ความคิดเห็นที่ 1 ถ้าจะบอกว่าขนใส่กะบะคันนี้ มาจากแคลิฟอร์เนีย ก็จะดูแปลก ระคนขี้โม้ แต่ถ้าพิจารณาจาก แบ็คกราวด์ ทุกท่านก็คงจะรู้คำตอบแล้วใช่ไม๊ครับ เมื่อทบทวนขั้นตอนที่ผ่านมา หลังจากคำสั่งซื้อถูกส่งออกไป ใช้เวลาเพียง 2 อาทิตย์นิดหน่อย รถก็มาถึงเมืองไทยแล้ว สำหรับผมถือว่า ใช้ได้ ครับ แก้ไขเมื่อ 26 ก.ย. 54 09:17:07 จากคุณ : ภัทราวัฒน์ เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 54 09:16:09

ความคิดเห็นที่ 2 ปาดดด มาให้กำลังใจครับผม จากคุณ : poshopboy01 เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 54 09:33:33

ความคิดเห็นที่ 3 สุดยอดครับ รอทุกช็อต จากคุณ : ชาวหลังสวน เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 54 09:42:23

ความคิดเห็นที่ 4 มีข้อมูลบางอย่างที่น่าสนใจ การขนส่งทางเรือ กับทางเครื่องบินต่างกันอย่างไร? ถ้ามาทางเรือ ผู้นำเข้าจะเช่าตู้คอนเทนเนอร์กี่ฟุตก็ว่ากันไป แล้วหารถใส่ให้เต็มตู้  เพราะฉะนั้น เวลาที่ใช้ในการหารถ + เวลาที่ใช้ในการขนส่ง(ทางเรือ) จึงมีขั้นต่ำอยู่ที่ 90 วัน (จริงๆก็ลำบากครับ  ส่วนมากจะเกิน)       ข้อดี                         1.ค่าใช้จ่ายในการขนส่งถูกกว่า ทางอากาศ(เยอะ)                         2.ต้นทุนรถแต่ละคันต่ำเพราัะเมื่อเฉลี่ยจำนวนรถทั้งตู้ / ค่าขนส่ง                            ทำให้ผู้นำเข้าสามารถตั้งราคาขายรถได้เป็นที่น่าสนใจแก่ผู้ซื้อ      ข้อเสีย                         1.เวลา  เช่น สั่งรถไปแล้ว  ถ้าผู้นำเข้ายังปิดตู้ไม่ได้ ซึ่งมีหลายสาเหตุ                            อาจจะเพราะยังหารถไม่ได้  จำนวนรถไม่ครบตามOrder ก็ต้องร้องเพลงรอละครับ                            เพราะฉะนั้น 3 เดือน 6 เดือน 9 เดือนก็ว่ากันไปละครับ                          2.การขนส่งทางเรือ ถ้าแพ็ครถไม่ดี ระยะเวลาที่อยู่บนเรือ มีโอกาสที่บางชิ้นส่วนของรถ                             อาจจะมีปฏิกิริยาต่อ ความเค็มของน้ำทะเล (เขาเล่าว่านะครับ  ฟังหูไว้หูละกัน)                          3.การอัดรถจนเต็มความจุของตู้คอนเทนเนอร์  ลองจินตนาการละกันครับ                             ว่ารถจะอยู่ในสภาพไหน  อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับผู้นำเข้า จะมีเทคนิควิธีการจัดการอย่างไร                             ทีนี้มาดูการขนส่งทางอากาศกันบ้าง จากคุณ : ภัทราวัฒน์ เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 54 09:42:26

ความคิดเห็นที่ 5 มารออ่านค่ะ ดิฉันจะบอกว่า ดิฉันรักกระทู้นี้จังค่ะ อ่านแล้วอบอุ่นค่ะ ตั้งแต่ตอนที่ 1 จนถึงตอนนี้ ขอบคุณ จขกท มากค่ะ แก้พิมพ์ผิด แก้ไขเมื่อ 26 ก.ย. 54 09:58:15 จากคุณ : DuskyDuck เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 54 09:57:39

ความคิดเห็นที่ 6 ขอบคุณครับ ทำให้ได้รู้ว่า การขนส่งรถจักรยานยนต์จากต่างประเทศ เข้าสู่ประเทศไทย ทำได้อย่างไร เปิดหู เปิดตา ได้ก็กระทู้นี้แหละครับ Thank.................................. จากคุณ : =Razzo= เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 54 10:04:13

ความคิดเห็นที่ 7 รอดูต่อครับ ว่าแต่ประกอบมาแล้ว หรือต้องประกอบเองครับ จากคุณ : zushiboss เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 54 10:27:40

ความคิดเห็นที่ 8 ตามมาติดๆ รอชม ครับ จากคุณ : redgarudon เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 54 10:33:26

ความคิดเห็นที่ 9 เรียน คุณ DustyDuck       ขอบคุณสำหรับกำลังใจครับ  ผมเองอยู่ในฐานะผู้บริโภคข้อมูลจากจอคอมมานานแสนนาน เคยสงสัย เคยแปลกใจ ว่า ผู้คนนำเรื่องราวมากมาย มาเล่าสู่กันฟัง มาพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิด ความรู้สึกกับผู้คนที่ไม่เคยเห็นหน้าด้วยเหตุใด       นั่นคือความรู้สึกเมื่อนานแล้ว   จนกระทั่งมาเจอกระทู้คุณ คุณ 6ขา2หางสี่ปีก (นับถือท่านนี้จากใจจริง ผู้หญิงที่รู้เรื่องBigbike สุดยอดครับ) พูดถึง HAYABUSA   ( อ่านกระทู้จบ ผมหารถทันที) ทุกตัวหนังสือ  ทุกข้อความ ทุกความรู้ที่ได้ ทุกความเห็นที่เข้ามาแลกเปลี่ยน ตอบได้ทุกข้อสงสัยที่ผมมี       ผมรู้สึกตะขิดตะขวงใจ  รู้สึกเห็นแก่ตัวอย่างบอกไม่ถูก ผู้คนมากมายสละเวลา   นำเรื่องราวที่น่าสนใจ และเป็นประโยชน์ ถึงไม่ได้นำไปใช้แต่ก็ประดับสมองได้เป็นอย่างดี มานำเสนอ  ส่วนผมได้แต่นั่งอ่านอย่างเดียว ทำตัวเป็นแค่ผู้บริโภคด้าเดียว โดยไม่มียอมส่วนร่วมใดๆในสังคมดีๆแห่งนี้      ถ้าทุกคนมีความคิดแบบผม คำว่า"แบ่งปัน" จะมีความหมายอะไรครับ?   ดังงั้น เมื่อผมพอจะมีโอกาส ที่จะได้นำเสนอบางเรื่องที่คิดว่ามันน่าสนใจ และเป็นประโยชน์ต่อผู้คนได้บ้าง ผมจะชักช้าอยู่ทำไมละครับ? .. แก้ไขเมื่อ 26 ก.ย. 54 18:09:28 จากคุณ : ภัทราวัฒน์ เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 54 10:34:29

ความคิดเห็นที่ 10 เข้ามาติดตามต่อคับ...มีประโยชน์มากๆ...ขอบคุณคับ จากคุณ : song hey khuan เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 54 10:48:55

ความคิดเห็นที่ 11 ตั้งหน้าตั้งตา F5 ครับ จากคุณ : หน้าเลี่ยม เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 54 11:02:17

