone เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 54 11:49:41

ความคิดเห็นที่ 6 ลงชื่อด้วยคนครับ... ผลิตในไทย แต่คนไทยได้ใช้ของห่วยๆ จากคุณ : ฟางกระจาย เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 54 11:50:00

ความคิดเห็นที่ 7 จขกท. อุตส่าห์ เอานิตยสาร นักเลงรถ มานั่งพิมพ์ลงกระทู้เชียวเหรอ ? เอ่อ...แล้วนิตยสารเค้า จะขายได้มั้ยนั่น ? เอามาลงแค่บางส่วน เป็นน้ำจิ่มกระตุ้นให้คนไปซื้อมาอ่าน หรือไปอ่านตามร้านหนังสือ ก็พอมั้ง ? จากคุณ : คนทำนิตยสารก็ต้องซื้อข้าวกินนะ เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 54 11:50:10 A:125.27.70.244 X: TicketID:314839

ความคิดเห็นที่ 8 อีกประเด็น เรื่องจะต่อต้านรถที่ไม่มีอุปกรณ์ความปลอดภัย เอ่อ... รถทุกคันก็มีเบรค มีไฟหน้าส่องสว่าง มีเข็มขัดนิรภัยทุกที่นั่ง อยู่แล้วนะ ผมว่า น่าจะตั้งกลุ่มใน Facebook เป็น " ขับขี่และโดยสารอย่างปลอดภัย โดยต้องคาดเข็มขัดทุกตำแหน่งที่นั่ง " ดีกว่าครับ จากคุณ : อุปกรณ์มากน้อยขึ้นกับตังที่มี เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 54 11:55:36 A:125.27.70.244 X: TicketID:314839

ความคิดเห็นที่ 9 บอกตรงๆผมไม่สนใจในระบบพวกนั้นเลยสักนิด ระบบพวกนั้นไม่ใช่อุปกรณ์ความปลอดภัยอะไรเลย ผมว่ามันเป็นเพียงระบบที่ช่วยให้การขับรถง่ายขึ้นเท่านั้น ผมว่าคนที่ขับรถคืออุปกรณ์ความปลอดภัยที่ดีที่สุด เป็นส่วนที่อัพเกรดยากที่สุด คนสมัยใหม่ขับรถโดยพึ่งพาอุปกรณ์มากเกินไป โดยไม่สนใจที่จะหาความรู้ ฝึกฝนทักษะในการขับรถเลย เช่น ในการเบรคแม้ไม่มีABS เราก็สามารถเบรคให้ดีได้ ด้วยการฝึกจับอาการก่อนที่ล้อจะล๊อค เราสามารถปล่อยแล้วย้ำเบรคได้เพื่อกันล้อล๊อค จะมีสักกี่คนที่ฝึกอ่านสถานการณ์บนท้องถนน ธรรมชาติของสภาพท้องถนนว่าเป็นเช่นไร เปียกแห้ง ผิวถนนหยาบ ผิวถนนละเอียด เอียงซ้าย เอียงขวา ประเมินสถาพน้ำขัง ประเมินสภาพโค้ง จะมีสักกี่คนที่สนใจเรื่องการชน มุมในการปะทะ ในกรณีที่เลี่ยงไม่ได้ต้องขนแบบไหน ต้องทำอะไรบ้าง เพื่อนผมรอดมาแล้วพอรู้ว่าชนสิบล้อแน่พี่แกเอนเบาะนอนอย่างรวดเร็ว สรุปหลังคารถไปหมดแต่พี่แกรอด จะมีสักกี่คนที่ฝึกจับอาการรถเพื่อที่จะแก้อาการรถก่อนที่จะเกิดเหตุ รถส่าย รถเอียง วิ่งไม่ตรง เข้าโค้งเหวี่ยง ล้อลอย ล้อปัด ทุกวันนี้ขับรถเป็นไม่เป็นไม่รู้(ย้ำครับขับเป็น ไม่ใช่ขับได้ ขับเป็นกับขับได้ไม่เหมือนกัน) สักแต่ว่ามีเงินออกรถก็ไปออกกันแล้ว เรื่องฝีมือ+ทักษะว่ากันที่หลัง จนลืมไปว่า สิ่งที่ทำให้การขับขี่ปลอดภัยที่สุดคือคนขับขี่นั่นเอง ถ้าคนขับขี่ดีมีวินัยอุบัติเหตุก็เกิดได้ยาก จากคุณ : JiGsAw&dOuBle B เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 54 12:34:29

ความคิดเห็นที่ 10 เน็ตคุง ความปลอดภัยของตัวรถยนต์ไม่ได้ตัดสินกันที่มีหรือไม่มีแอร์แบคกับเอบีเอสนะครับ ลองคิดดูว่า ระหว่าง เชอรี่่คิว ๆ ที่มีแอร์แบคคู่ เอบีเอส กับ City รุ่น Civic รุ่น low คันไหนปลอดภัยกว่ากัน ส่วนเรื่อง Airbag กับ Abs นั้น มันอยู่ที่ลูกค้านั่นแหละว่าจะซื้อหรือไม่ซื้อ ชัด ๆ เลยก็เช่น Civic รุ่น S มันมีทั้งรุ่นที่มี Airbag Abs กับไม่มี ก็เลือกกันไป ไม่รู้ว่าเน็ตคุงอยู่ในวงการรถยนต์มานานแค่ไหน ถ้าจำได้ ปี 1998 Toyota Corolla Hi-torq มี Airbag Abs ทุกรุ่น ทุกคัน นับตั้งแต่รุ่น 1.5 GXI M/T ถูกสุด เบาะไวนีลสลับผ้า ไม่มีล้อแม็ก ไม่มีคิ้วโครเมี่ยม แต่มี Airbag Abs แต่ลูกค้าไม่ชอบ เพราะเมื่อเทียบกับ Sunny B14 แล้ว ลูกค้าชอบ Sunny มากกว่า เพราะลูกค้าบอกว่าคุ้ม ออปชั่นครบ มีล้อแม็ก มีคิ้วโครเมี่ยมสวย แต่ไม่มี Airbag ไม่มี Abs ไม่เป็นไร ไม่มีแม้กระทั่งกระจกหน้ายังเป็นกระจก แบบ Tempered ไม่ใช่ Laminated ก็ลองคิดดูแล้วกันว่ามันเป็นสิ่งที่ลูกค้าต้องการรึเปล่า หรืออีกตัวอย่างนึงคือ ตอนที่ Yaris เปิดตัวมาใหม่ ๆ มันเริ่มต้นที่รุ่น M/T Airbag คู่หน้า และ ABS ซึ่งมีราคาเท่ากับ Jazz Vtec AS ที่สเปกเท่า ๆ กัน แต่ลูกค้ากลับมองว่า Yaris แพง รุ่นต่ำสุดก็เกือบ 6 แสนแล้ว แพงกว่า Jazz รุ่นต่ำสุด หลายหมืน แต่ Jazz รุ่นต่ำสุด ไม่มี Airbag Abs ไม่มีล้อแม็ก ไม่มีเครื่อง Variable Valve จนในที่สุด Toyota ก็ต้องออก Yaris รุ่น J ที่ตัด Airbag Abs ออก เหมือนกัน ทีนี้ถ้า เน็ตคุงจะ list รถที่ไม่มี Airbag Abs ขึ้นมา ก็จะพบว่า รถรุ่นล่างเหล่านั้นไม่มีอุปกรณ์ที่ว่า และจะเริ่มมีในรุ่นกลาง - สูง และถ้าเรารณรงค์ให้มีอุปกรณ์เหล่านี้ทุกคัน บริษัทรถยนต์ไม่มีปัญหาหรอกครับ มันก็แค่ไปเริ่มรุ่นต่ำสุดในรุ่นกลาง ๆ เท่านั้นเอง เหมือนกับ Jazz MC ปี 10 ไงล่ะ เริ่มต้นรุ่นต่ำสุดที่ 590,000 บาท แล้วถ้าทุกยี่ห้อทำแบบนี้หมด ก็จะมีลูกค้าอีกกลุ่มที่ขอให้ผลิตรุ่นที่ราคาถูกกว่านี้หน่อย แต่ตัด Airbag Abs ออก ซึ่งมันก็กลับมาสู่ปัจจุบันไง จากคุณ : The Greatest บัตรผ่าน เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 54 12:41:27 A:125.24.16.120 X: TicketID:102965

