ความคิดเห็นที่ 1 8 จังหวะหมายถึง ลูกสูบวิ่งขึ้นและลง8ครั้ง ฉีดน้ำเพียง 1 ครั้ง ครับ ถ้าความเร็วของเราอยู่ที่80km/ ล้อรถวิงเร็วเท่าไหร่ครับ แทนที่มอเตอร์จะหมุนล้แ ล้อกลับเป็นตัวหมุนมอเตอร์ เมื่อนั้นมอเตอร์จะหมุนด้วยความเร็วหลายเท่าตัว ทำให้ลูกสูบวิ่งเร็วมากจนวาล์วเปิดปิดไม่ทัน ผมเรียกมันว่าระบบลดความดันล้นเกิน ผมเคยขับแค่สปาร์คนาโน รู้สึกว่าเสียงมันเพี้ยนๆ ขาดๆหายๆไปจากตอนที่มันดันมากตอนแรกนะ ที่ความเร็ว 50km/h มันก็สั่นแล้วครับ แต่เราแช่มันไว้เสียงมันเปลี่ยน ผมเลยสงสัย จากคุณ : 1234 เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 54 23:44:54 A:182.53.126.86 X: TicketID:184507

ความคิดเห็นที่ 2 รอบมันก็ลดซิครับ จุดระเบิดน้อยลง ผมเข้าใจถูกไหม. คือคุณกำลังบอกว่า เครื่องมันหมุนเร็วจี๋ จุดระเบิดน้อยหน่อยก็ได้ เหรอ? จากคุณ : อ (อากง) เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 54 00:04:02

ความคิดเห็นที่ 3 มันจะไม่สึกหรอ มากเหรอครับ จากคุณ : super1199 เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 54 00:14:22

ความคิดเห็นที่ 4 เครื่องหมุนเร็ว และไร้แรงเสียดทาน(ฝืด)ในเครื่อง นะ จากคุณ : แแ เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 54 00:33:06 A:182.53.126.86 X: TicketID:184507

ความคิดเห็นที่ 5 จากกระทู้นู้น ลองตาม#27 ไปหาข้อมูลจากคนที่เคยทดลองมาก่อน น่าจะเพิ่มประสบการณ์ความคิด ได้อีกมาก..ยิ่งขับเร็ว ยิ่งประหยัด ขอให้สำเร็จทำนะครับ วงการมอ'ไซค์ จะได้พัฒนาไปอีก จากคุณ : 99 แม่กลอง เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 54 00:36:36

ความคิดเห็นที่ 6 ลองทำดูครับ ...แล้วจะได้เจอความรู้ที่เกิดจากการปฎิบัติ จากคุณ : หล้าเนื้อหุ้มเหล็ก เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 54 00:58:37

ความคิดเห็นที่ 7 คร่อมจังหวะก็ Backfire สิครับ ?? จากคุณ : foduck เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 54 06:33:17

ความคิดเห็นที่ 8 ช่วยคิดนะ..  จาก 4 เป็น 8 จังหวะ อีก 4 จังหวะ ที่ลูกสูบวิ่งเปล่าๆ วาวล์ มีจังหวะการทำงานอย่างไรครับ ต้องอัดอากาศเปล่าๆงั้นหรือครับ ? ความร้อนมันจะเพิ่มขึ้นจากอากาศที่โดนอัดไหม? หรือถ้าวาวล์เปิดค้างในจังหวะอัดนั้น รถจะมีแรงได้อย่างไร ? * ผมสงสัยจริงๆนะ ^^" จากคุณ : กาละมังบิน เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 54 06:36:06

ความคิดเห็นที่ 9 http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X11106792/X11106792.html#19 แปะดูดิ๊ จากคุณ : กาละมังบิน เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 54 06:39:58

ความคิดเห็นที่ 10 เรื่องเครื่องกลผมไม่มีความรู้เลยครับ สงสัยคงต้องขอเวลาไปหาอ่านศึกษาข้อมูลก่อนสักพัก  เพราะเมื่อกี้ลองเปิดอ่านดูหลักการทำงานของเครื่องยนต์เชิงลึกแล้วยังงง ๆ อยู่ ช่วงนี้งานเยอะไม่ค่อยมีเวลาเลยอ่านแค่คร่าว ๆ เอาไว้ว่าง ๆ มีเวลาจะกลับไปอ่านและทำความเข้าใจอีกที   ขออภัยที่ไม่ได้ช่วย จขกท เลย  = =' จากคุณ : แป๊ะปากซอย เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 54 07:00:18