ความคิดเห็นที่ 12 หายยย จากคุณ : น้ำเต้าหู้กะปาท่องโก๋ เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 54 11:23:02

ความคิดเห็นที่ 13 ดีใจด้วยครับพี่ ดีใจด้วยจริงๆ ขนาดผมไม่ได้ซื้อเองยังตื่นเต้นดีใจด้วยเลยครับ จากคุณ : kongkirch13 เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 54 11:24:00

ความคิดเห็นที่ 14 เข้ามาแสดงความดีใจด้วย..ครับ แก้ไขเมื่อ 26 ก.ย. 54 14:06:27 จากคุณ : จากภูผาถึงทะเล เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 54 11:36:17

ความคิดเห็นที่ 15 การมาทางเครื่อง ข้อดี 1.เร็วเพราะไม่ต้องรอสั่งพร้อมใครกำหนดเวลาได้ชัดเจน       2.รถไม่ช้ำ เพราะไม่ต้องไปเบียดเสียดยัดเยียดกันในตู้คอนเทนเนอร์          สามารถแยกเป็นคันๆไป       3.เลี่ยงปัญหาขี้เกลือเกาะส่วนที่เป็นโลหะ (อันนี้เขาเล่าว่า  ครับ) ข้อเสีย        มีข้อเดียวครับ  "แพง" ปัจจุบัน  ผู้นำเข้าแต่ละเจ้าก็ใช้กันสองวิธีนี้แหละครับ ในการนำรถเข้ามาในราชอาณาจักร   ก่อนจะสั่งก็สอบถามกันให้ดี ถ้ามีสัญญาระบุเงื่อนไขให้ชัดเจน จะได้รับรถกันวันไหน ยังไง ก็จะดีไม่น้อย  ถือเป็นทางเลือกนึงครับ จากคุณ : ภัทราวัฒน์ เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 54 11:36:56

ความคิดเห็นที่ 16 มาถึงอีกข้อนึงที่หลายๆท่านคุ้นๆหู "เเยกเครื่องเเยกเฟรม" "เครื่องติดเฟรม" "นำเข้าทั้งคัน" 3 ข้อนี้คือวิธีการนำเข้ารถbigbike แตกต่างกันตรงที่ค่าใช้จ่าย แน่นอนว่า"นำเข้าทั้งคัน"  แพงสุดเสียภาษีเต็มพิกัด จะกี่ 100 % ของราคารถ ก็ว่ากันไป              ข้อดี -ได้รถสภาพ เป๊ะๆมาตรฐานการประกอบจากโรงงานผู้ผลิต                     - (ถ้าจำไม่ผิด )รถสามารถนำไปเข้าขั้นตอนจดทะเบียนได้เลย                      โดยไม่ต้องไปตรวจ สมอ.ก่อน ค่าใช้จ่ายเหมือนซื้อรถจากร้าน                       ข้อนี้ไม่แน่ใจเท่าไหร่นะครับ  ผู้ใดทราบ หรือมีข้อคิดเห็นแตกต่าง                       ช่วยมาแลกเปลี่ยนข้อมูลกันครับ จากคุณ : ภัทราวัฒน์ เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 54 11:47:37

ความคิดเห็นที่ 17 น่าติดตามมากๆเลยครับ จากคุณ : FunkyFomo เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 54 11:51:21

ความคิดเห็นที่ 18 แต่อีกทางเลือกนึงที่นิยมที่สุดในปัจจุบัน คือแยกเครื่อง แยกเฟรมเข้ามา เหตุผลก็คือ  แจ้งนำเข้าเป็นชิ้นอะไหล่ ซึ่งเป็นช่องทางที่กฏหมายเปิดไว้ (ผมไม่มีความเห็นนะครับ ว่ามันถูกต้องหรือไม่-อย่างไร) วิธีนี้ ทำให้เมื่อรถนำมาประกอบกลับเข้าเป็นคัน ราคารถไม่สูงจนเกินความเป็นจริง แต่จะไปมีค่าใช้จ่ายอีก 80,000-100,000.-บาท เมื่อไปตรวจ สมอ.และทำทะเบียนให้ถูกต้อง (ชึ่งถ้านำเข้าทั้งคัน ค่าใช้จ่ายตรงนี้ไม่มี) และก้ต้องฝากทั้งชีวิตของคุณไว้กับฝีมือและคุณภาพ ของผู้ประกอบรถ  หวังว่าว่าเขาเหล่านั้น จะประกอบรถให้คุณได้ใช้ขับขี่ อย่างสุดฝีมือ เห็นไม๊ครับว่าทุกอย่างมีที่มาที่ไป และสุดท้ายก็วนกลับมาที่เรื่องเดียว ก็คือ"ค่าใช้จ่าย"อันเป็นที่มาของ "ราคารถ"นั่นเอง จากคุณ : ภัทราวัฒน์ เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 54 11:58:26

ความคิดเห็นที่ 19 ส่วน"เครื่องติดเฟรม" ก็คือการนำเข้าในลักษณะ ตัวเครื่องยนต์และเฟรมไม่ได้ถูกแยกออกจากกัน ซึ่งเป็นวิธีที่ผมชอบและปรารถนาเป็นที่สุด ลองนึกดูสิครับ เครื่องติดเฟรมยังไงมันก็ดีกว่าแยกเครื่องแยกเฟรมแน่นอน เพราะเครื่องและเฟรมรถถือเป็นส่วนที่สำคัญที่สุด อีกทั้งระบบไฟหลักก็ไม่ได้ถูกรื้อ ภาพรวมย่อมได้เปรียบการแยกชิ้นส่วนทุกอย่างออกจากกัน ซึ่งก็แน่นอนว่า ค่าใช้จ่ายการการนำเข้าแบบเครื่องติดเฟรม ย่อมสูงกว่า  แต่ก็ไม่ถึงกับเท่าแบบนำเข้าทั้งคัน โดยส่วนตัวผม  วิธีนี้ "สมเหตุสมผล"และ"ยอมรับได้"ครับ (สังเกตุนะครับ คันนี้เพลาขับก็ไม่ได้ถอดออก  เจ๋งสุดๆแระ) . จากคุณ : ภัทราวัฒน์ เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 54 12:09:38

ความคิดเห็นที่ 20 ตามมาชม ครับ จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 54 12:15:30

ความคิดเห็นที่ 21 ตามต่อด้วยใจระทึกครับ จากคุณ : zushiboss เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 54 12:18:51

