ความคิดเห็นที่ 1 โดยส่วนตัว ผมไม่อยากให้เอาเงินที่รัฐควรจะมี ควรจะได้นั้น หายไปเฉยๆ แถม เอาประโยชน์ โยนไปให้เอกชน จากคุณ : สยึมกึ๋ย เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 54 21:46:24

ความคิดเห็นที่ 2 การได้คืนภาษี จำเป็นจะต้องกู้กับไฟแนนซ์ไหมครับ กู้กับสหกรณ์ได้ไหม หรือซื้อเงินสด ได้ไหม จากคุณ : ยุมปี เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 54 21:55:22

ความคิดเห็นที่ 3 คุณหยึ๋ม ส่วนตัวผมก็ไม่ค่อยเห็นด้วยกับเรื่องประชานิยมในลักษณะนี้ครับ เพียงแต่ตอนนี้ ทางรัฐบาลได้มีมติ ครม. ในเรื่องนี้ไปแล้ว ซึ่งก็จะต้องปฏิบัติตามมติครม. รวมถึงทำตามนโยบายที่เคยหาเสียงไว้ แต่ตอนนี้ผมคิดว่าผู้รับผิดชอบคงหัวหมุนกันอยู่กับกระแสการกดดันของ ผู้ประกอบการรถยนต์รายต่าง ๆ ผู้รับผิดชอบเองก็ยังไม่แน่นอนในเรื่องนโยบาย เกิดความสับสนไปทั้งผู้ซื้อ ผู้ขายไปตาม ๆ กัน เมื่อเช้าท่านรัฐมนตรีก็ออกมาขอความเห็นผประชาชนกันอยู่ เลยอยากทราบว่า ท่านคิดว่ารัฐบาลควรตัดสินใจกันอย่างไรดี จึงจะเหมาะสมกับแนวคิดของนโยบาย และไม่ก่อให้เกิดการได้เปรียบ และเสียเปรียบของผู้ประกอบการครับ จากคุณ : dxxa เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 54 21:57:13

ความคิดเห็นที่ 4 คคห 2 การขอคืนภาษีจะคืนจากภาษีสรรพสามิตที่เรียกเก็บจากผู้ประกอบการ ที่ราคาหน้าโรงงาน โดยภาษีสรรพสามิตรจะรวมอยู่ในราคาขายอยู่แล้วครับ ซึ่งนโยบายตอนนี้ที่ออกมาคือผู้ซื้อ ไม่ว่าจะซื้อเงินสดไม่ว่าจะเป็นเงินออม หรือโดยการกู้จากสหกรณ์มาชำระ หรือทำสัญญาลีสซิ่งกับไฟแนนซ์ ถ้าหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ครบเงื่อนไข ก็จะขอคืนภาษีได้ครับ จากคุณ : dxxa เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 54 22:01:51

ความคิดเห็นที่ 5 ขอบคุณครับ เดี๋ยวต้องไปคุยกับสหกรณ์อีกรอบ จนท.ให้ข้อมูลบอกผมว่าไม่สามารถเพราะเป็นการกู้กับสหกรณ์ แต่ถ้าได้จริงๆจะดีมากเลยเพราะสหกรณ์ผมกู้ได้ 100% สูงสุด 10 ปี แถมลดต้นลดดอก ด้วย *** สหกรณ์ของบริษัท ครับ จากคุณ : ยุมปี เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 54 22:06:23

ความคิดเห็นที่ 6 @5 กู้สหกรณ์ดอกเบี้ยจะถูกกว่าไฟแนนท์หรอครับ ลองคำนวนดี ๆ นะครับ จากคุณ : Phak Phoom เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 54 22:10:00

ความคิดเห็นที่ 7 ตอนนี้เหลือคำนวณครับ ข้อดี 1 กู้ได้ 100% 2 กู้ได้ยาวนาน 10 ปี แต่คงกู้ไม่ถึง 3 ลดต้นลดดอก 4 โปะได้ตลอด ซึ่งส่วนตัวมีแนวโน้ม จะโปะ น่าจะปีละ ประมาณ 1 แสนบาท จากคุณ : ยุมปี เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 54 22:18:15

ความคิดเห็นที่ 8 ถ้านโยบายใ้ด ไ้ด้่ผ่านการศึกษาแนวทาง ข้อดี-ข้อเสียมาอย่างดี และได้มีจุดประสงค์ที่แน่วแน่ นโยบายนั้นๆ ย่อมจะไม่มีปัญหาที่ต้องมาตามแก้ไขทีละเล็กทีละน้อยตลอดเวลา จากคุณ : หมอก้อนหิน เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 54 22:25:58