ความคิดเห็นที่ 11 ไม่ขอตอบปัญหาคุณนะครับ แต่จะเข้ามาบอกว่าเครื่องยนต์6จังหวะเขาคิดได้แล้วครับ และคิดว่าบริษัทใหญ่ทั้งหมดทำได้ครับ แต่ผลิตเมื่อไหร่ไม่รู้ครับ จากคุณ : ลำไพล47 (ลำไพล47) เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 54 07:56:14

ความคิดเห็นที่ 12 ไม่มีความรู้เหมือนกัน. แค่สงสัย. ถ้า  กลายเป็นล้อหมุน  พา ข้อเหวี่ยงหมุน ตาม  เพราะ รอบข้อเหวี่ยงจุดระเบิดไม่ทัน ต้องไปแก้ ให้จุดระเบิด.. คร่อมจังหวัะ อะไรแบบนั้น. ลองหาวิธีแก้ง่ายกว่า. ไปแก้ที่ "อัตราทด"  ได้ไหม. ถ้าข้อเหวี่ยงมันหมุนเร็วเกิน ต้องหมุนตามล้อ.. ก็เพิ่มอัตราทดเข้าไปเรื่อย ๆ .   ให้ ข้อเหวี่ยง หมุนช้า ลง  เป็นพาล้อหมุน อาจจะมีเกียร์ 7  8   9   10    ไปนู้นน   "จะง่ายกว่าไหม" จากคุณ : Mr-32 เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 54 07:58:51

ความคิดเห็นที่ 13 มันมีแรงเฉื่อยจากฟลายวีลมามั้งครับพี่ อย่างรถเก๋งสมัยใหม่วิ่งๆอยู่พี่ปล่อยคันเร่ง มันก็ตัดน้ำมันแล้วก็ไม่เห็นเครื่องมันดับอะไร เพราะมันก็ยังหมุนอยู่น่ะครับ อันนี้ถ้าเราวัดว่าเครื่องมันเดินเพราะมันหมุนเชิงกลอยู่นะครับ แต่สงสัยว่าในมอเตอร์ไซด์มันมีทำอย่างนั้นหรือเปล่าครับ จากคุณ : ลองดู เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 54 08:02:37 A:180.214.216.58 X: TicketID:008482

ความคิดเห็นที่ 14 ทดสเตอร์หลังให้เล็กลง จากคุณ : Atomos'Bao เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 54 08:11:20

ความคิดเห็นที่ 15 ปกติเครื่องเล็กสี่จังหวะทั่วไป มันจะจุดหัวเทียนทุกครั้งที่ลูกสูบอยู่ตำแหน่งทอปเดด แล้วการไปลดจังหวะการจุด เท่าที่นึกดูไม่ได้มีข้อดีอะไรเลยสักนิดเดียว แต่ข้อเสีย เพียบครับ จากคุณ : *380 Z เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 54 08:19:29

ความคิดเห็นที่ 16 ลองปั้นจักรยานที่ความเร็วสัก 40 Km/hr ดู จากนั้นยกขาออกจากตัวถีบให้บันไดถีบ หมุนสองรอบเราก็ถีบลงไป1ครั้งโดยใช้แรงเท่าเดิม ถ้าความเร็วยังคงที่ หลักการของ จขกท.ก็ใช้ได้  แต่ผมว่าเป็นไปไม่ได้ จากคุณ : mi_max เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 54 08:52:01

ความคิดเห็นที่ 17 ใส่ flywheel  ตัวเป้งๆ แบบ คูโบต้า ถึงจะทำได้น่ะ จากคุณ : ก้นกบ เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 54 08:59:05