ความคิดเห็นที่ 11 ก็ยังมีคนยังไม่เข้าใจว่าอุปกรณ์ความปลอดภัยที่ติดตั้งมากับตัวรถมันสำคัญอย่างไร เอามามั่วถั่วแถกับคนขับรถซะงั้น รถทุกคันมันต้องมีคนขับ แต่รถทุกคันมันไม่ได้มีอุปกรณ์พวกนี้ติดตั้งเป็นมาตราฐาน ในประเทศพัฒนาแล้ว เข้าส่งเสริมให้ความรู้กับผู้ซื้อว่าอุปกรณ์พวกนี้สำคัญขนาดไหน บางประเทศถึงกับกำหนดบังคับกันเลยทีเดียว ไม่ว่าคนขับจะเก่งหรือจะไม่เก่ง ยังไงอุปกรณ์พวกนี้ก็มีประโยชน์ต่อทุกคนบนถนน จากคุณ : vespa744 เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 54 12:42:25

ความคิดเห็นที่ 12 บอก สสส. อัดงบโฆษณาสิครับ จากคุณ : Bongza เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 54 12:53:24

ความคิดเห็นที่ 13 ผมรู้อย่างนึงว่า   จขกท  (เน็ดคุง)  เชียร์  นิสสัน และมาชร์  มาตลอด   ไม่เชื่อ ลองพิมพ์ คำว่า เน็ดคุง ในกูเกิล หรือ สมาทร์เชิรท์ ดู   แล้วจะพบความจริง ยังไม่นับ ที่ถอดลอกอินมาเขียน   โดยมีสำนวนการเขียน คล้ายๆกัน แก้ไขเมื่อ 11 ก.ย. 54 13:04:30 จากคุณ : move to เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 54 13:03:05

ความคิดเห็นที่ 14 ผมเห็นด้วยกับ "การต่อต้านรถยนต์ที่ไม่มีอุปกรณ์ความปลอดภัย" ใครไม่เห็นด้วยกับจขกท.ก็ไปเปิดกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยสิครับ ต้องกำหนดให้ ถุงลมนิรภัยและเบรคเอบีเอส เป็นอุปกรณ์มาตรฐานประจำรถยนต์ทุกๆรุ่นที่ขายได้ในเมืองไทยด้วยซ้ำ ก็ไม่แปลกอะไรที่ทางกลุ่มจะประณามรถยนต์รุ่นที่ขาดอุปกรณ์มาตรฐาน ผลักดันให้ขายไม่ได้ในบ้านเรา หากมาตรการของรัฐเข้ามาสนับสนุนเรื่องนี้ไม่ใช่ยากเย็นอะไร เช่นรถยนต์คันแรกของรัฐบาลส่วนลด1แสนบาทใช้ไม่ได้กับรถยนต์ที่ไม่มีอุปกรณ์ความปลอดภัยเหล่านี้ จากคุณ : AutoSmart (ONT-อ้น) เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 54 13:12:14

ความคิดเห็นที่ 15 ไม่ได้ต่อต้านครับ   เพียงแต่อยากรู้  จขกท  แอบแฝงไปด้วยเจตนาอะไร   เพราะตัวเอง เชียร์ คู่แข่งอย่างนิสสันมาชร์ไว้ชะเยอะ   ส่อให้เห็นถึง เจตนาไม่บริสุทธ์ ด้วยประการทั้งปวง จากคุณ : move to เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 54 13:20:19

ความคิดเห็นที่ 16 อ่ายเอาไว้เป็นข้อมูล..ไม่เห็นเป็นไร...ถ้าเราชอบก็ซื้อ...ไม่ชอบก็ไม่ซื้อ...แค่นั้น จากคุณ : pediee เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 54 13:27:23

ความคิดเห็นที่ 17 เพิ่มอุปกรณ์ ราคา ก็เพิ่ม ผมเชื่อว่า ยัง มี อีกหลายคน ไม่ได้หวังจะใช่ ประสิทธิภาพของอุปกรณ์พวกนั้น ซึ่งทางผู้ค้า เขา รู้อยู่แล้วครับ ถึงทำ ทั้งรุ่น ที่มี และไม่มี เผื่อให้ ผู้ซื้อเลือกเองได้ ตามความพอใจ ครับ จากคุณ : [PeTeR] เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 54 13:56:40

ความคิดเห็นที่ 18 รถ20ปีก่อน ไม่มี ABS Airbag ก็ขับขี่ได้ ของที่ใส่เพิ่มมา หมายถึงราคาค่าตัวที่สูงขึ้น และ ถ้าอุปกรณ์พื้นฐานที่ให้มาไม่ปลอดภัย คนไม่มีคนไปซื้อมาขับหรอก สมัยนี้ตลาดเป็นของผู้บริโภคครับ จากคุณ : chaivi เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 54 14:10:46

ความคิดเห็นที่ 19 เห็นด้วยกับ  คห.2 ครับ จากคุณ : boy and girl เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 54 14:42:45