ความคิดเห็นที่ 22 หลายคนก็หลายความคิด ยอมรับว่าตอนแรกๆที่เริ่มเล่นรถใหม่ๆ มีอคติกะรถประเภทนี้เหลือเกิน ได้รถประกอบเนี่ยะ มันจะดีเร้อ  ไว้ใจได้เร้อ แต่ด้วยความที่ชอบงัดแงะแกะเกา ซึ่งเป็นนิสัยติดตัวมาแต่เกิด จนเพื่อนที่สนิทกันพร้อมใจกันตั้งฉายาผมว่า "ลูกอีช่างรื้อ" (ขออภัยที่ใช้คำไม่สุภาพ) ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็แล้วแต่ ตั้งแต่นาฬิกาข้อมือยันรถยนต์ ไม่เคยเหลือครับ (จะเหลือก็แต่น็อตเวลาประกอบเสร็จแล้ว ไม่รู้มันเหลือได้ยังไง) ดังนั้น เมื่อมี BIGBIKE ตกมาอยู่ในครอบครอง ท่านคิดว่ามันจะรอดหรือครับ อีกทั้งเครื่องไม้เครื่องมือค่อนข้างพร้อม พอมีเวลาว่าง ในที่สุด มันก็ถูกแยกออกมาเป็นชิ้นๆ แล้วประกอบกับเข้าไปใหม่  อาศัยmanual (ที่ได้มาพร้อมรถ) และเพื่อนที่เป็นช่างแท้ๆมาช่วยดู(หลังๆก็ลุยเอง) อะไรที่สงสัย ไม่เข้าใจก็อาศัยข้อมูลจากเน็ต ทั้งในและนอกประเทศ การดูแลบำรุงรักษาในส่วนที่ไม่ต้องใช้เครื่องมือพิเศษ หรือซอฟท์แวร์วิลิศมาหลาอะไรมากมาย ผมว่าใครๆก็ทำได้ครับ ถ้าคุณรักรถและเอาใจใส่มันอย่างจริงจัง แก้ไขเมื่อ 26 ก.ย. 54 18:09:15 จากคุณ : ภัทราวัฒน์ เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 54 12:55:56

ความคิดเห็นที่ 23 ก็จริงครับ รถที่แยกส่วนและประกอบเข้าไปใหม่ มาตรฐานหรืออะไรก็แล้วแต่อาจจะไม่ได้ อย่างที่ออกจากออกจากโรงงานมาเป็นคัน แต่ผมมีความเห็นต่าง ถ้าเราดูแลรถอย่างจริงๆ หมั่นดูหมั่นสังเกตุ  ซ่อมบำรุงอย่างเอาใจใส่ ดูแลอย่างถูกต้องตามหลักการ คอยหาความรู้เพิ่มเติมจากในเว็บเฉพาะกลุ่ม(แล้วแต่ว่ารถอะไร) ถ้าทำได้อย่างนั้น ผมคิดว่า รถจากโรงงานและรถประกอบ คุณภาพมันก็ไม่ได้ต่างกันไม่ถึงขั้นฟ้ากับเหวหรอกครับ แล้วคุณจะพบว่า ความสุขที่เกิดจากการได้ดูแลสิ่งที่คุณรัก มันคุ้มค่าแค่ไหน แก้ไขเมื่อ 26 ก.ย. 54 13:22:06 จากคุณ : ภัทราวัฒน์ เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 54 13:15:37

ความคิดเห็นที่ 24 อีกทั้งในปัจจุบัน ผู้ผลิตนำข้อมูลขึ้นเน็ตให้ผู้บริโภคได้ดู และนำไปใช้แบบไม่มีปิดบัง อย่างน้อยมันก็สร้างความสบายใจ ให้แก่ ผู้ใช้ได้ในระดับนึงว่า ข้อมูลที่ผู้ผลิตให้มา ผู้ใช้สามารถนำมาประกอบการดูแลรักษารถเบื้องต้น ด้วยตัวเองโดยไม่ยากเย็นนัก เข้าท่าแฮะ จากคุณ : ภัทราวัฒน์ เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 54 13:28:29

ความคิดเห็นที่ 25 ติดตามด้วยความอิจฉาครับ จากคุณ : เปอร์โยต์205 เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 54 13:51:43

ความคิดเห็นที่ 26 รอชมครับ จากคุณ : Moprix เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 54 14:15:25

ความคิดเห็นที่ 27 มีคู่มีการซ่อมบำรุงรุ่นนี้อยู่ เป็นไฟล์ pdf ขนาด 42mb http://goo.gl/wK9Gj ดาวน์โหลดตามลิงค์ จากคุณ : เลื่องชื่อระบือนาม เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 54 14:16:27

ความคิดเห็นที่ 28 ไฟล์ pdf  เป็นคู่มือการซ่อมบำรุงไม่ใช่ แมนนวลการใช้งาน จากคุณ : เลื่องชื่อระบือนาม เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 54 14:28:49

ความคิดเห็นที่ 29 ขอย้อนกลับไปที่การนำเข้าอีกนิดนึงนะครับ เพื่อให้เห็นภาพชัดเจน ขอยกตัวอย่างที่บังเอิญไปเจอมากะตัว มีท่านผู้มีอันจะกินท่านนึงไปถอย Aprilia RSV 4 Factory (รถในฝันของผมอีกคัน) "โดยการสั่งนำเข้าทั้งคันแบบไม่แยกชิ้นส่วน" ก็ว่ากันไปตามกฎครับ ภาษีกี่เท่าไม่รู้ ราคาที่เมืองนอก รถใหม่ ราว 8แสนต้นๆ ถึงเมืองไทยเบ็ดเสร็จทุกอย่าง 2 ล้านเกือบกลาง (ลมจะใส่ ซะให้ได้) ซึ่งถ้าใช้วิธีนำเข้าแบบแยกส่วน ราคารถคันนี้ไม่น่าเกินล้านเอ็ด(พร้อมทะเบียน) เห็นความแตกต่างไม๊ครับ จากคุณ : ภัทราวัฒน์ เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 54 15:10:27

ความคิดเห็นที่ 30 ติดตามชมครับ อิจฉาครับ จากคุณ : aristoTuEY เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 54 15:20:40

ความคิดเห็นที่ 31 รอชมต่อครับ จากคุณ : โตชิโร่ (Gadget) เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 54 15:45:28

ความคิดเห็นที่ 32 สุดยอดครับ จากคุณ : โย่ _เชียงใหม่ เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 54 16:22:36

ความคิดเห็นที่ 33 กางมุ้งรอเลยครับ :D จากคุณ : o_extreme เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 54 16:35:20

ความคิดเห็นที่ 34 ตามติดเลยครับ ตื่นเต้นจัง ^^ จากคุณ : ปันใหญ่ปันสูงเน้อ เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 54 16:50:47

ความคิดเห็นที่ 35 จนป่านนี้ Accessary และบางชิ้นส่วนยังมาไม่ถึง ยังค้างเติ่งอยู่ที่ไทเป คาดว่าโน่น นี่ นั่นเบ็ดเสร็จเรียบร้อย รถน่าจะพร้อมราววันพุธ(มั๊ง) แล้วกำหนดการเดินทางที่น่าสนใจเหลือเกิน จากเพื่อนที่แสนดี ก็ถูกส่งมาถึงเมื่อสายๆของวันนี้ แค่ Trip แรก สงสัยเจ้า S10 จะโดนรับน้องสาหัสเอาเรื่อง เพราะดูเส้นทางแล้ว  "เิอาเรื่อง" พอสมควร กรุ๊ปนี้ประกอบไปด้วย  S10 * 1 (+ ผมด้วย ก็เป็น 2)                              Tenere 660 *1                              Triumph Tiger XC *2                               KLE 550 อีก 3 ใจตุ้มๆต่อมๆ  อีกแค่ 4 เดือน เล่มทะเบียนมันจะออกทันไม๊หนอ เฮ้ออออออออออ แก้ไขเมื่อ 26 ก.ย. 54 17:14:05 จากคุณ : ภัทราวัฒน์ เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 54 16:56:48