ความคิดเห็นที่ 18 คียคำสั่งในกล่องหัวฉีดน้ำมัน ให้ฉีดคล่องจาก 4จังหวะเป็น 8จังหวะ เมื่อความยุที่ 120km 8เป็น 12จังหวะ 140 km 12 เป็น 20จังหวะ ผมลองสร้างเงื่อนไขตามที่เจ้าของกระทู้ว่ามานะครับ ความเร็ว 1-119 ฉีดปกติ เครื่องหมุนสองรอบฉีดหนึ่งครั้ง ความเร็ว 120-139 ฉีดไม่ปกติ เครื่องหมุนสี่รอบฉีดหนึ่งครั้ง ความเร็ว 140-top speed ฉีดไม่ปกติ เครื่องหมุนหกรอบฉีดหนึ่งครั้ง ขยายความ ความเร็ว 1-119 ฉีดปกติ เครื่องหมุนสองรอบฉีดหนึ่งครั้ง ดูด อัด ระเบิด คาย    ฉีด 1 ครั้งช่วงจังหวะดูด ความเร็ว 120-139 ฉีดไม่ปกติ เครื่องหมุนสี่รอบฉีดหนึ่งครั้ง ดูด1 อัด1 ระเบิด1 คาย1   ดูด2 อัด2 ระเบิด2 คาย2 ฉีด 1 ครั้งช่วงจังหวะดูด1 ความเร็ว 140-top speed ฉีดไม่ปกติ เครื่องหมุนหกรอบฉีดหนึ่งครั้ง ดูด1 อัด1 ระเบิด1 คาย1   ดูด2 อัด2 ระเบิด2 คาย2 ฉีด 1  ดูด3 อัด3 ระเบิด3 คาย3  ฉีด 1 ครั้งช่วงจังหวะดูด1 จากคุณ : *380 Z เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 54 09:28:24

ความคิดเห็นที่ 19 สิ่งที่ได้รับจากการสัณนิฐาน ของเจ้าของกระทู้ ความเร็ว 120-139 ฉีดไม่ปกติ เครื่องหมุนสี่รอบฉีดหนึ่งครั้ง ดูด1 อัด1 ระเบิด1 คาย1   ดูด2 อัด2 ระเบิด2 คาย2 ฉีด 1 ครั้งช่วงจังหวะดูด1 ในจังหวะที่ 2 ไม่มีการฉีดน้ำมันมาผสมกับอากาศ ถึงจุดไปก็ไม่มีประโยชน์ไม่ระเบิดเพราะไม่มีน้ำมัน สาเหตุที่ไม่ต้องฉีดน้ำมันเข้ามา เนื่องจากคิดว่าความถี่ในการจุดสูงเกินความจำเป็น กำลังงานที่ได้จากการจุดรอบก่อนหน้ายังเหลืออยู่พอ สิ่งที่ผมขัดแย้งคือ ในจังหวะที่สอง ถึงไม่จุดแต่ก็ต้องมีการอัดอยู่ดี เป็นการหน่วงการหมุนของเพลาข้อเหวี่ยง เสียแรงเฉื่อยไปนิดนึง แต่หากยืนยันว่าจะทำจริง ผมว่าเล่นที่กล่องคงลำบาก เพราะเซนเซอร์ยังเป็นชุดเดิมอยู่ จากคุณ : *380 Z เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 54 09:36:55

ความคิดเห็นที่ 20 เครื่องสั่น มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับจังหวะจุดระเบิดเลยนะ มันเรื่องของความสมดุลย์ล้วนๆ การที่คุณจะทำให้ข้อเหวี่ยงหมุนครบรอบได้ มันต้องมีการสร้างโมเมนตั้มของแรงเฉื่อย ซึ่งก็คือ balance ของข้อเหวี่ยงนั่นเอง  ถ้ามันใหญ่พอ มันก็จะดันลูกสูบที่มีแรงต้านจากความฝืดและแรงดันของอากาศที่ถูกอัดไปจนสุดได้ ถ้าไม่ใหญ่หรือหนักพอ มันดันไม่สุด เครื่องจะติดได้อย่างไร ทีนี้ถ้าเครื่องความจุสูง แรงฝืดมันก็เยอะ เขาก็ต้องทำให้มันหนัก พอมันหนัก มันก็จะมีแรงเหวี่ยงหนีศูนย์มาก ไอ้แรงเหวี่ยงหนีศูนย์นี่แหล่ะ ที่ทำให้เครื่องมันสั่น จากคุณ : SEPULTURA_FROM_HELL เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 54 09:39:59