ความคิดเห็นที่ 9 ถ้าจะเอาอย่างท่านว่าจริงๆ กับนโยบายนี้ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ผมมองว่า ... น่าจะแก้กฎใหม่นิดหน่อย ๑. รถต้องราคาไม่เกิน ๕๐๐,๐๐๐ บาท ๒. ประกอบในประเทศ สำหรับผู้ประกอบการ เอาไปสองข้อนี่ก็พอแล้วมั้ง ที่เหลือกฎก็ ตามที่กระทรวงคมนาคม กับกระทรวงพานิชย์กำหนดแล้วกัน ว่า รถคันหนึ่ง ต้องมีอะไรบ้าง ส่วนจะมีกี่สูบ กี่ซีซี เรื่องของแก ถ้าเป็นบริษัท แล้วทำให้เข้าเกณฑ์ไม่ได้ ผมว่า อย่าขายเลย มัน แสดงถึงความไร้ความสามารถเกินไป ส่วนที่กำหนดราคารถเท่านี้ เพราะว่า ไหนๆ รถก็ต้องสนับสนุนอยู่ แล้ว ก็สนับสนุนแต่พอตัวก็พอแล้ว สนับสนุนรถแพงไปเพื่ออะไร จากคุณ : สยึมกึ๋ย เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 54 22:28:27

ความคิดเห็นที่ 10 ยี่ห้อฝาหรั่งจะขอ 1600 แถมอาจจะมีแถไป 1800 เหอๆ  เอาให้สนุกสนาน จากคุณ : TVIC_1408 เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 54 22:51:27

ความคิดเห็นที่ 11 น่าจะคืนตอนผ่อนหมดแล้ว จะได้ไม่ต้องมาตามแก้หนี้เน่า เดี๋ยวจะแบมือขอต่อ ไม่รู้จบ จากคุณ : คนบางแคแค่บ้างคน เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 54 22:58:13

ความคิดเห็นที่ 12 ข้อสามไปเลยจะได้จบไป หรือไม่ ก็ ยกเลิกมาตรการไปซะเลย เพราะตอนแรก 1500 cc. ก็ดีอยู่แล้ว กับแค่เอกชนรายเดียว ป่วนทั้งระบบ หรือมีหลายรายเรียกร้องไม่รู้ ตอนแรก ผมก็เห็นด้วยกับนโยบายนี้ครับ เนื่องจากไปดูที่โชว์รูม โตโยต้า มาเห็นยอดจองเป็นรุ่นประหยัดเกือบทั้งหมด รุ่นแพง รุ่นท็อป แทบไม่มีสักคัน คิดว่ามันคงน่าจะช่วยคนที่รายได้น้อยได้บ้าง ไม่ซีเรียสนะครับ รถมันจะเต็มถนน เพราะ ยังไงยอดมันก็พุ่งอยู่แล้ว อีกอย่างถ้าคิดว่าเป็นการส่งเสริมให้คนฟุ่มเฟือยนั้น คนทุกคนอยากมีรถเหมือนกัน คนที่พูดคำนี้ เกือบทุกคนที่พูดคือคนมีฐานะ มีรถใช้ คนที่ได้รับสิทธิใช้ไหม และ จะซื้อรถอยู่แล้วก็ใช้สิทธิทุกคน ไม่พูดถึงแต่พูดว่าจำเป็นต้องใช้รถแทน หากกลัวปัญหาเรื่องฟุ่มเฟือย หรือ จะเกิดปัญหาใช้เงินเกินตัวนั้น ถึงเวลาจะรู้กันเองครับ หากมีคนที่ มีรถ ถ้ามีเงินผ่อน แต่ไม่มีตังเติมน้ำมัน ก็อดใช้ มีตังผ่อนกับเติมน้ำมัน ไม่มีตังกินข้าว ก็คงต้องอดกิน ต้องบีบรัดชีวิตตัวเองก็คงต้องปล่อยเขาไป เพราะเขาเลือกแล้วสุดท้ายมันก็จะปรับตัวตามสภาพกันอยู่แล้วครับ จากคุณ : Ging2029 เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 54 23:33:04

ความคิดเห็นที่ 13 ผมว่านะ ถ้ารัฐบาลหาเสียงอะไรไว้ แล้วพอเข้ามาก็ไม่มีปัญญาจะทำให้ได้ตามที่หาเสียง แต่ไอ้ครั้นจะไม่ทำซะเลย ก็กลัวว่าประชาชนที่เลือกเข้ามาจะด่า เลยต้องรีบคิดวิธีอะไรต่างๆ ออกมา ซึ่งพอประกาศออกมาแล้ว  ก็ทำท่าจะเปลี่ยนอีก หาความแน่นอนมั่นใจให้ประชาชนไม่ได้ สุดท้ายก็กลายเป็นวุ่นวายอย่างนี้ ถ้างั้นก็ยุบสภา แล้วเลือกตั้งใหม่ไปเหอะ ! จากคุณ : เด็กข้างห้างฯ เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 54 01:01:19