ความคิดเห็นที่ 36 ลงชื่อติดตามและขอบคุณในความเอื้อเฟื้อของ จขกท. จากคุณ : ไก่จิกตีนงู เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 54 16:58:08 A:203.156.87.30 X: TicketID:252022

ความคิดเห็นที่ 37 โรงเก็บมอไซต์เปิดให้เข้ามาปูเสื่อนอนชมรถ ไหมครับ จากคุณ : karinkr เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 54 17:03:29

ความคิดเห็นที่ 38 รักเจ้าของกะทู้จัง จากคุณ : Guilty เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 54 18:17:41

ความคิดเห็นที่ 39 ขอบคุณมากมากคับ จากคุณ : ศรีย่าน เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 54 18:54:31

ความคิดเห็นที่ 40 ผมใช้ Bigscooter New Tmax. กับ Mp3 อยู่ขี่สนุกสบาย แต่เวลารถมีปัญหาต้องรอคิวช่างว่างเกือบสองอาทิตย์ ไม่ทราบว่าBigbikeเป็นแบบนี้ไหมคับ จากคุณ : ศรีย่าน เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 54 18:59:52

ความคิดเห็นที่ 41 หน้าที่การงานไม่เอื้อ เวลาไม่ตรงกับชาวบ้าน ไม่มีกิจกรรมพิเศษให้เข้ากลุ่มเข้าก๊วน ไม่ว่าจะด้วยเหตุใด จะเกี่ยวข้องกันโดยตรงหรือไม่ ผมกลายเป็นคนเพื่อนน้อยมาแต่ไหนแต่ไร ตราบกระทั่ง มีเจ้าสองล้อเข้ามาในชีวิต ความคิดที่อยากจะพักผ่อนโดยการทำตัวให้ว่าง แล้วหาเวลาออกไปขับรถ   เริ่มผุดขึ้นมาในสมอง พอเริ่มจะออกทริป เพื่อนว่าง  เราไม่ว่าง พอเราว่าง  เพื่อนก็ติดธุระซะงั้น ใคร่ครวญพินิจพิจารณาอย่างถี่ถ้วน ขืนเป็นอย่างนี้ ไม่ได้ขี่รถแน่ๆ อย่ากระนั้นเลย ไปมันคนเดียวนี่ละวุ๊ย ความรู้สึกในการออกทริปบินเดี่ยวครั้งแรก ไม่ได้แตกต่างเลยครับ กับตอนที่อายุ 14 แล้วแอบเอา CB350 ของพ่อ ออกไปขี่โดยที่ไม่มีใครรู้ เพราะตอนนั้น ถึงจะโดนไม้เรียว แต่ที่ได้ขี่เที่ยวก้คุ้มแระ มันก็เลยกลายเป็น  โรครักสองล้อติดต่อเรื้อรัง รักษาไม่หาย  มาจนถึงทุกวันนี้ นี่ไงครับ ครึ่งวัน กับ เจ้าตัวนี้แหละ แลกกะไม้เรียว 6 ที ยังจำได้ดีจนถึงทุกวันนี้เลยครับ จากคุณ : ภัทราวัฒน์ เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 54 19:26:45

ความคิดเห็นที่ 42 ^ ^ สวยงาม จริงๆ ...ครับ จากคุณ : nasay เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 54 19:40:12

ความคิดเห็นที่ 43 ^ ^ รูปนี้เป็นรูปแทนนะครับ เป็นตัวสองสูบและสีน้ำตาลแดงเหมือนกัน จากคุณ : ภัทราวัฒน์ เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 54 19:47:26

ความคิดเห็นที่ 44 น่าสนุกจัง จากคุณ : thaiMBA เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 54 19:55:39

ความคิดเห็นที่ 45 "คนเดียวหัวหาย" แต่"หลายคนก็มากความ" สิ่งที่เราต้องหาให้เจอคือ "สมดุล"ครับ ผมเองบอกไม่ถูก  ว่าชอบแบบไหน ทริปบินเดี่ยวก็อิสระดี อยากทำอะไรก้ทำ อยากจะไป อยากจะพัก อยากจะกิน  อยากจะนอน โอ๊ย  ชีวิตเป็นช้านนนนนน แต่พอได้ออกมาลุยเป็นกลุ่มก็รู้สึกติดใจ ในอีกรูปแบบของการเดินทาง ยิ่งพอได้รับการถ่ายทอดประสบการณ์จากนักบิด ผู้ขับมาแล้วเป็นสิบๆปี  คุ้มซะยิ่งกว่าคุ้ม หนึ่งในเรื่องที่ผมได้เรียนรู้จากการออกทริป กับนักบิดกลุ่มนี้  และอยากจะนำเสนอ ก็คือ ACCESSARY บางตัวที่น่าสนใจ และจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการออกทริป เท่าที่สังเกตุดูอุปกรณ์สองอย่างนี้ในเว็บบ้านเรา มีข้อมูลน้อยมาก พอจะเดาออกไม๊ครับ ไอ้เจ้าอุปกรณ์ที่ว่ามันคืออะไร? จากคุณ : ภัทราวัฒน์ เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 54 20:17:55

ความคิดเห็นที่ 46 ติดตามครับ จากคุณ : แมลงแมน เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 54 21:27:59

ความคิดเห็นที่ 47 ตามมาติดๆึครับอิๆ จากคุณ : Aniruch_j เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 54 21:41:57

ความคิดเห็นที่ 48 ขอติดตาม ชมรถคันงามคันนี้ด้วยคนนะครับ จากคุณ : love bigbike (vapor) เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 54 22:20:42

ความคิดเห็นที่ 49 ตามติดๆๆครับ จากคุณ : naroktak55 เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 00:05:51

ความคิดเห็นที่ 50 นับจากกระทู้แรก จนถึงกระทู้นี้ ผมเชื่อเหลือเกินว่า หลายๆท่านคงพอจะลำดับเรื่องราว ขั้นตอนวิธีการจัดหารถ   และรายละเอียดต่างๆที่เกี่ยวข้อง ได้อย่างชัดเจนในระดับนึง การจัดการของแต่ละผู้นำเข้า แน่นอนที่สุดว่า ย่อมจะมี "เทคนิคพิเศษต่างๆ"ที่จะทำให้เกิดส่วนต่าง ระหว่างราคาขายและต้นทุนให้มากที่สุด เป็นธรรมดาของการค้าเสรี ใครใคร่ค้า ก็ว่ากันไป แต่สุดท้ายก็อยู่ที่บริโภคอย่างเราๆนี่แหละครับ แต่สำหรับ เจ้า SUPER TENERE 2012 ตัวนี้ สำหรับท่านที่สนใจ ผมอยากเรียนข่าวดีให้ทราบว่า ทางศูนย์ยามาฮ่าประเทศไทยกำลังดำเนินการ และอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อม ในขั้นตอนต่างๆ  ของรถรุ่นนี้ (เครดิต : คุณโบราณแมน) และราวๆกลางปีหน้า น่าจะเปิดตัวที่โชว์รูมได้ ในราคาเจ็ดกลางๆ  + / - นิดหน่อย ไม่ถึงแปดแสนแน่นอน (เครดิต : Mister P) บอกตรงๆว่า "ดีใจครับ"  ถ้าข่าวนี้เป็นความจริง นั่นหมายถึงว่า นับวันราคารถBigBike ฝั่งญี่ปุ่น ที่นำเข้าและจัดจำหน่ายโดยศูนย์ที่ถูกต้องอย่างเป็นทางการ จะมีราคาที่ต่ำลงทุกทีๆ จะด้วยเพราะ FTA หรืออะไรก็แล้วแต่ ผมถือว่าผู้บริโภคอย่างเราๆมีทางเลือกเพิ่มขึ้นครัีบ ซึ่งแน่นอนว่าผู้นำเข้าอิสระก็ต้องปรับตัวและ หากลวิธีต่างๆมาสู้"สงครามราคา"ต่อไป ตัวอย่างก็มีให้เห็นในตลาดรถยนต์ระดับหรูไงครับ ดีลเลอร์หลัก กับ เกรย์มาเก็ต รบกันมาเป็น สิบๆปี สงครามช่วงชิงผู้ซื้อยังไม่เห็นจบซักที ตลาดรถ Bigbike ก็คงจะไม่ต่างกันกระมังครับ จากคุณ : ภัทราวัฒน์ เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 07:48:52