ความคิดเห็นที่ 21 อภัย จขกท. ผมเข้ามาอ่านแต่แรกๆ แล้วผ่านไปเพราะปกติไม่ค่อยชอบตอบกระทู้ ที่เจ้าของไม่ได้ล็อคอิน ... แต่ อันนี้เห็นว่ามีประโยชน์ดี ...................................................................... ปกติ เครื่องยนต์ในปัจุบัน หัวฉีดแก๊สโซลีนจะฉีดน้ำมัน เข้าไปในท่อร่วมไอดีในจังหวะคาย ทีนี้ จขกท. ต้องการจะ "ฉีดคร่อม" หมายความว่า ฉีดแบบ cycle นึงแล้วเว้น cycle นึง ใช่มั้ยครับ เรื่องพวกนี้ ในวงการแข่งรถประหยัดเชื้อเพลิง เค้ามีทำกัน แต่อยากจะบอกไว้อย่างนึงว่า ยังไม่น่าจะเอามาใช้งานในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะ ใน กทม. ...ฮา ...................................................................................... การจะลดการจ่ายเชื้อเพลิง หรือ เล่นกับ การจุดระเบิดโดยไม่ " ทำ " อะไรกับ ตัวเครื่องเลย ผมว่า ไม่น่าจะเป็นไปได้ครับ จากทีสิดที่ถูกอ้างถึง เค้ามีสมมุติฐานว่า ใน 1 cycle ปล่อยไหลไป 1 cycle ยังไหว ................................................................................................... มาเข้าเรื่องเลย เอางี้ครับ 1. ต้องหา " ห้องพัก " ชั่วคราว ( ไม่ค้่างคืนนะ ...ฮา )ให้ ไอดี ในท่อร่วมไอดี แล้วสั่งให้ "แบ่ง" จ่าย 2 ครั้ง 2. ต้อง บอกกล่อง ECM ให้สั่งหัวฉีด ฉีดเว้นรอบ ( สมมุติชื่อรอบว่า 0 - 1 - 0 - 1 ) 3. ต้อง บอกกล่อง ECM ให้สั่งจุดระเบิด รอบเว้นรอบ ( สมมุติชื่อรอบว่า 1 - 0 - 1 - 0 ) 4. ต้องเซต ระบบส่งกำลังใหม่ ไปจนถึงล้อ 5. ต้องลดหรือเพิ่ม เวท ในกลไกเครื่องยนต์ เพื่อ ให้เครื่องเดินได้เป็นปกติ ............................................................................................... แนวนี้ใช่มั้ยครับ จขกท. ที่ท่านต้องการ ...ฮา จากคุณ : nasay เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 54 09:42:14

ความคิดเห็นที่ 22 ตามความเข้าใจผม ที่เคยแกะเครื่องมอไซค์ทั่วไป เซนเซอร์เพลาข้อเหวี่ยงมีแค่ตัวเดียว คือ 1 รอบ จับ 1 ครั้ง เท่ากับว่า ไม่ว่าจังหวะดูด หรือจังหวะระเบิด ก็มีการฉีดน้ำมัน ในจังหวะระเบิดก็มีการฉีด แต่เป็นการฉีดสะสมใว้ในท่อไอดี และ ไม่ว่าจังหวะอัด หรือจังหวะคาย ก็มีการจุดหัวเทียน ดั้งนั้นหากจะเล่นที่กล่องผมว่าหมดสิทธิ์ครับ ต้องเล่นที่เซนเซอร์ก่อน คือจากเดิมเซนเซอร์ที่เคยจับที่เพลาข้อเหวี่ยง ก็มาจับที่เฟืองแคมแทน เพราะที่เฟืองแคม ข้อเหวี่ยงหมุนสองรอบ เฟืองแคมหมุน 1 รอบ แก้ไขเมื่อ 24 ก.ย. 54 09:48:57 จากคุณ : *380 Z เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 54 09:48:10

ความคิดเห็นที่ 23 สังเกตดู ว่าเขาจะทำข้อเหวี่ยงใหญ่ด้านนึง เล็กด้านนึง เพื่อเอาไว้สร้างโมเมนตั้มที่ว่านี่แหล่ะ สังเกตุจากเครื่องที่สั่นสะเทือนมากๆ มักจะเป็นเครื่องที่ศุนย์เครื่องไม่ตรงแนวกัน คือพวกเครื่องวีทั้งหลาย เพราะถ้าเครื่อง inline แรงหนีศูนย์มันจะกระทำเป็นแนวตั้งฉาก คือขึ้นลง ซึ่งช๊อคอัพมันก็รับแรงสั่นสะเทือนไป มันเลยสั่นน้อย พวกเครื่องวี มันจะมีแรงหนีศูนย์ไปในทิศทางที่ช๊อคอัพไม่สามารถซับแรงได้ มันเลยสั่น ซึ่งจริงๆธรรมชาติของมันก็สั่นอยู่แล้ว ถ้าจะลดแรงสั่น ก็ไปทำเครื่อง inline ที่มีหลายสูบ แต่ cc สูงแทน เพราะสูบเยอะ ช่วงชักมันต้องสั้น ช่วงชักสั้น ข้อเหวี่ยงก็ไม่ต้องทำใหญ่ เมื่อไม่ใหญ่ แรงหนีศูนย์ก็ไม่มาก มันก็ไม่สั่น จากคุณ : SEPULTURA_FROM_HELL เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 54 09:51:09