ความคิดเห็นที่ 14 ไม่จำกัด CC ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท เหมือนรถกระบะไปเลย จะได้มีตัวเลือกเต็มที่ จากคุณ : FFK-KZ@Fiesta เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 54 04:24:08

ความคิดเห็นที่ 15 นโยบาย เปลี่ยนได้ทุกวันหละ จากคุณ : ....... (ดิรวัช) เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 54 07:02:31

ความคิดเห็นที่ 16 เวลาโปรโมชั่นมันน้อยไปหน่อย ปีเดียวก็หมดโปรฯ แล้ว จากคุณ : Haiyo เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 54 07:53:52 A:101.109.14.215 X: TicketID:319350

ความคิดเห็นที่ 17 เอาแบบ ..เฮ..ไม่มีโห่ ไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบ เอาอย่างนี้ดีไหม ปล่อยผีปีนึง ไม่ต้องจำกัดรุ่น  ซ๊ซ๊  ราคา  หรือคนซื้อ ใครมีปัญญาซื้อ.. เชิญ..ไม่มีข้อจำกัด แต่..ลดภาษี ..แสนเดียว..ต่อคัน ปล.ประชดนะครับ อย่าถือจริงจัง จากคุณ : yott เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 54 08:05:00

ความคิดเห็นที่ 18 เลือกทุก CC ไม่เกิน 1 ล้านแฟร์ๆไปเลย จากคุณ : ปกรณ์ (DDRW) เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 54 09:15:15

ความคิดเห็นที่ 19 ความคิดเห็นที่ 9   ถ้าจะเอาอย่างท่านว่าจริงๆ กับนโยบายนี้ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ผมมองว่า ... น่าจะแก้กฎใหม่นิดหน่อย ๑. รถต้องราคาไม่เกิน ๕๐๐,๐๐๐ บาท ๒. ประกอบในประเทศ สำหรับผู้ประกอบการ เอาไปสองข้อนี่ก็พอแล้วมั้ง ที่เหลือกฎก็ ตามที่กระทรวงคมนาคม กับกระทรวงพานิชย์กำหนดแล้วกัน ว่า รถคันหนึ่ง ต้องมีอะไรบ้าง ส่วนจะมีกี่สูบ กี่ซีซี เรื่องของแก ถ้าเป็นบริษัท แล้วทำให้เข้าเกณฑ์ไม่ได้ ผมว่า อย่าขายเลย มัน แสดงถึงความไร้ความสามารถเกินไป ส่วนที่กำหนดราคารถเท่านี้ เพราะว่า ไหนๆ รถก็ต้องสนับสนุนอยู่ แล้ว ก็สนับสนุนแต่พอตัวก็พอแล้ว สนับสนุนรถแพงไปเพื่ออะไร จากคุณ : สยึมกึ๋ย     เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 54 22:28:27   ถูกใจ : TVIC_1408, dxxa, ดิรวัช, ชัยนาม, Redrum, *380 Z เอาตามนี่ครับ แต่ราคาเป็น 550000 ส่วนถ้าจะซื้อรถราคาเกือบล้านได้ก็อย่าไปช่วยมันเลย มันไม่ใช่คนจนแล้ว จากคุณ : *380 Z เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 54 10:07:18

ความคิดเห็นที่ 20 จริงๆน่าจะครอบคลุมให้ไปถึงสองล้อเขาด้วย เพราะเอาเข้าจริงๆคนมีรายได้น้อยที่อาจจะมีเงินไม่ถึงที่จะซื้อสี่ล้อ แต่พอจะมีกำลังซื้อสองล้อได้ก็พอมี จากคุณ : Kt-Kw เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 54 10:31:35

ความคิดเห็นที่ 21 @13 เรื่อง 1500 1600 แค่นี้นะวุ่นวายถึงขนาดจะต้องยุบสภาเลือกตั้งใหม่ เรื่องแค่นี้ไม่เห็นเดือดร้ัอนอะไรเลย ใครซื้อก็ซื้อ ไม่สนก็ไม่ต้องซื้อ จากคุณ : Phak Phoom เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 54 20:49:53

ความคิดเห็นที่ 22 ผมเห็นด้วยกับคุณสยึมกึ๋ย ครับ 1. รถต้องราคาไม่เกิน 5๐๐,๐๐๐ บาท +/- นิดหน่อย 2. ประกอบในประเทศ แต่รัฐบาลท่านบอกว่า 1500 ซีซี ไปแล้ว คงต้องรวมไปด้วย งานนี้เลยยุ่งกันใหญ่เลย ผมเป็นห่วงภาวะเศรษฐกิจบ้านเราจัง กับนโยบาย ลด แลก แจก แถม .. จากคุณ : หนุ่มอัมพวา เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 54 21:29:08