ความคิดเห็นที่ 51 "คนเดียวหัวหาย" แต่"หลายคนก็มากความ" สิ่งที่เราต้องหาให้เจอคือ "สมดุล"ครับ....โดนเต็มๆครับ สองอย่างที่ว่า...ยังเด่าไม่ถูก ขอเดาตัวหยอดน้ำมันโซ่ละกันครับ(อยากได้)แต่รถพี่...ไม่ได้ใช้โซ่ขับนี่หน่า... แก้ไขเมื่อ 27 ก.ย. 54 08:04:22 จากคุณ : ตั้มขาว เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 08:02:45

ความคิดเห็นที่ 52 และระหว่างรอ การรวมร่างของ"ผู้มาใหม่"ของผม ซึ่งกำหนดการน่าจะแล้วเสร็จในคืนนี้ เรื่องที่ผมเขียนค้างไว้ ถึง"อุปกรณ์ที่ช่วยในการขับขี่" ที่ผมได้สัมผัส และเรียนรู้จากกลุ่มนักบิดของ ประเทศเพื่อนบ้านที่บังเอิญได้รู้จักกัน มานั่งทบทวนดูมีหลายชิ้นครับที่น่าสนใจ และใช้งานได้จริง  ไม่ได้มีไว้เพื่อเท่ (แต่มีแล้วมันก้เท่จริงๆนะ) แต่ผมขอเลือกมา 3-4 ชิ้นแล้วกัน เป็นอุปกรณ์ที่เว็บบ้านเราไม่ค่อยมีใครพูดถึง หรือหาข้อมูลได้น้อยมาก ส่วนสถานที่จัดจำหน่าย ยิ่งหายากหนักกว่าอีก เท่าที่พยายามค้นหาดู ปรากฏว่าไม่มี เลยคิดว่าถ้าจะพรีวิวอุปกรณ์ 3 - ชิ้นที่ว่า น่าจะเป็นประโยชน์ต่อนักบิดทางไกลไม่มากก็น้อย แถมเย็นวานดูข่าว  เห็นกรมอุตุบอกว่า หมดฝนชุดนี้(ราวสิ้นเดือน)  เตรียมตัวเข้าหน้าหนาวได้เลย ปีนี้ หนาวหนักหนาสาหัส กว่าปีก่อนแน่นอน นั่นก็หมายความว่า เป็นการส่งสัญญานว่า ฤดูกาลออกทริป เริ่มต้นขึ้นแล้วครับ นักบิดทั้งหลาย เตรียมตัว  เตรียมรถกันรึยางงงงงง? จากคุณ : ภัทราวัฒน์ เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 08:04:11

ความคิดเห็นที่ 53 น่าจะตัวหยอดโซ่....(สำหรับคันที่ใช้โซ่...) ซิลหมวกกันฝ้าจับ หรือน้ำยา  (เคยเห็นที่โลตัส สำหรับแว่นตาดำน้ำ ยังไม่ได้ลอง) อีกอัน....ยังนึกไม่ออกที่ผมอยากได้ ...เดาล้วนๆครับ คนพร้อม เวลา..ไม่มี รถยังไม่ได้ซ่อม ออกทริปหน้าจอแทนครับตอนนี้ จากคุณ : ตั้มขาว เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 08:07:41

ความคิดเห็นที่ 54 ความคิดเห็นที่ 51     "คนเดียวหัวหาย" แต่"หลายคนก็มากความ" สิ่งที่เราต้องหาให้เจอคือ "สมดุล"ครับ.... โดนเต็มๆครับ สองอย่างที่ว่า...ยังเดาไม่ถูก ขอเดาตัวหยอดน้ำมันโซ่ละกันครับ(อยากได้)แต่รถพี่...ไม่ได้ใช้โซ่ขับนี่หว่า จากคุณ : ตั้มขาว   เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 08:02:45   เรียนคุณ ตั้มขาว ถ้าผมจำไม่ผิด คุณใช้  KLX รึเปล่าน๊า(ถ้าผิดขออภัย) ถ้าใช้ตัวนี้จริง อุปกรณ์ที่ผมกำลังจะนำเสนอ  2 ตัวแรกนี้ เหมาะกับการใช้งานของคุณจริงครับ รับรองได้ เพราะผมเจอกับตัวเองมาแล้ว เจอเข้าแบบนี้  ยิ่งสงสัยหนักเลยใช่ไม๊ครับ คุณตั้มขาว !!!!!! จากคุณ : ภัทราวัฒน์ เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 08:13:39

ความคิดเห็นที่ 55 รออ่านอยู่นะครับ เดี๋ยวไปเข้าห้องน้ำก่อนแล้วหวังว่าจะได้คำตอบนะครับ เพราะเดี๋ยวอีกไม่ก็ชั่วโมงจะต้องออก site งานเเล้วไป 4 วัน แต่ขอรู้ก่อนได้ไหมว่า อุปกรณ์สำคัญๆคืออะไรครับ ผมมือใหม่ครับตอนนี้กำลังรอ er6n อยู่ครับ ขอเกาะเก็บความรู้ด้วยคนครับ จากคุณ : MAXSIM_lot เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 08:46:48

ความคิดเห็นที่ 56 นั่งรอนานเเล้วครับ รออ่านอยู่ครับเมื่อไรจะมาต่อสักทีเนี่ย จากคุณ : MAXSIM_lot เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 09:40:41

ความคิดเห็นที่ 57 ระหว่างรอ ขอทายว่าาาาา...... gps, ท่อ และ อุปกรณ์ให้ความอบอุ่นกับร่างกาย คับ จากคุณ : จากภูผาถึงทะเล เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 11:08:45

ความคิดเห็นที่ 58 ใกล้หน้าหนาวแล้ว เตรียมรถกันรึยังงงงงงงงงงง  ? จากคุณ : poshopboy01 เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 12:10:31

ความคิดเห็นที่ 59 ขอทายว่า น่าจะเป็น "ชุดปะยางฉุกเฉิน"+ "ชิลกันลม" ร่วมอยู่ในรายการ มั้งครับ 555+ จากคุณ : Poprock Engineer เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 12:22:21

ความคิดเห็นที่ 60 น้าภัทราวัฒน์  ถูกต้องแล้วครับ ผมใช้ klx อยากรู้แล้วครับ....หรือขอบล้อแบบไม่ใช้ยางใน ??? ^__^ จากคุณ : ตั้มขาว เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 14:17:50