ความคิดเห็นที่ 24 ให้มันหมุนฟรีเพื่ออะไรครับ หมุนฟรี = กำลังตก = วิ่งช้าลง = เดิมๆแต่ บิดน้อยลง หมุนฟรีต้องยกวาลล์ด้วยครับ ไม่งั้นก็เสียแรงไปอัดฟรีๆ ปัญหาน่าจะอยู่ที่ รอบสูงที่ความเร็วสูงๆนะ จากคุณ : theoneox เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 54 10:49:25

ความคิดเห็นที่ 25 เข้ามาดูอีกที...ชักเข้าท่า แชร์ไอเดียกันเยอะดี.. ที่ผมคิดอยู่ก็คือถ้าเราปรับลดจังหวะการจ่ายของหัวฉีดลง (มีหลายจังหวะมากขึ้น) แล้วเรายังใช้ระบบวาวล์เดิมๆ เราจะได้ของแถมเป็นเอนจิ้นเบรครึเปล่าครับ ?  มันจะวิ่งกันอีท่าไหนเนี่ย...? จากคุณ : กาละมังบิน เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 54 11:21:31

ความคิดเห็นที่ 26 เครื่อง inline มันไม่สะเทือนมากเท่าเครื่อง V เพราะเค้าออกแบบให้ลูกสูบทำงานสลับตำแหน่งกัน แรงเฉื่อยของลูกสูบจึง Cancel กันไป ถ้าเป็นเครื่อง V ต้องอาศัย Balance shaft มาช่วยปรับสมดุล เพราะไม่มีอะไรมา Cancel แรงเฉื่อยทางข้าง เครื่องสั่น จึงไม่เกี่ยวกับจังหวะจุดระเบิดที่มันเหมาะสมอยู่แล้ว การเพิ่มจังหวะฉีดน้ำมันให้มากขึ้น ในรอบการทำงานเดิมๆ ไม่น่าแก้ปัญหาการสั่นได้ เพิ่มจำนวนลูกสูบ จาก สูบเดียวเป็นสองสูบ inline ดีกว่าครับ ได้เพิ่มจังหวะฉีดสมใจเลยด้วย(เพิ่มในสูบที่สองไงครับ) จากคุณ : Ontjung เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 54 11:29:07

ความคิดเห็นที่ 27 ปัญหาข้อสอง เรื่องกินน้ำมัน ถ้าขนาดเครื่องยนต์เหมาะสมกับแรงม้าที่ใช้ในการวิ่งที่ 100 kph อยู่แล้ว จะทำให้ประหยัดขึ้นอย่างเห็นผล น่าจะเป็นการปรับปรุงแอร์โร่ไดนามิคส์มากกว่า ไปเพิ่มจังหวะฉีดอีก  ก็เผาไหม้ไม่หมด เหลือเป็นควันดำ ยิ่งเปลืองเข้าไปใหญ่เลยครับ จากคุณ : Ontjung เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 54 11:34:20

ความคิดเห็นที่ 28 จขกท.หายไปเลยแหะ.... แต่ชอบครับ ชอบกระทู้สาระแบบนี้ อยากให้มีเยอะ ๆ ผมเองไม่ค่อยมีความรู้เรื่องเครื่องกลสักเท่าไร พลอยได้สาระไปด้วย ขอบคุณทุกความเห็นไว้ด้วยครับ    ดีกว่ากระทู้ด่ากันไปกันมาเยอะแยะเลย  ไม่มีอะไรจะให้นอกจากให้กิ๊ฟทุกความเห็นเลยฮ็าฟฟฟฟฟ จากคุณ : แป๊ะปากซอย เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 54 11:56:34