ความคิดเห็นที่ 20 ผมไม่อยากสนใจหรอกนะครับ ว่า คุณ จขกท มีเจตนาอะไร แอบแฝงขนาดไหน แต่ผมว่านะ มันต้องดูที่จิดสำนึกของ คน ก่อนครับ การที่ รถจะมีโน่นนี่นั่น เยอะแยะเนี่ย ถามก่อนว่า ประชาชนของประเทศเรานั้น เป็นอย่างไร มีวินัยขนาดไหน เหมือน คนต่างประเทศเขาหรือปล่าว ตอนแรก ผมก็ว่าจะตั้งกระทู้ใหม่ เมื่อหลายวันก่อน กับสิ่งที่ผมได้เห็น 1. ขณะผมขับรถตามมอเตอร์ไซด์อยู่ อยู่ ๆ หมวกกันน็อคปลิวเกือบกระแทกกระจกหน้ารถผม มันสื่อให้เห็นถึงอะไรครับ มันสื่อให้เห็นว่า ทุกวันนี้ มีคนจำนวนไม่น้อย ที่ขับขี่มอเตอร์ไซด์ มีหมวกกันน็อคเอาไว้ป้องกันตำรวจ เพราะ เขาแค่ครอบไว้บนหัวเฉย ๆ ไม่ได้มีการรัดสายรัดแต่อย่างใด มันเลยลอยหลุดออกมา เพราะฉะนั้น หากเขาล้ม มันก็คงป้องกันอะไรไม่ได้ 2. เวลาผมนั่งรถไปกับเพื่อน พอจะขึ้นทางดว่น หรือเห็นตำรวจอยู่ข้างหน้า ก็จะดึงอีกมือ เข็มขัด ทำเหมือนว่า คาด พอผ่านด่าน หรือ ผ่านตำรวจ ก็จะเอาออก มันก็สื่อให้เห็นว่า เราทำเพื่อป้องกันการโดนจับอย่างเดียว ไม่ได้คิดว่า การคาดเข็มขัดนิรภัยนั้น มันเป็นการช่วยลดอันตรายจากการเกิดอุบัติเหตุ มันมีอีกหลายเรื่องครับ ที่เราต้องมาเรียนรู่กันอีกเยอะแยะครับ - ถุงลมนิรภัย คุณคิดว่า มันเป็นสิ่งจำเป็นเหรอครับ แต่ผมคิดว่า มันเป็นสิ่งที่เข้ามาช่วยเสริมการทำงานของเข็มขัดนิรภัยเท่านั้น เพราะ อุปกรณ์พื้นฐานที่จำเป็น คือ เข็มขัดนิรภัย แต่สิ่งที่คนไม่รู้ก็คือ ถุงลมนิรภัย ก็มีอันตรายเหมือนกัน และมีอันตรายมากด้วย อย่างในต่างประเทศ มีคนเสียชีวิตไปเพราะถุงลมนิรภัยก็เยอะ เพราะฉะนั้น ถามว่า จะมีสักกี่คน ที่จะมารู้ถึงภัยอันตรายเกี่ยวกับ ถุงลมนิรภัย - ผมเคยเห็น เด็กอนุบาล นั่งเบาะผู้โดยสารตอนหน้า ข้างไปกับผู้ปกครอง บ้างก็คาดเข็มขัด บ้างก็ไม่คาด ซึ่ง มันอันตรายทั้งนั้น การที่เด็กเล็ก นั่งที่นั่งตอนหน้า โดยที่คาดเข็มขัดที่อยู่ต่ำเกินไป มันก็สามารถบาดคอจนทำให้เสียชีวิตได้เช่นกัน แต่ ประชาชนคนไทยสักกี่คนที่รู้เรื่องนี้ ซึ่ง ต่างประเทศ มีกฏหมาย ห้ามเด็กอายุต่ำกว่า กี่ปี นั่งที่นั่งด้านหน้า และมีกฏหมาย ว่า เด็กที่นั่งตอนหลังต้องมี ที่นั่งสำหรับเด็ก แต่เมืองไทย มีไหม - ผมเคยเห็น แม่ลูกอ่อน อุ้มลูกไว้ นั่งที่นั่งผู้โดยสารตอนหน้า ในรถที่มี ถุงลมนิรภัยคู่หน้า มันควรไหมครับ จะมีกี่คนจะรู้ว่า หากเกิดการชน แรงระเบิดของถุงลม กับความเร็วที่มากกว่า 200 กม/ชม มันจะทำให้เด็กที่เขาอุ้มอยู่ เสียชีวิตได้ทันที สิ่งเหล่านี้ คนไทย เคยมีการเรียนรู้ไหม มีกฏหมายอะไรรองรับหรือปล่าว ผมถึงบอกว่า ก่อนที่คุณอยากจะให้มีอุปกรณ์อะไร เยอะแยะเนี่ย เราควรจะมาสร้างความเข้าใจในอุปกรณ์เหล่านั้น มันดีหรือยังครับ ไม่ใช่ อยากจะมีโน่นนี่นั่น แต่ไม่รู้ หลักการทำงาน ไม่รู้ว่า มีข้อควรระวังอย่างไร ABS เอง บางคนก็ไม่รู้หรอกครับ มันทำงานอย่างไร และการเบรกในรถที่มี ABS ควรมีหลักการเบรกอย่างไร บางคน ใช้รถมี ABS แต่ยังมีนิสัย การย้ำเบรกและปล่อย ก็มีให้เห็น ของทุกอย่าง มันมี 2 มุมทั้งนั้นครับ คุณจะมาบอกว่า ถุงลมนิรภัย เป็นอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัย ก็คงไม่ถูกครับ เพราะ ถ้ามันดีจริง ทำไม มันถึงทำให้คนเสียชีวิตได้ครับ และ ทำไม ต้องมีคำเตือนติดไว้ เพื่อบอกว่า รถคันนี้ ติดตั้งถุงลมนิรภัย ควรคาดเข็มขัดตลอดเวลา แสดงว่า ถุงลมนิรภัย อาจจะเป็นฆาตกร ก็ได้ถูกไหมครับ หากใช้ผิดวิธี หรือ หากไม่เข้าใจ ก็นี่เหละครับ คนไทย อ่านหนังสือกันปีละกี่บรรทัด ก็ทราบ ๆ กันอยู่ พอมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นมา ก็ไปโวยวายว่า ทำไมถุงลมมันไม่ออกมา ทั้ง ๆ ที่ บางกรณี รถพลิกคว่ำ ซึ่ง มันก็ไม่ได้ไปโดนเซ็นเซอร์อยู่แล้ว กระจก LAMINATED หรือ นิรภัย 2 ชั้น ผมว่ามันก็มีข้อดี และไม่ดี ลองคิดดูว่า ถ้ามันดีจริง ทำไม รถไม่ติดตั้ง กระจกนิรภัย 2 ชั้น ทั้งคันครับ ถ้าตกน้ำที ก็ไม่ต้องทุบกันเลย อุปกรณ์ทุบกระจกคงขายไม่ออก หรือในกรณี ช่วยเหลือคนออกจากรถ ซึ่ง หากเกิดอุบัติเหตุร้ายแรง ซึ่ง ประตูไม่สามารถเปิดออกได้ ด้วยอะไรก็ตาม มีอย่างเดียวที่ต้องทำคือ รอเครื่องมือตัดถ่าง สาเหตุเพราะ กระจกหน้าเป็น LAMINATED คงทุบกันนาน แถมมีไวนิลอยู่ระหว่างกระจก 2 ชั้น ต้องมาฉีกกันอีก คงบาดมือกัน และไม่เหมาะถ้าจะช่วยเหลือผู้ขับขี่ออกจากกระจกหน้า แต่ หากเป็น ZONE TEMPERED ที่กระจกหน้า ซึ่งส่วนใหญ่ หากเกิดอุบัติเหตุร้ายแรง กระจกหน้ามักจะแตก และอย่างที่ผมบอกว่า ในกรณีประตูไม่สามารถเปิดได้เลย ต้องรอเครื่องมือ แต่กระจกหน้านั้น แตกแล้ว ก็ยังมีโอกาส นำผู้บาดเจ็บออกทางกระจกหน้าได้อย่างเร็วกว่า การจะไปรอเครื่องมือตัดถ่าง เพื่อเปิดประตู เพราะฉะนั้น ทุกเรื่อง มันมองได้ 2 มุมหมดครับ จะบอกไม่ได้หรอกครับ ว่า สิ่งไหน ดีเลิศ ประเสริฐ ถึงควรคู่ในการจะบอกว่า มันควรจะมีหรือไม่มี กระจกไฟฟ้า ในรถรุ่นเก่า ๆ เกิดกุญแจถูกบิดกลับมาที่ OFF ระบบไฟฟ้าจะตัดการทำงานทันที หากรถตกน้ำ จะเป็นอย่างไร เปิดกระจกไฟฟ้าได้ไหม กะทะล้อเหล็ก กับ ล้อแม็กอัลลอย แน่นอนว่า กะทะล้อเหล็กแข็งแรงกว่า ถ้าอย่างนั้น คุณไม่ต้องให้กลับไปใช้กะทะล้อเหล็กหรอครับ เพราะ ล้ออัลลอย อาจจะไม่มีความปลอดภัย หากตกหลุมแรง ๆ อาจจะดุ้งหรือล้อแม็กแตกได้ การที่จะต้องมานั่งระบุ ว่า อะไรเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับความปลอดภัย มันคงบอกไม่ได้หรอกครับว่า จะต้อง บังคับให้ รถมี ระบบโน้น ระบบนี้ เกิดผมบอกว่า ที่ปัดน้ำฝน มันอันตราย เพราะ ทำให้เสียสมาธิ ต้องคอดเปิด ปิด ประบบหน่วงเวลา ไม่อย่านั้น คุณก็ต้องบังคับให้ รถทุกคัน มี ระบบเซ็นเซอร์ที่ปัดน้ำฝน เป็นอุปกรณ์มาตรฐานเหรอครับ ถ้าไม่มีแสดงว่า ไม่ปลอดภัย เกิดผมบอกว่า รถรุ่นใหม่ ๆ ไฟที่หน้าปัดมักจะติดทันทีที่สตาร์ท บางรุ่น ไฟหน้าปัดติดต้อนรับผู้ขับขี่ ตั้งแต่เปิดประตูรถ และอาจจะทำให้ ผู้ขับขี่เผลอ ลืมเปิดไฟหน้า ไม่อยางนั้น คุณก็ต้องบังคับให้ รถทุกคันมีระบบเปิดปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ด้วยไหมครับ หากไม่มี อาจจะไม่ปลอดภัย ทำให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงได้ มันไม่มีอะไร จะตอบโจทย์ได้ทุกอย่างหรอกครับ แต่สิ่งที่ผมบอกก็คือ มันสำคัญอยู่ที่ จิดสำนึกของคนเรามากกว่าครับ ที่จะต้องมาแก้ไขกัน ว่า เราควรจะทำอย่างไร ที่ให้ คนไทยเรา รักชีวิตมากกว่าที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ ถ้าคนในประเทศเรา รักชีวิตทั้งตัวเขาเอง และคนอื่น เชื่อไหม ผมว่า รถไม่ต้องมี ABS AIRBAG ยังได้เลยครับ เพราะทุกคนขับรถกันด้วยความระมัดระวัง ไม่ขับเกินความเร็วที่กฏหมายกำหนด แค่นี้ มันก็ป้องกันอุบัติเหตุได้เยอะแยะแล้วครับ ทุกวันนี้ คนยังขับรถด้วยความเร็วเกินกำหนด ทุกวันนี้ คนยังเมาแล้วขับ ทุกวันนี้ คนยังขับรถด้วยความเห็นแก่ตัว คนยังขับรถด้วยความประมาทเยอะครับ อุปกรณ์บางอย่าง มันเป็นแค่ PASSIVE SAFETY คือ เชิงแก้ไข ซะมากกว่า เชิงป้องกันครับ ผมว่า แก้จิตสำนึกคนก่อน ดีกว่าครับ จากคุณ : Mr.VTEC เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 54 14:48:09