ความคิดเห็นที่ 61 ขอทาย.. - gps - cruise control - หมอนรองคอ - เต๊น เผื่อไปต่อไม่ไหว นอนกลางถนนซะเลย 555 จากคุณ : beam408.th เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 14:21:44

ความคิดเห็นที่ 62 มารอคำตอบอยากรู้ด้วย จากคุณ : juapung เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 16:05:11

ความคิดเห็นที่ 63 แหล่มไปเลยครับ จากคุณ : SKJOJO01 เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 16:39:15

ความคิดเห็นที่ 64 อ่านแล้ว เผลอ น้ำลายหก จากคุณ : ก้นกบ เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 17:27:58

ความคิดเห็นที่ 65 จากตอน1 ถึงตอน3 ยิ่งจุดประกายความรู้สึกขึ้นมาใหม่ สุดยอดมากๆครับ จากคุณ : ก้าวข้ามฝัน เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 18:27:36

ความคิดเห็นที่ 66 เคยสงสัยไม๊ครับ เวลาเห็นคนขับรถ Bigbike บนถนน แล้วจู่ๆคนขับก็ลุกขึ้นยืนซะงั้น โห  คุณพี่แค่นั่งขับคุณพี่ก็เท่ขาดใจแล้ว นี่ถึง"ขนาดยืนขับ" จะเอาเท่ไปถึงไหนครับเนี่ย ใครเคยเห็นคนยืนขับรถสองล้อ ยกมือขึ้น? (เครดิตภาพจากคุณไออิครับ) จากคุณ : ภัทราวัฒน์ เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 18:30:19

ความคิดเห็นที่ 67 ^ ^ ^ แต่บางคนไม่ได้คิดแบบนั้น เผลอๆพาลจะหมั่นไส้เอา "มันจะโชว์ออฟไปถึงไหนว๊า แต่งตัวก็ไม่เหมือนชาวบ้านยังจะมายืนขับ รถสองล้อให้เกะกะลูกกะตาอีก" แต่ในความเป็นจริง ความจริงที่คุณต้องฟัง สาเหตุที่ต้องลุกขึ้นยืนขับ ก็เพราะ "ผมเมื่อยก้นครับ" จากคุณ : ภัทราวัฒน์ เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 18:39:04

ความคิดเห็นที่ 68 อธิบายไม่ถูกว่าทำไมต้องยืนขับ ต้องเจอกับตัวเองครับ การขับรถสองล้อนานๆ อวัยวะที่ต้องรองรับน้ำหนักตัวท่อนบน ที่กดทับลงมา บวกกับแรงสะท้อนกลับของ โช้คอัพหลัง 1 ชั่วโมง 2 ชั่วโมง 3 ชั่วโมงผ่านไป อวัยวะที่สงสารส่วนนั้น จะทนได้นานซักแค่ไหนครับ แล้วเมื่อต้องออกทริปต่อเนื่องกันหลายๆวัน อาการปวดเมื่อยระบมก้นยิ่งสะสมหนักเข้า อรรถรสในการบิดสองล้อ  มันชักจะเปลี่ยนไป อาการนี้เป็นกับทุกคน ทุกคัน ทุกยี่ห้อ ทุกโมเดล ไม่ว่าคุณจะขับคันไหน   ถ้าอยู่ภายใต้เงื่อนไขสภาพแวดล้อมเดียวกัน กล่าวคือ ขับต่อเนื่องนานๆ  ติดต่อกันหลายวัน ผมว่าไม่น่ารอดครับ เพียงแต่ใครจะเป็นมากเป้นน้อยก็แค่นั้นเอง ครับ  สิ่งที่ผมกำลังจะพูดถึงคือ อุปกรณ์ที่ช่วยบรรเทาเบาบาง ความเจ็บปวดของ"ก้น" อันเกิดจากการขับสองล้อแบบต่อเนื่องและยาวนานนั่นเอง มันคือเบาะที่ทำขึ้นมาโดยมีส่วนประกอบหลักเป็น memory foam หรือโฟมที่มีหน่วยความจำนั่นเอง (แต่หน่วยความจำที่ว่า จะกี่เมก bus เท่าไหร่ slot อะไร อันนี้ไม่รู้ครับ) จากคุณ : ภัทราวัฒน์ เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 19:17:01

ความคิดเห็นที่ 69 เพลินเลย จากคุณ : เปลวไฟในน้ำแข็ง เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 19:35:36

ความคิดเห็นที่ 70 ชิ้นแรกมาละ เหนือความคาดหมายแต่ก็จริง วันที่ 3-4 นี่ มองรถแล้วแทบไม่กล้ายกขาคร่อมเบาะ จากคุณ : Nemomancear เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 20:12:17

ความคิดเห็นที่ 71 โหยยยย ถ้าเป็นไอเทมนี้ที่กำลังพูดถึง คือ เบาะ นี่โดนใจมากกกกกกก แล้วก็จริงอย่างว่าครับ หาข้อมูลในบ้านเราหรือร้านขายจริงจัง ผมยังไม่เคยเจอเลย ให้ตาย จะสั่งซื้อเมืองนอกก็เลือกไม่ถูก แถมแพงอีกตะหาก รอฟังอย่างใจจดใจจ่อครับ จากคุณ : p@lo เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 20:16:13

ความคิดเห็นที่ 72 แก้ไขเมื่อ 27 ก.ย. 54 20:18:43 จากคุณ : p@lo เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 20:17:42

ความคิดเห็นที่ 73 ไม่ว่าเบาะรถคุณจะหนานุ่มขนาดไหน ไม่ว่าระบบกันสะเทือนรถของคุณจะดีเลิศประเสริฐศรีเพียงใด มันไม่ได้รับประกันว่า "ก้น"คุณ  จะไม่เป็นไร เมื่อผ่านการออกทริปแบบต่อเนื่องและยาวนาน อุปกรณ์ตัวนี้จึงถูกผลิตขึ้นมา และเป็นที่ถูกอกถูกใจสิงห์นักบิดทั่วโลก ผู้ผลิตบางเจ้าใช้เจลเป็นส่วนประกอบหลัก แต่เท่าที่อ่านดู  รู้สึกว่า เบาะที่ใช้ memory foam จะได้รับความนิยมมากกว่า รูปแบบมีทั้งแบบเป็นเบาะสำเร็จสำหรับรถรุ่นนั้นๆ ซึ่งก็แบเบอร์ว่า อะไรที่มันเฉพาะๆพิเศษๆ ราคามันก็พิเศษตามไปด้วย และแบบที่ใช้ได้กับรถทุกรุ่นทุกโมเดล รูปนี้เป็นแบบเฉพาะรุ่นครับ ผู้ผลิตคือ sargent  นักบิดชาวต่างชาติเรียกเบาะยี่ห้อนี้ว่าเบาะไฮโซ http://www.sargentcycle.com/bmwwsr12gs.htm   แต่วัสดุที่ใช้ทำไส้ใน รู้สึกจะใช้วัสดุที่ผมไม่คุ้นหู เลยไม่รู้อธิบายยังไง  โดยเฉพาะเจ้า Super Cell Atomic Foam suspension หน้าตาเป็นไงไม่รุ แต่เห็นว่า คุณสมบัติหลักๆก็คือลดและซึมซับแรงสั่นสะเทือน เหมาะสำหรับการเดินทางไกล ก็ว่ากันไปครับ บ้านเรารู้สึกพึ่งจะมีตัวแทนจำหน่าย ลองๆหาดูได้ครับ จากคุณ : ภัทราวัฒน์ เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 20:30:56