ความคิดเห็นที่ 29 ***** ห้องโน้นก็อยากตอบให้ดีๆ หรอกครับ ถ้า สำนวนที่ จขกท ทั้งที่ตั้งและที่ตอบกลับไปนะ ทำแบบ คนดีๆ ที่อยากถามหาความรู้จริงๆ ไม่ใช่ประเภท ลูกสูบเคลื่อนที่ด้วย "ความเร็วแสง" ฯ แถม จะไปหาพวกกล่องแต่ง ซึ่งพวกที่ทำกล่องแต่งที่ขายกันตามท้องตลาดนั้น พื้นฐานองศาการจุดระเบิดทั้งหลายรู้จริงๆ ไหมละครับว่า น้ำมันแต่ละชนิดต้องการองศาการจุดระเบิดที่ดีที่สุดเท่าไหร่ รถแต่ละรุ่นมีองศาการจุดระเบิดเท่าไหร่ มีการเผื่อไว้เท่าไหร่ ฯ เอะอะอะไรก็ ไฟแก่แล้วแรงตลอด แบบนั้น อธิบายพื้นฐานจริงๆ ไปแล้ว จขกท จะรู้ไหมละครับ 666 ***** คิดแปลก คิดนอกกรอบเป็นสิ่งที่ดี แต่ "อย่างน้อย" ก็ต้องรู้ว่า พื้นฐานของระบบที่ว่าไม่ดีนั้นมีจุดอ่อนตรงไหนบ้าง ส่วนเครื่องยนต์ 6 จังหวะ ทำได้เป็นสิบๆ ปีแล้ว แต่ออกแบบสำหรับเรื่องลดมลภาวะเป็นหลัก โดยจังหวะที่เพิ่มขึ้นเป็นการไล่ไอเสียให้หมดเท่านั้นเองและแรงที่ได้ ก็ตกฮวบลงด้วยซ้ำไป 666 จากคุณ : monsungja เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 54 12:31:18

ความคิดเห็นที่ 30 รอน้าหยอย(เคี้ยงโมโต) มาตอบ จากคุณ : sompoch842 เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 54 14:59:06 A:14.207.225.94 X: TicketID:257848

ความคิดเห็นที่ 31 - รถเบา - เครื่องเล็ก ทำให้ต้องใช้รอบจัดมาทดแทน ทอร์ก มันก็ปกติแล้วนี่ครับ อยากได้ทั้งเบา ทั้งเครื่องเล็ก ทั้งแรงบิดแยะ ผมว่ามันผิดปกตินะ จากคุณ : คนมาบแค เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 54 17:29:09

ความคิดเห็นที่ 32 จขกท. หายไปนี่มีเคืองเลย ... จากคุณ : nasay เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 54 19:14:37