ความคิดเห็นที่ 21 มันเป็นสิทธิ ของผู้บริโภคอย่างเราที่จะต่อต้านได้อยู่แล้วนี่ครับ ทำรถออกมาอย่างน้อย ก็ต้องมีมารตรฐานความปลอดภัยมารองรับ ไม่ใช่ทำรถออกมา ยังไงก้ขายได้ เพราะแบรนด์ตลาดอยู่แล้ว ในเมื่อมีหลายๆ คห. ซึ่งส่วนใหญ่ ยึดติดกับแบรนด์ ที่ตัวเองใช้อยู่ ออกมาอวยบอกไม่เป็นไรช่างมันเถอะ แบบนี้พวก บริษัืทขายรถ ก็ลูบปาก หวานหมู เลยสิครับ ประเด็นไม่ใช่เชียร์ยี่ห้อไหน ประเด็นคือ บริษัทควร ให้อุปกรณ์ ความปลอดภัยมา ให้มากกว่าที่เป็นอยู่ ไม่จำเป็น ต้อง ABS BA ก็ได้ แต่ขอที่ปัดน้ำฝนหลังมาให้จะได้มั๊ย จากคุณ : พิพัฒน์ (โอหยาง) เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 54 14:53:01

ความคิดเห็นที่ 22 เห็นด้วยกับ คคห ที่ 10 ครับ ผู้บริโภคคงต้องตัดสินใจเอง ถ้าจะรณรงค์น่าจะเป็นไปในลักษณะให้ความรู้มากกว่าการต่อต้านผู้ผลิต มีใครบางคนเคยบอกผมว่าหากเราพยายามจะนำเสนอสิ่งใด ให้คนคล้อยตามต้องให้เขารู้สึกว่าเราเป็นมิตร ให้เขารู้สึกว่าเราเข้าใจเขา แม้เขาจะไม่เห็นด้วยอย่างน้อยเขาก็จะรับฟังเรา แต่หากเราเริ่มบทสนทนาด้วยความไม่เป็นมิตร ผู้รับฟังก็จะเกิดอคติ แล้วก็จะไม่ฟังเราเลยไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่มีประโยชน์หรือไม่ก็ตาม แล้วก็ต้องระวังประเด็นที่จะถูกดึงไปว่าเป็นการทำเพื่อประโยชน์ของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ซึ่งจะทำให้ข้อเรียกร้องของเรากลายเป็นสิ่งไม่มีคุณค่า แล้วก็เห็นด้วยกับความเห็นที่ ๘ ว่า น่าจะเริ่มรณรงค์เรื่องความปลอดภัย จากสิ่งที่เป็นอุปกรณ์มาตรฐานของรถอยู่แล้ว เช่น เข็มขัดนิรภัย ไฟสัญญาณต่างๆ และควรนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับอุบัติเหตุ และอันตรายจากการไม่คาดเข็มขัดนิรภัยเพื่อให้ทุกคนตระหนักในเรื่องนี้ครับ โดยเฉพาะเพิ่งมีข่าวอุบัติเหตมีผู้เสียชีวิตจาการไม่คาดเข็มขัดนิรภัยด้านหลัง ก็น่าจะช่วยให้คนเข้าใจประเด็น และมีความรู้สึกร่วมได้มากขึ้นอีกด้วยครับ จากคุณ : dxxa เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 54 14:56:48

ความคิดเห็นที่ 23 นานาจิตตัง ว่ากันไป จากคุณ : Bakery_Bit เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 54 15:52:25

ความคิดเห็นที่ 24 ชอบ-Brio เนี่ย ชอบ อยากได้...และกำลังจะได้ใช้ เพราะตอนนี้..เติมเงินโท'สับAIS..มันก็บอก50บาท/ลุ้นBrio ไปจ่ายค่าเคเบิ้ลทีวี..มันก็บอกลุ้นBrio.......เอาเว๊ย กำลังจะได้ อิ อิ จากคุณ : ตาสาน เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 54 16:33:17

ความคิดเห็นที่ 25 ถ้าโตโยต้าออกรถมาใหม่. . ...ต้องรีบซื้อเพราะเดี๋ยวรุ่นหลังๆจะโดนตัดสเปคแล้วเพิ่มราคา ส่วนฮอนด้าถ้าออกรุ่นใหม่. . ...อย่าเพิ่งรีบซื้อเพราะเกรงว่าจะมีปัญหาในล็อตแรกๆ แหะๆ ไม่เกี่ยวกับกระทู้นี้เลยครับ อยากบ่นเฉยๆ จากคุณ : New_rpd เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 54 16:57:24

ความคิดเห็นที่ 26 ถามตรงๆเลย กลุ่มเพี้ยนๆนี้  เป็นคนไปออกเงินซื้อ ABS Airbag ให้ชาวบ้านเขาหรอ ผมจะบอกอะไรให้ต่อให้โคตร ABS ไปเจอยางในบัญชีอันตรายมันก็เบรคไม่อยู่ ถ้าผมมีความคิดเพี้ยนๆแบบคนกลุ่มนี้  ผมไปตั้งกลุ่มต่อต้านยางห่วยๆ คนที่จะด่าผมคงจะน้อยกว่าคนที่ด่ากลุ่มเพี้ยนๆนี้เป็นร้อยเท่าพันเท่า ฝากถึงจขกท Brio รุ่นถูกสุด ก็มี ถุงลมคู่หน้า และ ABS แต่ March ที่คุณเชียร์แบบสุดลิ่มทิ่มประตู ถ้าไม่ใช่ตัว top กับ รอง  มันไม่มีมาสักกะอย่าง คุณไม่ด่า March สัีกหน่อยหรอครับ แก้ไขเมื่อ 11 ก.ย. 54 18:47:36 จากคุณ : ton99 เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 54 18:00:44

ความคิดเห็นที่ 27 คห.22 อย่าปล่อยให้เป็นการตัดสินใจของผู้บริโภค สิครับ เรื่องแบบนี้มันต้องเป็น เรื่องที่รัฐ ต้องเอื้อมมือมาจัดการ สร้างมาตรฐานปกป้องคนในรัฐ ไม่ใช่ปล่อยให้เอกชน ใช้ราคาเป็นเครื่องมือ จากคุณ : หมูอวบ เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 54 18:15:16

ความคิดเห็นที่ 28 เมื่อวานผมเบรคแล้วหักหลบมอเตอร์ไซค์ด้วย ถ้าไม่มี ABS ถ้าไม่รถคว่ำ ก็ชนมอเตอร์ไซค์ตายไปละ จากคุณ : tunera เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 54 18:28:40

ความคิดเห็นที่ 29 ผมเห็นด้วย มองให้เห็นว่า หลังนี้ บริษัทรถยนต์ ค่ายใหญ่ หลงระเริงกับ ยี่ห้อ พูด ง่ายๆ มั่นใจตัวเองมาก เอาอะไรมาก็ขายได้ คนไทย โง่ หลง กราบใหว้ บูชา Honda  สะใจผมเชียว อิอิ หลังๆ Honda  ทำรถได้ ทุเรศ มากๆ ดูอย่าง New Civic สิ อิอิ ขอให้รักษาความห่วยต่อไปน่ะ Honda จากคุณ : o_okub เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 54 20:14:03

ความคิดเห็นที่ 30 ถูกใจจังโว้ย คุณ เน็ตคุง จากคุณ : o_okub เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 54 20:16:23