ความคิดเห็นที่ 74 แต่ตัวที่เพื่อนต่างชาติผมแนะนำ เป็นอะไรที่ลูกทุ่งกว่านั้นครับ https://www.buttbuffer.com/ แต่ถึงจะลูกทุ่งแต่ใช้งานได้จริง และทดสอบกับก้นเหี่ยวๆของผมแล้ว ตลอดทริป 7 วัน เกือบ 3200 โล "เบาและสบายก้น"กว่ากันเยอะครับ สรุปข้อดี 1.เอาไปใช้กับรถรุ่นไหนก็ได้(กรณีมีรถมากกว่า 1 คัน) 2.ราคาย่อมเยากว่าแบบแรก (ถูกกว่าเกือบ 3 เท่าตัว) 3.เพิ่มความสูงของเบาะอีกแค่เซนต์นิดๆ ( คนขาสั้นก็ไม่ต้องกังวลมากมาย) 4.มีหลายไซส์หลายขนาด  และเลือกสีและวัสดุพื้นผิวได้ 4."สบายก้น"กว่าตอนที่ไม่ได้ติดตั้งเยอะครับ  ขอบอก จากคุณ : ภัทราวัฒน์ เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 20:45:01

ความคิดเห็นที่ 75 ผมเองใช้ความรู้สึกส่วนตัว มาเล่าสู่กันฟัง เค้าแนะนำมา ลองใช้ดู ก็เห็นมันดี ใช้แล้วสบายก้น ขับได้ทนขึ้นกว่าเดิมเยอะ ผมก็เลยบอกต่อ เผื่อเป็นอีกทางเลือกนึง ไม่ว่ากันนะครับ ตัวที่ผมใช้ก็เลือกเป็นแบบหนังเรียบธรรมดา ไม่ได้สั่งแบบลวดลายอะไรนักหนา จากคุณ : ภัทราวัฒน์ เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 21:00:40

ความคิดเห็นที่ 76 โดยเฉพาะกลุ่มรถสปอร์ต โมตาร์ด หรือจะเป็นพวกเบาะแคบแบบหนูดีหรือ KLX ผมเคยลองขับมาแล้วโดยเฉพาะ หนูดี อยากจะบอกว่า"ทรมานTUD"จริงๆครับ(ขออภัยคำไม่สุภาพ) เบาะมันแคบแล้วระบบกันสะเทือนก็ดีดดิ้นเป็นพิเศษ คนที่ขับหนูดี ได้วันละ 3-400 โล ผมละนับถือจริงๆ ขับไปได้ยังไง  ยอดมนุษย์ชัดๆ จริงไม๊ครับคุณตั้มขาว? จากคุณ : ภัทราวัฒน์ เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 21:06:42

ความคิดเห็นที่ 77 ที่ คห.76 ฮ่า....ไม่ได้ทีเดียวจบครับ ก็อาศัยยืดเส้นตามปั้ม (ช่วง 150-180 กม.) และยืนขี่ครับ ยืนๆ ยืดๆ แข้งซ้าย ขวา โยกหัวด้วยนะ แต่ไกลสุดต่อรอบ/วันก็ ประมาณ 500 โลเอง ตูดชาสุดๆๆ. รอดูอีกสองตัวที่เหลือครับ อันแรกนี่โดนเต็มๆ ชอบๆๆ จากคุณ : ตั้มขาว เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 21:11:29

ความคิดเห็นที่ 78 ^ ^ ^ จะเห็นว่าการติดตั้งง่ายนิดเดียว เอาเหล็กงอที่ติดสายยางยืด ไปเกาะที่เบาะทั้งสองด้านซ้าย-ขวา เป็นอันเสร็จพิธี ง่ายไม๊ครับ แต่ถ้าเป็นพวกรถสปอร์ตหรือซูเปอร์สปอร์ต หรือรถที่ต้องมีการโหนตัวเพื่อเเบนรถเข้าโค้ง แนะนำเป็นแบบแรกครับจะเหมาะกว่า ทีนี้มาถึงเรื่องราคา ตอนซื้อพอดี Order ไปกะกลุ่มพวกเพื่อนๆ เลยได้ราคาพิเศษ รู้สึกจะ 39 เหรียญรึไงนี่แหละ ผมสั่งไปคู่นึง กะเอาไว้เผื่อ ท่าน ผบ.สส.นจ แต่จนป่านนี้ ท่านก็ยังไม่เคยแม้แต่จะชายตามองเลยครับ ________จบข่าว________ จากคุณ : ภัทราวัฒน์ เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 21:19:49

ความคิดเห็นที่ 79 ขอบคุณมากครับ ที่เอาใจช่วย และเข้าใจความรู้สึกของสิงห์นักบิดด้วยกัน (ตามมาจากภาค2) ทุกวันนี้ ไปทำงานมีท้อบ้าง ขี้เกียจบ้าง แต่ก็ตั้งรูปรถไว้ใน BG โทรศัพท์ ตอนเช้า ขี้เกียจตื่น นาฬิกาปลุกดัง ก็เจอรูปรถแล้ว ว่างๆคอยเช็คสายไม่ได้รับ เมสเสจ ก็เจอรูปรถ คนโทรเข้ามา กดวางสาย ก็เจอรูปรถ มันมีกำลังใจขึ้นเยอะเลยครับ ถึงแม้ว่ารูปรถในBGมันจะแพงซะเหลือเกินก็ตาม (K7) แต่ก็คิดในใจ Suzuki R6 ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ และผมก็นึกถึงผู้หญิงคนนึง ที่ผมรักมากๆๆๆๆ ผมอาจจะไม่ได้รวยมากมาย ไม่มีรถสปอตหรูไปรับ อย่างน้อย ไปจีบเค้าทั้งที ก็ขอมีของดีไปด้วยหน่อย ควบ Big Bike ไป คงเท่ไม่น้อย อย่างน้อยก็คงดูดีกว่าขี่ Fino ไปแหละ เพราะมันบ่งบอกถึงการเป็นตัวของตัวเองที่ซู๊ดดดดดดดด ------------------------------------------------------------ ทุกวันนี้ผมขี่Wave , Mio อีกไม่กี่เดือนแล้ว ที่ฝันผมจะเป็นจริง BIG BIKE อยากจะได้..ต้องใจรัก ผมจะเซฟเอาไว้ทุกภาคเลยครับ จะเก็บไว้อ่านเรื่อยๆ แม้กระทั่งอ่านตอนได้รถแล้ว เวลาขี่แล้วยกก้นนี่ผมรู้ซึ้งเลยครับ สมัยก่อนผมขี่ Mio ร้อยกว่า cc ขี่ไปเกาะช้าง แค่2คันกะเพื่อน เมื่อยมากๆครับ แถมเบาะปาด สไตล์วัยรุ่นอีก ไม่ต้องพูดถึงเลย เปลี่ยนท่านั่งเป็นว่าเล่น ทุกวันนี้ เป็นMessenger เบาะเวฟ เดิมๆ หนาๆ แต่ว่ามันทำมาไม่ค่อยดีเท่าไหร่ครับ เหมือนทรงมันไม่ได้มาตราฐาน นั่งแล้วเมื่อยเหมือนกันครับ เนื่องจากวันๆนึงผมขี่รถส่งเอกสารฯ 50โล+ ผมว่า ถ้าผมได้ BB เมื่อไหร่ ปัญหาอย่างแรกที่ต้องจัดการก็คือเบาะนี่แหละครับ ^^ ทุกวันนี้ ส่งเอกสารย่านคนรวย รถBBก็เยอะ ดูไปก็อยากได้ รถสปอตหรูๆวิ่งกันให้เกลื่อน เจอ ปอเช่ บอกตรงๆว่าเฉยๆ แต่เจอ BB แท่บขี่ตามไปดู เมื่อไม่กี่วันนี้ เจอ Suzuki รุ่นหนึ่ง ไม่รู้รุ่นอะไรเพราะไม่มีบอก เป็นคนแก่ขี่ไปซื้อกับข้าว มันดูดีมากๆ แม้ว่ารถจะแก่ คนขี่จะแก่ แต่มันก็ยังบ่งบอกความเก๋าของแกเลยครับ คิดในใจ ถ้าได้ขี่BB และไปจอดติดไฟแดงมันจะเท่แค่ไหน เมซเซนเจอร์มองกันตรึม (เหมือนตอนนี้ที่ผมได้แต่มอง) อีกไม่นานแล้วครับ ฝันของผมต้องทำให้สำเร็จ หลายๆครั้งที่ชีวิตผมล้มเหลวไม่เป็นท่า แต่ครั้งนี้สัญญากับตัวเองว่าต้องทำให้ได้ครับ จะไม่นอนฝัน นั่งดูรูปอีกแล้ว จากคุณ : Demonja (Demonja) เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 21:34:14