ความคิดเห็นที่ 33 ผมทำเครื่องยนต์แบบ6จังหวะและ8จังหวะไปจดลิขสิทธิ์ทรัพย์สินทางปัญญาไว้ที่กระทรวงพาณิชย์เมื่อเดือนตุลาคมปี42.......ผ่านมาได้13ปีแล้วครับ......สิ่งที่ผมได้มาก็คืออนุสิทธิบัตร...มีอายุคุ้มครอง10ปี....เสียค่าจดสิทธิบัตรไปเครื่องยนต์ละ500บาท......(2เครื่องก็1000บาท) หากต้องการจดสิทธิบัตรให้คุ้มครองได้20ปี....และคุ้มครองไปทั่วโลก ผมจะต้องเสียค่าตรวจสอบเอกสารจากทั่วโลกอีก2000บาท-และใช้เวลาตรวจสอบ6เดือน....ผมเห็นว่าเป็นการสูญเงินเปล่า+เสียเวลาเปล่า ก็เลยเอาแค่อนุสิทธิบัตรนี่แหละ จากนั้นก็เอาเครื่องยนต์ต้นแบบตัวนี้ไปอธิบายและขยายผลให้นักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคให้เข้าใจถึงวิธีการทำงานของมัน........ให้รู้ว่าเครื่องยนต์แบบ4จังหวะยังมีทางออกไปได้อีกหลายขั้นตอน(ในช่วงที่ผมไปสอนขับขี่ปลอดภัยให้กับนักศึกษาวิทยาลัยเทคนิค+สารพัดช่าง+วิทยาลัยการอาชีพทั่วประเทศ....ในช่วงปี42-50) ในช่วงนั้นธนาคารกรุงเทพฯให้การสนับสนุนกระทรงเกษตรฯโดยให้การบ้านเอาไว้สำหรับการพัฒนาเครื่องจักรกลต่างๆสำหรับใช้งานในเลือกสวนไร่นาให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด ผมเอาเครื่องยนต์8จังหวะนี้ส่งเข้าไปประกวดให้เป็นเครื่องยนต์สูบน้ำเข้าเรือกสวนไร่นาในอัตราการประหยัดลงไปอีก1เท่าของเครื่องยนต์แบบ4จังหวะ...ผลก็ปรากฏว่าเครื่องยนต์ตัวนี้ได้รับการคัดเลือกให้เป็นเครื่องยนต์เอนกประสงค์สำหรับชาวสวนชาวไร่ ได้รับการประกาศเกียรติคุณ1ใน10ของประเทศ.....ซึ่งทุกๆปีกระทรงเกษตรก็จะส่งจดหมายเชิญให้ผมประดิษฐ์เครื่องยนต์แปลกๆเพื่อส่งประกวดอยู่จนบัดนี้ เมื่อเครื่องยนต์นี้หมดอายุความคุ้มครองทางสิทธิบัตรไปเมื่อ2ปีที่ผ่านมา....ผมเลยเอาเครื่องยนต์ตัวนี้มารื้อทำใหม่...ให้เลิกใช้น้ำมันเชื้อเพลิง แต่หันมาใช้แรงอัดอากาศแทนการจุดระเบิด......ซึ่งมันก็สามารถให้รอบงานได้ดีอยู่ ผมกำลังนำเครื่องยนต์ตัวนี้ไปเสนอกับบริษัทฮอนด้า เพื่อพิจารณาให้นำมาจุดประกายความคิดสำหรับนักศึกษาในระดับปวช.-ปวส.ให้ช่วยกันต่อยอดออกไป-สำหรับใช้แทนน้ำมันเชื้อเพลิงในอนาคต....ผมเรียกเครื่องยนต์ตัวนี้ว่า Green Energy จะให้เป็นเครื่องยนต์พลังงานทางเลือก...... ที่เขียนมาให้อ่านกัน เพราะเห็นคุณเถียงกันแบบไม่ตรงประเด็น....หากอยากรู้รายละเอียด ผมก็จะอธิบายให้อ่านกันต่อไป......แล้วก็ใครอยากเห็นเครื่องยนต์อัดอากาศที่ผมทำทิ้งไว้3ปีแล้ว......แนะนำวิธีการแปะลิ้งค์เข้ามาให้ผมหน่อยซิครับ....ผมจะเอาเครื่องยนต์ฮอนด้าดรีมที่เคยทำให้เป็นแบบ6-8จังหวะ(แล้วเปลี่ยนมาเป็นเครื่องยนต์อัดอากาศให้คุณได้เห็นกันว่ามันทำงานได้จริงๆ)....น้าหยอยไม่ได้โม้.ล้อเล่นน่ะ แล้วผมจะแตกประเด็นกระทู้ตรงนี้ออกไปให้คุณที่สนใจจะสนทนากับเรื่องเหล่านี้ให้อ่ากันนะครับ......ขอโทษที่ผมเข้ามาช้าไปหน่อย จากคุณ : น้าหยอย (เคี้ยงโมโต) เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 54 20:29:56

ความคิดเห็นที่ 34 ขอแตกกระทู้ส่วนนี้ขึ้นไปให้อ่านกันต่อนะครับ จากคุณ : เคี้ยงโมโต เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 54 20:31:46

ความคิดเห็นที่ 35 ตัวจริง(น้าหยอย)มาแล้ว... ^^ จากคุณ : pencilboy เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 54 22:42:53

ความคิดเห็นที่ 36 ชอบกระทู้แบบนี้จัง นา...นๆ เจอที จากคุณ : ลำลูกไก่ (ลำลูกไก่) เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 54 09:18:36

ความคิดเห็นที่ 37 เข้ามาอีกที คนเข้ามาแชร์ความคิดเยอะเลย กดLike จากคุณ : 99 แม่กลอง เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 54 13:03:45

ความคิดเห็นที่ 38 ขอบคุณทุกท่านที่ให้คำตอบนะครับ จะถนอมเกบข้อมูลไว้อย่างดีครับ ค่อยๆอ่านไปทีละอันก่อน เดวมาตตอบคับ จากคุณ : 1234 เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 54 23:20:49 A:182.53.113.148 X: TicketID:184507