ความคิดเห็นที่ 31 ^ เห็นด้วยกับ คห.27 รัฐต้องเป็นผู้ผลักดันมาตรฐานความปลอดภัยให้ออกเป็นรูปธรรม ทีภาษีสรรพสามิต 25% กับ 17% เงินเป็นแสนทำไมเก็บได้ แต่พอให้มาดูแลประชาชนคนไทยในเรื่องคุณภาพชีวิตและความปลอดภัยทำไม่ได้ หลายคนที่ออกมาบอกว่าแพงคุณเคยคำนวณไหมรถยนต์ราคา 1,070,000 บาทเสียภาษีสรรพสามิต 250,000 บาท ทำไม่รัฐไม่เอาเงินที่ว่าไปใส่แอร์แบ็คแปดลูก เอบีเอสอีบีดี อีเอสพีให้ผู้ใช้รถคนไทยแทน หรือหามาตรการจูงใจให้ผู้ผลิตต้องทำมาตรฐานความปลอดภัยมาให้แทน อย่าคิดเข้าข้างบริษัทค้ารถต่างชาตินักหนา ออกรับคอเป็นเอ็น รักพวกพ้องรักคนไทยด้วยกันดีที่สุดคร้ับ แก้ไขเมื่อ 11 ก.ย. 54 21:09:01 จากคุณ : AutoSmart (ONT-อ้น) เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 54 21:06:36

ความคิดเห็นที่ 32 มันส์ดีครับ จากคุณ : malldeff เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 54 21:06:49

ความคิดเห็นที่ 33 ปูเสื่อรอแล้วคร๊าาบ กิงมาม่ากัน จากคุณ : tproject เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 54 23:15:01

ความคิดเห็นที่ 34 เข้ามาตอบสั้นๆ เพราะเพิ่งกลับมาและอยากนอน ผมยังไม่ได้เช็คทุกๆ รุ่น แต่เชื่อว่า Nissan ก็โดนด้วยครับ และคิดว่าทุกค่ายโดนหมด ผมบอกเลยว่าผมเด็ก Toyota และ Toyota นี่จะโดนเยอะสุดๆ Honda นี่ก็จะโดนมิใช่น้อย เพราะพูดรับประกันอย่าง แต่ของจริงไม่ได้ตามนั้น Nissan ก็ต้องโดน เพราะผมก็รู้ว่า มันมี airbag แค่ข้างเดียว กับ ABS EBD เฉพาะรุ่นบนๆ เดี๋ยวรอก่อนๆ สาวก Honda ใจเย็นๆ แล้วเลิกเอาผมไปผูกติดกับ Nissan ซะทีเถอะ จริงอยู่เชียร์มากก็จริง แต่ก็แค่ March กับ Almera ซึ่ง Eco car ตอนนี้มันมีอยู่แค่สองยี่ห้อ สามรุ่น ดังนั้นผมไม่ได้ถูกใจรถของ Honda มันก็ต้องไปฝั่ง Nissan มันเป็นเรื่องธรรมดา มาก ถ้าบอกว่าผมเป็นแฟน Toyota นั่นล่ะโอเคเลย เพราะนั่นคือความจริง ชีวิต ผมมีความเกี่ยวพันธ์กับ Toyota มากมายมหาศาล ซึ่งผมเคยพูดไปแล้วหลาย กระทู้มาาาาาาก แต่ว่าแต่ละท่านทำไมไม่ฟันหรือจำซักหน่อยได้มั๊ยครับ แม้แต่ชื่อแซ้ผมยังเคยบอกเลย ดังนั้นผมไม่ใช่คนที่มีประวัติลึกลับซับซ้อนใดๆ เลย facebook ของตัวเองก็อยากจะโชว์จะตายอยู่แล้วครับ หลายๆ ท่านข้างบน นั่นช่วงแจ้งรับทราบกลับมาด้วยนะคร้าบ ผมขี้เกียจเขียนตอบเรื่องนี้จะตายอยู่ แล้วคร้าบบบบ สงสารด้วยเถอะ ! จากคุณ : เน็ดคุง เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 54 23:54:16

ความคิดเห็นที่ 35 สำหรับข้อมูลจาก นักเลงรถ ต้องขอบอกเลยว่า เขียนได้ตรงใจ และมีรายละเอียดที่ตรงที่สุดเท่าที่เคยอ่านมา ยิ่งกว่าพวก review ในเน็ตที่พูดจาตรงสุดขีดอยู่แล้วซะอีก สำหรับเนื้อหา ผมค่อยๆ เอาลงดีกว่า คงไม่ลงหมด ถ้าอยากอ่านก่อนก็ลองไปซื้อหากันดูครับ คิดว่าคงไม่ ได้ไปสกัดยอดขายเค้าอะไรขนาดนั้น กว่าจะเอามาลงหมดคงไปเดือนตุลาคมครับ เล่มใหม่ก็มาแล้ว ดังนั้น ตอนนี้ลองไปหาอ่านได้เลย ต้องขอบคุณข้อมูลของ นักเลงรถ ด้วยครับ จากคุณ : เน็ดคุง เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 54 00:04:42

ความคิดเห็นที่ 36 เห็นด้วยว่า รถที่ขายในไทย ต่อจากนี้ไป ควรมีอุปกรณ์ด้านความปลอดภัยอย่างน้อย ABS AIRBAG คู่หน้า โครงสร้างผ่านการทดสอบชน ระดับ 5 ดาว (หน้า- ข้าง- หลัง แปลกใจเหมือนกันทำไมเขาไม่ทดสอบการชนท้าย ) รถยอดนิยมหลายรุ่นไม่มีมาให้ น่าเกลียดทีเดียว บริษัทรถเขาประเมินราคาชีวิตคนไทยถูกมากๆ ตอนนี้น่ายกย่องหน่อยเห็นจะเป็นมาสด้า จัดต็มตั้งแต่ตัวล่าง ถ้าจะมีกลุ่มต่อต้านการถูกเอาเปรียบจากยุ่น ผมคนไทย ผมเห็นด้วย คนที่มือไม่พาย อย่าเอาเท้าราน้ำ เพื่อเรา และคนที่เรารัก จากคุณ : e-mo- เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 54 06:19:30 A:125.26.76.82 X: TicketID:306384

ความคิดเห็นที่ 37 "บอกตรงๆผมไม่สนใจในระบบพวกนั้นเลยสักนิด ระบบพวกนั้นไม่ใช่อุปกรณ์ความปลอดภัยอะไรเลย ผมว่ามันเป็นเพียงระบบที่ช่วยให้การขับรถง่ายขึ้นเท่านั้น ผมว่าคนที่ขับรถคืออุปกรณ์ความปลอดภัยที่ดีที่สุด เป็นส่วนที่อัพเกรดยากที่สุด คนสมัยใหม่ขับรถโดยพึ่งพาอุปกรณ์มากเกินไป โดยไม่สนใจที่จะหาความรู้ ฝึกฝนทักษะในการขับรถเลย เช่น ในการเบรคแม้ไม่มีABS เราก็สามารถเบรคให้ดีได้ ด้วยการฝึกจับอาการก่อนที่ล้อจะล๊อค เราสามารถปล่อยแล้วย้ำเบรคได้เพื่อกันล้อล๊อค จะมีสักกี่คนที่ฝึกอ่านสถานการณ์บนท้องถนน ธรรมชาติของสภาพท้องถนนว่าเป็นเช่นไร เปียกแห้ง ผิวถนนหยาบ ผิวถนนละเอียด เอียงซ้าย เอียงขวา ประเมินสถาพน้ำขัง ประเมินสภาพโค้ง จะมีสักกี่คนที่สนใจเรื่องการชน มุมในการปะทะ ในกรณีที่เลี่ยงไม่ได้ต้องขนแบบไหน ต้องทำอะไรบ้าง เพื่อนผมรอดมาแล้วพอรู้ว่าชนสิบล้อแน่พี่แกเอนเบาะนอนอย่างรวดเร็ว สรุปหลังคารถไปหมดแต่พี่แกรอด จะมีสักกี่คนที่ฝึกจับอาการรถเพื่อที่จะแก้อาการรถก่อนที่จะเกิดเหตุ รถส่าย รถเอียง วิ่งไม่ตรง เข้าโค้งเหวี่ยง ล้อลอย ล้อปัด ทุกวันนี้ขับรถเป็นไม่เป็นไม่รู้(ย้ำครับขับเป็น ไม่ใช่ขับได้ ขับเป็นกับขับได้ไม่เหมือนกัน) สักแต่ว่ามีเงินออกรถก็ไปออกกันแล้ว เรื่องฝีมือ+ทักษะว่ากันที่หลัง จนลืมไปว่า สิ่งที่ทำให้การขับขี่ปลอดภัยที่สุดคือคนขับขี่นั่นเอง ถ้าคนขับขี่ดีมีวินัยอุบัติเหตุก็เกิดได้ยาก จากคุณ : JiGsAw&dOuBle B" หากเราวิ่งบนทางที่มืด ซึ่งปกติประเทศไทยมีถนนแบบนั้นอยู่มากมาย ทางพวกนั้น มีทั้งหลุมลึก และแอ่งน้ำที่มีอันตราย เราไม่สามารถมองเห็นล่วงหน้าได้แน่นอน แต่จะโดนไปก่อนแล้วถึงรู้เท่านั้น จากคุณ : เน็ดคุง เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 54 08:46:03