ความคิดเห็นที่ 80 อุปกรณ์ช่วยในการขับขี่ ชิ้นแรกผ่านไป ("อุปกรณ์ช่วย"นะครับ  ไม่ใช่"ของแต่ง") เป็นยังไงกันบ้างครับ เท่าที่ผมติดตามจากเว็บบ้านเราหลายๆแห่ง ไม่เคยเห็นมีใครพูดถึงอุปกรณ์ชิ้นนี้เลย ทั้งๆที่มันค่อนข้างสำคัญเอามากๆ สำหรับการออกทริป (สำหรับผม  เมื่อก่อนไม่มีก็ยังไป แต่เดี๋ยวนี้ ถ้าไม่มี แทบขาดใจครับ) มีความคิดเห็นยังไงก็ ลองแลกเปลี่ยนกันดูนะครับ จากคุณ : ภัทราวัฒน์ เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 21:38:04

ความคิดเห็นที่ 81 โดนเลย ผมควบหนูดีอยู่ครับพี่ท่านเป็นอย่างพี่ท่านว่าจริงๆ จากคุณ : Aniruch_j เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 22:44:36

ความคิดเห็นที่ 82 เห็นที่ red นำเข้ามาล๊อตนึงแล้วอ่ะ ตามลิงค์ http://www.thairidersclub.com/board/index.php?topic=20.0 จากคุณ : neonumm70 เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 54 17:45:32

ความคิดเห็นที่ 83 นึกว่าจะไม่มีภาคต่อ มารอติดตามครับละเอียดมากๆ จากคุณ : RnWT เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 54 19:16:53 A:61.19.66.7 X: TicketID:315245

ความคิดเห็นที่ 84 มาลงชื่อครับ จากคุณ : naroktak55 เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 54 22:03:36

ความคิดเห็นที่ 85 ชอบมากกก่  อ่ะ กำลังชั่งใจ มอไซด์ใหญ่คันแรก ระหว่าง รถมีเกียร์ XJR  ER6  กับ ออโต้ T-MAX เก็บเงินเท่านั้น ที่จะไปถึงฝันนี้ จากคุณ : ปลาโลมา_:P เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 54 11:12:20

ความคิดเห็นที่ 86 ตามเข้ามดูรถสวยๆของพี่แล้วน้ำลายยืด..อิอิได้ความรู้มากครับผม ตอนนี้เลยรีบกลับไปเช็ดถูน้าแดงคันแก่ๆของป๋มเตรียมทริปฤดูหนาวบ้างแร้น บรืนนนนนนนนนนนน.. จากคุณ : จร๊วก เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 54 12:49:23

ความคิดเห็นที่ 87 เอ่อผมยืนเพราะ กางเกงมันรัดไข่ครับ เหอะๆ จากคุณ : theoneox เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 54 19:06:30

ความคิดเห็นที่ 88 ไม่มาต่อหรอครับพี่ ผมรออ่านไว้เป็นกำลังใจอยู่นะคร้าบ จากคุณ : Demonja (Demonja) เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 54 08:38:51

ความคิดเห็นที่ 89 ไม่เห็นรถใหม่สะที ยาวมาก จากคุณ : โอพ่อพระ เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 54 10:47:38

ความคิดเห็นที่ 90 ขอบคุณจขกท.ที่สละเวลามาปั่นกระทู้   สาละที่ลงในกระทู้  สามารถเอาไปตีพิมพ์ในวารสารรถได้สบาย จากคุณ : ดำ บางกรวย เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 54 17:33:18

ความคิดเห็นที่ 91 เชื่อว่า จขกท กำลังมีความสุขกับรถคันใหม่แน่ๆ ว่างเมื่อไร อย่าลืมแวะมาแชร์เรื่องราวให้ฟังกันบ้างนะครับ จากคุณ : PooLuu เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 54 20:38:25

ความคิดเห็นที่ 92 ยังไม่เห็นตัวจริงเสียงจริงของสิ่งที่รอคอย เนื่องจากยังติดภาระกิจ วันจันทร์ที่จะถึงนี่แหละครับ จะได้เชยชมสมใจซะที แต่ก็คงจะเป็นเพียงชั่วครู่ชั่วยาม ก็ต้องพลัดพรากจากกันอีกหน ว๊า  เห็นกันอยู่หลัดๆ ไม่น่าเลย จากคุณ : ภัทราวัฒน์ เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 54 22:01:41

ความคิดเห็นที่ 93 ไม่ใช่อะไรหรอกครับ คือว่าต้องรีบเอาไปทำทะเบียน เพราะว่า ต้องการให้ได้เล่มเขียวโดยด่วน จากคุณ : ภัทราวัฒน์ เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 54 22:03:45

ความคิดเห็นที่ 94 เพราะต้องมีเล่มเขียวก่อน ถึงจะมีเล่มม่วงได้ จากคุณ : ภัทราวัฒน์ เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 54 22:07:38

ความคิดเห็นที่ 95 เมื่อมีเล่มม่วง เราก็กลายเป็นผู้ชายสีม่วง เอ้ยยยยยยยยย ม่ายช่ายยยยยย เมื่อมีเล่มม่วง เราก็ไป(ต่างประเทศ)ได้ นั่นหล่ัะครับ เหตุผลที่ต้องพลัดพรากกัน เป็นครั้งที่สอง จากคุณ : ภัทราวัฒน์ เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 54 22:10:51

ความคิดเห็นที่ 96 รอมาตั้งชาตินึง( ปีกว่า) ก็ยังรอได้ แต่ไหงอีกแค่สอง-สามวัน มันทุรนทุรายใจจะขาดซะขนาดนี้ นี่แหละน๊า คนเรา จากคุณ : ภัทราวัฒน์ เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 54 22:18:00