ความคิดเห็นที่ 38 "เน็ตคุง ความปลอดภัยของตัวรถยนต์ไม่ได้ตัดสินกันที่มีหรือไม่มีแอร์แบคกับเอบีเอสนะครับ ลองคิดดูว่า ระหว่าง เชอรี่่คิว ๆ ที่มีแอร์แบคคู่ เอบีเอส กับ City รุ่น Civic รุ่น low คันไหนปลอดภัยกว่ากัน ส่วนเรื่อง Airbag กับ Abs นั้น มันอยู่ที่ลูกค้านั่นแหละว่าจะซื้อหรือไม่ซื้อ ชัด ๆ เลยก็เช่น Civic รุ่น S มันมีทั้งรุ่นที่มี Airbag Abs กับไม่มี ก็เลือกกันไป ไม่รู้ว่าเน็ตคุงอยู่ในวงการรถยนต์มานานแค่ไหน ถ้าจำได้ ปี 1998 Toyota Corolla Hi-torq มี Airbag Abs ทุกรุ่น ทุกคัน นับตั้งแต่รุ่น 1.5 GXI M/T ถูกสุด เบาะไวนีลสลับผ้า ไม่มีล้อแม็ก ไม่มีคิ้วโครเมี่ยม แต่มี Airbag Abs แต่ลูกค้าไม่ชอบ เพราะเมื่อเทียบกับ Sunny B14 แล้ว ลูกค้าชอบ Sunny มากกว่า เพราะลูกค้าบอกว่าคุ้ม ออปชั่นครบ มีล้อแม็ก มีคิ้วโครเมี่ยมสวย แต่ไม่มี Airbag ไม่มี Abs ไม่เป็นไร ไม่มีแม้กระทั่งกระจกหน้ายังเป็นกระจก แบบ Tempered ไม่ใช่ Laminated ก็ลองคิดดูแล้วกันว่ามันเป็นสิ่งที่ลูกค้าต้องการรึเปล่า หรืออีกตัวอย่างนึงคือ ตอนที่ Yaris เปิดตัวมาใหม่ ๆ มันเริ่มต้นที่รุ่น M/T Airbag คู่หน้า และ ABS ซึ่งมีราคาเท่ากับ Jazz Vtec AS ที่สเปกเท่า ๆ กัน แต่ลูกค้ากลับมองว่า Yaris แพง รุ่นต่ำสุดก็เกือบ 6 แสนแล้ว แพงกว่า Jazz รุ่นต่ำสุด หลายหมืน แต่ Jazz รุ่นต่ำสุด ไม่มี Airbag Abs ไม่มีล้อแม็ก ไม่มีเครื่อง Variable Valve จนในที่สุด Toyota ก็ต้องออก Yaris รุ่น J ที่ตัด Airbag Abs ออก เหมือนกัน ทีนี้ถ้า เน็ตคุงจะ list รถที่ไม่มี Airbag Abs ขึ้นมา ก็จะพบว่า รถรุ่นล่างเหล่านั้นไม่มีอุปกรณ์ที่ว่า และจะเริ่มมีในรุ่นกลาง - สูง และถ้าเรารณรงค์ให้มีอุปกรณ์เหล่านี้ทุกคัน บริษัทรถยนต์ไม่มีปัญหาหรอกครับ มันก็แค่ไปเริ่มรุ่นต่ำสุดในรุ่นกลาง ๆ เท่านั้นเอง เหมือนกับ Jazz MC ปี 10 ไงล่ะ เริ่มต้นรุ่นต่ำสุดที่ 590,000 บาท แล้วถ้าทุกยี่ห้อทำแบบนี้หมด ก็จะมีลูกค้าอีกกลุ่มที่ขอให้ผลิตรุ่นที่ราคาถูกกว่านี้หน่อย แต่ตัด Airbag Abs ออก ซึ่งมันก็กลับมาสู่ปัจจุบันไง จากคุณ : The Greatest บัตรผ่าน" ผมเน็ดคุง ไม่ใช่เน็ตคุงครับ คุณ The Greatest เข้าใจผิดไปกันใหญ่แล้ว แล้วไม่ได้อ่านที่ผมเขียนให้รู้เรื่องเลย ! พวกกลุ่ม Airbag และ ระบบความปลอดภัยต่างๆ มันเป็นอุปกรณ์ common ใช้ร่วมกับรุ่นอื่นๆ ได้ ดังนั้น มันไม่ได้แพงมากมายอะไรเลย หนำซ้ำ ยังสามารถ จับเอา Airbag หลายๆ ลูกมาใส่มากกว่าแค่คู่หน้าได้สบายๆ พวกนี้อุปสรรคของ ตัวมันไม่ได้อยู่ที่ราคา แต่มันอยู่ที่ การจัดโครงสร้างของการขายตัวสินค้า รุ่นล่างห้ามมีอุปกรณ์ต่างๆ เหล่านี้ ไม่ใช่เพราะต้นทุน แต่เป็นการจำกัดเพื่อให้ คนจำเป็นที่จะต้องซื้อรุ่นท๊อป หรือรุ่นบนๆ เท่านั้น ซึ่งรายได้หลักๆ ของบริษัท รถก็คือการที่สามารถขายรถรุ่นบนๆ ได้ รถรุ่นล่างเค้าไม่ค่อยได้กำไรกัน ดังนั้น option เป็นเพียงตัวหลอกล่อให้คนต้องซื้อรุ่นบน ไม่ใช่ตัวที่ทำให้รถแพง คุณ เข้าใจผิดกันไปใหญ่แล้ว ส่วน Jazz รุ่นล่างนั้น การขยับราคาขึ้นไป นั้นไม่ใช่เรื่องของการเพิ่ม option เลย ! อันดับที่หนึ่งมันเป็นเรื่องของการหลีกทางราคาให้มีระยะห่างจาก Brio รุ่นท๊อป อันดับที่สองในเมื่อ Brio จำเป็นที่จะต้องใส่ ABS EBD มาตั้งแต่รุ่นล่างสุดเพื่อขจัดข้อด้อยในส่วนอื่นๆ ของตัวรถ ดังนั้นต่อไปนี้ รถของ Honda ทุึกรุ่นมีแนวโน้มที่จะต้องใส่ ABS Airbag มาให้ตั้งแต่รุ่นล่างสุดอย่างแน่นอน แต่ Honda ก็เตรียมบวกราคาขึ้นไปอย่างแรงด้วยเช่นกัน ทั้งๆ ที่ไม่มีความจำเป็น ต้องขึ้นราคาเลย แต่ก็เป็นเพียงการรักษาโครงสร้างของผลิตภัณท์เท่านั้น จากคุณ : เน็ดคุง เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 54 08:54:52

ความคิดเห็นที่ 39 อยากให้ขายรถให้คนไทยถูกลงด้วยมากกว่า เอาให้เหมือนที่ญี่ปุ่น อเมริกา ยุโรป รุ่นเดียวกัน ราคาเดียวกันหรือบวกลบ 10 - 30 % ก็พอ ไม่ใช่ราคาต่างกัน 200 - 300 % เช่นทุกวันนี้ รถที่ขายดีๆ ส่วนมาก คนซื้อก็มนุษย์เงินเดือนทั้งนั้นครับ ขออะไรดีๆคืนแก่มนุษย์เงินเดือนบ้าง ภาษีก็เสียให้ประเทศแล้วนะ จากคุณ : tsubasa-1974 เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 54 09:04:51

ความคิดเห็นที่ 40 ขี้เกียจอ่านแล้วว่ะเบื่อพวกรถเทพกับคนขับอวดดี อยากดัดกานใช้รถด้อยคุณภาพตามใจครับ ถ้าเก่งกันมากนักเวลาจะชนช่วยรู้ตัวหักไปหาเสาไฟฟ้าหรือต้นไม้ตอหม้อนะจะได้ไม่เอดร้อนคนอื่นเค้า คงไม่เหลือบ่ากว่าแรงกับพวกเทพนะครับเก่งกันเหลือเกินนี่ สำหรับเน็ดคุงสู้ต่อไป คนช่างคิดช่างพิจารณาอย่างคุณจำเป็นอย่างมากในสังคมไทยที่มีแต่เฮโลตามกันไม่มีเหตุผล แนวคิดของคุณถูกต้องแล้ว จากคุณ : ex เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 54 09:34:51 A:202.149.29.81 X: TicketID:329203

ความคิดเห็นที่ 41 เห็นด้วยครับ แต่ว่าต้องให้มันทุกยี่ห้อ ให้มันเท่าเทียมกัน อันนั้นจะดีมาก การยกเอากรณีของ brio ขึ้นมาเป็นประเด็นนำ แม้ส่วนนั้นจะยกมาจากหนังสือ แต่ว่า ไม่ได้ยกของคู่แข่งมาแจงเพิ่มเติม เพื่อให้เห็นว่าต้องการจะให้เกิดกระแสดการรวมกลุ่มที่เรียกร้องเพื่อผลประโยชน์ของผู้บริโภคจริงๆ มันเลยทำให้รู้สึกว่า เป็นการโจมตี จากคนที่ไม่ชอบรถ ฮอนด้า ไป เจตนาดีๆก็เลยมองไม่เห็น เห็นแต่การยั่วยุแทน ตรงนี้ฝากไว้ด้วยนะครับ ปล.ที่บ้านใช้ civic กับ city แต่กำลังจะเก็บตังค์ซื้อ นิสสัน มาร์ช จากคุณ : kuromonkey เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 54 13:41:08

ความคิดเห็นที่ 42 ผมขอค้านคนที่เห็นว่าให้ความสำคัญกับคนขับมากกว่าอุปกรณ์เสริมความปลอดภัย... แน่นอนว่าการให้ความรู้เรื่องการใช้อุปกรณ์เสริมความปลอดภัยเป็นสิ่งจำเป็น และควรที่จะมีการโปรโมตทางสื่อให้รู้ทั่วกันไป... แต่การฝึกคนขับให้เก่งเทพทุกตัวคนนั้นเป็นไปได้ยาก แค่แฟนผม ผมก็จนปัญญาแล้ว... อ้อ...แล้วขอดักหน้าไว้ก่อนว่า อย่าได้ออกความเห็นประมาณว่าถ้าขับไม่เทพพอ อย่าได้ริขับรถออกถนนเดียวกับตรู หยั่งงี้เชียวนา... จากคุณ : pae2010 เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 54 16:12:26

ความคิดเห็นที่ 43 ตั้งราคา + กำหนดรุ่นแบบนี้ มันแทบจะมัดมือชกให้ซื้อรุ่นแพงสุด แต่ดันไม่ติดใบปัดน้ำฝนหลังมาให้ อย่างนี้ เจตนาไม่ดีนะครับ เห็นแก่ได้ เห็นแก่ตัว ผมอ่านเจตนาฮอนด้าแบบนี้ ผมก็ไม่คิดจะเป็นลูกค้าอีกต่อไปแล้วล่ะครับ จากคุณ : ฟหกด เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 54 17:31:19 A:58.137.115.70 X: TicketID:082000

ความคิดเห็นที่ 44 ม่ายช่ายอย่างน้านนนน เน็ดคุง (สะกดถูกแล้วนะ) คือผมหมายถึง 2 ประเด็น 1) ประเด็นแรก ผมจะยกตัวอย่าง ถ้ายังจำกันได้ Altis ปี 2001 มันมีรุ่นต่ำสุดคือรุ่น J มีทั้ง M/T A/T ซึ่งรุ่นนี้ มีให้ทั้ง Airbag และ ABS เครือง VVTI อุปกรณ์ไฟฟ้าครบชุด ทั้งพวงมาลัยพาวเวอร์ กระจกไฟฟ้า เซ็นทรัลล็อค แต่.... ไม่มีลายไม้ ไม่มีสเกิร์ตข้าง เบาะผ้าสีเทา แม็กขอบ 14 กระจังหน้าไม่ชุบโครเมี่ยม เชื่อไหมว่า ลูกค้าบ่น บอกว่ารุ่นนี้ห่วย ไม่มีออปชั่นอะไรเลย !!!!! และเป็นรุ่นที่ขายได้น้อยมาก ๆ ๆ เพราะในราคาที่เท่า ๆ กัน ลูกค้าไปซื้อ Honda Civic Dimension รุ่น 1.7 EXI ที่ไม่ใช่เครื่องวีเทค ไม่มี Airbag และ ABS เพียงแต่ Civic Dimension ตัวต่ำสุดรุ่นนี้ ตกแต่หน้าตาสวยเหมือน ๆ กับรุ่น VTI โดยที่ราคา Civic ตัวต่ำสุดรุ่นนี้เท่า ๆ กับ Altis J grade สรุป Airbag + ABS มันเป็นสิ่งที่มองไม่เห็น ในงบที่เท่ากัน บริษัทรถยนต์ไปจัดรุ่นย่อยโดยใส่่สเกิร์ต สปอยเลอร์ แม็ก 16 นิ้ว เท่ห์ ๆ ดูเหมือนว่าลูกค้าจะชอบซะมากกว่า 2) ประเด็นที่สอง ผมยกตัวอย่าง Civic ก็ละกัน ซึ่งปัจจุบันมีการแบ่งรุ่นย่อยดังนี้ 1.8S M/T 754,000.- 1.8S A/T 794,000.- 1.8S A/T AS (Airbag + ABS) 836,000.- 1.8E (Airbag + ABS) 914,000.- 2.0 (Airbag + ABS) 1,051,000.- ซึ่งจะเห็นได้ว่า รุ่นเริ่มต้นที่มีอุปกรณ์ (Airbag + ABS) 836,000.- ต่างจากรุ่นที่ไม่มีอยู่ 42,000.- ถ้าสมมุติว่า มีกฏบังคับให้รถทุกคันต้องมี Airbag + ABS คิดเหรอครับว่า Honda จะขาย Civic รุ่น 1.8S M/T ที่มี Airbag + ABS ในราคา 754,000.- ผมคิดว่า line up มันจะออกมาเป็น 1.8S M/T AS (Airbag + ABS) 796,000.- (+ 42,000.-) 1.8S A/T AS (Airbag + ABS) 836,000.- 1.8E (Airbag + ABS) 914,000.- 2.0 (Airbag + ABS) 1,051,000.- แนวนี้ซะมากกว่า ซึ่งบริษัทรถยนต์ย่อมไม่ตัดลดกำไรแน่ ๆ แต่มันจะเป็นการตัดทางเลือกของลูกค้า อย่างพวกเรา ๆ ซะมากกว่า จากคุณ : The Greatest บัตรผ่าน เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 54 21:34:42 A:110.168.116.54 X: TicketID:102965

ความคิดเห็นที่ 45 ^ ^ ^ ที่ Honda/Toyota ทำแบบนั้นได้ เพราะว่ากลไกตลาด ยังมีสภาพเหมือนกับว่า พวกรุ่นที่มีระบบความปลอดภัยครบ จะต้องเป็นรุ่นแพงครับ พลอยทำให้คิดว่ามันเป็น part ที่แพงไปด้วย และแทบทุกค่ายก็เอาประเด็นนี้ ไว้เป็นมุขสำหรับการทำให้คนส่วนนึงที่แคร์เรื่องความปลอดภัย ต้องซื้อรถบนๆ อันเป็นแหล่งกำไรของค่ายรถ เมื่อถึงเวลาที่ทุกยี่ห้อถูกกดดันจนต้องติดตั้งสิ่งเหล่านั้นออกมา ไม่ว่าจะด้วยกฎหมาย หรือด้วยกระแสสังคมก็ตาม ถึงตอนนั้นจะไม่มีค่ายไหน ที่กล้าตั้งราคากับอุปกรณ์เหล่านั้นแพงเกินความเป็นจริงแล้วครับ เพราะมุขการ ไม่ใส่อุปกรณ์พวกนี้เป็นมุขที่มีไว้สำหรับการทำเพื่อให้คนซื้อรุ่นสูงๆ เท่านั้น หากทุกๆ ค่ายใส่อุปกรณ์พวกนั้นจนเป็นเรื่องปกติ ก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องตั้ง ราคาขายเกินจริงให้กับรุ่นล่างสุดที่มีอุปกรณ์พวกนั้นครบแล้ว เพราะที่แท้จริงแล้ว part พวกนี้มันไม่แพง ถ้าเกิดจะตั้งราคาแพง ทั้งๆ ที่ทุกรุ่นในตลาดก็ใส่มา มันก็ไม่มีประโยชน์อะไร ซ้ำร้ายจะทำให้ยอดขายแย่ลง ผลของการใส่อุปกรณ์ความปลอดภัยมาครบทุกรุ่นทุกค่าย จะไม่ทำให้ราคารถ แพงขึ้นเพราะมันเป็นสิ่งที่ต้องทำ และไม่อาจเอาเรื่องนี้มาเป็นมุขต่อรองให้ ลูกค้าซื้อรุ่นสูงๆ อีก แต่มันจะเป็นสิ่งที่จะทำให้ค่ายรถยนต์ในเวลานั้นจะเริ่มหา มุขใหม่ๆ เช่น การมี cruise control หรือ air auto ในรุ่นสูงๆ มี glasss roof หรือมี ระบบ hitech อื่นๆ เพิ่มเข้ามา เพื่อที่จะต้องการให้ลูกค้าซื้อรถที่รุ่นราคา แพงให้จงได้ ดังนั้นบ้านเราตอนนี้เหมือนกำลังนับหนึ่ง ถ้าไม่ฝ่าฟันเรื่องตรงนี้ ให้ผ่านไปให้ได้ ค่ายรถก็คงยังเอามุขอุปกรณ์และระบบความปลอดภัยแบบนี้ มาเป็นตัวหลอกล่อต่อไป แทนที่จะหันไปเอา technology ขั้นสูงเข้ามาให้เราใช้ แบบนี้เท่ากับว่าเรานั้นเสียโอกาส, ค่ายรถไม่มีความจริงใจ, และทำกับพวกเรา เหมือนเป็นประเทศโลกที่ 3 ครับ จากคุณ : เน็ดคุง เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 54 22:45:11

ความคิดเห็นที่ 46 ตอบ คห 41 ถูกต้องครับผมเน้นที่ Brio เพราะว่า Honda คือ brand ที่มีคนรักมากมาย ดังนั้น ผมจึงไม่อยากให้คนเหล่านั้นมองข้ามเรื่องนี้ และผมอยากให้พวกเค้าร่วมกันบอก Honda ด้วยกันว่า "ค่ายรถควรจะมีความจริงใจมากกว่านี้ และไม่ควรเอาเปรียบแม้ว่า คุณจะเป็นยี่ห้ออะไรก็ตามครับ" ก่อนที่จะลง ผมได้คิดแล้วหลายตลบว่า จะำทำดีหรือไม่ ลงดีรึเปล่า ทำไปแล้วได้ อะไร สรุปสุดท้ายก็ตัดสินใจเอามาลงเพราะว่า Brio คือหนึ่งในจุดเปลี่ยนที่สำคัญ ที่ไม่อาจไม่พูดถึงได้ครับ จากคุณ : เน็ดคุง เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 54 22:50:17

ความคิดเห็นที่ 47 GO SO BIG ขอยกตัวอย่างง่ายๆ เห็นชัดๆ ไม่ต้องเป็นอุปกรณ์วิเศษเลิศหรูอลังการอะไรมากมาย แค่เบาะรองศรีษะสำหรับเบาะหลัง รู้กันหรือเปล่าว่ามันสำคัญอย่างไร รถบางรุ่นผลิตในประเทศไทยด้วยซ้ำ กลับไม่มีหมอนรองศรีษะที่เบาะหลังให้ แต่รุ่นที่ส่งเมืองนอกทุกรุ่นมีให้เป็นมาตราฐาน เพราะว่าประเทศอื่นเค้าระบุไว้ในกฏหมายเลย ว่าเบาะหลังต้องมีหมอนรองศรีษะเพื่อความปลอดภัยขณะถูกชนด้านหลัง จากคุณ : vespa744 เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 54 23:05:13

ความคิดเห็นที่ 48 ^ ^ ^ เหมือนว่าคนเค๊าเริ่มจะ์ลืม ๆ เรื่องนี้กันไปแล้ว รูปซ้ายคือรถที่ขายในบ้านเรา ส่วนรูปขวาคือรถส่งออก สังเกตอีกจุดคือ จะไม่มีแผ่นพลาสติกปิดบริเวณชายบันไดของประตูหลัง ทั้งรุ่นส่งออกและรุ่นที่ขายในบ้านเรา ซึ่งชิ้นนี้แม้ไม่ใช่เป็นอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง กับความปลอดภัย แต่เป็นชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้องกับความคงทนของรถ เพราะมันจะช่วยป้องกันไม่ให้ตัวถังรถมีรอยถลอกจากการขนของเข้าออกจากรถ แล้วมันก็จะทำให้ตัวถังรถเป็นสนิมในที่สุด แม้ว่าพลาสติกชิ้นนี้อาจจะไม่ใช่ชิ้นส่วนที่สำคัญอะไรมากมาย แต่ก็ชี้ให้เห็นถึงการลดต้นทุนของนิสสัน ที่ในความเป็นจริงแล้วยังมีอีกหลาย ๆ จุดที่นิสสันตัดทอนมันลง และด้วยเหตุนี้เองที่ทำให้ผมคิดว่ามาร์ชเป็นรถที่เกรดต่ำกว่า บีคาร์อื่น ๆ ในตลาด และราคาที่ตั้งไว้ต่ำกว่า จึงเป็นเพียงความคุ้มค่าที่ทำได้อย่างมากก็แค่สมราคา ไม่ใช่ถูกและดีจนเกินราคา แถมแอบแพงเกินตัวในบางรุ่นด้วยซ้ำ (ตรงนี้ย้ำว่ายังมีอีกหลายส่วนหลายชิ้นนะครับที่นิสสันตัดออก ไม่ใช่แค่พลาสติกชิ้นนี้ชิ้นเดียวเดี๋ยวจะมีคนมาว่า แค่ไม่มีพาร์ทชิ้นเดียวก็ว่าเกรดต่ำกว่ารถอื่นแล้ว) และหากลูกค้าอย่างพวกเราไม่ใส่ใจเรื่องพวกนี้ ต่อ ๆ ไปบริษัทรถยนต์อื่นก็จะเริ่มเรียนรู้ และตัดสิ่งละอันพันละน้อยพวกนี้ออกไป ตรงนี้เน้นย้ำนะครับว่าชิ้นส่วนชิ้นนี้ ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องของอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยนะครับ เพียงแต่อยากชี้ให้เห็นว่าจุดเล็ก ๆ เหล่านี้ที่่หลาย ๆ คนไม่ได้คิดถึงมัน ซึ่งมันอาจจะถูกในแง่ที่ว่า มันไม่ได้มีความสำคัญมากมาย ไม่มีก็ได้ ซึ่งความคิดแบบนั้นนั่นแหละที่จะทำให้บริษัทรถยนต์จะถอดสิ่งเหล่านี้ออกในรุ่นต่อ ๆ ไป จากคุณ : The Greatest บัตรผ่าน เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 54 06:27:42 A:110.169.254.34 X: TicketID:102965

ความคิดเห็นที่ 49 ดีครับ เอาไปใส่ไว้ในกลุ่มต่อต้าน... เลย ซึ่งของพวกนี้ ถ้าไม่ปลอดภัยก็ต้องโดน หมด March ก็จะโดนมิใช่น้อยเช่นกันครับ จากคุณ : เน็ดคุง เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 54 11:13:55

ความคิดเห็นที่ 50 เนทคุงปัญญาอ่อนสิ้นดี จากคุณ : กร เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 54 19:48:27 A:124.122.213.244 X: TicketID:327026